คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : ตอนที่ 24 [END]
แสงไฟที่ส่องแยงตาเขาทำให้เขาต้องหลับตาลงไปอีกครั้ง แสงไฟช่างขาวสว่างแสบตาเหลือเกิน เคโตะพยายามทำให้ตาชินกับแสงภายในห้องสีขาวสะอาดนั้น เขามองเห็นใบหน้าของทุกคนกำลังมองมาที่เขาปรากฎทั้งรอยยิ้มและน้ำตา ความรู้สึกอบอุ่นใจแผ่ซ่านไปทั่วตัวเขาราวกับว่าเพิ่งตื่นจากฝันร้ายที่แสนสาหัสมาอย่างนั้น เขารู้สึกถึงมือที่อบอุ่นกำลังกำมือเขาไว้อย่างอ่อนโยน
ทุกคนในห้องนั้นต่างนิ่งเงียบไม่มีใครพูดอะไรจนเมื่อชายในชุดขาวเดินเข้ามาพร้อมนางพยาบาลเข้ามาตรวจเขา “ปลอดภัยแล้วล่ะครับ สบายใจได้เลย” คุณหมอพูดหลังจากถอดหูฟังออก
คุณหมอและพยาบาลเดินออกจากห้องพร้อมทั้งยูริ ยูโตะ และริวทาโร่ ไดกิเดินเข้ามาจับมือเขาไว้อย่างอ่อนโยน เขาเพิ่งรู้ถึงความคิดถึงที่มีต่อพี่ชายก็ในวันนี้ เขารู้สึกเหมือนจากพี่ชายไปนานแสนนานและได้กลับมาพบกันอีกครั้งหนึ่งราวกับจะจำกันและกันไม่ได้ “ปลอดภัยแล้วนะเคโตะ” น้ำเสียงของพี่ชายนั้นให้ความรู้สึกราวกับมีแม่มาอยู่เคียงข้างเขา แม้ร่างกายจะรู้สึกเหนื่อยล้าแทบจะขยับตัวไม่ได้แต่ความรู้สึกอบอุ่นใจนี้ก็ทำให้รอยยิ้มจางๆ ของเขาปรากฏขึ้น
อีกใบหน้าหนึ่งโผล่มายืนข้างๆ ไดกิ ใบหน้าหวานนั้นยิ้มให้เขาแต่ก็แฝงไว้ด้วยการหลบหน้าอย่างกับไม่อยากจะให้เขาเห็นอารมณ์ที่แท้จริงของตัวเอง ไดกิยิ้มให้ก่อนจะเดินออกจากห้องไปเงียบๆ ทำให้ตอนนี้เขาต้องอยู่กับชายหน้าหวานนั้นเพียงลำพัง
เคโตะจ้องมองใบหน้านั้น เรียวสุเกะก็มองเขาตอบ เคโตะรู้สึกว่าใบหน้านั้นซูบลงและรูปร่างที่เคยมีน้ำมีนวลก็ดูจะผอมลงด้วย “เรียวสุเกะ” เขาพูดชื่อนั้นอย่างแผ่วเบา
เรียวสุเกะนั่งลงข้างๆ มือเล็กของเรียวสุเกะกุมมือของเขาไว้ “กลับมาซักทีนะเคโตะ” เสียงของเรียวสุเกะดูแหบแห้งและเหนื่อยล้า “รู้มั้ยฉันรอนายมาห้าวันแต่รู้สึกเหมือนกับมันนานเป็นชาติ แค่ห้าวันที่ฉันต้องนอนฝันร้ายทุกคืน ห้าวันที่ฉันเฝ้ารอให้นายฟื้นขึ้นมา ห้าวันที่ฉันต้องทนอยู่กับความหวาดกลัว” เรียวสุเกะปล่อยให้น้ำตาที่กลั้นอยู่ไหลออกมา มือเล็กนั้นกุมมือของเคโตะแน่นขึ้น “แต่มันก็เป็นห้าวันที่ทำให้ฉันรู้ว่าฉันต้องการนายมากแค่ไหน ได้โปรดอย่าไปอีกเลยนะ อย่าทำให้ฉันต้องกลัวอีกเลยนะเคโตะ”
สัมผัสจากมือของเรียวสุเกะช่างอบอุ่นนัก มันดูคุ้นเคยและปลอดภัย เขารู้ว่าเพราะสัมผัสนี้ทำให้เขาตื่นจากฝันร้ายและกลับมาพบทุกคนได้อีกครั้ง “เรียวสุเกะ ผมขอโทษ” เขามองหน้าของคนรักอย่างทำอะไรไม่ได้เพราะร่างกายเขาก็ไม่สามารถขยับได้มากนัก เขาทำได้แค่กุมมือของร่างเล็กนั้นไว้เท่านั้น “ผมขอโทษนะ”
เรียวสุเกะใช้มืออีกข้างเช็ดน้ำตาและยิ้มให้เคโตะ “ไม่เป็นไร ฉันดีใจที่นายกลับมานะ”
“ผมรักคุณ” เรียวสุเกะมองหน้าเคโตะอย่างอึ้งๆ เคโตะสบตาและยิ้มให้ เขาพูดซ้ำอีกครั้งในคำที่หัวใจเรียกร้อง “ผมรักคุณ”
เรียวสุเกะยิ้มทั้งน้ำตา แม้จะเป็นแค่คำพูดธรรมดาและอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็ตามแต่เขากลับรู้สึกว่าคำว่ารักที่เคโตะบอกเขามันยิ่งใหญ่เหนือกว่าสิ่งอื่นใด เขาเข้าไปสวมกอดเคโตะไว้หลวมๆ เสียงหัวใจที่เต้นดังของร่างสูงทำให้เขารู้สึกขอบคุณที่พระเจ้ายังคงให้โอกาสพวกเขาได้มีชีวิตอยู่ต่อไป “ฉันก็รักนาย”
7 ปีต่อมา
----- France -----
“เคจัง เร็วๆ หน่อยสิครับ ฮิคารุจังมาถึงสนามบินแล้วนะ” ไดกิเร่งขณะที่เขาวิ่งนำหน้าสามีตรงไปยังอาคารผู้โดยสารขาเข้าของสนามบินแห่งชาติของฝรั่งเศส เขาวิ่งเข้าไปเบียดเสียดผู้คนที่ยืนออกันอยู่ตรงทางเดินพลางมองหาเพื่อนรักของตัวเอง “ฮิคารุจัง!! ฮิคารุจังทางนี้!!” เขาโบกไม้โบกมือเรียกคนที่กำลังลากกระเป๋าใบเขื่องอยู่ ฮิคารุวางกระเป๋าของตัวเองลงแล้ววิ่งเข้าไปกอดไดกิที่ยืนอ้าแขนต้อนรับเขาอยู่ สองสาว(?)ทักทายกันอย่างอารมณ์ดี
เควิ่งมาถึงพลางหอบแฮกๆ อยู่ข้างภรรยา “คุณอิโนะโอะครับ ช่วยผมด้วยครับ” เคหันไปตามเสียงของโคตะที่ลากกระเป๋าใบเขื่องสองใบด้วยสีหน้าอมทุกข์ ใบหนึ่งของเขาส่วนอีกใบน่ะของภรรยา
“ว๊าย โคะจัง ฉันลืมอ่ะขอโทษน้า~” ฮิคารุรีบวิ่งเข้าไปดึงกระเป๋าของตัวเองออกจากมือของสามี
“คิดจะมาอยู่ที่นี่ถาวรเลยเหรอคุณยาบุ เอามาซะขนาดนี้” เคว่าพลางมองกระเป๋าใบใหญ่อย่างอึ้งๆ
“แหมเคจัง ครบรอบแต่งงาน 5 ปีทั้งทีแถมนานๆ จะได้มาต่างประเทศด้วยก็ต้องเที่ยวให้มันเต็มที่หน่อยสิ” ฮิคารุยิ้มอย่างมีความสุข “แล้วเมื่อไรเคจังจะกลับล่ะ มาติดต่อธุรกิจอะไรจะนานขนาดนี้”
เคโอบเอวภรรยา “ก็เหมือนกันน่ะแหละ ผมก็ต้องพาภรรยาคนสวยของผมมาเที่ยวบ้างสิครับ”
ไดกิตีสามีเบาๆ พลางมองรอบตัวอย่างประหม่า “ทำอะไรก็อายคนเขามั่งสิครับ”
“โอ๊ย! ไดจังจะไปอายอะไร เขาไม่สนใจเราหรอกน่า” ฮิคารุพูดแหย่ “ไปกันเถอะครับผมหิวแล้วล่ะ” เขาเดินนำหน้าคนทั้งคู่พร้อมสามีของตัวเอง แต่แล้วก็ต้องหยุดเมื่อสองคนนั่นยังไม่ตามมาอีก เขามองไปยังคนทั้งคู่ มัวแต่เขินกันอยู่นั่นแหละ เขาคิด “เคจัง ไดจัง ถึงที่พักแล้วอยากจะทำอะไรฉันก็ไม่ว่าหรอก แต่ตอนนี้พาฉันกับโคะจังไปที่พักก่อนได้มั้ย เหนื่อยแล้ว”
ไดกิหน้าแดง เขาดึงแขนสามีที่โอบเขาอยู่ออก “ถึงห้องแล้วค่อยต่อนะ”
----- Japan -----
ริวทาโร่นอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงอย่างรำคาญ เสียงครางของยูริที่ดังอยู่ข้างห้องเขานั้นดังจนทำให้เขาหลับไม่ลง “ไม่ไหวแล้วโว้ยย!!” เขาตะโกนออกมาอย่างเหลืออดแต่ดูท่าว่าเสียงที่ดังอยู่นั่นไม่ได้มีทีท่าว่าจะลดระดับลงเลย เขาเดินไปหน้าห้องต้นเสียงแล้วเคาะประตูเสียงดัง “ทำให้มันเงียบๆ หน่อยได้มั้ย!!” แต่นั่นกลับทำให้ยูริที่กำลังปฏิบัติกิจกับยูโตะข้างในนั้นร้องครางหนักกว่าเดิมเสียอีก ริวทาโร่ขยี้หัวตัวเองอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี “ฉันอยากจะบ้าตายยย!!!”
เขาเดินปึงปังลงมาข้างล่างและแวะเข้าห้องครัว
“อ้าว! ทำไมไม่นอนล่ะครับคุณโมริโมโตะ” ยูยะร้องทัก
“นอนไม่หลับ” ริวทาโร่นั่งลงบนเก้าอี้อย่างอารมณ์เสีย “แล้วคุณทาคาคิล่ะครับ ทำไมยังไม่นอนอีก”
“ผมกำลังเตรียมอาหารว่างให้คุณหนูน่ะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไม่มีแรงลุกไปทำงาน” ยูยะว่าพลางหยิบถาดคุ้กกี้ออกมาจากเตาอบ “คุณโมริโมโตะจะลองสักหน่อยมั้ยครับ”
“ไม่มีอารมณ์จะกินหรอกครับ” ริวทาโร่ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย “ทำไมพวกนั้นชอบทำอะไรกันเสียงดังอยู่เรื่อยเลยนะ ผมอุตส่าห์หาเวลาว่างมาเยี่ยมทั้งที จะไม่ให้ผมพักผ่อนบ้างเลยหรือไง จะทำอะไรกันน่ะทำเบาๆ ก็ได้ไม่เห็นจะต้องเสียงดังขนาดนี้เลย” เขาบ่น “อย่างกับตั้งใจจะแกล้งผมอย่างนั้นแหละ”
ยูยะได้แต่อมยิ้มโดยไม่พูดอะไร เขาทำคุ้กกี้ของเขาต่อไปอย่างมีความสุข
ในห้องนอน
ยูริกอดยูโตะและหอมแก้มสามีที่นอนหมดแรงข้าวต้มบนเตียงอย่างร่าเริง “น่ารักจังเลยนะยูโตะ”
“ผมเหนื่อยแล้วนะครับ” ยูโตะพูดอย่างอ่อนแรง จนถึงเดี๋ยวนี้เขาก็ยังสงสัยอยู่เสมอว่าทำไมภรรยาเขาถึงได้แข็งแรงขนาดนี้ “ทำไมต้องให้ผมออกแรงเยอะขนาดนี้ทุกครั้งที่คุณโมริโมโตะมาด้วยล่ะครับ”
ยูริหน้าบึ้งทันทีเมื่อนึกถึงเหตุผลนั้นขึ้นมา “ก็ใครใช้ให้ริวทาโร่ไปแอบดูเราวันเข้าหอล่ะ จนถึงตอนนี้เจ้านั่นยังล้อฉันไม่เลิกเลย ก็ใครมันจะไปเก่งตั้งแต่ครั้งแรก” เขาบ่นอุบอิบ
ยูโตะหัวเราะเบาๆ เขากอดภรรยาแน่นด้วยความหมั่นเขี้ยว “ตอนนี้คุณก็เก่งขึ้นตั้งเยอะแน่ะ”
ยูริมองหน้าสามี “แสดงว่าเมื่อก่อนนายก็คิดว่าฉันไม่เก่งล่ะสิ”
“ผมเปล่าว่าคุณซักหน่อย”
ยูริขึ้นคร่อมสามีทันที “อย่างนี้ก็ต้องพิสูจน์” เขายิ้มเจ้าเล่ห์แล้วก้มลงบดขยี้ริมฝากปากของยูโตะอย่างเร่าร้อน
ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูทำให้ยูริละสิ่งที่ทำค้างไว้ “ยูยะคงมาแล้วล่ะ ชอบมาขัดจังหวะจริงๆ เลย” เขาบ่นแล้วลุกขึ้นสวมเสื้อคลุมตัวยาวเพื่อปกปิดร่างกายก่อนจะเดินไปเปิดประตู ปล่อยให้สามีนอนตกใจค้างอยู่บนเตียง
“อาหารว่างพร้อมแล้วครับคุณหนู” ยูยะว่าพร้อมยื่นถาดคุ้กกี้ให้
ยูริยิ้ม “ขอบใจนะ นายไปนอนได้แล้ว” เขาเข้าไปกระซิบยูยะ “ทีหลังถ้าไม่ได้เรียกอย่าเพิ่งเคาะห้องนะ”
ยูยะพยักหน้าอย่างเข้าใจ เขายิ้มหน้าเจื่อน “ขอโทษที่ขัดจังหวะนะครับคุณหนู”
ยูริพยักหน้า “ไปเถอะ” เขาปิดประตูแล้ววางถาดคุ้กกี้ไว้บนโต๊ะ ยูริมองไปยังสามีที่นอนตกใจค้างอยู่บนเตียงพลางค่อยๆ ถอดเสื้อคลุมของตัวเองออก “ไม่มีอะไรมากวนแล้ว งั้นเรามาต่อกันเถอะ”
----- England -----
“ที่รัก อย่าลืมเอาเสื้อไปด้วยวันนี้อากาศหนาว” เรียวสุเกะวิ่งกระหืดกระหอบมาทางสามีที่ยืนอยู่หน้าบ้านเตรียมจะออกไปทำงาน
เคโตะหันมารับเสื้อโค้ทจากภรรยาและยิ้มให้ “ขอบคุณครับเรียวสุเกะ”
เรียวสุเกะถอนหายใจ “เฮ้อ~ คิดถึงที่ญี่ปุ่นจังนะครับ ผมอยากกลับไปหายูริยูโตะแล้วก็ริวจังจะแย่อยู่แล้ว ริวจังบอกว่าสองคนนั่นน่ะเอาแต่จู๋จี๋กันตลอดเลย มิน่าล่ะถึงไม่ว่างรับสายผมสักที เชอะ!” เรียวสุเกะทำหน้างอน
เคโตะหัวเราะ “โธ่ เรียวสุเกะครับ เดือนหน้าผมก็หยุดงานแล้วเดี๋ยวคุณก็ได้กลับไปฟังเจ้าพวกนั้นจู๋จี๋กันแล้วล่ะ”
เรียวสุเกะยิ้มหน้าแดง “จะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้จะไปฟังเจ้าพวกนั้นมันมีอะไรกันสักหน่อย” เคโตะหัวเราะกับท่าทีเขินอายของภรรยา “แล้วเมื่อไรไดจังกับคุณอิโนะโอะจะมาสักทีล่ะครับ”
เคโตะมองดูตารางเวลาในมือ “อาทิตย์หน้าไดจังกับพี่เคจะกลับจากฝรั่งเศสแล้วก็จะมาพักอยู่กับเราที่อังกฤษสามวันก่อนเดินทางกลับญี่ปุ่นครับ”
“ผมอยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ จัง” เรียวสุเกะยิ้มให้สามีอย่างมีความสุข
เคโตะเหลือบมองนาฬิกา “อ๊ะ! สายแล้ว ผมต้องไปทำงานแล้วล่ะ”
เรียวสุเกะยิ้มละมุน “โชคดีนะครับ”
เคโตะวางของทุกอย่างลงและกอดภรรยาซึ่งเป็นสิ่งที่เขาทำทุกเช้าก่อนออกไปทำงาน “ผมไปทำงานแล้วนะครับที่รัก”
จุ๊บ ><
------------------------------ END ------------------------------
--------------------------------------------------
“คุณหนูสตรอว์เบอร์รี่” จบลงไปแล้วอย่างสวยงาม(?) ^___^”
ขอบพระคุณทุกท่านที่ตามอ่านมาตลอดเลยนะคะ สนุกกันหรือเปล่าเอ่ย? ไรเตอร์เต็มที่กับการแต่งมากๆ ถ้าผิดพลาดหรือแปลกๆ ไปบ้างก็ขออภัยนะคะ จะพยายามพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นกว่านี้
คุณหนูสตรอว์เบอร์รี่ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ หวังว่าจะสนุกกันทุกคนนะคะ
ฟิคเรื่องใหม่ Love ~Thank you~ คราวนี้จะเป็นแนวดราม่านะ คิดว่า ^.^ ส่วนเรื่องราวจะเป็นยังไงนั้น ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกันไรเตอร์ก็ยังสับสนอยู่ (อ้าว!)
คู่หลักคือโอคาริวและนากายาม่า ใครเป็นแฟนคู่นี้ไม่ควรพลาด!! ฮ่าๆๆๆ
ขอบคุณมากค่ะ
... ป๊อป ...
ความคิดเห็น