คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 9
ยูโตะนั่งรอยูริในร้านอาหารแห่งหนึ่งอย่างกระวนกระวายใจ วันนี้เขาตั้งใจจะมายกเลิกข้อสัญญาทั้งหมด แม้จะดึกมากแล้วแต่เขาทนเห็นคุณหนูของเขาร้องไห้อีกไม่ได้
มีเสียงกรุ๊งกริ๊งดังขึ้นเมื่อยูริเปิดประตูเข้ามาในร้าน เขาเดินมานั่งฝั่งตรงข้ามยูโตะ ยูโตะอึดอัดไม่รู้จะพูดอย่างไรดี ยูริรำคาญกับท่าทีแบบนั้น “มีอะไรก็รีบๆ พูดมาสิฉันไม่มีเวลามากหรอกนะ”
ยูโตะสูดลมหายใจเข้าเพื่อเพิ่มความกล้าให้ตัวเอง “ผมมาพูดเรื่องข้อตกลงของเรา” ยูริจ้องหน้ายูโตะ “ผมอยากจะยกเลิกมัน ผมอยากให้คุณเลิกยุ่งกับแฟนของคุณหนูตั้งแต่นี้เป็นต้นไป”
ห้ะ นี่เขาพูดอะไรน่ะ “ข้อตกลงที่พูดไปแล้วจะคืนคำง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไง”
แม้จะรู้ตัวว่าตัวเองผิดเต็มประตูแต่เพื่อคุณหนูแล้วเขาย่อมทำได้ “สองคนนั้นเขารักกัน ผมทนเห็นคุณหนูร้องไห้ต่อไปอีกไม่ได้”
ยูริขมวดคิ้ว “แล้วฉันล่ะ?”
“คุณก็ไปหาแฟนใหม่”
ยูริลุกขึ้นยืน “พูดแบบนี้หมายความว่าไง แบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลยนะ” เขาพูดเสียงดังจนคนในร้านเริ่มหันมามอง ยูโตะพยายามบอกให้ยูรินั่งลงเหมือนเดิมแต่ดูเหมือนยูริจะของขึ้นซะแล้ว “จำไว้นะนากาจิม่า ยูโตะ นายไม่มีสิทธิ์มาห้ามฉัน!” ยูริเดินออกจากร้านทันที ยูโตะวิ่งตามออกไปแล้วคว้าข้อมือคนตัวเล็กไว้
“เดี๋ยวสิ หมายความว่ายังไงที่ว่าห้ามไม่ได้”
ยูริยิ้มเจ้าเล่ห์ “ฉันรักเคโตะ และฉันจะไม่ยอมเสียเขาไปให้คนอื่นเด็ดขาด แม้แต่ยัยคุณหนูของนายก็ตาม โอ๊ย!!” ยูริร้องเมื่อมือของยูโตะบีบข้อมือเขาแน่นขึ้น “ปล่อยนะ!”
แต่ยูโตะไม่ปล่อย เขาจ้องคนตัวเล็กไม่วางตา “ผมจะไม่ยอมปล่อยคนที่ทำให้คุณหนูของผมต้องร้องไห้ แม้แต่คุณก็ตาม ผมจะขวางคุณเอง” ยูโตะวางมือยูริลงแล้วเดินจากไป
ยูริกุมข้อมือเล็กที่แดงเป็นรอยมือแล้วมองตามหลังยูโตะที่เดินไป “ไม่มีใครขวางฉันได้หรอก!” เขาตะโกนไล่หลัง
เป็นเช้าที่ไม่ค่อยดีอีกวันของเรียวสุเกะ เมื่อวานนี้เขาร้องไห้จนตาบวม เขาบอกยูโตะว่าวันนี้ไม่สบายขอหยุดหนึ่งวัน เรียวสุเกะนอนคลุมโปงในห้อง เสียงประตูเปิดออกกลิ่นข้าวต้มหอมฉุยลอยเข้ามากระทบจมูกท้องเขาร้องขึ้นมาทันทีแต่เขาไม่อยากให้ใครเห็นเขาในสภาพแบบนี้ เขาไม่แม้แต่จะหันไปมอง “วางไว้ตรงนั้นแหละ ออกไปได้แล้วฉันอยากพักผ่อน”
“ไม่สบายมากเหรอ?”
เสียงนุ่มของใครบางคนทำให้เรียวสุเกะลุกขึ้นมาอย่างตกใจ “เคโตะ” เขาพึมพำชื่อคนนั้นเบาๆ
เคโตะยิ้มให้แล้วลงมานั่งข้างๆ เขาวางถาดข้าวต้มที่ถือมาไว้บนโต๊ะแล้วหันมามองเรียวสุเกะ เคโตะขมวดคิ้วเมื่อสังเกตเห็นตาที่บวมแดงของคนตรงหน้า “คุณเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” เขาถามเสียงอ่อนโยน
เรียวสุเกะรู้ตัวว่าถูกจ้องหันหน้าหลบทันที “นายไม่ไปเรียนเหรอ?”
“ก็แฟนผมไม่สบายแบบนี้จะให้ไปโรงเรียนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มได้ยังไงล่ะ” เรียวสุเกะหันขวับมาภาวนาให้สิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่เป็นความจริง เคโตะเรียกเขาว่าแฟนอย่างนั้นเหรอ! เคโตะยิ้มให้ “ผมจะปล่อยให้คุณนอนป่วยอยู่บ้านได้ยังไง สงสัยจะป่วยหนักน่าดูเลย” เคโตะเอามืออังหน้าผากของคนตัวเล็ก “ตัวก็ไม่ร้อนนี่” เขาขมวดคิ้วเมื่อเห็นแก้มที่ขึ้นสีระเรื่อของคนตรงหน้า ตาสวยจ้องเขาไม่วางตา “อะไรกัน หน้าแดงใหญ่แล้ว”
เรียวสุเกะได้สติรีบก้มหน้าทันที พยายามนึกหาคำพูดที่จะทำให้เคโตะไม่เห็นเขาในสภาพนี้นานเกินกว่านี้ แต่ท้องเจ้ากรรมดันร้องโครกครากขึ้นมาซะดื้อๆ เคโตะหัวเราะเบาๆ เขาหยิบถาดข้าวต้มขึ้นมาแล้วตักขึ้นจ่อปากคนตัวเล็ก
“กินซักหน่อยจะได้ดีขึ้น”
เรียวสุเกะมองหน้าเคโตะแล้วท้องก็ร้องโครกครากอีกครั้ง ก่อนจะหลบตาด้วยความอายแล้วกินข้าวต้มในถาดจนหมด เมื่อท้องอิ่มความรู้สึกไม่ดีทั้งหลายแหล่ก็เหมือนจะทุเลาลง เรียวสุเกะนอนเอนตัวลงกับหัวเตียงอย่างสบาย
“เดี๋ยวผมเอานี่ไปเก็บก่อนแล้วกันคุณจะได้พักผ่อน” เคโตะถือถาดลุกออกไป
“เดี๋ยวสิ” เรียวสุเกะพูด “นายจะกลับมาหรือเปล่า”
เคโตะยิ้มอ่อนโยน “ผมจะอยู่กับคุณจนกว่าจะหลับก็ยังได้เลย” แล้วจึงเดินหายไปจากประตู
เรียวสุเกะนอนยิ้มอยู่คนเดียว อบอุ่นจังเลยนะ รอยยิ้มแบบนั้นน่ะ เขาหลับตาแล้วนึกถึงหน้าคนที่เดินออกไปเมื่อกี้
เสียงเคาะประตูดังขึ้นแต่เคก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองแต่อย่างใด “เชิญครับ” เขาพูดแค่นั้นก่อนจะได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามาเขาคาดว่าจะได้เห็นเลขาพูดแต่กลับไร้เสียงใดๆ เข้าโสตประสาท เคเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารตรงหน้าแล้วก็ต้องตกใจเมื่อคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขาคือ... “คุณยาโอโตเมะ”
ฮิคารุยิ้มแล้วนั่งลงตรงเก้าอี้ตรงหน้า “ไม่พักกินข้าวหน่อยเหรอครับ”
เคพับแฟ้มงานลง “เพราะผมหยุดหลายวันน่ะครับก็เลยต้องรีบเคลียร์งานที่ค้างให้เร็วที่สุด ว่าแต่คุณยาโอโตเมะมาที่นี่ได้ยังไง”
“วันนี้ผมว่างน่ะครับเลยคิดว่าน่าจะมาเยี่ยมคุณซักหน่อย ผมนึกว่าภรรยาคุณจะจัดการเรื่องงานให้ระหว่างที่คุณพักฟื้นซะอีก”
“อ๋อ เรื่องนั้นน่ะ ภรรยาผมเขาจัดการให้ผมอย่างดีมากเลยล่ะครับ นี่ผมก็แค่มาเก็บตกในส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามาเท่านั้นเอง”
ฮิคารุยิ้ม “ภรรยาคุณนี่เก่งจัง”
“ครับ เขาเก่งมากเลย” เคยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
ฮิคารุชำเลืองมองนาฬิกาบนผนัง “นี่ก็เกือบจะบ่ายโมงแล้ว เลขาคุณบอกว่าคุณยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย ถ้าไม่รังเกียจจะไปกินด้วยกันมั้ยล่ะครับ” ท่าทีของเคดูลังเลเขาจึงชิงพูด “ถือว่าเป็นการตอบแทนที่ผมช่วยคุณไว้ก็แล้วกัน แค่ผมกับคุณ”
แม้จะยังลังเลอยู่ก็ตามแต่ถ้ามัดมือชกขนาดนี้เขาก็คงต้องตามนั้นแหละ “ตกลงครับ”
เคโตะเปิดประตูเข้ามาในห้อง “เรียวสุเกะ!” เขาตกใจเมื่อไม่เห็นเรียวสุเกะอยู่ที่เตียง เขาวิ่งไปที่ห้องน้ำแต่ก็ไร้เงาของคนตัวเล็ก เคโตะเริ่มสังหรณ์ไม่ดี ป่วยแบบนั้นจะไปไหนของเขานะ ในขณะที่เคโตะกำลังจะออกจากห้องไปอย่างร้อนรนเสียงเรียวสุเกะดังขึ้นเขาจึงหยุด
“มาช้าจังเลยนะ รู้มั้ยว่าฉันรอนายตั้งนาน” เรียวสุเกะโผล่ขึ้นมาจากขอบเตียงอีกด้าน “เป็นอะไรน่ะทำหน้าอย่างกับเห็นผีอย่างนั้นแหละ ฉันก็แค่หาโทรศัพท์แล้วก็ได้ยินเสียงนายเรียกฉันก็เลย........” เสียงเรียวสุเกะขาดหายไปเพราะอ้อมกอดของเคโตะที่กอดเขาแน่น
“ผมนึกว่าคุณหายไปไหนแล้วซะอีก รู้มั้ยผมตกใจแทบแย่ทีหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะ”
เรียวสุเกะหัวใจพองโต “นายห่วงฉันด้วยเหรอ”
เคโตะคลายอ้อมกอดออก “ก็ห่วงน่ะสิ ใครจะปล่อยให้คนป่วยออกไปเดินท่อมๆ คนเดียวล่ะ” เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก “พักผ่อนดีกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะได้ไปโรงเรียนได้”
เรียวสุเกะยิ้มแล้วเดินตามเคโตะไปอย่างว่าง่าย แต่ด้วยความซุ่มซ่ามหรืออะไรก็ไม่รู้ที่ทำให้เคโตะสะดุดขาตัวเองล้มจนเรียวสุเกะที่ถูกจูงตามมาก็ล้มตามไปด้วย “โอ๊ย!” เรียวสุเกะร้องเมื่อร่างกายเขาทับเคโตะไปเต็มๆ แต่ดีที่เคโตะยังมีสติเหวี่ยงตัวเองให้ล้มลงบนเตียงได้ทันทำให้ไม่เจ็บตัวมากเท่าไร ทั้งคู่พยายามลุกขึ้นแต่แล้วก็ต้องหยุดเมื่อเผลอมองตากันและกัน เรียวสุเกะมองเคโตะที่เขาทับอยู่รู้สึกถึงจิตใจที่เรียกร้องอะไรบางอย่าง
สายตาของเรียวสุเกะที่มองมาทำให้เขาได้แต่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ร่างกายเหมือนถูกโซ่ตรวนตรึงไว้ทำไม่ได้แม้แต่ขยับตัวได้แต่จ้องมองคนที่ทับเขาอยู่ เขาพูดอะไรไม่ออกเมื่อเรียวสุเกะค่อยๆ ก้มเข้ามาแล้วประทับจูบไว้ที่ปากของเขา ริมฝีปากของคนตัวเล็กอ้อยอิ่งอยู่บนปากของเขาอยู่นานก่อนที่ลิ้นของทั้งคู่จะประสานกันเป็นหนึ่งเดียว มือใหญ่ลูบไล้แผ่นหลังของร่างเล็กอย่างเคลิบเคลิ้ม จากที่ถูกทับเคโตะพลิกตัวเองให้มาอยู่ข้างบนแทน เมื่อความปรารถนาเริ่มเข้าครอบงำเคโตะแทบไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ริมฝีปากเปลี่ยนเป้าหมายจากปากอวบอิ่มของร่างเล็กมาเป็นต้นคอขาวแทน เขาขบมันลงไปเบาๆ มือซ้ายเริ่มปลดกระดุมของคนตัวเล็กออกทีละเม็ดส่วนมือขวาก็ปล่อยให้มันเลื่อนไหลลงข้างล่างตามอำเภอใจ
เรียวสุเกะใจเต้นโครมคราม เขากำมือแน่นรู้สึกถึงท้องน้อยที่เกร็งขึ้นมาเมื่อมือซุกซนของเคโตะเริ่มสำรวจไปทั่วร่างกายเขา ไม่รู้ว่าเสื้อถูกปลดกระดุมตั้งแต่เมื่อไรแต่เขาไม่สนใจ เคโตะเลื่อนมือลงไปตามหน้าท้องที่เกร็งแน่นของเขาอย่างช้าๆ เรียวสุเกะจิกต้นแขนร่างสูงอย่างแรงเพื่อลดแรงอารมณ์ที่เพิ่มขึ้นมหาศาลเมื่อมือของเคโตะเลื่อนไปถึงจุดยุทธศาสตร์ของเขาแล้วลูบไล้มันอย่างอ่อนโยน
ภายในร้านอาหารของห้างสรรพสินค้าหรูหราแห่งหนึ่งที่เคและฮิคารุนั่งรับประทานอาหารกันอยู่ เสียงเพลงคลาสสิคคลอเบาๆ ช่วยให้เจริญอาหาร
“ตอนนี้อาการเป็นยังไงบ้างครับ” ฮิคารุพูดทำลายความเงียบ
เครีบกลืนสปาเกตตีลงท้อง “ก็ดีขึ้นแล้วล่ะครับ กระดูกก็ต่อกันติดแล้ว”
“งั้นก็ดีแล้วล่ะครับ คุณอิโนะโอะแต่งงานมานานเท่าไรแล้วครับเนี่ย”
เคมองฮิคารุ ทำไมต้องถามด้วยนะ “เดือนหน้าก็ครบปีแล้วครับ”
ฮิคารุยิ้ม “หนึ่งปีนี้ผ่านไปเร็วจังนะ” เคมองหน้าฮิคารุอีกครั้งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร “เพื่อให้สนิทสนมกันมากขึ้นผมขอเรียกชื่อต้นของคุณอิโนะโอะได้มั้ยครับ” เคชะงักมมองหน้าคนถาม ฮิคารุหัวเราะเบาๆ “ผมแค่อยากเป็นเพื่อนกับคุณน่ะครับ ได้มั้ยครับคุณอิโนะโอะ”
เคคิดหนัก ขนาดไดกิเองยังไม่เคยเรียกชื่อต้นเขาเลยซักครั้ง จะทำยังไงดีนะ แต่แล้วก็ตัดสินใจได้ถ้าเป็นแบบนี้เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าไดกิจะสังเกตเห็นบ้างหรือเปล่า “ตกลงครับ”
ความเจ็บจากเล็บของเรียวสุเกะที่จิกลงบนต้นแขนทำให้เคโตะได้สติ เขาลุกขึ้นยืนแล้วมองเรียวสุเกะที่นอนหอบหายใจอยู่อย่าตื่นตระหนก กระดุมเสื้อทุกเม็ดของคนตัวเล็กถูกปลดออกเผยให้เห็นหน้าอกขาวเนียนที่ทำให้แก่นกายเขาลุกชันขึ้นมาอีกครั้ง นี่เขาทำอะไรลงไปเนี่ย!! เขาก้มลงดูสภาพตัวเอง นี่เขาถอดเสื้อตัวเองตั้งแต่เมื่อไรกัน! แต่เขาไม่มีเวลาหาแล้วเมื่อเรียวสุเกะลุกขึ้นนั่งแล้วมองเขาอย่างเลื่อนลอย “ระ...เรียว....เรียวสุเกะ....” เคโตะพูดชื่อคนตัวเล็กอย่างตะกุกตะกัก เมื่อกี้เขาเกือบจะขืนใจเรียวสุเกะไปแล้ว
เรียวสุเกะมองสีหน้าตื่นตกใจของเคโตะ เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นน่ะ! เรียวสุเกะก้มดูสภาพตัวเองก่อนจะรีบคว้าเสื้อขึ้นมาปิดบังร่างกายท่อนบนไว้ รู้สึกใบหน้าร้อนฉ่าขึ้นมาทันที
“ผมขอโทษ” เคโตะพูดเสียงแผ่วเบา “ผมเกือบจะ.....”
“ออกไปซะ”
เคโตะหน้าเหวอแล้วถอนหายใจ “ผมขอโทษ” เขาหยิบเสื้อแล้วเดินออกจากห้องไป
เรียวสุเกะถอนหายใจออกมาเหมือนกับมันจะช่วยทำให้อารมณ์ทั้งหมดมันหายไปได้ เขานอนแผ่ลงไปอีกครั้ง เมื่อกี้นี้มันอะไรกัน เรียวสุเกะกำมือแน่นอารมณ์เมื่อกี้ยังค้างเติ่งอยู่ เขานึกโมโหที่เคโตะไม่ต่อให้มันเสร็จ “เจ้าบ้าเคโตะ”
------------------------------------------------------------------
ติดเรท ><
ความคิดเห็น