ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The elements – ตำนานนักรบแห่งมวลธาตุ

    ลำดับตอนที่ #6 : แค่ความฝัน

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 48




        กลางหมู่บ้านของเหล่าแฟนเธฮานา ที่หุบเขาวิญญาณ โซนการเวลา เด็กสาวผมแกละได้แต่มองคนที่อยู่ต่ำกว่าด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามและปากที่อับจนคำพูด ส่วนเด็กสาวที่โดนหมัดของคนผมแกละได้แต่มองหน้าคนที่ต่อยเธอด้วยความตื่นกลัว ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วบริเวณ แฟนธอมทุกตัวราวกับจะกลั้นหายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้แต่ใบไม้ในป่าใกล้ๆก็ดูเหมือนจะหยุดไหวขึ้นมาชั่วขณะ แต่แล้วรอยยิ้มเย้ยหยันค่อยๆปรากฏบนใบหน้าที่คลุกฝุ่นของคนที่โดนชก เธอค่อยๆยันตัวขึ้นก่อนจะพูดกับคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่เสียดสี



    “เธอสินะ ผู้กล้าที่รับสืบทอดผลึกแซปไฟร์ของไอ้สวะชไลเดน เฮอะ....ไม่ยักรู้นะว่าคนอย่างเธอจะมีสิ่งที่เขาเรียกกันว่า *ฝีมือด้านการต่อสู้*อยู่ในตัว”



    วามองคนตรงหน้าอย่างงงเป็นที่สุด สำหรับเธอแล้ว เธอมั่นใจว่าคนตรงหน้าต้องเป็นเพื่อนรักของเธอ ที่แม้บางครั้งจะดูเย็นชาไปบ้าง แต่ไม่เคย....ไม่เคยเลยซักครั้งที่จะพูดจาดูหมิ่นหรือเหยียดหยามใคร



    “เมย์ เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ”เด็กสาวผมแกละพยามถามอย่างใจเย็นที่สุด



    “เก่งแต่ต่อสู้ใช่ไหมเธอหน่ะ หูถึงได้หนวกแบบนี้ นี่ยังดีนะที่ไม่ได้ประลองปัญญาด้วย ไม่งั้นคงเบื่อตายแน่ที่ต้องมาแข่งกับคนที่ดีแต่ใช้กำลังอย่างเธอ” คนตรงหน้าวากล่าวถากถางพลางส่งสายตาดูหมิ่นให้เด็กสาว



    วาก้มหน้าลงพลางกำหมัดแน่นตลอดเวลาที่โดนถากถางจากใครบางคนที่สำหรับเธอแล้วเป็นแค่คนที่น่ารังเกียจ จนในที่สุดราวกับคนตรงหน้ารู้จุดอ่อนเรื่องการเรียนที่ใช้ไม่ได้ของเธอ และพูดจี้ใจดำ ความอดทนที่เก็บสะสมมานานกลับระเบิดภายในพริบตา เด็กสาวปล่อยหมัดใส่คนตรงหน้าด้วยความโกรธ แต่คนน่ารังเกียจกลับยิ้มที่มุมปากก่อนที่จะเหวี่ยงหัวหลบหมัดที่ปล่อยมาตรงๆของวา พร้อมสวนหมัดที่แรง(เท่ากับอุกกาบาตชนโลก)และหนักกว่าเข้าที่ท้องน้อยของเด็กสาวผมแกละ ทำให้เธอกระเด็นไปกระแทกกับผนังบ้านที่ใกล้ที่สุด ของเหลวสีแดงสดค่อยๆไหลมาจากรอยแยกของผิวหนังด้านหลังศีรษะ



    “ท่านชไลเดน!!” แฟนธอมแทบทุกตัวในบริเวณนั้นร้องและวิ่งไปยังร่างหมดสติของวา



    บางตัวหันมาชูกำปั้นใส่คนน่ารังเกียจและวิ่งไปหาวา



    “เธอลืมไปแล้วหรือไงวา ว่าเวลาต่อสู้อย่าบุกเข้ามาด้วยความโกรธ เพราะมันจะทำให้การ์ดว่าง ………….ยังไงก็ขอโทษนะเพื่อน”เสียงกระซิบของเด็กสาวคนหนึ่งที่แฝงความเศร้าดังมาอย่างแผ่วเบา



    แฟงผู้ที่มองเหตุการณ์อยู่หันไปมองทางต้นเสียง แต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อเขาพบคนน่ารังเกียจมีน้ำตาเล็ดออกมาจากดวงตาสีน้ำตาลเข้มก่อนจะหายตัวไป

        



    นกกระจิบจิกลงบนใบหน้าขาวใสของเด็กสาวผมน้ำตาลแดง



    “หือ...อะไร”วาถาม



    ก่อนจะค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นและพบว่าตนนอนอยู่ที่น้ำตกที่แวดล้อมด้วยต้นไม้สูงใหญ่มากมายที่แข่งกันรับแสงจากดวงอาทิตย์ วามองรอบๆอย่างงงๆ ก่อนจะค่อยๆระลึกเหตุการณ์ก่อนที่เธอจะมาที่นี่



    “เมย์!!”เด็กสาวร้องก่อนจะทำหน้าเศร้า



    เธอเริ่มรู้สึกงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น *เพราะอะไร ทำไม เพื่อนที่เธอรักที่สุดเป็นคนเดียวกับที่ถากถางเธออย่างไม่ไว้หน้างั้นเหรอ? แถมยังพูดถึงสิ่งที่เป็นจุดอ่อนอันร้ายกาจของเธออีกด้วย* เด็กสาวนั่งคิดหมกมุ่นอยู่คนเดียว เสียงพิณอันไพเราะดังแว่วมากับสายลม ผสานด้วยเสียงนกร้อง ชวนให้คนที่ได้ยินหลงใหลในท่วงทำนองที่งดงามยิ่งนัก ริมฝีปากเรียวงามของเด็กสาวกระตุกอย่างช้าๆก่อนที่มันจะกลายเป็นรอยยิ้มแห่งความสุข



    “จริงด้วยสิ ชไลเดนน่าจะให้คำปรึกษาเราได้นี่” วาว่าด้วยหัวใจที่พองโต



    ก่อนที่จะวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด ไปตามเสียงที่ได้ยิน

        



    เด็กสาววิ่งอย่างไม่ลืมหูลืมตา เธอวิ่งไปเรื่อยๆด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความหวังว่าจะได้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์จากอดีตผู้กล้าในตำนาน เธอวิ่งมาจนกระทั่งพบตนเองอยู่ในถ้ำที่ประตูทางออกด้านหนึ่งถูกปิดด้วยสายน้ำที่ไหลลงมาจากด้านบน



    “วา....กำลังรออยู่เลย” เสียงเล็กๆร้องเรียกทำให้เด็กสาวสะดุ้งก่อนหันไปมอง



    แสงสีน้ำเงินเข้ามาบินรอบตัวเธอ



    “ดีใจจัง ในที่สุดเธอก็หาเราเจอ ดีใจจัง” เสียงเล็กๆนั้นว่าอย่างดีใจ



    วาขเม้นมองไปยังจุดเหล่านั้น ก่อนที่เธอจะพูดเบาๆ



    “ซี......นั่นเธอเหรอ” เด็กผมแกละถามอย่างไม่มั่นใจ



    “ใช่จ้ะ...ฉันเอง” ซีตอบ



    วาจ้องสิ่งมีชีวิตที่มีปีกสีน้ำเงินขนาดใหญ่กว่าตัวตาไม่กระพริบ



    “นี่จะไม่ให้ฉันอยู่บนผลึกของเธอเหรอ” สิ่งมีชีวิตเหนือจินตนาการถาม



    “หะ....ให้สิ อ่ะเข้ามาอยู่ดิ” วาว่าพลางยื่นผลึกให้



    ซีส่ายหน้าก่อนจะบอกกับเด็กสาว



    “ฉันเข้าไปอยู่อย่างนั้นไม่ได้หรอกนะ เธอต้องสร้างที่อยู่ให้ฉันก่อน”



    เด็กผมแกละผงะ ก่อนจะกระซิบด้วยเสียงอันเบา



    “สร้างไงหล่ะ”



    “พูดตามที่ใจเธอคิดสิจ้ะ” เสียงของชไลเดนแว่วมา วากลืนน้ำลาย



    “ด้วยนามแห่งแซปไฟร์ ผู้สร้างน้ำและทอง ขอบัญชาเจ้า เข้ามาอยู่ในผลึกแห่งข้า ณ บัดนี้” เสียงผู้หญิงอันทรงอำนาจผ่านปากของวาออกมา เด็กสาวรีบปิดปากของตนด้วยความตกใจ



    “ก็แค่เนี่ย” ซีว่าก่อนที่รอบตัวเธอจะมีผลึกสีน้ำเงินล้อมรอบ และลอยเข้ามาอยู่ในจี้สีแซปไฟร์ของวา





    เด็กสาวผมแกละมองจี้ของตนเองอย่างงงงวยก่อนจะคอตกด้วยความรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้พบชไลเดน



    “เฮ้อ......ชั่งเหอะ ว่าแต่......จะกลับยังไงหล่ะเนี่ยเรา” วาพูดขึ้น



    ก่อนที่เธอจะมองไปรอบๆ นกหลากสีเกาะอยู่ตามต้นไม้ เธอมองไปรอบๆก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่นกสีเขียวมรกตที่ดูเหมือนจะจงใจจ้องมาที่เธอ  



    “เอเมอรัลด์” วาเรียก “นั่นเธอเหรอ”  



    แต่นกสีเขียวมรกตยังคงจ้องเธอต่อไป  ก่อนที่จะเชิดหน้าและบินไปทางทิศเหนือ



    “นี่....รอด้วยซี่” เด็กสาวผมแกละร้องก่อนที่จะวิ่งตามนกตัวนั้นไป

        



    เด็กสาววิ่งตามนกที่บินเร็วขึ้นเรื่อยๆ  ทำให้เธอไม่ทันสังเกตว่ารอบตัวเธอตอนนี้มันเปลี่ยนไปเป็นทุ่งโล่งกว้างเขียวขจี  เธอวิ่งไป...วิ่งไป.....วิ่งไปเรื่อยๆจนเธอหมดแรง เด็กสาวล้มลงซะดื้อๆก่อนจะมีคนมารับเธอไว้



    “นี่น้องสาว จะรีบวิ่งไปไหนจ้ะ” เด็กหนุ่มคนหนึ่งทัก



    “หลบไป” วาบอกอย่างดื้อๆ



    และผลักคนที่มารับเธอไว้ไปข้างๆ ก่อนที่ตัวเธอเองจะล้มลง  



    “ไรว่ะ...คนจะช่วยแท้ๆ” เด็กหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลาเอาการว่า  



    ก่อนที่จะยักไหล่ และหายตัวไปในความมืด  นกมรกตบินกลับมายังร่างของวา  และลงยืนที่พื้นข้างๆวาอย่างช้าๆ  ก่อนที่นกจะค่อยๆยืดตัว  กลายเป็นแฟนธอมตัวสีเหลืองอ่อน



    “เฮ้อ....เวทย์เรายังไม่เข้าขั้นจริงด้วย  แต่เอาเหอะยังไงก็ได้เวลาที่จะต้องส่งวากลับแล้วนี่” แฟงว่า พลางพึมพำ “กาลเวลาที่ไม่เคยหยุดไหล โปรดนำสิ่งที่ท่านพามากลับไปอยุ่ในที่ของเขาด้วย”



    ช้าๆ ร่างของเด็กสาวผมแกละค่อยๆหายไปจากบริเวณนั้น  สัตว์มายาบิดขี้เกียจด้วยความอ่อนล้า  ก่อนจะพึมพำว่า  



    “แล้วข้าจะไปหาท่านใหม่นะ ท่านชไลเดน”







    “วา....เฮ้ยวาตื่น” เสียงร้องเรียกของประธานชมรมดนตรีดังขึ้น  



    เด็กสาวค่อยๆลืมตาขึ้น  เธอกวาดตามองรอบๆและพบว่าตัวเองอยู่ในห้องที่ชมรมดนตรีตั้งอยู่  



    “แค่ความฝันงั้นเหรอ??” วาคิดอย่างงงๆ



    ก่อนจะยกมือขึ้นเกาหัว  



    “วา...เธอเป็นอะไรหน่ะปกติเธอจะตั้งใจซ้อมประจำไม่ใช่เหรอ” สาย เพื่อนในวงดนตรีถามวา  



    เด็กสาวผมแกละเลยได้แต่ยักไหล่



    “คือพอดีเพลียหน่ะ”



    “ชวาลา...นี่นอกจากเธอจะหลับเวลาซ้อมแล้ว  ยังจะมาชวนเพื่อนคุยอีกเหรอ!”เสียงตวาดของรองประธานดังมา  



    เด็กสาวเลยได้แต่ก้มหน้าก้มตาซ้อม เพราะไม่อยากเถียงทั้งประธานและรองประธานในภาวะที่ทั้งสองกำลังเคร่งเครียดเพราะการแสดงที่ใกล้เข้ามา





    เด็กสาวผมน้ำตาลประกายแดงเดินออกจากห้องประชุมด้วยความอ่อนล้า  เธอบิดขี้เกียจ



    “ไงวา  การซ้อมเป็นยังไงบ้าง” เสียงทักดังมาจากด้านหลัง



    เธอหันไปมองและพบกับเพื่อนผมซอยของเธอ  



    “เมย์!”วาร้องอย่างตกใจ  



    เครื่องหมายคำถามจำนวนมากปรากฏบนใบหน้าอันอ่อนเยาว์ของเมย์



    “อะไร” เธอถาม



    เด็กสาวผมแกละมองเธอก่อนที่จะส่ายหน้า  



    “ไม่มีอะไรหรอกน่า  เดี๋ยวเราไปเอาของก่อนนะ” วาว่าและวิ่งออกไป  เมธินีมองตามหลังเพื่อนเธอไปก่อนที่จะพึมพำ



    “วาบางทีเราก็ควรมีศรัทธา และความเชื่อในสิ่งที่เราได้พบมานะ”



        



    ระหว่างที่วาวิ่งไปเอาของที่ห้องนั้น  หัวเธอเต็มไปด้วยเรื่องราวที่เธอพึ่งพบเจอมา



    “เป็นไปได้เหรอ ที่มันจะเป็นแค่ความฝัน” เด็กสาวเอาแต่คิดวนเวียนถึงเรื่องนี้จนเธอชนเข้ากับคนๆหนึ่ง



    โครม!!!



    แรงกระแทกทำให้เด็กสาวล้มลง ก้นกระแทก



    “โอ๊ย!!” เธอร้อง



    “ไม่เป็นไรใช่ไหม” เสียงหนึ่งถาม



    พร้อมมือที่ยื่นมาตรงหน้าของเธอ  เด็กสาวจับมือนั่น  และดึงตัวเองขึ้น  



    “โทษนะ พอดีเราไม่ทันมอง”เสียงผู้ชายว่าเสียงราบเรียบ



    เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมอง  ก่อนจะรีบดึงมือกลับด้วยความตกใจ  เด็กหนุ่มผมสั้น ตาเป็นประกายมองเธออย่างงุนงง ใบหน้าอันหล่อเหลาที่ชวนให้ทุกหญิงที่ได้พบต้องหลง  มองเธออย่างสำนึกผิด  



    “เอ่อ.....ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะที่ช่วย” เด็กผมแกละว่าอย่างเร็วปรือ  



    ก่อนที่จะวิ่งจากไปก่อนไม่เชื่อสายตาตนเอง นี่เธอชนกับ ชัช เจ้าชาย กรรมการนักเรียนผู้เงียบขรึม  ที่ไม่ว่าสาวหน้าไหนในโรงเรียนก็อยากอยู่ใกล้ด้วยเหรอเนี่ย?? เด็กสาวคิดอย่างตื่นเต้นตลอดทางที่เธอวิ่งไปยังห้อง  วาตื่นเต้นมากจนไม่ทันสังเกต สร้อยรอบคอเธอที่ค่อยๆเปล่งแสงขึ้นมา ตลอดเวลาที่อยู่ใกล้ ชัช??







    วันต่อมา

        ณ ห้องเรียนของโรงเรียนชื่อดัง

    ชวาลาหรือวากำลังนั่งใจลอยอยู่บริเวณที่นั่งของเธอ  ริมหน้าต่าง  คิดถึงเรื่องที่ดูราวกับจะเกิดขึ้นจริงๆกับเธอ  



    “วา” เสียงหนึ่งร้องเรียก  



    เด็กสาวหันไปมอง  และประสานกับสายตาทีดูหงุดหงิดของเพื่อนผมซอย



    “ทำไรอยู่” เมย์ถาม  



    “ไม่มีไรหรอกแค่คิดไปเรื่อยๆหน่ะ” วาตอบ  แต่เมื่อเห็นท่าทางของเพื่อนเธอเลยถามต่อ “มีไรเหรอ”  



    เมธินีมองคนตรงหน้าอย่างชั่งใจซักพักหนึ่งก่อนที่จะถอนใจ  



    “ไม่มีไรหรอก   แค่เจอคนที่น่าเบื่อหน่ะ” เธอว่าพลางยักไหล่  และทิ้งตัวลงที่ที่นั่งข้างๆวา  



    เด็กผมแกละมองเพื่อนเธออย่างงงๆก่อนที่จะถอนใจ  และมองออกไปนอกหน้าต่างต่อ  ไม่นานนัก หญิงสาวผมสีน้ำตาลอ่อนร่างสูงก็เดินเข้ามาพร้อมเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาท่าทางเจ้าสำอาง  ผมสีดำของเขายุ่งกระเซิง  แต่แววตาสีน้ำตาลที่เป็นประกายขี้เล่น  กลับแฝงไปด้วยความไร้วิญญาณที่ซ่อนอยู่ภายใน  



    “รางร้ายเริ่มปรากฎ” เมย์พึมพำแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อ



    หัวหน้าห้องจะบอกทำความเคารพ



    “นักเรียนค่ะ  เทอมนี้มีนักเรียนมาเข้าใหม่นะ” เธอว่าแล้วหันไปพูดกับเด็กชายผมกระเซิงที่ยืนอยู่ด้วยกัน



    “แนะนำตัวซิ”



    เด็กหนุ่มคนนั้นยิ้มก่อนที่จะพูดด้วยเสียงที่ดังฟังชัด



    “ชื่อกาญจน์ครับ มาจาก........”



    แต่คนมัดแกละที่นั่งริมหน้าต่างกลับไม่สนใจการแนะนำตัวของเพื่อนใหม่  เพราะเธอกำลังคิดถึงแต่เรื่องที่เธอพึ่ง  เอ่อ..คือเหมือนกับ....เจอมา  



    “ขอโทษครับอาจารย์ที่ผมเข้าห้องสาย” เสียงของเด็กหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น  



    “ชัชวาล นี่ฉันต้องบอกเธอกี่ครั้งเนี่ย ว่าอย่าเข้าห้องสาย อย่าถือว่าเป็นกรรมการนักเรียนและจะทำตัวยังไงก็ได้นะ” หญิงสาวหน้าห้องบ่น  และไล่ผู้เป็นนักเรียนออกไปยืนนอกห้อง “ไป..ไปยืนหน้าห้อง  และอย่าเข้ามาจนกว่าครูจะอนุญาตินะ”



    “ครับ” ชัชตอบรับอย่างว่าง่ายและปิดประตูออกจากห้องไป  



    เสียงแสดงความไม่พอใจดังขึ้นรอบห้องเรียนเกือบทันทีที่ชัชปิดประตู  และทันใดนั้นเอง วาก็รู้สึกถึงแสงสีฟ้าที่ส่องมากระทบหน้าของเธอ  ทำให้เธอต้องก้มลงมองที่รอยคอ  จี้สีแซปไฟร์เปล่งแสงออกมาพร้อมกับที่ลอยตัวสูงขึ้น ก่อนจะบรรจงชี้ตรงไปข้างหน้า  เด็กสาวมองมันอย่างงงงวย  เสียงของแฟงดังแว่วขึ้นมา *ผลึกนี้เป็นเข็มทิศที่คอยจะชี้หาผู้กล้าในยุคที่ไม่ใช่ในโลกElements*  เด็กสาวจ้องตรงไปยังเด็กหนุ่มผมกระเซิงที่ยืนอยู่หน้าห้องก่อนจึมพำกับตัวเอง



    “ผู้ชายคนนี้ก็เป็น 1 ใน 4 ผู้กล้าในตำนานในยุคนี้งั้นเหรอ??”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×