คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 : พี่หน้าหวานผู้เห็นคุณค่าในตัวน้องแบค
Chapter 1
“อีแบค”
ผมหันไปตามเสียงเรียก ซึ่งก็ไม่เป็นใครไม่ได้นอกจากคยองซู เพื่อนรัก
“มึงจำพี่ประธานที่เรียกมึงไปคุยได้ป๊ะ”
“กูจำได้ ทำไม”
“กูได้ยินมาว่าพี่เขาเป็นสายรหัสเราว่ะ”
“มั่วมึงอะ ขี้มั่ว”
คนแบบนั้นอะนะ จะเป็นสายรหัสห้องA หน้าเหมือนคนไม่มีสมองแบบนั้นอะนะ สอบติดมาได้ไงก็ไม่รู้ เรื่องนิดๆหน่อยอยู่ๆก็เอาแบคฮยอนน้อยผู้หน้าสงสารเข้าไปด่า นี่มึงบ้าหรอ ประสาทหรอ ห๊ะ!!!
“ระวังเขาเป็นพี่รหัสมึงนะเว้ย”
“รหัสโพ่งงงงง”
ถ้ามีพี่รหัสแบบนี้นะยอมตายเถอะ มีหวังโดนด่าตั้งแต่เช้ายันเย็นแน่ๆอะ ไม่หล่อแล้วยังปากหมาอีก
“มึงรู้ป๊ะ ว่าพี่ประธานชื่ออะไร”
“มึง คือกูก็เพิ่งเรียนมาแค่สี่วันแบบมึงป๊ะ แล้วกูจะรู้ป๊ะ มึงคิดว่ากูจะรู้ไหมคยองซู”
“แค่มึงบอกไม่รู้ก็จบป๊ะ จะต้องพล่ามอะไรนักหนาวะ”
ก็ขอบ่นนิดบ่นหน่อยไม่ได้แง๊ะ จะต้องขงจะต้องขัด ขอบ่นหน่อยสิเพื่อน นายเข้าใจเราหน่อยสิคยองซู
“พวกมึงวันนี้พี่ในทีมบาสกูจะมากินข้าวด้วยนะ”
“ใครเชิญวะ”
“กูเชิญเองแหละ คยองซู”
โอเคเซฮุนมันเชิญของมันเอง อยากทำอะไรก็ทำเลยเนอะเซฮุน อยากจะทำอะไรก็แล้วแต่เลยนะ เซฮุนฉีกยิ้มมาให้ผม ไม่ต้องมายิ้มเลยคือบางครั้งก็ไม่เข้าใจไงแบบมีเพื่อนไว้ทำไม นี่หัวเพื่อนเว้ย ถามกูบ้างสิไม่ใช่จะชวนก็ชวนมา บางครั้งก็อึดอัดไง
“ฮุนกูอึดอัดว่ะ ให้พี่เขาไปกินกับคนอื่นได้ป่าววะ”
คือแบคฮยอนก็ไม่ใช่พวกเป็นอะไรแล้วเงียบไง ก็บอกไปสิว่าอึดอัด กูไม่ชอบเซฮุน กูไม่ชอบ
“มึงเชื่อกูว่าพอมึงเจอพี่เขาแล้วมึงจะกลับคำทันที”
“อีเชี่ย อีแบคก็บอกว่าอึดอัดอึดอัดมึงก็ยังจะไม่ล้มเลิกความคิดอีก”
“กูขอครั้งเดียวเว้ย คือพี่เขาอยากรู้จักมึงจริงๆแบคฮยอน”
คือพี่เขามาหลงผิดอะไรอยากรู้จักกันแบคฮยอนวะเนี่ย คนอย่างแบคฮยอนเนี่ยนะ สงสัยพี่เขาคงเป็นคนเดียวในโลกอะที่เห็นคุณค่าในตัวแบค หูย แม่ครับ มีคนอยากรู้จักแบคฮยอนด้วยครับแม่
“งั้น ก็ได้” แบคฮยอนพยักหน้าก่อนที่จะยัดสมุดใส่ลงในกระเป๋านักเรียน สามเกลอเดินออกจากห้องเรียนแล้วมุ่งหน้าไปโรงอาหารของโรงเรียน ใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีสามเกลอก็มานั่งยังที่ประจำในโรงอาหาร ซึ่งวันนี้ก็คงจะแปลกไปกว่าวันอื่นๆสักหน่อยตรงที่มีพี่ในทีมบาสของเซฮุนมานั่งด้วย รูปร่างไม่สูงมาก เตี้ยกว่าเซฮุนนิดหน่อย แต่ก็สูงกว่าแบคฮยอนอยู่ดี ผิวขาว ปากชมพู นี่ชายแท้ป่าววะ สงสัย
“นี่ พี่ลู่หาน เป็นคนจีน ที่กูบอกจะมานั่งด้วยอะ” สองเตี้ยโค้งตัวเล็กน้อยเชิงทักทาย
“พี่ลู่ พี่คยองซู แล้วเนี่ยแบคฮยอนคนที่พี่อยากรู้จักอะ”
“น้องแบคฮยอนจำพี่ได้ไหม” ร่างเล็กส่ายหน้าเชิงปฏิเสธ จำอะไร แล้วพี่นี่คือใคร จำผิดป่าววะ หรือว่าแบคฮยอนมีฝาแฝด หรือมีคนศัลยกรรมหน้าให้เหมือนแบคฮยอนต้องใช่แน่ๆ หน้าตาน่ารักๆแบบนี้ใครๆก็อยากเหมือน ใช่ไหมล่ะ รู้!!
“พี่อยู่ข้างห้องน้องไง เจอกันทุกวันเลย จำไม่ได้หรอ”
“จำไม่ได้ครับ”
“น่าเสียใจจัง สงสัยพี่คงไม่สำคัญ”
อารายยยยยย บ้าหรอ ห๊ะ!! จำเป็นด้วยหรอที่แบคฮยอนจะต้องมาใส่ใจคนข้างห้องอะ นี่ผิดหรอที่กูจำไม่ได้อะ กูจำเป็นต้องจำหน้าคนทั้งหรอด้วยหรอ ห๊ะ!!
“พี่แล้วพี่จำผมได้ป๊ะ ผมก็อยู่ห้องเดี่ยวกับแบคฮยอน”
“คยองซูใช่ไหม”
“ครับ คยองซู”
“ขอโทษนะ พอดีพี่จำเราไม่ได้”
พรวด!!
อย่าสงสัยอะไรทั้งนั้น มันคือเสียงน้ำมนต์จากปากโอ เซฮุนนั่นเอง อีฮุนที่กำลังกินน้ำเนี่ยแหละ พ่นน้ำออกมา สงสัยมันคงขำอะ อย่าว่าแต่มันเลย ผมก็ขำ กร๊ากกกก หูย คือผมกับคยองซูจะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดไงเพราะเป็นรูมเมทกัน แต่แปลกตรงที่พี่หน้าหวานจำคยองซูไม่ได้ แต่จำแบคฮยอนได้ เฮ้ย!! เขินนะเนี่ย มีค่าในสายตาคนอื่น สงสัยแบคฮยอนหล่อ มันต้องใช่แน่ๆ
“สงสัยพี่ลู่หานจะสนใจแต่อีแบคว่ะ ไม่สนใจมึงเลยคยองซู มึงนี่คืออากาศมึงรู้ตัวเองป๊ะ”
“เออ กูเป็นอากาศ กูมีประโยชน์แล้วกัน ถ้ามึงไม่มีกูมึงก็ไม่มีอากาศหายใจจำไว้ ไอ้เชี่ย!!”
“ขอโทษว่ะ อากาศที่กูพูดหมายถึง คาร์บอนไดออกไซด์ว่ะ ไม่ใช่ออกซิเจน”
ตอนรอยยิ้มได้ปรากฏอยู่บนใบหน้าของพี่หน้าหวาน ในขณะที่เตี้ยสูงสองตัวกำลังจะเปิดศึกกันกลางโรงอาหาร ในใจก็กลัวนะแบบพี่เขาจะกลัวพวกผมป่าววะ แล้วคือแต่ละคนนี่ไม่ได้น่าคบไง เถื่อนๆทั้งนั้น ดูอย่างคยองซูดิ แบบกาลเทศะก็ไม่มี เซฮุนก็ปากเสีย มีแบคฮยอนเนี่ยแหละเป็นผู้ดีที่สุดแล้ว พอดีพ่อกับแม่สอนมาดีก็แบบนี้แหละ
“กูว่าเลิกทะเลาะแล้วไปซื้อข้าวมากินเหอะ กูหิวแล้ว”
“มึงจำความผิดนี้ไว้เลยเซฮุน กูอิ่มเมื่อไหร่ กูจะมาเอาคืน”
แบคฮยอนฉีกยิ้มกับเพื่อนสองตัวที่เอาแต่ทะเลาะกันเป็นเด็กๆ โตจะตายอยู่แล้วก็ยังจะทะเลาะกัน ระวังลูกปีละคนนะเว้ยพี่พูดเลย สามเกลอแล้วก็พี่หน้าหวานสลายวงกัน เพื่อที่จะไปซื้อข้าวมาประทังชีวิตในช่วงบ่าย โรงอาหารมีอาหารที่ไม่อร่อยนี่คือสิ่งที่แบคฮยอนเจอตั้งแต่เปิดเรียนมา การหาอะไรอร่อยๆในโรงอาหารของโรงเรียนนั้นถือว่าหายากมาก มีแต่อะไรก็ไม่รู้ เกือบจะอร่อยแล้วนะ อีกนิดเดียว แต่ก็ไม่อร่อยอยู่ดีอะ
“น้องแบค วันนี้น้องแบคจะกินอะไรหรอ”
เรียกน้องแบคงี้ก็รู้เลยสิใคร คงไม่ใช่เซฮุนกับคยองซูแน่ๆ อะ มันคงไม่มาแบบน้องแบคอยากกินอะไรหรอแบบนี้แน่ๆ ไม่มีทาง
“ผมก็ไม่รู้อ่ะพี่ลู่ มันไม่ค่อยอร่อยอะ หาของอร่อยไม่เจอเลย”
“ให้พี่พาไปร้านอร่อยๆไหมล่ะ.
“มันมีด้วยหรอ”
“ตามพี่มา”
ยังไม่ทันให้แบคฮยอนได้ตั้งตัวฝ่ามือหนาก็จับลงมาที่ข้อมือแบคฮยอน แล้วลากไปยังจุดหมายปลายทางของตัวเองทันที ใช่คำว่าลากนี่ถูกที่สุดแล้ว เพราะพี่แกออกแรงดึงแบบไม่ต้องเดินเลยอะ นี่กูตัวเบาหรือว่าพี่เขาแรงเยอะว่ะ ลากคนแบบกูไปได้เนี่ย
ใช้เวลาไม่นานแบคฮยอนก็มาหยุดอยู่ตรงร้านอาหารทางด้านหลังของโรงอาหาร ทางด้านหลังของโรงอาหารก็มีร้านค้าอยู่ประมาณสองสามร้าน นี่คือถ้าพี่ลู่หานไม่มาก็ไม่รู้ไงว่ามีร้านข้าวอยู่ตรงนี้ด้วย
“ถึงแล้วครับ” ตอนนี้พี่หน้าหวานพาผมมาหยุดอยู่ตรงร้านอาหารร้านหนึ่ง บริเวณร้านค้าดูสะอาดสะอ้าน มีคุณป้าท่าทางใจดีกำลังตักอาหารให้กับนักเรียนสองสามคนอยู่
“ร้านนี้แหละแบคฮยอนอร่อยมาก ถ้าอยากกินอะไรให้บอกป้าแก เดี๋ยววันถัดมาแกจะทำมาให้ รสชาติอย่างงี้”
พี่หน้าหวานชูนิ้วโป้งออกมาพรางทำหน้าแบบ “อร่อยจริงๆนะเว้ย” อะไรแบบนี้ พี่หน้าหวานไม่รอช้า เดินมุ่งหน้าไปยังร้านค้าที่ตัวเองนำเสนอให้กับแบคฮยอน พร้อมทั้งยังหันมากวักมือเรียกร่างเล็กให้ไปต่อหลังตัวเอง
ใช้เวลาไม่นานก็ถึงคิวของแบคฮยอน วันนี้แบคฮยอนเลือกที่จะทานข้าวกับไข่ยัดไส้เพราะพี่หน้าหวานเป็นคนแนะนำว่า ไข่ยัดไส้ของป้าแกอร่อยมาก สายแดกแบบแบคฮยอนหรือจะพลาดก็ต้องจัดไปสักจาน
“เสี่ยวลู่”
ผมกับพี่หน้าหวานหันไปตามเสียงเรียก แต่ทันใดนั้นเอง...
ชิบหายแล้ว อยากจะอุทานเป็นภาษาโรฮิงญา ตอนนี้หนีกลับขึ้นเรือไม่ทันแล้วใช่ไหม ตอบ!!! TT
“อ้าว น้องนี่เอง”
SUS!!! กลายร่างเป็นอากาศแปป
“อ้าว ชานยอลรู้จักน้องแบคด้วยหรอ”
จำอีประธานนักเรียนที่ด่าผมวันเปิดเรียนได้ไหม ไอ้นั่นแหละ ตอนนี้มันยืนส่งยิ้มอันน่ากลัวมาให้แบคฮยอนแล้ว เฮือกกกก!!! ม่ายยยยย!!! ทำไมโรงเรียนมันเล็กจังวะ ชื่อชานยอลหรอ นี่ขึ้นใจเลยจำได้ขึ้นใจเลย แบคฮยอนอยากขึ้นเรือกลับบ้านแล้ว พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยหนูแบคด้วย TT
“รู้จักดิมึง น้องเขามาสายวันเปิดเทอมอะ กูเลยตักเตือนน้องไปนิดหน่อย”
นี่ตักเตือนหรอแถวบ้านผมเรียกด่าพี่ไม่ใช่ตักเตือน
“ตักเตือนหรือด่าวะมึง”
ด่าครับพี่หน้าหวาน มันด่าผมจัดการมันเลย เอาระเบิดไปปาบ้านเลยยยย
“นี่มึงไม่คิดจะแนะนำกูให้น้องรู้จักหน่อยหรอ”
“กูต้องแนะนำด้วยหรอวะ 555+ น้องแบคฮยอน นี่เพื่อนพี่ชื่อชานยอล เรียนห้อง A เป็นรูมเมทพี่ด้วย”
ถามกูยังล่ะว่าอยากรู้จักไหม แต่เดี๋ยว เมื่อกี้ว่าอะไรนะ ห้อง A รูมเมท นี่คืออะไร ตอนนี้แบคฮยอนฝันอยู่ใช่ไหม ตอบ!!! โชคสองชั้นเลยจ้า
“พี่ลู่ งั้นผมขออนุญาตไปก่อนนะ”
“เดี๋ยวสิน้อง”
กึก!!
อยากจะวิ่งไปให้เร็ว แต่ขามันไม่ยอมไป มันหยุดอยู่กับที่ราวกับโดนอะไรดึงเอาไว้ มึงรู้ตัวไหมอีขาว่าตอนนี้วิญญาณกูไปอยู่ที่โต๊ะในอาหารเรียบร้อยแล้ว
“พี่ขอไปกินข้าวด้วยนะ”
ร่างบางค่อยๆหัวหน้าไปเผชิญกับบุคคลที่ถือว่ามีอิทธิพลต่อชีวิตพอสมควร คือความจริงมันก็ไม่น่าใช่เรื่องใหญ่ใช่ไหมล่ะ แต่ถ้าคนเคยโดนด่าแบบ ด่าทีวิญญาณกูเสียความใสสะอาดเลยอะ นั่นแหละจะเข้าใจว่าการเผชิญหน้ากับคนที่เคยด่าเราอะมันอยากลำบากขนาดไหนอะ เหมือนจะอายนะ แต่อีกใจก็กลัวไงว่าแบบมันจะแฉเรื่องของเราตอนไหนอะไรแบบนี้อะ ละอายอะเข้าใจมะ
“เอ่อ พี่จะดีหรอ”
“ดีสิน้อง งั้น พี่ถือว่าน้องตกลงแล้วกันนะ”
เดี๋ยวกูตกลงตอนไหน ตอบ!!! อีประธาน กูอนุญาตตอนไหน
.
.
สวัสดี ตอนนี้พวกเราทั้งห้าคนได้มานั่งอยู่ที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางความสงสัยของคยองซูว่าไปเอาอีพี่ประธานมาจากไหน
‘นี่มึง ไปเอาพี่แกมาจากไหนวะ’
‘กูขุดดินเจอ’
‘อย่ามาตลก อีsus’
‘อีประธานมันขอมากินข้าวด้วย แถมตกลงด้วยตัวมันเอง’
‘พรหมลิขิตชิบหาย’
คยองซูมันคลายปมสงสัยของมันได้แล้ว แต่ตอนนี้ผมเริ่มสงสัยแล้วว่าอีเซฮุนเนี่ยไปรู้จักกับอีพี่ประธานได้ยังไง บนโต๊ะอาหารมีเสียงสนทนาของมนุษย์ 3 คนซึ่งเป็นใครไปไม่ได้นอกจากอีเซฮุน พี่หน้าหวาน และอีพี่ประธาน ส่วนผมกับคยองซูน่ะหรอ นั่งคุยกันอยู่สองคน แต่บางครั้งก็ไม่ควรเรียกว่านั่งคุยนะ แต่น่าจะเรียกว่ากำลังกระซิบกันอยู่มากกว่า
“มึงอีเซฮุนไปรู้จักอีพี่ประธานตอนไหนวะ”
“เออนั่นดิ แม่งมีอะไรไม่เคยบอกหรอกมันอะ”
“อีพี่ประธานก็หน้าด้าน ชิบหายอะ ไม่มีใครชวนมันมาเลย”
“พี่เขาก็ชวนตัวเองมาไงมึง”
แบบนี้เขาเรียกว่านินทาระยะเผาขนหรือป่าว รู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินเลยว่ะ หมาหัวเน่าสองตัวอยู่ท่ามกลางฝูงควาย ชั่งน่าสงสารอะไรปานนี้
“น้องแบค เป็นสายรหัสไอ้ชานยอลมันด้วย ดีจังเลยเนอะ”
“ครับ ดีมาก”
ชีวิตดี๊ดีเนอะ พี่ประธานนี่เป็นอะไรกับผมเจ้ากรรมนายเวรผมป่าววะ ตั้งแต่เปิดเทอมมาโดนด่า ยันมาเป็นรูมเมทพี่หน้าหวานที่อยู่ข้างๆห้อง แถมมาเป็นสายรหัสห้อง A ด้วยจ้า ดี๊ดีเนอะ
“น้องแบควันเสาร์นี้ว่างไหม”
“ทำไมหรอครับ”
“พี่ได้ตั๋วหนังมาฟรีสองใบอะ ไปดูกันไหม”
นี่มันมุขไหนวะ จีบหรอ โหย มุขเก่าจัง คือเราต้องใสๆแบบอ่อยๆใช่มะ แบบ ‘หูยดีจังเลยนะครับ ได้ตั๋วมาฟรี” จะชวนไปดูก็บอก จีบก็บอก
“มึง ทั้งโต๊ะมีกันตั้งหลายคนมึงชวนแค่น้องแบคคนเดียวเองหรอ แล้ว กู ไอ้ฮุน คยองซูล่ะไม่คิดจะชวนเลยหรอ”
“ก็ตั๋วมีสองใบ”
“พี่ลู่ให้พี่ชานยอลไปเถอะ ผมไม่ไปหรอก”
เออ อยากไปนัก มึงไปเลยนะ ไปดูให้สนุกเลยอีพี่ประธาน คือขัดขวางมากอะ อุตส่ามีคนมาจีบ มาขัดเฉย มารยาทอะสะกดไม่เป็นหรอ ห๊ะ!!!
“งั้นก็ไปกันหมดนี่เลยพี่อยากดูหนังเหมือนกัน”
เซฮุนเป็นคนสนอความคิด ผมว่ามันไม่ได้คิดที่จะตัดปัญหาทั้งหมดแน่ แต่มันคงอยากดูเหมือนกัน เซฮุนมันเป็นคนมีความคิดเพื่อส่วนรวมที่ไหนกัน ฝันไปเหอะ
จริงๆผมก็ไม่ได้ชอบพี่หน้าหวานหรอก แต่พี่คือแบบอ่อยอะ โอเคไหม แบบมีคนมาจีบทั้งทีก็ขออ่อยหน่อย คือพอเดาออกตั้งแต่ตอนมากินข้าวแล้ว คือผู้ชายเหมือนกันอะ ถึงแบคฮยอนจะเป็นเกย์ก็เหอะ แต่มันก็ดูออกไงเข้าใจป๊ะ
“เออ ดีเหมือนกันไปดูหลายๆคนสนุกดี”
พี่ประธานเป็นคนเสริมขึ้นมา คือพี่แกได้ดูหน้ารูมเมทแกตอนนี้ป่าววะ แบบเหมือนมนุษย์ที่โดนสกัดกั้นแผนทุกอย่างพังพินาศเพราะอีพี่ประธานอะไรทำนองนี้อะ
“สรุปวันอาทิตย์หน้าห้องตอนเที่ยงมาเจอกันนะ”
“โอเคเลยพี่”
งงป๊ะ กินข้าวอยู่ดีๆก็จะพากันไปดูหนังเฉย อย่าว่าแต่คนอ่านเลย ผมเป็นพระเอกฟิค (ใช่พระเอกถูกละ) ยังงงกับมันเลย แบบแต่งอะไรกับมันทำนองนี้ แต่เอาเป็นว่าเสาร์นี้มีนัดดูหนังแล้วกัน แล้วเจอกันวันเสาร์ครับ
TBC
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ช่วงพล่ามอีกครั้งค่ะ
วันนี้ลงดึกไปป๊ะ ขอโทษด้วยพอดีติดธุระนิดหน่อยค่ะ แต่ก็มาลงตามที่บอกแล้วนะคะ
ตอนนี้อาจจะงงๆอยู่หน่อย พอดียังอ่อนหัดอยู่เลยใช้ภาษาไม่ค่อยสวย แต่ก็หวังว่าทุกๆคนจะชอบนะคะ
มีอะไรให้ปรับปรุงก็บอกได้นะคะ ชอบไม่ชอบก็บอก มีคนมาคอมเม้น 1 คน ตอนเห็นครั้งแรกที่กรี๊ดเลยค่ะ มีความสนุขมากอะ มีกำลังใจขึ้นเยอะเลย ขอบคุณนะคะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านด้วยนะคะ มีคำผิดก็บอกได้นะคะ แล้วเจอกันวันเสาร์หน้าค่ะ สามเกลอ พี่ประธาน พี่หน้าหวานจะไปดูหนังกันค่ะ จะเกิดอะไรขึ้นติดตามตอนที่ 2นะคะ เจอกันเสาร์หน้าค่ะ นอนหลับฝันดีนะคะ
ความคิดเห็น