ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ch@pter 3 : ห้วงนิทรา
            “ไง! เม๊คกี้  วันนี้กลับดึกเหรอ?” 
เพื่อนบ้านที่ชื่อเกรย์เอ่ยถามใต้แสงไฟจากเสาก่อนจะทิ้งถุงขยะสีดำทะมึนลงในถึงใต้เสานั้น
“งานเยอะน่ะค่ะ?  ออกมาทิ้งขยะเหรอคะ”  ฉันพูดพร้อมกับขยี้ตาไล่ความมัวมืดของแสงจันทร์
“ก็งั้นแหละ  บ้านเราขยะเยอะ เอ้อนี่ เม๊คกี้ เมียผมน่ะเพ้อทำนายถึงคุณด้วยล่ะ”  เกรย์บอก  พิงตัวกับเสาไฟ
ฉันพอจะรู้จักภรรยาของเกรย์อยู่บ้างเหมือนกัน  เธอชื่อ  แอธน่า  มักซ่องสุมอยู่กับการทำนายทางศาสตร์ต่างๆเช่น ยิปซี 
ลูกแก้ว  โหราศาสตร์การทำนายตำแหน่งดวงดาวอะไรทำนองนี้   แล้วก็มักจะทำนายอะไรมั่วๆออกมาบ่อยครั้ง 
คราวนี้เกิดจะมาทำนายเกี่ยวกับฉันอีก
“ทำนาย ถึงฉันเหรอคะ”  เราสองคนยืนคุยกันโดยมีแสงจันทราเป็นฉากกั้น
“เธอฝากผมมาบอกคุณว่า ให้ระวังเงาเอาไว้ให้ดี”  เกรย์พูดขณะที่ลมหอบพาความหนาวเย็นพัดผ่านไป ส่งเสียงหวีดหวิว
“เงา?!?  หมายความว่าไงคะ?” ฉันชักไม่อยากฟังแล้วล่ะว่าคำทำนายของฉันเป็นยังไง ถึงแม้มันจะไม่จริงก็ตาม
“ไม่รู้สิ..เมียผมก็ชอบอย่างงี้แหละ  พูดแค่ประโยคสองประโยค  จับใจความไม่ค่อยได้  เอาล่ะงั้นผมกลับเข้าบ้านก่อนนะ 
เมียผมบอกว่าอย่าออกนอกบ้านนานกว่าครึ่งชั่วโมงจะมีภัย  ราตรีสวัสดิ์” 
เกรย์กล่าวเนิบๆแล้วเดินกลับเข้าบ้านหลังคาสีเทาแก่ที่ทนแดดลมฝนมาหลายปี
“ราตรีสวัสดิ์เกรย์”  ฉันเองก็ปิดประตูโรงรถแล้วก็เข้าบ้าน 
    แม่ยังนั่งคอยฉันอยู่บนโซฟาหน้าโทรทัศน์ 
“กลับมาแล้วเหรอเม๊ค”
“ค่ะแม่ ร๊อดกับไมเคิลนอนแล้วหรือคะ”  แม่ฉันพยักหน้าหนึ่งทีเป็นเชิงตอบ
“หิวไม๊? เดี๋ยวแม่ทำอะไรให้กิน”   
“หนูกินข้างนอกมาแล้วค่ะ แม่ไปนอนพักผ่อนเถอะ”  ฉันบอกด้วยความเป็นห่วง
“พักนี้กลับดึกทุกวันเลยนะลูก ระวังจะเสียสุขภาพนะ  รีบๆเข้านอนล่ะ แล้วก็ ระวังเงาไว้ให้ดีนะ”
คำพูดสุดท้ายขณะที่แม่กำลังเดินขึ้นบันไดทำเอาฉันอึ้ง 
“อะไรนะคะแม่?”  ฉันถาม
“หืออ?”  แม่ฉันทำหน้างงๆ
“ก็ที่แม่บอกว่าให้ระวัง ” ฉันเอ่ยเสียงแผ่ว
“อะไรหรือจ๊ะ?”  แม่ฉันทำหน้างงหนักขึ้นไปอีก
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หนูคงหูฝาดไปเอง”  ฉันตบศีรษะตัวเองเล็กน้อยก่อนจะกลับขึ้นห้องนอนของฉัน
                                     
                                    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
            ฉันตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น  แสงแดดอ่อนๆที่ส่องผ่านมวลเมฆเข้ามาทางหน้าต่างห้องทำเอาฉันลุกขึ้นจากเตียงได้ทันที 
ฉันลุกไปเข้าห้องน้ำ  เตรียมตัวไปทำงาน    ขับรถออกจากบ้านเวลาหกโมงครึ่ง    แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มก่อนถึงโรงเรียน   
วันนี้ฉันต้องมาเช้ากว่าปกติเพราะมียืนเวรทางประตูหน้า  คอยดูแลความปลอดภัยของนักเรียน
“สวัสดีค่ะคุณครู”  เด็กหญิงคนหนึ่งเอ่ยทักทาย
“อ้าว!  สเตลล่านี่เองล่ะ  บอกกี่ทีแล้วว่าให้เรียกพี่”  ฉันบอกอย่างร่าเริง
“วันนี้พี่เม๊คมาเช้าจังเลยค่ะ”  สเตลล่าบอก  “ไม่ไปห้องสมุดหรือคะ?  คุณครูเอลเมอร์รี่มาแล้วน่ะค่ะ”
“ฉันรู้จ้ะ แต่วันนี้เวรฉันต้องยืนดูแลนักเรียน ถ้าอาจารย์ใหญ่จับได้ว่าไม่มีใครมาทำหน้าที่ก็คงโดนไม่น้อย”
“งั้นหนูไปก่อนนะคะ”  สเตลล่าเอ่ยก่อนจะวิ่งไปรวมกับกลุ่มเพื่อน 
“เป็นเด็กที่สดใสจังเลยนะ”  ฉันพึมพำกับตัวเองเบาๆขณะเฝ้ามองสเตลล่าวิ่งไปมา     
ฉันยืนเวรอยู่อย่างนั้นจนนักเรียนในโรงเรียนเริ่มเยอะขึ้น  จากนั้นก็มีอาจารย์ผู้หญิงวัยกลางคนใส่แว่นกรอบสามเหลี่ยมเดิน
เข้ามาเปลี่ยนเวรแทน  ฉันก็เลยเป็นอิสระเสียที    ฉันต้องไปที่ห้องสมุดเพื่อเริ่มงานเอกสารแต่เช้า   
ที่สนามหญ้ามีเด็กๆเล่นเตะฟุตบอลกันอย่างสนุกสนานตามปกติที่เป็นอยู่ทุกวัน 
“ฝึ่บ!!!”  ใครบางคนเฉี่ยวหลังฉันไปอย่างรวดเร็วหายเข้าไปหลังพุ่มไม้ใหญ่ๆพุ่มหนึ่ง  ฉันหันกลับไปมองเห็นเพียงหลังไวๆ
“ขอโทษนะคะคุณ?”  ฉันรู้สึกว่าคนปกติไม่น่าจะไปแอบอยู่ในพุ่มไม้แบบนั้น  จะเป็นโจรแอบเข้ามาในโรงเรียนหรือ?     
อาจจะเป็นนักเรียนมาแกล้งเราหรือเปล่า?  ฉันตัดสินใจต้องเข้าไปดูว่าใครกันแน่
    ฉันเห็นเงาดำๆโผล่ออกมาจากหลังพุ่มไม้ทอดยาวไปบนพื้นสนาม    ฉันค่อยๆย่างก้าวเข้าไปยังพุ่มไม้
ก่อนจะแหวกเข้าไปอย่างรวดเร็ว 
“เจอแล้ว!!!”    แต่ร่างที่ซ่อนอยู่ในพุ่มไม้นั้นดำสนิท  ฉันอธิบายไม่ถูกว่าจะเรียกยังไง? 
ร่างที่เหมือนคนแต่ไม่มีอะไรนอกจากความดำมืดนั้นกระโจนเข้าใส่ฉัน 
แล้วฉันก็พยายามจะกรีดร้องให้คนแถวนั้นช่วย  แต่ฉันมองไม่เห็นใคร 
และมองไม่เห็นอะไรเลยเมื่อความมืดนั้นเข้ามาพันธนาการร่างของฉัน
“ฝึ่บ!!!”  ฉันผวาตื่นขึ้น    อยู่บนเตียง?  ฉันแค่ฝันไปก็เท่านั้นเอง?!?  เวลาฝันร้ายทีไร  ตื่นขึ้นมามักจะมีเหงื่อเปียกชุ่มทุกที 
แต่ครั้งนี้ฉันกลับรู้สึกหนาวพิกล  มันเป็นความหนาวที่บรรยายไม่ถูก  เหมือนจะหนาวใจ  หวิวๆยังไงก็ไม่รู้สิ!  ฉันยันตัวลุกขึ้น 
มองออกไปที่หน้าต่าง  ที่ซึ่งแสงแดดพยายามจะลอดผ่านกลุ่มเมฆเข้ามา 
“อื้อออออออ!!!”  ฉันบิดตัวไปมาอย่างเกียจคร้าน
“อรุณสวัสดิ์”  เสียงหนึ่งเอ่ย
“อื้อ อรุณสวัสดิ์?”  ฉันตอบ    ฉันนี่โง่หรือปัญญาอ่อนกันแน่ที่ตอบเสียงนั้น    ไม่มีใครอยู่ในห้องฉันสักคน?
และเสียงนั้นมันก็เหมือนจะแว่วไปเองด้วย
“เจ้าฟังไม่ผิดหรอก ข้าบอกว่าอรุณสวัสดิ์เจ้ามนุษย์”    เสียงนั้นตอบกลับมาราวกับรู้ความคิดของฉัน
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!!  หรือว่านี่เป็นความฝันซ้อนความฝัน?
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@=@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
เพื่อนบ้านที่ชื่อเกรย์เอ่ยถามใต้แสงไฟจากเสาก่อนจะทิ้งถุงขยะสีดำทะมึนลงในถึงใต้เสานั้น
“งานเยอะน่ะค่ะ?  ออกมาทิ้งขยะเหรอคะ”  ฉันพูดพร้อมกับขยี้ตาไล่ความมัวมืดของแสงจันทร์
“ก็งั้นแหละ  บ้านเราขยะเยอะ เอ้อนี่ เม๊คกี้ เมียผมน่ะเพ้อทำนายถึงคุณด้วยล่ะ”  เกรย์บอก  พิงตัวกับเสาไฟ
ฉันพอจะรู้จักภรรยาของเกรย์อยู่บ้างเหมือนกัน  เธอชื่อ  แอธน่า  มักซ่องสุมอยู่กับการทำนายทางศาสตร์ต่างๆเช่น ยิปซี 
ลูกแก้ว  โหราศาสตร์การทำนายตำแหน่งดวงดาวอะไรทำนองนี้   แล้วก็มักจะทำนายอะไรมั่วๆออกมาบ่อยครั้ง 
คราวนี้เกิดจะมาทำนายเกี่ยวกับฉันอีก
“ทำนาย ถึงฉันเหรอคะ”  เราสองคนยืนคุยกันโดยมีแสงจันทราเป็นฉากกั้น
“เธอฝากผมมาบอกคุณว่า ให้ระวังเงาเอาไว้ให้ดี”  เกรย์พูดขณะที่ลมหอบพาความหนาวเย็นพัดผ่านไป ส่งเสียงหวีดหวิว
“เงา?!?  หมายความว่าไงคะ?” ฉันชักไม่อยากฟังแล้วล่ะว่าคำทำนายของฉันเป็นยังไง ถึงแม้มันจะไม่จริงก็ตาม
“ไม่รู้สิ..เมียผมก็ชอบอย่างงี้แหละ  พูดแค่ประโยคสองประโยค  จับใจความไม่ค่อยได้  เอาล่ะงั้นผมกลับเข้าบ้านก่อนนะ 
เมียผมบอกว่าอย่าออกนอกบ้านนานกว่าครึ่งชั่วโมงจะมีภัย  ราตรีสวัสดิ์” 
เกรย์กล่าวเนิบๆแล้วเดินกลับเข้าบ้านหลังคาสีเทาแก่ที่ทนแดดลมฝนมาหลายปี
“ราตรีสวัสดิ์เกรย์”  ฉันเองก็ปิดประตูโรงรถแล้วก็เข้าบ้าน 
    แม่ยังนั่งคอยฉันอยู่บนโซฟาหน้าโทรทัศน์ 
“กลับมาแล้วเหรอเม๊ค”
“ค่ะแม่ ร๊อดกับไมเคิลนอนแล้วหรือคะ”  แม่ฉันพยักหน้าหนึ่งทีเป็นเชิงตอบ
“หิวไม๊? เดี๋ยวแม่ทำอะไรให้กิน”   
“หนูกินข้างนอกมาแล้วค่ะ แม่ไปนอนพักผ่อนเถอะ”  ฉันบอกด้วยความเป็นห่วง
“พักนี้กลับดึกทุกวันเลยนะลูก ระวังจะเสียสุขภาพนะ  รีบๆเข้านอนล่ะ แล้วก็ ระวังเงาไว้ให้ดีนะ”
คำพูดสุดท้ายขณะที่แม่กำลังเดินขึ้นบันไดทำเอาฉันอึ้ง 
“อะไรนะคะแม่?”  ฉันถาม
“หืออ?”  แม่ฉันทำหน้างงๆ
“ก็ที่แม่บอกว่าให้ระวัง ” ฉันเอ่ยเสียงแผ่ว
“อะไรหรือจ๊ะ?”  แม่ฉันทำหน้างงหนักขึ้นไปอีก
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หนูคงหูฝาดไปเอง”  ฉันตบศีรษะตัวเองเล็กน้อยก่อนจะกลับขึ้นห้องนอนของฉัน
                                     
                                    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
            ฉันตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น  แสงแดดอ่อนๆที่ส่องผ่านมวลเมฆเข้ามาทางหน้าต่างห้องทำเอาฉันลุกขึ้นจากเตียงได้ทันที 
ฉันลุกไปเข้าห้องน้ำ  เตรียมตัวไปทำงาน    ขับรถออกจากบ้านเวลาหกโมงครึ่ง    แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มก่อนถึงโรงเรียน   
วันนี้ฉันต้องมาเช้ากว่าปกติเพราะมียืนเวรทางประตูหน้า  คอยดูแลความปลอดภัยของนักเรียน
“สวัสดีค่ะคุณครู”  เด็กหญิงคนหนึ่งเอ่ยทักทาย
“อ้าว!  สเตลล่านี่เองล่ะ  บอกกี่ทีแล้วว่าให้เรียกพี่”  ฉันบอกอย่างร่าเริง
“วันนี้พี่เม๊คมาเช้าจังเลยค่ะ”  สเตลล่าบอก  “ไม่ไปห้องสมุดหรือคะ?  คุณครูเอลเมอร์รี่มาแล้วน่ะค่ะ”
“ฉันรู้จ้ะ แต่วันนี้เวรฉันต้องยืนดูแลนักเรียน ถ้าอาจารย์ใหญ่จับได้ว่าไม่มีใครมาทำหน้าที่ก็คงโดนไม่น้อย”
“งั้นหนูไปก่อนนะคะ”  สเตลล่าเอ่ยก่อนจะวิ่งไปรวมกับกลุ่มเพื่อน 
“เป็นเด็กที่สดใสจังเลยนะ”  ฉันพึมพำกับตัวเองเบาๆขณะเฝ้ามองสเตลล่าวิ่งไปมา     
ฉันยืนเวรอยู่อย่างนั้นจนนักเรียนในโรงเรียนเริ่มเยอะขึ้น  จากนั้นก็มีอาจารย์ผู้หญิงวัยกลางคนใส่แว่นกรอบสามเหลี่ยมเดิน
เข้ามาเปลี่ยนเวรแทน  ฉันก็เลยเป็นอิสระเสียที    ฉันต้องไปที่ห้องสมุดเพื่อเริ่มงานเอกสารแต่เช้า   
ที่สนามหญ้ามีเด็กๆเล่นเตะฟุตบอลกันอย่างสนุกสนานตามปกติที่เป็นอยู่ทุกวัน 
“ฝึ่บ!!!”  ใครบางคนเฉี่ยวหลังฉันไปอย่างรวดเร็วหายเข้าไปหลังพุ่มไม้ใหญ่ๆพุ่มหนึ่ง  ฉันหันกลับไปมองเห็นเพียงหลังไวๆ
“ขอโทษนะคะคุณ?”  ฉันรู้สึกว่าคนปกติไม่น่าจะไปแอบอยู่ในพุ่มไม้แบบนั้น  จะเป็นโจรแอบเข้ามาในโรงเรียนหรือ?     
อาจจะเป็นนักเรียนมาแกล้งเราหรือเปล่า?  ฉันตัดสินใจต้องเข้าไปดูว่าใครกันแน่
    ฉันเห็นเงาดำๆโผล่ออกมาจากหลังพุ่มไม้ทอดยาวไปบนพื้นสนาม    ฉันค่อยๆย่างก้าวเข้าไปยังพุ่มไม้
ก่อนจะแหวกเข้าไปอย่างรวดเร็ว 
“เจอแล้ว!!!”    แต่ร่างที่ซ่อนอยู่ในพุ่มไม้นั้นดำสนิท  ฉันอธิบายไม่ถูกว่าจะเรียกยังไง? 
ร่างที่เหมือนคนแต่ไม่มีอะไรนอกจากความดำมืดนั้นกระโจนเข้าใส่ฉัน 
แล้วฉันก็พยายามจะกรีดร้องให้คนแถวนั้นช่วย  แต่ฉันมองไม่เห็นใคร 
และมองไม่เห็นอะไรเลยเมื่อความมืดนั้นเข้ามาพันธนาการร่างของฉัน
“ฝึ่บ!!!”  ฉันผวาตื่นขึ้น    อยู่บนเตียง?  ฉันแค่ฝันไปก็เท่านั้นเอง?!?  เวลาฝันร้ายทีไร  ตื่นขึ้นมามักจะมีเหงื่อเปียกชุ่มทุกที 
แต่ครั้งนี้ฉันกลับรู้สึกหนาวพิกล  มันเป็นความหนาวที่บรรยายไม่ถูก  เหมือนจะหนาวใจ  หวิวๆยังไงก็ไม่รู้สิ!  ฉันยันตัวลุกขึ้น 
มองออกไปที่หน้าต่าง  ที่ซึ่งแสงแดดพยายามจะลอดผ่านกลุ่มเมฆเข้ามา 
“อื้อออออออ!!!”  ฉันบิดตัวไปมาอย่างเกียจคร้าน
“อรุณสวัสดิ์”  เสียงหนึ่งเอ่ย
“อื้อ อรุณสวัสดิ์?”  ฉันตอบ    ฉันนี่โง่หรือปัญญาอ่อนกันแน่ที่ตอบเสียงนั้น    ไม่มีใครอยู่ในห้องฉันสักคน?
และเสียงนั้นมันก็เหมือนจะแว่วไปเองด้วย
“เจ้าฟังไม่ผิดหรอก ข้าบอกว่าอรุณสวัสดิ์เจ้ามนุษย์”    เสียงนั้นตอบกลับมาราวกับรู้ความคิดของฉัน
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!!  หรือว่านี่เป็นความฝันซ้อนความฝัน?
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@=@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น