ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลับสู่ความเหงา

    ลำดับตอนที่ #1 : อ่านสิเดี๋ยวก้อรู้

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 50


    สวัสดี! ความเหงา ยินดีต้อนรับ ความผิดหวัง

           ความรักของเรามันเริ่มต้นจากคำว่า 'เพื่อน' มากลายเป็น 'แฟน' แล้วก็จบลงด้วยน้ำตาและอ้อมกอดของ

    ความเหงา

           เรื่องนี้เริ่มจากที่เราได้รู้จักกับเพื่อนคนนึงมาได้ 2 ปี แต่ในตอนนั้นเราอยู่ตอน ม. 2 ในตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไรกับเค้าคนนั้น เจอกันก็ทักทายกันตามประสาเพื่อน แต่พอได้รู้จักสิค่ะความรู้สึกของเราก็ได้เริ่มเปลี่ยนไปชอบเค้าคนนั้นขึ้นมา มันก็แค่ช่วงเวลาอันสั้นที่เราไปชอบเค้าคนนั้น เพราะในตอนนั้นเค้าก็คงจะมีแฟนอยู่แล้ว

    แต่ก็เอาเถอะค่ะ เพื่อนก็เพื่อน เราได้ใช้คำว่าเพื่อนนี้มาจนถึงตอนปิดเทอมของช่วง ม.3 แล้วตอนนี้เราทั้งคู่ก็กำลังจะขึ้นชั้น ม.4 กัน  ปิดเทอมที่เต็มไปด้วยน้ำตา วันนึงเราเล่น MsN อยู่ที่บ้านของเราพอดีก็ออนไปเจอ mail ของเค้าขึ้นมาเราก็ทักทายเค้าตามประสาเพื่อน เราก้อถามเค้าเกี่ยวกับเรืองเรียนต่อ แร้วอยู่ดีๆเค้าก็ถามชั้นว่า

    "ไปดูนานะ 2 กันไหม? ไม่มีใครไปดูด้วย" เราก็ตอบกลับไปว่า "ไม่รู้ดิ..." เราก็คุยไปเรื่อยๆอ่ะค่ะ จนเข้าเอ่ยปากขอเบอร์เราขึ้นมา ในตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไรกับเค้าเค้าก็ไม่ได้คิดอะไรกับเรา เรา 2 คนก็ยังเป็นแค่เพื่อนกันอยู่ เราก็ได้พิมเบอร์ของเราไป แล้วเราก็บอกเค้าไปว่า "เบอร์เค้าอ่ะเบอร์นี้เรามีแล้ว" เค้าก็ตอบกลับมาแบบขำๆ อ่ะค่ะ มีอยู่วันนึงวันนั้นเป็นวันจันทร์ที่ 26 มี.ค . เราไปข้างที่บ้านเพื่อนเรา เรากะเพื่อนเราก็ชวนกันไปเล่นไอซ์ แถวรัชดา หลังจากเล่นไอซ์เราก็ไปดูหนังกันต่อที่ Major รัชโยธิน หนังที่เราเลือกดูนี้ละค่ะก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เรากับเค้าได้มาเที่ยวด้วยกันเป็นครั้งแรก หนังเรื่องนั้นมันก็คือเรื่อง "300" แรกๆฉันไม่เลือกที่จะดูหนังเรื่องนี้เลย เพราะดูถ้าจะน่ากลัว ต่อพอดูจิงๆแล้ว มันต้องทำให้เรากลับมาดูอีกครั้งจนได้   พอหลังที่เราดูหนังเรื่องจบเรากะเพื่อนเราก็กลับบ้านไป พอไปถึงบ้านเราก็นั่งเล่น MsN ข้ามเวลาระหว่างรอเพื่อนของเราอาบน้ำ

    เราก็นั่งเล่นไปเลื่อยๆอ่ะค่ะ  แต่พอดูเห็น mail ของเค้ากำลังออนอยู่เราก็เค้าไปทักเข้าว่า

    "ไปดูหนังเรื่อง 300 ยัง?" เค้าก็ตอบเรากลับมาว่า "ไปดูมาแล้ว" เราก็เอ่ยปากบอกเค้าว่า "ไปดูกันไหม อยากดูอ่ะ" เค้าก็ตอบเรากลับมาว่า "ยังไงก็ได้ ก็ไปดูกันดิ" เราก็ถามเค้ากลับไปว่า "แล้วจะไปดูวันไหน ดูที่ไหน?"

    เค้าก็ตอบหลับมาว่า "ไปดูวันพุธดิ ดูที่ Major" เราก็ตอบตกลงเค้าไป  แล้วพอดีวันศุกร์ที่ 30 เราต้องไปรับใบประกาศที่ ร.ร. มันก็พอดีเลยหนังเรื่อง "แฝด" ก็เข้าโรงพอดี เราก็ชวนกันไปดูตามเคยอีกอ่ะค่ะ  พออีกสักทักเพื่อนเราอาบน้ำเสร็จเค้าก็ถามเราว่า เราคุยกะใครเราก็ตอบไปว่าเราคุยกะเพื่อนคนนี้  เราก็เอ่ยปากชวนเพื่อนของเราว่าไปดูหนังเรื่อง "แฝด" กันไหม เพื่อนเราก็ตอบตกลงแบบไม่คิด เราก็เข้าไปคุยกะเค้าต่อใน MsN ก็บอกเค้าไปว่า เราชวนเพื่อนเราไปด้วยน่ะ เค้าก็ตอบกลับมาว่า "ก็เอาดิ พาไปดิ" เพื่อนเราเค้าก็เอ่ยปากบ่นว่าอยากเล่นไอซ์อีกเราก็บอกเพื่อนเราไปว่า "งั้นก็ไปดูที่ รัชดาสิ ก็เล่นำอซ์เสร็จก็ไปดูหนังต่อ" เราก็ลองถามเพื่อนเราว่า "ชวนเค้าไปเล่นด้วยน่ะ?" เพื่อนเราก็ตอบกลับเลยว่า "ก็เอาดิ" เราก็เข้าไปบอกเค้าใน MsN

    พอวันต่อมาวันอังคารที่ 27 ก่อนที่จะถึงเวลากลับบ้านของเราเราก็นั่งเล่น MsN ตามเคย แล้วเจอเค้าคนนั้นอีกแล้ว เราก็ยังไม่ได้ทักเค้า แต่เราโทรไปหาเค้าเพื่อที่จะคุยเรื่องดูหนังในวันพรุ่งนี้ เราก็โทไปกี่ครั้งแล้วก็ไม่รู้น่ะค่ะ

    กว่าเค้าจะรับสายเราต้องไปบอกเค้าใน MsN อ่ะค่ะว่าเราโทรไปหาเค้าแล้วบอกให้เค้ารับสายเราด้วย พอเราโทไปรอบตอบไปเค้าก็รับสายเรา เรา 2 คน ตรงเวลาที่จะเจอกัน เรานัดเจอตอนเวลาบ่ายๆ

          * วันนี้มีขึ้นจิง วันพุธที่ 28 ก่อนเวลาที่จะไปดูหนังเราอาบน้ำแต่งตัวรอเวลาที่จะออกไปดูหนังกับเค้า มันยังไม่ถึงเวลาที่จะออกจากบ้านเลยค่ะ เค้าโทรเข้ามาหาเราที่บ้านแต่พอดีเราไม่ใช่คนรับสาย ป้าของเราเค้าเป็นคนรับสาย

    เค้าก้อเลยแกล้งเลี่ยนเสียงเป็นเสียงผู้หญิงแล้วขอสายเรา(มันก็น่า ขำ น่ะค่ะ อยู่ดีๆมาทำเสียงผู้หญิง) พอเรารับสายเค้าก็ถามเราว่า "ตอนนี้อยู่ไหนแล้ว?" เราก็ตอบเค้าไปว่า "ยังอยู่บ้านอยู่เลย" เค้าก็ถามกลับอีกว่า "ทำไมยังไม่ออกอีก?" เราก็ตอบกลับไปว่า "มันยังไม่ถึงเวลา จะรีบออกไปทำไม" เราก็ถามเค้าตอบกลับว่า "แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหนแล้ว?" เค้าก็ตอบเราว่า "อยู่ที่เมเจอร์แล้ว" หลังจากที่เค้าบอกเราว่าเค้าอยู่ที่เมเจอร์แล้ว เราก็รีบออกจากบ้านไปเลย หลังจากออกจากบ้านไปได้ครึ่งทางเราก็โทไปหาเค้าแล้วก็คุยกันตลอดทางไปจนถึงที่เมเจอร์  พอเราถึงที่เมเจอร์เราก็บอกเค้าไปว่า เรารอเค้าอยู่หน้า kfc แต่ในตอนนั้นเค้าไปกินข้าวเราก็เลยถามเค้าไปเรื่อยๆว่า ตอนนี้อยู่ที่ไหนแล้วถามไปจนกว่าเค้าจะเดินมาถึงที่ที่เราอยู่  พอเรากับเค้าได้เจอกันมันก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราก็เดินไปดูรอบหนังแต่พอดีมีหนังเข้าใหม่เราก็เลยเปลี่ยนมาดูเรื่อง 'Mr.bene' แทนเราก็เดินขึ้นไปซื้อตั๋วหนังแต่กว่าหนังจะเข้าก็อีกนานเรากะเค้าก็เดินวนไปวนมาอยู่ในนั้น  อยู่ดีๆเค้าก็พูดขึ้นมาว่า "ตอนนี้ยังไม่มีแฟนยืมเราควงเล่นสักวันน่ะ" เราก็หันไปยิ้มให้เค้าแล้วอยู่ดีๆเค้าก็เอาแขนของเราไปควงกับแขนของเค้า เราก็ยังมาได้คิดอะไรมากคิดไปว่ามันเป็นเรื่องขำๆ ตอนที่เราเดินวนไปวนมารอหนังเข้าเราก็เจอแต่เด็ก ร.ร. เดียวกับเราเรากะเค้าก็พูดขึ้นมาว่า "สงสัยคงคิดว่าเป็นแฟนกันแน่นเลย" เราก็หันไปขำและยิ้มให้เค้า เรากะเค้าก็ยังเดินวนไปวนมาอยู่ที่เดิมตามเคยพอดูนาฬิกาดูท่าว่าหนังคงจะเข้าแร้ว เราก็เดินเอาตั๋วหนังไปให้พนักงานเค้าดู เค้าก็ตอบกลับมาว่า ให้เรารออีกแปะนึง เราก็หันไปขำกับเค้า เราก็เลยไปนั่งรอจนกว่าจะได้เวลาเข้าจิงๆ พอถึงเวลาเราก็เดินเอาตั๋วหนังไปให้พนักงานแต่ก่อนที่จะเข้าโรงหนังเค้าแวะไปซื้อเม้นทอรส แล้วเราเดินไปเข้าโรง ตอนที่อยู่ในโรงเราก็นั่งคุยกันตามประสาเพื่อน แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้อยู่ดีๆมือของเรา 2 คนก็กุ่มมือกันไว้ตลอดจนกว่าหนังจะจบ พอหนังจะจบเราก็ถามเค้าว่า "แล้วกลับยังไง?" เค้าก็ตอบกลับมาว่า "ก็เด๋วนั่งมอไซด์กลับอ่ะ" ก่อนที่เราจะลงบันไดเลื่อนเราหันไปเห็นป้ายโฆษณาหนังเรื่อง "300" เราก็บอกเค้าว่า "อยากดูอ่ะ" เค้าก็ตอบกลับมาว่า "ไม่มีเงินแล้วน่ะ"

    เราก็บอกเค้าไปว่า "ก็กลับไปเอาที่บ้านดิ" เค้าก็เลยพูดขึ้นมาว่า "งั้นให้เราออกให้เค้าไปก่อน เด๋ววันศุกร์นี้เค้าจะออกตังค่าหนังเรื่อง แฝด แทน" เราก็ตอบตกลงเค้าไปแล้วเราก็เดินไปซื้อตั๋วหนังต่อ ตั๋วหนังเรื่องนี้เป็นตั๋วหนังเรื่องแรกที่เราเริ่มเก็บเวลาไปดูหนังกับเค้า พอเราซื้อตั๋วหนังเสร็จเราก็เดินไปเข้าโรงหนัง   แต่ก็เอาเถอะน่ะค่ะรอบนี้เปลี่ยนจากจับมือมาเป็นโอบไหล่เราแทน มันก็ทำให้เราเกิดความรู้สึกที่ดีกับเค้าขึ้นมา เราก็หนังดูหนังกันเหมือนกับว่าเรามานั่งดูกับแฟน พอนั่งจบเราก็แยกย้ายกันกลับบ้านเค้าก็เดินข้ามสะพานลอยไปส่งเราขึ้นรถกลับบ้าน พอเราบ้านได้สักพักเราก็โทไปหาเค้าแล้วคุยกันต่อเกี่ยวกับเรื่องที่จะดูหนังต่อในวันศุกร์ แต่ตอนที่เราโทรไปเหมือนกลับว่าเค้ากำลังเรียนพิเศษอยู่  เค้าก็เลยพูดขึ้นมาว่า "เด๋วเค้าเรียนเสร็จเด๋วเค้าโทไปน่ะ" ก่อนที่เค้าจะโทรมาเราก็โทรไปนัดเพื่อนๆที่จะไปด้วย แร้วพออีกสักพักเราก็โทไปที่เครื่องเค้าเค้ารับแต่ทำไมถึงไม่ได้ยินเสียงเค้า  เค้าก็เลยใช่โทรศัพท์พี่ที่สอนพิเศษโทรกลับมาหาเราแล้วบอกเราว่า โทรศัพท์มันเสีย เด๋วเค้าเรียนเสร็จแล้วเด๋วเค้าโทรไปหาใหม่น่ะ  หลังจากที่เค้าว่างไปเราก็โทรไปนัดเวลากับเพื่อนๆต่อ พอถึงเวลาที่เค้าเลิกเรียนเค้าก็โทรเข้ามาที่บ้านของเรา เราก็คุยกันไปเลื่อยๆคุยกันไปคุยกันมาเหมือนกับว่าเค้าจะพูดว่า "เราเป็นแฟนกันน่ะ" พอเค้าพูดคำนี้เราก็บอกเค้าไปเลยว่า แล้วจะให้เพื่อนๆเรารู้ไหม? เราก็แกล้งถามเค้าไปว่า "แล้วเค้าจะกล้าบอกไหม?" เราก็บอกเค้าไปว่าอย่างเพิ่งไปบอกเพื่อนเราน่ะ  ( เอาเถอะค่ะเกมส์เริ่มเดินแล้ว) เราก็คุยกันไปเลื่อยๆจนเรารู้สึกง่วงนอนแล้วขอเค้าไปนอนก่อน...

                  *เพื่อนๆจะรู้กันไหม? เช้าวันที่ 30 ก่อนที่เราจะไปอาบน้ำเค้าก็โทรมาหาเราถามว่า เราตื่นรึยัง? เค้าก้อบอกอีกว่าเด๋วเราไปเจอกันที่ สนามเด็กเล่นที่ ทบ. น่ะ พอว่างสายเราก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวและโทรตามเพื่อนที่จะไปด้วยกัน พอไปถึง ร.ร. เราก็เดินไปหาเค้าที่สานมเด็กเล่นตามที่เค้าบอกเรามา พอเราเดินไปถึงที่นั่นไม่มีเค้าอยู่ เราก็เลยถามเพื่อนๆเค้าว่า "เห็นเค้าไหม?" เพื่อนเค้าก็ตอบมาว่า "ไม่เห็นเลย" เราก็เลยโทรไปหาเค้ามันก็โทรไปไม่ติดสักกะที เจอเพื่อนเค้าแต่ละคนเราก็ถามว่าเห็นเค้าไหม? แต่ละครก็บอกว่า "ไม่เห็นเลย" เราก็โทรไปหาเพื่อนๆของเราแล้วถามว่าพวกเพื่อนๆเราอยู่ที่ไหนกัน? พวกเค้านั่งกินข้าวกันอยู่ที่สูญอาหารเรากะเพื่อนเราก็เลยเดินขึ้นไปหาเพื่อนๆ พอไปถึงที่เราก็โทรไปหาเพื่อนอีกคนว่าอยู่ที่ไหนแล้วเค้าก็บอกให้เราไปหาเค้าที่บ้าน (แต่พอดีตอนนั้นขี้เกียด) เราก็เลยไม่ไปหาเพื่อนที่บ้าน เราก็ลองโทรหาเค้าอีกครั้งมันก็โทรไม่ติดสัก พอถึงเวลาที่จไปเอาประกาศเรากะเพื่อนๆก็จะเดินไปเอาใบประกาศที่ ร.ร. แต่ก่อนจะออกจากสูญอาหารเราได้บอกเพื่อนอีกคนนึงว่าให้ไปทางสนามเด็กเล่น เผื่อเราอาจจะเจอเค้า พอไม่ถึงสนามเด็กเล่นก็ไม่จอตัวเค้า เราก็เลยเดินตรงไป ร.ร. เลย

    แม้แต่ไปถึงที่ ร.ร. เรายังไม่เจอเค้าเลย เราก็ไปหาเพื่อนเรา(คนที่จะไม่ดูหนังด้วย) เราก็โทไปหาเพื่อนของเรา

    แล้วบอกกับเพื่อนเราว่า ยังไม่เจอเค้าเลย...เราก็บอกเพื่อนไปอีกทีว่า ถ้ามีอะไรคืบหน้าเด๋วโทไปหาใหม่น่ะ

    เราก็ลองโทรไปเบอร์ที่เค้าโทหาเมื่อคืน(เบอร์พี่ที่สอนพิเศษ)พี่ที่สอนพิเศษเค้าบอกกกะเราว่าเด๋วพี่จะโทรตามให้เด๋วพี่โทรกลับ เราก็นั่งรอโทรศัพท์สักพักแล้วพี่เค้าก็โทรกลับมาบอกว่า "เด๋วเค้าโทรไปหาน่ะ เจอตัวแล้ว"

    เค้าก็โทรมาหาเราแล้วถามว่าเราอยู่ที่ไหน "เราก็บอกเค้าไปว่าอยู่ที่สูญอาหารแล้วเค้าอยู่ที่ไหนหล่ะ?"

    เค้าก้อบอกชั้นว่า "ตอนนี้อยู่ที่หน้าโรงพยาบาลวิชัยยุทธ กำลังจะไป" เราก็บอกเค้าไปว่า "ไม่ต้องไปไหนอ่ะเด๋วลงไปหา" พอเราออกจากสูญอาหารเราก็โทหาเค้าเค้าก็บอกว่าเค้าอยู่ตรงหลืบ(ไม่สามารถบอกได้ว่าเค้าไปทำอะไร) เราก็เลยบอกว่า ให้เค้าเดินออกมา เราก็เดินไปหาเค้าแล้วถามเค้าว่า "จะไปยัง?" เค้าก็ตอบเราว่า "ก็ไปเลยดิ แร้วเพื่อนเราอ่ะ?" เราก็บอกเค้าไปว่าเพื่อนมันไม่มาเด๋วเราค่อยไปหาที่บ้าน เค้าก็พูดขึ้นมาว่า    

    "เด๋วขอกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดก่อนได้ไหม?" เราก็ตอบไปว่า "ก็ไปดิ" เราก็เดินไปเรียกรถ taxi ไปบ้านเค้า

    ระหว่างที่อยู่ในรถเราก็ได้พูดอะไรกันมากหรอกค่ะ เพราะยังมีเพื่อนของเราอีกคนนึงไปด้วย พอไปถึงระแวกซอยบ้านเค้า เราก็แกล้งพูด "เด๋วจะจำทางไว้เด๋ววันไหนจะได้มาหา" พอถึงที่บ้านเค้าเค้าบอกให้เรารออยู่ในรถแปะนึงเด๋วเค้าจะเข้าไปเปลี่ยนชุด เค้าก้อเดินมายืมโทรศัพท์เพื่อนเราโทรเข้าบ้านเพราะว่าเค้าเข้าบ้านไม่ได้ คงอาจจะไม่มีกุญแจมั่งค่ะ เค้าก็เลยปิดเข้าบ้านเลยซะงั้น...แล้วกว่าเค้าจะออกมาได้นานมากๆ(ไปเปลี่ยนชุดหรือไปทำอะไร?) เราก็เลยยืมโทรศัพท์เพื่อนโทไปหาเค้า แต่พอดีเค้าออกมาพอดี แล้วเราก็นั่งรถไปต่อที่ ราชวัตร ในตอนที่อยู่ในรถเค้านั่งหลับ เราก็ลุกไปดูหน้าเค้าเวลานอนแล้วเราก็บอกกับเพื่อนเราว่า "เค้าหลับอ่ะ" พอใกล้ๆจะถึงเราก็โทรไปหาเพื่อนของเราอีกคนเราถามเค้าว่าเค้าอยู่ไหนเค้าบอกว่ารอแม่อยู่เด๋วจะไปซื้อคอนแทคเลนส์  เพื่อนเราบอกให้เราไปรอที่ร้านแว่นท๊อปเจริญ พอใกล้ถึงร้านแว่นเราก็ไปปลุกเค้า ใช้ขะเยบจากที่นั่งแล้วเอื้อมมือไปตบที่หน้าเค้าเบาๆ (555+แก้มเค้านิ่มมาก) แล้วเค้าก็ตื่นขึ้นมาเราก็บอกเค้าว่า "จะถึงแล้วน่ะ" เค้าก็ยังยัวเงียอยู่...

    พอถึงที่ร้านแว่นเราเค้าไปนั่งรอเพื่อนเรากว่าเค้าจะเล่นสะจะหลับเลยค่ะ มันนานมากก...พอเพื่อนมาถึงซื้อคอนแทคเสร็จเราก็บ่นวว่า "หิวข้าว" เค้าก็บอกว่า "งั้นไปกินก๋วยเตี๋ยวกัน" แต่ก็เอาเถอะค่ะพอไปถึงร้านกว่าจะกินมันทำให้เราต้องพูดขึ้นมาว่า "เด๋วไปช่วยทำไหมค่ะ 555+" แต่ตอนจ่ายเงินน่ะค่ะเรากะเพื่อนเราอีกคนนึงไม่จ่ายเราบอกให้เค้ากับเพื่อนเราอีกคนนึงจ่าย เพราะขามาที่นี้เราก็จ่ายค่ารถไปแล้ว แล้วกว่าเพื่อนอีกคนนึงจะมาก็ปล่อยให้รอตั้งนานเราก็เลยบอกให้เค้าจ่ายชดเชย พอจ่ายเงินเสร็จก็เดินไปขึ้นรถ taxi ไป รัชดา ตอนอยู่ในรถน่ะค่ะเพื่อน 2 คนก็แอบกระซิบกันค่ะว่า "ดูซิ! หวานกันจัง" เราก็แอบโกรธเพื่อนๆนิดนึงน่ะค่ะ  แต่ก็เอาเทอะค่ะเพื่อนกัน พอใกล้จะถึงก็เริ่มแชตังค่ารถกันแหละออกคนละประมาณ 20 กว่าบาทอ่ะค่ะ พอไปถึงที่ยามที่ห้างขอตรวจกระเป๋าของเค้า เราก็พูดขึ้นมาว่า "จะตรวจทำไมไม่เอาระเบิดวาหลอก 555+" เราก็ขึ้นไปดูรอบหนังกันค่ะกว่าจะได้ดูก่อตั้ง 17.30 น. อ่ะค่ะ เวลาที่เหลือก่อนจะดูหนังก็ไปเล่นไอซ์  พอขึ้นไปถึงชั้นไอซ์พนักงานบอกว่าชุด นร. เข้าไม่ไดน่ะค่ะ เราก็ไม่รู้สิค่ะ...เค้าก็บอกให้เราไปเปลี่ยนชุดเค้าก็ยื่นเสื้อของเค้ามาให้เราบอกให้เราเอาไปเปลี่ยน แล้วให้เพื่อนเราอีกคนนึงเอาเสื้อหนาวเราไปใส่  เค้าก็บอกว่าไปเปลี่ยนมาน่ะเด๋วเจอกันข้างใน เรากะเพื่อนเราอีกคนนึงก็เลยเดินไปห้องน้ำจะได้ไปเปลี่ยนชุดเราก็เข้าไปเปลี่ยนน่ะค่ะ พอเราเปลี่ยนเสร็จเราก็บอกให้เพื่อนเราอีกคนไปเปลี่ยน เพื่อนเรามันก็บอกว่าไม่เล่นแล้ว เด๋วค่อยมาเล่นวันหลัง เราก็ไม่รู้จะทำยังไงก็เลยต้องเปลี่ยนชุดออกแล้วมาอยู่เป็นเพื่อนเพื่อนของเรา  เรากะเพื่อนเราก็เดนเล่นอยู่ในห้างนั้น ข้ามเวลาที่เค้ากับเพื่อนเราเข้าไปเล่นไอซ์  พอใกล้ที่จะถึงเวลาดูหนังอีกประมาณสัก 10-15 นาที ที่หนังจะเข้าเราก็โทรตามเค้าให้ลงมาได้แล้ว เพราะมันใกล้ถึงเวลาดูหนังแล้ว เค้ากลับเพื่อนเราก็ลงมาแล้วก็เดินไปซื้อบัตรกัน ก่อนหนังจะเข้าโรงเราก็ไปซื้อของกินจกๆจิกๆ

    เพื่อนเราก็ยังแกล้งเราตามเคย(555+) มันแกล้งทำเป็นไม่คุยด้วย(ซะงั้นอ่ะ) พอหนังเริ่มฉายไปได้ครึ่งเรื่องผีก็เรื่มออกเราก็กลัวเค้าก็กลัวเพื่อนเราก็กลัว เพื่อนเรา 2 คนก็นั่งติดกันแล้วปล่อยให้เรานั่งกะเค้า 2 คน (แต่มันก็ดีน่ะ)

    วันนั้นเราได้เอาเสื้อหนาวไปด้วยทุกๆครั้งที่จะไปดูหนังเพราะในโรงอากาศแอบหนาวน่ะค่ะ เค้ากะเราก็แอบจับมือกันใต่เสื้อกันหนาว ซึ่งเพื่อนๆเราอาจจะรู้ก็ได้ บางตอนที่ผีออกเราก็เอาหัวซุกลงใต้เสื้อหนาวของเราทั้งคู่

    เราเสียตังเข้าไปดูถ้าว่ามันจะไม่คุ่มกะหนังเรื่องนี้สักเท่าไหร่หลอกค่ะ...แต่หนังก็สนุกดี ดูแล้วหลอน...

    หลังจากหนังจบเราก็ต้องลงกันว่าจะไปรอแม่ของเพื่อนมารับที่เมเจอร์  เราก็นั่งรถแท็คซี่ไปที่เมเจอร์พอไปถึงเราก็ไปเดินเที่ยวกันที่ตลาดนัดเมเจอร์ เค้าก็พาไปร้านเสื้อประจำของเค้า เค้าไปซื้อเสื้อมาได้ตัวนึงแล้วก็เดินต่อไปเลื่อยๆพออีกสักพักเค้าก็ขอตัวกลับก่อน แล้วเรากลับเพื่อนๆก็ไปร้องคาราโอเกะกัน เรากะเพื่อนอีกคนไม่ได้ร้องน่ะค่ะ ให้เพื่อนอีกคนนึงร้อง พอถึงเวลาที่แม่ของเพื่อนมารับเราก็กลับกัน ตอนอยู่ในรถเค้าก็โทรมาหาเราแล้วถามเราว่า "จะถึงบ้านยัง?" เราก็ตอบกลับว่า "ยังไม่ถึงเลย เด๋ววางก่อนน่ะแบตจะหมดอ่ะเด๋วเราถึงบ้านเรายิงไปหาน่ะ พอเราถึงบ้านเราก็อาบน้ำแล้วก็ยิงไปหาเค้าอีกสักพักเค้าก็ใช้เบอร์บ้านโทรกลับมาหาเรา หลังจากนั้นเรากะคุยกันทุกวันทุกคืน วันจันทร์ที่ 2 เม.ย วันนี้เค้าโทรมาหาเราแต่เช้าเค้าบอกว่า "เด๋วเค้าจะไปสอบเตรียมทหารแล้วน่ะอวยพรหน่อยสิ" เราก็บอกเค้าไปว่า "ทำให้ได้อ่ะกัน" แต่ตอนนั้นที่เค้าโทมาเรายังสะลึมสะลืออยู่

    วันนั้นเกือบทั้งวันที่เราไม่ได้คุยกะเค้า เพราะเค้าต้องไปสอบ จนถึงเวลาประมาณ 5-6 โมงเย็นเราก็โทไปหาเค้าเราถามเค้าว่า "ทำข้อสอบได้ไหม?" เค้าก็ตอบกลับมาว่า "ทำได้สิ" แต่พูดถึง ร.ร.ในตอนนั้นเรากะเค้าได้แยกกันอยู่คนละ ร.ร. เค้าก็อยู่ที่เดิมแต่เราต้องย้ายที่ไปเรียนที่เซนต์จอห์น เราก็รู้น่ะค่ะว่าเค้าเป็นห่วงเค้ายังบอกเลยว่าถ้ามีใครมาขอเบอร์ให้เราให้เบอร์เค้าไป แต่เรื่องดูหนังนี้เรากะเค้าดูบ่อยมากที่เราไปดูกันก็มีเรื่อง 300,แฝด,มะหมา,MR.&MRS. NORBIT (ยังมีอีกค่ะ) หนังแต่ละเรื่องที่เข้าเรา 2 คนแทบจะไม่พลาดที่ไปดูกัน แต่บางทีเราก็ไม่ต้องเจอกันโดยการดูหนังก็ได้บางทีเค้าก็จะมาหาเราที่บ้าน ในช่วงเทศกาลสงกานต์เรา 2 คนไม่ได้ไปเล่นน้ำด้วยกันหลอกค่ะ เค้าก็ไปเที่ยวกับที่บ้าน เราก็ไปกะเพื่อน มีอยู่วันนึงที่เราไปเล่นเราเจอคนเข้ามาขอเบอร์เราก็ไม่รู้จะทำไงเราก็เลยกดเบอร์ของเค้าให้ไป ก็ที่เค้าได้บอกเราไว้ไงค่ะว่าถ้ามีคนมาขอให้ๆเบอร์เค้าไป แต่วันสุดท้ายของเทศกาลเราก็ไปเล่นกับเพื่อนๆตามเคยเราเจอคนมารวนรามเราแต่ก็ยังดีน่ะค่ะที่พี่ๆที่เรารู้ช่วยเราไว้ทัน

    ถึงแม้เป็นเทศกาลสงกานต์เถอะค่ะเราอยู่ห่างยังไงเค้าก็โทมาหาเราทุกคืนแต่ส่วนมาที่เค้าโทรมาก็จะเจอว่า

    เราหลับแล้ว เรื่องที่เราถูกรวนรามเราเอาไปเหล่าให้เค้าฟังเค้าก็พูดว่า "บอกแล้วก็ไม่เชื่อเห็นป่ะหล่ะปีหน้าต้องไปเล่นกับเค้าน่ะ เค้าไม่อยากให้เราไปคนเดียว" หลังจากเค้าพูดจบเราเอ่ยปากขอโทดเค้า แล้วหลังจากที่เทศกาลนี้จบไปเราทั้ง 2 ก็ยังคุยกันตลอดทั้งวันทั้งคืน แม้ว่าจะโทรติดหรือไม่ติดเค้าก็จะพูดกับเราเสมอว่า "คิดถึงน่ะ"

                  *ได้เรียนที่เดียวกันแล้ว! ดีใจจัง! วันจันทร์ที่ 23 เม.ย.ก่อนที่จะคบ 1 เดือนของเรา ได้มีข่าวดีจากเพื่อนเราว่า เราได้เรียนอยู่ที่เดิม พอเรารู้ข่าวเรารีบโทรไปหาเค้าเลยว่า เราไม่ต้องย้าย ร.ร. แล้ว พอเค้าได้ยินข่าวนี้เค้าดีใจมาก ...แล้วเค้าก็ถามขึ้นมาว่าอยู่ที่ไหนแล้ว คือว่าเรานัดกันจะไปดูหนังเรื่อง "me mysell" เราก็บอกเค้าไปว่า "เรากำลังแต่งตัวอยู่" แล้วเราก็ขอเค้าไปแต่งตัวต่อ... พออีกสักพักเค้าก็โทรมาแต่เพื่อนเค้าพูดว่า วันนี้ขอตัวเค้าวันนึงได้ป่าว? แรกๆเราก็ไม่ยอมหลอกค่ะ เราเถียงกับเพื่อนเค้าสุดๆค่ะ เราก็ขอคุยกับเค้าเราก็บอกเค้าว่าเราแต่งตัวเสร็จแล้วแล้วกำลังจะออกจากบ้านไปหาเค้าที่ ทบ. เราก็ขึ้นรถ taxi ไปหาเค้าที่ ทบ. พอเราถึงเราก็ถามเค้าว่า "เค้าอยู่ที่ไหน?" เค้าก็ตอบกลับมาว่า "เค้าอยู่ที่สนามบาส" เรากำลังจะเดินไปสนามบาสก็มีเพื่อนอีกกลุ่มตะโกนมาว่า "พวกเพื่อนๆรออยู่ที่สูญอาหาร" เราก็บอกเค้าว่าเด๋วไปหาเพื่อนๆก่อนและเราก็บอกไปอีกว่าให้เค้ามาหาเราที่สูญอาหารรึกัน เราก็เดินไปหาพวกเพื่อนๆที่สูญอาหารเราไปคุยตามประสาเพื่อนอ่ะค่ะ พอสักพักเค้าก็มาหาเราที่สูญอาหาร เค้าก็ขอเราว่าวันนี้ให้เค้าไปกับเพื่อนเค้าเถอะ แรกๆก็ไม่ยอมอยู่ตามเคยค่ะ จะให้ทำไงได้ก็ให้เค้าไปกับเพื่อนเค้าอ่ะค่ะ เพราะตัวเค้าเป็นคนพูดเองเลยว่า "พรุ่งนี้เค้าให้เราทั้งวัน" เราก็เลยต้องเลื่อนวันดูหนังไป วันอังคารที่ 24 เม.ย. ใกล้จะคบ 1 เดือนเข้ามาทุกที วันนั้นเราไป ร.ร. ไปเรียนปรับพื้นฐานเราโดนอาจารย์เชิญ

    ผู้ปกครองมา ร.ร. ก็เรื่องผมของเราสิค่ะ เราก็ไปบอกเค้าว่าเราโดนเชิญผู้ปกครองเค้าก็บอกเราว่าก็บอกแร้วให้ทำผมมันให้ดีๆซะ พอถึงเวลาเลิกเรียนเราโทไปหาเค้าเค้าบอกว่าเด๋วอีกสักพักพ่อมารับ (ตามที่เค้าบอกเราไว้ก่อนแร้ว) เราก็บอกเค้าไปว่า ถ้าถึงเมเจอร์ก็โทมาน่ะ พออีกสักพักนึงเราโทไปถามว่าเค้าอยู่ที่ไหนเค้าก็บอกว่า"กำลังรอรถอยู่" เราก็ถามกลับว่าแล้วพ่อไม่มารับแล้วหรอเค้าก็ต่อกลับว่า ไม่มาแล้ว เราก็นั่งรถกลับบ้านไปเก็บของที่บ้านก่อนแล้วเราก็โทไปหาเค้าต่อเค้าบอกว่าให้เราออกไปได้แล้ว ตอนนี้อยู่แถวบ้านเราอ่ะ เราก็เดินออกไปหาเค้า เค้าก็พาเพื่อนเค้าไปดูหนังด้วยเราก็รู้สึกแปลกแต่ก็ไม่ว่ากัน เพราะยังไงเพื่อนเค้าก็เคนเป็นเรามาก่อน เค้าบอกว่าเค้าต้องไปหาพี่สาวเค้าก่อนต้องไปหาแถวสวนจตุจักรเราก็ต้องนั่งรถไปเค้าหละค่ะ พอถึงที่ที่เค้าจะไปหาพี่สาวเค้าเราก็ลงจากรถกันแล้วก็ต้องข้ามสะพานลอยไปหาพี่สาวเค้า แต่ไอตอนขึ้นสะพานสิค่ะเค้ากะเพื่อนเค้าก็เดินแบบเกย์เราเห็นเราก็ขำสิค่ะ พอถึงที่เค้าก็เข้าไปหาพี่ของเค้าเรากะเพื่อนของก็เดินตามเค้าไปหาพี่สาวเค้า เราเจอพี่สาวเราก็ยิ้มให้เค้า พี่สาวเค้าก็ยิ้มให้เรา พอหมดธุระของเค้ากะพี่สาวเค้าเราก็นั่งรถไปเซ็นทรัล พอถึงที่เราก็ไปชั้นหนังดูรอบหนังก่อน แต่พอดีหนังฉายไปได้สักพักเราก็ต้องซื้อตั๋วเค้าไปดูค่ะ เพราะต้องรีบกลับ หนังเรื่องนี้คนดูกันเต็มโรงเลยค่ะ  มีอยู่ฉากนึงที่นางเอกถามพระเอกว่า "แทนยังรักอุ้มอยู่ไหม? ยังรักอุ้มอยู่รึป่าวแทน?" (ชื่อพระเอกกับนางเอก) ฉากนี้ค่ะที่ทำให้เรากับเค้าร้องไห้ในร้อง เค้าเอามือจองเค้าตาเช็ดน้ำตาเรา มันทำให้เรามั่นใจว่าเค้ารักเรา

    เราก็คุยกันในโรงหนังว่า "จะมาดูเรื่องนี้อีกรอบ" พอหนังจบเราก็แกล้งถามเค้าว่า "เค้ายังรักเราอยู่รึป่าว?''

    คำตอบนี้ยิ่งทำให้เรามั่นใจมากยิ่งขึ้นว่า เค้ายังรักเราอยู่ พอหนังจบเค้าก็ยังจะเดินถ้าเกย์กับเพื่อนเค้าอีกมันยิ่งทำให้เราขำ (555+) แต่เค้าก็ต้องรีบกลับไปที่ๆพี่สาวเค้าอยู่เราก็เลยบอกเค้าว่า "มันเป็นทางผ่านก็กลับด้วยกันซิ?''

    ส่วนเพื่อนๆเค้าทั้ง 2 คนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน เรา 2 คนก็เดินข้ามฝากไปเรียกรถ taxi เพื่อที่จะกลับบ้าน

    พอถึงที่ๆพี่สาวเค้าอยู่เค้าบอกเราก่อนจะลงจากรถว่า "กลับบ้านดีๆน่ะ ถึงบ้านแล้วยิงมาด้วยน่ะเด๋วเค้าโทรกลับ"

    เราก็แกล้งพูดไป "ใครเค้าจะมาชุ่ด" เค้าก็หันมายิ้มและโบกมือบ๊ายๆ เค้าทำแบบนี้ประจำทุกครั้งที่ไปส่งเรา

    หลังจากที่เราทิ้งบ้านเราก็โทรหาเค้ารายงานว่าเราถึงบ้านแล้ว เค้าก้อมีพูด"ถึงบ้านเล่นจัง" เราก็ตอบกับไปว่า

    "ก็รถไม่ได้ติดนิ" เค้าก็บอกว่า "เด๋วเค้ากลับถึงบ้านแล้วเด๋วเค้าโทรไปน่ะเวลสก็ผ่านไปจนดึกมากๆแล้วเราคิดทำไมเค้ายังไม่โทรมาสักที เราก็ตัดสินใจโทรไปตอนนั้นกำลังอยู่บนรถกำลังจะไปกินข้าวกะที่บ้าน พอดึกอีกสักน่อยเราก็โทไปหาเค้าอีกเค้า เค้ากำลังกินข้าวกะที่บ้านอยู่เราไม่คุยอะไรมาก พอดึกกว่านี้เราก็ส่งข้อความไปเครื่องเค้า หลังจากวันนั้นเราก็ยังคุยกันมาปกติเหมือนเดิม มีอยู่คืนนึงที่เค้าบอกกับเราว่า "พ่อเค้าไปดูดวงให้กับเค้าเค้าบอกว่า เค้าค้องระวังเรื่องโดนผู้หญิงหลอก ผู้หญิงที่จะหลอกเค้ามีลักษณะที่เค้าบอกแบบนี้ ขาว ตัวบางๆ"

    อยู่ดีเค้าก็ขำว่าไอ้ตัวบางๆนี้ไม่ใช้เราเลย เอาเทอะค่ะมันใกล้จะถึงวันนั้นแล้ว...

                            *มันเกดขึ้นมาแล้ว (T_T) วันเสาร์ที่ 28 เม.ย. เ วันก่อนที่เราจะคบ 1 เดือน ในตอนนั้นตัวเรารู้สึกมัอะไรแปลกลึกๆในใจ คืนนั้นเราเล่น MsN แล้วเจอเค้า เราก็คุยกะเค้าไปเลื่อยๆก่อนจนเราทนไม่ได้ที่ต้องถาม เราบอกเค้าไปว่า "เรารู้สึกแปลกๆเหมือนกลัวอะไรสักอย่าง" เค้าก็ถามเรากลับว่า "เรากลัวอะไร?"

    เราก็บอกเค้าไปว่า "กลัวเรื่องที่ไม่อยากให้เกิดมันเกิดขึ้นมาอ่ะสิ เรากลัวว่าเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอด"

    แล้วเค้าก็ถามเราว่า "แล้วเรารักเค้าที่ตรงไหน?" เราก็ตอบไปว่า "เรารักเค้าที่เค้าป็นตัวของตัวเอง"

    แต่เราถามไปยังไงเราก็ไม่สบายใจ เราก็เลยถามเค้าตรงไปเลยว่า "เค้ามีคนอื่นอยู่รึป่าว?"

    เค้าตอบกะเราว่า "แฟนเก่าเค้า(คนที่ทิ้งเค้าไป)มาขอเค้าคืนดี"เราก็บอกเค้าน่ะค่ะว่า "ถ้าเค้าอยากไปก็ไปเถอะเราไม่โกรธ เราเข้าใจดี ถ้าใจของเค้ายังมีให้กับแฟนเก่าของเค้ามากกว่าเรา"

    พอเรารู้เรื่องนี้น่ะค่ะเราก็ทำอะไรไม่ถูก ร้องไห้ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ จนใครๆเค้าก็พูดกันว่า "เรื่องยั่งงี้เราก็เคยเจอมาแล้วแต่ทำเราไม่ชินกับเรื่องแบบนี้สักที"

    แต่ข้างในลึกๆเราก็ต้องทำใจ ว่าคำตอบจากเค้าจะเป็นใคร คืนนั้นเราก็โทไปหาเค้าเราร้องไห้แบบพูดอะไรไม่ถูกก่อนที่จะโทไปคุยกับเค้า เราก็ถามเค้าว่า "แฟนเก่ามาขอคืนดีนานยัง?" เค้าก็ตอบว่า "มันก็ได้สักพักแล้ว"

    เราก็บอกเค้าไปว่า "ทุกปัญหามันต้องมีทางแก้" แต่เค้าสับสนจนเค้าจะหนีไปกับทุกสื่งทุกอย่างรวมทั้งตัวเรา

    เราเห็นเค้าไม่สบายใจอย่างนี้ลึกๆของเราคิดว่า  "มันคงถึงเวลาที่เราต้องไปสักที" แต่ถึงแม้ว่าลึกๆเราจะคิดแบบนั้นแต่เราก็ยังฝันลมๆแรงๆ ว่ามันต้องมีความหวัง  คืนวันนั้นเราก็ไม่ได้คุยอะไรกับเค้ามากก่อนเค้าจะว่างเราก็บอกเค้าไว้ว่า "อย่าไปคิดมาก"

    เค้าก็บอกว่า "ขอนอนก่อนน่ะพรุ่งนี้ต้องไปหาหมอ" หลังจากเราว่างสายจากเค้าไปเราก็นั่งร้องไห้ อยากจะนอนก็นอนไม่หลับ ในหัวก็มีแต่เรื่องนี้

                              *เรื่องของเรามันจบแร้วจิงหรอ? (T_T)  เช้าวันที่ 29 เม.ย. วันที่เราคบ 1 เดือนเต็ม

    เราก็โทรไปหาเพื่อนของเราเพื่อปรึกษาเรื่องนี้ ระหว่างที่เราคุยกับเพื่อนเราก็โทรเค้าหาเค้าด้วยเราก็ถามตามปกติ

    ว่า "ตื่นรึยัง ทำไมยังไม่ไปหาหมอ" เราก็ไม่กล้าที่จะคุยอะไรกับเค้ามากสักเท่าไหร่  คุยได้สักพักเค้าก็บอกว่าขอไปนอนต่อ  พอถึงตอนกลางคืนเราก็โทรไปหาเค้าเราโทรเพราะเราอยากคุยกะเค้า เหมือนกับว่าเรารักเค้าจนไม่อยากให้เค้าไปจากเรา ระหว่างที่คุยกันเค้าก็รู้ว่าเร้าร้องไห้ เค้าก็พูดขึ้นมาว่า "อย่าร้องไห้เหอะ ...หยุดร้องได้แล้วแหละ" เราก็พยายามน่ะค่ะที่จะหยุดร้องไห้แต่เราก็หยุดไม่ได้สักที จนเค้าพูดขึ้นมาว่า "เด๋วเค้าโทไปหาใหม่น่ะ ไปทำงานก่อนน่ะแม่เรียกแล้ว หยุดร้องไห้ได้แร้วน่ะ '' เราต้องกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหล่ตลอดเวลาที่เราคุยกะเค้า

    แต่มันก็ทำไม่ได้หลอกค่ะ ถึงแม้ว่าเรายังรู้คำตอบเลยน่ะค่ะ  เอาเทอะค่ะอะไรมันจะเกดมันก็ต้องเกิดใช่ไหมค่ะเราห้ามอะไรมันไม่ได้

                             *เราจะกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนได้รึป่าว? (T_T)  เช้าวันที่ 30 เม.ย.  จากวันนั้นจนถึงวันนี้และปัจจุบันนี้เราก็นอนไม่หลับสักที    จนมาถึงวันนี้ เราก็ได้รู้คำตอบ เค้ากลับไปหาแฟนเก่าของเค้า  เรื่องแบบนี้มันไม่มีใครถูกใครผิด เราคิดว่าเค้าทำถูกด้วยซ้ำ เช้าวันนั้นก่อนที่เราจะรู้ทำต่อเราโทไปหาเพื่อนของเค้าเราร้องไห้ไม่สบายใจ แต่เราก็ต้องขอบคุณๆเพื่อนเค้าน่ะ ที่เป็นกำลังใจให้เราส่วนนึง  ก่อนที่เราจะโทไปหาเพื่อนของเค้าเราก็โทรไปหาเค้าก่อนแต่เค้ายังไม่ตื่นเลย พอดีเราโทไปเพื่อนเค้าเป็นคนรับ เพื่อนเค้าบอกว่าเค้ายังไม่ตื่นเลย  เราก็เลยว่างสายไปก่อน แล้วเราค่อยโทไปหาเพื่อนเค้าอีกคน เราก็บอกเค้าว่า  "เค้ายังไม่ตื่นเลย" เราก็ต่อสายให้เพื่อนเค้าไปคุยกะเพื่อนเค้าอีกคนนึง เค้าก็คุยกันไปๆมาๆค่ะ เราก็นั่งฟังไปร้องไห้ไปแต่พวกเค้าไม่ได้พูดถึงเรื่องของเรา

    เพื่อนเค้าคนนึงก็บอกว่าให้ไปปลุกเค้าได้แล้ว แล้วอีกสักพักเค้าก็ตื่นแล้วมาคุยกับเพื่อนของเค้า แต่เราก็ไม่รู้ว่าเค้ารู้รึป่าวว่าเราอยู่ในสายด้วย เค้ากับเพื่อนเค้าก็นัดกันว่าจะไปเจอกันที่ ทบ. ตามเคย พอเค้าคุยกันจบเค้าก็ว่างสายไปเหลือให้เราคุยกะเพื่อนเค้า เพื่อนเค้าก็ได้แค่บอกว่า ให้เราใจเย็น คือในเวลานั้นเราไม่เย็นอีกแล้ว หลังจากที่เราคุยกะเพื่อนเค้าได้สักพักเราก็ว่างสายไปร้องไห้ต่อ อีกสักพักนึงเราตัดสินจัยโทไปหาเค้าอีกครั้ง แต่รอบนี้เป็นเสียงผู้หญิงรับ (เรารู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร) เค้าก็ถ้าเราเลยว่า "เทอเป็นใคร" เราเงียบเราพูดอะไรไม่ถูก เราก็บอกไปว่า

    "ขอโทดค่ะพอดีโทรผิด" หลังจากเราพูดจบผู้หญิงคนนั้นก็พักสายไปแล้วกลับมาพูดอีกครั้งนึงว่า "เทอไม่ต้องมายุ่งกับแฟนเราอีก แฟนใครๆก็หวง เทอมายุ่งกับแฟนเราทำไมแฟนเราเข้ารำคาน" หลังจากที่เค้าพูดจบเรากดว่า

    สายแล้ว เราก็โทรไปหาเพื่อนเค้าคนนั้น เราเล่าทุกอย่างให้เพื่อนเค้าฟังให้หมด  เพื่อนเค้าก็ยังปลอบใจเราให้เราใจเย็นแล้ว เพื่อนเค้าก็โทรไปหาเค้าแต่มันโทรไม่ติดเค้าปิดเครื่องเค้าก็เลยโทไปหาเพื่อนอีกคนนึง เพื่อนเค้าก็ถามว่า "ตอนนี้อยู่กับใครมั่ง เพื่อนเค้าอีกคนนึงเค้าก็บอกว่า มี เค้าคนนั้น แฟนเก่าเค้า ผู้หญิงที่พูดสายกับเรากับแฟนของผู้หญิงคนนั้น" พอเรารู้ว่าเค้าอยู่กับแฟนเก่าเค้าแล้วเราก็ได้คำตอบสักที  เพื่อนเค้าก็ยังปลอบใจเราอยู่ให้เราใจเย็นๆ อย่าเพิ่งไปคิดมาก เราบอกกะเพื่อนของเค้าว่า เราขอคุยกับเค้า หน่อยและข้างๆเค้าก็มีแฟนเค้านั่งอยู่  ความรู้สึกเราในตอนนั้นเราหวังทุกๆคนจะรู้ดี เราก็ขอให้เพื่อนเค้าช่วยให้เราได้คุยกะเค้า เรากะวนกะวายจนทำอะไรไม่ถูกจนเราต้องโทรไปหาเพื่อนคนที่เรารักและสนิทที่สุด เรารวมสายของเค้ากะเพื่อนเรา เราก็ถามเค้าว่าเค้าไปดีกะแฟนเค้าตั้งแต่เมื่อไหร่ "เค้าก็บอกว่า ก็ดีกันตั้งแต่วันที่เค้าบอกเรา"  เราก็ถามเพื่อนเค้าว่าทำไมเค้าถึงไม่บอกเราทำไมเค้าต้องปล่อยให้เรารู้เอง เพื่อนเค้าก็ตอบเราว่า "เค้าอ่ะไม่อยากให้เราเสียใจ" เราก็เลยถามเค้าเองเลยว่าทำไมเค้าไม่บอกเราตั้งแรกหล่ะ เค้าก็เงียบ... เราก็บอกเค้าไปพร้อมน้ำตาว่า  "ขอบคุณสำหรับทุกๆเรื่อง"

    เค้าก็ตอบกลับมาว่า "เราก็ขอบคุณเหมือนกันน่ะ เค้าขอโทดน่ะ" เราก็ตอบกลับไปว่าเค้าไม่ผิดหลอก

    เราไม่ว่าหรอก เราไม่โกรธเค้าหรอก เค้าก็ขอบคุณ เราอีกครั้ง เพื่อนเราฟังอยู่เค้าก็เลยถามว่า "เมิงเห็นเพื่อนกรูเป็นของเล่นหรอ เมิงเคยรักเพื่อนกรูไหม? " ใครๆเค้าเจอคำถามยังไงก็ตอบไม่ถูกอยู่ดีอ่ะค่ะ

    เราก็รู้น่ะค่ะว่าตัวเค้าก็รักแฟนเก่ามาก

    ***เอาเทอะค่ะเรื่องมันก็มีมากกว่านี้แต่เราก็บรรยายออกมาได้มากที่สุดก็แค่นี้หล่ะค่ะ 

    ***เราขอบคุนกับคนๆนั้นที่เคยมีวันเวลาดีๆให้กับเรา มีความรักความหวงใยให้กับเรา ถึงแม้ว่าเวลาที่เราอยู่ด้วยกันมันไม่มากก็ตาม ขอบคุนทุกๆความรู้สึกๆดีที่เคยมีให้กันตลอดมา ขอบคุนทุกๆคำพูดที่เคยให้กำลังใจ

    ขอขอบคุนทุกๆอย่างจนบรรยายออกมาไม่ได้

    ***ขอบคุนเพื่อนๆของเค้าน่ะค่ะที่คอยเป็นกำลังใจให้ ขอบคุนพวกแกมากน่ะ

    ***  สุดท้ายนี้กรุณาอ่านและช่วยส่งกำลังใจและแสดงความคิดเห็นกลับด้วยค่ะ

    ***ต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถเสนอชื่อคนๆนั้นได้  

    --------------------------------------------------------------
    เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของคนที่เอามาลงหรอกค่ะ
    แต่เปนของเพื่อนเราอ่านะ
    เพื่อนเราอยากให้ทุกคนได้อ่านอ่านะคะ
    อาจจาได้ข้อคิดอะไรกลับไปบ้าง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×