ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไวยากรณ์อังกฤษ

    ลำดับตอนที่ #18 : Nouns ( Subject - Verb Agreement )

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ย. 52


    ในประโยคภาษาอังกฤษ  ประธานของประโยค ( Subject ) และการใช้คำกริยา  (Verb ) จะต้องสอดคล้องกัน กล่าวคือ ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ กริยาต้องเป็นเอกพจน์  ถ้าประธานเป็นพหูพจน์ กริยาต้องเป็นพหูพจน์   ปัญหาสำหรับผู้เรียนคือ ไม่แน่ใจว่าประธานเป็นเอกพจน์หรือพหุพจน์  เช่น

     

    government , committee  ซึ่งเป็นได้ทั้งเอกพจน์ และพหูพจน์ แล้วแต่การใช้
    furniture,money  ดูน่าจะเป็นพหูพจน์ แต่ในภาษาอังกฤษคำเหล่านี้เป็นนามนับไม่ได้  มีความหมายเป็นเอกพจน์
    police, people  ใช้อย่างพหูพจน์เท่านั้น

    เพราะฉะนั้น ผู้เรียนจะต้องทำความเข้าใจเรื่อง nouns รวมทั้งข้อยกเว้นต่างๆให้ถ่องแท้จึงจะสามารถใช้คำกริยาให้สอดคล้อง กับประธานได้อย่างถูกต้อง

     หลักการใช้กริยาให้สอดคล้องกับประธาน

     1. ประธานเป็นเอกพจน์ กริยาเป็นเอกพจน์ ประธานเป็นพหูพจน์ กริยาเป็นพหูพจน์

    Jane lives in China. เจนอาศัยอยู่ในประเทศจีน
    The  Jones live in France. ครอบครัวโจนส์อาศัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส

     2. กรณีมีประธาน 2 ตัว เชื่อมด้วย and โดยปกติถือเป็นพหูพจน์ กริยาจึงอยูในรูปพหูพจน์

    Jean and David are moving back to Australia. เจนและเดวิด กำลังจะย้ายกลับไปประเทศออสเตรเลีย

    3. กรณีมีประธาน 2 ตัว เชื่อมด้วย and   แด่นำมาใช้โดยคิดเป็นหน่วยเดียวกัน   ใช้กริยาเป็นเอกพจน์

    Bread and butter has been my breakfast for years. ขนมปังและเนยเป็นอาหารมื้อเช้าของฉันมาหลายปีแล้ว
    Honesty and truth is the best policy. ความซื่อสัตย์และความจริงเป็นนโยบายที่ดีที่สุด
    Rice and curry is my  daughter's favorite food. ข้าวแกงกะหรี่เป็นอาหารโปรดของลูกสาวฉัน

    แต่ถ้าผู้พูดคิดว่าแยกกัน    ก็จะมีความหมายเป็นพหูพจน์ เช่น
    Rice and curry are what  we have  for lunch today. เรามีข้าวและแกงกะหรี่เป็นอาหารกลางวันวันนี้

    4. ประธานที่มีคำนามมากกว่า และเชื่อมด้วย and    หากเป็นคนหรือสิ่งเดียวกัน จะมี article ที่ประธานตัวหน้าแห่งเดียว   
        หากเป็นคนละคนกันจะมี article ที่คำนามทั้งสอง เช่น

    The manager and owner of this restaurant is my friend. ผู้จัดการและเจ้าของร้านอาหารนี้เป็นเพื่อนของฉัน ( คนเดียวกัน )
    The manager and the owner of this restaurant are my friends. ผู้จัดการและเจ้าของร้านอาหารนี้เป็นเพื่อนของฉัน ( คนเละคน  )

    The black and white cat under the table is my cat. แมวขาวดำใต้โต๊ะนั้นเป็นแมวของฉัน ( ตัวเดียว )
    The black and the white cat under the table are my cats.  แมวขาวและแมวดำใต้โต๊ะนั้นเป็นแมวของฉัน ( 2 ตัว )

     5.ประธานที่มีวลีหรือคำขยายต่อไปนี้ต่อท้าย จะใช้กริยาเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์นั้น ต้องยึดการใช้กริยาตามประธานตัวหน้าเป็นหลัก

    accompanied by ( พร้อมด้วย )

    in company with  ( พร้อมด้วย )

    along with ( พร้อมด้วย )

    including ( รวมทั้ง )

    as well as ( เช่นเดียวกับ )

    like ( เช่นเดียวกับ )

    besides (นอกจาก )

    not ( ไม่ใช่ )

    but ( ยกเว้น )

    plus ( รวมทั้ง )

    except ( ยกเว้น )

    together with ( พร้อมด้วย )

    excluding ( ไม่นับ )

    with ( พร้อมกับ )

    in addition to ( นอกจาก )

     

    เช่น
    John together with his colleagues has agreed to work late tonight to get the job finished.  จอห์นพร้อมทั้งเพื่อนร่วมงานของเขาตกลงที่จะอยู่ทำงานดึกเพื่อให้งานเสร็จ ( ใช้กริยาตาม John )
    Some people including my brother find cricket boring. คนบางคนรวมทั้งน้องชายฉันคิดว่าคริกเก็ต
    ( เป็นกีฬาที่คล้ายเบสบอลนิยมเล่นในประเทศอาณานิคมอังกฤษเช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ปากีสถาน ) เป็นกีฬาที่น่าเบื่อ ( ใช้กริยาตาม some people)

    6, ประโยคหรือวลีที่ขยายประธาน ไม่มีผลต่อการใช้กริยาของประธาน

    John, with all his players, was on the field.
    จอห์นพร้อมด้วยบรรดาผู้เล่นของเขาอยู่บนสนาม (  with all his players ขยายประธานคือ John )
    Mr. Clark,like our other neighbors,is very helpful.
    คุณคลาร์คก็ให้ความช่วยเหลือเราดีเหมือนคนอื่นๆ

     7.คำต่อไปนี้ถือเป็นเอกพจน์ เมื่อมาเป็นประธานของประโยค ต้องใช้กริยาเอกพจน์เสมอ ได้แก่

    anybody

    everybody

    someone

    anyone

    everyone

    somebody

    anything

    everything

    something

    anywhere

    everywhere

    somewhere

    each + นามเอกพจน์

    either + นามเอกพจน์

    neither +นามเอกพจน์

    each of + นามพหูพจน์

    either of + นามพหูพจน์

    neither of +นามพหูพจน์

    nobody

    every + นามเอกพจน์

    nothing

    เช่น
    Is there anybody here who could speak Japanese? มีใครที่นี่พูดภาษาญี่ปุ่นได้บ้าง
    Each of the lessons takes an hour. บทเรียนแต่ละบทใช้เวลา 1 ชั่วโมง
    Somebody is in the room. มีใครบางคนในห้อง
    Neither of my sisters is married. ไม่มีน้องสาวคนไหนของฉันแต่งงานเลย
    Either of us is   to clean up the house after the party tonight. 
    เราคนใดคนหนึ่งต้องทำความสะอาดบ้านหลังงานเลี้ยงคืนนี้  

     8.ประธานซึ่งเชื่อมด้วยคำต่อไปนี้ กริยาถือตามประธานตัวหลัง

    or

    neither... nor

    either....or

    not only......but also

    เช่น
    Neither the Priminister nor his representatives are to attend the meeting. ทั้งนายกรัฐมนตรีและผู้แทน ( ของนายก ฯ )ไม่ต้องเข้าร่วมการประชุม
    Either the teachers or the principal is to blame for the accident. ไม่พวกครูก็ครูใหญ่ต้องรับผิดชอบในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
    Not only Jim but also  his friends are  coming to the party tonight.  ไม่เพียงแต่จิมเท่านั้นที่มาร่วมงานเลี้ยง  เพื่อนๆของเขาก็มาด้วย
           หมายเหตุ ในกรณีประธาน 2 ตัว  นิยมเอาประธานที่เป็นพหูพจน์ไว้ข้างหลังมากกว่า

     9,  คำ  Indefinite Pronouns ต่อไปนี้ถ้าใช้แทนคำนามนับได้ ถือเป็นพหูพจน์เสมอ

    all, both,  (a) few, many, several, some

    เช่น
    All were ready to leave the party by midnight.  ทั้งหมดพร้อมที่จะออกจากงานเลี้ยงตอนเที่ยงคืน
    Few were in the audience to see the horrible play. มีคนดูละครห่วยๆนี้อยู่ไม่กี่คน
    Many were invited to the lunch but only twelve showed up. มีคนไดัรับเชิญรับประทานอาหารกลางวันหลายคน แต่มีคนมาเพียง 12 คน

     10.การใช้วลีบอกปริมาณ

    1. วลีบอกปริมาณต่อไปนี้ถ้าตามด้วยนามเอกพจน์ต้องใช้ กริยาต้องใช้เอกพจน์        ถ้าตามด้วยนามพหูพจน์กริยาต้องใช้พหูพจน์

    a lot of

    plenty of

    most of

    some of

    lots of

    all of

    none of

    ...percent of

    เช่น
    I think a lot of English wine is too sweet.   ฉันคิดว่า ไวน์ของอังกฤษจำนวนมากที่หวานเกินไป
          ( wine เป็น นามนับไม่ได้มีความหมายเป็นเอกพจน์
    A lot of people are in the room,  มีคนจำนวนมากในห้อง
          ( people มีรูปเอกพจน์คือไม่มี s แต่มีความหมายพหูพจน์จึงใช้ are   ดูในเรื่อง Nouns -singular/plural

    Some of my jewelry is missing.    ของประดับมีค่าของฉันหายไปบางชิ้น
    Some of my friends were at the airport to see me off    เพื่อนบางคนไปส่งฉันที่สนามบิน

    Ten per cent of the men have lung problems.  สิบเปอเซนต์ของผู้ชายมีปัญหาเกี่ยวกับปอด
    Ten per cent of the money is yours.   เงินสิบเปอเซนต์เป็นของคุณ

    2. วลีบอกปริมาณต่อไปนี้ใช้กับนามนับได้ที่เป็นพหูพจน์ และกริยาก็ต้องเป็นพหูพจน์ตามด้วยคือ

    a number of

    many

    a large number of

    a good many

    a great number of

    a great many

    เช่น
    A number of students are playing football.  นักเรียนจำนวนมากกำลังเล่นฟุตบอล
    A large number of tourists get lost because of that sign.  นักท่องเทียวจำนวนมากหลงทางเพราะป้ายนั้น
    There  are still a large number of problems to be solved.   ยังมีปัญหาต้องแก้ไขอีกมาก

     11.วลีบอกปริมาณต่อไปนี้ เมื่อใช้กับนามนับไม่ได้  กริยาต้องใช้รูปเอกพจน์ตลอดไป

    much

    a large number of

    a great deal of

    a large amount of

    a good deal of

    a large quantity of

    เช่น
    Although a great deal of progress has been made in the development of  spoken communication with computers, there  are still a large number of problems to be solved.

    หมายเหตุ  แต่  the number  of  ตามด้วยนามพหูพจน์ และใช้กริยาเอกพจน์ เช่น
    The number of students in the class is limited to twenty.   จำนวนของนักเรียนในห้องจำกัดที่ยี่สิบคน

     12.ประโยคที่มี who, which , that เป็น Relative Pronoun  กริยาของ Relative Pronoun จะใช้รูปของเอกพจน์หรือพหูพจน์ ให้ถือเอาตามคำที่มันแทนซึ่งอยู่ข้างหน้า who, which , that   เช่น

    He is one of my friends who are millionaires.  เขาเป็นเพื่อนคนหนึ่งของฉัน ( ในหลายๆคน ) ที่เป็นเศรษฐี
    ( ใช้ are เพราะ who ขยาย my friends )

     13.ประธานที่ขึ้นต้นด้วย Infinitive Phrase ( วลีที่นำหน้าด้วย to ) หรือ gerund ( ing ) ถือว่าเป็นเอกพจน์ กริยาต้องเป็นรูปเอกพจน์ตาม เช่น

    To see is to believe. ต้องได้เห็นจึงจะเชื่อได้ ( สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น )
    To distill a quart a moonshine takes two hours.    การกลั่นเหล้าเถื่อน1ควอตใช้เวลา 2 ชั่วโมง
    Winning the national championship is her most important achievement. 
    การชนะเลิศระดับชาติเป็นความสำเร็จที่สำคัญมากสำหรับเธอ

     14.จำนวนเงินหรือมาตราต่างๆ เช่น   ถือเป็นเอกพจน์ เช่น

    Twenty thousand bahts is too high for this camera. ราคาสองหมื่นบาทสูงเกินไปสำหรับกล้องตัวนี้
    Two hundred miles is a long way. สองร้อยไมล์เป็นระยะทางที่ไกลมาก

     15.เศษส่วนของคำนามพหูพจน์เป็นพหูพจน์  เศษส่วนของคำนามเอกพจน์เป็นเอกพจน์

    Two-thirds of the boys are absent.   สองในสามของเด็กชายขาดเรียน
    Two-thirds of the wall has been painted.  สองในสามของฝาผนังได้ทาสีไปแล้ว

     16.ชื่อหนังสือหรือบทความเป็นเอกพจน์ เช่น

    Gulliver's travels was written by  Swift. หนังสือเรื่องการเดินทางของกัลลิเวอร์ เขียนโดยสวิฟต์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×