ลำดับตอนที่ #13
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : การปรากฏตัวของนักปราชญ์แห่งแสง
พายุฝนก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ท้องฟ้าที่เคยสว่างไสว บัดนี้กลับมืดมิดด้วยเมฆที่ลอยมารวมตัวกันอย่างแน่นหนา เม็ดฝนตกลงมาสัมผัสกับใบหน้าของเด็กผมแกละที่อยู่เบื้องล่าง เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองฟ้า
“ไชโย ไชโย สำเร็จแล้ว”วาร้องเมื่อเห็นฝนตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย
ชัชหันไปมองเด็กสาวพลางส่ายหน้าอย่างรับไม่ได้ แต่แล้วริมฝีปากของเด็กหนุ่มก็ค่อยๆเหยียดออก เผยเป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความอบอุ่น
เมธินีเหยียดริมฝีปากออกเป็นรอยยิ้มหยัน เธอก้าวไปทางที่เพื่อนของเธอยืนอยู่ แววตาส่องประกายแห่งความมีชัย
“เธอนี่ไม่เข็ดจริงๆนะวา ลืมไปแล้วรึไงว่าน้ำเป็นสื่อนำของไฟฟ้า”
เด็กสาวพูดอย่างสบายอารมณ์ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่า ถ้าเธอฟาดสายฟ้าใส่วา คนที่โดนคือเธอนั่นแหละ ที่เดินออกมาจากที่ร่ม
ชัชมองเด็กผมซอยตรงหน้าก่อนจะถอนใจ
“เมย์ ยอมแพ้เหอะน่า ถ้าเธอโจมตีพวกเรามาผลมันก็เหมือนเดิม ไม่สิไม่เหมือน เพราะถ้าเธอโจมตีมาผลคือเธอนั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายเสียหาย”เขาปรามอย่างหวังดี
แต่เมย์กลับเยาะ
“ก็ใช่ซี่ คนอย่างนายหน่ะ มันก็ดีแต่กางเวทย์ป้องกันเท่านั้นแหละ ทำไมทำเป็นอย่างเดียวรึไง เป็นผู้รับสืบทอดเจตนารมย์ของคนที่ฉลาดที่สุดในบรรดาพวกเราซะเปล่า” เธอพูด
วาจ้องเมย์อย่างสงสัย
“หมายความว่าไง ในบรรดาพวกเรา หมายถึงชวาลงั้นเหรอ”เด็กสาวคิดอย่างงงงวย
ชัชวาลมองเมย์ด้วยสายตาเฉยเมย
“เราอาจจะไม่สมที่เป็นผู้รับเจตนารมณ์ของชวาล แต่เราก็ยังฉลาดพอที่จะไม่หลงเชื่อคำของเธอหรอกนะเมย์  ถ้าอยากโจมตีมาก็เชิญเลย” เขาท้า
เด็กผมซอยขบฟันอย่างจนตรอก เธอหยุดนิ่งราวกับรากเริ่มงอกออกจากใต้เท้าของเธอ เมย์สำรวจทั่วร่างทั้ง 2 คนตรงหน้าอย่างรวดเร็ว ...ได้การหล่ะ  ตุ้มหูของวาและนาฬิกาของชัชทำด้วยเงิน แต่ร่างกายเธอก็เปียกชุ่มไปด้วยฝนที่เทลงมาอย่างหนัก เด็กสาวหยุดชั่งใจ
“เป็นไรไปหล่ะเมย์ ถ้าไม่จัดการ 2 คนนั่น ไอ้สวะพวกนี้ตายนะ”เสียงผู้ชายดังขึ้นมาจากด้านหลังของเธอ
ชัชที่อยู่ข้างๆวาสบถขึ้นทันใดเมื่อเขาพบว่าใครเป็นคนพูด เด็กผมแกละมองเพื่อนของเธออย่างงงๆ ก่อนที่ตัวเธอเองจะมองไปด้านหลังเมย์ และพบกับภาพที่ทำให้ต้องยกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ
กาญจน์หรือเคยืนอยู่ตรงนั้น  ตรงข้างหลังของเมย์ ใต้รองเท้าบูทที่ทั้งหนาและหนังปรากฏร่างของสัตว์มายาหรือดิจิมอนตนหนึ่งที่พยามดิ้นรนสุดชีวิต เด็กผมซอยหันไปทางเขา
“ยังจะมามัวมองอะไรอีกเล่า รู้อยู่แก่ใจไม่ใช่เหรอว่าถ้าคนอ่อนแออย่างเธอไม่ทำ จะเกิดอะไรขึ้นกับไอ้สวะนี่”เคพูดอย่างเริงร่า
แต่ตานั้นฉายแววอัมหิตอย่างเด่นชัด เมย์หันกลับมาและยกมือขึ้นฟ้า
ชัชที่พอจะรู้ที่มาที่ไปของการกระทำของเด็กสาวร้องอย่างตกใจ
“อย่านะเมย์ เธอก็รู้อยู่แก่ใจไม่ใช่เหรอว่า ถ้าเธอโจมตีมาผลจะเป็นยังไง ดูทั่วร่างกายเธอสิ ตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยฝนแล้วนะ”
เด็กผมซอยชะงัก ก่อนที่จะหันมาทางวาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม เด็กสาวผมแกละที่พยามกลั้นน้ำตาพยักหน้าให้อย่างแข็งขัน ชัชหันไปมองวาราวกับจะบอกว่าเธอบ้าไปแล้ว แต่ริมฝีปากของเมย์เหยียดออก เป็นรอยยิ้มครั้งแรกในช่วงหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เธอพึมพำคาถา...
เปรี๊ยง!!
สายฟ้าฟาดลงมาทำให้ทั่วบริเวณนั้นสว่าง แต่ไม่นานที่มันจางหายไป ชัชกางม่านพลังขึ้นมาครอบร่างของเขา วา และ เมย์ไว้ (เอ่อ..แฟงอยู่ระหว่างชัชกับวานะ) เด็กสาวผมซอยมองเขาด้วยความงง
“นายช่วยเราไว้ทำไม”เสียงของเธอแหบห้าว
ก่อนจะหันหน้าเดินออกไปจากม่านพลัง แต่ดูเหมือนความเหนื่อยอ่อนที่ใช้พลังเวทย์ติดต่อกันมาหลายชั่วโมงจะแผ่ไปที่ขา ทำให้เธอต้องเดินโซซัดโซเซอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เด็กสาวตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อไป แต่ร่างกายของเอนั้นกลับไม่ไหว เมย์ค่อยๆล้มลง
วารีบวิ่งเข้าไปประคองเธอทันใด
“เมย์ อย่าฝืนเลยนะ”เธอว่า
แต่คนที่เธอไปช่วยกลับผลักเธอออกไปอย่างไม่ไยดี
“อย่ามาแตะตัวเรา!!”เด็กผมซอยว่า
ชัชเดินเข้ามาหาคนทั้ง 2 ก่อนจะผลักหลังเมย์ให้ลงไปนอนกับพื้น(เอ่อ..ขอย้ำชัชยังยืนอยู่นะ ) วาหันมามองเขาด้วยความงงระคนความโกรธ
“นายทำอะไรหน่ะ ไม่เห็นรึไงว่าเมย์กำลังเจ็บอยู่” เธอว่า
“ชวาลา สายฟ้าหน่ะ มันต้องลงดินสิถึงจะถูก เมื่อกี้ที่เมย์ผลักเธอออกมาเพราะในตัวของเธอยังมีกระแสไฟเหลืออยู่ ถ้าเธอเข้าไปไกล้มากกว่านี้อาจจะโดนไฟช๊อตได้ ยิ่งตัวเปียกๆอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ” ชัชอธิบายให้วาฟังตามระเบียบ
เด็กสาวเห็นจริงตามที่เด็กหนุ่มว่า เลยก้มหน้าที่มีสีจัดยิ่งกว่ามะเขือเทศ
“ขอโทษนะ คือพอดีเราไม่ทันคิด”เธอว่าอย่างอายๆพลางเกาหน้า เด็กหนุ่มหัวเราะ
“ไม่เป็นไรน่าวา ความห่วงเพื่อนหน่ะ เราเข้าใจดี”เขาว่าอย่างยิ้มๆ
“ทำไม...ทำไมถึงต้องกางม่านพลังให้เราด้วย ทำไมทั้งทั้งที่เราคิดจะโจมตีพวกเธอ”เมย์ที่เริ่มมีแรง
ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก วารีบเข้าไปพยุง
”ไม่เอาน่าเมย์ อย่าพูดเหมือนในนิยายน้ำเน่าสิ เธอเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอว่าเรื่องพวกนั้นมันไร้สาระ”เด็กผมแกละว่ายิ้มๆ
แต่เมย์กลับเบือนหน้าไปทางอื่น วาสังเกตแววตาเพื่อนของเธอ ก่อนจะถาม
“เมย์นี่เธอคงไม่บอกหรอกนะว่าขอตายแทนดิจิมอนตัวนั้น ถ้าเป็นไปได้”เด็กสาวว่าอย่างรู้ทัน
เด็กผมซอยเลยก้มหน้าลง
“เพราะเรามันอ่อนแอ ทั้งๆที่วิญญาณเมออซเคยปกครองและปกป้องโซนนี้ให้สงบสุขเรื่อยมา แต่พอมาถึงรุ่นเรา เรากลับ...เรากลับ ไม่สามารถทำได้”
เด็กสาวพยามที่จะยกมือขึ้นบังหน้าเพื่อซ่อนน้ำตาที่ค่อยๆเอ่อออกมา
“บางทีนะเมย์ ข้าว่าเมออซคงไม่รู้ว่าเรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นหรอก คือข้าว่าถ้าเธอรู้เธอคงปรารถนาให้เจ้ามีชีวิตมากกว่าการจะมายอมตายแทนดิจิมอนตนนั้นแบบนี้”เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น
วามองไปทางต้นเสียง เธอพบชายผมแดงในเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีแดงเข้ม กางเกงผ้าสีดำ ในเสื้อคลุมตัวยาวสีดำ เธอมองเขา และรู้สึกคุ้นเคยด้วยอย่างน่าประหลาด
“อ้าวท่านชวาล! ไม่เจอกันนานเลยนะครับครู!!”เสียงชัชดังขึ้นอย่างร่าเริง
วาและเมย์หันไปมองทางชัชอย่างพร้อมเพรียง
“หมายความว่าไง”วาถาม
“คนนี้คือชวาล 1 ใน 4 ผู้กล้าในตำนานหรือนักปราชญ์แห่งเสงในเงามืดงั้นเหรอ?” เมย์เสริม
ชัชพยักหน้าอย่างภาคภูมิ “ใช่นี่คือชวาล หรือ 1 ใน 4 ผู้กล้า นักปราชญ์แห่งแสงในเงามืดไงหล่ะ” 
“ไชโย ไชโย สำเร็จแล้ว”วาร้องเมื่อเห็นฝนตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย
ชัชหันไปมองเด็กสาวพลางส่ายหน้าอย่างรับไม่ได้ แต่แล้วริมฝีปากของเด็กหนุ่มก็ค่อยๆเหยียดออก เผยเป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความอบอุ่น
เมธินีเหยียดริมฝีปากออกเป็นรอยยิ้มหยัน เธอก้าวไปทางที่เพื่อนของเธอยืนอยู่ แววตาส่องประกายแห่งความมีชัย
“เธอนี่ไม่เข็ดจริงๆนะวา ลืมไปแล้วรึไงว่าน้ำเป็นสื่อนำของไฟฟ้า”
เด็กสาวพูดอย่างสบายอารมณ์ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่า ถ้าเธอฟาดสายฟ้าใส่วา คนที่โดนคือเธอนั่นแหละ ที่เดินออกมาจากที่ร่ม
ชัชมองเด็กผมซอยตรงหน้าก่อนจะถอนใจ
“เมย์ ยอมแพ้เหอะน่า ถ้าเธอโจมตีพวกเรามาผลมันก็เหมือนเดิม ไม่สิไม่เหมือน เพราะถ้าเธอโจมตีมาผลคือเธอนั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายเสียหาย”เขาปรามอย่างหวังดี
แต่เมย์กลับเยาะ
“ก็ใช่ซี่ คนอย่างนายหน่ะ มันก็ดีแต่กางเวทย์ป้องกันเท่านั้นแหละ ทำไมทำเป็นอย่างเดียวรึไง เป็นผู้รับสืบทอดเจตนารมย์ของคนที่ฉลาดที่สุดในบรรดาพวกเราซะเปล่า” เธอพูด
วาจ้องเมย์อย่างสงสัย
“หมายความว่าไง ในบรรดาพวกเรา หมายถึงชวาลงั้นเหรอ”เด็กสาวคิดอย่างงงงวย
ชัชวาลมองเมย์ด้วยสายตาเฉยเมย
“เราอาจจะไม่สมที่เป็นผู้รับเจตนารมณ์ของชวาล แต่เราก็ยังฉลาดพอที่จะไม่หลงเชื่อคำของเธอหรอกนะเมย์  ถ้าอยากโจมตีมาก็เชิญเลย” เขาท้า
เด็กผมซอยขบฟันอย่างจนตรอก เธอหยุดนิ่งราวกับรากเริ่มงอกออกจากใต้เท้าของเธอ เมย์สำรวจทั่วร่างทั้ง 2 คนตรงหน้าอย่างรวดเร็ว ...ได้การหล่ะ  ตุ้มหูของวาและนาฬิกาของชัชทำด้วยเงิน แต่ร่างกายเธอก็เปียกชุ่มไปด้วยฝนที่เทลงมาอย่างหนัก เด็กสาวหยุดชั่งใจ
“เป็นไรไปหล่ะเมย์ ถ้าไม่จัดการ 2 คนนั่น ไอ้สวะพวกนี้ตายนะ”เสียงผู้ชายดังขึ้นมาจากด้านหลังของเธอ
ชัชที่อยู่ข้างๆวาสบถขึ้นทันใดเมื่อเขาพบว่าใครเป็นคนพูด เด็กผมแกละมองเพื่อนของเธออย่างงงๆ ก่อนที่ตัวเธอเองจะมองไปด้านหลังเมย์ และพบกับภาพที่ทำให้ต้องยกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ
กาญจน์หรือเคยืนอยู่ตรงนั้น  ตรงข้างหลังของเมย์ ใต้รองเท้าบูทที่ทั้งหนาและหนังปรากฏร่างของสัตว์มายาหรือดิจิมอนตนหนึ่งที่พยามดิ้นรนสุดชีวิต เด็กผมซอยหันไปทางเขา
“ยังจะมามัวมองอะไรอีกเล่า รู้อยู่แก่ใจไม่ใช่เหรอว่าถ้าคนอ่อนแออย่างเธอไม่ทำ จะเกิดอะไรขึ้นกับไอ้สวะนี่”เคพูดอย่างเริงร่า
แต่ตานั้นฉายแววอัมหิตอย่างเด่นชัด เมย์หันกลับมาและยกมือขึ้นฟ้า
ชัชที่พอจะรู้ที่มาที่ไปของการกระทำของเด็กสาวร้องอย่างตกใจ
“อย่านะเมย์ เธอก็รู้อยู่แก่ใจไม่ใช่เหรอว่า ถ้าเธอโจมตีมาผลจะเป็นยังไง ดูทั่วร่างกายเธอสิ ตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยฝนแล้วนะ”
เด็กผมซอยชะงัก ก่อนที่จะหันมาทางวาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม เด็กสาวผมแกละที่พยามกลั้นน้ำตาพยักหน้าให้อย่างแข็งขัน ชัชหันไปมองวาราวกับจะบอกว่าเธอบ้าไปแล้ว แต่ริมฝีปากของเมย์เหยียดออก เป็นรอยยิ้มครั้งแรกในช่วงหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เธอพึมพำคาถา...
เปรี๊ยง!!
สายฟ้าฟาดลงมาทำให้ทั่วบริเวณนั้นสว่าง แต่ไม่นานที่มันจางหายไป ชัชกางม่านพลังขึ้นมาครอบร่างของเขา วา และ เมย์ไว้ (เอ่อ..แฟงอยู่ระหว่างชัชกับวานะ) เด็กสาวผมซอยมองเขาด้วยความงง
“นายช่วยเราไว้ทำไม”เสียงของเธอแหบห้าว
ก่อนจะหันหน้าเดินออกไปจากม่านพลัง แต่ดูเหมือนความเหนื่อยอ่อนที่ใช้พลังเวทย์ติดต่อกันมาหลายชั่วโมงจะแผ่ไปที่ขา ทำให้เธอต้องเดินโซซัดโซเซอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เด็กสาวตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อไป แต่ร่างกายของเอนั้นกลับไม่ไหว เมย์ค่อยๆล้มลง
วารีบวิ่งเข้าไปประคองเธอทันใด
“เมย์ อย่าฝืนเลยนะ”เธอว่า
แต่คนที่เธอไปช่วยกลับผลักเธอออกไปอย่างไม่ไยดี
“อย่ามาแตะตัวเรา!!”เด็กผมซอยว่า
ชัชเดินเข้ามาหาคนทั้ง 2 ก่อนจะผลักหลังเมย์ให้ลงไปนอนกับพื้น(เอ่อ..ขอย้ำชัชยังยืนอยู่นะ ) วาหันมามองเขาด้วยความงงระคนความโกรธ
“นายทำอะไรหน่ะ ไม่เห็นรึไงว่าเมย์กำลังเจ็บอยู่” เธอว่า
“ชวาลา สายฟ้าหน่ะ มันต้องลงดินสิถึงจะถูก เมื่อกี้ที่เมย์ผลักเธอออกมาเพราะในตัวของเธอยังมีกระแสไฟเหลืออยู่ ถ้าเธอเข้าไปไกล้มากกว่านี้อาจจะโดนไฟช๊อตได้ ยิ่งตัวเปียกๆอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ” ชัชอธิบายให้วาฟังตามระเบียบ
เด็กสาวเห็นจริงตามที่เด็กหนุ่มว่า เลยก้มหน้าที่มีสีจัดยิ่งกว่ามะเขือเทศ
“ขอโทษนะ คือพอดีเราไม่ทันคิด”เธอว่าอย่างอายๆพลางเกาหน้า เด็กหนุ่มหัวเราะ
“ไม่เป็นไรน่าวา ความห่วงเพื่อนหน่ะ เราเข้าใจดี”เขาว่าอย่างยิ้มๆ
“ทำไม...ทำไมถึงต้องกางม่านพลังให้เราด้วย ทำไมทั้งทั้งที่เราคิดจะโจมตีพวกเธอ”เมย์ที่เริ่มมีแรง
ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก วารีบเข้าไปพยุง
”ไม่เอาน่าเมย์ อย่าพูดเหมือนในนิยายน้ำเน่าสิ เธอเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอว่าเรื่องพวกนั้นมันไร้สาระ”เด็กผมแกละว่ายิ้มๆ
แต่เมย์กลับเบือนหน้าไปทางอื่น วาสังเกตแววตาเพื่อนของเธอ ก่อนจะถาม
“เมย์นี่เธอคงไม่บอกหรอกนะว่าขอตายแทนดิจิมอนตัวนั้น ถ้าเป็นไปได้”เด็กสาวว่าอย่างรู้ทัน
เด็กผมซอยเลยก้มหน้าลง
“เพราะเรามันอ่อนแอ ทั้งๆที่วิญญาณเมออซเคยปกครองและปกป้องโซนนี้ให้สงบสุขเรื่อยมา แต่พอมาถึงรุ่นเรา เรากลับ...เรากลับ ไม่สามารถทำได้”
เด็กสาวพยามที่จะยกมือขึ้นบังหน้าเพื่อซ่อนน้ำตาที่ค่อยๆเอ่อออกมา
“บางทีนะเมย์ ข้าว่าเมออซคงไม่รู้ว่าเรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นหรอก คือข้าว่าถ้าเธอรู้เธอคงปรารถนาให้เจ้ามีชีวิตมากกว่าการจะมายอมตายแทนดิจิมอนตนนั้นแบบนี้”เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น
วามองไปทางต้นเสียง เธอพบชายผมแดงในเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีแดงเข้ม กางเกงผ้าสีดำ ในเสื้อคลุมตัวยาวสีดำ เธอมองเขา และรู้สึกคุ้นเคยด้วยอย่างน่าประหลาด
“อ้าวท่านชวาล! ไม่เจอกันนานเลยนะครับครู!!”เสียงชัชดังขึ้นอย่างร่าเริง
วาและเมย์หันไปมองทางชัชอย่างพร้อมเพรียง
“หมายความว่าไง”วาถาม
“คนนี้คือชวาล 1 ใน 4 ผู้กล้าในตำนานหรือนักปราชญ์แห่งเสงในเงามืดงั้นเหรอ?” เมย์เสริม
ชัชพยักหน้าอย่างภาคภูมิ “ใช่นี่คือชวาล หรือ 1 ใน 4 ผู้กล้า นักปราชญ์แห่งแสงในเงามืดไงหล่ะ” 
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น