ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic [HSJ-OkaYama] คุณหนูสตรอว์เบอร์รี่ (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 8

    • อัปเดตล่าสุด 16 มี.ค. 55


    ตอนที่ 8

    ในเช้าวันจันทร์ที่อากาศสดใส  แต่อารมณ์ของคนตัวสูงไม่ได้สดใสไปด้วยเลย  เคโตะนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างใจลอย

    ยูริสังเกตเพื่อนชายของเขานานแล้ว  เคโตะที่ปกติจะร่าเริงแต่วันนี้กลับดูเหม่อพิกล  “เคโตะ”  เคโตะสะดุ้งหันมาทางคนตัวเล็ก  ยูรินั่งลงข้างๆ ร่างสูง  “เป็นอะไรไป  ดูสบายใจเลยนะ”  เขาถามอย่างเป็นห่วง

    เคโตะถอนหายใจ  “เปล่าหรอก”

    ยูริยิ้ม  “ถ้าจะโกหกก็ให้มันแนบเนียนหน่อยสิ”  เขาตบไหล่เพื่อนชายเบาๆ  “มีอะไรก็เล่าให้ฟังได้นะ  อย่าเก็บไว้คนเดียวแบบนี้สิเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ”

    เขายิ้มให้ยูริ  “ขอบคุณนะ  แต่ไม่เป็นไรหรอก”  เคโตะไม่อยากเล่าเรื่องข้อตกลงกับเรียวสุเกะให้ยูริฟังหรอก  เขารู้ว่ายูริห่วงเขาแค่ไหนแค่นี้เขาก็รู้สึกผิดจะแย่อยู่แล้ว  แล้วถ้าไดกิรู้อีก  เฮ้อ~  ไดกิกับเคยิ่งไม่ค่อยลงรอยกันอยู่  แต่ถ้าจะให้ถูกคือพี่เขาต่างหากที่เป็นคนไม่ลงรอยกับสามีเอง  ทางที่ดีอย่าให้สองคนนั้นรู้ดีกว่า

    ยูริยิ้มอย่างเข้าใจ  “ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร  เย็นนี้ว่างมั้ยไปกินไอติมแก้กลุ้มดีกว่า” 

    เคโตะตกลงแทบจะในทันที  เขาแค่อยากได้ที่สงบๆ ซักพักเพื่อคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา  ทั้งเรื่องข้อตกลงนั่นรวมทั้ง.... เรื่องที่ความรู้สึกของเขาเริ่มจะแปลกๆ ไปซะแล้ว  ทั้งวันเขาแทบจะนั่งไม่ติดด้วยอยากให้ถึงเวลาเลิกเรียนเร็วๆ  หวังแค่ว่าเรียวสุเกะจะไม่มาตามเขาที่ห้องอีกนะ  ความรู้สึกว้าวุ่นใจตอนนี้ทำให้เขายังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับเรียวสุเกะเลย

     

    เสียงออดดังบอกเวลาเลิกเรียน  เคโตะรีบเก็บของของตัวเองอย่างรวดเร็ว  เขาจับมือยูริไว้พลางด้อมๆ มองๆ ที่หน้าห้องก่อนจะรีบแจ้นออกไปทันที  เคโตะพายูริวิ่งออกจากโรงเรียนอย่างรวดเร็ว

    วิ่งมาได้ซักพักหนึ่ง  “เดี๋ยว!  เดี๋ยว!  เดี๋ยวก่อนเคโตะ”  ยูริเรียกพลางหอบ  เคโตะหยุดวิ่งแล้วหันมาทางร่างเล็ก

    “ขอโทษจริงๆนะ  ฉันแค่กลัวว่าเรียวสุเกะจะตามเรามาทันน่ะ”  เขายิ้มตาหยี

    เรา  ยูริยิ้มกับคำสรรพนามที่เคโตะพูด  เขาสูดหายใจเข้าลึกเพื่ออัดออกซิเจนเข้าปอดหลังจากที่วิ่งมาไกล  มือที่กุมเขาไว้ตลอดทางทำให้ยูริรู้สึกอบอุ่นรวมทั้งใจเต้นรัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน  “ตอนนี้คงตามไม่ทันแล้วล่ะ”  ยูริยิ้ม

    เคโตะยิ้มตอบ  “ว่าแต่เราจะไปไหนต่อล่ะ”

     

     

    “หมายความว่าไงไปแล้ว!  เรียวสุเกะถามคนที่ทำเวรอยู่ในห้องเสียงดัง  “ไปกับใคร!!

     

    เรียวสุเกะเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกมาหน้าโรงเรียน  กระแทกประตูปิดเสียงดังเมื่อเข้ามาในรถ

    ยูโตะไม่ได้ตกใจอะไรมากนักเพราะเขาเห็นเรียวสุเกะโมโหอยู่บ่อยๆ ถ้าไม่ได้กินสตรอเบอร์รี่ของโปรด  แต่คราวนี้เรียวสุเกะโมโหเรื่องอะไรนะ

    “กลับบ้าน!  เรียวสุเกะสั่งเสียงดัง  ยูโตะขับรถไปทันทีโดยไม่ต้องรอให้เรียวสุเกะสั่งซ้ำ

     

    ในรถ

    เรียวสุเกะหลับตาไปตลอดทางเพื่อสกัดกั้นความโกรธและวุ่นวายใจที่เกิดขึ้น  เคโตะไปกับยูริ  ประโยคนี้มันทำให้เขาแทบจะเป็นบ้า  เคโตะกล้าทำกับเขาแบบนี้ได้ยังไง  “ยูโตะหยุดรถ”  ยูโตะรีบจอดรถข้างทางทันที  “กลับรถ  ฉันจะไปตามหาเคโตะ”

    แต่คราวนี้ยูโตะหันกลับมามองเรียวสุเกะอย่างแปลกใจ  “อะไรนะครับ”

    เรียวสุกะจ้องเขม็ง  “ไม่ได้ยินที่สั่งหรือไง  ฉันบอกให้กลับรถ!

    ยูโตะทำอะไรไม่ได้นอกจากทำตามที่เรียวสุเกะสั่ง  วันนี้คุณหนูเขาโมโหเพราะเจ้านั่นอีกแล้วหรือนี่  ยูโตะใจหล่นวูบ  ผมต้องพาคุณหนูออกจากบ่วงเจ้าโอคาโมโตะให้ได้!

     

    ยูริพาเคโตะไปสวนสาธารณะแล้วนั่งลงตรงม้านั่งใต้ต้นไม้แห่งหนึ่ง  “เดี๋ยวยูยะก็มา”

    ซักพักรถคันหนึ่งก็วิ่งมาจอดที่ตรงหน้าทั้งคู่  ชายร่างใหญ่(อ้วน // อ๊าก!! โดนพี่ยะถีบ)ถือกล่องปิกนิกลงมาแล้วเดินมาหาทั้งคู่  “ไอศกรีมหวานเย็นพร้อมแล้วครับคุณหนู”  ยูยะวางกล่องนั่นลงแล้วเปิดกล่องก่อนจะหยิบถ้วนไอศครีมมาให้ทั้งคู่  เขาลุกขึ้นยืน  “ผมจะรอคุณหนูอยู่แถวๆ นี้นะครับ”

    ยูริยิ้ม  “ขอบคุณมาก”

     

    “อร่อยมั้ย”  ยูริถามพลางตักไอศกรีมช็อกโกแลตเข้าปาก  “ฉันว่านายคงได้กินสตรอเบอร์รี่จนเอียนเลยล่ะ  เปลี่ยนบรรยากาศซักหน่อยนะ”

    เคโตะชิมไอศกรีมช็อกโกแลตของเขา  เขาหันมายิ้มให้ยูริ  “อร่อยสิ”  ยูริมองหน้าเคโตะแล้วหัวเราะเบาๆ  เคโตะเงยหน้าขึ้นมอง  “อะไรเหรอ?”

    ยูริหัวเราะออกมาอย่างสุดจะกลั้นก่อนจะหยิบทิชชู่ออกมาแล้วเช็ดปากที่เปื้อนไอศครีมให้คนตัวสูง  “กินอย่างกับเด็กๆ”  เขาหัวเราะคิกคัก

    เคโตะหน้าแดง  แล้วก้มหน้ากินไอศกรีมของตัวเองต่อไปโดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์ทุกอย่างถูกจับตามองโดยใครบางคนมาโดยตลอด

     

    เรียวสุเกะยืนมองคนทั้งคู่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่เคโตะอยู่นัก  เขาแค่เห็นรถคันหนึ่งที่จำได้ว่าเป็นรถของบ้านจิเน็นก็เลยให้ยูโตะขับตามมา  แต่ไม่คิดเลยว่ารถนั่นจะทำให้เขาต้องมาเจอภาพบาดตาแบบนี้  หัวใจดวงน้อยเจ็บจี๊ดขึ้นมา  ดวงตาแดงก่ำด้วยไม่รู้ว่าโกรธหรือกำลังจะร้องไห้กันแน่  เรียวสุเกะหันหลังจากภาพนั่น  “กลับกันเถอะ”

     

    “ฉันอยากอยู่คนเดียวห้ามรบกวนนะ”  เรียวสุเกะบอกยูโตะก่อนจะปิดประตูลง  ยูโตะรู้สึกเป็นห่วงคุณหนูของเขาขึ้นมา  กับสิ่งที่เขาและยูริทำมันถูกต้องหรือเปล่า

    เรียวสุเกะเดินมานั่งที่เตียงอย่างคนหมดแรง  บังคับตัวเองไม่ให้ร้องไห้กับภาพที่เห็น  ไม่!  เขาจะไม่มีวันร้องไห้เพราะผู้ชายคนนี้เด็ดขาด!  แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยเลย  น้ำตาหยดลงมาอาบแก้มใสๆ ของเขา  ลมหายใจขาดช่วงเพราะความพยายามที่จะกลั้นน้ำตาที่ดูเหมือนจะไหลไม่ยอมหยุด  เคโตะทำแบบนี้กับเขาได้ยังไง

     

    หกโมงเย็น  เคโตะมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง  ตอนนี้เขายืนอยู่หน้าคฤหาสน์หลังงามของเรียวสุเกะ  เรียวสุเกะจะว่ายังไงนะที่เขากลับมาช้า  เขาจะตอบว่ายังไงดีถ้าเรียวสุเกะถามว่าเขาหายไปไหนมา

    ยูโตะตรงดิ่งเข้ามากระชากคอเสื้อของเขาไว้  “คุณทำแบบนี้กับคุณหนูได้ยังไง”  เคโตะงงกับสิ่งที่ยูโตะทำ  มือที่เกาะแน่นขึ้นทำให้เขาเริ่มหายใจไม่ออก  “ผมถามว่าคุณทำแบบนี้ได้ยังไง!  เคโตะเริ่มไอเพราะมือที่รัดแน่นเกินไป  ยูโตะปล่อยคอเสื้อแต่กลับต่อยเคโตะจนล้มลง  “ผมบอกแล้วใช่ไหมถ้าคุณทำให้คุณหนูร้องไห้ผมไม่ปล่อยคุณไว้แน่!  เขาตรงเข้ามากระชากเคโตะอีกครั้งแล้วซัดหมัดขวาเข้าไป  เคโตะรู้สึกเจ็บร้าวตรงกรามข้างซ้าย  ในขณะที่ยูโตะเตรียมจะซัดอีกหมัดเข้าไปนั้นบอดิการ์ดคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาห้ามยูโตะไว้

    “คุณนากาจิม่าครับ  คุณหนูต้องการพบคุณ  รวมทั้ง...”  เขาหันไปทางเคโตะที่ตอนนี้มีเลือดไหลซิบๆ ตรงมุมปาก  “คุณโอคาโมโตะด้วยครับ”

    ยูโตะปล่อยมือ  เขาลุกขึ้นยืนแล้วมองเคโตะที่ไอคอกแค่ก  “ฝากไว้ก่อนแล้วกัน”  เขาพูดอย่างอาฆาตแล้วเดินไป

    บอดิการ์ดคนนั้นเข้ามาประคองเคโตะ  “ผมไม่เคยเห็นคุณนากาจิม่าโกรธขนาดนี้มาก่อนเลย  คุณระวังตัวหน่อยแล้วกันนะครับ”  เขาพูดอย่างเป็นห่วง

    เคโตะพยักหน้าแล้วยิ้มน้อยๆ ให้  ก่อนจะเดินตามหลังยูโตะไป

     

    เรียวสุเกะนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างใจลอยแต่ทันใดเขาก็เห็นเคโตะมายืนอยู่หน้าคฤหาสน์  หัวใจพองโตด้วยความดีใจ  แต่ภาพที่เห็นจากนั้นคือยูโตะวิ่งเข้าไปชกเคโตะ  เรียวสุเกะตกใจ  “ใครอยู่ข้างนอกเข้ามาหน่อย!  บอดิการ์ดวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว  “ไปตามยูโตะกับเคโตะมาพบฉันด่วนที่สุด”  บอดิการ์ดวิ่งออกไปทันที  เรียวสุเกะมองลงไปข้างล่างอีกครั้ง  “พอแล้วยูโตะ”

     

    ตอนนี้ทั้งสองหนุ่มยืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว  ทั้งยูโตะและเคโตะ  เรียวสุเกะมองหน้าสองคนสลับกันไปมา  เขาหันไปยิ้มให้ยูโตะ  “ขอบใจมากยูโตะ  นายไปได้”  แม้จะงงกับสิ่งที่เรียวสุเกะพูด  เรียกเขามาเพื่อจะไล่กลับแค่นี้น่ะเหรอ  แต่ยูโตะก็ยอมออกไปแต่โดยดีโดยไม่ลืมที่จะปิดประตู  เรียวสุเกะหันมามองเคโตะ  “หน้าไปโดนอะไรมา”

    เคโตะมองหน้าคนตัวเล็ก  สังเกตเห็นตาที่บวมแดงอย่าบอกนะว่าเรียวสุเกะเพิ่งจะร้องไห้ไปน่ะ  “ก็แค่...  หกล้มน่ะ”  เขาโกหก

    “อย่ามาโกหกฉัน  จิเน็นไม่บอกหรือไงว่านายโกหกไม่เก่ง!  เรียวสุเกะพูดเสียงดัง  ในใจรู้สึกปวดร้าวขึ้นมาเฉยๆโดยที่เขาเองก็ห้ามไม่ได้  “หกล้มอะไรจะเป็นรอยหมัดขนาดนี้”  เขาเข้าไปดึงเคโตะให้นั่งลงแล้วหยิบเครื่องปฐมพยาบาลที่เตรียมไว้มาทำแผลให้เคโตะอย่างเบามือ

    เคโตะมองเรียวสุเกะอย่างอึ้งๆ  ไม่คิดว่าคนอย่างคุณหนูอย่างเรียวสุเกะจะทำเป็นด้วย

    “ฉันเคยทำแผลให้แฟนเก่าฉัน  แต่มันก็นานมาแล้วล่ะ”  เคโตะสังเกตว่าแววตาของเรียวสุเกะดูเศร้ากว่าปกติ  “แต่ตอนนี้เขาแต่งงานไปแล้ว”  เรียวสุเกะพูดอย่างขมขื่น  เหตุการณ์วันนี้ทำให้เขานึกถึงเรื่องในอดีตอีกครั้ง

     

    --------------------------------------------------

    สองปีก่อน

    “ไดจังทำไมซุ่มซ่ามแบบนี้ล่ะครับ”  เรียวสุเกะบ่นพลางทำแผลที่ไดกิขี่รถจักรยานล้ม

    “ก็ใครจะไปเห็นล่ะว่าจะมีแมวมาวิ่งขวางรถแบบนี้น่ะ  โอ๊ย!!

    เรียวสุเกะตกใจ  “ขอโทษครับ  ต่อไปผมจะระวังกว่านี้นะไดจัง”  เรียวสุเกะก้มหน้าทำแผลต่อไป  “เสร็จแล้วครับ”  เรียวสุเกะยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

    ไดกิมองแผลของตัวเองที่ถูกผ้าพันแผลปิดไว้อย่างเรียบร้อย  เขาหันหน้าไปยิ้มให้เรียวสุเกะ  “ขอบคุณนะ  นายนี่น่ารักที่สุดเลย”

    เรียวสุเกะหน้าแดง  “ก็ผมรักไดจังนี่นา”

    --------------------------------------------------

     

    “เสร็จแล้ว”  เรียวสุเกะพูดหลังจากที่ปิดพลาสเตอร์ให้เคโตะเสร็จ

    เคโตะลูบหน้าที่ยังปวดตุบๆ อยู่  “ขอบคุณนะ”  เขาซี๊ดปากเมื่อพยายามจะยิ้ม  ดูเหมือนหมัดนั่นจะหนักน่าดู

    “นายไปพักผ่อนที่ห้องเถอะ  วันนี้คงเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”  เรียวสุเกะว่าพลางเก็บอุปกรณ์ทำแผลให้เข้าที่

    เคโตะลุกขึ้น  เขาอยากจะขอบคุณและออกจะแปลกใจซักหน่อยที่เรียวสุเกะไม่โวยวายใส่เขา  “ไปนะ”  เขาพูดแค่นั้นแล้วเดินออกไป

    ประตูปิดลงพร้อมน้ำตาที่กลั้นอยู่หยดแหมะลงมา  เรียวสุเกะทรุดนั่งลงบนเตียง  ตอนนี้จิตใจเขาว้าวุ่นไปหมด  “ทำไมต้องเป็นนายด้วยเคโตะ”  เขาซุกหน้าลงร้องไห้

     

    เคโตะเดินเข้ามาในห้องแล้วปิดประตูลง  วันนี้เขารู้สึกเหนื่อยจริงๆ  เขานั่งลงบนโซฟา  แววตาเศร้าสร้อยของเรียวสุเกะยังติดตาเขาอยู่  วันนี้เรียวสุเกะแปลกไปกว่าทุกวัน  ใครกันนะแฟนเก่าของเรียวสุเกะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×