ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ผู้สืบทอดเตนารมย์ของ 4 ผู้กล้า
“ไงให้พวกวาฝึกถึงไหนแล้ว”เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นในม่านพลัง
ก่อนจะปรากฏร่างของหญิงงามนามชไลเดน
“วาเหรอ อือ นอนอยู่นั่นไงเคียงกับชัช”ชวาลตอบแต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่เหตุการณ์ตรงหน้า
“อ้าวเป็นงั้นไป”ชไลเดนว่าอย่างเสียดาย
แต่เธอกลับมองวาด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความเอ็นดู
“ไม่เอาน่าชไลเดน สำหรับ 2 คนนั้นหน่ะให้เขาพักไปเถอะ เพราะอย่างน้อยเธอกับชวาลก็เห็นความสามารถและฝีมือในการรับสถานการณ์ต่างๆ โดยส่วนตัวนะข้าว่า 2 คนนั่นหน่ะเก่งพอดุเลย แต่คนที่พวกเรายังไม่รู้ฝีมือคือ 2 คนนั่นต่างหาก 2 คนที่อยู่นอกม่านพลังของชวาลนั่น”
เสียงชายหนุ่มอีกคนดังขึ้นในวงเวลา ชไลเดนมองออกไปด้านนอกและก็พยักหน้าราวกับเธอจะเห็นด้วยกับเสียงของคนบางคนที่พูดมา แต่ก่อนที่เธอจะทันสังเกตอะไรเสียงนั้นกลับพูดต่อ 
“จริงๆนะชไลเดน ข้าไม่เข้าใจเลยทำไมตอนแรกเธอต้องใช้เวทย์แทนที่จะให้วาหัดใช้เองหล่ะ”เสียงชายเดิมดังขึ้นอีกครั้งในม่านพลัง
“ก็แค่อยากชี้เเนวทางให้วาก็แค่นั้น”ชไลเดนว่า
แต่แล้วเธอก็ตระหนักอะไรขึ้นมาได้ พร้อมกับเมออซ และชวาล ทุกคนหันไปมองทางต้นเสียง ก็พบกับต้นเรื่องของเหตุการณ์ทั้งหมด
“ไง สวัสดีทุกคน”
เคออซว่าอย่างเป็นมิตร
“โอ๊ย!!”เคร้อง
ก่อนจะค่อยๆล้มลง เมธินียกหมัดที่ใช้ต่อยขึ้นมาเป่า
“ขี้โกงนี่”เขาร้องเมื่อเงยหน้าขึ้นมาได้
เด็กสาวมองเขาอย่างไม่แยแส ก่อนที่จะหันหลังกลับไปช่วยดิจิมอนผู้เคราะห์ร้ายให้ลุกขึ้น
“ไม่เป็นไรนะจ้ะ” เธอว่าพลางยื่นมือให้ดิจิมอนตัวนั้น
สัตว์มายามองเธอด้วยแววตาขอบคุณอย่างเห็นได้ชัด แต่แล้วแววตานั้นกลับเปลี่ยนเป็นตกใจ พร้อมทั้งที่ของแข็งทุบลงมาที่หัวเด็กสาวอย่างจัง
“เค  แก  ไอ้ขี้โกง”เมย์ร้อง
“อยากทราบจริงๆนะว่าใครกันแน่ที่สมควรได้รับคำชมแบบนั้น”เคว่าอย่างสะใจ
ในมือถือท่อนไม้ที่ใหญ่ขนาดไม้สักโตเต็มที่ได้เลย
ทั้ง 2 เงียบกันไปนาน ก่อนที่เมย์จะพยามยันตัวขึ้นอย่างยากลำบาก เคเห็นแบบนั้นเลยเข้าไปช่วยพยุง
“แก..อย่ามาแตะตัวเรา”เด็กผมซอยว่าเสียงแหบห้าว
“คิดว่าเราอยากนักหรือไง”กาญจน์ว่าหน้าตาย
เด็กสาวมองเขาอย่างไม่ไว้ใจ เคเลยถอนใจ
“เอาน่า เราไม่ทำอะไรเธอหรอก”เขาว่าเมื่อพยุงเมย์ไปนั่งที่ใต้ต้นไม้ใกล้ๆ
“แกช่วยเราไว้ทำไม”เมย์ว่า
แต่กาญจน์กลับหัวเราะอย่างเริงร่า
“ไม่เอาน่าเมย์เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้ว เราไม่กัดหรอก”เขาว่าขำๆ
“ดิจิมอนตัวนั้น”เด็กสาวว่าพลางมองหา
“ไปแล้วหล่ะ”เคพูดอย่างสบาย
เมย์จ้องมองเขาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
”หายไปไหน”เธอว่าเสียงเข้ม
“ไม่เอาน่าเมย์ อย่าบอกนะว่าเธอดูไม่ออก”เสียงของวาดังมา
เด็กผมซอยรีบหันไปมอง
เพื่อนผมแกละของเธอ พร้อมเด็กหนุ่มที่เธอเคยเรียกเขาว่าคางคกขึ้นอืดก็เดินมาด้วย ทั้ง 2 ยิ้มให้เธออย่างอารมณ์ดี เมย์มองเพื่อนทั้ง 2 ด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความงง
“หมายความว่าไง”เธอถามขึ้นช้าๆ
“ดิจิมอนตัวนั้น เป็นเวทย์ลวงตาประเภทหนึ่งของเผ่าที่มาจากโซนมิราจหล่ะ”เสียงผู้หญิงดังขึ้น
เมย์หันไปมองเธอ ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร
“คุณเป็นใคร”
“อะไรกัน อะไรกันเมย์ เธอพูดกับคนที่เธออยากเจอมาตลอดอย่างนี้เหรอ”ชไลเดนแกล้งเอ็ด
เด็กผมแกละหันไปมองเธอ
“แล้วคุณหล่ะเป็นใคร”เธอถามหน้าตาย ชไลเดนแกล้งทำหน้าถอดสี
“ท่านหญิงแห่งแสง หรือชไลเดนไงหล่ะ”วาว่าเสียงใส
เด็กผมซอยมองเธอด้วยตาที่เบิ่งกว้าง เธอรีบหันไปมองผู้หญิงที่ทักเธอตอนแรก พร้อมทั้งอ้าปากค้าง
“งั้นคุณก็คือ เมออซงั้นเหรอ”เมยว่าอย่างตกใจ
หญิงงามในผ้าบาติกดำพยักหน้า
”จ้ะ เราเองที่มีนามว่าเมออซ”เธอว่าอย่างใจดี
เมย์แทบจะร้องออกมาด้วยความดีใจ เธอลุกขึ้นยืนก่อนจะวิ่งเข้าไปหาเมออซด้วยควมเร็วสูง ก่อนจะกางแขนออกกว้าง เตรียมที่จะโผเข้ากอดคนตรงหน้าแน่น เด็กสาววิ่งเข้าไป เมื่อเกือบจะถึง เคก็โดดเข้ามาขวาง
“ขอโทษเราก่อน”เขาพูดเสียงแข็งกร้าว
แต่ตากลับแฝงแววขี้เล่น เมย์วิ่งเข้าไปโดยแขนยังเปิดออกกว้าง แต่พอวิ่งไปถึงที่ที่เคอยู่เธอก็อ้อมไปด้านหลังเขาแล้วจัดการถีบเขาอย่างจัง
“แทนคำขอบคุณนะ”เธอพูดอย่างทีเล่นทีจริงและวิ่งไปหาเมออซด้วยใจที่เบิกบาน
เคเอามือยันพื้นไว้ทำให้หน้าไม่ลงไปคลุกดิน
“หนอย...เมย์เธอ”เขาพึมพำอย่างแค้นเคือง
“อะไรกันเค โดนผู้หญิงถีบแค่นี้ไม่ตายหรอกน่า”เสียงของเคออซดังมา
“โถ่ก็เรื่องทั้งหมดนี้เพราะใครหล่ะ”เขาว่าอย่างไม่สบอารมณ์
“เอาน่าเค อย่างน้อยพวกเราก็มั่นใจแล้วว่าพวกเจ้าเก่งพอที่จะดูแลโลกนี้สืบต่อจากพวกเรา” เคออซว่าพลางหัวเราะ
กาญจน์มองเขาอย่างอ่อนใจ  แต่เมย์กลับถามขึ้น
“หมายความว่าไง”เด็กสาวถามด้วยน้ำเสียงที่ไร้ความเป็นมิตร
เคมองหน้าเธอก่อนจะหันไปหาเคออซและต่างเบือนไปหัวเราะ 
“นี่ตกลงหมายความว่าไงกันแน่” เด็กผมแกละถามอย่างอยากรู้
“ก็หมายความว่า เหตุการณ์เลวร้ายต่างๆที่พวกเราเจอมาเป็นแค่ภาพลวงตาที่เคออซ ใช้ในการทดสอบฝีมือของพวกเราเท่านั้น ว่าพวกเราเหมาะที่จะเป็นผู้สืบทอดเจตนารมณ์ของพวกเขารึเปล่า”เคพูดตามประสาคนที่รู้เรื่องมากที่สุด 
“ถึงจะบอกว่าทดสอบก็เหอะนะ แหมทำไมเล่นแรงกันจัง” เธอว่าพลางถอนใจ
ชไลเดนเห็นท่าทีของเธอเลยเดินเข้าไปโอบไหล่
“วาจ้ะ พวกเราขอโทษนะ แต่ถ้าไม่เล่นโหดแบบนี้พวกเธอก็ไม่มีทางที่จะโจมตีกันเองอยู่แล้วใช่ไหม” หญิงงามว่า
เด็กผมแกละมองหน้าเธอ พร้อมชัชวาลที่ร้องขึ้น
“เดี๋ยวสิ งั้นแปลว่านี่เป็นแผนของพวกอาจารย์ทั้งหมดงั้นเหรอ” เขาหันไปพูดกับชวาล (คนเขียน :พึ่งฉลาดรึ)
นักปราชญ์ยิ้ม ก่อนที่จะพยักหน้า และจับไหล่ของเขาไว้
“แต่เจ้าก็ได้พิสูจน์ให้ข้าเห็นเเล้วว่า ข้าไว้ใจเจ้าให้ทำภารกิจสำคัญได้”
“เอาน่าคางคก  เอ้ยไม่ใช่ ชัช”
เมย์รีบแก้เมื่อเห็นชัชจ้องมาที่ตน (วาแอบปิดปากหัวเราะ)
“แค่พวกเขายอมเจอพวกเรามันก็เป็นบุญแล้ว” เธอว่า
ทำให้เมออซรู้สึกผิด
“ขอโทษนะจ้ะเมย์ ดูเหมือนว่าเราจะโหดกับเธอไปหน่อยนะ”เธอว่า แต่เมย์หันไปฉีกยิ้ม
“ไม่เป็นไรหรอกน่า”เมย์บอกปัด
“ที่คุณทำเพราะเป็น 1 ในแผนที่จะฝึกเรานี่”เด็กผมซอยว่า 
ทำให้ริมฝีปากของผู้หญิงในชุดผ้าบาติกดำกระตุกก่อนที่จะเผยรอยยิ้มที่สดใสออกมา
“ว่าแต่ข้ามีข้อสงสัย”แฟงที่เงียบมานานพูดขึ้น
“อะไรเหรอ”วาหันไปถาม
“ก็ถ้าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นแค่เรื่องที่สร้างขึ้นแล้วพี่น้อง และพ่อของข้าหล่ะ”เขาถาม
เด็กผมแกละมองหน้าสัตว์มายาก่อนจะหันไปหาเคออซ แต่อัศวินกลับถอยใจ และส่ายหน้าพลางทำหน้าเศร้า
“ขอโทษด้วยนะแฟงนั่นไม่ใช่แค่ภาพลวงตา”เขาว่าพลางก้มหน้า
แฟนธอมน้อยรู้สึกเข่าอ่อนลงทันที เขาล้มลงไปฟุบหน้ากับพื้น วาเห็นอย่างนั้นเลยรีบเข้าไปหา
“แฟง!”เธอเรียก
แต่ก่อนที่เธอจะเข้าไปถึงตัวสัตว์มายา เคกลับเข้าไปถึงก่อน
“แฟงเราว่ามันเจ็บปวดที่เรื่องที่แฟนเธฮานาไม่ใช่แค่ภาพลวงตา แต่นี่ไงพวกเราอยู่ที่นี่แล้ว และพวกเราสัญญาว่าต้องช่วยเพื่อนๆของแฟงที่แฟนเธฮานาให้ได้”เขาว่า
สัตว์มายามองหน้าเขา น้ำตาค่อยๆไหลรินลงจากดวงตา แต่พอเห็นใบหน้าที่มุ่งมั่นของ 4 ผู้กล้าในตำนานรุ่น 2 แล้ว รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา
“สัญญานะ”แฟนธอมว่าเสียงเบา
“ด้วยหัวใจผู้กล้าทั้งหมดที่พวกเรามี” วา ชัช เมย์ และเคว่าพร้อมกัน    
*********************
คุยกันท้ายเรื่อง
เป็นไงบ้าง เป้นไงบ้างกับเรื่องนี้ โทษทีนะเรารู้ว่าไม่ได้อัพนาน แต่ขอบอกตามความจริงเลยนะว่าการบ้านเยอะมาก 555+ เอาเหอะ เรามีเรื่องจะถามทุกๆคนว่า จะให้เราเเต่งต่อไหม แต่ขอบอกไก่อนนะว่าช่วงนี้เรายังแต่งต่อไม่ได้นะ เพราะว่าการบ้านท่วมหัว (คนอ่าน:ไอ้เวอร์) เอาเป็นว่าถ้าจะให้เราเเต่งต่อก็อย่าลืมมาตามอ่านกันนะ บายจ้ะทุกคน
ก่อนจะปรากฏร่างของหญิงงามนามชไลเดน
“วาเหรอ อือ นอนอยู่นั่นไงเคียงกับชัช”ชวาลตอบแต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่เหตุการณ์ตรงหน้า
“อ้าวเป็นงั้นไป”ชไลเดนว่าอย่างเสียดาย
แต่เธอกลับมองวาด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความเอ็นดู
“ไม่เอาน่าชไลเดน สำหรับ 2 คนนั้นหน่ะให้เขาพักไปเถอะ เพราะอย่างน้อยเธอกับชวาลก็เห็นความสามารถและฝีมือในการรับสถานการณ์ต่างๆ โดยส่วนตัวนะข้าว่า 2 คนนั่นหน่ะเก่งพอดุเลย แต่คนที่พวกเรายังไม่รู้ฝีมือคือ 2 คนนั่นต่างหาก 2 คนที่อยู่นอกม่านพลังของชวาลนั่น”
เสียงชายหนุ่มอีกคนดังขึ้นในวงเวลา ชไลเดนมองออกไปด้านนอกและก็พยักหน้าราวกับเธอจะเห็นด้วยกับเสียงของคนบางคนที่พูดมา แต่ก่อนที่เธอจะทันสังเกตอะไรเสียงนั้นกลับพูดต่อ 
“จริงๆนะชไลเดน ข้าไม่เข้าใจเลยทำไมตอนแรกเธอต้องใช้เวทย์แทนที่จะให้วาหัดใช้เองหล่ะ”เสียงชายเดิมดังขึ้นอีกครั้งในม่านพลัง
“ก็แค่อยากชี้เเนวทางให้วาก็แค่นั้น”ชไลเดนว่า
แต่แล้วเธอก็ตระหนักอะไรขึ้นมาได้ พร้อมกับเมออซ และชวาล ทุกคนหันไปมองทางต้นเสียง ก็พบกับต้นเรื่องของเหตุการณ์ทั้งหมด
“ไง สวัสดีทุกคน”
เคออซว่าอย่างเป็นมิตร
“โอ๊ย!!”เคร้อง
ก่อนจะค่อยๆล้มลง เมธินียกหมัดที่ใช้ต่อยขึ้นมาเป่า
“ขี้โกงนี่”เขาร้องเมื่อเงยหน้าขึ้นมาได้
เด็กสาวมองเขาอย่างไม่แยแส ก่อนที่จะหันหลังกลับไปช่วยดิจิมอนผู้เคราะห์ร้ายให้ลุกขึ้น
“ไม่เป็นไรนะจ้ะ” เธอว่าพลางยื่นมือให้ดิจิมอนตัวนั้น
สัตว์มายามองเธอด้วยแววตาขอบคุณอย่างเห็นได้ชัด แต่แล้วแววตานั้นกลับเปลี่ยนเป็นตกใจ พร้อมทั้งที่ของแข็งทุบลงมาที่หัวเด็กสาวอย่างจัง
“เค  แก  ไอ้ขี้โกง”เมย์ร้อง
“อยากทราบจริงๆนะว่าใครกันแน่ที่สมควรได้รับคำชมแบบนั้น”เคว่าอย่างสะใจ
ในมือถือท่อนไม้ที่ใหญ่ขนาดไม้สักโตเต็มที่ได้เลย
ทั้ง 2 เงียบกันไปนาน ก่อนที่เมย์จะพยามยันตัวขึ้นอย่างยากลำบาก เคเห็นแบบนั้นเลยเข้าไปช่วยพยุง
“แก..อย่ามาแตะตัวเรา”เด็กผมซอยว่าเสียงแหบห้าว
“คิดว่าเราอยากนักหรือไง”กาญจน์ว่าหน้าตาย
เด็กสาวมองเขาอย่างไม่ไว้ใจ เคเลยถอนใจ
“เอาน่า เราไม่ทำอะไรเธอหรอก”เขาว่าเมื่อพยุงเมย์ไปนั่งที่ใต้ต้นไม้ใกล้ๆ
“แกช่วยเราไว้ทำไม”เมย์ว่า
แต่กาญจน์กลับหัวเราะอย่างเริงร่า
“ไม่เอาน่าเมย์เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้ว เราไม่กัดหรอก”เขาว่าขำๆ
“ดิจิมอนตัวนั้น”เด็กสาวว่าพลางมองหา
“ไปแล้วหล่ะ”เคพูดอย่างสบาย
เมย์จ้องมองเขาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
”หายไปไหน”เธอว่าเสียงเข้ม
“ไม่เอาน่าเมย์ อย่าบอกนะว่าเธอดูไม่ออก”เสียงของวาดังมา
เด็กผมซอยรีบหันไปมอง
เพื่อนผมแกละของเธอ พร้อมเด็กหนุ่มที่เธอเคยเรียกเขาว่าคางคกขึ้นอืดก็เดินมาด้วย ทั้ง 2 ยิ้มให้เธออย่างอารมณ์ดี เมย์มองเพื่อนทั้ง 2 ด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความงง
“หมายความว่าไง”เธอถามขึ้นช้าๆ
“ดิจิมอนตัวนั้น เป็นเวทย์ลวงตาประเภทหนึ่งของเผ่าที่มาจากโซนมิราจหล่ะ”เสียงผู้หญิงดังขึ้น
เมย์หันไปมองเธอ ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร
“คุณเป็นใคร”
“อะไรกัน อะไรกันเมย์ เธอพูดกับคนที่เธออยากเจอมาตลอดอย่างนี้เหรอ”ชไลเดนแกล้งเอ็ด
เด็กผมแกละหันไปมองเธอ
“แล้วคุณหล่ะเป็นใคร”เธอถามหน้าตาย ชไลเดนแกล้งทำหน้าถอดสี
“ท่านหญิงแห่งแสง หรือชไลเดนไงหล่ะ”วาว่าเสียงใส
เด็กผมซอยมองเธอด้วยตาที่เบิ่งกว้าง เธอรีบหันไปมองผู้หญิงที่ทักเธอตอนแรก พร้อมทั้งอ้าปากค้าง
“งั้นคุณก็คือ เมออซงั้นเหรอ”เมยว่าอย่างตกใจ
หญิงงามในผ้าบาติกดำพยักหน้า
”จ้ะ เราเองที่มีนามว่าเมออซ”เธอว่าอย่างใจดี
เมย์แทบจะร้องออกมาด้วยความดีใจ เธอลุกขึ้นยืนก่อนจะวิ่งเข้าไปหาเมออซด้วยควมเร็วสูง ก่อนจะกางแขนออกกว้าง เตรียมที่จะโผเข้ากอดคนตรงหน้าแน่น เด็กสาววิ่งเข้าไป เมื่อเกือบจะถึง เคก็โดดเข้ามาขวาง
“ขอโทษเราก่อน”เขาพูดเสียงแข็งกร้าว
แต่ตากลับแฝงแววขี้เล่น เมย์วิ่งเข้าไปโดยแขนยังเปิดออกกว้าง แต่พอวิ่งไปถึงที่ที่เคอยู่เธอก็อ้อมไปด้านหลังเขาแล้วจัดการถีบเขาอย่างจัง
“แทนคำขอบคุณนะ”เธอพูดอย่างทีเล่นทีจริงและวิ่งไปหาเมออซด้วยใจที่เบิกบาน
เคเอามือยันพื้นไว้ทำให้หน้าไม่ลงไปคลุกดิน
“หนอย...เมย์เธอ”เขาพึมพำอย่างแค้นเคือง
“อะไรกันเค โดนผู้หญิงถีบแค่นี้ไม่ตายหรอกน่า”เสียงของเคออซดังมา
“โถ่ก็เรื่องทั้งหมดนี้เพราะใครหล่ะ”เขาว่าอย่างไม่สบอารมณ์
“เอาน่าเค อย่างน้อยพวกเราก็มั่นใจแล้วว่าพวกเจ้าเก่งพอที่จะดูแลโลกนี้สืบต่อจากพวกเรา” เคออซว่าพลางหัวเราะ
กาญจน์มองเขาอย่างอ่อนใจ  แต่เมย์กลับถามขึ้น
“หมายความว่าไง”เด็กสาวถามด้วยน้ำเสียงที่ไร้ความเป็นมิตร
เคมองหน้าเธอก่อนจะหันไปหาเคออซและต่างเบือนไปหัวเราะ 
“นี่ตกลงหมายความว่าไงกันแน่” เด็กผมแกละถามอย่างอยากรู้
“ก็หมายความว่า เหตุการณ์เลวร้ายต่างๆที่พวกเราเจอมาเป็นแค่ภาพลวงตาที่เคออซ ใช้ในการทดสอบฝีมือของพวกเราเท่านั้น ว่าพวกเราเหมาะที่จะเป็นผู้สืบทอดเจตนารมณ์ของพวกเขารึเปล่า”เคพูดตามประสาคนที่รู้เรื่องมากที่สุด 
“ถึงจะบอกว่าทดสอบก็เหอะนะ แหมทำไมเล่นแรงกันจัง” เธอว่าพลางถอนใจ
ชไลเดนเห็นท่าทีของเธอเลยเดินเข้าไปโอบไหล่
“วาจ้ะ พวกเราขอโทษนะ แต่ถ้าไม่เล่นโหดแบบนี้พวกเธอก็ไม่มีทางที่จะโจมตีกันเองอยู่แล้วใช่ไหม” หญิงงามว่า
เด็กผมแกละมองหน้าเธอ พร้อมชัชวาลที่ร้องขึ้น
“เดี๋ยวสิ งั้นแปลว่านี่เป็นแผนของพวกอาจารย์ทั้งหมดงั้นเหรอ” เขาหันไปพูดกับชวาล (คนเขียน :พึ่งฉลาดรึ)
นักปราชญ์ยิ้ม ก่อนที่จะพยักหน้า และจับไหล่ของเขาไว้
“แต่เจ้าก็ได้พิสูจน์ให้ข้าเห็นเเล้วว่า ข้าไว้ใจเจ้าให้ทำภารกิจสำคัญได้”
“เอาน่าคางคก  เอ้ยไม่ใช่ ชัช”
เมย์รีบแก้เมื่อเห็นชัชจ้องมาที่ตน (วาแอบปิดปากหัวเราะ)
“แค่พวกเขายอมเจอพวกเรามันก็เป็นบุญแล้ว” เธอว่า
ทำให้เมออซรู้สึกผิด
“ขอโทษนะจ้ะเมย์ ดูเหมือนว่าเราจะโหดกับเธอไปหน่อยนะ”เธอว่า แต่เมย์หันไปฉีกยิ้ม
“ไม่เป็นไรหรอกน่า”เมย์บอกปัด
“ที่คุณทำเพราะเป็น 1 ในแผนที่จะฝึกเรานี่”เด็กผมซอยว่า 
ทำให้ริมฝีปากของผู้หญิงในชุดผ้าบาติกดำกระตุกก่อนที่จะเผยรอยยิ้มที่สดใสออกมา
“ว่าแต่ข้ามีข้อสงสัย”แฟงที่เงียบมานานพูดขึ้น
“อะไรเหรอ”วาหันไปถาม
“ก็ถ้าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นแค่เรื่องที่สร้างขึ้นแล้วพี่น้อง และพ่อของข้าหล่ะ”เขาถาม
เด็กผมแกละมองหน้าสัตว์มายาก่อนจะหันไปหาเคออซ แต่อัศวินกลับถอยใจ และส่ายหน้าพลางทำหน้าเศร้า
“ขอโทษด้วยนะแฟงนั่นไม่ใช่แค่ภาพลวงตา”เขาว่าพลางก้มหน้า
แฟนธอมน้อยรู้สึกเข่าอ่อนลงทันที เขาล้มลงไปฟุบหน้ากับพื้น วาเห็นอย่างนั้นเลยรีบเข้าไปหา
“แฟง!”เธอเรียก
แต่ก่อนที่เธอจะเข้าไปถึงตัวสัตว์มายา เคกลับเข้าไปถึงก่อน
“แฟงเราว่ามันเจ็บปวดที่เรื่องที่แฟนเธฮานาไม่ใช่แค่ภาพลวงตา แต่นี่ไงพวกเราอยู่ที่นี่แล้ว และพวกเราสัญญาว่าต้องช่วยเพื่อนๆของแฟงที่แฟนเธฮานาให้ได้”เขาว่า
สัตว์มายามองหน้าเขา น้ำตาค่อยๆไหลรินลงจากดวงตา แต่พอเห็นใบหน้าที่มุ่งมั่นของ 4 ผู้กล้าในตำนานรุ่น 2 แล้ว รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา
“สัญญานะ”แฟนธอมว่าเสียงเบา
“ด้วยหัวใจผู้กล้าทั้งหมดที่พวกเรามี” วา ชัช เมย์ และเคว่าพร้อมกัน    
*********************
คุยกันท้ายเรื่อง
เป็นไงบ้าง เป้นไงบ้างกับเรื่องนี้ โทษทีนะเรารู้ว่าไม่ได้อัพนาน แต่ขอบอกตามความจริงเลยนะว่าการบ้านเยอะมาก 555+ เอาเหอะ เรามีเรื่องจะถามทุกๆคนว่า จะให้เราเเต่งต่อไหม แต่ขอบอกไก่อนนะว่าช่วงนี้เรายังแต่งต่อไม่ได้นะ เพราะว่าการบ้านท่วมหัว (คนอ่าน:ไอ้เวอร์) เอาเป็นว่าถ้าจะให้เราเเต่งต่อก็อย่าลืมมาตามอ่านกันนะ บายจ้ะทุกคน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น