ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic [HSJ-OkaYama] คุณหนูสตรอว์เบอร์รี่ (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.พ. 55


     ตอนที่ 2

    แม้จะวางหูไปนานแล้วแต่คำพูดของเคโตะก็ยังคงหลอกหลอนเขา  เรียวสุเกะ  ยามาดะ  จะใช่คนๆนั้นหรือเปล่านะ  ไดกิได้แต่นั่งถอนหายใจมองนาฬิกาบนผนัง  ป่านนี้เคยังไม่กลับบ้านอีก  แต่จะเป็นไรไปล่ะดีซะอีกเขายิ่งไม่อยากเจอคนๆ นี้อยู่แล้ว  ไดกิปิดไฟล้มตัวลงนอนสมองคิดถึงเรื่องที่คุยกับเคโตะวันนี้ก่อนจะหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย

     

    ยูรินั่งรออยู่ในร้านกาแฟจนจะขี้เกียจรออยู่แล้ว  คนที่นัดเขามาที่นี่ทำไมยังไม่มาอีก  บอกว่าจะมาตกลงเรื่องเคโตะนี่ถ้าไม่เกี่ยวกับเคโตะเขาไม่มาหรอกนะ  ในขณะที่ความอดทนกำลังจะถึงขีดสุดประตูร้านก็ถูกเปิดออก  ร่างสูงโปร่งของใครบางคนเดินตรงมาที่เขาแล้วนั่งลงบนโต๊ะตรงข้าม  ยูริตกใจ  “คุณคนเมื่อวานนี่”

    ยูโตะโค้งให้  “สวัสดีครับคุณจิเน็น  ยูริ  ผม  นากาจิม่า  ยูโตะ  เป็นบอดิการ์ดประจำตัวของคุณยามาดะ  เรียวสุเกะ  ยินดีที่ได้รู้จักครับ”  เขาพูดอย่างสุภาพ

    ยูริพยักหน้าตอบทั้งยังตกใจกับคนตรงหน้า  “คุณมีอะไรจะพูดเหรอ?”

    “ถ้าอย่างนั้นผมจะไม่อ้อมค้อมเลยล่ะกัน  จากที่ผมเห็นคุณมาด้อมๆ มองๆ แถวร้านเบเกอรี่เมื่อวานนี้ผมก็พอจะเดาได้ว่าคุณกับคุณโอคาโมโตะคงมีอะไรลึกซึ้งเกินกว่าคำว่าเพื่อนแน่  ดูจากรูปในกระเป๋านี้”  เขายิ้มพร้อมยื่นกระเป๋าสตางค์ให้ยูริ

    ยูริรับกระเป๋ามามองรูปในกระเป๋า  เขาเชิดหน้า  “แล้วไง”  หมอนี่พูดตรงชะมัด

    ยูโตะยักไหล่  “ก็ไม่แล้วไงหรอกครับ  ผมแค่มีข้อเสนอให้คุณถ้าคุณอยากได้คนรักกลับคืน”  ยูริเงียบไปเขาจึงพูดต่อ  “ผมอยู่กับคุณหนูมานานย่อมรู้นิสัยของคุณหนูดี  คุณหนูไม่ชอบคนโกหกและขัดใจท่าน  ก่อนอื่นผมขอถามคุณก่อนว่าคุณยังคบกับคุณโอคาโมโตะอยู่หรือเปล่า”

    ยูริขมวดคิ้ว  ฉันไม่ได้คบกับเขาย่ะ  แต่ด้วยความรู้สึกในจิตใจที่มันเรียกร้องทำให้เขาตอบไป  “ฉันยังรักเคโตะอยู่”

    ยูโตะพยักหน้า  “แค่นั้นก็เพียงพอแล้วล่ะครับ  ข้อเสนอของผมคือ.....”

     

    ยูรินั่งเหม่อมองออกไปนอกรถคันหรูที่ยูยะขับอยู่  สมองคิดไปถึงข้อเสนอของยูโตะ  ทำให้คุณโอคาโมโตะกลับมารักคุณอีกครั้งให้ได้  มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่นา  ถ้าทำสำเร็จเขาก็จะได้ครอบครองคนที่แอบชอบมานานอีกด้วย

    “คุณหนูเป็นอะไรหรือเปล่าครับดูหน้าเครียดๆ”  ยูยะถามจากด้านหน้าเพราะเขาไม่เคยเห็นยูริเครียดแบบนี้บ่อยนัก

    ยูริยิ้มบางๆ  “เปล่าหรอก  ฉันแค่เพลียนิดหน่อย”

    “เพราะผู้ชายคนเมื่อกี้หรือเปล่าครับ”

    ยูริถอนหายใจ  “ช่างมันเถอะ  รีบกลับบ้านดีกว่าฉันอยากพักผ่อน”

     

     

    “เคโตะจะเอานี่”

     

    “เคโตะถือนี่หน่อยสิ”

     

    “เคโตะตามมาเร็วๆ”

     

    “เคโตะไปกินสตรอเบอร์รี่กัน”

     

    ในเช้าวันอาทิตย์ที่อากาศแสนสดใสแต่เคโตะต้องคอยวิ่งตามคุณหนูคนนี้ไปซื้อของนั่นนู่นนี่ในห้างดัง  เดี๋ยวก็หยิบนั่นเดี๋ยวก็หยิบนี่จนมือเขาแทบจะไม่มีที่ว่างเหลือพอที่จะถือของของเรียวสุเกะแล้วแม้แต่ชิ้นเดียว  และลงท้ายด้วยการกินเมนูอะไรก็ได้ที่มีสตรอเบอร์รี่อย่างเคย  คงจะชอบน่าดู  ยัยคุณหนูสตรอเบอร์รี่เอ้ย!  เคโตะคิด  ดูเหมือนเรียวสุเกะจะมีพลังเหลือเฟือนี่เขาวิ่งมาจนจะหมดแรงแล้วนะแต่เรียวสุเกะยังยิ้มได้อยู่อีก

    “เป็นอะไรเคโตะ  นั่งลงสิยืนทำหน้าอย่างกับแบกโลกอยู่ได้”  เรียวสุเกะพูดพร้อมนั่งลงบนโซฟาน่ารักในร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง   เคโตะนั่งลง  เรียวสุเกะเรียกพนักงาน  “ผมเอาสตรอเบอร์รี่ปั่นแก้วหนึ่งครับ  แล้วก็ฮันนี่สตรอเบอร์รี่”  เขาหันไปทางเคโตะ  “นายจะกินอะไรล่ะ”  เขายิ้มสดใส

    “อะไรก็ได้”

    เรียวสุเกะเบ้หน้า  “ถ้างั้นเอาแบบผมสองที่ให้คุณผู้ชายคนนี้ด้วย”  พนักงานพยักหน้าแล้วเดินออกไป  ถ้ามาเห็นน้องชายต้องทำหน้าอมทุกข์แบบนี้นายจะเป็นยังไงนะไดกิ  เขาคิดแล้วยิ้มออกมาอย่างมีความสุข  เขากะว่าจะมาที่นี่เพื่อใช้เคโตะอย่างเต็มที่แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ปล่อยให้เคโตะต้องอดอยากหรอกนะ  หัวใจต้องชดใช้ด้วยหัวใจเท่านั้น  เรียวสุเกะยิ้มเมื่อนึกถึงวันที่เคโตะจะต้องทุรนทุรายเพราะความรัก  นั่นคงทำให้ไดกิแทบคลั่งแน่

     

    “ไดจังคุณจะซื้ออะไรหรือเปล่าครับ”  เคถามขณะที่พาคนรักมาซื้อของในห้างดังแห่งหนึ่ง  “ผมยังไม่เห็นคุณซื้ออะไรเลยนะ”

    ไดกิหันมาขมวดคิ้วใส่สามี  “ก็ยังไม่ถึงนี่”  เขาพูดกระชากเสียง

    เคยิ้มรับ  “คร้าบๆ  คุณภรรยาที่รัก”

    ไดกิพ่นลมหายใจก่อนสะบัดหน้าหนีแล้วเดินไป  เคเดินตามหลัง

    “นั่นเคโตะนี่”  เคร้องเมื่อเดินผ่านร้านที่เคโตะกับเรียวสุเกะนั่งกินสตรอเบอร์รี่กันอยู่  “แหม  ได้แฟนหน้าตาดีซะด้วยนะคุณว่ามั้ยไดจัง”  เคหันไปยิ้มให้ภรรยา  แต่หน้าไดกิตอนนี้กลับซีดเผือด

    “เป็นไปไม่ได้”  เขาพูดเบาราวเสียงกระซิบ

    เคงงกับปฏิกิริยาของไดกิ  “ไดจัง  เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”  เขาพูดพลางเขย่าแขนภรรยาที่ดูเหมือนจะใจลอยไปชั่วขณะ

    ไดกิได้สติรีบก้มหน้า  “เปล่าครับ  ไปกันเถอะ”  แล้วก็เดินไปปล่อยให้เคยืนเกาหัวด้วยความงงที่ปกติไดกิที่รักน้องมากขนาดนี้อย่างน้อยก็น่าจะเข้าไปทักบ้าง  แต่นี่กลับเดินหนีไปเฉยๆ  มันยังไงๆ อยู่นะ

    “ไดจังรอผมด้วย”  เขาวิ่งตามภรรยาที่เดินไปไกลแล้ว

     

    เรียวสุเกะมองหน้าเคโตะที่อาหารตรงหน้าแทบจะไม่ได้ถูกแตะต้องเลย  “ทำไมไม่กินล่ะนายไม่หิวเหรอ?”

    เคโตะวางช้อนที่เขาเพิ่งกินสตรอเบอร์รี่ไปแค่ลูกเดียวเท่านั้น  “ผมไม่ค่อยหิว”

    เรียวสุเกะยิ้มเจ้าเล่ห์  “กินหน่อยเหอะน่า  วันนี้นายต้องทำอะไรอีกเยอะนะกินแค่นี้จะไปมีแรงได้ยังไงกัน”

    เคโตะจ้องเรียวสุเกะ  “คุณจะให้ผมทำอะไรอีกล่ะ”

    รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยังไม่จางหายไปจากใบหน้าเขา  “เดี๋ยวนายก็จะรู้เอง”

     

    ตุ้บ!

    “เบาๆ หน่อยสิ!”  เสียงเรียวสุเกะแว้ดขึ้นทันทีที่เคโตะวางของที่หนักร่วม 5 กิโลกรัมบนพื้นไม้ขัดมันในห้องเรียวสุเกะ  เขาถูกเรียวสุเกะพาตระเวนซื้อของนั่นนู่นนี่มาทั้งวัน  และแน่นอนว่าเขาเป็นคนถือทั้งหมดล่ะนะ  เขาบิดขี้เกียจคลายความปวดเมื่อย  “ถ้าของฉันพังขึ้นมาใครจะรับผิดชอบฮะ  ของแพงๆ ทั้งนั้นเลยนะเนี่ย”

    เคโตะเหล่ตามอง  “ใครสนล่ะ”

    “พูดแบบนี้หมายความว่าไง”  เขาเดินเข้าไปใกล้เคโตะแล้ว(เงย)เชิดหน้าขึ้นมอง  “สุภาพบุรุษน่ะรู้จักมั้ย”

    เคโตะจ้องตอบ  “คนอย่างคุณผมไม่จำเป็นต้องสุภาพด้วยหรอก”

    “นี่นายกล้าเถียงฉันเหรอ!!

    “ใช่!!!!

    เกิดความเงียบขึ้นมาชั่วอึดใจก่อนที่ใบหน้าที่แดงก่ำไปด้วยความโกรธของเรียวสุเกะจะถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มสดใส  “นายคงเหนื่อยมากสินะ”

    “ห้ะ!! อะไรของเขาเนี่ย

    “นั่งพักก่อนดีกว่านะเคโตะ  รออยู่ตรงนี้ล่ะเดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำก่อน”  เรียวสุเกะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว

    “อะไรวะเนี่ย??”  เคโตะเกาหัวแกรกๆ  คุณหนูนี่ชักแปลกๆ ขึ้นทุกวัน

     

    เรียวสุเกะเข้ามาในห้องน้ำเพื่อสงบสติอารมณ์  ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครเถียงเขามากขนาดนี้มาก่อนเลย  “ใจเย็นไว้เรียวสุเกะ”  เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ  “ถ้าวู่วามแผนการจะไม่สำเร็จนะ”  เวลาที่ความโกรธครอบงำแล้วเขามักจะลืมเป้าหมายของเขาทุกทีสินะ

    เมื่อรู้สึกว่าจิตใจสงบขึ้นแล้วเรียวสุเกะก็ออกจากห้องน้ำด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม  เคโตะยังนั่งอยู่บนโซฟาที่เดิม  เรียวสุเกะเดินมานั่งข้างๆ แล้วซบลงกับอกของเคโตะ  เคโตะสะดุ้งลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ  เรียวสุเกะดึงแขนของเคโตะให้ลงมานั่งเหมือนเดิมแล้วซบหัวลงกับอกเคโตะอีกครั้ง  เขาได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นรัวเร็วของร่างสูง  อ่อนไหวง่ายกว่าที่คิดแฮะ  เขายิ้ม  “รอนานมั้ยเคโตะ”  เขาทำเสียงออดอ้อน

    “มะ..... มะ..... ไม่..... ไม่หรอก”  เขาพูดเสียงสั่นลมหายใจถี่กระชั้นไม่เป็นจังหวะ

    “ผมขอโทษนะครับ  ผมไม่น่าโวยวายใส่เคโตะเลย  ยกโทษให้ผมนะ”  เขายิ้มให้ร่างสูงที่ตอนนี้หน้าเหวอไปแล้ว

    จะมาไม้ไหนอีกเนี่ย  เคโตะไม่รู้จะทำตัวแบบไหนดีเหมือนกัน

    “ผมว่าเคโตะไปพักก่อนดีกว่า  ผมจะรอที่ห้องอาหารนะ”  เคโตะแทบจะพุ่งตัวออกไปทันทีที่เรียวสุเกะพูดจบแต่ร่างเล็กกลับรั้งเขาไว้  “เดี๋ยวสิครับ”  เรียวสุเกะเขย่งเท้าขึ้นไปหอมแก้มคนตัวสูง  เคโตะเบิกตากว้างหน้าแดงไปถึงหูแล้ว  เรียวสุเกะยิ้ม  “แล้วเจอกันนะ”  เคโตะวิ่งออกไปทันที  “ฟู่~”  ทันทีที่เคโตะพ้นจากประตูเรียวสุเกะก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก  หัวใจเขาเต้นถี่รัวไม่ต่างจากเคโตะเมื่อกี้เลย  “นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย”  เขาสัมผัสได้ถึงความร้อนที่ฉีดขึ้นทั่วใบหน้า  เป็นไปไม่ได้น่า!!

     

    เคโตะยืนพิงประตูห้องตัวเองไว้ด้วยหวังว่ามันจะทำให้เขาหายตื่นเต้นไปได้บ้าง  “ยัยคุณหนูสตรอเบอร์รี่เล่นอะไรของเขานะ”  เขาทรุดตัวลงนั่งเรียวแรงที่เคยมีหายไปหมด  แค่หอมแก้มก็ทำให้เขาใจเต้นขนาดนี้แล้ว  แล้วนี่ถ้า.....  เคโตะสะบัดความคิดนั่นออกไป  เขาสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู  เคโตะเปิดประตูออก  ยูโตะยืนนิ่งอยู่

    “คุณหนูบอกว่าจะรอคุณ  ตอนหนึ่งทุ่ม”  ยูโตะจ้องหน้าเคโตะ  “คุณโอคาโมโตะไม่สบายหรือเปล่าครับ  หน้าคุณแดงนะ”  เขาจ้องอย่างจับผิด

    “เอ่อ..... เปล่า  ไม่มีอะไร  บอกเรียวสุเกะว่าฉันรู้แล้วเดี๋ยวจะตามออกไป”

    ยูโตะมองตามประตูที่ปิดลงนึกถึงหน้าของเรียวสุเกะที่แทบจะไม่แตกต่างจากเคโตะตอนนี้เลย  เขาต้องให้ยูริดำเนินตามแผนให้เร็วที่สุดไม่อย่างนั้นอาจจะสายเกินไป  ถ้าคุณหนูหลงเจ้าหมอนี่ขึ้นมาล่ะแย่แน่

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×