ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic [HSJ-NakaOka] My heart will go on (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5 เดท(?)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 121
      0
      18 ก.ย. 54

    ตอนที่ 5 เดท(?)
    หญิงสาวประคองซองจดหมายสีชมพูดไว้ในมืออย่างถนุถนอมแม้มือจะสั่นมากเมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่ชอบก็ตาม เธอยื่นจดหมายนั่นให้ชายหนุ่มตรงหน้าอย่างกล้าๆกลัวๆ “โปรดรับไว้ด้วยค่ะ” เธอเอ่ยขึ้นด้วยเสียงสั่น
    ชายหนุ่มมองเธอก่อนยิ้มบางๆให้ “ขอโทษนะ ฉันมีคนที่ชอบแล้ว” 
    เธอเงยหน้ามองเขา “อย่างนั้นเหรอคะ” จมูกเริ่มแดงขึ้น ผมสังเกตว่าเธอกำลังจะร้องไห้
    ชายหนุ่มยังคงยิ้มอ่อนโยนอยู่ “ขอโทษนะ”
    ในที่สุดเธอก็ร้องไห้ออกมา เสียงสะอื้นเล็ดรอดริมฝีปากออกมาเบาๆ
    แต่ชายหนุ่มไม่ได้ช่วยปลอบเธอแต่อย่างใด เขาเดินออกมาเงียบๆ เพื่อนๆของเธอต่างก็ช่วยกันปลอบ
     
    “ปฏิเสธไปแบบนั้นเธอจะไม่เสียใจแย่เหรอ” ผมถามเคโตะหลังจากที่เฝ้ามองเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่นาน
    เคโตะสีหน้าลำบากใจ “แน่นอนว่าเธอจะต้องเสียใจอยู่แล้ว แต่ฉันไม่ได้ชอบเธอจะให้คบกับคนที่ไม่ชอบแบบนั้นมันจะทำให้ฉันทรมานมากกว่า ทางที่ดีบอกตรงๆไปเลย อาจจะทำให้เธอไม่ต้องเจ็บมากกว่านี้ก็ได้”
    ผมเข้าใจความรู้สึกของเคโตะ คนอ่อนโยนแบบเขาคงรู้สึกผิดที่ทำผู้หญิงร้องไห้แบบนั้น “วันหยุดนี้ไปเที่ยวกันมั้ย”
    เคโตะส่งสายตาที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายเควชชันมาร์คมาให้
    ผมหัวเราะ “ไปเที่ยวสวนสนุกกัน”
     
    ผมนั่งรอเคโตะตรงม้านั่งมาเกือบชั่วโมงแล้ว ก็แน่ล่ะสิผมตื่นเต้นนี่นา เลยมาก่อนเวลานัดเสียตั้งนาน ผมมองนาฬิกาข้อมือ อีก 15 นาทีจะถึงเวลานัดของผมกับเคโตะแล้ว
    “รอนานมั้ย” ผมเงยหน้าจากนาฬิกาข้อมือ เคโตะยืนยิ้มให้ผมอยู่ไม่ห่างออกไป เขาใส่เสื้อยืดสีขาวทับด้วยเสื้อคลุมสีดำ กางเกงยีนส์ขายาวพอดีตัว รองเท้าผ้าใบสีเดียวกับเสื้อ เครื่องแต่งกายธรรมดาๆ แต่วันนี้ผมว่าเขาเท่สุดๆไปเลย
    “ไม่หรอก ฉันมาก่อนนายนานไปหน่อยน่ะ” ผมยิ้มให้เขา เขาก็ยิ้มให้ผมนั่นทำให้ตาเขาหยีไปเลย แต่สำหรับผมถึงเคโตะจะยิ้มยังไงมันก็น่ารักทั้งนั้น “ไปกันเถอะ”
    “ไปไหนล่ะ”
    “มาสวนสนุกก็ต้องไปเล่นเครื่องเล่นสิ วันนี้ฉันเลี้ยงเอง”
    เคโตะหัวเราะ “นายจะดูถูกฉันเกินไปแล้วนะ แค่นี้ฉันจ่ายเองได้น่า”
    “ไม่ได้ ฉันชวนนายมานะ เพราะฉะนั้นฉันจะต้องเลี้ยง” ผมทำสีหน้าจริงจัง
    เคโตะอมยิ้ม “งั้นก็ได้ แต่ฉันไม่เข้าบ้านผีสิงนะ”
    ผมหัวเราะ เสียงหัวเราะของเคโตะช่างสดใสจริง
     
    ผมพาเคโตะไปเล่นเครื่องเล่นอันหลากหลายในสวนสนุก ผมจำไม่ได้หรอกว่าเราเล่นอะไรกันบ้าง ผมรู้แต่ว่าอะไรที่มันหวาดเสียวเคโตะเป็นต้องจูงผมเข้าไปหมด เป็นผมต่างหากที่จะทรมานเพราะเคโตะดูจะสนุกสนานกับพวกเครื่องเล่นหวาดเสียวมากผิดกับผมที่กำลังจะอ้วกเต็มทีแล้ว
    “พักนี่ก่อนนะ” เคโตะประคองผมมานั่งม้านั่งหลังจากเล่นเครื่องเล่นอะไรก็ไม่รู้ รู้แต่ว่ามันทำให้ผมคลื่นไส้เสียจริงๆ “เดี๋ยวจะไปซื้อน้ำมาให้” ผมพยักหน้าอย่างเนือยๆ เคโตะรีบวิ่งไปทันที
    ผมนั่งสูดหายใจเข้าลึกๆอย่างลำบาก รู้สึกอย่างกับสิ่งที่กินเมื่อเช้ามันจะขย้อนออกมาจนหมดอย่างนั้นแหละ นี่ผมอยู่ในโลกหมุนหรือไงนะ ผมคิดในใจ
    เคโตะวิ่งกลับมาพร้อมน้ำเปล่าสองขวด ผมค่อยๆดื่มน้ำเข้าไป เพราะถ้าดื่มเร็วเกินไปผมอาจจะอ้วกออกมาก็ได้ เคโตะใช้ผ้าเย็นซับหน้าที่มีเหงื่อซึมออกของผม
    “ท่าทางจะอาการหนัก กลับกันเถอะนะ ดูเหงื่อนายสิ” เคโตะสีหน้าเป็นกังวลมาก
    ผมยกมือห้าม “ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็หมดสนุกกันพอดี ฉันเล่นไม่ได้ นายก็เล่นได้นี่นา”
    “ถ้าไม่มีนายเล่นด้วยก็ไม่หนุกหรอก” เคโตะพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่มันกลับทำให้ผมใจเต้นตึกตัก ทำไมเขาชอบทำให้หัวใจผมเต้นผิดจังหวะอยู่เรื่อยเลยนะ
    ผมนั่งพักไปซักพัก เคโตะก็นั่งข้างๆผม ทั้งยังคอยพัดให้ผมอีกด้วย ผมรู้สึกว่าแรงทั้งหมดมันหายไปเลยล่ะ ร่างกายผมอ่อนปวกเปียกไปหมด
    “ไปห้องน้ำซักหน่อยไหม” เคโตะถาม
    “ไม่เป็นไร”
    “ไปอ้วกออกเถอะ แบบนี้มันทรมานนะ”
    ดังนั้นผมจึงไปเอาสิ่งที่มันตันที่อยู่คอผมออกจนหมด รู้สึกโล่งอย่างที่สุด ผมไม่ให้เขาเข้ามากับผมด้วยหรอก แค่ได้ยินเสียงผมก็อายจะแย่ ยิ่งถ้าให้มาเห็น อึ๋ย~~ เอาเป็นว่าไม่ต้องเข้ามาแล้วกันนะ
    ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ เคโตะยื่นน้ำให้ผมพร้อมกับขนมปังอบใหม่ก้อนเล็กๆ “กินนี่หน่อยจะได้รู้สึกดีขึ้น”
    ผมรับขนมปังนั่นมา นั่งกินมันเงียบๆโดยที่เคโตะก็ไม่พูดอะไรเลยตรงม้านั่งที่เดิมก่อนจะกินน้ำตามลงไป
    “เป็นไงบ้าง” เขาถามผม
    “ดีขึ้นเยอะเลยล่ะ”
    “ถ้าเล่นอะไรไม่ได้แบบนี้ทำไมไม่บอกตั้งแต่ทีแรกล่ะ”
    ผมไม่ตอบ
    “เฮ้อ~~ ถ้างั้นก็กลับกันดีมั้ย นายจะได้พักผ่อนด้วย”
    “ไม่ได้” ผมร้องห้ามเสียงหลง “ไหนๆก็มาทั้งที ต้องเล่นให้คุ้มค่าสิ”
    เคโตะมองแบบไม่เชื่อหูตัวเอง “นี่ยังไม่คุ้มสำหรับนายอีกเหรอ?”
    ผมยิ้ม “ยังมีอีกที่ที่ยังไม่ได้เล่นนะ และที่นั่นฉันไหวแน่นอน”
    เคโตะตาโต “ที่ไหนล่ะ?”
     
    ^^
    ผมรู้สึกดีจัง ตลอดทางที่อยู่ในเครื่องเล่นนั่นเคโตะเกาะแขนผมไว้ตลอดเวลาเลย แถมบางครั้งยังกระโดดกอดพร้อมส่งเสียงตะโกนด้วย
     ครับ ที่นี่คือบ้านผีสิง
    ผมเดินเข้ามาในบ้านผีสิงกับเคโตะมาพักใหญ่ๆ เคโตะก็กอดแขนผมไว้ตลอดเหมือนกัน สายตาเขาไม่มองไปที่ไหนเลยเอาแต่ก้มหน้าอยู่ตลอดเวลา 
     
    “นายพาฉันมาทำไมเนี่ย ก็บอกแล้วไงว่าไม่เล่นน่ะ” เคโตะทำท่าจะร้องไห้
    “น่านะ ไหนๆก็มาแล้ว เข้าไปซักหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ นายอยู่กับฉันทั้งคน นะนะ” ผมอ้อนสุดตัว
    เคโตะสูดหายใจเข้าอย่างลึกที่สุด “ก็ได้”
     
    “เคโตะเป็นไงบ้าง ไม่พูดไม่จาเลยนะ” ผมถามเพราะรู้สึกว่าบรรยากาศเงียบผิดปกติและที่สำคัญภายในนั้นก็มืดเสียจนเห็นหน้าเคโตะไม่ถนัด “ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องกลัวหรอกมีฉันอยู่ทั้งคน”
    เคโตะไม่พูด
    “นี่เคโตะ” ผมหันหน้าไปมอง
    เคโตะเงยหน้าขึ้นมองผม แต่.... 
    “เธอเป็นใคร” คนที่อยู่ข้างๆผมไม่ใช่เคโตะ เป็นเด็กผู้หญิงผมสั้นคนหนึ่ง “เคโตะอยู่ที่ไหน”
    เธอคนนั้นทำท่าสำนึกผิด เธอกำลังจะร้องไห้ “ฉันขอโทษ แต่ฉันขัดรินะไม่ได้”
    “เคโตะอยู่ที่ไหน!!” ผมไม่อยากจะฟังคำอธิบายอะไรของเธอทั้งสิ้น ความเป็นห่วงเคโตะมันแน่นอก เคโตะกลัวผียิ่งกว่าอะไรดี ผมไม่น่าพาเขามาที่นี่เลย
    เธอคนนั้นไม่ตอบ เอาแต่จะร้องไห้ท่าเดียวผมชักจะรำคาญเธอเต็มทน
    “เคโตะอยู่ที่ไหน!!!”
     
    เธอคนนั้นพาผมมาที่ห้องที่เป็นเหมือนห้องเก็บอุปกรณ์ ห้องนั้นปิดอยู่ 
    “โอคาโมโตะคุงอยู่ที่นี่” เธอพูดเสียงอ่อย ผมไม่ค่อยอยากจะเชื่อเธอเท่าไรหรอก ผมมองเธออย่างคาดโทษ
     
    “กรี๊ดดดดดดดดด!!!!!!!!!”
     
    “รินะ!!!” เธอคนนั้นรีบเปิดประตูเข้าไปในห้องทันทีที่ได้ยินเสียงร้องของผู้หญิงออกมาจากห้องนั้นผมก็รีบตามเข้าไปเช่นกัน
    สภาพในห้องคือ ผู้หญิงคนที่บอกรักเคโตะ เธอชื่อรินะสินะ รินะซังกำลังนั่งร้องไห้โดยที่ตรงหน้าเธอคือร่างของเคโตะที่โดนมัดแขนมัดขาอยู่ และถ้าเดาไม่ผิดเคโตะไม่รู้สึกตัว
    “เคโตะ!!” ผมรีบวิ่งไปประคองร่างของเขาทันทีพร้อมทั้งแก้เชือกที่มัดมือมัดเท้าเขาออกด้วย “เคโตะ เคโตะ!” ผมพยายามเรียกเขา แต่ดูเหมือนเคโตะจะไม่รู้สึกตัวเลย ผมเพิ่งสังเกตว่าหน้าตาเขาบอบช้ำไปหมด ด้วยห้องที่มืดทำให้ผมเห็นอะไรไม่ชัดนัก ผมประคองศีรษะเขารู้สึกอะไรเปียกๆอยู่ที่มือของผม
    ผมชักมือนั่นกลับ เลือด!! เคโตะเลือดออก ตอนนี้ผมสังเกตเห็นแล้วว่าเคโตะมีแผลที่ศีรษะ “เคโตะ!!!” ผมเรียกเขาอีกครั้งด้วยหวังว่าเขาจะรู้สึกตัวขึ้นมาตอบคำถามผมซักคำ แต่สิ่งที่ผมได้รับกลับคืนมาคือความเงียบ น้ำตาผมเริ่มไหลออกมา ความรู้สึกกลัวกำลังถาโถมจิตใจผม
    ผมได้ยินเสียงร้องไห้ของรินะอยู่ไม่ห่างออกไป
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×