คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 8
ตอนที่ 8
ในเช้าวันจันทร์ที่อากาศสดใส แต่อารมณ์ของคนตัวสูงไม่ได้สดใสไปด้วยเลย เคโตะนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างใจลอย
ยูริสังเกตเพื่อนชายของเขานานแล้ว เคโตะที่ปกติจะร่าเริงแต่วันนี้กลับดูเหม่อพิกล “เคโตะ” เคโตะสะดุ้งหันมาทางคนตัวเล็ก ยูรินั่งลงข้างๆ ร่างสูง “เป็นอะไรไป ดูสบายใจเลยนะ” เขาถามอย่างเป็นห่วง
เคโตะถอนหายใจ “เปล่าหรอก”
ยูริยิ้ม “ถ้าจะโกหกก็ให้มันแนบเนียนหน่อยสิ” เขาตบไหล่เพื่อนชายเบาๆ “มีอะไรก็เล่าให้ฟังได้นะ อย่าเก็บไว้คนเดียวแบบนี้สิเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ”
เขายิ้มให้ยูริ “ขอบคุณนะ แต่ไม่เป็นไรหรอก” เคโตะไม่อยากเล่าเรื่องข้อตกลงกับเรียวสุเกะให้ยูริฟังหรอก เขารู้ว่ายูริห่วงเขาแค่ไหนแค่นี้เขาก็รู้สึกผิดจะแย่อยู่แล้ว แล้วถ้าไดกิรู้อีก เฮ้อ~ ไดกิกับเคยิ่งไม่ค่อยลงรอยกันอยู่ แต่ถ้าจะให้ถูกคือพี่เขาต่างหากที่เป็นคนไม่ลงรอยกับสามีเอง ทางที่ดีอย่าให้สองคนนั้นรู้ดีกว่า
ยูริยิ้มอย่างเข้าใจ “ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร เย็นนี้ว่างมั้ยไปกินไอติมแก้กลุ้มดีกว่า”
เคโตะตกลงแทบจะในทันที เขาแค่อยากได้ที่สงบๆ ซักพักเพื่อคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ทั้งเรื่องข้อตกลงนั่นรวมทั้ง.... เรื่องที่ความรู้สึกของเขาเริ่มจะแปลกๆ ไปซะแล้ว ทั้งวันเขาแทบจะนั่งไม่ติดด้วยอยากให้ถึงเวลาเลิกเรียนเร็วๆ หวังแค่ว่าเรียวสุเกะจะไม่มาตามเขาที่ห้องอีกนะ ความรู้สึกว้าวุ่นใจตอนนี้ทำให้เขายังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับเรียวสุเกะเลย
เสียงออดดังบอกเวลาเลิกเรียน เคโตะรีบเก็บของของตัวเองอย่างรวดเร็ว เขาจับมือยูริไว้พลางด้อมๆ มองๆ ที่หน้าห้องก่อนจะรีบแจ้นออกไปทันที เคโตะพายูริวิ่งออกจากโรงเรียนอย่างรวดเร็ว
วิ่งมาได้ซักพักหนึ่ง “เดี๋ยว! เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อนเคโตะ” ยูริเรียกพลางหอบ เคโตะหยุดวิ่งแล้วหันมาทางร่างเล็ก
“ขอโทษจริงๆนะ ฉันแค่กลัวว่าเรียวสุเกะจะตามเรามาทันน่ะ” เขายิ้มตาหยี
เรา ยูริยิ้มกับคำสรรพนามที่เคโตะพูด เขาสูดหายใจเข้าลึกเพื่ออัดออกซิเจนเข้าปอดหลังจากที่วิ่งมาไกล มือที่กุมเขาไว้ตลอดทางทำให้ยูริรู้สึกอบอุ่นรวมทั้งใจเต้นรัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “ตอนนี้คงตามไม่ทันแล้วล่ะ” ยูริยิ้ม
เคโตะยิ้มตอบ “ว่าแต่เราจะไปไหนต่อล่ะ”
“หมายความว่าไงไปแล้ว!” เรียวสุเกะถามคนที่ทำเวรอยู่ในห้องเสียงดัง “ไปกับใคร!!”
เรียวสุเกะเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกมาหน้าโรงเรียน กระแทกประตูปิดเสียงดังเมื่อเข้ามาในรถ
ยูโตะไม่ได้ตกใจอะไรมากนักเพราะเขาเห็นเรียวสุเกะโมโหอยู่บ่อยๆ ถ้าไม่ได้กินสตรอเบอร์รี่ของโปรด แต่คราวนี้เรียวสุเกะโมโหเรื่องอะไรนะ
“กลับบ้าน!” เรียวสุเกะสั่งเสียงดัง ยูโตะขับรถไปทันทีโดยไม่ต้องรอให้เรียวสุเกะสั่งซ้ำ
ในรถ
เรียวสุเกะหลับตาไปตลอดทางเพื่อสกัดกั้นความโกรธและวุ่นวายใจที่เกิดขึ้น เคโตะไปกับยูริ ประโยคนี้มันทำให้เขาแทบจะเป็นบ้า เคโตะกล้าทำกับเขาแบบนี้ได้ยังไง “ยูโตะหยุดรถ” ยูโตะรีบจอดรถข้างทางทันที “กลับรถ ฉันจะไปตามหาเคโตะ”
แต่คราวนี้ยูโตะหันกลับมามองเรียวสุเกะอย่างแปลกใจ “อะไรนะครับ”
เรียวสุกะจ้องเขม็ง “ไม่ได้ยินที่สั่งหรือไง ฉันบอกให้กลับรถ!”
ยูโตะทำอะไรไม่ได้นอกจากทำตามที่เรียวสุเกะสั่ง วันนี้คุณหนูเขาโมโหเพราะเจ้านั่นอีกแล้วหรือนี่ ยูโตะใจหล่นวูบ ผมต้องพาคุณหนูออกจากบ่วงเจ้าโอคาโมโตะให้ได้!
ยูริพาเคโตะไปสวนสาธารณะแล้วนั่งลงตรงม้านั่งใต้ต้นไม้แห่งหนึ่ง “เดี๋ยวยูยะก็มา”
ซักพักรถคันหนึ่งก็วิ่งมาจอดที่ตรงหน้าทั้งคู่ ชายร่างใหญ่(อ้วน // อ๊าก!! โดนพี่ยะถีบ)ถือกล่องปิกนิกลงมาแล้วเดินมาหาทั้งคู่ “ไอศกรีมหวานเย็นพร้อมแล้วครับคุณหนู” ยูยะวางกล่องนั่นลงแล้วเปิดกล่องก่อนจะหยิบถ้วนไอศครีมมาให้ทั้งคู่ เขาลุกขึ้นยืน “ผมจะรอคุณหนูอยู่แถวๆ นี้นะครับ”
ยูริยิ้ม “ขอบคุณมาก”
“อร่อยมั้ย” ยูริถามพลางตักไอศกรีมช็อกโกแลตเข้าปาก “ฉันว่านายคงได้กินสตรอเบอร์รี่จนเอียนเลยล่ะ เปลี่ยนบรรยากาศซักหน่อยนะ”
เคโตะชิมไอศกรีมช็อกโกแลตของเขา เขาหันมายิ้มให้ยูริ “อร่อยสิ” ยูริมองหน้าเคโตะแล้วหัวเราะเบาๆ เคโตะเงยหน้าขึ้นมอง “อะไรเหรอ?”
ยูริหัวเราะออกมาอย่างสุดจะกลั้นก่อนจะหยิบทิชชู่ออกมาแล้วเช็ดปากที่เปื้อนไอศครีมให้คนตัวสูง “กินอย่างกับเด็กๆ” เขาหัวเราะคิกคัก
เคโตะหน้าแดง แล้วก้มหน้ากินไอศกรีมของตัวเองต่อไปโดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์ทุกอย่างถูกจับตามองโดยใครบางคนมาโดยตลอด
เรียวสุเกะยืนมองคนทั้งคู่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่เคโตะอยู่นัก เขาแค่เห็นรถคันหนึ่งที่จำได้ว่าเป็นรถของบ้านจิเน็นก็เลยให้ยูโตะขับตามมา แต่ไม่คิดเลยว่ารถนั่นจะทำให้เขาต้องมาเจอภาพบาดตาแบบนี้ หัวใจดวงน้อยเจ็บจี๊ดขึ้นมา ดวงตาแดงก่ำด้วยไม่รู้ว่าโกรธหรือกำลังจะร้องไห้กันแน่ เรียวสุเกะหันหลังจากภาพนั่น “กลับกันเถอะ”
“ฉันอยากอยู่คนเดียวห้ามรบกวนนะ” เรียวสุเกะบอกยูโตะก่อนจะปิดประตูลง ยูโตะรู้สึกเป็นห่วงคุณหนูของเขาขึ้นมา กับสิ่งที่เขาและยูริทำมันถูกต้องหรือเปล่า
เรียวสุเกะเดินมานั่งที่เตียงอย่างคนหมดแรง บังคับตัวเองไม่ให้ร้องไห้กับภาพที่เห็น ไม่! เขาจะไม่มีวันร้องไห้เพราะผู้ชายคนนี้เด็ดขาด! แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยเลย น้ำตาหยดลงมาอาบแก้มใสๆ ของเขา ลมหายใจขาดช่วงเพราะความพยายามที่จะกลั้นน้ำตาที่ดูเหมือนจะไหลไม่ยอมหยุด เคโตะทำแบบนี้กับเขาได้ยังไง
หกโมงเย็น เคโตะมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง ตอนนี้เขายืนอยู่หน้าคฤหาสน์หลังงามของเรียวสุเกะ เรียวสุเกะจะว่ายังไงนะที่เขากลับมาช้า เขาจะตอบว่ายังไงดีถ้าเรียวสุเกะถามว่าเขาหายไปไหนมา
ยูโตะตรงดิ่งเข้ามากระชากคอเสื้อของเขาไว้ “คุณทำแบบนี้กับคุณหนูได้ยังไง” เคโตะงงกับสิ่งที่ยูโตะทำ มือที่เกาะแน่นขึ้นทำให้เขาเริ่มหายใจไม่ออก “ผมถามว่าคุณทำแบบนี้ได้ยังไง!” เคโตะเริ่มไอเพราะมือที่รัดแน่นเกินไป ยูโตะปล่อยคอเสื้อแต่กลับต่อยเคโตะจนล้มลง “ผมบอกแล้วใช่ไหมถ้าคุณทำให้คุณหนูร้องไห้ผมไม่ปล่อยคุณไว้แน่!” เขาตรงเข้ามากระชากเคโตะอีกครั้งแล้วซัดหมัดขวาเข้าไป เคโตะรู้สึกเจ็บร้าวตรงกรามข้างซ้าย ในขณะที่ยูโตะเตรียมจะซัดอีกหมัดเข้าไปนั้นบอดิการ์ดคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาห้ามยูโตะไว้
“คุณนากาจิม่าครับ คุณหนูต้องการพบคุณ รวมทั้ง...” เขาหันไปทางเคโตะที่ตอนนี้มีเลือดไหลซิบๆ ตรงมุมปาก “คุณโอคาโมโตะด้วยครับ”
ยูโตะปล่อยมือ เขาลุกขึ้นยืนแล้วมองเคโตะที่ไอคอกแค่ก “ฝากไว้ก่อนแล้วกัน” เขาพูดอย่างอาฆาตแล้วเดินไป
บอดิการ์ดคนนั้นเข้ามาประคองเคโตะ “ผมไม่เคยเห็นคุณนากาจิม่าโกรธขนาดนี้มาก่อนเลย คุณระวังตัวหน่อยแล้วกันนะครับ” เขาพูดอย่างเป็นห่วง
เคโตะพยักหน้าแล้วยิ้มน้อยๆ ให้ ก่อนจะเดินตามหลังยูโตะไป
เรียวสุเกะนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างใจลอยแต่ทันใดเขาก็เห็นเคโตะมายืนอยู่หน้าคฤหาสน์ หัวใจพองโตด้วยความดีใจ แต่ภาพที่เห็นจากนั้นคือยูโตะวิ่งเข้าไปชกเคโตะ เรียวสุเกะตกใจ “ใครอยู่ข้างนอกเข้ามาหน่อย!” บอดิการ์ดวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ไปตามยูโตะกับเคโตะมาพบฉันด่วนที่สุด” บอดิการ์ดวิ่งออกไปทันที เรียวสุเกะมองลงไปข้างล่างอีกครั้ง “พอแล้วยูโตะ”
ตอนนี้ทั้งสองหนุ่มยืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ทั้งยูโตะและเคโตะ เรียวสุเกะมองหน้าสองคนสลับกันไปมา เขาหันไปยิ้มให้ยูโตะ “ขอบใจมากยูโตะ นายไปได้” แม้จะงงกับสิ่งที่เรียวสุเกะพูด เรียกเขามาเพื่อจะไล่กลับแค่นี้น่ะเหรอ แต่ยูโตะก็ยอมออกไปแต่โดยดีโดยไม่ลืมที่จะปิดประตู เรียวสุเกะหันมามองเคโตะ “หน้าไปโดนอะไรมา”
เคโตะมองหน้าคนตัวเล็ก สังเกตเห็นตาที่บวมแดงอย่าบอกนะว่าเรียวสุเกะเพิ่งจะร้องไห้ไปน่ะ “ก็แค่... หกล้มน่ะ” เขาโกหก
“อย่ามาโกหกฉัน จิเน็นไม่บอกหรือไงว่านายโกหกไม่เก่ง!” เรียวสุเกะพูดเสียงดัง ในใจรู้สึกปวดร้าวขึ้นมาเฉยๆโดยที่เขาเองก็ห้ามไม่ได้ “หกล้มอะไรจะเป็นรอยหมัดขนาดนี้” เขาเข้าไปดึงเคโตะให้นั่งลงแล้วหยิบเครื่องปฐมพยาบาลที่เตรียมไว้มาทำแผลให้เคโตะอย่างเบามือ
เคโตะมองเรียวสุเกะอย่างอึ้งๆ ไม่คิดว่าคนอย่างคุณหนูอย่างเรียวสุเกะจะทำเป็นด้วย
“ฉันเคยทำแผลให้แฟนเก่าฉัน แต่มันก็นานมาแล้วล่ะ” เคโตะสังเกตว่าแววตาของเรียวสุเกะดูเศร้ากว่าปกติ “แต่ตอนนี้เขาแต่งงานไปแล้ว” เรียวสุเกะพูดอย่างขมขื่น เหตุการณ์วันนี้ทำให้เขานึกถึงเรื่องในอดีตอีกครั้ง
--------------------------------------------------
สองปีก่อน
“ไดจังทำไมซุ่มซ่ามแบบนี้ล่ะครับ” เรียวสุเกะบ่นพลางทำแผลที่ไดกิขี่รถจักรยานล้ม
“ก็ใครจะไปเห็นล่ะว่าจะมีแมวมาวิ่งขวางรถแบบนี้น่ะ โอ๊ย!!”
เรียวสุเกะตกใจ “ขอโทษครับ ต่อไปผมจะระวังกว่านี้นะไดจัง” เรียวสุเกะก้มหน้าทำแผลต่อไป “เสร็จแล้วครับ” เรียวสุเกะยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
ไดกิมองแผลของตัวเองที่ถูกผ้าพันแผลปิดไว้อย่างเรียบร้อย เขาหันหน้าไปยิ้มให้เรียวสุเกะ “ขอบคุณนะ นายนี่น่ารักที่สุดเลย”
เรียวสุเกะหน้าแดง “ก็ผมรักไดจังนี่นา”
--------------------------------------------------
“เสร็จแล้ว” เรียวสุเกะพูดหลังจากที่ปิดพลาสเตอร์ให้เคโตะเสร็จ
เคโตะลูบหน้าที่ยังปวดตุบๆ อยู่ “ขอบคุณนะ” เขาซี๊ดปากเมื่อพยายามจะยิ้ม ดูเหมือนหมัดนั่นจะหนักน่าดู
“นายไปพักผ่อนที่ห้องเถอะ วันนี้คงเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” เรียวสุเกะว่าพลางเก็บอุปกรณ์ทำแผลให้เข้าที่
เคโตะลุกขึ้น เขาอยากจะขอบคุณและออกจะแปลกใจซักหน่อยที่เรียวสุเกะไม่โวยวายใส่เขา “ไปนะ” เขาพูดแค่นั้นแล้วเดินออกไป
ประตูปิดลงพร้อมน้ำตาที่กลั้นอยู่หยดแหมะลงมา เรียวสุเกะทรุดนั่งลงบนเตียง ตอนนี้จิตใจเขาว้าวุ่นไปหมด “ทำไมต้องเป็นนายด้วยเคโตะ” เขาซุกหน้าลงร้องไห้
เคโตะเดินเข้ามาในห้องแล้วปิดประตูลง วันนี้เขารู้สึกเหนื่อยจริงๆ เขานั่งลงบนโซฟา แววตาเศร้าสร้อยของเรียวสุเกะยังติดตาเขาอยู่ วันนี้เรียวสุเกะแปลกไปกว่าทุกวัน ใครกันนะแฟนเก่าของเรียวสุเกะ
ความคิดเห็น