คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2
แม้จะวางหูไปนานแล้วแต่คำพูดของเคโตะก็ยังคงหลอกหลอนเขา เรียวสุเกะ ยามาดะ จะใช่คนๆนั้นหรือเปล่านะ ไดกิได้แต่นั่งถอนหายใจมองนาฬิกาบนผนัง ป่านนี้เคยังไม่กลับบ้านอีก แต่จะเป็นไรไปล่ะดีซะอีกเขายิ่งไม่อยากเจอคนๆ นี้อยู่แล้ว ไดกิปิดไฟล้มตัวลงนอนสมองคิดถึงเรื่องที่คุยกับเคโตะวันนี้ก่อนจะหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
ยูรินั่งรออยู่ในร้านกาแฟจนจะขี้เกียจรออยู่แล้ว คนที่นัดเขามาที่นี่ทำไมยังไม่มาอีก บอกว่าจะมาตกลงเรื่องเคโตะนี่ถ้าไม่เกี่ยวกับเคโตะเขาไม่มาหรอกนะ ในขณะที่ความอดทนกำลังจะถึงขีดสุดประตูร้านก็ถูกเปิดออก ร่างสูงโปร่งของใครบางคนเดินตรงมาที่เขาแล้วนั่งลงบนโต๊ะตรงข้าม ยูริตกใจ “คุณคนเมื่อวานนี่”
ยูโตะโค้งให้ “สวัสดีครับคุณจิเน็น ยูริ ผม นากาจิม่า ยูโตะ เป็นบอดิการ์ดประจำตัวของคุณยามาดะ เรียวสุเกะ ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เขาพูดอย่างสุภาพ
ยูริพยักหน้าตอบทั้งยังตกใจกับคนตรงหน้า “คุณมีอะไรจะพูดเหรอ?”
“ถ้าอย่างนั้นผมจะไม่อ้อมค้อมเลยล่ะกัน จากที่ผมเห็นคุณมาด้อมๆ มองๆ แถวร้านเบเกอรี่เมื่อวานนี้ผมก็พอจะเดาได้ว่าคุณกับคุณโอคาโมโตะคงมีอะไรลึกซึ้งเกินกว่าคำว่าเพื่อนแน่ ดูจากรูปในกระเป๋านี้” เขายิ้มพร้อมยื่นกระเป๋าสตางค์ให้ยูริ
ยูริรับกระเป๋ามามองรูปในกระเป๋า เขาเชิดหน้า “แล้วไง” หมอนี่พูดตรงชะมัด
ยูโตะยักไหล่ “ก็ไม่แล้วไงหรอกครับ ผมแค่มีข้อเสนอให้คุณถ้าคุณอยากได้คนรักกลับคืน” ยูริเงียบไปเขาจึงพูดต่อ “ผมอยู่กับคุณหนูมานานย่อมรู้นิสัยของคุณหนูดี คุณหนูไม่ชอบคนโกหกและขัดใจท่าน ก่อนอื่นผมขอถามคุณก่อนว่าคุณยังคบกับคุณโอคาโมโตะอยู่หรือเปล่า”
ยูริขมวดคิ้ว ฉันไม่ได้คบกับเขาย่ะ แต่ด้วยความรู้สึกในจิตใจที่มันเรียกร้องทำให้เขาตอบไป “ฉันยังรักเคโตะอยู่”
ยูโตะพยักหน้า “แค่นั้นก็เพียงพอแล้วล่ะครับ ข้อเสนอของผมคือ.....”
ยูรินั่งเหม่อมองออกไปนอกรถคันหรูที่ยูยะขับอยู่ สมองคิดไปถึงข้อเสนอของยูโตะ ทำให้คุณโอคาโมโตะกลับมารักคุณอีกครั้งให้ได้ มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่นา ถ้าทำสำเร็จเขาก็จะได้ครอบครองคนที่แอบชอบมานานอีกด้วย
“คุณหนูเป็นอะไรหรือเปล่าครับดูหน้าเครียดๆ” ยูยะถามจากด้านหน้าเพราะเขาไม่เคยเห็นยูริเครียดแบบนี้บ่อยนัก
ยูริยิ้มบางๆ “เปล่าหรอก ฉันแค่เพลียนิดหน่อย”
“เพราะผู้ชายคนเมื่อกี้หรือเปล่าครับ”
ยูริถอนหายใจ “ช่างมันเถอะ รีบกลับบ้านดีกว่าฉันอยากพักผ่อน”
“เคโตะจะเอานี่”
“เคโตะถือนี่หน่อยสิ”
“เคโตะตามมาเร็วๆ”
“เคโตะไปกินสตรอเบอร์รี่กัน”
ในเช้าวันอาทิตย์ที่อากาศแสนสดใสแต่เคโตะต้องคอยวิ่งตามคุณหนูคนนี้ไปซื้อของนั่นนู่นนี่ในห้างดัง เดี๋ยวก็หยิบนั่นเดี๋ยวก็หยิบนี่จนมือเขาแทบจะไม่มีที่ว่างเหลือพอที่จะถือของของเรียวสุเกะแล้วแม้แต่ชิ้นเดียว และลงท้ายด้วยการกินเมนูอะไรก็ได้ที่มีสตรอเบอร์รี่อย่างเคย คงจะชอบน่าดู ยัยคุณหนูสตรอเบอร์รี่เอ้ย! เคโตะคิด ดูเหมือนเรียวสุเกะจะมีพลังเหลือเฟือนี่เขาวิ่งมาจนจะหมดแรงแล้วนะแต่เรียวสุเกะยังยิ้มได้อยู่อีก
“เป็นอะไรเคโตะ นั่งลงสิยืนทำหน้าอย่างกับแบกโลกอยู่ได้” เรียวสุเกะพูดพร้อมนั่งลงบนโซฟาน่ารักในร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง เคโตะนั่งลง เรียวสุเกะเรียกพนักงาน “ผมเอาสตรอเบอร์รี่ปั่นแก้วหนึ่งครับ แล้วก็ฮันนี่สตรอเบอร์รี่” เขาหันไปทางเคโตะ “นายจะกินอะไรล่ะ” เขายิ้มสดใส
“อะไรก็ได้”
เรียวสุเกะเบ้หน้า “ถ้างั้นเอาแบบผมสองที่ให้คุณผู้ชายคนนี้ด้วย” พนักงานพยักหน้าแล้วเดินออกไป ถ้ามาเห็นน้องชายต้องทำหน้าอมทุกข์แบบนี้นายจะเป็นยังไงนะไดกิ เขาคิดแล้วยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เขากะว่าจะมาที่นี่เพื่อใช้เคโตะอย่างเต็มที่แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ปล่อยให้เคโตะต้องอดอยากหรอกนะ หัวใจต้องชดใช้ด้วยหัวใจเท่านั้น เรียวสุเกะยิ้มเมื่อนึกถึงวันที่เคโตะจะต้องทุรนทุรายเพราะความรัก นั่นคงทำให้ไดกิแทบคลั่งแน่
“ไดจังคุณจะซื้ออะไรหรือเปล่าครับ” เคถามขณะที่พาคนรักมาซื้อของในห้างดังแห่งหนึ่ง “ผมยังไม่เห็นคุณซื้ออะไรเลยนะ”
ไดกิหันมาขมวดคิ้วใส่สามี “ก็ยังไม่ถึงนี่” เขาพูดกระชากเสียง
เคยิ้มรับ “คร้าบๆ คุณภรรยาที่รัก”
ไดกิพ่นลมหายใจก่อนสะบัดหน้าหนีแล้วเดินไป เคเดินตามหลัง
“นั่นเคโตะนี่” เคร้องเมื่อเดินผ่านร้านที่เคโตะกับเรียวสุเกะนั่งกินสตรอเบอร์รี่กันอยู่ “แหม ได้แฟนหน้าตาดีซะด้วยนะคุณว่ามั้ยไดจัง” เคหันไปยิ้มให้ภรรยา แต่หน้าไดกิตอนนี้กลับซีดเผือด
“เป็นไปไม่ได้” เขาพูดเบาราวเสียงกระซิบ
เคงงกับปฏิกิริยาของไดกิ “ไดจัง เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” เขาพูดพลางเขย่าแขนภรรยาที่ดูเหมือนจะใจลอยไปชั่วขณะ
ไดกิได้สติรีบก้มหน้า “เปล่าครับ ไปกันเถอะ” แล้วก็เดินไปปล่อยให้เคยืนเกาหัวด้วยความงงที่ปกติไดกิที่รักน้องมากขนาดนี้อย่างน้อยก็น่าจะเข้าไปทักบ้าง แต่นี่กลับเดินหนีไปเฉยๆ มันยังไงๆ อยู่นะ
“ไดจังรอผมด้วย” เขาวิ่งตามภรรยาที่เดินไปไกลแล้ว
เรียวสุเกะมองหน้าเคโตะที่อาหารตรงหน้าแทบจะไม่ได้ถูกแตะต้องเลย “ทำไมไม่กินล่ะนายไม่หิวเหรอ?”
เคโตะวางช้อนที่เขาเพิ่งกินสตรอเบอร์รี่ไปแค่ลูกเดียวเท่านั้น “ผมไม่ค่อยหิว”
เรียวสุเกะยิ้มเจ้าเล่ห์ “กินหน่อยเหอะน่า วันนี้นายต้องทำอะไรอีกเยอะนะกินแค่นี้จะไปมีแรงได้ยังไงกัน”
เคโตะจ้องเรียวสุเกะ “คุณจะให้ผมทำอะไรอีกล่ะ”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยังไม่จางหายไปจากใบหน้าเขา “เดี๋ยวนายก็จะรู้เอง”
ตุ้บ!
“เบาๆ หน่อยสิ!” เสียงเรียวสุเกะแว้ดขึ้นทันทีที่เคโตะวางของที่หนักร่วม 5 กิโลกรัมบนพื้นไม้ขัดมันในห้องเรียวสุเกะ เขาถูกเรียวสุเกะพาตระเวนซื้อของนั่นนู่นนี่มาทั้งวัน และแน่นอนว่าเขาเป็นคนถือทั้งหมดล่ะนะ เขาบิดขี้เกียจคลายความปวดเมื่อย “ถ้าของฉันพังขึ้นมาใครจะรับผิดชอบฮะ ของแพงๆ ทั้งนั้นเลยนะเนี่ย”
เคโตะเหล่ตามอง “ใครสนล่ะ”
“พูดแบบนี้หมายความว่าไง” เขาเดินเข้าไปใกล้เคโตะแล้ว(เงย)เชิดหน้าขึ้นมอง “สุภาพบุรุษน่ะรู้จักมั้ย”
เคโตะจ้องตอบ “คนอย่างคุณผมไม่จำเป็นต้องสุภาพด้วยหรอก”
“นี่นายกล้าเถียงฉันเหรอ!!”
“ใช่!!!!”
เกิดความเงียบขึ้นมาชั่วอึดใจก่อนที่ใบหน้าที่แดงก่ำไปด้วยความโกรธของเรียวสุเกะจะถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มสดใส “นายคงเหนื่อยมากสินะ”
“ห้ะ!!” อะไรของเขาเนี่ย
“นั่งพักก่อนดีกว่านะเคโตะ รออยู่ตรงนี้ล่ะเดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำก่อน” เรียวสุเกะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
“อะไรวะเนี่ย??” เคโตะเกาหัวแกรกๆ คุณหนูนี่ชักแปลกๆ ขึ้นทุกวัน
เรียวสุเกะเข้ามาในห้องน้ำเพื่อสงบสติอารมณ์ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครเถียงเขามากขนาดนี้มาก่อนเลย “ใจเย็นไว้เรียวสุเกะ” เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ “ถ้าวู่วามแผนการจะไม่สำเร็จนะ” เวลาที่ความโกรธครอบงำแล้วเขามักจะลืมเป้าหมายของเขาทุกทีสินะ
เมื่อรู้สึกว่าจิตใจสงบขึ้นแล้วเรียวสุเกะก็ออกจากห้องน้ำด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เคโตะยังนั่งอยู่บนโซฟาที่เดิม เรียวสุเกะเดินมานั่งข้างๆ แล้วซบลงกับอกของเคโตะ เคโตะสะดุ้งลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ เรียวสุเกะดึงแขนของเคโตะให้ลงมานั่งเหมือนเดิมแล้วซบหัวลงกับอกเคโตะอีกครั้ง เขาได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นรัวเร็วของร่างสูง อ่อนไหวง่ายกว่าที่คิดแฮะ เขายิ้ม “รอนานมั้ยเคโตะ” เขาทำเสียงออดอ้อน
“มะ..... มะ..... ไม่..... ไม่หรอก” เขาพูดเสียงสั่นลมหายใจถี่กระชั้นไม่เป็นจังหวะ
“ผมขอโทษนะครับ ผมไม่น่าโวยวายใส่เคโตะเลย ยกโทษให้ผมนะ” เขายิ้มให้ร่างสูงที่ตอนนี้หน้าเหวอไปแล้ว
จะมาไม้ไหนอีกเนี่ย เคโตะไม่รู้จะทำตัวแบบไหนดีเหมือนกัน
“ผมว่าเคโตะไปพักก่อนดีกว่า ผมจะรอที่ห้องอาหารนะ” เคโตะแทบจะพุ่งตัวออกไปทันทีที่เรียวสุเกะพูดจบแต่ร่างเล็กกลับรั้งเขาไว้ “เดี๋ยวสิครับ” เรียวสุเกะเขย่งเท้าขึ้นไปหอมแก้มคนตัวสูง เคโตะเบิกตากว้างหน้าแดงไปถึงหูแล้ว เรียวสุเกะยิ้ม “แล้วเจอกันนะ” เคโตะวิ่งออกไปทันที “ฟู่~” ทันทีที่เคโตะพ้นจากประตูเรียวสุเกะก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก หัวใจเขาเต้นถี่รัวไม่ต่างจากเคโตะเมื่อกี้เลย “นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย” เขาสัมผัสได้ถึงความร้อนที่ฉีดขึ้นทั่วใบหน้า เป็นไปไม่ได้น่า!!
เคโตะยืนพิงประตูห้องตัวเองไว้ด้วยหวังว่ามันจะทำให้เขาหายตื่นเต้นไปได้บ้าง “ยัยคุณหนูสตรอเบอร์รี่เล่นอะไรของเขานะ” เขาทรุดตัวลงนั่งเรียวแรงที่เคยมีหายไปหมด แค่หอมแก้มก็ทำให้เขาใจเต้นขนาดนี้แล้ว แล้วนี่ถ้า..... เคโตะสะบัดความคิดนั่นออกไป เขาสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู เคโตะเปิดประตูออก ยูโตะยืนนิ่งอยู่
“คุณหนูบอกว่าจะรอคุณ ตอนหนึ่งทุ่ม” ยูโตะจ้องหน้าเคโตะ “คุณโอคาโมโตะไม่สบายหรือเปล่าครับ หน้าคุณแดงนะ” เขาจ้องอย่างจับผิด
“เอ่อ..... เปล่า ไม่มีอะไร บอกเรียวสุเกะว่าฉันรู้แล้วเดี๋ยวจะตามออกไป”
ยูโตะมองตามประตูที่ปิดลงนึกถึงหน้าของเรียวสุเกะที่แทบจะไม่แตกต่างจากเคโตะตอนนี้เลย เขาต้องให้ยูริดำเนินตามแผนให้เร็วที่สุดไม่อย่างนั้นอาจจะสายเกินไป ถ้าคุณหนูหลงเจ้าหมอนี่ขึ้นมาล่ะแย่แน่
ความคิดเห็น