ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บันทึกเรื่องราวเมื่อวันวาน (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 เพื่อนใหม่ + ฝาแฝด

    • อัปเดตล่าสุด 3 ม.ค. 53



    ตอนที่ 3 เพื่อนใหม่ + ฝาแฝด

    เฝ้านับดาว
    คืนที่ดาวพราวฟ้า
    เฝ้านับเวลา
    คืนวันที่รอคอย
    ........
    อยากให้ดาวล้านดวง
    แทนดวงตาของความห่วงใย
    และหวังให้ความรักที่มี
    เพิ่มพูนมากมาย ไปตามกาลเวลา
     
     
     
    องศา’ Talk
     
    พวกมรึงนี่ หยุดเลยกูหิวแล้วไปกินข้าวกัน ผมรู้ครับว่าไอ้แฝดสองตัวนี้มันกำลังคิดไรกันอยู่ แค่เห็นมันสองตัวเดินวนรอบตัวไอ้โยเนี่ย ผมเลยต้องรีบหยุดมันไว้ก่อนไม่งั้นผมคงได้เสียเพื่อนคนแรกแน่ แล้วรีบไปคว้าทั้งมันสองคนแล้วก็ทั้งโย ลากไปกินข้าว ไม่งั้นวันนี้ไม่ต้องกินกันพอดี แฝดสองคนที่ว่าเนี่ยก็คือ ริน หรือ กรินทร กับ คิน หรือ คิรินทร เสฏฐวุฒิ มันสองคนเป็นเพื่อนกับผม มาตั้งแต่ประถมแล้วครับ อยู่แก๊งเดียวกันมาตลอด แถมดีกรีความซ่ากับความแสบของมันสองคนเนี่ย ก็ไม่ได้น้อยไปกว่าผมเลย เพียงแต่เวลาจะทำไรมันสองตัวเนี่ยแระครับ ที่เป็นจอมวางแผนขั้นเทพของกลุ่มพวกผมเลย แล้วอีกอย่างผมก็ไม่รู้ว่าโยมันจะรับมือกับไอ้สองตัวนี้ไหวหรือเปล่า
     
     
    ตลาดหน้า มหา’ลัย
     
    พวกเราสี่คนเดินมาถึงตลาดหน้า มอ (มหา’ลัย) กันแล้วครับ เพื่อหาอะไรกิน ตลาดหน้า มอ มันก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมากหรอกครับ แต่ของกินเยอะมากจนผมเลือกไม่ถูกว่าจะกินอันไหนดี อันโน้นก็อยากกิน อันนี้ก็อยากกิน คนมันหิวนี่ครับทำไงได้ เห็นอะไรก็อยากกินไปหมดทุกอย่างเลย
     
    “กินไรดีว่ะ” ผมหันไปถามพวกมันสามคน
     
    “แล้วแต่มรึง กูกินได้หมด” โยมันหันมาตอบผมครับ แล้วก็หันไปมองร้านโน้นร้านนี้ต่อ นี่ผมกำลังขอความคิดเห็นนะเนี่ย ไม่ใช่อะไรก็ได้ อย่างนี้กูก็เลือกไม่ถูกสิว่ะ
     
    “ห่า ตอบงี้มรึงกินตีนไหม สาดดด กูขอตัวเลือกไม่ใช่อะไรก็ได้” ผมเลยปล่อยสัตว์ในปากให้ออกมาเดินเล่นก่อนเลยครับ มันหันมามองผมแล้วชี้ไปที่ไอ้แฝดสองตัวประมาณว่า ‘มรึงก็ไปขอความเห็นจากพวกมันดิ’ เหอๆ เกิดอาการอยากจับคนทุ่มครับ แต่ก็ทำได้แค่ยักไหล่ใส่มันแล้วก็เดินไปหาไอ้สองแฝดครับ
     
    “เอ้ย ริน คิน กินไรว่ะ” พวกมันสองคนหันมามองหน้าผมแล้วหัวเราะทันที ผม งง เลยครับ พอประมวลผลสักพัก ผมก็เข้าใจว่ามันสองคนหัวเราะอะไร ก็ผมเล่นพูดคำซะคล้องจองกัน ริน คิน กิน ฮ่า ฮ่า ตลกดีครับ ผมหันไปแอบเหล่ไอ้คุณวาโย มันก็แอบขำกับเขาด้วยครับ แต่ไม่แสดงออกมาก รักษาฟอร์มจริงเพื่อนกู
     
    “ถ้ากูตอบว่ากินไรก็ได้ มรึงจะให้กูกินตีนด้วยอีกคนเปล่าว่ะ” คินมันหยุดหัวเราะแล้วหันมาพูดพลางยักคิ้วข้างเดียวให้ผม ไอ้เวนนี่กวนล่ะ แปลกใจไหมครับว่าทำไมผมถึงจำมันได้ว่าคนไหนรินคนไหนคิน ทั้งๆ ที่พวกมันสองคนก็เป็นฝาแฝดกันหน้าตาก็เหมือนกันอย่างกะแกะ ไม่แปลกหรอกครับที่คนทั่วไปจะแยกมันสองคนไม่ออก เพราะพวกมันสองคนจะนิสัยคล้อยๆ กัน ก็ทำไงได้ล่ะครับ มันเป็นแฝดกันนี่ แต่จริงๆ แล้วถ้าสนิทกับมันสองคนก็แยกไม่ยากหรอก ยิ่งผมกับมันสองคนอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กด้วยแล้วยิ่งแยกออกง่ายมาก ไอ้รินมันจะมีนิสัยขี้เล่นกว่าไอ้คินครับ แต่อย่าทำให้มันโกรธเชียวล่ะน่ากลัวครับ ส่วนไอ้คินมันจะชอบกวนตีนมากกว่า ชอบวอนหาตีนผมและเพื่อนๆ ในกลุ่มเป็นประจำ ถ้าเป็นอย่างอื่นนอกจากนิสัยของพวกมันสองคน ก็เห็นจะเป็นปาน ที่มันสองคนมีที่ต้นแขน รินมันจะมีปานที่ต้นแขนข้างซ้าย ส่วนคินมันจะมีปานที่ต้นแขนข้างขวา แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเห็นปานมันหรอกครับเพราะมันสองคนไม่ค่อยใส่เสื้อแขนกุดหรือเสื้อกล้าม  
     
    “เออ...คราวนี้ไม่ใช่ให้แดกตีนอย่างเดียว กูจะจับมรึงทุ่มด้วยไอ้คิน” ผมตอบมันแล้วยิ้มชั่วร้ายเลยครับ เหมือนรู้สึกว่าตัวเองจะมีเขากับหางของเดวิสงอกออกมาเลยแฮะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
     
    “คิน...มรึงก็ไปกวน องศา มันอยู่ได้ เดี๋ยวก็ได้แดกตีนแทนข้าวหรอก แล้วไม่ใช่ตีนไอ้องศาอย่างเดียวหรอกนะ....หึหึ” ดูท่าว่ารินมันหิวมากจริงๆ ครับ เวลารินมันหิวทีไรจะเป็นอย่างนี้ทุกทีครับ ของขึ้น
     
    “กินข้าวมันไก่กันพวกมรึง” ไอ้คนที่ยืนเงียบมานาน อยู่ๆ มันก็พูดขึ้นมาซะดื้อๆ แล้วก็ลากผมไปนั่งตรงร้านข้าวมันไก่ทันที อย่าว่าแต่ผม งง เลยไอ้แฝดสองตัวมันก็ งง ครับ แต่ก็ต้องยอมเดินตามโยมันไป
    โดยดี ผมมองหน้ามันเลยครับ แต่มันก็ไม่ได้สนใจผม จัดการสั่งข้าวมันไก่ ให้พวกผม 3 คนเรียบร้อยสั่งเสร็จก็หยิบหนังสือพิมพ์บนโต๊ะมาอ่านครับ
     
    “ช่างกล้าเนอะมรึง” เสียงไอ้รินพูดลอยๆ มาเลยครับพลางจ้องหน้าไอ้โย สงสัยมันคงจะหิวมากถึง มากที่สุด เพราะจะมีรินคนเดียวในกลุ่มที่ไม่ค่อยหาเรื่องใครก่อนนอกจากว่า มันจะหิวข้าวแบบสุดๆ ไอ้โยเงยหน้าจากหนังสือพิมพ์มองหน้าริน แล้วก็ยักไหล่แบบขอไปที โคตรท้าทายเลยครับไอ้โยเนี่ย แต่ผมก็ได้แต่นั่งจ้องเหตุการณ์ต่อไป พวกมรึงอย่ามาต่อยกันตอนนี้นะ กูหิวข้าวง่า (ห่วงกินอย่างเดียวเลย องศา: เซต, จะแต่งดีๆ หรืออยากโดนจับทุ่ม: องศา, แต่งจ๊ะ แต่ง แต่งงานกับองศาไง>o<: เซต, o[]o คนแต่งมันท่าจะบ้า: องศา)
     
    “เห็นพวกมรึงหิว กูเลยช่วยตัดสินใจให้เร็วขึ้น กินให้เสร็จแล้วค่อยว่ากัน” โยมันพูดพร้อมกับที่ข้าวมันไก่มาเสริฟ์พอดี มันวางหนังสือพิมพ์ลง แล้วจัดการกับข้าวมันไก่ทันที โห! เยี่ยมแฮะใช้ความนิ่งสยบไอ้ริน สงสัยผมคงต้องคิดใหม่แล้วครับ ที่ว่าไอ้โยมันจะรับมือไอ้สองแฝดนี้ไม่ได้ แต่ตอนนี้ผมขอจัดการกับข้าวมันไก่ก่อนไม่ไหวแล้วครับ หิวโคตรๆ ดูเหมือนว่าสองแฝดมันก็เริ่มจะจัดการข้าวมันไก่ด้วยแล้วเหมือนกัน หลังจากนั้นพวกเรา 4 คนก็ซัดข้าวมันไก่ไปอีกสองสามจาน
     
     
    “เฮ้อ! ~...อิ่มจัง ค่อยยังชั่วหน่อย ขอบใจนะเว้ย โย” หลังจากซัดข้าวมันไก่ไปถึง 3 จาน ไอ้รินคนเดิมก็กลับมาเลยครับ ผมล่ะเชื่อมันเลย เพื่อนกูแต่ล่ะคน
     
    “อื้อ...ไม่เป็นไร” สมกับเป็นโยเลยครับ วางมาดตลอดเวลา ตั้งแต่ต้นจนจบ
     
    พวกเรา 4 คน เดินมาเซเว่นที่ส่วนหน้าของมหา’ลัย ก่อนจะพากันเข้าไปซื้อขนม นม เนย ออกมานั่งกินกันตรงน้ำพุหน้าเซเว่น กำลังจะนั่งลงแต่ผมก็ดันเหลือกไปมองสระน้ำฝั่งตรงข้ามกับส่วนหน้า เลยจัดการลากไอ้โยกับแฝดสองคนข้ามถนนไปนั่งฝั่งสระน้ำ ผมเลือกที่นั่งตรงข้างกับพุ่มไม้เตี้ยๆ อยากบอกว่าบรรยากาศดีโคตรๆ เลยครับ นี่ถ้ามีผู้หญิง ตัวเล็กๆ น่ารักๆ สักคนคงจะดีไม่น้อยนะครับ ลืมเลย มั่วแต่นึกถึงผู้หญิงในสเป็กครับ ว่าจะถามไอ้สองแฝดหน่อยว่ามันมาติดที่นี่ได้ไง ไม่มีบอกกันเลยอย่างนี้มันต้องถามครับ
     
    “ไอ้ริน ไอ้คิน พวกมรึงยังไม่ได้บอกกูเลยว่ามาติดที่นี่แล้วทำไมไม่โทรบอกกู” นึกได้ต้องรีบถามครับเดี๋ยวลืมอีก แอบเคืองพวกมันสองคน มีไรไม่เคยจะบอก พึงมาบอกตอนทำไปแล้ว ไอ้รินหันมามองหน้าผมก่อนเลยครับ ตามด้วยไอ้คิน มันสองคนมองผมด้วยสายตาโกรธสุดๆ เลยครับ ผมเลยหันไปมองทางโยเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ไอ้โยมันมองหน้าผมนิดนึง นิดนึงจริงๆ ครับแล้วก็รีบหันกลับไปมองทางอื่น ไม่มองมาทางผมอีกเลยแถมยังลอยหน้าลอยตาไม่สนใจผมอีก เอาแต่มองท้องฟ้าอย่างเดียวเลยครับ ไอ้เพื่อนเลว ไม่ช่วยกูเลย 

     
    “กูต้องเป็นคนถามมรึงมากกว่ามั้ง ไอ้องศาโทรไปไม่เคยติด” ไอ้คินเริ่มเปิดประเด็นก่อนเลยครับ เอาแล้วไงไอ้สองแฝดจอมบ่น
     
    “มรึงเอาโทรศัพท์ไปไว้ไหน” ตามด้วยไอ้รินทันทีเลยครับ ไอ้องศาเลยเริ่มซีดแล้วครับ
     
    “ซื้อมาทำซากห่าไรของมรึงถ้าไม่ใช้ หรือมรึงซื้อโทรศัพท์มาเลี้ยงครับ พอมันไม่เชื่องก็ปล่อยให้มันเดินหายไป” ไอ้รินยังไม่เท่าไรครับ แต่ไอ้คินนี่สิมาเป็นชุดเลยครับ น่ากลัวยิ่งกว่าหมาบ้าอีก
     
    “ถ้าวันนี้พวกกูไม่เจอมรึงก็คงติดต่อมรึงไม่ได้สินะ” พอไอ้รินพูดมาอีกผมขอเปลี่ยนความคิดเลยครับที่ว่า ไอ้คินน่ากลัวกว่าริน แต่ตอนนี้ไอ้รินน่ากลัวกว่าครับเพราะมันมาแบบนิ่งๆ เลยครับ มรึงอย่าจ้องกูแบบนั้น กูกลัวแล้ว อย่าพึงเอากูไปฆ่าหมกพุ่มไม้นะ   
      
    “ดีนะที่พวกกูรู้มาก่อนว่ามรึงจะเข้าที่นี่ ไม่งั้นคงตามหามรึงแทบพลิกแผ่นดินแน่” คินเริ่มจะงับหัวผมแล้วครับ อย่านะ กูยังไม่อยากติดเชื้อบ้าจากมรึง
     
    “กูว่าพอแล้วมั้ง องศามันจะไม่มีเลือดที่หน้าให้เดินแล้ว” ไอ้คนที่ตอนแรกไม่คิดจะช่วยผม ตอนนี้กลับมาพูดกัดผมซะงั้น หนอย! ไอ้คุณวาโย ไอ้แฝดสองคนได้ทีเลยขำยกใหญ่เลยครับ
     
    “จำไว้เลยนะพวกมรึง” ทีใครทีมันล่ะกันครับ
     
    “องศา มรึงรู้ไหมว่ากูสองคนดีใจแค่ไหนที่สอบติดที่เดียวกับมรึง อ่านหนังสือกันแทบตายคิดว่าจะไม่ติดวิศวสักแล้ว” พอหยุดหัวเราะได้ ไอ้รินมันเลยหันมาพูดแล้วก็ยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน 
     
    “ถ้าไม่มีกูสองคนอยู่ มรึงจะไปซ่าคนเดียวไหวหรอว่ะ” ไอ้คินพูดแล้วก็ตบหลังผมไปทีหนึ่ง ซึ้งเลยครับ ผมเลยเข้าไปกอดพวกมันสองคน นี่สินะที่เขาเรียกว่า เพื่อนแท้
     
    “นี่ก็ 3 ทุ่มแล้วกูว่ากลับหอกันได้แล้วมั้ง เดี๋ยวจะดึกมากกว่านี้” ยังไม่ทันที่จะได้ซึ้งกับไอ้สองแฝดได้เท่าไร ไอ้โยมันก็พูดขึ้นมาแล้วก็ลุกขึ้นฉุด ให้ผมกับไอ้สองแฝดลุกขึ้นครับ ไอ้นี่ตัวทำลายบรรยากาศจริง จะขอซึ้งนานๆ หน่อยก็ไม่ได้ หันไปมองไอ้สองแฝด ก็ขำคิกคักกันใหญ่เลยครับ ขำไรของมันอีกว่ะ
     
     
     
    วายุ’ Talk
     
    ตอนนี้พวกผม 4 คนก็กำลังเดินกลับหอครับ ความจริงจะอยู่นานกว่าก็ได้ แต่ผมชักหงุดหงิดครับมันจะกอดไรกันนักหนา แถมยังคุยกันจนลืมไปเลยมั้งว่าผมก็อยู่ด้วยอีกคน แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรนะครับ ผมเดินนำหน้า 3 คนนั้นขึ้นหอ พอเดินมาถึงห้องผมก็จัดการไขกุญแจห้องทันที แต่พอกำลังจะเดินเข้าไป ก็มีเสียงเรียกผมไว้ก่อน
     
    “เอ้ย...โย ยินดีที่ได้รู้จัก” ไอ้คนที่ชื่อริน หนึ่งในแฝดเพื่อนองศา พูดพลางยิ้มพร้อมกับยื่นมือมาตรงหน้าผม ผมมองหน้ามันสักพักก็ยื่นมือไปจับครับ
     
    “เช่นกัน..ริน”
     
    “โห คนแรกเลยนะเนี่ยที่แยกเราสองคนออกว่าคนไหนเป็นใครตั้งแต่เจอกันครั้งแรก แล้วก็ยินดีที่ได้รู้จักอีกคน” คราวนี้ไอ้แฝดคินก็เอามือมาวางทับมือผมกับมือรินครับ ไอ้รินเลยหันไปยิ้มให้ ไอ้พวกแฝดนี่ก็ไม่เลวครับ ท่าจะเป็นเพื่อนที่ดีน่าจะเข้ากับผมได้ ความจริงผมว่าไอ้สองแฝดนี้มันก็ไม่ได้แยกออกยากอย่างที่องศามันบอกสักนิด แค่คนชื่อริน มันอ่อนโยนแล้วก็สติดีกว่า ส่วนไอ้แฝดคินเนี่ยมันจะกวนตีนแล้วก็ใจร้อนกว่าครับ
     
    “ประสานมือทำไรกันอ่า เล่นด้วยๆ” องศามันเดินมาแล้วก็เอามือวางทับมือพวกผมอีกที แล้วก็หันมาส่งยิ้มทั่วเลยครับ มันคิดว่าพวกผมเล่นไรอยู่เนี่ย ก็แค่จับมือเพื่อมิตรภาพ แต่เอาเถอะถือว่าตอนนี้ผมก็มีเพื่อนอีก 3 คนแล้วกว่าจะเปิดเทอมก็อีกตั้งอาทิตย์นึง อยู่คนเดียวคงน่าเบื่อตาย
     
    “เล่นไรของมรึงองศา เขาจับมือเป็นเพื่อนกันเว้ย” ไอ้แฝดคินมันพูดพลางตบหัวองศาไปทีหนึ่งครับ ฮ่า ฮ่า ตลกหน้าไอ้องศา ทำหน้าอย่างกับโดนควายเชือด
     
    “โห ไรฟ่ะแค่นี้ก็ตบหัวด้วยแล้วกูไม่ใช่เพื่อนหรือไงว่ะ” เอาแล้วไงครับไอ้นิสัยน้องคนสุดท้องเนี่ย กำลังจะเกิดและก็คงจะให้พวกผมง้อแน่ แต่ผมคนนึงล่ะที่ไม่ง้อ
     
    “อ้าว พูดงี้เดี๋ยวกูก็กระโดดเตะให้หรอก ถ้ามรึงไม่ใช่เพื่อนแล้วพวกกูจะตามมรึงมานี่ทำไมว่ะ” ไอ้แฝดคินเถียงกลับเลยครับ พร้อมกับเอาแขนมาล็อกคอองศาเรียบร้อย มีไอ้แฝดรินยืนหัวเราะครับ ผมมองก็ยังอดหัวเราะไม่ได้เหมือนกัน แต่ทำได้แค่ยิ้มครับ เสียฟอร์มหมดไว้สนิทกันมากกว่านี้ค่อยเผยนิสัยจริงๆ ออกมาดีกว่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
     
    “เอ้ย คินพอแล้วไปๆ แยกย้ายเข้าห้องกูง่วงนอนแล้ว เจอกันพรุ่งนี้องศา โย” อยู่ๆ ไอ้แฝดรินก็จัดการลากไปแฝดคินที่กำลังล็อกคอองศาอยู่เข้าห้องเลยครับ ผมก็ งง หันไปมององศามันก็เอาแต่หัวเราะ สักพักมันก็หันมามองหน้าผม แล้วก็ลากเข้าห้องอีกเหมือนกันครับ เหอๆ
     
    “ตลกรินดี เวลาหิว เวลาง่วง มันจะชอบเปลี่ยนเป็นคนละคนอ่า” ได้คำตอบแล้วครับ ไอ้สองแฝดนี่ก็นิสัยแปลกๆ ดีครับ ผมเดินมาที่เตียงแล้วล้มตัวลงนอนคว่ำ ตาก็มององศาเดินไปที่เตียงก็ล้มตัวลงนอนคว่ำเหมือนกัน แต่หันหน้าไปอีกด้านหนึ่ง ผมค่อยๆ หลับตาลง
     
    “โย มรึงหรือกูใครจะอาบน้ำก่อน” ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมององศาที่ตอนนี้ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงแทนแล้ว เจ้านั้นมองผมแล้วก็ยิ้มจนตาหยี น่ารักดีแฮะเหมือนเด็กเลย
     
    “มรึงอาบก่อนแล้วกัน ไหนๆ ก็ลุกขึ้นนั่งแล้วนี่”
     
    “เออ...งั้นกูอาบก่อนก็ได้ มรึงห้ามหลับก่อนนะเว้ย ไม่งั้นกูจับมรึงทุ่มทั้งที่หลับอยู่แน่” ผมหันไปหัวเราะ หึหึ องศามันก็ยักคิ้วให้ผมข้างหนึ่ง เชื้อไม่ทิ้งกันจริงๆ พี่แอนดี้กับองศาเนี่ย กวนตีนเหมือนกันไม่มีผิด แต่องศามันกวนตีนแบบโหดครับ
     
    “เออ...กูไม่หลับก่อนหรอกน่า ใครจะไปหลับลงเหนียวตัวจะตาย” องศามันหันมายิ้มจนตาหยีอีกรอบครับ แล้วก็หันไปถอดเสื้อถอดกางเกง เหลือแต่บ๊อกเซอร์แล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำครับ ผมพลิกตัวนอนหงาย แล้วก็นอนยิ้มอยู่คนเดียวครับ ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ที่แน่ๆ คงเพราะผมได้เพื่อนใหม่ตั้ง 3 คนมั้งครับ
     
     
     
    ผ่านไป 20 นาทีผมก็ได้ยินเสียงน้ำในห้องน้ำหยุดไหลครับ ผมเลยรีบแกล้งหลับสักพักก็มีเสียงเปิดประตูห้องน้ำออกมา ผมรู้สึกเหมือนองศาจะเดินมาที่เตียงของผม เพราะเหมือนมีอะไรเย็นๆ มาจิ้มๆ ที่แก้มผม ผมเลยต้องลืมตาขึ้นมอง แล้วก็ตกใจครับก็หน้าขององศามันใกล้กับหน้าผมมาก
     
    “เอ้ย...เล่นไรว่ะ” ผมรีบร้องก่อนเลยครับ องศามันเอาหน้าออกมาแล้วมองผม ตอนนี้เจ้านั้นก็ใส่แค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวครับแถมยังมีน้ำเกาะอยู่ตามตัวอีกต่างหาก สงสัยพออาบน้ำเสร็จคงเดินมาจะปลุกผมที่แกล้งหลับล่ะสิท่า
     
    “เล่นอะไรของมรึงว่ะ แล้วไหนบอกไม่หลับ ไปๆ อาบน้ำ” องศาฉุดผมลุกจากเตียงแล้ว ไล่ผมให้เข้าห้องน้ำครับ ผมเลยเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำบ้าง องศามันเล่นอะไรแต่ละทีหัวใจจะวายครับ ไม่ไหวๆ




    ...................................................
    *****ขอบคุณทุกคอมเม้นนะค่ะ ถึงจะมีน้อย แต่เซตก็ถือเป็นกำลังใจให้ตัวเองรีบๆ มาอัพตอนต่อไป 
    *****สำหรับอาทิตย์หน้าที่เซตจะไม่อยู่เพราะ เซตต้องไปเป็นเลซองดูแลนักกีฬาต่างชาติ กำลังแอบหวั่นๆ อยู่กลัวทำงานพัง 555+  เพราะเซตก็ไม่ได้เก่งภาษาอะไรมากมาย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×