คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 13
ตอนที่ 13
ริวทาโร่ลากเรียวสุเกะเข้าไปในห้อง “พี่เคโตะเป็นน้องของอาริโอกะ ทำไมพี่เรียวไม่บอกผม”
เรียวสุเกะตกใจ “ริวจังรู้ได้ยังไง”
“พี่เคโตะเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่ชายเขาทำอะไรกับพี่ไว้บ้าง อาริโอกะเคยบอกผมว่านอกจากพี่แล้วคนที่เขารักมากที่สุดก็คือน้องชายของเขา แล้วนี่พี่คิดจะทำอะไร พี่คิดจะทำลายอาริโอกะโดยใช้พี่เคโตะเป็นเครื่องมือใช่มั้ย ทำไมพี่ใจร้ายแบบนี้ พี่เคโตะเขาไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย” ริวทาโร่รู้สึกผิดหวังกับความจริงที่ได้รู้
เรียวสุเกะขมวดคิ้ว ความตึงเครียดฉายชัดบนใบหน้า “ริวจังอย่าบอกเขานะ ริวจังรู้ใจพี่ที่สุดก็น่าจะรู้ว่าพี่คิดยังไงกับเคโตะ มันอาจจะใช่ที่ตอนแรกพี่ตั้งใจอย่างนั้น แต่มันก็แค่อารมณ์ชั่ววูบพี่ไม่รู้ว่าพี่ทำอะไรลงไป แต่พอรู้ตัวอีกที พี่ก็ทำมันไปแล้ว”
“วันที่อาริโอกะแต่งงานผมก็บอกแล้วไงว่าให้ลืมเขาซะ ตอนนั้นพี่คลั่งเหมือนคนบ้าเลยรู้มั้ย” ริวทาโร่เงียบไปเพื่อระงับอารมณ์ “ผมพลาดที่ผมกลับอังกฤษไปก่อนที่พี่จะหายดี ไม่งั้นพี่คงไม่ทำอะไรโง่ๆ แบบนี้”
เรียวสุเกะน้ำตาคลอ “พี่ขอโทษ พี่ไม่คิดอะไรให้ดีเอง พี่ขอโทษ”
ริวทาโร่ตบบ่าพี่ชายเบาๆ “พี่บอกความจริงกับพี่เคโตะเถอะก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป เมื่อถึงวันนั้นพี่อาจจะต้องเสียใจมากกว่านี้ก็ได้”
เรียวสุเกะก้มหน้านิ่ง “พี่ต้องเจ็บอีกแล้วใช่มั้ยริวจัง” เขาซบหน้าลงกับไหล่ของน้องชาย “พี่ไม่อยากเสียเขาไปเลย”
ริวทาโร่สงสารพี่ชายจับใจ “พี่จะปิดเขาตลอดไปไม่ได้หรอกครับ พี่เคโตะต้องรู้ความจริงเข้าซักวัน”
เรียวสุเกะสะอื้นไห้ “ยื้อเวลาไปอีกสักนิดไม่ได้เหรอ ให้พี่ได้อยู่กับเขาอีกหน่อยไม่ได้เหรอ”
ริวทาโร่จับพี่ชายให้มาเผชิญหน้ากับตน “ฟังนะครับพี่เรียว ถ้าพี่เคโตะจะไปก็ต้องปล่อยเขา และมันจะดีกว่าถ้าพี่เป็นคนบอกเรื่องนี้กับพี่เคโตะ พี่อาจจะต้องใช้ความอดทนมากแต่มันก็ดีกว่าให้เขารู้ด้วยตัวเอง แบบนั้นคงยากที่พี่เคโตะจะให้อภัยพี่”
เรียวสุเกะเบือนหน้าหนี “แต่พี่ทำใจไม่ได้”
ริวทาโร่ถอนหายใจ เขาลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ประตู “ผมรู้ว่าพี่รู้สึกยังไง แต่ถ้าพี่รักพี่เคโตะจริงพี่ก็ควรจะใส่ใจความรู้สึกของคนที่พี่รักด้วย ผมไม่อยากให้พี่ทำอะไรแบบไม่คิดอีก”
เรียวสุเกะมองตามริวทาโร่ที่เดินออกไปอย่างใจหาย สิ่งที่ริวทาโร่พูดทำให้เขารู้สึกกังวลจนแทบบ้า เรียวสุเกะร้องไห้เมื่อนึกถึงผลที่จะตามมาเมื่อเคโตะรู้ความจริงเข้า “พี่จะทำใจได้ยังไงริวจัง”
ยูยะยืนรอยูริอยู่ที่รถเมื่อคุณหนูของเขาเข้าไปซื้อโกโก้ในร้านกาแฟร้านโปรด
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ทาคากิ ยูยะ”
ยูยะหันไปตามเสียงนั้นอย่างรวดเร็ว เขานิ่งอึ้งเมื่อเจอคนที่เรียกเขา “คุณฟุจิงายะ”
ไทสุเกะยิ้ม เขามองเข้าไปในร้านกาแฟที่ยูริกำลังนั่งรอขณะที่พนักงานที่กำลังชงโกโก้อยู่ “เจ้านายคนใหม่ อย่างนั้นสินะ”
ยูยะสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นทันที “อย่ายุ่งกับเขา”
ไทสุเกะหัวเราะ “ไม่ ถ้านายยอมทำตามที่ฉันสั่ง”
“คุณไม่ใช่เจ้านายผมอีกแล้ว เลิกยุ่งกับผมซักที”
ไทสุเกะเดินเข้ามาประชิดตัวแล้วยิ้มอย่างท้าทาย “คนที่เคยต้องคดีทำร้ายร่างกายจนต้องออกโรงเรียนกลางคันอย่างนาย ถ้าเจ้าเด็กคนนั้นรู้ คุณหนูอย่างเจ้านั่นจะทำยังไงกับนายนะ”
“คุณห้ามบอกคุณหนูนะ”
ไทสุเกะยังยิ้มไม่หุบ “ฉันจะไม่บอกถ้านายยอมทำตามที่ฉันสั่ง”
ยูยะได้แต่ยืนนิ่งอย่างจนแต้ม “คุณหนูเป็นคนดี ผมจะอธิบายให้คุณหนูเข้าใจเอง”
“แปลว่านายจะไม่ยอมทำตามที่ฉันสั่งล่ะสิ”
“ไม่มีทาง ผมจะไม่ยอมทำงานนั้นอีกแล้ว”
ไทสุเกะจ้องยูยะเขม็ง “แกรู้ใช่มั้ยถ้าขัดใจฉันแล้วอะไรมันจะเกิดขึ้น” เขาหันไปทางยูริที่กำลังจ่ายเงินที่เคาเตอร์ “เด็กที่กำลังอยู่ในวัยใสบริสุทธิ์ น่าเสียดายที่ต้องเสียมันไปซะแล้ว”
ยูยะเข้าใจความหมายทันที เขาไม่สนใจว่าไทสุเกะจะพูดอะไรแล้ว เขาวิ่งไปทางร้านนั้นอย่างรวดเร็วแต่ไทสุเกะเร็วกว่า ชายร่างบึกบึนสองคนมาจับตัวยูยะไว้แม้เขาจะห่วงคุณหนูมากแค่ไหนแต่ก็ไม่สามารถหลุดจากการเกาะกุมของเจ้าบึกบึนทั้งสองได้เลย ยูยะถูกจับมัดมือเท้าและและปิดปากไว้ก่อนจะถูกจับยัดเข้าไปไว้ในรถโดยมีไทสุเกะยืนกำกับอยู่
ยูยะได้แต่ดิ้นรนอยู่กับเชือกที่รัดมือเท้าไว้แน่นอย่างอ่อนแรงเฝ้ามองคุณหนูที่ถูกหลอกให้เดินเข้าไปในซอยด้วยอะไรบางอย่างก่อนที่ร่างเล็กนั้นจะถูกจับไปต่อหน้าต่อตา รถคันหนึ่งแล่นมาจอดขวางทัศนวิสัยของเขาทำให้ไม่รู้ว่าพวกนั้นจับคุณหนูไปไหน ยูยะได้แต่มองไทสุเกะที่กำลังยิ้มอยู่อย่างเคียดแค้น เป็นเพราะเขา เพราะเขาถึงทำให้คุณหนูต้องมาถูกจับแบบนี้
ยูริเดินออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มที่จะได้กินโกโก้แสนอร่อย แต่ก่อนที่จะเดินไปที่รถเสียงๆ หนึ่งก็ดังขึ้น
......ยูริ...... ยูริ........
เสียงเรียกชื่อเขาดังออกมาจากซอยข้างร้าน ซอยที่ทั้งมืดและสกปรก ยูริเดินไปตามเสียงนั้นแม้จะกลัวแต่ก็อยากรู้ “ใครน่ะ” ไร้เสียงตอบกลับมา มีเพียงเสียงเรียกชื่อเขาที่ดังอยู่ น่าขนหัวลุกชะมัด “ใครน่ะ” ความมืดทำให้เขาไม่ทันสังเกตเห็นชายร่างใหญ่ที่วิ่งเข้ามาจับแขนเขาล็อคไว้ ยูริดิ้นรนและพยายามร้องแต่ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาเพราะผ้าที่ปิดปากอยู่ เรี่ยวแรงที่มีเริ่มหดหายก่อนที่แสงไฟข้างถนนที่เห็นอยู่ลิบๆ จะลับหายไปจากจิตสำนึก
แปล๊บ~!!
ยูโตะกุมหน้าอกข้างซ้ายไว้ที่จู่ๆ ก็เจ็บขึ้นมากะทันหัน
“คุณนากาจิม่าเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” พ่อบ้านที่ยืนอยู่ข้างๆ ถามเมื่อเห็นยูโตะมีท่าทางแปลกๆ
ยูโตะขมวดคิ้ว ความรู้สึกบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้กำลังถาโถมเข้ามารอบๆ ตัวเขา “คุณจิเน็น” ยูโตะวิ่งไปที่รถแล้วขับออกไปทันทีโดยไม่ฟังเสียงทักท้วงจากคุณพ่อบ้านหรือแม้แต่ริวทาโร่ที่นั่งกินข้าวอยู่โต๊ะอาหารเลย
ยูโตะขับรถออกมาโดยไม่รู้จุดหมายรู้แค่ว่าต้องออกมา ความกังวลถาโถมเข้าสู่จิตใจอย่างไม่หยุดหย่อน “คุณอยู่ที่ไหนคุณจิเน็น” เขาพึมพำพลางมองข้างทางที่รถขับผ่านหวังจะเห็นร่างเล็กนั่นเดินอยู่ที่ไหนซักแห่ง ยูโตะจอดรถข้างทางเพื่อสงบสติอารมณ์ เขาหลับตาลงเผื่อมันจะช่วยได้ “คุณอยู่ที่ไหนกันแน่” เมื่อรู้สึกจิตใจสงบลงแล้วยูโตะสตาร์ทรถอีกครั้ง เขากำพวงมาลัยแน่นขออย่าให้มันเป็นอย่างที่เขาคิดเลย “เรียกผมทีคุณจิเน็น”
แต่ก่อนที่จะขับรถออกไปสายตาคมก็หันไปเห็นร่างปวกเปียกของใครบางคนที่คุ้นตากำลังถูกแบกด้วยชายร่างบึกบึนก่อนจะหายลับไปในซอยเปลี่ยวนั่น ยูโตะจำร่างเล็กนั่นได้ทันที “คุณจิเน็น”
ยูริลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องๆ หนึ่งที่เขาไม่รู้จัก เขากระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสงภายในห้อง “ตื่นแล้วเว้ย” เสียงหนึ่งดังขึ้นแต่เขาไม่รู้ว่าใครพูด ยูริรู้สึกเหมือนร่างกายอ่อนแรงไปทั้งหมดแม้แต่ขยับตัวยังทำไม่ได้เท่าที่ควร เสียงโทรศัพท์ของใครคนหนึ่งดังขึ้น “ครับเจ้านาย ได้เลยครับ ผมจัดการให้ได้ตามคำขอ ครับ รอฟังรายงานได้เลย” ยูริยันตัวขึ้นนั่งอย่างเหนื่อยอ่อน
“คนอะไรวะน่ารักเป็นบ้า น่าจะเกิดเป็นผู้หญิง” ชายคนหนึ่งมายืนข้างเตียงที่ยูรินั่งอยู่แล้วมองเขาด้วยสายตาหื่นกระหาย “ฉันก่อนแล้วกันนะเว้ยอิโนะอุเอะ”
“เอ่อๆ เจ้านายบอกให้แค่ขู่ไว้ก่อนอย่าเพิ่งทำจริงล่ะ” อิโนะอุเอะพูด
ยูริได้แต่มองชายทั้งสองด้วยความกลัวและตื่นตระหนก “พวกแกจะทำอะไร จับฉันมาทำไม”
ชายคนแรกยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ยูริสัมผัสได้ถึงกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ จากผู้ชายคนนี้ “หนุ่มน้อย อยู่นิ่งๆ จะได้ไม่เจ็บตัว” ยูริผลักชายคนนั้นออกเต็มแรง “จะลองดีใช่มั้ย!” ชายคนนั้นเงื้อมมือขึ้น
“นากามุระ!” มือของนากามุระชะงักค้างกลางอากาศ “บอกแล้วว่าแค่ขู่ แกจะทำให้มันเจ็บตัวหรือไง” เสียงโทรศัพท์ของอิโนะอุเอะดังขึ้น “ครับเจ้านาย” เขาทำสีหน้ารำคาญก่อนจะหันมาทางชายคนแรก “ฉันจะไปคุยโทรศัพท์กับเจ้านายข้างนอก จู่ๆ ก็ไม่มีสัญญาณ ไอ่โรงแรมเฮงซวย แต่ฉันขอเตือนนะเว้ย แค่ขู่”
นากามุระหัวเสีย “รู้แล้วน่า” เขายิ้มเจ้าเล่ห์เมื่ออิโนะอุเอะออกไป “เจ้าโง่ชินโซ น่ารักขนาดนี้ใครจะไปอดใจไหว” นากามุระเดินมานั่งที่เตียง ยูริลุกหนีแต่นากามุระก็ลากเขามาแล้วตรึงเขาไว้กับเตียงแน่น “ยิ่งมองยิ่งน่ารักนะหนุ่มน้อย”
ยูริมองเจ้าหื่นกามด้วยสายตาตื่นตระหนก “ปล่อยนะ ช่วยด้วย!”
“ไม่มีใครช่วยแกได้หรอก” นากามุระก้มหน้ามาหวังจะจูบแต่ยูริสะบัดหน้าหลบ เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักนากามุระออกแต่ดูท่าว่าคนๆ นี้จะไม่สะเทือนอะไรเลย นากามุระยิ้ม “ชอบแบบรุนแรงก็ไม่บอกจะได้จัดให้”
ยูริเบิกตากว้าง “ไม่!!!!”
นาทีนั้นประตูก็เปิดผางออกอย่างแรง คนที่เปิดกำลังมองนากามุระด้วยสายตาแดงก่ำเต็มไปด้วยความโกรธ “แกทำอะไรคุณจิเน็น!”
ยูโตะเดินตามคนพวกนั้นมาติดๆ พวกนั้นพายูริมาที่โรงแรมโดยบอกพนักงานว่ายูริเมาหนักกลับบ้านไม่ได้ หลอกให้เราเป็นห่วงที่แท้ก็แอบไปเมาหัวทิ่มมานี่เอง ยูโตะได้แต่นึกในใจ แต่ถึงกระนั้นผู้ชายตัวเล็กน่ารักอย่างยูริกับชายบึกบึนสองคนที่แบกยูริมานี่มันก็แปลกๆ อยู่ ยูยะหายไปไหนซะล่ะ ยูโตะยังคงตามเจ้าพวกนั้นไปโดยรักษาระยะห่างไว้เพื่อไม่ให้รู้ตัว
ตอนนี้เขายืนอยู่หน้าห้องที่พวกนั้นพายูริเข้าไปแล้ว จะเปิดเข้าไปดีมั้ยนะ ขณะที่กำลังตัดสินใจอยู่นั้นประตูห้องก็เปิดออก ยูโตะหันหลังทันทีโดยทำเป็นว่ากำลังหากุญแจห้องอยู่
“แกม่าทำอะไรที่นี่” อิโนะอุเอะถามเสียงเหี้ยม
ยูโตะทำเป็นตกใจแล้วหันมายิ้มให้ “หากุญแจห้องครับ ไม่รู้เอาไปไว้ไหน”
อิโนะอุเอะขมวดคิ้ว “แล้วห้องแกอยู่นี่เหรอ”
ยูโตะทำเป็นมองเลขที่ห้องแล้วหัวเราะแห้งๆ “สงสัยผมจำผิดครับ ขอโทษนะครับ อ้ะ! ห้องผมอยู่ข้างๆ นี่เอง” ยูโตะเดินไปยืนอยู่หน้าห้องข้างๆ พลางแสร้งทำเป็นหากุญแจแต่หูยังคงฟังอยู่ว่าชายคนนี้จะทำอะไรต่อไป
อิโนะอุเอะส่ายหน้าแล้วคุยโทรศัพท์ต่อไป “ครับเจ้านาย จิเน็นอยู่กับผมแล้ว นากามุระกำลังดูอยู่ ครับไม่ทำอะไรแน่นอน” เสียงอิโนะอุเอะเงียบไป “ให้จัดการเลยเหรอครับ ครับ นากามุระมันคอยอยู่นานแล้ว น่ารักขนาดนั้นมันอดใจได้ไม่นานหรอก”
เจ้าพวกนี้คิดจะทำอะไรคุณจิเน็นงั้นเหรอ
อิโนะอุเอะวางหูโทรศัพท์แล้วหันมาทางยูโตะ “เฮ้ยแก หากุญแจเจอหรือยังวะ”
ยูโตะยิ้ม “เจอแล้วครับ”
อิโนะอุเอะพยักหน้าอย่างเอือมๆ ก่อนจะหันไปเปิดประตู แต่ชั่วขณะนั้นเองที่ยูโตะฟาดสันมือไปที่ท้ายทอยเจ้าล่ำ อิโนะอุเอะสลบไปทันที ยูโตะเปิดประตูออกอย่างแรง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้เขาแทบช็อค ชายที่คร่อมยูริอยู่หันมาทางเขา ยูโตะมองจิเน็นที่กำลังอยู่ในภาวะตื่นกลัวสุดขีด เขากัดฟันกรอด “แกทำอะไรคุณจิเน็น!”
นากามุระลุกขึ้นแล้วมองยูโตะที่ตัวเล็กกว่า “เจ้าเปี๊ยก มาขัดจังหวะความสุขของข้ารู้มั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
ยูโตะยิ้ม “รู้สิ ก็จะได้เจอนี่ไงล่ะ” ยูโตะเตะผ่าหมากของชายผู้สูงกว่าเต็มแรง แม้มันจะเป็นวิธีที่ผู้หญิงเขาทำกันก็เถอะแต่ตอนนี้เขาต้องพายูริออกไปจากที่นี่ให้ได้ก่อน นากามุระทรุดฮวบลงไปกับพื้น ยูโตะไม่เสียเวลาให้เจ้ายักษ์ฟื้นตัว ความรู้สึกที่ทั้งโกรธทั้งแค้นผลักดันให้เขาชกนากามุระแบบไม่ยั้ง ยูโตะลุกขึ้นอย่างเหนื่อยหอบหลังจากชกนากามุระอย่างสะใจ “ไป! ไปจากที่นี่ อย่าให้ฉันเห็นหน้าพวกแกอีกเป็นครั้งที่สองนะ!”
นากามุระมองยูโตะอย่างเคียดแค้น “ฝากไว้ก่อนเถอะแก” เขาพูดอย่าอาฆาตก่อนจะเดินกะโผลกกะเผลกออกไปแล้วลากอิโนะอุเอะที่นอนสลบอยู่หน้าห้องออกไปด้วย
ยูโตะรี่เข้าไปหายูริทันทีที่สองคนนั้นลับตา ยูริโผเข้ากอดยูโตะแล้วร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ ความกลัวทั้งหมดมลายหายไปทันทีที่เห็นร่างสูงเปิดประตูเข้ามา ยูโตะกอดยูริแน่น เขาก็ห่วงยูริมากเช่นกัน “ไม่เป็นไรนะครับคุณจิเน็น ผมอยู่ที่นี่แล้ว”
ยูริร้องไห้ออกมาเพื่อระบายความเครียดที่ต้องเผชิญไปเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา “อยู่กับฉันนะยูโตะ อย่าไปนะ อยู่กับฉันนะ”
“ผมอยู่ที่นี่แล้ว ผมอยู่กับคุณแล้วคุณไม่ต้องกลัว” เขาค่อยๆ ดันยูริออกแล้วเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มให้ร่างเล็ก “ไปจากที่นี่เถอะ ผมจะพาคุณกลับบ้าน”
ยูยะได้แต่นั่งนิ่งๆ อยู่ในรถไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ คุณหนูของเขา เขาเป็นคนทำให้คุณหนูต้องเจ็บตัว เป็นเพราะเขาคนเดียว ยูยะร้องไห้อย่างเจ็บแค้น ไอ้พวกคนเลว!!
ไทสุเกะรับโทรศัพท์ “เจ้าพวกโง่!! แค่นี้ก็พลาด แกออกนอกเมืองไปเลยนะแล้วไม่ต้องกลับมาอีก เดี๋ยวฉันจะส่งเงินไปให้ หุบปาก!! ทำงานพลาดแบบนี้เอาแค่ครึ่งเดียวก็พอ แล้วไม่ต้องโทรหาฉันอีก” ไทสุเกะวางหูอย่างอารมณ์เสีย เขาหันมายิ้มให้ยูยะด้วยรอยยิ้มน่ากลัว “ครั้งนี้ถือว่าโชคดีของแก” ไทสุเกะขมวดคิ้ว “ร้องไห้เหรอทาคากิ แกนี่มันอ่อนแอจริงๆ ฉันจะบอกให้นะว่านี่เป็นแค่คำเตือน ครั้งหน้าไม่พลาดแน่” เขาหยิบมีดออกมาแล้วตัดเชือกที่มัดมือยูยะออกก่อนจะเดินลับหายไปในเงามืด
ยูยะรีบแก้เชือกของตัวเองอย่างร้อนรน ภาวนาให้เขาหาคุณหนูให้เจอ ยูยะลงจากรถมาพลางมองซ้ายขวา เขาจะไปทางไหนก่อนดี ทันใดนั้นความกลัวก็ถูกเปลี่ยนเป็นความโล่งใจเมื่อเขาเห็นยูโตะกำลังประคองยูริเดินตรงมาที่เขา “คุณหนู” ยูยะเรียกอย่างตื่นตระหนกปนความดีใจที่เห็นคุณหนูของเขาปลอดภัย เขารี่เข้าไปประคองยูริแทนยูโตะที่ถอยออกมา “คุณหนูเป็นอะไรหรือเปล่าครับ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า เพราะผมไม่ดีเองครับคุณหนู” ยูยะทั้งพูดทั้งจะร้องไห้เพราะความรู้สึกผิด
ใบหน้าซีดเซียวของยูริหันมายิ้มให้ “ไม่เป็นไรแล้ว ยูโตะมาช่วยไว้ทัน”
ยูยะหันไปทางยูโตะที่ยืนอยู่แล้วโค้งให้อย่างเงอะๆ งะๆ เพราะตัวเองต้องประคองยูริไว้ “ขอบคุณนะครับ ขอบคุณจริงๆ ที่ช่วยคุณหนูของผม”
ยูโตะยิ้มอย่างประหม่า “ไม่เป็นไรครับ”
ยูยะหันมาพูดกับยูริต่อ “กลับกันเถอะครับคุณหนู” เขาประคองคุณหนูของเขาอย่างทะนุถนอมราวกับถ้าจับแรงไปจะทำให้ร่างยูริแตกออกเป็นเสียงๆ
ยูโตะมองตามยูริจนรถถูกขับออกไป ตอนนี้จึงเหลือแค่เขาที่ยืนอยู่คนเดียว เอาไงดีล่ะจะกลับดีหรือเปล่านะ? ยูโตะมองรถของยูริอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจขับตามไป
ไทสุเกะเดินออกมาจากเงามืดแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “แกยื้ออยู่ได้ไม่นานหรอกทาคากิ”
ความคิดเห็น