คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5
ตอนที่ 5
เคโตะสูดลมหายใจรวบรวมความกล้าแล้วเคาะประตู
“นั่นใคร? ยูโตะเหรอ” เสียงเรียวสุเกะดังออกมาจากห้อง
“ผมเอง” เคโตะตะโกนตอบ เสียงในห้องเงียบไปเขาได้ยินเสียงฝีเท้าเดินช้าๆ มาที่ประตูก่อนที่มันจะถูกเปิดออก
“มีอะไร”
เคโตะรวบรวมความกล้าอีกครั้ง “ผมแค่อยากจะมาขอโทษคุณ... เรื่องเมื่อวาน” ใบหน้าเรียวสุเกะปราศจากอารมณ์ใดๆ “ผมรู้ว่าผมผิด คุณ... ยกโทษให้ผมได้มั้ย”
“....................”
เคโตะร้อนรน “จะให้ผมทำอะไรก็ได้ ผมยอมแล้ว”
เรียวสุเกะยักคิ้ว “จริงนะ” เคโตะพยักหน้า เรียวสุเกะยิ้ม แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรออกไปเสียงโทรศัพท์เคโตะดังขึ้น
“ครับไดจัง อะไรนะครับ!” เคโตะหันมามองหน้าเรียวสุเกะ แววตาแบบนั้นแม้แต่เรียวสุเกะยังรู้สึกหวั่น เกิดอะไรขึ้นนะ “ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้” เคโตะวางสาย
คลื่นอารมณ์แปลกๆ ที่แผ่จากตัวเคโตะทำให้เรียวสุเกะเสียงสั่นอย่างหยุดไม่ได้ “กะ...เกิด... เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
แววตาของเคโตะเต็มไปด้วยความกังวล “พี่เคเกิดอุบัติเหตุอาการสาหัส” เรียวสุเกะเบิกตากว้างเขาเองก็ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเช่นกัน “ผมจะไปหาไดจัง”
“เดี๋ยวสิ!” แต่ไม่ทันเสียแล้วเพราะเคโตะวิ่งออกจากคฤหาสน์ไปอย่างรวดเร็ว เรียวสุเกะทรุดตัวลงนั่ง ตอนนี้เขาเป็นห่วงอดีตคนรักจนไม่รู้จะทำยังไง “ยูโตะ” ยูโตะปรากฏตัวขึ้น “เอารถออก ฉันจะไปโรงพยาบาล”
เคโตะวิ่งไปที่หน้าห้องไอซียูพร้อมยูริที่เจอกันที่หน้าโรงพยาบาลพอดี ไดกินั่งนิ่งอยู่ที่นั่น “ไดจัง” เขาวิ่งเข้าไปหาพี่ชาย
ไดกิเงยหน้าขึ้นมอง เขาโผเข้ากอดเคโตะแล้วร้องไห้ “พี่จะทำยังไงดีเคโตะ พี่จะทำยังไงดี”
เคโตะลูบหลังไดกิเบาๆ “ไม่เป็นไรนะครับไดจัง เดี๋ยวพี่เคก็ฟื้นแล้ว ไม่ต้องกังวลนะครับผมจะอยู่ข้างๆ ไดจังเอง”
ยูรินั่งลงข้างๆ ไดกิ “พี่ไดกิครับ ผมว่าพี่ไปพักผ่อนดีกว่าเดี๋ยวทางนี้ผมจะดูแลให้เอง” เขาหันไปทางเคโตะ “เคโตะพาพี่ไดกิกลับบ้านเถอะ ฉันจะเฝ้าที่นี่ไว้ให้”
“แต่ว่า...”
“ยูยะจะอยู่กับฉัน” ยูริยิ้ม “ไม่ต้องห่วง”
เคโตะยิ้ม “ขอบใจนะ นายเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ”
เคโตะต้องขอร้องไดกิอยู่นานกว่าไดกิจะยอมกลับไปบ้าน ยูริมองตามแผ่นหลังของสองพี่น้องที่หายลับไป เขามองเข้าไปในห้องไอซียู เคยังคงไม่ได้สติอยู่เหมือนเดิม ยูริมองไปตามโถงทางเดินสมองคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแต่แล้วสายตาก็เหลือบเห็นใครบางคนกำลังวิ่งมาที่นี่ เรียวสุเกะนั่นเอง
เรียวสุเกะกึ่งเดินกึ่งวิ่งโดยมียูโตะคอยอยู่เคียงข้าง เขามาที่ห้องไอซียูตามที่พยาบาลบอกแต่กลับไม่เห็นใครที่นั่นยกเว้นยูริ
“นายมาทำอะไรที่นี่” ยูริถามเสียงกระด้าง
เรียวสุเกะหายใจหอบจากการวิ่ง “ฉัน....”
“ถ้าจะมาหาเคโตะล่ะก็ เสียใจนะเขากลับไปแล้ว” ยูริมองเรียวสุเกะด้วยสีหน้าเย้ยหยันไม่ปิดบัง “เคโตะไว้ใจให้ฉันอยู่เฝ้าที่นี่ได้ แล้วนี่นายหายไปไหนมาเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอทำไมเคโตะถึงได้ปล่อยให้นายมากับนายบอดิการ์ดนี่ล่ะ” เขาพยักพเยิดไปทางยูโตะ
“นี่มันเรื่องของฉันกับเคโตะนายไม่เกี่ยว”
ยูริอมยิ้ม “เหรอ? แสดงว่าต้องเป็นแฟนที่เคโตะไม่ให้ความสำคัญมากแน่ๆ เขาถึงได้ปล่อยนายไว้แบบนั้น”
เรียวสุเกะจ้องมองยูริด้วยแววตาแข็งกระด้าง
“โอ๊ะโอ่ รับไม่ด้ายยย รับไม่ได้” ยูริหัวเราะคิกคักกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธของเรียวสุเกะ “บอกไว้ก่อนนะยามาดะวันนี้เคโตะคงกลับกับนายไม่ได้ เพราะเขาต้องอยู่ดูแลพี่ของเขา”
เรียวสุเกะระงับอารมณ์โกรธไว้ เขามาที่นี่แค่อยากจะรู้ว่าไดกิปลอดภัยดีก็เท่านั้น และเคโตะด้วยนั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง “คุณอิโนะโอะเป็นยังไงบ้าง” เขาถาม
ยูริเมิน “ก็หนักอยู่” เขาพูดโดยไม่มองหน้าคนถาม
“แล้วอาริโอกะล่ะ”
“ก็ดูสิ” ยูริหลีกทางให้ เรียวสุเกะเดินไปหน้าห้องไอซียูมองลอดผ่านกระจกเข้าไป เสียงยูริดังขึ้นข้างๆ “ถ้าคนที่นอนอยู่ตรงนั้นไม่ใช่คุณอิโนะโอะแต่เป็นเคโตะนายจะรู้สึกยังไง นั่นล่ะคือสิ่งที่พี่ไดกิรู้สึก”
อาทิตย์หนึ่งแล้ว นับเป็นเวลามากโข(คำโบราณจังแฮะ // ไรเตอร์)สำหรับเรียวสุเกะที่อยู่บ้านโดยปราศจากเคโตะ เขารู้ว่าเคพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ทำไมเคโตะถึงไม่กลับมาซักทีนะ ไม่โทรมาด้วย เขาเองก็ไม่ใจกล้าพอที่จะโทรไปหาเขาซะด้วยสิแม้จะเจอกันที่โรงเรียนก็เถอะ แต่ศักดิ์ศรีของคุณหนูเรียวสุเกะทำให้เขาได้แต่แอบมองเคโตะอยู่ห่างๆ เท่านั้น เคโตะจะเห็นเขาบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้
ยูโตะมองพฤติกรรมแปลกๆ ของเรียวสุเกะ คุณหนูที่ปกติจะกระดี้กระด้าทุกครั้งที่เห็นสตรอเบอร์รี่แต่เดี๋ยวนี้กลับแทบไม่แตะมันเลย เอาแต่นั่งเหม่อแล้วก็ถอนหายใจ “คุณหนูครับ” เรียวสุเกะเงยหน้าจากอาหารตรงหน้ามามองหน้าบอดิการ์ดหนุ่ม “คุณหนูอย่าทำแบบนี้สิครับ ถ้าไม่กินอะไรเลยร่างกายจะไม่ไหวเอานะ”
เรียวสุเกะวางตะเกียบลง “ไม่รู้สินะยูโตะ มันรู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้”
“ถ้าคิดถึงก็โทรหาเขาสิครับ” เรียวสุเกะหันไปจ้องยูโตะอย่างอึ้งๆ “ผมไม่อยากเห็นคุณหนูเป็นแบบนี้ไปตลอดหรอกครับ”
เรียวสุเกะยิ้มบางๆ “ฉันนึกว่าพวกเธอสองคนจะไม่ชอบหน้ากันซะอีก”
ยูโตะยิ้ม “คนสำคัญของคุณหนูก็คือคนสำคัญสำหรับผม” เขาเห็นแววตาเศร้าสร้อยฉายผ่านแววตาของเรียวสุเกะ “คุณหนูกับเขามีปัญหาอะไรกันหรือเปล่าครับ” บางทีอาจจะเป็นเหตุการณ์ในวันที่เรียวสุเกะร้องไห้ก็ได้
“ป่านนี้แล้วนายคิดว่าเขาจะลืมฉันหรือเปล่า”
ยูโตะยิ้ม “คนรักกันไม่ว่าจะนานแค่ไหนหรือให้ตลอดชีวิตก็ไม่มีทางลืมหรอกครับคุณหนู ผมว่าคุณโอคาโมโตะเองก็คงจะรักคุณหนูมากเหมือนกัน”
เรียวสุเกะหัวเราะเบาๆ “คนรักกันงั้นเหรอ” เขาพึมพำ เขาไม่ได้รักฉันซักหน่อยยูโตะ
“เป็นอะไรเคโตะเห็นทำหน้าเครียดมาหลายวันแล้ว” เคโตะสะดุ้งละสายตาจากโทรศัพท์ตรงหน้า ไดกิยืนจ้องหน้าเขาอยู่ “เป็นอะไรฮะเรา”
เคโตะยิ้มกลบเกลื่อน “เปล่าครับ” เขาก้มหน้าก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย “แล้วพี่เคเป็นยังไงบ้าง”
ไดกินั่งลงข้างๆ “ก็ดีขึ้นมากเลยล่ะแต่ก็ยังขยับตัวไม่ได้มากเท่าไร” เคโตะพยักหน้า ไดกิเฝ้ามองน้องชายมาหลายวัน เดี๋ยวนี้แปลกๆ ไปนะ “คิดถึงแฟนเหรอ?” เคโตะสะดุ้งทันทีที่พี่ชายสะกิดจุดอ่อน เขาทำหน้าเหรอหราจนไดกิหัวเราะ “ทำไมไม่โทรไปล่ะ พี่ไม่เห็นเคโตะโทรไปหาเขาซักทีเลยนะเอาแต่จ้องโทรศัพท์อยู่นั่น”
เคโตะก้มหน้านิ่ง “ผมไม่กล้าครับไดจัง” ไดกิเงียบรอฟังคำตอบ “ผมทำให้เขาโกรธ ผมไม่รู้ว่าเขาจะหายโกรธผมหรือยัง และนี่มันก็ตั้งอาทิตย์หนึ่งแล้ว เขาอาจจะลืมผมไปแล้วก็ได้” แม้จะเจอกันที่โรงเรียนยังไม่มาหาเขาเหมือนเคยเลย
ไดกิยิ้ม “ยามาดะน่ะไม่ใช่คนจะลืมอะไรง่ายๆ หรอกนะ โกรธง่ายหายเร็ว เอาสตรอเบอร์รี่ไปล่อนิดหน่อยก็ยิ้มออกแล้ว”
เคโตะหันขวับมาทางพี่ชาย “พี่พูดอย่างกับว่ารู้จักเขามาก่อนอย่างนั้นแหละ”
ไดกิได้สติว่าพูดมากไปแล้ว “ก็ได้ยินว่ายามาดะคนนี้ชอบกินสตรอเบอร์รี่มากไม่ใช่เหรอ พี่ถามยูริมาอีกทีนะ” เขายิ้มกลบเกลื่อน
ถึงแม้จะยังรู้สึกแปลกๆ อยู่ แต่เคโตะก็เชื่อใจพี่ชายเขาเกินกว่าจะสงสัยไปมากกว่านี้ได้ เขามองโทรศัพท์อีกครั้ง นายจะหายโกรธฉันหรือยังนะ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเรียวสุเกะแทบจะกระโดดไปรับแทบไม่ทัน เบอร์ที่โทรเข้าทำให้เขาแทบจะระงับความดีใจไว้ไม่อยู่ กว่าจะตั้งสติและรับได้เขาก็ปล่อยให้โทรศัพท์ดังอยู่เป็นนานสองนาน “อะแฮ่ม! สวัสดี” เรียวสุเกะพยายามทำเสียงเย็นใส่อย่างที่สุด
[เอ่อ... คือ... เอ่อ... คือว่า...]
“โอ๊ย!! เออะๆ อะๆ อยู่นั่นล่ะ เมื่อไรนายจะกลับมาเนี่ย”
[คุณหายโกรธผมแล้วเหรอ]
เรียวสุเกะขมวดคิ้ว “เรื่องอะไร”
[ก็เรื่องที่ผม... ทำให้คุณร้องไห้]
เรียวสุเกะยิ้มออกแต่ก็ยังพยายามทำเสียงเย็นเข้าข่ม “นั่นล่ะ ฉันถึงให้นายรีบกลับมาไง กลับมารับโทษของนายซะดีๆ นะ”
[ถ้างั้นวันนี้ผมจะกลับไปนะ ตอนเย็น]
“อืม” เรียวสุเกะยิ้มกว้าง “แล้วพี่เขยนายเป็นยังไงบ้าง”
[ดีขึ้นมากเลยล่ะ แต่ก็ยังไม่แข็งแรงเท่าไร]
“เหรอ ดีแล้วล่ะ แล้วนายก็อย่ามาช้าล่ะไม่งั้นล่ะโดนแน่!” โทรศัพท์วางไปแล้ว เรียวสุเกะแทบจะกระโดดโลดเต้นแล้วประกาศให้โลกรู้ว่าเขาดีใจแค่ไหน แต่ด้วยความที่เป็นคุณหนูเขาต้องระงับอาการไว้ “ในที่สุดนายก็กลับมาซักที”
ความคิดเห็น