คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4
ตอนที่ 4
เคโตะลืมตาขึ้นมา นี่มันเช้าแล้ว เขารู้สึกปวดหัวจนแทบจะระเบิดนี่มันเกิดอะไรขึ้น เขาพยายามนึกถึงเรื่องเมื่อวาน จำได้แค่ว่าดื่มน้ำนั่นเข้าไป แล้วก็เรียวสุเกะ แล้วก็..... “เป็นไปไม่ได้” เคโตะลุกขึ้นมาหยิบผ้าขนหนูแล้วเข้าห้องน้ำไป
เรียวสุเกะเปิดประตูเข้ามาในห้อง “อาบน้ำอีกแล้ว มาตอนเวลาอาบน้ำทุกทีเลย” เขาบ่นอยู่คนเดียว แล้วนั่งลงบนโซฟา โทรศัพท์เคโตะวางไว้ ไม่ได้ตั้งใจนะแต่ขอดูหน่อยแล้วกัน เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แต่ภาพที่ปรากฏทำให้เขาต้องชะงัก เรียวสุเกะจ้องมองภาพนั้นรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจอย่างหยุดไม่ได้ รูปหน้าจอที่แทนที่จะเป็นเขา แต่เคโตะกลับใช้รูปยูริแทน ยูริกับเคโตะที่กอดคอกันถ่ายรูปแล้วยิ้มแย้มแบบนั้นเขาไม่ชอบที่สุด
เสียงฝักบัวหยุดทำงานพร้อมด้วยเคโตะที่เดินออกมาจากห้อง เรียวสุเกะหันไป
เคโตะตกใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า “คุณหนูเรียวสุเกะ”
เรียวสุเกะละสายตาจากซิกแพคตรงหน้ามามองหน้าคนเป็นเจ้าของ เขาเดินอาดๆ เข้าไปหาเคโตะ “ทำแบบนี้ได้ยังไง!”
เคโตะหน้าเหวอ “ผมทำอะไรครับ”
เรียวสุเกะยกโทรศัพท์ขึ้นมา “นี่ไง ทำแบบนี้ได้ยังไง ฉันต่างหากที่เป็นแฟนนายไม่ใช่จิเน็น ทำแบบนี้มันหยามหน้ากันรู้มั้ย”
เคโตะคว้าโทรศัพท์มาไว้ในมือ “นี่มันโทรศัพท์ผมนะ ผมจะใช้รูปอะไรมันก็เรื่องของผมสิ”
“แต่ฉันเป็นแฟนนายนะ!”
“ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย ถึงจะเป็นแฟนแต่ผมจะใช้รูปเพื่อนขึ้นหน้าจอไม่ได้งั้นสิ”
หัวใจเรียวสุเกะแอบพองโตเล็กน้อย จิเน็นเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้นแหละ “แต่ฉันเป็นแฟนนายนายก็ควรใช้รูปฉันสิ”
เคโตะถอนหายใจ “ก็ได้ ผมไม่ใช้รูปยูริก็ได้” เคโตะกดยุกยิกบนแป้นมือถือแล้วยื่นรูปหน้าจอที่เป็นรูปมิกกี้เมาส์ให้เรียวสุเกะดู “แบบนี้พอใจยัง เรื่องมากจริง”
เรียวสุเกะต้องพยายามอย่างมากที่จะไม่ให้ตัวเองยิ้มออกมา “อื่อ พอใจแล้วใช้รูปการ์ตูนก็ได้ แต่อย่าให้รู้นะว่าใช้รูปคนอื่นอีก”
เคโตะถอนหายใจ “แล้วคุณมาหาผมแต่เช้ามีเรื่องอะไร”
เรียวสุเกะไม่ตอบแต่กลับเดินเข้าไปหาเคโตะแล้วกอดไว้ เคโตะชะงักค้างไม่รู้จะทำยังไงดี ยัยคุณหนูแปลกประหลาด เรียวสุเกะลูบไล้ไปตามหน้าท้องของเคโตะ “หุ่นดีเหมือนกันนะนายเนี่ย”
เคโตะรับรู้ได้ถึงจุดใต้สะดือที่ลุกชันขึ้นมาแต่เขาต้องพยายามข่มความรู้สึกไว้ จะไล่เรียวสุเกะไปจากห้องก็ไม่ได้นี่มันบ้านของเขานี่นา เคโตะได้แต่ยืนขนลุกอยู่อย่างนั้น
เรียวสุเกะเงยหน้าขึ้นมา “เกร็งไปทั้งตัวเลยนะเคโตะ คิดอะไรกับฉันป่ะเนี่ย” เขาหัวเราะคิกคัก แม้ในใจจะตื่นเต้นเต็มที่ก็ตาม
เคโตะมองหน้าเรียวสุเกะ เล่นยั่วขนาดนี้ไม่ให้รู้สึกก็บ้าแล้ว “คิดสิ” เรียวสุเกะชะงักมองหน้าร่างสูง “ผมคิดว่าคุณออกไปจากห้องได้แล้วผมจะใส่เสื้อผ้า” เขามองสีหน้าตกใจของเรียวสุเกะ อ่อนไหวง่ายจังนะ เคโตะอมยิ้ม
“นายยิ้มอะไร”
“เปล๊า”
“หยุดคิดอะไรบ้าๆ นะ ไม่งั้นฉันจะไม่ปล่อยพี่นายแน่”
“เหรอ?” เคโตะโน้มตัวเข้าไปใกล้ หน้าเรียวสุเกะแดงทำให้เขาอยากจะเล่นอะไรสนุกๆ เขาอุ้มเรียวสุเกะไว้ในอ้อมแขน
“จะทำอะไรน่ะ ปล่อยนะ” เคโตะเดินไปที่เตียง วางคนตัวเล็กไว้แล้วขึ้นคร่อม แขนสองข้างของเรียวสุเกะถูกตรึงไว้อย่างแน่นหนา “จะทำอะไร ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะไม่งั้นฉันจะเรียกยูโตะจริงๆ ด้วย”
เคโตะยิ้มเจ้าเล่ห์ “อย่าลืมสิ คุณเป็นคนยั่วผมก่อนนะ”
“ฉันไม่ได้ยั่วซะหน่อย ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นแหละ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะไม่งั้น....”
“ไม่งั้นทำไม จะเรียกยูโตะเหรอ หรือคุณขู่จะเป็นมือที่สามของพี่ผมอีก ผมไม่ยอมให้คุณทำอะไรไดจังหรอก ถ้าคุณทำผมจะขวางคุณเอง”
“นายขวางฉันไม่ได้หรอก พี่นายมันสมควร”
เคโตะบีบแขนเรียวสุเกะแน่นขึ้น “ทำไม พี่ผมทำไม เขาไปทำอะไรให้คุณ”
เรียวสุเกะมองหน้าเคโตะ ทั้งๆ ที่เขาอยากจะลืมมันไปแล้วเริ่มต้นใหม่กับคนใหม่แล้วแท้ๆ แต่เคโตะกลับเป็นคนทำให้ความรู้สึกนั่นผุดขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาเขาเริ่มร้อนผ่าว
เคโตะจ้องคนข้างล่าง “ว่าไงล่ะ? ทำไมไม่ตอบผม หรือทำเพราะอยากสนุกไปวันๆ ห้ะ! ตอบมาสิ!”
เรียวสุเกะรู้ได้ถึงดวงตาที่หนักขึ้นเพราะน้ำตาที่เอ่ออยู่ “นายไม่รู้อะไรอย่าพูดดีกว่า”
“งั้นก็บอกผมมาสิ!” น้ำตาของเรียวสุเกะทำให้เคโตะได้สติ เขาปล่อยมือที่พันธนาการเรียวสุเกะออก เรียวสุเกะลุกขึ้นนั่งแล้วเช็ดน้ำตา เขาไม่ควรร้องไห้ต่อหน้าคนอื่นแบบนี้เลย เคโตะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “ผมขอโทษ”
เรียวสุเกะจ้องหน้าเคโตะด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำตา “คนบ้า! คนฉวยโอกาส! นายมันเห็นแก่ตัว!” เขาลุกแล้วเดินออกไป เคโตะมองตามร่างเล็กที่หายลับไปจากประตู เขาไม่ควรทำแบบนี้เลย
ยูโตะได้ยินเสียงเอะอะจากในห้องของเคโตะ เกิดอะไรขึ้นนะ แต่ขณะที่เขาจะเปิดประตูเข้าไปเรียวสุเกะก็ออกมาพอดี “คุณหนู” ยูโตะตกใจกับภาพที่เห็นเพราะเรียวสุเกะไม่เคยร้องไห้ต่อหน้าใครแบบนี้เลยนอกจากวันที่อาริโอกะแต่งงาน
“ยูโตะ” เรียวสุเกะโผเข้ากอดยูโตะแล้วร้องไห้
ยูโตะลูบหัวเรียวสุเกะเบาๆ “คุณหนูครับ เกิดอะไรขึ้นครับ หรือโอคาโมโตะทำอะไรคุณหนู”
เรียวสุเกะสะอื้น “ไม่มีอะไร พาฉันไปที่ห้องทียูโตะ” ยูโตะประคองคุณหนูของเขาไปจนถึงหน้าห้อง เรียวสุเกะหันมาฝืนยิ้มให้ “เท่านี้แหละ ขอบใจมาก” แต่ไม่ทันที่ยูโตะจะพูดอะไรประตูห้องก็ปิดลงซะแล้ว
ยูโตะยืนอยู่หน้าห้องนานเท่าไรไม่รู้ เสียงสะอื้นของเรียวสุเกะเล็ดรอดมาให้ได้ยินเป็นระยะแม้จะแผ่วเบาแต่เขาก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน เขาเป็นห่วงคุณหนูใจแทบขาดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ “คุณหนูครับ”
ยูริได้แต่นั่งเงียบๆ มองเคโตะที่แทบจะไม่ได้คุยกันเลย เคโตะเอาแต่ก้มหน้าเรียนหนังสือ พอพักเที่ยงแต่ด้วยสีหน้าแบบนั้นทำให้เขาไม่อยากจะเข้าไปคุยด้วยเท่าไร
“ยูริ” เสียงทุ้มของร่างสูงทำให้ยูริต้องหันไปมอง รู้สึกดีใจขึ้นมาอย่างประหลาด เคโตะยิ้ม “ทำไมไม่ไปกินข้าว”
ยูริฝืนยิ้มอย่างยากลำบาก “ฉันยังไม่หิว”
เคโตะนั่งลงตรงเก้าอี้ข้างหน้ายูริ “ไม่ค่อยยิ้มเลยนะวันนี้ เป็นอะไรไปครับตัวเล็ก” เคโตะหยิกแก้มยูริด้วยความหมั่นเขี้ยว
“นายไม่กลัวยามาดะมาเห็นเหรอ”
เคโตะยักไหล่ “ไม่เป็นไรเลยนายเป็นเพื่อนฉันนะ” เคโตะคว้าข้อมือคนตัวเล็ก “ไปกินข้าวกันเถอะฉันหิวแล้ว”
ยูริยิ้มแล้วเดินตามเคโตะไปแต่เคโตะไม่เห็นแววตาเศร้าสร้อยของเพื่อนสนิทตัวเองหรอก ฉันเป็นได้แค่เพื่อนใช่มั้ยเคโตะ
เรียวสุเกะมองตามคนทั้งคู่ที่เดินออกไปจากห้องเรียน นี่เคโตะไม่สังเกตเห็นเขาเลยหรือไง เรียวสุเกะรู้สึกเจ็บปวดหัวใจอีกแล้ว ทำไมต้องเป็นผู้ชายคนนี้ด้วย เวลาแค่ชั่วข้ามคืนคนๆ นี้ก็ทำให้เขาตกหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ทำไมต้องเป็นเขาที่ตกหลุมรัก ทำไมไม่เป็นเคโตะ เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ตอนนี้เขาไม่อยากแก้แค้นแล้ว สิ่งที่อยากได้มีเพียงหัวใจของเคโตะเท่านั้น
เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้นไดกิละมือจากงานบ้านตรงหน้า เขาวิ่งเข้าไปรับโทรศัพท์ “สวัสดีครับที่นี่บ้านอิโนะโอะ”
[สวัสดีครับขอเรียนสายคุณอาริโอกะครับ]
“ครับ ผมอาริโอกะพูด”
[ใจเย็นๆ นะครับคุณอาริโอกะ คุณอิโนะโอะ เค ประธานบริษัทอิโนะโอะไดมอนเกิดอุบัติเหตุบริเวณ........] ไดกิรู้สึกเหมือนหูอื้อไปชั่วขณะ อุบัติเหตุเหรอ? [อาการเขาสาหัสมากนะครับ ทางโรงพยาบาลจะพยายามช่วยชีวิตเขาอย่างเต็มที่]
ไดกิแทบไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเดินทางมาโรงพยาบาลได้ยังไงรู้เพียงแต่ว่าตอนนี้เขายืนอยู่หน้าห้องไอซียู เคยังหลับอยู่ข้างใน สายระโยงระยางเต็มตัวเขาไปหมด คลื่นสมองเต้นเป็นจังหวะ ขาขวาที่หักถูกใส่เฝือกไว้ ไดกิเกาะกระจกดูสามีอยู่ข้างนอกเขาไม่รู้ว่าควรร้องไห้หรือเปล่าเพียงแต่อึ้งและช็อคกับเหตุการณ์ตรงหน้าเท่านั้น
“คุณอาริโอกะ ไดกิ ใช่มั้ยครับ” ไดกิละสายตาจากเคหันไปมองผู้มาเยือน คนๆ นั้นยิ้ม “ผมยาบุ โคตะครับ เป็นทนายความประจำตระกูลอิโนะโอะ ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เขาโค้งให้อย่างนอบน้อม อาริโอกะโค้งตอบใบหน้าปราศจากอารมณ์ใดๆ “ผมมีบางอย่างจะแจ้งให้คุณอาริโอกะทราบครับเกี่ยวกับอุบัติเหตุของคุณอิโนะโอะ” ไดกิมองหน้าโคตะ ทั้งคู่นั่งลง “อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา”
“อะไรนะครับ!”
“เราพบว่ารถของคุณอิโนะโอะถูกตัดสายเบรก ประเด็นหลักคือเรื่องของการขัดแย้งทางธุรกิจ แต่ที่ผมอยากรู้อีกอย่างคือคุณอิโนะโอะมีข้อขัดแย้งที่นอกเหนือจากเหตุผลทางธุรกิจบ้างหรือเปล่า”
สมองของไดกิตื้อไปหมด นี่เป็นการพยายามฆ่า มีคนพยายามจะฆ่าอิโนะโอะ!
“คุณอาริโอกะครับ”
ไดกิได้สติหันกลับ “ไม่ครับ เขาไม่มีศัตรูที่ไหน” ที่จริงเขาไม่รู้ต่างหาก
โคตะถอนหายใจ “ถ้าอย่างนั้นคงยากหน่อยนะครับ ทางเราสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นการบาดหมางระหว่างธุรกิจ แต่เราก็ตัดประเด็นส่วนตัวไปไม่ได้เช่นกัน” เสียงโทรศัพท์ของโคตะดังขึ้น “ครับ เข้าใจแล้วครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้” โคตะวางสายแล้วหันมาทางไดกิ “ถ้ามีอะไรน่าสงสัยบอกผมทันทีนะครับ นี่เป็นกรณีร้ายแรงคุณเองก็ควรระวังตัวด้วยเช่นกัน”
ไดกิพยักหน้า “ครับ”
“ลาก่อนครับคุณอาริโอกะ ระวังตัวด้วยนะครับ” โคตะโค้งให้แล้วเดินจากไป
ความรู้สึกสับสนประดังประเดเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน ดวงหน้าร้อนผ่าวไปทั่วก่อนที่น้ำตาหยดแรกของไดกิจะหยดลงมา เขาซุกใบหน้าลงกับฝ่ามือแล้วสะอื้นไห้ อยากจะหนีจากเรื่องพวกนี้ซะจริงๆ ตอนนี้เขาควรทำยังไงดี
ความคิดเห็น