ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 เข้าสู่ชิโฮริ
ตอนที่ 1 เข้าสู่ชิโฮริ
ชิโฮริ ถึงแม้จะเป็นโรงเรียนชื่อดัง แต่ผมกลับไม่เคยเรียนที่โรงเรียนของตัวเองเลยสักครั้ง ทำไมน่ะเหรอ? ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ผมถูกส่งให้ไปเรียนที่อเมริกาตั้งแต่จบประถมเลยล่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมก้าวเท้าเข้ามาในชิโฮริแห่งนี้
“ขอโทษนะ นั่งด้วยได้มั้ย” เสียงหนึ่งพูดขึ้นทำให้ผมต้องละจากแฟ้มรายชื่อนักเรียนที่กำลังอ่านอยู่ ผมมองไปรอบๆตัว ที่นี่มันโรงอาหารตอนพักกลางวัน คนก็เลยเยอะเป็นพิเศษ
“เชิญครับ” ผมตอบไป
หมอนั่นนั่งลงข้างๆผม ผมจำได้ว่าเขาเป็นคนที่นั่งข้างๆผมในห้อง
“นายชื่ออะไร” ผมถามออกไป
“เคโตะ” หมอนั่นตอบห้วนๆ
“นายเรียนที่นี่นานเท่าไรแล้ว” ถึงจะรู้สึกฉุนนิดหน่อยก็เหอะ แต่ผมก็ต้องรีบหาข้อมูลให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะหาได้ เพราะถ้าก่อนผมจบแล้วยังหาตัวรัชทายาทไม่เจอ โรงเรียนนี้คงย่อยยับแน่ๆ
เคโตะไม่ตอบจนกระทั่งกินข้าวเสร็จ ก็แปลกนะที่ผมนั่งทนรอเขาได้จนขนาดนี้ “โรงเรียนม.ปลายไม่ใช่เหรอ ก็เรียนที่นี่ตั้งแต่จบม.ต้น”
เอ่อนะ ทำไมผมนึกไม่ออกล่ะ “โอเคเข้าใจแล้ว” ผมยิ้มแหยๆให้เคโตะ “นายอยู่ที่นี่ เคยมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นบ้างหรือเปล่า”
“นายหมายถึงอะไร”
“ก็ประมาณว่า ทหาร หรือนักสืบอะไรประมาณเนี้ย”
เคโตะยิ้มมุมปาก ก่อนจะลากผมออกมานอกโรงอาหาร เขาชี้ไปที่คนกลุ่มหนึ่งหลังพุ่มไม้ ที่ดูเหมือนว่าจะแอบมองใครสักคนอยู่ด้วยใบหน้ามีความสุข “พวกนั้นคือ FC ยามะจัง” แล้วเคโตะก็พาผมเดินไปอีกหน่อยก็เห็นอีกกลุ่มหนึ่งแต่พฤติกรรมเหมือนกลุ่มแรกทุกประการ “ส่วนพวกนี้คือ FC ชี่จัง”
ผมทำหน้างงใส่เคโตะ
เคโตะหัวเราะ “นี่แหละของแปลกของโรงเรียน คนพวกนั้นทำตัวเหมือนทหารคอยปกป้องเจ้าหญิงของตัวเองอย่างนั้นแหละ ถ้านายอยากเห็นทหารนะ พวกนั้นไง”
ผมยิ่งงงมากขึ้นไปอีก “เจ้าหญิง? หมอนั่นเป็นผู้ชายไม่ใช่หรือไง” ผมหมายถึงคนที่ชื่อชี่จังกับยามะจังอะไรนั่น
“มันก็ใช่ แต่สองคนนั้นน่ะหน้าหวานอย่างกับผู้หญิง จนทำให้ผู้ชายหลงรักมาทั้งโรงเรียนแล้ว” เคโตะหัวเราะอีก
ผมมองหน้าเขา “รวมทั้งนายด้วยหรือเปล่า” แต่เคโตะแค่ยิ้มให้ผมเท่านั้นเอง
“แล้วนายคิดว่าคนอย่างฉันจะชอบสองคนนั้นมั้ยล่ะ”
ผมนิ่งคิดอยู่นาน แต่เคโตะก็เป็นคนทำลายภวังค์ทั้งหมดของผม
“ถ้าเป็นนายยังน่าชอบมากกว่าอีก” เขาหัวเราะ แต่กลับทำให้ผมใจเต้นตึกตัก ถึงจะเคยมีคนมาบอกรักบ้าง แต่ก็ไม่เคยโดนเต็มๆขนาดนี้ ผมก็อดเขินไม่ได้
เคโตะหัวเราะอีก “นายนี่จริงจังไปได้ ล้อเล่นหรอกน่า”
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แต่ใจผมก็ยังไม่หยุดเต้นเลย ผมชำเลืองมองเคโตะที่กำลังหัวเราะอยู่ จะว่าไปหมอนี่ก็น่ารักอยู่เหมือนกันนะ ผมยิ้มกับตัวเองก่อนจะได้สติ ผมสะบัดหัวเพื่อไล่ความคิดบ้าๆนั่นออกไป
เสียงออดดังขึ้น
เคโตะมองหน้าผม “เข้าเรียนกันเถอะ”
แล้วเราสองคนก็เดินไปที่ห้องเรียนกัน
หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ผมก็กลายเป็นเพื่อนสนิทของเคโตะ
1 เดือนต่อมา(เร็วจังแฮะ)
ผมยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับรัชทายาทเลยสักนิด ใครกันนะ ผมพลิกแฟ้มรายชื่อนักเรียนอีกครั้ง ทุกคนล้วนไม่ใช่คนของแคว้นคุโรชิ
“นายมีเพื่อนที่เป็นคนแคว้นคุโรชิมั้ย?” ผมถามเคโตะในวันหนึ่ง
“ทำไมเหรอ” เขาทำหน้าสงสัย ตาเขาโตขึ้นเล็กน้อยด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชอบมองมันมาก
“เปล่าหรอก ไม่มีอะไร”
เคโตะทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ “นายนี่แปลกนะ ตั้งแต่วันแรกที่มาก็เห็นอ่านแต่แฟ้มรายชื่อนักเรียน ตอนแรกฉันก็คิดว่านายเตรียมตัวจะสืบทอดกิจการของพ่อ แต่มันชักจะแปลกๆแล้วนะ นายมาทำอะไรที่นี่?” เขาถามซะยาวเลย
ผมลำบากใจไม่รู้จะบอกยังไงดี บอกว่ามาตามหารัชทายาทแห่งแคว้นคุโรชิงั้นเหรอ มีหวังเคโตะหัวเราะผมแย่เลย “เอ่อ... ฉันชอบอ่านนิยายนักสืบเกินไปหน่อยน่ะ” ผมพยายามปั้นหน้ายิ้มให้
เคโตะก็ยังทำหน้าไม่เชื่ออยู่ดี “เหรอ?” เขาถามผมแบบกวนวัยรุ่น(TEEN)สุดๆ นี่ถ้าไม่ติดที่เป็นเพื่อนสนิทและหมอนี่มันน่ารักล่ะก็นะ ผมคงท้าต่อยกับมันแล้วล่ะ เอ๊ะ! เมื่อกี้ผมว่าเคโตะน่ารักงั้นเหรอครับ
“จริงดิ๊ โดยเฉพาะตามคดีที่มีวิญญาณเกี่ยวข้องด้วยนี่นะ โอ้วววว ตื่นเต้นสุดๆไปเลย” ผมแถไปเรื่อย
เคโตะทำหน้าเหยเก แหงล่ะสิหมอนี่กลัวผียิ่งกว่าอะไรดี “เชื่อแล้วๆๆ เลิกพูดซะทีเถอะน่า”
ผมอดขำไม่ได้กับท่าทีกลัวผีแบบไม่เข้ากับร่างกายของเคโตะแบบนั้น
“ขำอะไร”
“ฮ่าๆๆๆ นายน่ะ กลัวอะไรไม่เข้าเรื่องเลย” แล้วในที่สุดผมก็หัวเราะออกไป
เคโตะเบ้ปากใส่ผมก่อนจะเดินไป “ฉันไม่คุยกับนายแล้ว!”
ผมมองร่างเคโตะที่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ หมอนี่มีมุมน่ารักๆแบบนี้ด้วยนะครับ สาวๆที่ชอบเขาน่ะ ไม่มีทางรู้หรอก เมื่อเคโตะไปแล้ว ผมก็เลยเดินเล่นไปเรื่อยเปื่อยข้างสนามฟุตบอล ผมทำให้เขาโกรธหรือเปล่านะ
“นายนั่น ระวัง!!!!!!”
มีเสียงดังมาจากสนามฟุตบอล พอผมหันไปมองก็เห็นฟุตบอลพุ่งเข้ามาหาผมด้วยความเร็วสูง จากนั้นผมก็ไม่รู้สึกอะไรอีก
“นี่นาย นาย เป็นยังไงบ้าง”
เสียงแว่วๆดังเข้าสู่โสตประสาทผม ผมลืมตาขึ้นช้าๆ ทำไมไฟมันแสบตาจังนะ ผมค่อยๆให้สายตาคุ้นชินกับแสงในห้อง คนที่ชื่อยามะจังกำลังมองหน้าผมอยู่
“นายเป็นอะไรหรือเปล่า ขอโทษนะ แรงเยอะไปหน่อย” ยามะจังขอโทษขอโพยผมเป็นการใหญ่ นี่อย่าบอกนะ ว่าลูกบอลลูกนั้นยามะจังเป็นคนเตะมันมาน่ะ
ปึง!!
“ยูโตะ!!” เสียงเปิดประตูอย่างแรงพร้อมเจ้าของเสียงที่เรียกชื่อผม “นายเป็นไงบ้าง”
ผมยิ้มให้เคโตะ “ฉันไม่เป็นไร”
เคโตะหันไปทางยามะจัง “ขอบใจมากนะยามะจัง หมอนี่ยิ่งซุ่มซ่ามอยู่ ขอโทษที่ทำให้เสียเวลา เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง นายไปเถอะ”
ซุ่มซ่ามงั้นเหรอ? เคโตะต่างหากที่ซุ่มซ่ามมากกว่าผมซะอีก
ยามะจังออกไปแล้ว ตอนนี้ในห้องพยาบาลก็เหลือแต่ผมกับเคโตะ เขานั่งลงข้างๆเตียงที่ผมนอนอยู่ “รู้สึกยังไงบ้าง”
ผมพยายามยิ้มให้ “ก็มึนหัวนิดหน่อย”
“ไปโรงพยาบาลมั้ย”
ผมยกมือห้าม “ไม่ต้องก็ได้ ฉันไม่เป็นไรมาก”
เคโตะให้ผมกินยา แต่ก่อนที่ผมจะหลับไป คลับคล้ายคลับคลาเหมือนเคโตะจะเดินไปพูดอะไรกับยามะจังที่กลับเข้ามาในห้องอีกครั้งพร้อมทั้งชี่จังด้วย ผมจะไม่แปลกใจหรอกถ้าเกิดว่าผมไม่ได้ยินคำว่า “ ..... กำไลหยก ..... ยาโอโตเมะ ........ ใกล้แล้ว” ได้ยินไม่ปะติดปะต่อ ผมไม่รู้หรอกนะว่าใครเป็นคนพูด เพราะจากนั้นผมก็หลับไปเพราะฤทธิ์ยา
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น