ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic [HSJ-OkaYama] คุณหนูสตรอว์เบอร์รี่ (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #17 : ตอนที่ 16

    • อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 55


     ตอนที่  16

    ณ สถานที่เที่ยวกลางคืนที่เปิดเพลงเสียงดังอึกทึก  ยูยะเดินตรงดิ่งขึ้นไปยังชั้นสองแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องในสุดของร้าน  เขาจ้องหน้าบุคคลที่นั่งอยู่ที่โต๊ะนั้นด้วยสายตาลุกวาว  ไทสุเกะเงยหน้ามองแล้วยิ้มซึ่งเป็นรอยยิ้มที่ยูยะเห็นแล้วอยากจะต่อยให้ปากแตกเสียจริงๆ

    “ฉันว่าแล้วว่าแกต้องมาทาคากิ  ว่าไง  ตกลงยอมแล้วใช่มั้ย”

    “ถ้าคุณสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรคุณหนูอีก  ผมจะทำ  แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย”

    ไทสุเกะหัวเราะ  “รอดตายครั้งแรกไปแล้วยังคิดว่าครั้งนี้แกจะหนีรอดอยู่อีกเหรอทาคากิ”  ปฏิกิริยาของยูยะยังคงนิ่งอยู่  ไทสุเกะมองแล้วยิ้มอย่างหมั่นไส้  “แกเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะทำงานนี้ได้โดยไม่เหลือร่องรอยไว้  แกคิดว่าทำได้มั้ย”

    “จะให้ผมทำอะไร”

    “แกก็รู้อยู่แล้วว่างานนั้นคืออะไร  งานสุดท้ายที่แกทำค้างไว้ก่อนที่แกจะหนีไปไง  คิดว่าทำได้ใช่มั้ย”

    “ผมบอกคุณแล้วว่าผมจะไม่ทำร้ายคุณอิโนะโอะ”

    “แกมีสิทธิ์มาเถียงฉันตั้งแต่เมื่อไร!!!”  ไทสุเกะพูดเสียงดัง  “เพราะแกหนีไปเจ้าอิโนะโอะมันถึงได้มีชีวิตอยู่รอดจนถึงตอนนี้ได้  ฮิคารุจังต้องเป็นของฉันแกเข้าใจมั้ย”

    “แต่คุณอิโนะโอะก็แต่งงานไปแล้ว  คุณก็น่าจะเลิกได้แล้วนี่ครับ”

    ไทสุเกะหัวเราะ  “นี่แกโง่หรือแกล้งโง่กันแน่ทาคากิ  เพราะฮิคารุจังยังรักมันอยู่น่ะสิฉันถึงต้องกำจัดมันไปให้พ้นทาง”  เกิดบรรยากาศเงียบงันขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง  “คนอย่างแกถ้าไม่ได้ฉันป่านนี้แกคงนอนตายข้างถนนไปแล้ว  คนไม่มีค่าอย่างแกคิดจะมาทำตัวเป็นคนดีตอนนี้มันจะไม่สายไปหน่อยเหรอ”

    ยูยะมองอดีตเจ้านายอย่างเคียดแค้น  “ทุกคนเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ  ไม่มีคำว่าสายสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นหรอก”

    ไทสุเกะหัวเราะ  “จิเน็นเป็นคนบอกแกเหรอ  ความดีทำให้คนเราอ่อนแอ  ความแข็งแกร่งต่างหากที่จะทำให้ได้มาซึ่งทุกสิ่งทุกอย่าง  จิตใจที่อ่อนแอแบบแกฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะช่วยให้คุณหนูจิเน็นที่น่ารักของแกมีชีวิตรอดอยู่ได้จนถึงเมื่อไร”

    ยูยะมองไทสุเกะด้วยแววตาแดงก่ำ  คุณยาโอโตเมะต่างหากที่ทำให้ฉันกลายเป็นคนใหม่  ก่อนจะได้รับใช้คุณหนูจิเน็นที่จิตใจดีทำให้ชีวิตฉันมีค่าขึ้นอีกเยอะ  เขาอยากจะพูดแบบนี้แต่นั่นจะทำให้ไทสุเกะรู้ว่าคนที่ช่วยให้เขาหนีออกมาจากกลุ่มรินไซได้คือฮิคารุ  เขาจะทำให้ผู้มีพระคุณต้องเดือดร้อนมากกว่านี้ไม่ได้  “ผมจะไม่ยอมให้คุณหรือลูกน้องสกปรกของคุณแตะต้องคุณหนูอีกเป็นอันขาด”

    ไทสุเกะหัวเราะอย่างเย้ยหยัน  “หนึ่งอาทิตย์นับจากนี้ถ้าฉันยังเห็นเจ้าอิโนะโอะยังเดินลอยชายอยู่ล่ะก็  ฉันจะทำให้คุณหนูของแกต้องอยู่อย่างตายทั้งเป็น  จำเอาไว้ทาคากิ  ฉันเอาจริงแน่”

     

    ยูโตะเคาะประตูห้องนอนของริวทาโร่อย่างรัวเร็ว  เขากำเอกสารในมือแน่น  ริวทาโร่เปิดประตูออกมาเขาร้องทักยูโตะอย่างแปลกใจ  “พี่ไม่ไปดูแลพี่เรียวที่โรงเรียนเหรอครับ”

    “ผมมีเวลาไม่มากครับคุณโมริโมโตะ  ผมให้บอดิการ์ด 3 คนคอยดูแลคุณหนูแทนเมื่อผมไม่อยู่แล้ว”  ยูโตะยื่นเอกสารให้ริวทาโร่  “เป็นอย่างที่คุณโมริโมโตะสงสัยครับ  ทาคากิ  ยูยะ  ออกจากโรงเรียนตั้งแต่อยู่ชั้น ม.4 เหตุเพราะการทะเลาะวิวาทจนทำให้นักเรียนคนหนึ่งบาดเจ็บสาหัส  หลังจากออกจากคุกเขาก็ได้รับการอุปถัมภ์จาก  ฟุจิงายะ  ไทสุเกะ  เป็นหัวหน้ากลุ่มรินไซ  ยากูซ่าที่มีอิทธิพลที่สุดในโตเกียว.. 

    “ใครๆ ก็รู้ว่าทาคากิเป็นมือขวาของเขา  แต่ 2 ปีที่ผ่านมานี้ทาคากิกลับหายตัวไปอย่างลึกลับจากกลุ่มรินไซ  บ้างก็ว่าเขาพยายามหนีแล้วถูกฟุจิงายะเก็บ  บ้างก็ว่าเขาหนีไปได้และออกนอกเมืองไปแล้ว  แต่สำหรับผม  ทาคากิ  ยูยะ  คนนี้คือคนเดียวกับ  ทาคากิ  ยูยะ  พ่อบ้านของคุณจิเน็น  ยูริ  ครับ”

    ริวทาโร่ดูเอกสารในมือ  “เราต้องบอกเรื่องนี้กับคุณจิเน็น  เขาต้องรู้ว่าได้เลี้ยงสัตว์ร้ายไว้”

    “ผมว่าอย่าเพิ่งวู่วามดีกว่าครับคุณโมริโมโตะ  2 ปีที่ทาคากิไม่มีความเคลื่อนไหวในฐานะของคนของกลุ่มรินไซ  บางทีเขาอาจจะออกจากกลุ่มนี้อย่างถาวรแล้วก็ได้”

    “มันยังไว้ใจไม่ได้หรอกครับ  คนเราเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ ซะที่ไหน  แล้วพี่ได้ไปสืบประวัติอิโนะอุเอะ ชินโซ  มาหรือเปล่า”

    ยูโตะยื่นแฟ้มเอกสารอีกแฟ้มให้  “ครับ  อิโนะอุเอะ  ชินโซ  คนของกลุ่มรินไซ  ส่วนคนที่นามสกุลนากามุระ  ก็คือ  นากามระ  จุน  คนของกลุ่มรินไซเช่นกัน  และตั้งแต่วันที่คุณจิเน็นโดนทำร้ายสองคนนี้ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยจากโตเกียวตอนนี้ก็ยังตามสืบไม่ได้ครับ”

    ริวทาโร่ครุ่นคิด  “ทาคากิ  อิโนะอุเอะ  นากามุระ  คนของกลุ่มรินไซ  แสดงว่าคุณทาคากิกับกลุ่มรินไซนี้ต้องแอบติดต่อกันอย่างลับๆ แน่  ไม่มีทางที่ทาคากิจะมีชีวิตรอดในโตเกียวได้นานขนาดนั้น  พวกเขาต้องไว้ชีวิตทาคากิไว้เพราะเหตุผลบางอย่าง”

    “คุณโมริโมโตะคิดว่าเป็นอะไรครับ”

    ริวทาโร่ส่ายหน้า  “ผมก็ไม่รู้ครับพี่ยูโตะ  มันจะเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางธุรกิจของคุณจิเน็นหรือเปล่าครับ”

    “ไม่น่าใช่ครับคุณโมริโมโตะ  เพราะคุณพ่อคุณแม่ของคุณจิเน็นทำธุรกิจบ่อน้ำมันแถวตะวันออกกลาง  ก็ไม่น่าจะเกี่ยวกัน”  ยูโตะส่ายหน้า  “ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องธุรกิจครับ”  ยูโตะครุ่นคิดต่อ  “ทำไมเราไม่แจ้งตำรวจล่ะครับคุณโมริโมโตะ”

    ริวทาโร่ถอนหายใจ  “ตำรวจทำอะไรยากูซ่าพวกนี้ไม่ได้หรอกครับ  ยิ่งยากูซ่าที่มีอิทธิพลขนาดนี้ด้วยแล้วขืนแจ้งตำรวจไปมีหวังพวกเราจะซวยเอา  ผมอยากให้พี่ตามสืบทาคากิอีกซักหน่อยดูซิว่าเขาจะทำอะไรต่อไป”  ริวทาโร่ขมวดคิ้ว  ต้องการอะไรกันแน่นะ

     

    นิ้วเรียวยาวไล่กดแป้นพิมพ์บนคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คอย่างรัวเร็ว  สายตาจับจ้องอยู่ที่หน้าจอ  ยิ่งเวลาผ่านไปไกลมากเท่าไรความรู้สึกผิดก็ยิ่งถาโถมจนแทบกระอัก  ขอโทษนะครับคุณหนู  ทั้งๆที่คุณหนูมอบชีวิตใหม่ให้ผมแต่ผมกลับทรยศต่อคุณหนู  ยกโทษให้ผมด้วยนะครับ  นิ้วเรียวหยุดพิมพ์กะทันหัน  ความคิดหนึ่งผุดแว้บขึ้นมาในห้วงความคิด  ไม่มีอะไรสายถ้าคิดจะเริ่มต้นใหม่  รอยยิ้มจางๆ ปรากฏที่ริมฝีปาก  ยูยะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาคนที่ไม่ได้คุยด้วยมานาน  คนที่ช่วยทำให้เขาหนีจากฟุจิงายะครั้งก่อนและอยู่อย่างปลอดภัยในฐานะพ่อบ้านของ จิเน็น  ยูริ  เสียงดังรอสายอยู่สองครั้งก่อนที่ปลายสายจะรับ  “คุณยาโอโตเมะครับ  ผมมีเรื่องจะขอร้องให้ช่วยผมหน่อย  เรื่องของคุณอิโนะโอะ  ฟุจิงายะกำลังจะเคลื่อนไหวอีกครั้งแต่ครั้งนี้ผมหนีไม่ได้แล้วผมจำเป็นต้องให้คุณช่วย...”

     

    ฮิคารุขมวดคิ้วอย่างงงงันที่ยูยะโทรหาเขาทั้งๆ ที่ไม่ได้เจอกันมาตั้ง 2 ปีนับตั้งแต่วันที่เขาแนะนำให้รู้จักกับยูริตอนที่ไปซ่อมแซมคฤหาสน์ให้ในฐานะพ่อบ้านคนใหม่ของคฤหาสน์จิเน็น

    [ผมต้องขอบคุณเรื่องงานใหม่ที่บ้านคุณจิเน็น  ผมมีความสุขมากครับ]

    ฮิคารุยิ้ม  “เห็นนายเริ่มต้นใหม่ได้ฉันก็ดีใจ  ว่าแต่เรื่องที่นายพูดเป็นความจริงเหรอ”

    [คุณฟุจิงายะกำลังจะเริ่มลงมืออีกครั้งแล้วครับ  บอกตรงๆนะครับ  ผมไม่อยากทำร้ายคุณอิโนะโอะเลย  เขาเป็นคนดี]

    “ฉันรู้นายบอกฉันแล้ว  เพราะงั้นถึงขอร้องให้ฉันช่วยไม่ใช่เหรอ  แล้วตอนนี้คิดจะทำยังไง”

    [อีกอาทิตย์หนึ่งถ้าคุณอิโนะโอะยังมีชีวิตอยู่  คุณจิเน็นจะไม่ปลอดภัย  เพราะฉะนั้นในหนึ่งอาทิตย์นี้เราต้องเริ่มเกมรุก”

    ฮิคารุสงสัย  “เกมรุกเหรอ  ยังไง”

    [ผมมีแผนครับ  คุณเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้  ช่วยด้วยเถอะนะครับผมขอร้อง]

     

    ไดกิเปิดประตูเข้ามาในร้านอาหารแห่งหนึ่งอย่างกังวล  เขามองบุคคลที่นั่งรอเขาอยู่ในมุมหนึ่งของร้านอย่างสงสัย  ไดกิตรงดิ่งเข้าไปแล้วนั่งลงตรงที่นั่งตรงข้าม

    “สวัสดีครับไดจัง  ไม่ได้เจอกันนานสบายดีมั้ยครับ”  เรียวสุเกะทัก  ไดกิพยักหน้าน้อยๆโดยไม่กล้าสบตากับอดีตคนรักเลย  เรียวสุเกะยิ้มอย่างเข้าใจ  “กังวลอะไรงั้นเหรอครับไดจัง  ทำไมไม่มองหน้าผมเลยล่ะ”  ไดกิเงยหน้าสบตากับเรียวสุเกะ  ความกังวลยังฉายออกมาทางสีหน้าอย่างเห็นได้ชัด  “ที่จริงผมมีเรื่องอยากจะปรึกษาไดจังน่ะ  ผมรู้จักกับไดจังมานานแต่กลับไม่เคยเห็นหน้าน้องชายของไดจังเลยซักครั้งๆ แต่จู่ๆ ผมก็กลายเป็นแฟนกับน้องชายของคนที่เพิ่งทิ้งผมไป  ผมว่าไดจังคงรู้ว่าผมทำไปทำไม”

    “เรียวจังไม่ได้ตั้งใจจะทำอย่างนั้นจริงๆ ใช่มั้ย”  ไดกิถามทั้งๆ ที่ในใจก็รู้คำตอบอย่างเต็มอก  “เรียวจังไม่ได้คิดจะทิ้งเคโตะใช่มั้ย”

    “ผมโกรธที่ไดจังทิ้งผมทั้งๆ ที่ผมก็รู้เหตุผลที่ไดจังทำลงไป  รักแรกทำให้คนเราขาดสติผมรู้ซึ้งมันดีเลยล่ะ  ตอนแรกน่ะใช่ที่ผมจะใช้เคโตะในการแก้แค้นไดจัง  แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว  ผมรักเคโตะครับไดจัง”  เรียวสุเกะสบตาไดกินิ่ง  “แต่ผมกลัวว่าถ้าเคโตะรู้ว่าผมเคยเป็นแฟนกับไดจังมันจะทำให้เคโตะ...”  เรียวสุเกะถอนหายใจเพราะไม่สามารถเอ่ยคำนั้นออกมาได้  ไดกิพยักหน้าเข้าใจ

    “ฉันรู้ว่าน้องชายฉันเป็นคนยังไง  เขาเองก็คงทนไม่ได้ที่ต้องรู้ว่าถูกนายหลอกหรอกนะ”

    “เพราะฉะนั้น  ช่วยเก็บเรื่องของเราไว้เป็นความลับได้มั้ยครับ”  เรียวสุเกะจับมือไดกิ  “นะครับไดจัง  ผมขอร้อง”

    ไดกิยิ้มแล้วจับมือเรียวสุเกะอย่างอ่อนโยนเป็นการปลอบใจ  “ไม่ต้องห่วงนะ  เคโตะจะไม่มีวันรู้เรื่องนี้เด็ดขาด  ฉันสัญญา”

    เรียวสุเกะยิ้มอย่างดีใจ  “ขอบคุณครับไดจัง”

     

    “คุณอิโนะโอะจะรับอะไรเป็นอาหารกลางวันดีคะ”  เลขาสาวถามหลังเห็นว่าเลยเวลาเที่ยงวันมาแล้ว

    “ขอบคุณครับคุณคานากาว่า  แต่ผมอยากจะไปกินอาหารข้างนอกดีกว่า  อยากจะซื้อของขวัญให้ภรรยาด้วยน่ะครับ”

    คานากาว่ายิ้ม  “คุณอาริโอกะโชคดีจังเลยนะคะที่ได้คุณเป็นสามี  ซื้อให้เนื่องในโอกาสอะไรเหรอคะ”

    “ในโอกาสที่อยากซื้อให้ครับ”  เคยิ้มก่อนจะเดินลงมาขื้นรถแล้วขับออกไป  “แวะที่นี่ดีกว่า”  เคจอดรถแล้วลงไปยังร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง  แต่ก่อนที่จะเข้าไปในร้านเขาก็สังเกตุเห็นใครคนหนึ่งที่คุ้นหน้ากำลังจับมือใครบางคนอยู่  “นั่นมันแฟนของเคโตะนี่นา”  เขาพึมพำก่อนจะหยิบแว่นและสวมหมวกเดินเข้าไปในร้านเพื่ออำพรางสายตาจากไดกิ  ที่จริงเขาไม่น่าทำแบบนี้แต่แค่ไม่พอใจที่ไดกิจับมือกับเรียวสุเกะพร้อมรอยยิ้มต่างหาก

    เคเข้าไปนั่งโต๊ะข้างๆ ที่ทั้งสองคนนั่งพลางทำเป็นอ่านหนังสือแต่หูกลับเอาแต่เงี่ยหูฟังบทสนทนาของทั้งสองคน

    “ตอนที่ไดจังแต่งงาน  ผมเจ็บมากเลยล่ะ”  เรียวสุเกะเริ่ม  “ผมคิดว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ  ตอนนั้นน่ะผมอยากจะไปทำลายงานแต่งของไดจังซะให้สิ้นซากคามือผม  คิดแล้วก็ตลกนะครับ  ทำไมผมคิดแบบนั้นก็ไม่รู้”

    ไดกิยิ้มเจื่อน  “ขอโทษด้วยนะที่ต้องแต่งงานไปน่ะ  ก็ตอนนั้นมันจำเป็นนี่นา  ทั้งๆ ที่ฉันรักเรียวจังออกจะตายไปแต่ก็ต้องแต่งงานกับอิโนะโอะอย่างนั้น  ฉันก็เจ็บเหมือนกันนะแหละ”

    “แล้วตอนนี้ล่ะครับ  ความสัมพันธ์ดีขึ้นหรือยัง”

    ไดกินึกถึงตอนที่เห็นเคอยู่กับฮิคารุแล้วนึกโมโหขึ้นมา  “ก็น่าโมโหอยู่ดี”

    “เอ๋!! ผมได้ยินมาว่าคุณอิโนะโอะนี่โรแมนติกออกนะ”

    ไดกิพยักหน้า  “ก็ดีอ่ะนะ  ตอนวันครบรอบแต่งงานเขาก็จัดเซอร์ไพรส์ฉันด้วย  ก็..... ฉันก็อึ้งเหมือนกันแหละ”

    “เขาดีขนาดนั้นแล้วตอนนี้ยังคิดจะกลับมาหาผมอยู่อีกหรือเปล่าล่ะครับ”  เรียวสุเกะล้อ

    ไดกิหัวเราะ  “ลองดูมั้ย”

    “บ้าเหรอ”  ทั้งสองหัวเราะกับมุกตลก(ที่ไม่ตลก)ของตัวเองโดยที่ไม่รู้เลยว่าจะทำให้คนที่ฟังทั้งคู่อยู่เกิดเข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว

     

    เรียวจัง?  เรียวสุเกะ  ยามาดะงั้นเหรอ  เคคิด  ที่แท้ศัตรูที่เขาไม่เคยเห็นหน้าก็คือเรียวสุเกะ  ยามาดะ  คนนี้สินะ  ร้ายนัก  เข้าทางเคโตะเพื่อเข้าหาไดกิสุดที่รักของเขา  ฉันจะไม่ยอมเด็ดขาด  แบบนี้ต้องตาต่อตา  ฟันต่อฟัน!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×