ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic [HSJ-OkaYama] คุณหนูสตรอว์เบอร์รี่ (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.พ. 55


     ตอนที่ 3

    “ไดจังครับผมกลับมาแล้ว!

    เสียงเคที่ตะโกนอยู่ด้านนอกทำให้เขาหลุดจากความคิดเรื่องเคโตะไปได้  “ครับ!”  เขาตะโกนตอบพร้อมวิ่งไปรับกระเป๋าและเสื้อจากสามี  “เหนื่อยมั้ยครับวันนี้”  แม้จะพูดไปอย่างนั้นแต่ใบหน้าของไดกิกลับปราศจากรอยยิ้ม

    เคยิ้มให้ภรรยา  “แต่ผมว่าคุณเหนื่อยกว่าผมนะ  เป็นอะไรหรือเปล่าเห็นทำหน้าเครียดมาหลายวันแล้ว”

    ไดกิมองหน้าเคแว้บหนึ่ง  “เปล่าครับ”

    เคโอบไหล่คนตัวเล็กไว้  “ถ้าไม่มีอะไรก็ขึ้นบ้านเถอะครับ  ผมหิวจะแย่อยู่แล้ว  ตั้งแต่เที่ยงผมยังไม่ได้กินอะไรเลย  แล้ววันนี้ลูกค้าก็................”

    แม้จะอยู่ใกล้กันแค่นี้แต่เสียงของเคก็ช่างแผ่วเบาเหลือเกิน  ไม่สิ  หัวใจเขาไม่ฟังเองต่างหาก  ไดกิปฏิเสธทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับสามี  ที่ทำอยู่ทุกวันก็เพราะหน้าที่ของภรรยาที่ต้องทำหากแต่จิตใจเขานั้นได้แหลกสลายไปตั้งแต่วันที่เขารู้ว่าจะต้องแต่งงานกับเคแล้ว  คนๆ นี้  เขาจะให้อภัยได้ยังไงกัน

     

    “อร่อยจังเลย”  เคพูดไปกินไปในขณะที่ไดกิได้แต่ยิ้มบางๆ อย่างไม่เต็มใจให้ซึ่งเคเองก็รู้อยู่เต็มอก  เขาไม่พูดอะไรอีกได้แต่กินข้าวไปอย่างนั้น  แม้จะมีภรรยานั่งข้างๆ แต่เขาก็ยังรู้สึกอ้างว้างอยู่ดี  ความรักที่เขามีให้มันไม่สามารถทลายกำแพงน้ำแข็งของไดกิได้เลยอย่างนั้นเหรอ  ในวันที่ไดกิโดนโกงจนล้มละลาย  เขาแค่อยากจะเป็นคนที่คอยอยู่ข้างๆ คนที่เขารักเท่านั้น  แม้ไดกิจะไม่เคยรับรู้การมีตัวตนของเขาก็ตาม  แต่เขาก็รักภรรยาคนนี้มาก  มากจนยอมเสียอะไรก็ได้ขอแค่มีเขาอยู่ใกล้ๆ ก็พอ  เขาไม่อยากจะอยู่เดียวดายอีกแล้ว

    ไดกิเก็บจานไปล้างเงียบๆ หลังจากเคกินเสร็จ  เคมองหลังภรรยาที่กำลังล้างจานอยู่  ทำไมกันนะแม้จะอยู่ใกล้กันแค่นี้แต่ก็ยังรู้สึกว่าเอื้อมไม่ถึงคนตรงหน้าซักที  เคหันหลังเดินขึ้นห้องไปเงียบๆ  น้ำอุ่นเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว

     

    เสียงดนตรีก้องดังจนไม่ได้ยินเสียงคนพูดในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง  เคโตะได้แต่นั่งเงียบๆ อยู่คนเดียวไม่อยากจะลุกขึ้นไปเบียดเสียดคนอื่นที่กำลังเต้นรำอย่างสนุกสนานหรอก  เขาเคยเข้าที่แบบนี้ซะที่ไหนกันเล่า

    “ไม่ออกไปสนุกกันหน่อยเหรอเคโตะ”  เรียวสุเกะเดินเข้ามานั่งข้างๆ เคโตะพร้อมแก้วใส่น้ำสีสวยไว้ที่แค่ได้กลิ่นก็รู้ว่าเป็นแอลกอฮอล์  “ดื่มนี่หน่อยสิ”

    เคโตะปัดมือออก  “ไม่เอาหรอก  ผมดื่มไม่เป็น”

    เรียวสุเกะยกขึ้นจ่อปากร่างสูง  “น่านะ  นิดเดียวเองไม่เมาหรอก”

    “ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ดื่ม”

    เรียวสุเกะมองเคโตะด้วยสายตาพิฆาต  “จะดื่มหรือไม่ดื่ม”

    เคโตะมองสายตาคู่นั้นก็รู้ได้ทันทีว่ายังไงเขาคงต้องดื่มน้ำแก้วนี้เสียแล้ว  เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหยิบแก้วจากเรียวสุเกะและดื่มรวดเดียวจนหมด

    เรียวสุเกะยิ้มรับแก้วคืนจากเคโตะ  “ก็แค่นั้นแหละ”  เขาซบลงกับไหล่ของร่างสูง  “ทำไมนายไม่ไปสนุกกับคนอื่นล่ะ”  เรียวสุเกะยิ้มขณะมองคนในสถานบันเทิงที่กำลังเต้นกันอย่างสุดเหวี่ยงในชุดเสื้อผ้าน้อยชิ้น  สิ่งรอบตัวทำให้เขาไม่ทันสังเกตปฏิกิริยาจากร่างสูงหลังจากที่ดื่มน้ำสีสวยนั่นเข้าไป

     

    เคโตะสะบัดหัวเบาๆ  “ทำไมโลกมันหมุนอย่างนี้นะ”  เขาพึมพำกับตัวเอง  หลังจากที่ตบตีกับอาการมึนหัวอยู่ชั่วครู่  เรียวสุเกะก็เข้ามาซบไหล่เขาซะแล้ว  เขาจ้องมองเรียวสุเกะอยู่นาน  คนๆ นี้มีพลังดึงดูดอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาไม่สามารถละสายตาไปได้  เขารู้สึกเหมือนเรียวสุเกะจะพูดอะไรบางอย่างแต่เขากลับไม่ได้ยินมัน  เคโตะโน้มหน้าเข้าไปหาคนตัวเล็ก  แม้ในสมองจะรู้ว่าไม่ควรทำแบบนี้แต่เขากลับไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย

     

    เรียวสุเกะรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่ปะทะที่แก้ม  เขาผละจากไหล่ของเคโตะ  ใบหน้าของทั้งคู่อยู่ห่างกันไม่ถึงสิบเซ็น  สายตาทั้งคู่จ้องมองกัน  เรียวสุเกะตกใจแต่ก่อนที่จะได้ร้องอะไรออกมาเคโตะก็รวบตัวเขาเข้าไปกอดซะแล้ว  ริมฝีปากที่ประกบอยู่เปรียบเสมือนประตูปิดตายที่ทำให้เขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลย

     

    “เรี...วจั...”

    เสียงพึมพำจับความไม่ได้ของคนข้างๆ ทำให้เขาต้องหันไปมอง  ไดกิหลับไปนานแล้วแต่เขายังหลับไม่ลง    เขาขยับเข้าไปใกล้เพื่อให้ได้ยินชัดๆ

    “เรียวจัง”

    เรียวจังเหรอ?  ใครกันนะ?  เคได้แต่ขมวดคิ้ว

    “เรียวจังฉันขอโทษ”

    เสียงของไดกิแผ่วเบาแต่สิ่งที่ตามมานั้นแม้จะอยู่ในความมืดเขาก็สัมผัสได้ว่าไดกิเป็นอะไร  ภรรยาเขากำลังร้องไห้  คนที่ชื่อเรียวจังคนนี้  ไดกิทำอะไรกับคนๆ นี้ไว้นะ  เคลุกขึ้นโอบกอดภรรยาเอาไว้เพราะไดกิเริ่มเพ้อและร้องไห้หนักขึ้น

    “เรียวจังฉันขอโทษ”

    ไดกิเอาแต่พูดอยู่อย่างนั้น  เขารับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่ภรรยาแบกรับไว้  ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากจะช่วยแบ่งเบามันเช่นกัน  น้ำตาของเขาหยดลงมาด้วยความสงสารภรรยาจับขั้วหัวใจ  “ไดจังคุณเป็นอะไร  ร้องไห้ทำไม  ไม่เป็นไรนะครับผมอยู่กับคุณแล้ว  ผมอยู่นี่นะคุณไม่ต้องกลัว”  เคพยายามพูดปลอบ  รู้ทั้งรู้ว่าไดกิอาจไม่ได้ยินคำพูดของเขาซักคำ  แต่เขาเชื่อว่าไดกิจะสามารถรับรู้ความรู้สึกของเขาได้  เคร้องไห้เงียบๆ คนเดียว  ไดกิหลับไปแล้วในอ้อมกอดของเขา  “เมื่อไรคุณจะให้ผมกอดอย่างเต็มใจซักที”

     

    “วางเขาไว้ตรงนั้นแหละ”

    ยูโตะวางร่างของเคโตะที่หลับไปแล้วลงบนเตียงหนานุ่มของห้องนอนในคฤหาสน์บ้านยามาดะ  “คุณหนูไปพักผ่อนเถอะครับ  เดี๋ยวผมจะเช็.....”

    “ไม่ต้อง!!!”  เรียวสุเกะพูดเสียงดังจนยูโตะชะงักค้าง  เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่  “เดี๋ยวฉันจัดการเอง”

    “แต่ว่า....”

    “ไม่มีแต่  ไปได้แล้ว” 

    ประตูปิดลงพร้อมร่างของยูโตะที่ลับหายไป  เรียวสุเกะหันไปมองร่างสูงที่นอนอยู่บนเตียง  “หลับสบายเลยสิท่า”  เขาพูดลอดไรฟัน  เขาเอาผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าให้คนตัวสูง  เรียวสุเกะมองใบหน้าที่หลับใหลอยู่นั้น  เหตุการณ์วันนี้ย้อนเข้ามาในความคิด  เขาแตะริมฝีปากตัวเองเบาๆ  เรียวสุเกะไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องเป็นแบบนี้ได้เขาน่าจะโกรธที่เคโตะฉวยโอกาสกับเขาแบบนั้นแต่เขาก็ไม่สามารถหุบยิ้มได้เลย  “คนบ้า  นั่นมันจูบแรกของฉันเลยนะ”  เรียวสุเกะพึมพำแล้วยิ้มคนเดียว  ถ้าเป็นไปได้อยากได้อ้อมกอดจากเคโตะอีกครั้งจัง  แม้เคโตะจะทำไปเพราะความเมาแต่นั่นกลับเป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นมากจริงๆ

     

    ยูริเดินหัวเสียออกมาจากผับชื่อดัง  เขาเข้ามาในรถเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น  เขากดรับ  “ว่าไง”

    [คุณทำอะไรอยู่น่ะ  รู้มั้ยว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นเสียงยูโตะดังมาตามสาย

    “ฉันรู้ย่ะ!! แล้วจะให้ฉันทำยังไง  ไปแยกพวกเขาที่กำลังจูบกันอย่างดูดดื่มอย่างนั้นเหรอ”

    [อะไรนะ!!]

    “นายได้ยินไม่ผิดหรอก  พวกเขาจูบกัน”

    ปลายสายเงียบไปก่อนจะได้ยินเสียงพึมพำเบาๆ  [เป็นไปไม่ได้]

    ยูริยิ้มมุมปาก  “แต่มันเป็นไปแล้ว  แค่นี้นะ”  ยูริกดวางสายแล้วปิดเครื่อง  เคโตะนะเคโตะ  ทำไมถึงทำแบบนี้ได้

     

    สายยูริตัดไปแล้วโทรไปอีกครั้งก็ปิดเครื่อง  ยูโตะได้แต่มองโทรศัพท์ตัวเองที่เปิดค้างไว้  “จูบกันด้วยเหรอ”  เขาไม่อยากจะเชื่อเลย  เจ้าโอคาโมโตะมันกำลังหลอกคุณหนู  คุณหนูกำลังถูกหลอกนะครับ!

     

    “อือ...”  ไดกิงัวเงียตื่นขึ้น  ทำไมวันนี้มันสว่างผิดปกตินะ  เขาชำเลืองมองนาฬิกา  “เก้าโมง!!”  ไดกิลุกพรวดพราดแล้ววิ่งลงบันไดทันที  “แย่แล้วๆๆ  เคไปทำงานหรือยังเนี่ย  ทำไมฉันขี้เซาอย่างนี้นะ”  ไดกิวิ่งไปที่โรงรถ  รถไม่อยู่แสดงว่าเคออกไปทำงานแล้ว  ไดกิเขกหัวตัวเอง  “ไดกิเอ๊ย  จะทำยังไงล่ะทีนี้”

    ไดกิเดินเข้ามาในบ้านอย่างคนหมดแรง  ในหัวคิดแต่เรื่องของสามี  “เขาจะกินอะไรหรือยังเนี่ยยิ่งกินเยอะอยู่ด้วย”  ไดกิเดินไปที่ครัว  อาหารเช้าชุดหนึ่งวางไว้บนโต๊ะอาหาร  เขาหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมา

     

    คิดว่าคุณคงเหนื่อยเลยไม่กล้าปลุก  ทานให้เยอะๆ นะครับ

                                                                                                    เค

     

    ไดกิมองอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ  คำพูดของเคโตะสะท้อนก้องในหัว  พี่เคเขารักพี่นะ  ไดกิเริ่มรู้สึกว่าเขากำลังจะร้องไห้  “พี่จะทำยังไงดีเคโตะ”

    ----------------------------------------------

    สั้นไปหน่อย  โทษทีนะคะ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×