ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    R-38 วิกฤติTวรัสสยoงTลก

    ลำดับตอนที่ #5 : Sec5 : เขตปลอดภัย

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 51




            “....เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้วนับจากเหตุการณ์วิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ที่ยังคงยืดเยื้อ และไม่มีทีท่าว่าจะแก้ปัญหาได้ วิกฤติ R-38” ที่ระบาดรุนแรง ทำให้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากถึง 70% ของคนทั่วโลก เมื่อต้นปีที่เพิ่งผ่านมา   ถึงแม้ว่าทางรัฐบาลสหรัฐฯ จะมีการกำหนดเขต ไวท์  เซอร์เคิล ขึ้นทั่วโลกถึง 99 เขต เพื่อดูแลผู้อพยพและหลบภัย  แต่ทว่ามาตรการนี้ใช้ได้แค่การป้องกันและรักษาความปลอดภัย รวมถึงลดปัญหาการติดเชื้อลงเท่านั้น   ยังมิได้มีการออกมาตรการแก้ไขสภาพที่มีผู้ติดเชื้ออีกมากมายรอบนอกเขต  อย่างไรก็ตาม........

    เสียงโทรทัศน์ถูกหรี่ลงด้วยรีโมท คอนโทรล ในมือของชายแก่เจ้าของร้าน   

     

                   มันเป็นบ่ายที่อากาศอบอุ่น  แสงแดดรำไรทาทาบทั่วบริเวณ
    ผู้คนส่วนมากไม่ออกมาเดินเพ่นพ่านกันตามถนน 

     

                ได้ยินเสียงระฆังที่โบสถ์ดังก้องกังวานไปทั่วเมือง    เสียงเพลงคลาสสิกจากวิทยุของหญิงชราที่ไม่มีอะไรทำ นอกจากนั่งบนเก้าอี้โยกอยู่หน้าบ้าน   เสียงลมเอื่อยๆพัดผ่านช่องว่างระหว่างใบไม้ส่งเสียงกรอบแกรบ  และเสียงรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งที่เลี้ยวเข้ามาจอดตรงหน้าร้าน   

     

                  ตำรวจสาวผมสีแดงถอดหมวกกันน๊อกออก  วางมันไว้กับเบาะรถมอเตอร์ไซค์ 
    ก่อนจะเดินตรงมาที่ร้าน ด้วยท่าทีสง่าแฝงน่าพิศวง
        
    เสียงบู๊ทย่ำลงบนพื้นคอนกรีตเป็นจังหวะสม่ำเสมอ  ตึก ๆ         

     

    กริ๊ง!!”  เสียงกระดิ่งบนประตูดังขึ้นเมื่อประตูถูกผลักเข้ามา

     

    เฮ้  เอ็ดดี้  เป็นไงบ้าง   เธอเอ่ยทัก    สายตาหันไปหาชายแก่เจ้าของร้าน    
    ในร้านมีผู้คนจำนวนหนึ่ง   ต่างนั่งกันอยู่เงียบๆ  จิบเครื่องดื่ม  ไม่ก็อ่านหนังสือ

     

    ก็....ดี....อย่างน้อยวันนี้ไอพวกเด็กเวรนั่นก็ไม่มาป่วนร้านฉันน่ะ!”  
    ชายแก่พูด  ก่อนจะวางรีโมทลงกับโต๊ะเบาๆ 

     

    เราอบรมตักเตือนและก็เรียกพ่อแม่มาคุยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เอ่อ  สำหรับคนที่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่น่ะ   คุณก็รู้ว่าเด็กพวกนี้ ส่วนมากก็ประสบกับอะไรมากัน…. พวกเขามักขาดผู้ชี้นำหรือให้...เค้าเรียกว่าอะไรนะ.....ความอบอุ่นน่ะ!”

    เธอนั่งลงบนเก้าอี้สูงหน้าเคาน์เตอร์  ใช้มือเสยผมขึ้นไป  ก่อนจะหยิบหลอดออกมาจากที่ใส่หลอด

     

    เรื่องนั้นน่ะ  พวกเราทุกคนก็ประสบเหมือนกันหมดไม่ใช่รึไง”   
    เอ็ดดี้พูดพลางเช็ดโต๊ะอย่างละเมียดละไม

     

    นั่นก็จริง...เอ่อ...  ฉันขอเป็น....อือ..โกโก้ร้อนละกัน....  บีบมะนาวด้วยนะ   เธอบอก  ปากกัดหลอดแล้วบิดเล่นไปมา

     

    เนลที่รัก ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาเธอแทบไม่เคยสั่งอย่างอื่นเลยที่ร้านฉัน นอกจากโกโก้มะนาว   
    เพราะงั้นฉันคิดว่า คงไม่ต้องลำบากสั่งให้เมื่อยหรอกนะ
      เอ็ดดี้บีบมะนาวใส่โกโก้ที่หันไปทำเตรียมไว้ตั้งแต่เห็นเธอขี่มอเตอร์ไซค์มาที่หน้าร้าน 

     

    คุณนี่น่าทึ่งจริงๆนะเอ็ด  เธอรับแก้วมาจากชายแก่  แล้วจิบเข้าปากเล็กน้อย

     

    อืมมม  รสชาตินี้ไม่มีอะไรแทนได้จริงๆ  เนลหลับตาแล้วจิบเข้าไปอีก

     

    คงมีเธอคนเดียวในโลกนี้ล่ะมั้ง ที่ถูกใจกับโกโก้ที่ใส่มะนาว?”   เอ็ดดี้ว่า

     

    อืมมม ก็คงงั้น  ฉันคงเป็นพวกที่   เค้าเรียกว่าอะไรนะ....พิสดาร รึเปล่านะ?”

    เนลเลิกคิ้ว    พลางกัดหลอดจนยู่ยี่

     

    ไม่หรอก  ไม่ถึงขนาดนั้น    เอ็ดดี้อ้าปากหาวหวอด 

     

    กริ๊ง!!”  ประตูถูกผลักเข้ามาเป็นครั้งที่สองหลังจากเนลเข้ามา   
    ทั้งเนลและเอ็ดดี้ต่างหันไปมองผู้มาเยือน

     

    ชายร่างใหญ่  เคราดก ผมสีน้ำตาล  ในเครื่องแบบตำรวจ  
    ท่าทางมาดมั่นและองอาจ ก้าวเข้ามาในร้าน

     

    ซีล!!  คุณไม่ต้องเข้าเวรเหรอวันนี้?”    เนลถาม  หลอดยังคาอยู่ในปาก

     

    ก็งั้นแหละ...พอดีผมขับผ่านมาเห็นมอเตอร์ไซค์คุณจอดอยู่  ก็เลยแวะเข้ามาดูหน่อย

    ซีล  นั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆเนล   ไง  เอ็ดดี้ ...  ผมขอเป็นเบียร์สักกระป๋องละกัน

     

    หายหน้าไปไหนมาเกือบอาทิตย์แน่ะซีล  เอ็ดดี้เอ่ยถาม 

     

    ผมไปตรวจสอบประสิทธิภาพของรั้วไฟฟ้ารอบ ไวท์  เซอร์เคิล เขตเรามา  ซีลใช้มือเปิดกระป๋องเบียร์ที่ฟู่เป็นฟองฟอดจนเขาต้องรีบดูดฟองเหล่านั้นเข้าปาก

     

    เขต 16 ของเรา  ได้ข่าวว่า  รัฐบาลจะส่งคนมาตรวจสุขภาพประจำปีเร็วๆนี้แหละ   ซีลว่า

     

    ผลการตรวจรั้วไฟฟ้าเป็นไง  เนลถาม  กระดกโกโก้มะนาวอึกใหญ่

     

    มีไอ้พวกติดเชื้อกลุ่มหนึ่งทางขอบใต้ เอาท่อนซุงเข้าชนรั้วจนเยิน  โชคดีที่รั้วนั้นแข็งแรงในระดับหนึ่ง  พวกมันเลยไม่สามารถเข้ามาได้  แต่ก็น่ากลัวที่พวกมันเริ่มมีความคิดถึงขนาดรู้ว่าไม้เป็นฉนวนไฟฟ้า...  ผมกำลังว่าจะแจ้งไปที่รัฐบาลสหรัฐฯ ให้ทราบข้อมูลพวกนี้ไว้
    ซีลกำลังจะดื่มเบียร์แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีเสียงมอเตอร์ไซค์ของเด็กวัยรุ่นห้าหกคันขับซิ่งผ่านไป  และมีคันหนึ่งชนเข้ากับถังขยะอลูมิเนียมหน้าร้านล้มคว่ำไม่เป็นท่า    "ตูม!!!!!!!"

     

    ไอ้พวกเด็กเวรนี่อีกแล้ว!!!  เนล!!  คราวนี้คุณต้องเอาให้มันเข็ดเลยนะ!!  ไอพวกเด็กไร้สำนึก!!”  เอ็ดดี้กร่นด่าด้วยสีหน้าแดงก่ำ 

     

    ทั้งซีลและเนลออกไปที่หน้าร้าน   ขยะเกลื่อนกระจายเต็มถนน  
    ส่วนถังขยะลอยไปไกลเกือบ 100 เมตร  มอเตอร์ไซค์ล้มคว่ำอยู่ไม่ไกลนัก

     

    อูยยยยย!!  เจ็บ!!”  เด็กชาย ผมดำหยักศก  ร่างผอม  นอนกุมเข่าตัวเองอยู่บนพื้น
    เมื่อหันไปเห็นตำรวจทั้งสอง  ก็ตะลีตะลานจะลุกหนี

     

    เหวอออ!!!”  เขาพยายามจะลุก  แต่ก็ถูกเข่าที่บาดเจ็บฉุดให้ล้มลงไปอีก

    เนลกระชากคอเสื้อเขาไว้  ก่อนจะจับให้หันมามองหน้ากัน

     

    ฉันบอกเธอว่าไง ดิลอน  ถ้าเธอกับเพื่อนๆมาวุ่นวายในเมืองอีก....!!”

    เนลตะคอกเสียงเขียว

     

    ขอโทษครับ!  ผะ ผม จะไม่ทำอีกแล่ววววว!!”   
    เด็กชายยกมือสองข้างขึ้นระดับศีรษะเป็นเชิงยอมแพ้

     

    ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งน๊าคร้าบบบ!!!”
    ดิลอนยิ้มแหยๆ  หันไปมองซีลแวบหนึ่งอย่างหวังว่าเขาจะช่วยพูดอะไรบ้าง

     

    โอกาสเหรอ...โอกาสน่ะเพิ่งจะซิ่งหนีเธอไปเมื่อตะกี้เอง ... ถ้าไม่เข็ด  
    ฉันก็คงต้องขังเธอไว้สักคืนหนึ่ง  เผื่อจะเกิด...อะไรนะ  ที่เค้าเรียกกัน...จิตสำนึก  ใช่
    !”  
    เนลใส่กุญแจมือให้ดิลอนแล้วพยุงเขาลุกขึ้นยืน

     

    ได้โปรดเถอะ!  คุณทำอย่างกับผมเป็นฆาตกรที่เพิ่งฆ่าคนอย่างงั้นแหละ   
    ผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย
    !!!  แล้วเพื่อนผมล่ะ!!”
    ดิลอนโวยวาย  สีหน้ายังคงพะวงกับอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า

     

    เพื่อนเธอก็ต้องได้รับการดัดนิสัยเหมือนกัน  ไปได้แล้ว!!!   ซีล! ฝากเก็บกวาดที่นี่ด้วยล่ะ
    ตำรวจสาวผมแดงบอก  ดิลอนจำต้องเดินตามเธอไปด้วยใบหน้าละห้อยหดหู่...






     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×