ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The elements – ตำนานนักรบแห่งมวลธาตุ

    ลำดับตอนที่ #13 : การปรากฏตัวของนักปราชญ์แห่งแสง

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 48


    พายุฝนก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ท้องฟ้าที่เคยสว่างไสว บัดนี้กลับมืดมิดด้วยเมฆที่ลอยมารวมตัวกันอย่างแน่นหนา เม็ดฝนตกลงมาสัมผัสกับใบหน้าของเด็กผมแกละที่อยู่เบื้องล่าง เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองฟ้า



    “ไชโย ไชโย สำเร็จแล้ว”วาร้องเมื่อเห็นฝนตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย



    ชัชหันไปมองเด็กสาวพลางส่ายหน้าอย่างรับไม่ได้ แต่แล้วริมฝีปากของเด็กหนุ่มก็ค่อยๆเหยียดออก เผยเป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความอบอุ่น





    เมธินีเหยียดริมฝีปากออกเป็นรอยยิ้มหยัน เธอก้าวไปทางที่เพื่อนของเธอยืนอยู่ แววตาส่องประกายแห่งความมีชัย



    “เธอนี่ไม่เข็ดจริงๆนะวา ลืมไปแล้วรึไงว่าน้ำเป็นสื่อนำของไฟฟ้า”



    เด็กสาวพูดอย่างสบายอารมณ์ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่า ถ้าเธอฟาดสายฟ้าใส่วา คนที่โดนคือเธอนั่นแหละ ที่เดินออกมาจากที่ร่ม





    ชัชมองเด็กผมซอยตรงหน้าก่อนจะถอนใจ



    “เมย์ ยอมแพ้เหอะน่า ถ้าเธอโจมตีพวกเรามาผลมันก็เหมือนเดิม ไม่สิไม่เหมือน เพราะถ้าเธอโจมตีมาผลคือเธอนั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายเสียหาย”เขาปรามอย่างหวังดี



    แต่เมย์กลับเยาะ



    “ก็ใช่ซี่ คนอย่างนายหน่ะ มันก็ดีแต่กางเวทย์ป้องกันเท่านั้นแหละ ทำไมทำเป็นอย่างเดียวรึไง เป็นผู้รับสืบทอดเจตนารมย์ของคนที่ฉลาดที่สุดในบรรดาพวกเราซะเปล่า” เธอพูด



    วาจ้องเมย์อย่างสงสัย



    “หมายความว่าไง ในบรรดาพวกเรา หมายถึงชวาลงั้นเหรอ”เด็กสาวคิดอย่างงงงวย





    ชัชวาลมองเมย์ด้วยสายตาเฉยเมย



    “เราอาจจะไม่สมที่เป็นผู้รับเจตนารมณ์ของชวาล แต่เราก็ยังฉลาดพอที่จะไม่หลงเชื่อคำของเธอหรอกนะเมย์  ถ้าอยากโจมตีมาก็เชิญเลย” เขาท้า



    เด็กผมซอยขบฟันอย่างจนตรอก เธอหยุดนิ่งราวกับรากเริ่มงอกออกจากใต้เท้าของเธอ เมย์สำรวจทั่วร่างทั้ง 2 คนตรงหน้าอย่างรวดเร็ว ...ได้การหล่ะ  ตุ้มหูของวาและนาฬิกาของชัชทำด้วยเงิน แต่ร่างกายเธอก็เปียกชุ่มไปด้วยฝนที่เทลงมาอย่างหนัก เด็กสาวหยุดชั่งใจ



    “เป็นไรไปหล่ะเมย์ ถ้าไม่จัดการ 2 คนนั่น ไอ้สวะพวกนี้ตายนะ”เสียงผู้ชายดังขึ้นมาจากด้านหลังของเธอ



    ชัชที่อยู่ข้างๆวาสบถขึ้นทันใดเมื่อเขาพบว่าใครเป็นคนพูด เด็กผมแกละมองเพื่อนของเธออย่างงงๆ ก่อนที่ตัวเธอเองจะมองไปด้านหลังเมย์ และพบกับภาพที่ทำให้ต้องยกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ





    กาญจน์หรือเคยืนอยู่ตรงนั้น  ตรงข้างหลังของเมย์ ใต้รองเท้าบูทที่ทั้งหนาและหนังปรากฏร่างของสัตว์มายาหรือดิจิมอนตนหนึ่งที่พยามดิ้นรนสุดชีวิต เด็กผมซอยหันไปทางเขา



    “ยังจะมามัวมองอะไรอีกเล่า รู้อยู่แก่ใจไม่ใช่เหรอว่าถ้าคนอ่อนแออย่างเธอไม่ทำ จะเกิดอะไรขึ้นกับไอ้สวะนี่”เคพูดอย่างเริงร่า



    แต่ตานั้นฉายแววอัมหิตอย่างเด่นชัด เมย์หันกลับมาและยกมือขึ้นฟ้า





    ชัชที่พอจะรู้ที่มาที่ไปของการกระทำของเด็กสาวร้องอย่างตกใจ



    “อย่านะเมย์ เธอก็รู้อยู่แก่ใจไม่ใช่เหรอว่า ถ้าเธอโจมตีมาผลจะเป็นยังไง ดูทั่วร่างกายเธอสิ ตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยฝนแล้วนะ”



    เด็กผมซอยชะงัก ก่อนที่จะหันมาทางวาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม เด็กสาวผมแกละที่พยามกลั้นน้ำตาพยักหน้าให้อย่างแข็งขัน ชัชหันไปมองวาราวกับจะบอกว่าเธอบ้าไปแล้ว แต่ริมฝีปากของเมย์เหยียดออก เป็นรอยยิ้มครั้งแรกในช่วงหลายชั่วโมงที่ผ่านมา เธอพึมพำคาถา...





    เปรี๊ยง!!



    สายฟ้าฟาดลงมาทำให้ทั่วบริเวณนั้นสว่าง แต่ไม่นานที่มันจางหายไป ชัชกางม่านพลังขึ้นมาครอบร่างของเขา วา และ เมย์ไว้ (เอ่อ..แฟงอยู่ระหว่างชัชกับวานะ) เด็กสาวผมซอยมองเขาด้วยความงง



    “นายช่วยเราไว้ทำไม”เสียงของเธอแหบห้าว



    ก่อนจะหันหน้าเดินออกไปจากม่านพลัง แต่ดูเหมือนความเหนื่อยอ่อนที่ใช้พลังเวทย์ติดต่อกันมาหลายชั่วโมงจะแผ่ไปที่ขา ทำให้เธอต้องเดินโซซัดโซเซอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เด็กสาวตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อไป แต่ร่างกายของเอนั้นกลับไม่ไหว เมย์ค่อยๆล้มลง





    วารีบวิ่งเข้าไปประคองเธอทันใด



    “เมย์ อย่าฝืนเลยนะ”เธอว่า



    แต่คนที่เธอไปช่วยกลับผลักเธอออกไปอย่างไม่ไยดี



    “อย่ามาแตะตัวเรา!!”เด็กผมซอยว่า



    ชัชเดินเข้ามาหาคนทั้ง 2 ก่อนจะผลักหลังเมย์ให้ลงไปนอนกับพื้น(เอ่อ..ขอย้ำชัชยังยืนอยู่นะ ) วาหันมามองเขาด้วยความงงระคนความโกรธ



    “นายทำอะไรหน่ะ ไม่เห็นรึไงว่าเมย์กำลังเจ็บอยู่” เธอว่า



    “ชวาลา สายฟ้าหน่ะ มันต้องลงดินสิถึงจะถูก เมื่อกี้ที่เมย์ผลักเธอออกมาเพราะในตัวของเธอยังมีกระแสไฟเหลืออยู่ ถ้าเธอเข้าไปไกล้มากกว่านี้อาจจะโดนไฟช๊อตได้ ยิ่งตัวเปียกๆอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ” ชัชอธิบายให้วาฟังตามระเบียบ



    เด็กสาวเห็นจริงตามที่เด็กหนุ่มว่า เลยก้มหน้าที่มีสีจัดยิ่งกว่ามะเขือเทศ



    “ขอโทษนะ คือพอดีเราไม่ทันคิด”เธอว่าอย่างอายๆพลางเกาหน้า เด็กหนุ่มหัวเราะ



    “ไม่เป็นไรน่าวา ความห่วงเพื่อนหน่ะ เราเข้าใจดี”เขาว่าอย่างยิ้มๆ





    “ทำไม...ทำไมถึงต้องกางม่านพลังให้เราด้วย ทำไมทั้งทั้งที่เราคิดจะโจมตีพวกเธอ”เมย์ที่เริ่มมีแรง



    ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก วารีบเข้าไปพยุง



    ”ไม่เอาน่าเมย์ อย่าพูดเหมือนในนิยายน้ำเน่าสิ เธอเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอว่าเรื่องพวกนั้นมันไร้สาระ”เด็กผมแกละว่ายิ้มๆ



    แต่เมย์กลับเบือนหน้าไปทางอื่น วาสังเกตแววตาเพื่อนของเธอ ก่อนจะถาม



    “เมย์นี่เธอคงไม่บอกหรอกนะว่าขอตายแทนดิจิมอนตัวนั้น ถ้าเป็นไปได้”เด็กสาวว่าอย่างรู้ทัน



    เด็กผมซอยเลยก้มหน้าลง



    “เพราะเรามันอ่อนแอ ทั้งๆที่วิญญาณเมออซเคยปกครองและปกป้องโซนนี้ให้สงบสุขเรื่อยมา แต่พอมาถึงรุ่นเรา เรากลับ...เรากลับ ไม่สามารถทำได้”



    เด็กสาวพยามที่จะยกมือขึ้นบังหน้าเพื่อซ่อนน้ำตาที่ค่อยๆเอ่อออกมา



    “บางทีนะเมย์ ข้าว่าเมออซคงไม่รู้ว่าเรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นหรอก คือข้าว่าถ้าเธอรู้เธอคงปรารถนาให้เจ้ามีชีวิตมากกว่าการจะมายอมตายแทนดิจิมอนตนนั้นแบบนี้”เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น



    วามองไปทางต้นเสียง เธอพบชายผมแดงในเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีแดงเข้ม กางเกงผ้าสีดำ ในเสื้อคลุมตัวยาวสีดำ เธอมองเขา และรู้สึกคุ้นเคยด้วยอย่างน่าประหลาด





    “อ้าวท่านชวาล! ไม่เจอกันนานเลยนะครับครู!!”เสียงชัชดังขึ้นอย่างร่าเริง



    วาและเมย์หันไปมองทางชัชอย่างพร้อมเพรียง



    “หมายความว่าไง”วาถาม



    “คนนี้คือชวาล 1 ใน 4 ผู้กล้าในตำนานหรือนักปราชญ์แห่งเสงในเงามืดงั้นเหรอ?” เมย์เสริม



    ชัชพยักหน้าอย่างภาคภูมิ “ใช่นี่คือชวาล หรือ 1 ใน 4 ผู้กล้า นักปราชญ์แห่งแสงในเงามืดไงหล่ะ”  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×