ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The elements – ตำนานนักรบแห่งมวลธาตุ

    ลำดับตอนที่ #9 : สัญลักษณ์ของท้าประลอง

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ค. 48


    เด็กผมแกละมองสิ่งของตรงหน้าตาไม่กระพริบ เธออับจนคำพูดกับสิ่งที่เธอได้พบ แฟงมองวาก่อนที่จะสะกิดเธอ



    “วา...คนเมื่อกี้ที่ผ่านไป จี้ของข้ามีปฏิกิริยาด้วย” แฟงว่าพลางเขย่าขาเธอ



    แต่ดูเหมือนเด็กสาวจะไม่รับรู้ใดๆทั้งสิ้น หัวสมองของเธอเต็มไปด้วยคำถามที่เธอเองก็ไม่รู้จะตอบมันยังไง



    “มะ...ไม่จริงมันเป็นไปไม่ได้!! เป็นไปไม่ได้ที่เพื่อนของเธอจะมีของแบบนี้ในครอบครอง เป็นไปไม่ได้ที่เพื่อนของเธอจะมีจี้ของผู้กล้าในตำนาน!! ไม่มีทางที่เพื่อนของเธอจะมีจี้วงล้อแห่งความมืดในครอบครอง!!”

        



    “ชวาลา ยืนขึ้นตอบคำถามอาจารย์หน่อยซิ” เสียงคนเป็นครูดังขึ้น



    แต่เด็กผมแกละยังคงนั่งจ้องสร้อยที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งส่งให้ตาไม่กระพริบ



    “ชวาลา!!” คนเป็นครูเรียกซ้ำ



    แฟงเห็นสติของวาไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เลยหยิกเข้าให้ที่ขา



    “คะ..ขา” เด็กสาวลุกขึ้นอย่างเก้ๆกังๆ เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนร่วมชั้นได้เป็นอย่างดี แต่คนที่ยืนอยู่หน้าห้องกลับมองเธออย่างสงสัย



    “ชวาลา... นี่เธอใจลอยในห้องเรียนงั้นเหรอ??” อาจารย์ถาม วาส่ายหน้า แต่เธอก็ก้มหน้าลง



    “ขอโทษค่ะ อาจารย์” เด็กสาวพูดเสียงค่อย



    เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ริมประตู มองเธอด้วยสีหน้างงๆ   แต่เด็กหนุ่มที่นั่งหลังเธอกลับยิ้มอย่างมีความสุข !?

        



    “เอาหล่ะ เอาหล่ะชวาลา ไหนตอบคำถามอาจารย์หน่อยซิ” อาจารย์ชีวะว่า เมื่อเสียงหัวเราะเงียบลงได้



    “ค่ะ” เด็กสาวผมแกละตอบรับ



    “ไหนลองบอกแอลลีนของต้นถั่วที่มีลักษณะสูงมาซิ” อาจารย์ถาม



    “เอ่อ...สามารถเป็นได้ทั้งต้นถั่วที่มีลักษณะสูงเหมือนกัน กับต้นถั่วที่มีลักษณะต้นเตี้ยใช่ไหมค่ะ” วาตอบอย่างฉะฉาน



    เพราะแม้เธอจะตกวิชาคณิตศาสตร์ แต่แน่นอนว่าชีววิทยาไม่เป็นรองใครอยู่แล้ว คนเป็นครูพยักหน้าให้เด็กสาว วาเลยนั่งลง พลางยิ้มอย่างพอใจ  แต่พอตาสีน้ำตาลของเธอมองลงมาที่โต๊ะ ใจที่เคยพองโตของเธอ ก็ฟีบเล็กลงเหลือเท่าเมล็ดข้าว เมื่อสร้อยคอตรงหน้าของเธอ มีจี้วงล้อแห่งความมืดอยู่ตรงกลาง

        



    เด็กสาวส่ายหน้าอย่างแรง



    “เลิกคิดเรื่องนี้ก่อนดีกว่า” เธอว่ากับตนเอง



    แล้วยัดสร้อยที่มีจี้วงล้อแห่งความมืดลงใต้โต๊ะ ก่อนจะหันมาตั้งหน้าตั้งตาเรียน แฟงมองวาก่อนที่จะค่อยๆเขย่งเท้าขึ้น เพื่อมองหาสาเหตุที่เด็กผมแกละดูสับสน และวุ่น จี้วงล้อแห่งความมืดค่อยๆลอยเข้ามาในสายตา แฟนธอมน้อยผงะ เขามองวาด้วยสีหน้าที่บอกไม่ถูกว่าควรจะเป็นงง หรือจะเป็นอยากรู้  



    “บางทีเราก็ต้องทดสอบและฝึกฝนคนที่จะมารับช่วงต่อของพวกเราเหมือนกันนะ” เสียงชายคนหนึ่งดังเข้ามาในประสาทรับรู้ของแฟง



    เขามองไปรอบ เด็กหนุ่มผมยุ่งที่นั่งหลังวา ไป 2 แถวดูเหมือนผู้มีนามว่ากาญจน์กำลังยิ้มให้เขาพลางหลิ่วตาให้ สัตว์มายามองเขาอย่างสนใจ ก่อนที่จะเหยียดปากออกเป็นรอยยิ้มที่สดใส



    “เข้าใจแล้วครับ ท่านเคออซ!!”





    หลังเลิกเรียน เด็กสาวผมแกละลุกขึ้นบิดขี้เกียจ อย่างสุดจะทน



    “เฮ้อ...ในที่สุดก็ได้กลับบ้านซะที” เธอว่า



    แต่ก็โดนมือเล็กๆของแฟงจับขาไว้



    “วา...” แฟนธอมเรียกเสียงค่อย



    เด็กสาวก้มหน้าลงมอง



    “อะไรหรอแฟง” เธอถาม



    สัตว์มายาเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะส่งอะไรบางอย่างให้



    “วา...ท่านรู้ไหมว่านี่คืออะไร” เด็กสาวมองในมือของแฟนธอม



    ก่อนจะยกมือขึ้นปิดปาก เธอถอนหายใจอีกครั้ง แล้วพูดช้าๆ



    “วงล้อแห่งความมืดใช่ไหม”



    แฟงพยักหน้า แต่กลับถามต่อ



    “ท่านรู้ไหมว่านี่หมายความว่าอย่างไร”



    เด็กผมแกละส่ายหน้าอย่างจนปัญญา ทำให้สัตว์มายาได้แต่ถอนใจ



    “มันคือสาส์นท้าประลองไงหล่ะท่าน!!” แฟนธอมว่าอย่างเร่งรีบ





    วามองแฟงสลับกับมองจี้



    “หมายความว่าไง” เด็กสาวพูดขึ้นช้าๆ



    แฟนธอมถอนใจก่อนที่จะอธิบาย



    “การที่เผ่าหนึ่งจะส่งสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของเผ่าตนให้อีกเผ่าหนึ่งก็ต่อเมื่อต้องการท้าประลองเท่านั้น”



    “งั้นคนที่ส่งจี้นี่ให้วาต้องการที่จะประลองกับวางั้นเหรอ” เสียงผู้ชายดังขึ้น



    เด็กสาวหันไปมอง เห็นเจ้าชายของเด็กสาวหลายคนกำลังมองเธออย่างอยากรู้ ดวงตาเริ่มเป็นประกาย อยากรู้อยากเห็น เด็กสาวมองชัชก่อนจะถอนใจ และส่ายหัว



    “ไม่ว่ายังไง เราก็ไม่มีทางไปตามนัดหรอก” วาพูดอย่างเด็ดขาดก่อนจะออกเดิน



    แต่เธอกลับโดนคำพูดของแฟงหยุดไว้



    “วา...คุณเมย์หน่ะ เป็นเพื่อนของท่านไม่ใช่เหรอ คือการที่จะส่งสาส์นท้าประลองให้ใคร นั่นหมายถึงการผูกตัวเองไว้กับพันธะสัญญาด้วย”



    “หมายความว่าไง?” เด็กสาวหันกลับมาทันที  



    “หมายความว่าคนที่เป็นคนท้าจะไม่สามารถไปจากที่นัดหมายได้ จนกว่าการต่อสู้จะจบลง เพราะโดนผูกไว้ด้วยเวทย์แห่งสัญญา” ชัชวาลอธิบาย



    วาหันไปมองเขา



    “แล้วไอ้เวทย์แห่งสัญญาเนี่ย มันก็ไม่มีผลอะไรไม่ใช่เหรอ” เด็กสาวว่าพลางทำท่าจะเดินจากไปไปอย่างไม่แยแส



    “เวทย์แห่งสัญญาจะผูกมัดคนที่เป็นคนเริ่มสัญญาไว้กับสถานที่ หากคนๆนั้นออกมาจากที่นั้น อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต” แฟงพูดขึ้นช้าๆ





    วาหมุนตัวกลับ 180 องศาในทันใด



    “ที่ไหนหล่ะแฟง ที่ไหนหล่ะที่เมย์นัดประลองกับเราหน่ะ ” เธอพูดอย่างเร่งรีบ



    “Elements โซน Natural ดิจิตอลเวิลด์” แฟนธอมตอบเรียบๆ



    “ไป...ไปที่นั่นกันเร็วเข้า” วาพูดและออกเดินอย่างรวดเร็วก่อนที่เธอจะหายตัวไปต่อหน้าต่อตาของคนกับสัตว์มายา



    “เฮ้..แฟงๆ เวทย์แห่งสัญญาหน่ะ.. คนที่ได้รับสืบทอดเป็นผู้กล้าในปัจจุบันอย่างเมธินีหน่ะ ระดับเวทย์อยู่ในขั้นปรมาจารย์ไม่ใช่เหรอ คือคนที่มีเวทย์อยู่ในระดับนี้ แค่บอกยกเลิกมันก็หายไปแล้วไม่ใช่เหรอ” ชัชถามพลางเลิกคิ้ว



    แต่สัตว์มายาเพียงแต่ยิ้ม



    “สมเป็นผู้ที่ได้รับสืบทอดจิตวิญญาณของท่านชวาลจริงๆเลยนะท่านนี่ เอาเถอะข้าว่า งานนี้สนุกแน่ อีกอย่างข้าก็อยากพาท่านไปเยือนElementsอยู่แล้วนี่ ถือโอกาสไปตอนนี้จะผิดอะไร” แฟงว่าแล้ว



    ก็แตะแขนชัชก่อนทั้ง 2 จะหายไปจากบริเวณนั้น



    “เริ่มรู้จุดประสงค์ของเราแล้วสินะแฟง” เด็กหนุ่มผมยุ่งที่ในส่วนลึกของตามีแววไร้วิญญาณกระซิบ



    ก่อนที่จะกระตุกที่มุมปาก เผยเป็นรอยยิ้มกว้าง





    “เมย์ๆๆๆๆๆๆๆๆ” วาเรียกเมื่อตัวเธอมาอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง



    สิ่งมีชีวิตเหนือจินตนาการตัวหลากสี หรือที่เรียกกันว่า ดิจิมอน ค่อยๆโผล่ออกมาตามพุ่มไม้ทีละตัวสองตัว เหล่าสัตว์มายาจ้องมองเด็กสาวอย่างไม่วางตา พลางกระซิบกระซาบกันไปมา แต่เด็กสาวมัวแต่คิดถึงเรื่องการประลอง และเวทย์แห่งสัญญาจนเธอไม่ได้สังเกตุอะไรเลย หรือแม้แต่วิธีการที่เธอใช้ในการเข้ามายังโลกElements





    “แฟง...แล้วคือ...แล้วชวาลาหล่ะ” ชัชถามขึ้น



    เมื่อพบว่าตนอยู่ในสถานที่ที่มีแต่สีขาว แฟนธอมมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาสงสัย



    “แปลกนะที่ท่านไม่รู้ คือปกติท่านจะรู้ทุกอย่างนี่” เขาหยอก แต่กลับโดนผู้รอบรู้ยัน  ระหว่างนั้นเอง หญิงงามในชุดกระโปรง แขนจับระบายสีไข่มุก ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มอันอ่อนโยนก็เดินเข้ามาหาคนทั้ง 2 เธอหัวเราะอย่างผู้ดี  แต่เสียงหัวเราะอันสุดแสนจะเบาของเธอกลับเรียกให้ชายหนุ่มผู้มีหน้าตาหล่อหันมามองเธออย่างสนใจ





    “เอเมอรัลด์ใช่ไหมครับ” ชัชถามอย่างเก้ๆกังๆ



    ผู้มีนามแห่งมรกตแย้มก่อนจะพยักหน้าช้าๆ



    “สมเป็นคนที่รับสืบทอดจิตวิญญาณของท่านชวาลจริงๆเลยนะเธอนี่” หญิงงามว่าก่อนจะยิ้มให้เด็กหนุ่มอย่างเอ็นดู ชัชวาลมองหน้าของเธอตรงๆก่อนที่จะต้องรีบก้มหน้าลงเพื่อซ่อนใบหน้าที่เริ่มกลายเป็นสีมะเขือเทศของเขา





    “อ้าว...เอเมอรัลด์...หวัดดี” เสียงสดใสของแฟงทักหญิงงามอย่างร่าเริง



    ชัชหันไปมองสัตว์มายาทันควัน พลางทำหน้าที่ยากจะบรรยาย แต่เอเมอรัลด์กลับมองแฟงด้วยท่าทีครุ่นคิด



    “เออแฟงข้ามีอะไรจะถาม\"



    \"ก็ถามมาสิ\"สัตว์มายาว่าขณะที่พยามจะยืนด้วยมือ



    \"คือ1นะ เธอใช่ไหมที่บอกวาว่าเราเราเป็นเทพของโลกนี้ 2 เธอใช่ไหมที่เป็นคนสอน(รื้อฟื้น)เวทย์ระดับปรมาจารย์ให้วา และ 3 ทำไมต้องหลอกวาด้วยเรื่องเวทย์แห่งสัญญา” ผู้มีนามแห่งมรกตถามพลางจ้องแฟงอย่างไม่ละสายตา



    แฟนธอมเลยกลับมายืนท่าปกติ ก่อนจะตอบ





    “สำหรับข้อ 1นะ ข้าขอไม่ไม่ปฏิเสนะท่าน แต่ข้อ 2 ข้าขอปฏิเสธ เพราะท่านก็รู้นี่ว่าเวทย์ของข้ามันอยู่แค่ระดับฝึกหัด จะไปสอน(รื้อฟื้น) เวทย์ระดับปรมาจารย์ให้วาได้อย่างไร และข้อ 3......” แฟงหยุดกระทันหัน



    ก่อนจะมองซ้าย มองขวาด้วยสายตาเจ้าเล่ห์



    “อะไรเล่า” เอเมอรัลด์เร่งอย่างอดไม่ได้  



    แฟนธอมมองเธอด้วยตาที่แกล้งทำเป็นครุ่นคิด ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงอันดัง



    “มันเป็นส่วนหนึ่งของงานของผู้เป็นลีด”





    เอเมอรัลด์ถอนหายใจด้วยความอ่อนใจเป็นที่สุด ก่อนจะหันมาหาชัดและพูดอย่างเป็นการเป็นงาน



    “เอาหล่ะชัชวาลผู้สืบทอดของท่านชวาล ดูเหมือนข้าจะต้องพาเจ้าไปยังสถานที่ที่ผู้รับสืบทอดทุกคนต้องไป เอาหล่ะ ตามข้ามา” หญิงงามว่าและออกเดิน โดยมีผู้รอบรู้ตามไปอย่างกระชั้นชิด





    วาวิ่งฝ่าป่าไม้ไปอย่างรวดเร็ว ในหัวของเธอนั้นคิดแต่เรื่องชะตากรรมของเพื่อนของเธอจากเวทย์แห่งสัญญา  เด็กสาววิ่งไปเรื่อยๆจนกระทั่งพบตัวเองอยู่ในที่โล่ง เธอหยุดและออกเดินอย่างช้าๆ



    เปรี๊ยง!!



    สายฟ้าฟาดลงมายังตำแหน่งที่เธอยืนเมื่อครู่ เด็กสาวมองมันอย่างงงๆ ก่อนจะกระโดดหลบสายฟ้าที่ฟาดลงมาที่ที่เธอยืนอยู่



    เปรี๊ยง!!



    “เมย์..” เด็กสาวพึมพำก่อนจะออกวิ่งไปยังจุดต้นกำเนิดพลัง





    เปรี๊ยงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



    สายฟ้ายังคงผ่าลงมาอย่างไม่ขาดสาย วาทั้ง วิ่งหลบ กระโดดหลบ ทั้งกลิ้งหลบยังมี เด็กสาววิ่งไปข้างหน้าเรื่อยๆจนกระทั่งสายฟ้าที่ผ่าลงมาอย่างบ้าคลั่ง หยุดลงอย่างสิ้นเชิง เด็กสาวเงยหน้าขึ้น เพื่อนรักของเธอยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มหยัน แต่ข้างหลังของเมย์นั่นเอง ปรากฎเป็นร่างหญิงสาวผมซอยสั้นในชุดเสื้อคลุมหนังสีดำ วาเพ่งมองผู้หญิงคนนั้นก่อนที่หัวใจของเธอจะตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม



    “เม....เมออซ!!” เด็กสาวพึมพำ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×