ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Hotel Of The Death III โรงแรมอำมหิต ปลิดชีพสยอง

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 สัญญาณความตาย

    • อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 47


    ร่างนั้นยังมีชีวิต เพียงแต่ดูน่ากลัวตรงที่มีเลือดอาบไปทั่วทั้งตัว

    ร่างกายอ่อนระโหยโรยแรง  นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น




    “เธอเป็น..อะ…อะไรไหม”  เรจิน่าเอ่ยเสียงในลำคอ ยืนมองเด็กชายตัวอาบเลือดด้วยขาที่สั่นรัว

    แต่เด็กชายไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ  ยังคงนอนนิ่ง

    ทั้งเรจิน่าและโนอาร์ต่างสบตากันด้วยนัยน์ตาที่ไร้ความหมายใด  จนกระทั่งเรจิน่าตัดสินใจรวบรวมความกล้าที่มีอยู่น้อยนิด

    ก้าวเข้าไปใกล้ร่างนั้น



    “เอ่อ…เธอเป็นอะไรเหรอ”  สิ้นประโยคนั้น เรจิน่าต้องกรีดร้องออกมาแทบจะทันที เมื่อเด็กชายตัวอาบเลือดลุกขึ้น

    โวยวายกระวีกระวาดไปทั่ว



    “ไม่!!  ไม่!!  อย่าฆ่าฉัน!!  ฉันกลัวแล้ว!!!!!”    เด็กชายวิ่งพล่านเหมือนคนเสียสติ เลือดที่อาบสองข้างแก้มกระเซ็นหยดลงตามพื้น

    ขณะที่เขาวิ่งไปมาอย่างร้อนรน



    “เราไม่ฆ่าเธอหรอกนะ”  เรจิน่าปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่สุดเท่าที่เธอจะฝืนใจตัวเองให้พูดออกมาได้



    “ไม่!!  แกหลอกฉัน!!!  แกหลอกฉันแน่ๆ!!!   แกจะฆ่าฉัน!!!  ฉันรู้ว่าแกมีแผนชั่ว!!!  ไอ้คนเลว!!!”  

    เด็กชายยังคงวิ่งหลบหนีโดยไม่สนใจฟังคำพูดของเรจิน่าเลยแม้แต่นิด



    “หยุดก่อนได้ไม๊!!!  เราอาจช่วยเหลือเธอได้!!!”



    “ไม่!!!  ฉันไม่เชื่อพวกแก!!!!   ไม่เชื่อใครทั้งนั้น!!!”  เสียงเริ่มอึกทึกมากยิ่งขึ้น



    “ฉันบอกให้เธอฟังก่อนไงเล่า!!” เรจิน่าพยายามอธิบายและควบคุมอารมณ์ แต่สายไปหน่อยที่หมัดของโนอาร์ปะทะเข้า

    อย่างจังกับคางของเด็กชายคนนั้นอย่างรวดเร็ว….เด็กชายล้มตึงลงกับพื้น



    “อูยยย…พวกแกจะฆ่าฉัน!!! จะฆ่าฉันแน่ๆ!!!” เด็กชายยังไม่เลิกโวยวาย



    “อยากโดนอีกหมัดใช่ไหม”  โนอาร์ขู่  แต่กำปั้นเตรียมพร้อมแล้ว



    “ไม่”   เด็กชายดูสงบลงเมื่อถูกขู่



    “โอเค…ฟังนะ…พวกเราไม่ได้เป็นคนร้าย…เราจะช่วยเหลือเธอ  แต่เธอต้องตั้งสติก่อน”  เรจิน่าวางลำดับขั้นตอน



    เด็กชายมองเรจิน่าทีหนึ่งและมองโนอาร์ทีหนึ่ง เมื่อเห็นว่าเป็นเด็กเหมือนกัน ไม่น่ามีอันตรายจึงเริ่มพูด    “ก็ได้”



    “เธอชื่ออะไร”  เรจิน่าถาม



    “มะ – มาร์คัส”   เด็กชายอ้ำอึ้ง



    “โอเค…มาร์คัส…แล้ว…ทำไมเธอต้องไปหลบอยู่ในตู้”



    “เพราะว่ามันจะมาฆ่าฉัน” มาร์คัสพูดด้วยสีหน้าหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด



    “มันไหน?”   โนอาร์ถาม



    “ฉันไม่รู้จักมัน…มัน – มันจะมาฆ่าฉัน!!”  มาร์คัสร้องไห้



    “ทำไมมันถึงจะมาฆ่าเธอล่ะ”   เรจิน่าถามอย่างฉงนสงสัย  

    “ฉันไม่รู้!!”  มาร์คัสตะคอก



    “ไม่เป็นไร…แล้วเลือดนี่คืออะไร”  เรจิน่าถามอีก



    “เลือด - - ละ – เลือด นี่ปะ – เป็นเลือดของพ่อแม่ฉัน…มันฆะ – มันฆ่าพ่อแม่ฉัน!!!”  มาร์คัสร้องไห้หนักเข้าไปอีก



    “มีการตายด้วยเหรอ!  นี่คงไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้วล่ะเรจิน่า   เราควรจะบอกผู้ใหญ่นะ”  โนอาร์มีอาการวิตกกังวล



    “จริงด้วย!  มันบอกว่ามันจะ - - มันจะมาฆ่าทุกคนที่โรงแรมนี้ให้เกลี้ยง รวมทั้งฉันด้วย  มันกำลังตามล่าฉัน!!”

    มาร์คัสเริ่มควบคุมสติไม่อยู่ น้ำตาและน้ำมูกไหลอาบหน้าผสมกับเลือดสีแดงทำให้ดูเหมือนซอสมะเขือเทศที่ทำจาก

    มะเขือเทศลูกกลมโตสด



    “โอเค…ถ้านี่เป็นความจริง เราต้องบอกพ่อกับแม่และทุกๆคนโดยด่วน ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น”  เรจิน่าว่า

    “อืม…เธอบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า  มาร์คัส?”



    “ไม่เท่าไหร่น่ะ”   มาร์คัสชี้ให้ดูรอยถลอกที่ท่อนขาซึ่งได้มาจากการหลบหนี



    “งั้น…เรารีบไปบอกพ่อกับแม่เถอะ”       “ตกลง”      

        เด็กทั้งสามเดินลงจากชั้นดาดฟ้ามาทางบันไดหนีไฟ มุ่งหน้าไปที่ห้องของเรจิน่า ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะพยายามทำตัวให้ดูเป็นปกติ

    ท่ามกลางสายตาทุกๆคนระหว่างทางที่เอาแต่จ้องมองร่างเปื้อนเลือดที่เดินอยู่ข้างๆเรจิน่ากับโนอาร์นั้น

    ไม่นานพวกเขาก็มาถึงหน้าห้องพักที่มีหมายเลข 270 ติดอยู่ที่บานประตู



    “ก๊อก ๆ ๆ”  เรจิน่าเคาะประตู    แล้วบานประตูก็เปิดออก  แม่ของเธอออกมารับแขก แล้วก็ต้องร้องตกใจเสียงดังเมื่อเห็นภาพตรงหน้า  

    จนเรจิน่าต้องปิดปากแม่ของเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจของคนอื่นๆข้างนอก



    “มีอะไรกันเหรอ เอะอะโวยวายอะไรกัน”   พ่อรีบวิ่งออกมาที่หน้าประตูเมื่อเมื่อได้ยินเสียงแหลมๆของแม่



    “พาพวกหนูเข้าไปข้างในก่อน  แล้วหนูจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังค่ะแม่”

    เรจิน่ากล่าวจริงจัง   จากนั้นแม่ของเธอก็เงียบสงบลงได้แต่ยังไม่ยอมละสายตาไปจากร่างเปื้อนเลือดสีแดงสดตรงหน้าของมาร์คัส  

    ทุกคนจึงเข้ามาในห้อง



    “นี่มันเรื่องอะไร”    นายโรนัลด์เอ่ยถามอย่างไม่รีรอ   เรจิน่าไม่พูดอะไรจนกระทั่งทุกคนนั่งลงบนโซฟาหมดแล้ว



    “เรจิน่า…เด็กคนนี้เป็นใคร”   แม่ถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก



    “เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากนะคะ…หนูอยากให้พ่อกับแม่ฟังให้ดี…เพราะเด็กคนนี้รู้เรื่องบางอย่าง”  เรจิน่าเกริ่นนำ



    “เอาล่ะ…เรื่องมันคืออะไร ว่ามาซิ”   นายโรนัลด์ถามด้วยใบหน้าที่นิ่งสงบ



    เรจิน่าถอนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนจะเริ่มต้นเล่า  “โนอาร์กับหนูขึ้นไปดูดาวด้วยกันบนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมค่ะ

    …แล้วตอนที่จะกลับ…หนูได้ยินเสียงแปลกๆดังมาจากห้องเก็บของ…เราสองคนเข้าไปพบเด็กคนนี้อยู่ในตู้เก็บของ  

    ในสภาพที่ตัวเปื้อนเลือดไปหมด”   เรจิน่าหยุดลงกะทันหัน  โนอาร์จึงอาสารับหน้าที่ต่อ



    “ใช่ครับ! และสิ่งที่เราถามจากเขาก็คือ  เขาชื่อว่า มาร์คัส   เขามาที่นี่กับพ่อแม่”



    “แล้วตอนนี้พ่อแม่เขาหายไปไหนซะล่ะ?”   นายโรนัลด์ถาม



    “พ่อแม่ของเขาตายแล้วค่ะ!  …ตาย…ใช้คำว่าถูกฆ่าตายน่าจะเหมาะกว่า”

    เรจิน่าโพล่งเสียงดัง



    “โอ…พระเจ้า!  เสียใจด้วยจริงๆนะจ๊ะ”   แม่เอ่ยอย่างเศร้าใจ



    “ที่ต้องเสียใจด้วยตอนนี้ไม่ใช่แค่เขาหรอกค่ะแม่…เพราะตอนนี้ฆาตกรที่ว่านี้กำลังจะมาฆ่าทุกคนในโรงแรมรวมทั้งตัวมาร์คัสด้วย  

    หนูถามเขาแล้วแต่เขาบอกว่าไม่รู้สาเหตุที่ต้องฆ่า…ได้โปรดเชื่อเราด้วยเถอะค่ะ…หนูไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องหลอกเด็ก

    ธรรมดาๆหรอกนะคะ”    เรจิน่าว่า



    “พ่อเชื่อลูกนะ…ฉะนั้นพ่อจะไปบอกกับเจ้าของโรงแรมว่าให้ยกเลิกการประชุมนี้ซะ…แล้วเราจะกลับบ้านกันทันทีในคืนนี้”



    เรื่องดูเหมือนจะแก้ไขไปได้ด้วยดี แต่เจ้าของโรงแรมกลับดื้อดึงที่จะเชื่อเรื่องเหล่านั้น...



    “นี่คุณจะบ้าเหรอ!!  เรายกเลิกการประชุมใหญ่ครั้งนี้ไม่ได้!!  คุณจะให้ฉันไล่แขกที่กำลังทานอาหารค่ำไปให้หมดเพียง

    เพราะคำพูดเพ้อเจ้อของเด็กอายุสิบสามปีเนี่ยนะ”
    เจ้าของโรงแรมมีท่าทางฉุนเฉียว



    “ก็ถ้าคุณอยากให้พวกเขาไม่ตายก่อนการประชุมนี่จะจบล่ะก็ใช่!” นายโรนัลด์ก็ไม่แพ้กัน



    “ไม่มีทาง!!  ทำแบบนี้ชื่อเสียงโรงแรมของฉันก็พังย่อยยับน่ะสิ!!” เจ้าของโรงแรมขึ้นเสียงสูง



    “และชื่อเสียงของโรงแรมคุณจะพังย่อยยับแน่ ถ้าทุกคนตายกันหมด!!”

    แม่ของเรจิน่าวาดลวดลายฝีปากเป็นครั้งแรกอย่างดุเดือด   “ตกลงคุณจะทำตามที่เราบอกคุณไม๊!!”    



    ทุกคนรอฟังคำตอบจากปากสีแดงมันขลับด้วยลิปสติกของเธออย่างใจจดใจจ่อ

    และคำตอบก็เปล่งออกมาสั้นๆ   “ไม่”



    “ก็ตามใจคุณ…เพราะเราก็ไม่มีส่วนเดือดร้อนอะไรด้วย…ไปเถอะเรจิน่า!  กลับบ้านกัน”  

    นายโรนัลด์ไม่สนใจคำพูดของเจ้าของโรงแรมที่ไร้เหตุผลอีกต่อไป



    “เอ่อ…พ่อคะ…เราพามาร์คัสไปด้วยได้ไหม?”  เรจิน่าวิงวอน



    “ได้แน่นอน…พ่อจะไม่ยอมให้เขาต้องตายหรอก”  สายตาเฉียบคมของพ่อจ้องเขม็งกับสายตาของเจ้าของโรงแรมที่ไม่กล้าสบตา



    “ฉันไปตามพ่อกับแม่ก่อนดีกว่านะ”   โนอาร์บอกเรจิน่า



    “โชคดีนะ!”  เรจิน่าอวยพร      “อืม…เดี๋ยวฉันตามไป”



        เรจิน่าไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น  แต่เธอเองก็ไม่อยากจะให้มันดำเนินต่อไปในเส้นทางที่มันควรจะเป็น  

    ดังนั้นเธอจึงต้องจำใจกลับบ้านทันที แม้ว่าเธอยังไม่หายตระการตากับการได้ชมทะเลสาบอาเชียน่า   ชมท้องฟ้ายามราตรี  

    แต่ชีวิตของเธอย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด



    “พ่อจะไปเอารถมารับลูกที่นี่นะ...อาแมนด้า…ฝากดูลูกด้วยนะ”  แม่พยักหน้ารับพร้อมกับกอดเรจิน่าไว้เพื่อเป็นการให้ขวัญกำลังใจ



    เรจิน่ายืนมองพ่อของเธอเดินออกไปที่หน้าโรงแรมและควานหากุญแจรถในกระเป๋ากางเกงท่ามกลางม่านโปร่งของความมืด  

    ขณะเดียวกันกับที่โนอาร์วิ่งหน้าตาตื่น เหงื่อชุ่มทั่วใบหน้ามาหาเธอ



    “มะ – มัน – มันฆ่าทุกคนในห้องอาหารหมดแล้ว!   มันใส่ยาพิษในอาหาร!!”

    ประโยคที่ได้ยินทำให้เรจิน่าสันหลังวาบขึ้นมา  เธอควบคุมสติไม่อยู่  พยายามหันไปมองรอบๆ

    และแล้วเสียงที่น่ากลัวก็ดังสนั่นขึ้น….



    “เปรี้ยง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”



          เสียงนั้นก้องสะท้อน และเมื่อเสียงนั้นค่อยๆเลือนหายไป  ร่างอันไร้วิญญาณของพ่อเธอก็ค่อยๆหล่นตุ้บลงกับ

    พื้นถนนข้างนอกนั้นเช่นกัน…





    NEXT>>>



















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2025

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×