ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic [HSJ-OkaYama] คุณหนูสตรอว์เบอร์รี่ (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #25 : ตอนที่ 24 [END]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 358
      1
      22 พ.ค. 55

     ตอนที่ 24 [END]

    แสงไฟที่ส่องแยงตาเขาทำให้เขาต้องหลับตาลงไปอีกครั้ง  แสงไฟช่างขาวสว่างแสบตาเหลือเกิน  เคโตะพยายามทำให้ตาชินกับแสงภายในห้องสีขาวสะอาดนั้น  เขามองเห็นใบหน้าของทุกคนกำลังมองมาที่เขาปรากฎทั้งรอยยิ้มและน้ำตา  ความรู้สึกอบอุ่นใจแผ่ซ่านไปทั่วตัวเขาราวกับว่าเพิ่งตื่นจากฝันร้ายที่แสนสาหัสมาอย่างนั้น  เขารู้สึกถึงมือที่อบอุ่นกำลังกำมือเขาไว้อย่างอ่อนโยน

    ทุกคนในห้องนั้นต่างนิ่งเงียบไม่มีใครพูดอะไรจนเมื่อชายในชุดขาวเดินเข้ามาพร้อมนางพยาบาลเข้ามาตรวจเขา  “ปลอดภัยแล้วล่ะครับ  สบายใจได้เลย”  คุณหมอพูดหลังจากถอดหูฟังออก

    คุณหมอและพยาบาลเดินออกจากห้องพร้อมทั้งยูริ  ยูโตะ และริวทาโร่  ไดกิเดินเข้ามาจับมือเขาไว้อย่างอ่อนโยน  เขาเพิ่งรู้ถึงความคิดถึงที่มีต่อพี่ชายก็ในวันนี้  เขารู้สึกเหมือนจากพี่ชายไปนานแสนนานและได้กลับมาพบกันอีกครั้งหนึ่งราวกับจะจำกันและกันไม่ได้  “ปลอดภัยแล้วนะเคโตะ”  น้ำเสียงของพี่ชายนั้นให้ความรู้สึกราวกับมีแม่มาอยู่เคียงข้างเขา  แม้ร่างกายจะรู้สึกเหนื่อยล้าแทบจะขยับตัวไม่ได้แต่ความรู้สึกอบอุ่นใจนี้ก็ทำให้รอยยิ้มจางๆ ของเขาปรากฏขึ้น

    อีกใบหน้าหนึ่งโผล่มายืนข้างๆ ไดกิ  ใบหน้าหวานนั้นยิ้มให้เขาแต่ก็แฝงไว้ด้วยการหลบหน้าอย่างกับไม่อยากจะให้เขาเห็นอารมณ์ที่แท้จริงของตัวเอง  ไดกิยิ้มให้ก่อนจะเดินออกจากห้องไปเงียบๆ ทำให้ตอนนี้เขาต้องอยู่กับชายหน้าหวานนั้นเพียงลำพัง

    เคโตะจ้องมองใบหน้านั้น  เรียวสุเกะก็มองเขาตอบ  เคโตะรู้สึกว่าใบหน้านั้นซูบลงและรูปร่างที่เคยมีน้ำมีนวลก็ดูจะผอมลงด้วย  “เรียวสุเกะ”  เขาพูดชื่อนั้นอย่างแผ่วเบา

    เรียวสุเกะนั่งลงข้างๆ มือเล็กของเรียวสุเกะกุมมือของเขาไว้  “กลับมาซักทีนะเคโตะ”  เสียงของเรียวสุเกะดูแหบแห้งและเหนื่อยล้า  “รู้มั้ยฉันรอนายมาห้าวันแต่รู้สึกเหมือนกับมันนานเป็นชาติ  แค่ห้าวันที่ฉันต้องนอนฝันร้ายทุกคืน  ห้าวันที่ฉันเฝ้ารอให้นายฟื้นขึ้นมา  ห้าวันที่ฉันต้องทนอยู่กับความหวาดกลัว”  เรียวสุเกะปล่อยให้น้ำตาที่กลั้นอยู่ไหลออกมา  มือเล็กนั้นกุมมือของเคโตะแน่นขึ้น  “แต่มันก็เป็นห้าวันที่ทำให้ฉันรู้ว่าฉันต้องการนายมากแค่ไหน  ได้โปรดอย่าไปอีกเลยนะ  อย่าทำให้ฉันต้องกลัวอีกเลยนะเคโตะ”

    สัมผัสจากมือของเรียวสุเกะช่างอบอุ่นนัก  มันดูคุ้นเคยและปลอดภัย  เขารู้ว่าเพราะสัมผัสนี้ทำให้เขาตื่นจากฝันร้ายและกลับมาพบทุกคนได้อีกครั้ง  “เรียวสุเกะ  ผมขอโทษ”  เขามองหน้าของคนรักอย่างทำอะไรไม่ได้เพราะร่างกายเขาก็ไม่สามารถขยับได้มากนัก  เขาทำได้แค่กุมมือของร่างเล็กนั้นไว้เท่านั้น  “ผมขอโทษนะ”

    เรียวสุเกะใช้มืออีกข้างเช็ดน้ำตาและยิ้มให้เคโตะ  “ไม่เป็นไร  ฉันดีใจที่นายกลับมานะ”

    “ผมรักคุณ”  เรียวสุเกะมองหน้าเคโตะอย่างอึ้งๆ  เคโตะสบตาและยิ้มให้  เขาพูดซ้ำอีกครั้งในคำที่หัวใจเรียกร้อง  “ผมรักคุณ”

    เรียวสุเกะยิ้มทั้งน้ำตา  แม้จะเป็นแค่คำพูดธรรมดาและอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็ตามแต่เขากลับรู้สึกว่าคำว่ารักที่เคโตะบอกเขามันยิ่งใหญ่เหนือกว่าสิ่งอื่นใด  เขาเข้าไปสวมกอดเคโตะไว้หลวมๆ เสียงหัวใจที่เต้นดังของร่างสูงทำให้เขารู้สึกขอบคุณที่พระเจ้ายังคงให้โอกาสพวกเขาได้มีชีวิตอยู่ต่อไป  “ฉันก็รักนาย”

     

     

    7 ปีต่อมา

    ----- France -----

    “เคจัง  เร็วๆ หน่อยสิครับ  ฮิคารุจังมาถึงสนามบินแล้วนะ”  ไดกิเร่งขณะที่เขาวิ่งนำหน้าสามีตรงไปยังอาคารผู้โดยสารขาเข้าของสนามบินแห่งชาติของฝรั่งเศส  เขาวิ่งเข้าไปเบียดเสียดผู้คนที่ยืนออกันอยู่ตรงทางเดินพลางมองหาเพื่อนรักของตัวเอง  “ฮิคารุจัง!!  ฮิคารุจังทางนี้!!”  เขาโบกไม้โบกมือเรียกคนที่กำลังลากกระเป๋าใบเขื่องอยู่  ฮิคารุวางกระเป๋าของตัวเองลงแล้ววิ่งเข้าไปกอดไดกิที่ยืนอ้าแขนต้อนรับเขาอยู่  สองสาว(?)ทักทายกันอย่างอารมณ์ดี

    เควิ่งมาถึงพลางหอบแฮกๆ อยู่ข้างภรรยา  “คุณอิโนะโอะครับ  ช่วยผมด้วยครับ”  เคหันไปตามเสียงของโคตะที่ลากกระเป๋าใบเขื่องสองใบด้วยสีหน้าอมทุกข์  ใบหนึ่งของเขาส่วนอีกใบน่ะของภรรยา

    “ว๊าย  โคะจัง  ฉันลืมอ่ะขอโทษน้า~”  ฮิคารุรีบวิ่งเข้าไปดึงกระเป๋าของตัวเองออกจากมือของสามี

    “คิดจะมาอยู่ที่นี่ถาวรเลยเหรอคุณยาบุ  เอามาซะขนาดนี้”  เคว่าพลางมองกระเป๋าใบใหญ่อย่างอึ้งๆ

    “แหมเคจัง  ครบรอบแต่งงาน 5 ปีทั้งทีแถมนานๆ จะได้มาต่างประเทศด้วยก็ต้องเที่ยวให้มันเต็มที่หน่อยสิ”  ฮิคารุยิ้มอย่างมีความสุข  “แล้วเมื่อไรเคจังจะกลับล่ะ  มาติดต่อธุรกิจอะไรจะนานขนาดนี้”

    เคโอบเอวภรรยา  “ก็เหมือนกันน่ะแหละ  ผมก็ต้องพาภรรยาคนสวยของผมมาเที่ยวบ้างสิครับ”

    ไดกิตีสามีเบาๆ พลางมองรอบตัวอย่างประหม่า  “ทำอะไรก็อายคนเขามั่งสิครับ”

    “โอ๊ย!  ไดจังจะไปอายอะไร  เขาไม่สนใจเราหรอกน่า”  ฮิคารุพูดแหย่  “ไปกันเถอะครับผมหิวแล้วล่ะ”  เขาเดินนำหน้าคนทั้งคู่พร้อมสามีของตัวเอง  แต่แล้วก็ต้องหยุดเมื่อสองคนนั่นยังไม่ตามมาอีก  เขามองไปยังคนทั้งคู่  มัวแต่เขินกันอยู่นั่นแหละ  เขาคิด  “เคจัง  ไดจัง  ถึงที่พักแล้วอยากจะทำอะไรฉันก็ไม่ว่าหรอก  แต่ตอนนี้พาฉันกับโคะจังไปที่พักก่อนได้มั้ย  เหนื่อยแล้ว”

    ไดกิหน้าแดง  เขาดึงแขนสามีที่โอบเขาอยู่ออก  “ถึงห้องแล้วค่อยต่อนะ”

     

    ----- Japan -----

    ริวทาโร่นอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงอย่างรำคาญ  เสียงครางของยูริที่ดังอยู่ข้างห้องเขานั้นดังจนทำให้เขาหลับไม่ลง  “ไม่ไหวแล้วโว้ยย!!”  เขาตะโกนออกมาอย่างเหลืออดแต่ดูท่าว่าเสียงที่ดังอยู่นั่นไม่ได้มีทีท่าว่าจะลดระดับลงเลย  เขาเดินไปหน้าห้องต้นเสียงแล้วเคาะประตูเสียงดัง  “ทำให้มันเงียบๆ หน่อยได้มั้ย!!”  แต่นั่นกลับทำให้ยูริที่กำลังปฏิบัติกิจกับยูโตะข้างในนั้นร้องครางหนักกว่าเดิมเสียอีก  ริวทาโร่ขยี้หัวตัวเองอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี  “ฉันอยากจะบ้าตายยย!!!

    เขาเดินปึงปังลงมาข้างล่างและแวะเข้าห้องครัว

    “อ้าว!  ทำไมไม่นอนล่ะครับคุณโมริโมโตะ”  ยูยะร้องทัก

    “นอนไม่หลับ”  ริวทาโร่นั่งลงบนเก้าอี้อย่างอารมณ์เสีย  “แล้วคุณทาคาคิล่ะครับ  ทำไมยังไม่นอนอีก”

    “ผมกำลังเตรียมอาหารว่างให้คุณหนูน่ะครับ  เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไม่มีแรงลุกไปทำงาน”  ยูยะว่าพลางหยิบถาดคุ้กกี้ออกมาจากเตาอบ  “คุณโมริโมโตะจะลองสักหน่อยมั้ยครับ”

    “ไม่มีอารมณ์จะกินหรอกครับ”  ริวทาโร่ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย  “ทำไมพวกนั้นชอบทำอะไรกันเสียงดังอยู่เรื่อยเลยนะ  ผมอุตส่าห์หาเวลาว่างมาเยี่ยมทั้งที  จะไม่ให้ผมพักผ่อนบ้างเลยหรือไง  จะทำอะไรกันน่ะทำเบาๆ ก็ได้ไม่เห็นจะต้องเสียงดังขนาดนี้เลย”  เขาบ่น  “อย่างกับตั้งใจจะแกล้งผมอย่างนั้นแหละ”

    ยูยะได้แต่อมยิ้มโดยไม่พูดอะไร  เขาทำคุ้กกี้ของเขาต่อไปอย่างมีความสุข

     

    ในห้องนอน

    ยูริกอดยูโตะและหอมแก้มสามีที่นอนหมดแรงข้าวต้มบนเตียงอย่างร่าเริง  “น่ารักจังเลยนะยูโตะ”

    “ผมเหนื่อยแล้วนะครับ”  ยูโตะพูดอย่างอ่อนแรง  จนถึงเดี๋ยวนี้เขาก็ยังสงสัยอยู่เสมอว่าทำไมภรรยาเขาถึงได้แข็งแรงขนาดนี้  “ทำไมต้องให้ผมออกแรงเยอะขนาดนี้ทุกครั้งที่คุณโมริโมโตะมาด้วยล่ะครับ”

    ยูริหน้าบึ้งทันทีเมื่อนึกถึงเหตุผลนั้นขึ้นมา  “ก็ใครใช้ให้ริวทาโร่ไปแอบดูเราวันเข้าหอล่ะ  จนถึงตอนนี้เจ้านั่นยังล้อฉันไม่เลิกเลย  ก็ใครมันจะไปเก่งตั้งแต่ครั้งแรก”  เขาบ่นอุบอิบ

    ยูโตะหัวเราะเบาๆ เขากอดภรรยาแน่นด้วยความหมั่นเขี้ยว  “ตอนนี้คุณก็เก่งขึ้นตั้งเยอะแน่ะ”

    ยูริมองหน้าสามี  “แสดงว่าเมื่อก่อนนายก็คิดว่าฉันไม่เก่งล่ะสิ”

    “ผมเปล่าว่าคุณซักหน่อย”

    ยูริขึ้นคร่อมสามีทันที  “อย่างนี้ก็ต้องพิสูจน์”  เขายิ้มเจ้าเล่ห์แล้วก้มลงบดขยี้ริมฝากปากของยูโตะอย่างเร่าร้อน

    ก๊อก!  ก๊อก!

    เสียงเคาะประตูทำให้ยูริละสิ่งที่ทำค้างไว้  “ยูยะคงมาแล้วล่ะ  ชอบมาขัดจังหวะจริงๆ เลย”  เขาบ่นแล้วลุกขึ้นสวมเสื้อคลุมตัวยาวเพื่อปกปิดร่างกายก่อนจะเดินไปเปิดประตู  ปล่อยให้สามีนอนตกใจค้างอยู่บนเตียง

    “อาหารว่างพร้อมแล้วครับคุณหนู”  ยูยะว่าพร้อมยื่นถาดคุ้กกี้ให้

    ยูริยิ้ม  “ขอบใจนะ  นายไปนอนได้แล้ว”  เขาเข้าไปกระซิบยูยะ  “ทีหลังถ้าไม่ได้เรียกอย่าเพิ่งเคาะห้องนะ”

    ยูยะพยักหน้าอย่างเข้าใจ  เขายิ้มหน้าเจื่อน  “ขอโทษที่ขัดจังหวะนะครับคุณหนู”

    ยูริพยักหน้า  “ไปเถอะ”  เขาปิดประตูแล้ววางถาดคุ้กกี้ไว้บนโต๊ะ  ยูริมองไปยังสามีที่นอนตกใจค้างอยู่บนเตียงพลางค่อยๆ ถอดเสื้อคลุมของตัวเองออก  “ไม่มีอะไรมากวนแล้ว  งั้นเรามาต่อกันเถอะ”

     

    ----- England -----

    “ที่รัก  อย่าลืมเอาเสื้อไปด้วยวันนี้อากาศหนาว”  เรียวสุเกะวิ่งกระหืดกระหอบมาทางสามีที่ยืนอยู่หน้าบ้านเตรียมจะออกไปทำงาน

    เคโตะหันมารับเสื้อโค้ทจากภรรยาและยิ้มให้  “ขอบคุณครับเรียวสุเกะ”

    เรียวสุเกะถอนหายใจ  “เฮ้อ~  คิดถึงที่ญี่ปุ่นจังนะครับ  ผมอยากกลับไปหายูริยูโตะแล้วก็ริวจังจะแย่อยู่แล้ว  ริวจังบอกว่าสองคนนั่นน่ะเอาแต่จู๋จี๋กันตลอดเลย  มิน่าล่ะถึงไม่ว่างรับสายผมสักที  เชอะ!  เรียวสุเกะทำหน้างอน

    เคโตะหัวเราะ  “โธ่  เรียวสุเกะครับ  เดือนหน้าผมก็หยุดงานแล้วเดี๋ยวคุณก็ได้กลับไปฟังเจ้าพวกนั้นจู๋จี๋กันแล้วล่ะ”

    เรียวสุเกะยิ้มหน้าแดง  “จะบ้าเหรอ  ฉันไม่ได้จะไปฟังเจ้าพวกนั้นมันมีอะไรกันสักหน่อย”  เคโตะหัวเราะกับท่าทีเขินอายของภรรยา  “แล้วเมื่อไรไดจังกับคุณอิโนะโอะจะมาสักทีล่ะครับ”

    เคโตะมองดูตารางเวลาในมือ  “อาทิตย์หน้าไดจังกับพี่เคจะกลับจากฝรั่งเศสแล้วก็จะมาพักอยู่กับเราที่อังกฤษสามวันก่อนเดินทางกลับญี่ปุ่นครับ”

    “ผมอยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ จัง”  เรียวสุเกะยิ้มให้สามีอย่างมีความสุข

    เคโตะเหลือบมองนาฬิกา  “อ๊ะ!  สายแล้ว  ผมต้องไปทำงานแล้วล่ะ”

    เรียวสุเกะยิ้มละมุน  “โชคดีนะครับ”

    เคโตะวางของทุกอย่างลงและกอดภรรยาซึ่งเป็นสิ่งที่เขาทำทุกเช้าก่อนออกไปทำงาน  “ผมไปทำงานแล้วนะครับที่รัก”
                                                                                                           

     จุ๊บ ><

    ------------------------------ END ------------------------------

     

    --------------------------------------------------

    “คุณหนูสตรอว์เบอร์รี่”  จบลงไปแล้วอย่างสวยงาม(?)  ^___^”

    ขอบพระคุณทุกท่านที่ตามอ่านมาตลอดเลยนะคะ  สนุกกันหรือเปล่าเอ่ย?  ไรเตอร์เต็มที่กับการแต่งมากๆ ถ้าผิดพลาดหรือแปลกๆ ไปบ้างก็ขออภัยนะคะ  จะพยายามพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นกว่านี้

    คุณหนูสตรอว์เบอร์รี่ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้  หวังว่าจะสนุกกันทุกคนนะคะ

     

    ฟิคเรื่องใหม่  Love ~Thank  you~   คราวนี้จะเป็นแนวดราม่านะ  คิดว่า ^.^  ส่วนเรื่องราวจะเป็นยังไงนั้น  ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกันไรเตอร์ก็ยังสับสนอยู่ (อ้าว!)

    คู่หลักคือโอคาริวและนากายาม่า  ใครเป็นแฟนคู่นี้ไม่ควรพลาด!!  ฮ่าๆๆๆ

    ขอบคุณมากค่ะ

    ... ป๊อป ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×