ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 สัญญาณความตาย
ร่างนั้นยังมีชีวิต เพียงแต่ดูน่ากลัวตรงที่มีเลือดอาบไปทั่วทั้งตัว
ร่างกายอ่อนระโหยโรยแรง  นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น
“เธอเป็น..อะ อะไรไหม”  เรจิน่าเอ่ยเสียงในลำคอ ยืนมองเด็กชายตัวอาบเลือดด้วยขาที่สั่นรัว
แต่เด็กชายไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ  ยังคงนอนนิ่ง
ทั้งเรจิน่าและโนอาร์ต่างสบตากันด้วยนัยน์ตาที่ไร้ความหมายใด  จนกระทั่งเรจิน่าตัดสินใจรวบรวมความกล้าที่มีอยู่น้อยนิด
ก้าวเข้าไปใกล้ร่างนั้น
“เอ่อ เธอเป็นอะไรเหรอ”  สิ้นประโยคนั้น เรจิน่าต้องกรีดร้องออกมาแทบจะทันที เมื่อเด็กชายตัวอาบเลือดลุกขึ้น
โวยวายกระวีกระวาดไปทั่ว
“ไม่!!  ไม่!!  อย่าฆ่าฉัน!!  ฉันกลัวแล้ว!!!!!”    เด็กชายวิ่งพล่านเหมือนคนเสียสติ เลือดที่อาบสองข้างแก้มกระเซ็นหยดลงตามพื้น
ขณะที่เขาวิ่งไปมาอย่างร้อนรน
“เราไม่ฆ่าเธอหรอกนะ”  เรจิน่าปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่สุดเท่าที่เธอจะฝืนใจตัวเองให้พูดออกมาได้
“ไม่!!  แกหลอกฉัน!!!  แกหลอกฉันแน่ๆ!!!  แกจะฆ่าฉัน!!!  ฉันรู้ว่าแกมีแผนชั่ว!!!  ไอ้คนเลว!!!” 
เด็กชายยังคงวิ่งหลบหนีโดยไม่สนใจฟังคำพูดของเรจิน่าเลยแม้แต่นิด
“หยุดก่อนได้ไม๊!!!  เราอาจช่วยเหลือเธอได้!!!”
“ไม่!!!  ฉันไม่เชื่อพวกแก!!!!  ไม่เชื่อใครทั้งนั้น!!!”  เสียงเริ่มอึกทึกมากยิ่งขึ้น
“ฉันบอกให้เธอฟังก่อนไงเล่า!!” เรจิน่าพยายามอธิบายและควบคุมอารมณ์ แต่สายไปหน่อยที่หมัดของโนอาร์ปะทะเข้า
อย่างจังกับคางของเด็กชายคนนั้นอย่างรวดเร็ว .เด็กชายล้มตึงลงกับพื้น
“อูยยย พวกแกจะฆ่าฉัน!!! จะฆ่าฉันแน่ๆ!!!” เด็กชายยังไม่เลิกโวยวาย
“อยากโดนอีกหมัดใช่ไหม”  โนอาร์ขู่  แต่กำปั้นเตรียมพร้อมแล้ว
“ไม่”  เด็กชายดูสงบลงเมื่อถูกขู่
“โอเค ฟังนะ พวกเราไม่ได้เป็นคนร้าย เราจะช่วยเหลือเธอ  แต่เธอต้องตั้งสติก่อน”  เรจิน่าวางลำดับขั้นตอน
เด็กชายมองเรจิน่าทีหนึ่งและมองโนอาร์ทีหนึ่ง เมื่อเห็นว่าเป็นเด็กเหมือนกัน ไม่น่ามีอันตรายจึงเริ่มพูด    “ก็ได้”
“เธอชื่ออะไร”  เรจิน่าถาม
“มะ มาร์คัส”  เด็กชายอ้ำอึ้ง
“โอเค มาร์คัส แล้ว ทำไมเธอต้องไปหลบอยู่ในตู้”
“เพราะว่ามันจะมาฆ่าฉัน” มาร์คัสพูดด้วยสีหน้าหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด
“มันไหน?”  โนอาร์ถาม
“ฉันไม่รู้จักมัน มัน มันจะมาฆ่าฉัน!!”  มาร์คัสร้องไห้
“ทำไมมันถึงจะมาฆ่าเธอล่ะ”  เรจิน่าถามอย่างฉงนสงสัย 
“ฉันไม่รู้!!”  มาร์คัสตะคอก
“ไม่เป็นไร แล้วเลือดนี่คืออะไร”  เรจิน่าถามอีก
“เลือด - - ละ เลือด นี่ปะ เป็นเลือดของพ่อแม่ฉัน มันฆะ มันฆ่าพ่อแม่ฉัน!!!”  มาร์คัสร้องไห้หนักเข้าไปอีก
“มีการตายด้วยเหรอ!  นี่คงไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้วล่ะเรจิน่า  เราควรจะบอกผู้ใหญ่นะ”  โนอาร์มีอาการวิตกกังวล
“จริงด้วย!  มันบอกว่ามันจะ - - มันจะมาฆ่าทุกคนที่โรงแรมนี้ให้เกลี้ยง รวมทั้งฉันด้วย  มันกำลังตามล่าฉัน!!”
มาร์คัสเริ่มควบคุมสติไม่อยู่ น้ำตาและน้ำมูกไหลอาบหน้าผสมกับเลือดสีแดงทำให้ดูเหมือนซอสมะเขือเทศที่ทำจาก
มะเขือเทศลูกกลมโตสด
“โอเค ถ้านี่เป็นความจริง เราต้องบอกพ่อกับแม่และทุกๆคนโดยด่วน ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น”  เรจิน่าว่า
“อืม เธอบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า  มาร์คัส?”
“ไม่เท่าไหร่น่ะ”  มาร์คัสชี้ให้ดูรอยถลอกที่ท่อนขาซึ่งได้มาจากการหลบหนี
“งั้น เรารีบไปบอกพ่อกับแม่เถอะ”      “ตกลง”     
    เด็กทั้งสามเดินลงจากชั้นดาดฟ้ามาทางบันไดหนีไฟ มุ่งหน้าไปที่ห้องของเรจิน่า ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะพยายามทำตัวให้ดูเป็นปกติ
ท่ามกลางสายตาทุกๆคนระหว่างทางที่เอาแต่จ้องมองร่างเปื้อนเลือดที่เดินอยู่ข้างๆเรจิน่ากับโนอาร์นั้น
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงหน้าห้องพักที่มีหมายเลข 270 ติดอยู่ที่บานประตู
“ก๊อก ๆ ๆ”  เรจิน่าเคาะประตู    แล้วบานประตูก็เปิดออก  แม่ของเธอออกมารับแขก แล้วก็ต้องร้องตกใจเสียงดังเมื่อเห็นภาพตรงหน้า 
จนเรจิน่าต้องปิดปากแม่ของเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจของคนอื่นๆข้างนอก
“มีอะไรกันเหรอ เอะอะโวยวายอะไรกัน”  พ่อรีบวิ่งออกมาที่หน้าประตูเมื่อเมื่อได้ยินเสียงแหลมๆของแม่
“พาพวกหนูเข้าไปข้างในก่อน  แล้วหนูจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังค่ะแม่”
เรจิน่ากล่าวจริงจัง  จากนั้นแม่ของเธอก็เงียบสงบลงได้แต่ยังไม่ยอมละสายตาไปจากร่างเปื้อนเลือดสีแดงสดตรงหน้าของมาร์คัส 
ทุกคนจึงเข้ามาในห้อง
“นี่มันเรื่องอะไร”    นายโรนัลด์เอ่ยถามอย่างไม่รีรอ  เรจิน่าไม่พูดอะไรจนกระทั่งทุกคนนั่งลงบนโซฟาหมดแล้ว
“เรจิน่า เด็กคนนี้เป็นใคร”  แม่ถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก
“เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากนะคะ หนูอยากให้พ่อกับแม่ฟังให้ดี เพราะเด็กคนนี้รู้เรื่องบางอย่าง”  เรจิน่าเกริ่นนำ
“เอาล่ะ เรื่องมันคืออะไร ว่ามาซิ”  นายโรนัลด์ถามด้วยใบหน้าที่นิ่งสงบ
เรจิน่าถอนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนจะเริ่มต้นเล่า  “โนอาร์กับหนูขึ้นไปดูดาวด้วยกันบนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมค่ะ
แล้วตอนที่จะกลับ หนูได้ยินเสียงแปลกๆดังมาจากห้องเก็บของ เราสองคนเข้าไปพบเด็กคนนี้อยู่ในตู้เก็บของ 
ในสภาพที่ตัวเปื้อนเลือดไปหมด”  เรจิน่าหยุดลงกะทันหัน  โนอาร์จึงอาสารับหน้าที่ต่อ
“ใช่ครับ! และสิ่งที่เราถามจากเขาก็คือ  เขาชื่อว่า มาร์คัส  เขามาที่นี่กับพ่อแม่”
“แล้วตอนนี้พ่อแม่เขาหายไปไหนซะล่ะ?”  นายโรนัลด์ถาม
“พ่อแม่ของเขาตายแล้วค่ะ!  ตาย ใช้คำว่าถูกฆ่าตายน่าจะเหมาะกว่า”
เรจิน่าโพล่งเสียงดัง
“โอ พระเจ้า!  เสียใจด้วยจริงๆนะจ๊ะ”  แม่เอ่ยอย่างเศร้าใจ
“ที่ต้องเสียใจด้วยตอนนี้ไม่ใช่แค่เขาหรอกค่ะแม่ เพราะตอนนี้ฆาตกรที่ว่านี้กำลังจะมาฆ่าทุกคนในโรงแรมรวมทั้งตัวมาร์คัสด้วย 
หนูถามเขาแล้วแต่เขาบอกว่าไม่รู้สาเหตุที่ต้องฆ่า ได้โปรดเชื่อเราด้วยเถอะค่ะ หนูไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องหลอกเด็ก
ธรรมดาๆหรอกนะคะ”    เรจิน่าว่า
“พ่อเชื่อลูกนะ ฉะนั้นพ่อจะไปบอกกับเจ้าของโรงแรมว่าให้ยกเลิกการประชุมนี้ซะ แล้วเราจะกลับบ้านกันทันทีในคืนนี้”
เรื่องดูเหมือนจะแก้ไขไปได้ด้วยดี แต่เจ้าของโรงแรมกลับดื้อดึงที่จะเชื่อเรื่องเหล่านั้น...
“นี่คุณจะบ้าเหรอ!!  เรายกเลิกการประชุมใหญ่ครั้งนี้ไม่ได้!!  คุณจะให้ฉันไล่แขกที่กำลังทานอาหารค่ำไปให้หมดเพียง
เพราะคำพูดเพ้อเจ้อของเด็กอายุสิบสามปีเนี่ยนะ” เจ้าของโรงแรมมีท่าทางฉุนเฉียว
“ก็ถ้าคุณอยากให้พวกเขาไม่ตายก่อนการประชุมนี่จะจบล่ะก็ใช่!” นายโรนัลด์ก็ไม่แพ้กัน
“ไม่มีทาง!!  ทำแบบนี้ชื่อเสียงโรงแรมของฉันก็พังย่อยยับน่ะสิ!!” เจ้าของโรงแรมขึ้นเสียงสูง
“และชื่อเสียงของโรงแรมคุณจะพังย่อยยับแน่ ถ้าทุกคนตายกันหมด!!”
แม่ของเรจิน่าวาดลวดลายฝีปากเป็นครั้งแรกอย่างดุเดือด  “ตกลงคุณจะทำตามที่เราบอกคุณไม๊!!”   
ทุกคนรอฟังคำตอบจากปากสีแดงมันขลับด้วยลิปสติกของเธออย่างใจจดใจจ่อ
และคำตอบก็เปล่งออกมาสั้นๆ  “ไม่”
“ก็ตามใจคุณ เพราะเราก็ไม่มีส่วนเดือดร้อนอะไรด้วย ไปเถอะเรจิน่า!  กลับบ้านกัน” 
นายโรนัลด์ไม่สนใจคำพูดของเจ้าของโรงแรมที่ไร้เหตุผลอีกต่อไป
“เอ่อ พ่อคะ เราพามาร์คัสไปด้วยได้ไหม?”  เรจิน่าวิงวอน
“ได้แน่นอน พ่อจะไม่ยอมให้เขาต้องตายหรอก”  สายตาเฉียบคมของพ่อจ้องเขม็งกับสายตาของเจ้าของโรงแรมที่ไม่กล้าสบตา
“ฉันไปตามพ่อกับแม่ก่อนดีกว่านะ”  โนอาร์บอกเรจิน่า
“โชคดีนะ!”  เรจิน่าอวยพร      “อืม เดี๋ยวฉันตามไป”
    เรจิน่าไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น  แต่เธอเองก็ไม่อยากจะให้มันดำเนินต่อไปในเส้นทางที่มันควรจะเป็น 
ดังนั้นเธอจึงต้องจำใจกลับบ้านทันที แม้ว่าเธอยังไม่หายตระการตากับการได้ชมทะเลสาบอาเชียน่า  ชมท้องฟ้ายามราตรี 
แต่ชีวิตของเธอย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
“พ่อจะไปเอารถมารับลูกที่นี่นะ...อาแมนด้า ฝากดูลูกด้วยนะ”  แม่พยักหน้ารับพร้อมกับกอดเรจิน่าไว้เพื่อเป็นการให้ขวัญกำลังใจ
เรจิน่ายืนมองพ่อของเธอเดินออกไปที่หน้าโรงแรมและควานหากุญแจรถในกระเป๋ากางเกงท่ามกลางม่านโปร่งของความมืด 
ขณะเดียวกันกับที่โนอาร์วิ่งหน้าตาตื่น เหงื่อชุ่มทั่วใบหน้ามาหาเธอ
“มะ มัน มันฆ่าทุกคนในห้องอาหารหมดแล้ว!  มันใส่ยาพิษในอาหาร!!”
ประโยคที่ได้ยินทำให้เรจิน่าสันหลังวาบขึ้นมา  เธอควบคุมสติไม่อยู่  พยายามหันไปมองรอบๆ
และแล้วเสียงที่น่ากลัวก็ดังสนั่นขึ้น .
“เปรี้ยง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
      เสียงนั้นก้องสะท้อน และเมื่อเสียงนั้นค่อยๆเลือนหายไป  ร่างอันไร้วิญญาณของพ่อเธอก็ค่อยๆหล่นตุ้บลงกับ
พื้นถนนข้างนอกนั้นเช่นกัน
NEXT>>>
ร่างกายอ่อนระโหยโรยแรง  นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น
“เธอเป็น..อะ อะไรไหม”  เรจิน่าเอ่ยเสียงในลำคอ ยืนมองเด็กชายตัวอาบเลือดด้วยขาที่สั่นรัว
แต่เด็กชายไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ  ยังคงนอนนิ่ง
ทั้งเรจิน่าและโนอาร์ต่างสบตากันด้วยนัยน์ตาที่ไร้ความหมายใด  จนกระทั่งเรจิน่าตัดสินใจรวบรวมความกล้าที่มีอยู่น้อยนิด
ก้าวเข้าไปใกล้ร่างนั้น
“เอ่อ เธอเป็นอะไรเหรอ”  สิ้นประโยคนั้น เรจิน่าต้องกรีดร้องออกมาแทบจะทันที เมื่อเด็กชายตัวอาบเลือดลุกขึ้น
โวยวายกระวีกระวาดไปทั่ว
“ไม่!!  ไม่!!  อย่าฆ่าฉัน!!  ฉันกลัวแล้ว!!!!!”    เด็กชายวิ่งพล่านเหมือนคนเสียสติ เลือดที่อาบสองข้างแก้มกระเซ็นหยดลงตามพื้น
ขณะที่เขาวิ่งไปมาอย่างร้อนรน
“เราไม่ฆ่าเธอหรอกนะ”  เรจิน่าปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่สุดเท่าที่เธอจะฝืนใจตัวเองให้พูดออกมาได้
“ไม่!!  แกหลอกฉัน!!!  แกหลอกฉันแน่ๆ!!!  แกจะฆ่าฉัน!!!  ฉันรู้ว่าแกมีแผนชั่ว!!!  ไอ้คนเลว!!!” 
เด็กชายยังคงวิ่งหลบหนีโดยไม่สนใจฟังคำพูดของเรจิน่าเลยแม้แต่นิด
“หยุดก่อนได้ไม๊!!!  เราอาจช่วยเหลือเธอได้!!!”
“ไม่!!!  ฉันไม่เชื่อพวกแก!!!!  ไม่เชื่อใครทั้งนั้น!!!”  เสียงเริ่มอึกทึกมากยิ่งขึ้น
“ฉันบอกให้เธอฟังก่อนไงเล่า!!” เรจิน่าพยายามอธิบายและควบคุมอารมณ์ แต่สายไปหน่อยที่หมัดของโนอาร์ปะทะเข้า
อย่างจังกับคางของเด็กชายคนนั้นอย่างรวดเร็ว .เด็กชายล้มตึงลงกับพื้น
“อูยยย พวกแกจะฆ่าฉัน!!! จะฆ่าฉันแน่ๆ!!!” เด็กชายยังไม่เลิกโวยวาย
“อยากโดนอีกหมัดใช่ไหม”  โนอาร์ขู่  แต่กำปั้นเตรียมพร้อมแล้ว
“ไม่”  เด็กชายดูสงบลงเมื่อถูกขู่
“โอเค ฟังนะ พวกเราไม่ได้เป็นคนร้าย เราจะช่วยเหลือเธอ  แต่เธอต้องตั้งสติก่อน”  เรจิน่าวางลำดับขั้นตอน
เด็กชายมองเรจิน่าทีหนึ่งและมองโนอาร์ทีหนึ่ง เมื่อเห็นว่าเป็นเด็กเหมือนกัน ไม่น่ามีอันตรายจึงเริ่มพูด    “ก็ได้”
“เธอชื่ออะไร”  เรจิน่าถาม
“มะ มาร์คัส”  เด็กชายอ้ำอึ้ง
“โอเค มาร์คัส แล้ว ทำไมเธอต้องไปหลบอยู่ในตู้”
“เพราะว่ามันจะมาฆ่าฉัน” มาร์คัสพูดด้วยสีหน้าหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด
“มันไหน?”  โนอาร์ถาม
“ฉันไม่รู้จักมัน มัน มันจะมาฆ่าฉัน!!”  มาร์คัสร้องไห้
“ทำไมมันถึงจะมาฆ่าเธอล่ะ”  เรจิน่าถามอย่างฉงนสงสัย 
“ฉันไม่รู้!!”  มาร์คัสตะคอก
“ไม่เป็นไร แล้วเลือดนี่คืออะไร”  เรจิน่าถามอีก
“เลือด - - ละ เลือด นี่ปะ เป็นเลือดของพ่อแม่ฉัน มันฆะ มันฆ่าพ่อแม่ฉัน!!!”  มาร์คัสร้องไห้หนักเข้าไปอีก
“มีการตายด้วยเหรอ!  นี่คงไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้วล่ะเรจิน่า  เราควรจะบอกผู้ใหญ่นะ”  โนอาร์มีอาการวิตกกังวล
“จริงด้วย!  มันบอกว่ามันจะ - - มันจะมาฆ่าทุกคนที่โรงแรมนี้ให้เกลี้ยง รวมทั้งฉันด้วย  มันกำลังตามล่าฉัน!!”
มาร์คัสเริ่มควบคุมสติไม่อยู่ น้ำตาและน้ำมูกไหลอาบหน้าผสมกับเลือดสีแดงทำให้ดูเหมือนซอสมะเขือเทศที่ทำจาก
มะเขือเทศลูกกลมโตสด
“โอเค ถ้านี่เป็นความจริง เราต้องบอกพ่อกับแม่และทุกๆคนโดยด่วน ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น”  เรจิน่าว่า
“อืม เธอบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า  มาร์คัส?”
“ไม่เท่าไหร่น่ะ”  มาร์คัสชี้ให้ดูรอยถลอกที่ท่อนขาซึ่งได้มาจากการหลบหนี
“งั้น เรารีบไปบอกพ่อกับแม่เถอะ”      “ตกลง”     
    เด็กทั้งสามเดินลงจากชั้นดาดฟ้ามาทางบันไดหนีไฟ มุ่งหน้าไปที่ห้องของเรจิน่า ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะพยายามทำตัวให้ดูเป็นปกติ
ท่ามกลางสายตาทุกๆคนระหว่างทางที่เอาแต่จ้องมองร่างเปื้อนเลือดที่เดินอยู่ข้างๆเรจิน่ากับโนอาร์นั้น
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงหน้าห้องพักที่มีหมายเลข 270 ติดอยู่ที่บานประตู
“ก๊อก ๆ ๆ”  เรจิน่าเคาะประตู    แล้วบานประตูก็เปิดออก  แม่ของเธอออกมารับแขก แล้วก็ต้องร้องตกใจเสียงดังเมื่อเห็นภาพตรงหน้า 
จนเรจิน่าต้องปิดปากแม่ของเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจของคนอื่นๆข้างนอก
“มีอะไรกันเหรอ เอะอะโวยวายอะไรกัน”  พ่อรีบวิ่งออกมาที่หน้าประตูเมื่อเมื่อได้ยินเสียงแหลมๆของแม่
“พาพวกหนูเข้าไปข้างในก่อน  แล้วหนูจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังค่ะแม่”
เรจิน่ากล่าวจริงจัง  จากนั้นแม่ของเธอก็เงียบสงบลงได้แต่ยังไม่ยอมละสายตาไปจากร่างเปื้อนเลือดสีแดงสดตรงหน้าของมาร์คัส 
ทุกคนจึงเข้ามาในห้อง
“นี่มันเรื่องอะไร”    นายโรนัลด์เอ่ยถามอย่างไม่รีรอ  เรจิน่าไม่พูดอะไรจนกระทั่งทุกคนนั่งลงบนโซฟาหมดแล้ว
“เรจิน่า เด็กคนนี้เป็นใคร”  แม่ถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก
“เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากนะคะ หนูอยากให้พ่อกับแม่ฟังให้ดี เพราะเด็กคนนี้รู้เรื่องบางอย่าง”  เรจิน่าเกริ่นนำ
“เอาล่ะ เรื่องมันคืออะไร ว่ามาซิ”  นายโรนัลด์ถามด้วยใบหน้าที่นิ่งสงบ
เรจิน่าถอนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนจะเริ่มต้นเล่า  “โนอาร์กับหนูขึ้นไปดูดาวด้วยกันบนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมค่ะ
แล้วตอนที่จะกลับ หนูได้ยินเสียงแปลกๆดังมาจากห้องเก็บของ เราสองคนเข้าไปพบเด็กคนนี้อยู่ในตู้เก็บของ 
ในสภาพที่ตัวเปื้อนเลือดไปหมด”  เรจิน่าหยุดลงกะทันหัน  โนอาร์จึงอาสารับหน้าที่ต่อ
“ใช่ครับ! และสิ่งที่เราถามจากเขาก็คือ  เขาชื่อว่า มาร์คัส  เขามาที่นี่กับพ่อแม่”
“แล้วตอนนี้พ่อแม่เขาหายไปไหนซะล่ะ?”  นายโรนัลด์ถาม
“พ่อแม่ของเขาตายแล้วค่ะ!  ตาย ใช้คำว่าถูกฆ่าตายน่าจะเหมาะกว่า”
เรจิน่าโพล่งเสียงดัง
“โอ พระเจ้า!  เสียใจด้วยจริงๆนะจ๊ะ”  แม่เอ่ยอย่างเศร้าใจ
“ที่ต้องเสียใจด้วยตอนนี้ไม่ใช่แค่เขาหรอกค่ะแม่ เพราะตอนนี้ฆาตกรที่ว่านี้กำลังจะมาฆ่าทุกคนในโรงแรมรวมทั้งตัวมาร์คัสด้วย 
หนูถามเขาแล้วแต่เขาบอกว่าไม่รู้สาเหตุที่ต้องฆ่า ได้โปรดเชื่อเราด้วยเถอะค่ะ หนูไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องหลอกเด็ก
ธรรมดาๆหรอกนะคะ”    เรจิน่าว่า
“พ่อเชื่อลูกนะ ฉะนั้นพ่อจะไปบอกกับเจ้าของโรงแรมว่าให้ยกเลิกการประชุมนี้ซะ แล้วเราจะกลับบ้านกันทันทีในคืนนี้”
เรื่องดูเหมือนจะแก้ไขไปได้ด้วยดี แต่เจ้าของโรงแรมกลับดื้อดึงที่จะเชื่อเรื่องเหล่านั้น...
“นี่คุณจะบ้าเหรอ!!  เรายกเลิกการประชุมใหญ่ครั้งนี้ไม่ได้!!  คุณจะให้ฉันไล่แขกที่กำลังทานอาหารค่ำไปให้หมดเพียง
เพราะคำพูดเพ้อเจ้อของเด็กอายุสิบสามปีเนี่ยนะ” เจ้าของโรงแรมมีท่าทางฉุนเฉียว
“ก็ถ้าคุณอยากให้พวกเขาไม่ตายก่อนการประชุมนี่จะจบล่ะก็ใช่!” นายโรนัลด์ก็ไม่แพ้กัน
“ไม่มีทาง!!  ทำแบบนี้ชื่อเสียงโรงแรมของฉันก็พังย่อยยับน่ะสิ!!” เจ้าของโรงแรมขึ้นเสียงสูง
“และชื่อเสียงของโรงแรมคุณจะพังย่อยยับแน่ ถ้าทุกคนตายกันหมด!!”
แม่ของเรจิน่าวาดลวดลายฝีปากเป็นครั้งแรกอย่างดุเดือด  “ตกลงคุณจะทำตามที่เราบอกคุณไม๊!!”   
ทุกคนรอฟังคำตอบจากปากสีแดงมันขลับด้วยลิปสติกของเธออย่างใจจดใจจ่อ
และคำตอบก็เปล่งออกมาสั้นๆ  “ไม่”
“ก็ตามใจคุณ เพราะเราก็ไม่มีส่วนเดือดร้อนอะไรด้วย ไปเถอะเรจิน่า!  กลับบ้านกัน” 
นายโรนัลด์ไม่สนใจคำพูดของเจ้าของโรงแรมที่ไร้เหตุผลอีกต่อไป
“เอ่อ พ่อคะ เราพามาร์คัสไปด้วยได้ไหม?”  เรจิน่าวิงวอน
“ได้แน่นอน พ่อจะไม่ยอมให้เขาต้องตายหรอก”  สายตาเฉียบคมของพ่อจ้องเขม็งกับสายตาของเจ้าของโรงแรมที่ไม่กล้าสบตา
“ฉันไปตามพ่อกับแม่ก่อนดีกว่านะ”  โนอาร์บอกเรจิน่า
“โชคดีนะ!”  เรจิน่าอวยพร      “อืม เดี๋ยวฉันตามไป”
    เรจิน่าไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น  แต่เธอเองก็ไม่อยากจะให้มันดำเนินต่อไปในเส้นทางที่มันควรจะเป็น 
ดังนั้นเธอจึงต้องจำใจกลับบ้านทันที แม้ว่าเธอยังไม่หายตระการตากับการได้ชมทะเลสาบอาเชียน่า  ชมท้องฟ้ายามราตรี 
แต่ชีวิตของเธอย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
“พ่อจะไปเอารถมารับลูกที่นี่นะ...อาแมนด้า ฝากดูลูกด้วยนะ”  แม่พยักหน้ารับพร้อมกับกอดเรจิน่าไว้เพื่อเป็นการให้ขวัญกำลังใจ
เรจิน่ายืนมองพ่อของเธอเดินออกไปที่หน้าโรงแรมและควานหากุญแจรถในกระเป๋ากางเกงท่ามกลางม่านโปร่งของความมืด 
ขณะเดียวกันกับที่โนอาร์วิ่งหน้าตาตื่น เหงื่อชุ่มทั่วใบหน้ามาหาเธอ
“มะ มัน มันฆ่าทุกคนในห้องอาหารหมดแล้ว!  มันใส่ยาพิษในอาหาร!!”
ประโยคที่ได้ยินทำให้เรจิน่าสันหลังวาบขึ้นมา  เธอควบคุมสติไม่อยู่  พยายามหันไปมองรอบๆ
และแล้วเสียงที่น่ากลัวก็ดังสนั่นขึ้น .
“เปรี้ยง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
      เสียงนั้นก้องสะท้อน และเมื่อเสียงนั้นค่อยๆเลือนหายไป  ร่างอันไร้วิญญาณของพ่อเธอก็ค่อยๆหล่นตุ้บลงกับ
พื้นถนนข้างนอกนั้นเช่นกัน
NEXT>>>

เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น