ลำดับตอนที่ #20
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : ท่ามกลางบทสวดศพ
ณ งานไว้อาลัยนักศึกษาผู้เสียชีวิต
ที่มหาวิทยาลัย มีผู้คนจํานวนมากมายในชุดสีดํามาไว้อาลัยให้กับนักศึกษาและอาจารย์ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ ในผู้
ไว้อาลัยกลุ่มนั้นก็มีฟีโอน่า มาชอลและ กัมบอลมาไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตทั้งหลายด้วย ฟียังไม่รู้ว่า ฟินน์ตายไปแล้วยัง แต่
มาชอลไม่รู้อะไรเกื่ยวกับงานศพ เพราะแทบไม่ได้ศึกษาสังคมมนุษย์เลย จึงเป็นภาระของกัมบอลที่ต้องนั่งศึกษาวัฒณธรรม
มนุษย์แทบไม่ได้พักได้ผ่อน "ทำไมฉันต้องใส่ชุดห่วยๆนี่ด้วยด้วย?"มาชอลถามกับกัมบอลเรื่องที่ต้องใส่ชุดดําสนิท ไม่มีสี
อื่นนอกจาก ขาว ดํา และ เทา "มันเป็นธรรมเนียมของมนุษย์ เพื่อแสดงความโศกเศร้าอาลัยให้กับผู้ตาย!"กัมบอลกระซิบ
ให้มาชอลฟัง "ฉันว่ามันไร้สาระว่ะที่ต้องมาแต่งงานศพของไอ้สวะที่ไหนก็ไม่รู้!"มาชอลเผลอพูดดังเกินไป"อุ็บ"มาชอลรีบ
ปิดปากแน่นเหมือนปิดกลอน แต่ทว่าปากของมาชอลกลับทำให้หูของผู้ร่วมงานทั้งหลานแหล่มองไปยังคนทั้ง3นั้นแทน
ดวงตาไม่ตํ่ากว่า2000ดวงมองไปที่3สหายเป็นสายตาเดียวกัน "ขอโทษครับๆๆๆ"กัมบอลต้องกล่าวขอโทษแทนมาชอล
แทบไม่ทัน ทุกคนหันกลับไปยังอนุสาวรีย์ไว้อาลัย เป็นรูปผู้หญิงสาวสวมชุดกิโมโนก้มหน้ายืนอยู่ เป็นหินอ่อนสีดํา สูง
ราวๆ5เมตร รวมฐานแล้ว ฟีรีบเข้าไปตรวจชื่อแทบจะทันที "แด่ผู้เป็นที่รักและจดจําของเราเท่านาน อาลี มัวร์ จอห์นนี่
แจ็กเกอร์สัน .....อินทรา อัลชามูฮะห์.....เฟเดอร์ริกส์!!!......" ฟีตกใจแทบหัวใจวายเมื่อเห็นชื่อต้นของฟินน์บนจารึกชื่อผู้เสีย
ชีวิต "ไม่จริง...."ฟีพูดเหมือนคนเหนื่อยหอบ ก่อนจะเป็นลมลงไปกับพิ้น มาชอลกับกัมบอลรีบพยุงฟีจากงานไว้อาลัย
ณ บ้ามเธมเมอร์ เมืองออกฟอร์ด สหราชอาณาจักร 3สัปดาห์ต่อมา
ฟีอยู่ในห้องนอนของหล่อนที่บ้าน ฤดูใบไม้ร่วงเหมือนเป็นการซ้ำเติมฟัเรื่องการจากไปของเพื่อนคนหนึ่งของหล่อน ใบไม้
ร่วงหล่นลงมาอีกใบ ฟีหันไปยังด้านหน้าต่างแล้วคลุมโปงเหมือนเห็นผีหลอกที่หน้าต่าง หล่อนเครียดมากจนป่วยหนัก ผิว
หล่อนดูซีดราวกับหัวไชเท้าต้ม ขอบตาดำคล้ำเพราะนอนไม่หลับ ทําให้หล่อนพลอยติดหวัดใหญ่ไปด้วย แทบทุกคนใน
บ้านเธมเมอร์เกือบไม่เชื่อว่านี่คือ ฟีโอน่า เธมเมอร์ ผู้ร่าเริง อย่างน้อยก็ก่อนจะมีเพื่อนตาย(?) หล่อนแทบไม่ได้ขยับออกมา
จากเตียงเลย อาเจียนบ่อยๆ กินอาหารน้อย บางวันอาเจียนมีเลือดปน น้ำมูกไหล หมอแนะนัาให้ฟีออกกำลังกาบเบาๆวัน
ละ15ชั่วโมง กินอาหารมากขึ้น และหาอะไรทําแก้เครียด แต่สุดท้ายฟีก็แทบไม่ดีขึ้นแล้วกลับไปทําอย่างเดิม จนกระทั่งคุณ
พ่อมาร์ติน*ที่เป็นคนที่นำฟีเข้าสู่คริสต์จักรและเป็นนักบวชคนที่สนืทกับฟีมากที่สุดตัดสินใจจะมาเยื่ยม
"ติ้งต่อง!"เสียงกริ่งดังขึ้นหน้าบ้านเธมเมอร์ "ขอพ่อเข้าไปคุยกับฟีโอน่าหน่อย" ชายแก่ราวๆ70ปี สวมชุดสีดํา สร้อยคอไม้
กางเขน ผมค่อนข้างบาง ใส่แว่น รูปร่างออกท้วมเล็กน้อย แต่ดูสุขภาพดี ท่านกดออดอีกรอบหนึ่ง "ค่า กําลังมาค่า!"เสียง
หญิงอายุราวๆ60ปีดังขึ้นจากข้างบน ประตูแง้มออก ประตูถูกเปิดโดย ชายผมดําสวมชุดร็อค เขาคือ มาชอล! เขากับ
กัมบอลอ้างความเป็นเพื่อนตามไปดูแลฟีถึงบ้าน "ลุงเป็นใคร?"มาชอลถามเรียบๆ เอาไหล่พิงบานประตู ก่อนจะดูดบุหรี่แล้ว
พ่นใส่หน้าคุณพ่อมาร์ติน แต่คุณพ่อมาร์ตินเอาแขนมาบังทันก่อน "พ่อชื่อ มาร์ติน ไอแซค"ท่านทักทายด้วยอัธยาศัย แต่
ทว่ามาชอลก็แค่แง้มประตูและหลีกทางไปเล็กน้อย เพราะยังไม่รู้เรื่องมารยาทกับนักบวช กัมบอลรีบวิ่งไปโค้งแทบ
ไม่ทัน "ผมขอโทษแทนเขาด้วยนะครับ คุณพ่อ!" "คุณพ่อ?"มาชอลถามงงๆแต่โดนกัมบอลปิดปากซะก่อน "ไม่เป็นไร พ่อไม่
ถือสา ว่าแต่พวกลูกเนี่ยเป็นญาติกับหนูฟีรึเปล่า?"คุณพ่อมาร์ตินถามอย่างร่าเริงแต่ก็ดูเรียบร้อย "เปล่าครับ เป็นเพื่อนกัน
ครับ"มาชอลพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กัมบอลเอาแขนล็อคปากไว้แน่น "แล้วหนูฟีอยู่ไหนล่ะ?"คุณพ่อมาร์ตินถาม
"อยู่ข้างบนครับ ให้ผมนำไปไหมครับ?"กัมบอลตอบคุณพ่อมาร์ติน "ขอบคุณนะพ่อหนุ่ม ว่าแต่พวกเธอนับถือศาสนาอะไร
ล่ะ?"คุณพ่อมาร์ตินถามคําถามก่อนที่จะเดินไปข้างบน กัมบอลแทบนึกไม่ออกว่าจะบอกว่าตนนับถือศาสนาอะไร "ผม
นับถือ...พุทธ!"กัมบอลนึกชื่อศาสนาที่ตนชอบที่สุดออกมาตั้งแต่มาเหยียบเมืองมนุษย์ อย่างน้อยก็งงน้อยสุดกับศาสนาพุทธ
"งั้นพ่อไปก่อนนะ"คุณพ่อมาร์ตินหันมาให้อีกรอบหนึ่งก่อนจะเดินขึ้นบันไดฝั่งขวา บ้านขอฟีมีห้องรับแขกอยู่ชั้นแรก มีผนังสี
ขาวงาช้างทาทับอิฐอยู่ มีแค่ปล่องไฟตรงกลางที่มีอิฐเปลือย โซฟามีอยู่2ตัวเป็นสีกำมะหยี่และเขียวเข้ม และโต็ะกลมเล็กๆ
อยู่ใกล้กับเก้าอี้คนละตัว มีแสงจากผนังฝั่งประตู บันไดวนอยู่2ด้านของสุดห้อง ฝั้งซ้ายและขวามีประตูอยู่คนละบาน เบื่ยง
ไปทางขวาของเตาผิงมีประตูอีกบาน กัมบอลปล่อยมาชอลก่อนลงนั่งบนโซฟาสีแดง "ฉันขอเตือนว่านายควรเลิกสูบบุหรี่
เพราะทุกครั้งที่นายสูบบุหรี่ เซลล์ปอดของนายจะเสื่อมสภาพไปโดยที่นายไม่รู้เซลล์!"กัมบอลเตือนมาชอลที่ยังยืนดูดบุหรี่
สบายใจเฉิบ มาชอลไม่สนอะไร มิหนำซ้ำยังดูดควันบุหร่เผาปอดอีกรอบ ก่อนพ่นออกมาอีกรอบ "อืม กลื่นดาร์ก
ช็อกโกแลต"มาชอลพูดสบายอารมณ์กับบุหรี่ปรุงรสช็อกโกแลต กัมบอลเดินออกไปข้างนอก "ฉันไม่ไหวว่ะที่จะมานั่งดม
ควันพิษที่นายพ่นอยู่ ฉันขอออกไปสูดอากาศข้างนอกซะดีกว่า"กัมบบอลรีบเดินออกจากบ้านไปสูดอากาศข้างนอก ข้าง
นอกนั้นเป็นไร่องุ่น ครอบครัวของฟีทําธุรกิจขายไวน์องุ่น ลูกเกด และ เลื้ยงเป็ดเลื้ยงไก่ เน้นเอาไข่และพ่อพันธุ์ไปขาย
ขายเนื้อมีน้อย เพราะผูกพันกับไก่ ทําครอบครัวเธมเมอร์มีธรรมเนียมไม่กินเป็ดกินไก่แต่จะกินไก่งวงแทน
กลับไปที่ฝั่งของฟี
ฟีโอน่ามองไปข้างนอกเตียงอย่างเหม่อลอย สภาพดดูเหมือนคนติดยาหรือพูดให้ง่ายๆให้เห็นภาพน่าจะดูเหมือนคนขาด
สารอาหารที่แอฟริกา คุณพ่อมาร์ตินเดินเข้าในห้องช้าๆก่อนจะปิดประตูเบาๆ คุณพ่อมาร์ตินลงไปนั่งบนเก้าอี้ของฟีที่ติดกับ
โต็ะไม้ "ลูกมีเรื่องอะไรไม่สบายรึเปล่า?"คุณพ่อมาร์ตินถามห่วงๆ "หนูไม่อยากพูดถึงเรื่องนั้น!"ฟีรีบคลุมโปงหันหนีหน้าคุณ
พ่อมาร์ติน "พ่อมีเรื่องหนึ่งอยากจะเล่าให้ลูกฟัง"คุณพ่อมาร์ตินถอนหายใจก่อนจะเล่าเรื่อง "พ่อเคยเพื่อนคนหนึ่งชื่อ เจน
พ่อเป็นเพื่อนกับเจนตั้งแต่เรายังเป็นเด็กน้อยอนุบาล ฮึๆ พ่ออดขำกับเรื่องที่เราเคยทําตอนนั้นไม่ได้ เราเป็นเพื่อนกันจน
กระทั่งพวกเราเป็นนักเรียนมัธยม พ่อมีความรู้สึกที่พิเศษกับหล่อนมากกว่าแต่ก่อน ความรู้นั้นมีชื่อว่า "ความรัก"พ่อไม่รู้ว่าจะ
บอกรักหล่อนลงไปอย่างไร พ่อจึงพูดจีบห่อนกับหุ่นลองเสื้อ ทํางานเสริมหารายได้เพื่อซื้อสูทสุดหรู น้ำหอมดีๆ ดอกกุหลาบ
สวยสด" ฟีเริ่มยิ้มเล็กน้อยก่อนจะถามคุณพ่อมาร์ติน "แล้วช็อกโกแลตล่ะคะ?" "แล้วพ่อก็ขอให้ลุงของพ่อที่เป็นพ่อครัว
ให้สอนทําชอกโกแลต จนพ่อสามารถทำชอกโกแลตที่อร่อยที่สุดในสายตาของพ่อตอนนั้น จนกระทั่งวันที่คาดหวังมาถึง
พ่อรีบซื้อสูทที่ดดีที่สุดเท่าที่พ่อหาเจอ น้ำหอมกลิ่นมะลิส่งตรงจากอียิปต์ กุหลาบช่อโตที่เพิ่งเด็ดจากวันนั้น และ
ช็อกโกแลตสูตรพิเศษของพ่อ พ่อนั้นได้รับความรักจากหล่อนตอบ พวกเราหัวเราะคิกคักกัน ออกเดทกัน มันเป็นช่วงเวลาที่
มีความสุขที่สุดของพ่อก่อนพ่อจะเข้าสู่คริสต์จักรอย่างจริงจัง ทุกอย่างไปสวยจนกระทั่งฟ้าดินเล่นตลกกับพ่อ พ่อจําวันนั้น
ได้ดี วันที่ 17 เมษายน 1953 หล่อนติดโรควัณโรคมาแล้ว3เดือน พ่อเฝ้าดูหล่อนโดยไม่กลัวจะพลอยติดโรคด้วย มัจจุราช
เดินเข้ามาสู่โรงพยาบาลในตอน 4ทุ่ม 34 นาที พ่อยังจำคำพูดสุดท้ายของหล่อนได้ "มาร์ติน ช่วยทําให้ความฝันที่อยาก
เป็นแม่ชีให้เป็นจริงเถิด...ช่วยหน่อยนะ..ขอร้องล่ะ" หล่อนจากไปให้พ่อต้องระทมใจ"คุณพ่อมาร์ตินน้ำตาไหลอาบแก้ม ฟี
เข้าไปปลอบคุณพ่อมาร์ติน "หนูเข้าใจดีค่ะ เพื่อนหนูก็ตาย" "พ่อเผลอถูกปีศาจร้ายครอบงําจิตใจของพ่อ ให้พ่อต้องหลงใน
อบายมุข สุรา นารี การพนัน จนพ่อต้องเสียการเรียนของพ่อไป พ่อเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น และตัดสินจะจะทําให้ฝัน
ของเจนที่รักเป็นจริง พ่อจึงตัดสินใจไปเป็นพระตราบจนวันนี้ "ฟีกอดคุณพ่อมาร์ตินจนแน่น "หนูเข้าใจค่ะ" "พ่อจะเล่าต่อนะ
ว่าแต่หนูไม่หิวเหรอ?"คุณมาร์ติน ยิ้มให้ฟี "โครก..."เสียงฟีท้องร้องดังพอสมควร "แต่ก่อนไม่ค่ะ เพราะหนูเศร้าจนไม่อยาก
กินอะไรทั้งนั้น ว่าแต่มีอะไรให้หนูกินบ้างล่ะคะ" คุณพ่อมาร์ตินหยิบขนมปังกลมให้ฟี "พ่อให้นี่กับหนูนะ" ฟีรีบงับคำใหญ่
แทบจะติดคอ ฟีรีบดื่มน้ำตาม จนคุณมาร์ตินอดหัวเราะไม่ได้ ฟีหัวเราะตาม "เรื่องจบเร็วจังเลยนะคะ"ฟีบอก "นั่นแค่จุดเริ่ม
ต้น 2-3ปีแรก พ่อไม่ใช่พระที่ดีเท่าไหร่ พ่อเคยถูกใส่ร้ายว่าไปมีอะไรกับศพ พ่อถูกเกลียดมาก โดนหาว่าเป็นพระวิปริต พ่อ
รู้สึกว่าไม่สามารถอดทนได้มากกว่านี้แล้ว พ่อตันสินใจออกจากร่มเงาของพระเจ้าไป แต่ว่าคืนสุดท้ายก่อนพ่อคิดจะออกไป
พ่อได้เจอวิญญานของเจน เจนขอให้พ่อนั้นทำหน้าที่ของพระให้ดีที่สุด ฝ่าภัยร้ายไป และ ช่วยส่งหล่อนไปสู่อ้อมกอดของ
พระผู้เป็นเจ้า คำขอของลห่อนทำให้พ่อเปลื่ยนใจ พ่อตัดสินใจหนีจากที่ของคนทราม ผู้ใส่ร้ายป้ายสีได้แม้แต่ผู้รับใช้
พระเจ้า ที่นั่นเหมือนเป็นที่ของปีศาจ พ่อตัดสินใจเดินทางไปอยู่ที่่ออกฟอร์ต ตั้งใจทําหน้าที่ของพระทุกๆวัน สวดให้
สันติภาพบังเกิดแก่โลก ช่วยชาวบ้านแก่ไขปัญหา เมื่อผู้คนทั้งหลายเจอปัญญา ทั้ง การงาน การเรียน ความรัก สุขภาพ
ร่างกาย และ จิตใจ และ พ่อก็สวดแก่พระผู้เป็นเจ้าขอให้รับดวงวิญญาณของเจนสู่อ้อมกอดของพระองค์ พ่อเขียนตําราการ
แพทย์3เล่ม ตําราสอยให้คนทำดีโดยไม่จำกัดศาศนาชาติพันธุ์อีก4เล่ม จนตอนนี้พ่อถูกเสนอชื่อให้เป็นบิชอป**โดยบิชอป
อลัน สมิท ในปีนี้เอง พ่ออาจจะได้เป้นบิชอป หล่อนคงดีใจมากเมื่อหล่อนมองมาจากสวรรค์"พ่อยิ้มก่อนจะเอามือตบไหล่ฟี
เบาๆ "ว่าแต่เพื่อนขอลูกที่ตายนี่มีใครบ้างล่ะ?" ฟีพูดเบาๆ เหมือนความร่าเริงก่อนหน้าไม่มีอยู่จริงมาก่ออน "แก้ว อินทรา
แล้วอาจจะมีฟินน์ด้วยค่ะ"สุดท้ายหล่อนกั้นน้ำตาไม่ได่ หล่อนเอามือขวาปิดตาเอาไว้ "ถ้าอย่างนั้นพ่อว่าพวกเรามาขอให้
พระผู้เป็นเจ้ารับวิญญาณของพวกเขาสู่อ้อมกอดก็แล้วกัน จะได้ไม่ต้องกังวลอะไรอีก"คุณพ่อมาร์ตินเข่า กุมมือ ฟีทําตามดู
มองไปที่หน้าต่าง
ณ สวนองุ่น
กัมบอลช่วย ไมเคิล พ่อของฟี ทํางานในไร่องุ่นอยู่โดยการเด็ดองุ่น มาชอลก็ถูกบังคับให้ทำด้วย ไมเคิลเป็นชายอายุ
ราวๆ40ย้อมผมแต่งหน้าแบบเอลวิส เพรสลีย์ ศิลปินโปรดของเขา แต่ก็ไม่สามารถปกปิดความย่นของหนังหน้าได้ สวมชุด
แบบชาวไร่ฝรั่ง "ทําไมเราต้องทํางานอย่างนี้ด้วย"มาชอลบ่นเบื่อๆ รู้สึกว่าอากาศที่อังกฤษร้อนเมื่อเทียบกับตอนเป็น
แวมไพร์ "อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น ไม่เคยได้ยินไง?"กัมบอลบอกกลับก่อนเด็ดองุ่น
อีก1เถาลงตระกร้า "จําไว้นะ!องุ่นไวน์ที่ดีต้องสุกงอมเต็มที่ เถาไหนมีหนอนเด็ดทิ้งให้หมด ให้ใส่ตระกร้าองุ่นเสีย อย่าทิ้งใน
สวน ไม่งั้นลูกอื่นๆจะโดนหนอนกินไปด้วย แบบอื่นๆเก็บเอาไปทําลูกเกด"ไมเคิลเตือน ก่อนจะเปิดวิทยุเปิดเพลง "Blue
Suede Shoes"*** มาชอลแอบหยิบบุหรี่อีกมวนหนึ่งมาสูบไม่ให้ไมเคิลรู้ มันเป็นบุหรี่รสมินต์ แต่ทว่ามาชอลรู้สึกเหมือนมี
อะไรปัดมือของตนจนบุหรี่ตกลงพิ้น "ห้านสูบบุหรี่ในไร่ เดื๋ยวองุ่นเสีย"ไมเคิลบอกก่อนหยิบบุหรี่ใส่กระเป๋ากางเกง "เอี่อ!"
มาชอลแกล้งทําเป็นลม ไมเคิลรีบวิ่งไปหามาชอล "พ่อหนุ่ม!ป็นอะไรไม้?"ไมเคิลถาม "ผมรู้สึกไม่ไหวแล้วครับ.."มาชอลตอบ
แสร้งทําเป็นลมแดด "ไปพักในบ้านก่อนนะ"ไมเคิลรีบส่งมาชอลเข้าบ้าน "ขอบคุณครับ"มาชอลขอบคุณไมเคิล หลังจาก
ไมเคิลปิดประตูแล้วเข้าไปในไร่องุ่น มาชอลก็หยิบบุหรี่รสกัญชามาสูบ "หึๆพวกโง่"มาชองหยิบบุหรี่คีบใส่ปากแล้วจุด
ไฟแช็คก่อนเอาไปจ่อที่หัวบุหรี่ แล้วดูดควันของมัน "กริ็งๆๆๆ!!!"เสียงโทรศัพท์โบราณฯดังขึ้น เป็นโทรศัพท์แบบแป้นหมุน
สีดํา "โธ่เอ้ย!ไอ้โทรศัพท์ยุคพระเจ้าเหา" มาชอลหยิบโทรศัพท์แนบหู "ฮัลโหล นี่มาชอลพูด" "ฉันมีข่าวอะไรจะบอก
ฟีโอน่า!"เสียงหนึ่งดังขึ้น เสียงนั้นคือเสียงของโทนี่! "ฟินน์ยังไม่ตาย!ๆๆๆ" "รอแป็ปนึงนะครับ!"มาชอลวางโทรศัพท์แล้วรีบ
วิ่งไปหาฟี
ณ ห้องของฟีโอน่า
"อาเมน"ทั้งสองจบคําอธิถาม มาชอลรีบเปิดประตูเตียงดังปัง "นี่ฟี!มีคนอยากคุยกับเธอ!"มาชอลรีบบอก "จริงเหรอมาชอล!"
ฟีรียตะโกนถาม "รีบไปลงข้างล่างเหอะ!พ่ออฟินน์รอคุยกับเธอ"ฟีรีบวิ่งไปรีบโทรศัพท์ "นี่ฟีโอน่ารับสายค่ะ"
*ในที่นี้ "คุณพ่อ" ใช้เรียกนักบวชในนิกานคาทอลิค
**เรียกอีกชื่อว่ามุขนายก
***หนึ่งในเพลงของเอลวิส
ที่มหาวิทยาลัย มีผู้คนจํานวนมากมายในชุดสีดํามาไว้อาลัยให้กับนักศึกษาและอาจารย์ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ ในผู้
ไว้อาลัยกลุ่มนั้นก็มีฟีโอน่า มาชอลและ กัมบอลมาไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตทั้งหลายด้วย ฟียังไม่รู้ว่า ฟินน์ตายไปแล้วยัง แต่
มาชอลไม่รู้อะไรเกื่ยวกับงานศพ เพราะแทบไม่ได้ศึกษาสังคมมนุษย์เลย จึงเป็นภาระของกัมบอลที่ต้องนั่งศึกษาวัฒณธรรม
มนุษย์แทบไม่ได้พักได้ผ่อน "ทำไมฉันต้องใส่ชุดห่วยๆนี่ด้วยด้วย?"มาชอลถามกับกัมบอลเรื่องที่ต้องใส่ชุดดําสนิท ไม่มีสี
อื่นนอกจาก ขาว ดํา และ เทา "มันเป็นธรรมเนียมของมนุษย์ เพื่อแสดงความโศกเศร้าอาลัยให้กับผู้ตาย!"กัมบอลกระซิบ
ให้มาชอลฟัง "ฉันว่ามันไร้สาระว่ะที่ต้องมาแต่งงานศพของไอ้สวะที่ไหนก็ไม่รู้!"มาชอลเผลอพูดดังเกินไป"อุ็บ"มาชอลรีบ
ปิดปากแน่นเหมือนปิดกลอน แต่ทว่าปากของมาชอลกลับทำให้หูของผู้ร่วมงานทั้งหลานแหล่มองไปยังคนทั้ง3นั้นแทน
ดวงตาไม่ตํ่ากว่า2000ดวงมองไปที่3สหายเป็นสายตาเดียวกัน "ขอโทษครับๆๆๆ"กัมบอลต้องกล่าวขอโทษแทนมาชอล
แทบไม่ทัน ทุกคนหันกลับไปยังอนุสาวรีย์ไว้อาลัย เป็นรูปผู้หญิงสาวสวมชุดกิโมโนก้มหน้ายืนอยู่ เป็นหินอ่อนสีดํา สูง
ราวๆ5เมตร รวมฐานแล้ว ฟีรีบเข้าไปตรวจชื่อแทบจะทันที "แด่ผู้เป็นที่รักและจดจําของเราเท่านาน อาลี มัวร์ จอห์นนี่
แจ็กเกอร์สัน .....อินทรา อัลชามูฮะห์.....เฟเดอร์ริกส์!!!......" ฟีตกใจแทบหัวใจวายเมื่อเห็นชื่อต้นของฟินน์บนจารึกชื่อผู้เสีย
ชีวิต "ไม่จริง...."ฟีพูดเหมือนคนเหนื่อยหอบ ก่อนจะเป็นลมลงไปกับพิ้น มาชอลกับกัมบอลรีบพยุงฟีจากงานไว้อาลัย
ณ บ้ามเธมเมอร์ เมืองออกฟอร์ด สหราชอาณาจักร 3สัปดาห์ต่อมา
ฟีอยู่ในห้องนอนของหล่อนที่บ้าน ฤดูใบไม้ร่วงเหมือนเป็นการซ้ำเติมฟัเรื่องการจากไปของเพื่อนคนหนึ่งของหล่อน ใบไม้
ร่วงหล่นลงมาอีกใบ ฟีหันไปยังด้านหน้าต่างแล้วคลุมโปงเหมือนเห็นผีหลอกที่หน้าต่าง หล่อนเครียดมากจนป่วยหนัก ผิว
หล่อนดูซีดราวกับหัวไชเท้าต้ม ขอบตาดำคล้ำเพราะนอนไม่หลับ ทําให้หล่อนพลอยติดหวัดใหญ่ไปด้วย แทบทุกคนใน
บ้านเธมเมอร์เกือบไม่เชื่อว่านี่คือ ฟีโอน่า เธมเมอร์ ผู้ร่าเริง อย่างน้อยก็ก่อนจะมีเพื่อนตาย(?) หล่อนแทบไม่ได้ขยับออกมา
จากเตียงเลย อาเจียนบ่อยๆ กินอาหารน้อย บางวันอาเจียนมีเลือดปน น้ำมูกไหล หมอแนะนัาให้ฟีออกกำลังกาบเบาๆวัน
ละ15ชั่วโมง กินอาหารมากขึ้น และหาอะไรทําแก้เครียด แต่สุดท้ายฟีก็แทบไม่ดีขึ้นแล้วกลับไปทําอย่างเดิม จนกระทั่งคุณ
พ่อมาร์ติน*ที่เป็นคนที่นำฟีเข้าสู่คริสต์จักรและเป็นนักบวชคนที่สนืทกับฟีมากที่สุดตัดสินใจจะมาเยื่ยม
"ติ้งต่อง!"เสียงกริ่งดังขึ้นหน้าบ้านเธมเมอร์ "ขอพ่อเข้าไปคุยกับฟีโอน่าหน่อย" ชายแก่ราวๆ70ปี สวมชุดสีดํา สร้อยคอไม้
กางเขน ผมค่อนข้างบาง ใส่แว่น รูปร่างออกท้วมเล็กน้อย แต่ดูสุขภาพดี ท่านกดออดอีกรอบหนึ่ง "ค่า กําลังมาค่า!"เสียง
หญิงอายุราวๆ60ปีดังขึ้นจากข้างบน ประตูแง้มออก ประตูถูกเปิดโดย ชายผมดําสวมชุดร็อค เขาคือ มาชอล! เขากับ
กัมบอลอ้างความเป็นเพื่อนตามไปดูแลฟีถึงบ้าน "ลุงเป็นใคร?"มาชอลถามเรียบๆ เอาไหล่พิงบานประตู ก่อนจะดูดบุหรี่แล้ว
พ่นใส่หน้าคุณพ่อมาร์ติน แต่คุณพ่อมาร์ตินเอาแขนมาบังทันก่อน "พ่อชื่อ มาร์ติน ไอแซค"ท่านทักทายด้วยอัธยาศัย แต่
ทว่ามาชอลก็แค่แง้มประตูและหลีกทางไปเล็กน้อย เพราะยังไม่รู้เรื่องมารยาทกับนักบวช กัมบอลรีบวิ่งไปโค้งแทบ
ไม่ทัน "ผมขอโทษแทนเขาด้วยนะครับ คุณพ่อ!" "คุณพ่อ?"มาชอลถามงงๆแต่โดนกัมบอลปิดปากซะก่อน "ไม่เป็นไร พ่อไม่
ถือสา ว่าแต่พวกลูกเนี่ยเป็นญาติกับหนูฟีรึเปล่า?"คุณพ่อมาร์ตินถามอย่างร่าเริงแต่ก็ดูเรียบร้อย "เปล่าครับ เป็นเพื่อนกัน
ครับ"มาชอลพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กัมบอลเอาแขนล็อคปากไว้แน่น "แล้วหนูฟีอยู่ไหนล่ะ?"คุณพ่อมาร์ตินถาม
"อยู่ข้างบนครับ ให้ผมนำไปไหมครับ?"กัมบอลตอบคุณพ่อมาร์ติน "ขอบคุณนะพ่อหนุ่ม ว่าแต่พวกเธอนับถือศาสนาอะไร
ล่ะ?"คุณพ่อมาร์ตินถามคําถามก่อนที่จะเดินไปข้างบน กัมบอลแทบนึกไม่ออกว่าจะบอกว่าตนนับถือศาสนาอะไร "ผม
นับถือ...พุทธ!"กัมบอลนึกชื่อศาสนาที่ตนชอบที่สุดออกมาตั้งแต่มาเหยียบเมืองมนุษย์ อย่างน้อยก็งงน้อยสุดกับศาสนาพุทธ
"งั้นพ่อไปก่อนนะ"คุณพ่อมาร์ตินหันมาให้อีกรอบหนึ่งก่อนจะเดินขึ้นบันไดฝั่งขวา บ้านขอฟีมีห้องรับแขกอยู่ชั้นแรก มีผนังสี
ขาวงาช้างทาทับอิฐอยู่ มีแค่ปล่องไฟตรงกลางที่มีอิฐเปลือย โซฟามีอยู่2ตัวเป็นสีกำมะหยี่และเขียวเข้ม และโต็ะกลมเล็กๆ
อยู่ใกล้กับเก้าอี้คนละตัว มีแสงจากผนังฝั่งประตู บันไดวนอยู่2ด้านของสุดห้อง ฝั้งซ้ายและขวามีประตูอยู่คนละบาน เบื่ยง
ไปทางขวาของเตาผิงมีประตูอีกบาน กัมบอลปล่อยมาชอลก่อนลงนั่งบนโซฟาสีแดง "ฉันขอเตือนว่านายควรเลิกสูบบุหรี่
เพราะทุกครั้งที่นายสูบบุหรี่ เซลล์ปอดของนายจะเสื่อมสภาพไปโดยที่นายไม่รู้เซลล์!"กัมบอลเตือนมาชอลที่ยังยืนดูดบุหรี่
สบายใจเฉิบ มาชอลไม่สนอะไร มิหนำซ้ำยังดูดควันบุหร่เผาปอดอีกรอบ ก่อนพ่นออกมาอีกรอบ "อืม กลื่นดาร์ก
ช็อกโกแลต"มาชอลพูดสบายอารมณ์กับบุหรี่ปรุงรสช็อกโกแลต กัมบอลเดินออกไปข้างนอก "ฉันไม่ไหวว่ะที่จะมานั่งดม
ควันพิษที่นายพ่นอยู่ ฉันขอออกไปสูดอากาศข้างนอกซะดีกว่า"กัมบบอลรีบเดินออกจากบ้านไปสูดอากาศข้างนอก ข้าง
นอกนั้นเป็นไร่องุ่น ครอบครัวของฟีทําธุรกิจขายไวน์องุ่น ลูกเกด และ เลื้ยงเป็ดเลื้ยงไก่ เน้นเอาไข่และพ่อพันธุ์ไปขาย
ขายเนื้อมีน้อย เพราะผูกพันกับไก่ ทําครอบครัวเธมเมอร์มีธรรมเนียมไม่กินเป็ดกินไก่แต่จะกินไก่งวงแทน
กลับไปที่ฝั่งของฟี
ฟีโอน่ามองไปข้างนอกเตียงอย่างเหม่อลอย สภาพดดูเหมือนคนติดยาหรือพูดให้ง่ายๆให้เห็นภาพน่าจะดูเหมือนคนขาด
สารอาหารที่แอฟริกา คุณพ่อมาร์ตินเดินเข้าในห้องช้าๆก่อนจะปิดประตูเบาๆ คุณพ่อมาร์ตินลงไปนั่งบนเก้าอี้ของฟีที่ติดกับ
โต็ะไม้ "ลูกมีเรื่องอะไรไม่สบายรึเปล่า?"คุณพ่อมาร์ตินถามห่วงๆ "หนูไม่อยากพูดถึงเรื่องนั้น!"ฟีรีบคลุมโปงหันหนีหน้าคุณ
พ่อมาร์ติน "พ่อมีเรื่องหนึ่งอยากจะเล่าให้ลูกฟัง"คุณพ่อมาร์ตินถอนหายใจก่อนจะเล่าเรื่อง "พ่อเคยเพื่อนคนหนึ่งชื่อ เจน
พ่อเป็นเพื่อนกับเจนตั้งแต่เรายังเป็นเด็กน้อยอนุบาล ฮึๆ พ่ออดขำกับเรื่องที่เราเคยทําตอนนั้นไม่ได้ เราเป็นเพื่อนกันจน
กระทั่งพวกเราเป็นนักเรียนมัธยม พ่อมีความรู้สึกที่พิเศษกับหล่อนมากกว่าแต่ก่อน ความรู้นั้นมีชื่อว่า "ความรัก"พ่อไม่รู้ว่าจะ
บอกรักหล่อนลงไปอย่างไร พ่อจึงพูดจีบห่อนกับหุ่นลองเสื้อ ทํางานเสริมหารายได้เพื่อซื้อสูทสุดหรู น้ำหอมดีๆ ดอกกุหลาบ
สวยสด" ฟีเริ่มยิ้มเล็กน้อยก่อนจะถามคุณพ่อมาร์ติน "แล้วช็อกโกแลตล่ะคะ?" "แล้วพ่อก็ขอให้ลุงของพ่อที่เป็นพ่อครัว
ให้สอนทําชอกโกแลต จนพ่อสามารถทำชอกโกแลตที่อร่อยที่สุดในสายตาของพ่อตอนนั้น จนกระทั่งวันที่คาดหวังมาถึง
พ่อรีบซื้อสูทที่ดดีที่สุดเท่าที่พ่อหาเจอ น้ำหอมกลิ่นมะลิส่งตรงจากอียิปต์ กุหลาบช่อโตที่เพิ่งเด็ดจากวันนั้น และ
ช็อกโกแลตสูตรพิเศษของพ่อ พ่อนั้นได้รับความรักจากหล่อนตอบ พวกเราหัวเราะคิกคักกัน ออกเดทกัน มันเป็นช่วงเวลาที่
มีความสุขที่สุดของพ่อก่อนพ่อจะเข้าสู่คริสต์จักรอย่างจริงจัง ทุกอย่างไปสวยจนกระทั่งฟ้าดินเล่นตลกกับพ่อ พ่อจําวันนั้น
ได้ดี วันที่ 17 เมษายน 1953 หล่อนติดโรควัณโรคมาแล้ว3เดือน พ่อเฝ้าดูหล่อนโดยไม่กลัวจะพลอยติดโรคด้วย มัจจุราช
เดินเข้ามาสู่โรงพยาบาลในตอน 4ทุ่ม 34 นาที พ่อยังจำคำพูดสุดท้ายของหล่อนได้ "มาร์ติน ช่วยทําให้ความฝันที่อยาก
เป็นแม่ชีให้เป็นจริงเถิด...ช่วยหน่อยนะ..ขอร้องล่ะ" หล่อนจากไปให้พ่อต้องระทมใจ"คุณพ่อมาร์ตินน้ำตาไหลอาบแก้ม ฟี
เข้าไปปลอบคุณพ่อมาร์ติน "หนูเข้าใจดีค่ะ เพื่อนหนูก็ตาย" "พ่อเผลอถูกปีศาจร้ายครอบงําจิตใจของพ่อ ให้พ่อต้องหลงใน
อบายมุข สุรา นารี การพนัน จนพ่อต้องเสียการเรียนของพ่อไป พ่อเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น และตัดสินจะจะทําให้ฝัน
ของเจนที่รักเป็นจริง พ่อจึงตัดสินใจไปเป็นพระตราบจนวันนี้ "ฟีกอดคุณพ่อมาร์ตินจนแน่น "หนูเข้าใจค่ะ" "พ่อจะเล่าต่อนะ
ว่าแต่หนูไม่หิวเหรอ?"คุณมาร์ติน ยิ้มให้ฟี "โครก..."เสียงฟีท้องร้องดังพอสมควร "แต่ก่อนไม่ค่ะ เพราะหนูเศร้าจนไม่อยาก
กินอะไรทั้งนั้น ว่าแต่มีอะไรให้หนูกินบ้างล่ะคะ" คุณพ่อมาร์ตินหยิบขนมปังกลมให้ฟี "พ่อให้นี่กับหนูนะ" ฟีรีบงับคำใหญ่
แทบจะติดคอ ฟีรีบดื่มน้ำตาม จนคุณมาร์ตินอดหัวเราะไม่ได้ ฟีหัวเราะตาม "เรื่องจบเร็วจังเลยนะคะ"ฟีบอก "นั่นแค่จุดเริ่ม
ต้น 2-3ปีแรก พ่อไม่ใช่พระที่ดีเท่าไหร่ พ่อเคยถูกใส่ร้ายว่าไปมีอะไรกับศพ พ่อถูกเกลียดมาก โดนหาว่าเป็นพระวิปริต พ่อ
รู้สึกว่าไม่สามารถอดทนได้มากกว่านี้แล้ว พ่อตันสินใจออกจากร่มเงาของพระเจ้าไป แต่ว่าคืนสุดท้ายก่อนพ่อคิดจะออกไป
พ่อได้เจอวิญญานของเจน เจนขอให้พ่อนั้นทำหน้าที่ของพระให้ดีที่สุด ฝ่าภัยร้ายไป และ ช่วยส่งหล่อนไปสู่อ้อมกอดของ
พระผู้เป็นเจ้า คำขอของลห่อนทำให้พ่อเปลื่ยนใจ พ่อตัดสินใจหนีจากที่ของคนทราม ผู้ใส่ร้ายป้ายสีได้แม้แต่ผู้รับใช้
พระเจ้า ที่นั่นเหมือนเป็นที่ของปีศาจ พ่อตัดสินใจเดินทางไปอยู่ที่่ออกฟอร์ต ตั้งใจทําหน้าที่ของพระทุกๆวัน สวดให้
สันติภาพบังเกิดแก่โลก ช่วยชาวบ้านแก่ไขปัญหา เมื่อผู้คนทั้งหลายเจอปัญญา ทั้ง การงาน การเรียน ความรัก สุขภาพ
ร่างกาย และ จิตใจ และ พ่อก็สวดแก่พระผู้เป็นเจ้าขอให้รับดวงวิญญาณของเจนสู่อ้อมกอดของพระองค์ พ่อเขียนตําราการ
แพทย์3เล่ม ตําราสอยให้คนทำดีโดยไม่จำกัดศาศนาชาติพันธุ์อีก4เล่ม จนตอนนี้พ่อถูกเสนอชื่อให้เป็นบิชอป**โดยบิชอป
อลัน สมิท ในปีนี้เอง พ่ออาจจะได้เป้นบิชอป หล่อนคงดีใจมากเมื่อหล่อนมองมาจากสวรรค์"พ่อยิ้มก่อนจะเอามือตบไหล่ฟี
เบาๆ "ว่าแต่เพื่อนขอลูกที่ตายนี่มีใครบ้างล่ะ?" ฟีพูดเบาๆ เหมือนความร่าเริงก่อนหน้าไม่มีอยู่จริงมาก่ออน "แก้ว อินทรา
แล้วอาจจะมีฟินน์ด้วยค่ะ"สุดท้ายหล่อนกั้นน้ำตาไม่ได่ หล่อนเอามือขวาปิดตาเอาไว้ "ถ้าอย่างนั้นพ่อว่าพวกเรามาขอให้
พระผู้เป็นเจ้ารับวิญญาณของพวกเขาสู่อ้อมกอดก็แล้วกัน จะได้ไม่ต้องกังวลอะไรอีก"คุณพ่อมาร์ตินเข่า กุมมือ ฟีทําตามดู
มองไปที่หน้าต่าง
ณ สวนองุ่น
กัมบอลช่วย ไมเคิล พ่อของฟี ทํางานในไร่องุ่นอยู่โดยการเด็ดองุ่น มาชอลก็ถูกบังคับให้ทำด้วย ไมเคิลเป็นชายอายุ
ราวๆ40ย้อมผมแต่งหน้าแบบเอลวิส เพรสลีย์ ศิลปินโปรดของเขา แต่ก็ไม่สามารถปกปิดความย่นของหนังหน้าได้ สวมชุด
แบบชาวไร่ฝรั่ง "ทําไมเราต้องทํางานอย่างนี้ด้วย"มาชอลบ่นเบื่อๆ รู้สึกว่าอากาศที่อังกฤษร้อนเมื่อเทียบกับตอนเป็น
แวมไพร์ "อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น ไม่เคยได้ยินไง?"กัมบอลบอกกลับก่อนเด็ดองุ่น
อีก1เถาลงตระกร้า "จําไว้นะ!องุ่นไวน์ที่ดีต้องสุกงอมเต็มที่ เถาไหนมีหนอนเด็ดทิ้งให้หมด ให้ใส่ตระกร้าองุ่นเสีย อย่าทิ้งใน
สวน ไม่งั้นลูกอื่นๆจะโดนหนอนกินไปด้วย แบบอื่นๆเก็บเอาไปทําลูกเกด"ไมเคิลเตือน ก่อนจะเปิดวิทยุเปิดเพลง "Blue
Suede Shoes"*** มาชอลแอบหยิบบุหรี่อีกมวนหนึ่งมาสูบไม่ให้ไมเคิลรู้ มันเป็นบุหรี่รสมินต์ แต่ทว่ามาชอลรู้สึกเหมือนมี
อะไรปัดมือของตนจนบุหรี่ตกลงพิ้น "ห้านสูบบุหรี่ในไร่ เดื๋ยวองุ่นเสีย"ไมเคิลบอกก่อนหยิบบุหรี่ใส่กระเป๋ากางเกง "เอี่อ!"
มาชอลแกล้งทําเป็นลม ไมเคิลรีบวิ่งไปหามาชอล "พ่อหนุ่ม!ป็นอะไรไม้?"ไมเคิลถาม "ผมรู้สึกไม่ไหวแล้วครับ.."มาชอลตอบ
แสร้งทําเป็นลมแดด "ไปพักในบ้านก่อนนะ"ไมเคิลรีบส่งมาชอลเข้าบ้าน "ขอบคุณครับ"มาชอลขอบคุณไมเคิล หลังจาก
ไมเคิลปิดประตูแล้วเข้าไปในไร่องุ่น มาชอลก็หยิบบุหรี่รสกัญชามาสูบ "หึๆพวกโง่"มาชองหยิบบุหรี่คีบใส่ปากแล้วจุด
ไฟแช็คก่อนเอาไปจ่อที่หัวบุหรี่ แล้วดูดควันของมัน "กริ็งๆๆๆ!!!"เสียงโทรศัพท์โบราณฯดังขึ้น เป็นโทรศัพท์แบบแป้นหมุน
สีดํา "โธ่เอ้ย!ไอ้โทรศัพท์ยุคพระเจ้าเหา" มาชอลหยิบโทรศัพท์แนบหู "ฮัลโหล นี่มาชอลพูด" "ฉันมีข่าวอะไรจะบอก
ฟีโอน่า!"เสียงหนึ่งดังขึ้น เสียงนั้นคือเสียงของโทนี่! "ฟินน์ยังไม่ตาย!ๆๆๆ" "รอแป็ปนึงนะครับ!"มาชอลวางโทรศัพท์แล้วรีบ
วิ่งไปหาฟี
ณ ห้องของฟีโอน่า
"อาเมน"ทั้งสองจบคําอธิถาม มาชอลรีบเปิดประตูเตียงดังปัง "นี่ฟี!มีคนอยากคุยกับเธอ!"มาชอลรีบบอก "จริงเหรอมาชอล!"
ฟีรียตะโกนถาม "รีบไปลงข้างล่างเหอะ!พ่ออฟินน์รอคุยกับเธอ"ฟีรีบวิ่งไปรีบโทรศัพท์ "นี่ฟีโอน่ารับสายค่ะ"
*ในที่นี้ "คุณพ่อ" ใช้เรียกนักบวชในนิกานคาทอลิค
**เรียกอีกชื่อว่ามุขนายก
***หนึ่งในเพลงของเอลวิส
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น