คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ซัลลาซา สลิธิลิน(complete)
ณ ถ้ำที่ต้นของต้นไม้แห่งเอกภาพ
“ในที่สุด ข้า ซัลลาซา สลิธิลีน ก็ถูกปลดปล่อยแล้ว!” งูยักษ์พูดด้วยเสียงแหบแห้ง มันมองไปยังสหายทั้ง3
“แหมๆๆ มีม้ามาเสิร์ฟถึงที่ มื้อนี้หวานหมูดีจริงๆ”มันพูดพลางหัวเราะ
ทไวไลท์ชาร์จเวทย์มนต์ เตรียมโจมตีงูยักษ์เวทย์มนต์อย่างไม่รีรอ แอปเปิ้ลแจ็คเดินถอยหลัง2-3ก้าว
“กินสิถ้าแกแน่จริง! ไอ้ไส้เดือนไฟ!”เรนโบว์แดชตะโกนแล้วบินพุ่งเข้าใส่งูยักษ์ทันที
“เสิร์ฟถึงปากถึงคอเลยทีเดียวเชียว…..”มันพูดแล้วเอาหัวพุ่งเข้าใส่เรนโบว์แดช
ทไวไลท์รีบยิงเวทย์มนต์สีม่วงใส่ปากที่กำลังอ้าของมันแทน มันล้มลงไปเสียศูนย์ “เรนโบว์!นี้เธอกำลังจะทำอะไร?” ทไวไลท์ตะโกน
“ก็จะต่อยปากเจ้าไส้เดือนไฟนั่นไง มันจะกินเรา!”เรนโบว์แดชตะโกน
“ม้าพูดได้…ยังงี้ค่อยน่าสนใจหน่อย” งูยักษ์พูดพลางลุกขึ้นมาอีกครั้ง “ข้าคงจะประมาทพวกเจ้าไปหน่อย…..”มันพูด
ตอนนี้แอปเปิ้ลแจ๊คหลบอยู่หลังหิน ตัวสั่น เจ้างูยักษ์ทำท่าแผ่แม่เบี้ย ควันโขมงออกมาทางปาก “จงรับรสพิษแห่งราชาแห่งงู ซัลลาซา สลีธิริน ซะเถอะ”มันพูดเงียบๆ ก่อนพุ่งไปยังร่างของทไวไลท์
เฟี้ยว….. เสียงลมปะทะกับตัวของงูยักษ์ ควันสีเขียวพุ่งมารอบตัว ตอนนี้หัวของงูห่างจากทไวไลท์ แค่ 25 เมตร ทไวไลท์เริ่มกางปีก ทุกอย่างอยู่ในสภาพเหมือนเล่นหนังสโลว์โมชั่น
อีกแค่ 20 เมตร ปีกของทไวไลท์เริ่มออกห่างจากลำตัว สะเก็ดไฟสีเขียวออกมาจากปากของงูยักษ์ เวทย์มนต์ก่อตัวเป็นรูปคมเขี้ยวช้าๆ
อีกเพียง 15เมตร เขาของทไวไลท์เริ่มส่องแสง เรนโบว์แดชขยับปากด้วยความตกใจ สะเก็ดไฟเริ่มต่อเนื่องกันมากขึ้นเป็นเปลวเพลิง คมเขี้ยวเริ่มชัดเจนมากขึ้น ตาที่เป็นเปลวเพลิงส่งแสงร้อนแรงมากขึ้น พิงกี้พายกระโดดหลบออกไปจากถ้ำทันที
อีกประมาณ 10 เมตร เขาของทไวไลท์ส่องแสงสีม่วงอมชมพูเรืองรอง “ระ…..”เสียงทุ้มต่ำของเรนโบว์แดชดังขึ้น แอปเปิ้ลแจ๊คหรี่ตาของตนลง เปลวเพลิงสีเขียวเริ่มรวมตัวกันช้าๆ ตาของงูยักษส่องแสงรุนแรง
อีก ไม่ถึง 5 เมตร ออร่าจากเขาของทไวไลท์พุ่งอออกมาตากเขาของเธอ ส่องประกายสีเงินแวววับ ตาหรี่เล็กจ้องมองเปลวเพลิง เปลวเพลิงสีเขียวเข้มพุ่งไปหาทไวไลท์อย่างรวดเร็ว ดวงตาลุกเป็นไฟสีเขียว ตรงกลางเป็นทรงกลมสีเงินที่ใหญ่ขึ้นช้าๆ เหมือนลูกโลหะ ภายใต้ร่างที่เป็นเพลิงเวทย์มนต์ของมันกลายเป็นโลหะสีเงินอย่างรวดเร็ว เปลวไฟหรี่ลงช้าๆ แสดงถึงข้างใต้ที่เป็นโลหะสีเงินเข้มเหมือนเงินที่มีควันเกาะ เขี้ยวสีเงินแวววาวในปากของมันมีของเหลวสีเขียวเรืองแสงไหลออกมาช้าๆ หยดลงบนลิ้นของมัน เรนโบว์แดชเอากีบป้องตาด้วยความกลัว แอปเปิ้ลแจ๊คปิดตาสีสนิท เวทย์มนต์สีม่วงของ ทไวไลท์พุ่งเข้าใส่ปากของงูยักษ์
ตู้ม!!!!!โครม!!!!!
รัศมีสีขาวบริสุทธ์สว่างขึ้นทั่วถ้ำ เจ้างูยักษ์กระเด็นจนโคนต้นไม้จนแตกซ้ำที่ตราดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ทไวไลท์ถูกคลุมด้วยรัศมีสีขาว ลอยอยู่กลางอากาศ
“อาจารย์…..!”ทไวไลท์พูดด้วยเสียงประหลาดใจ
แววตาของเธอจ้องมายังม้าสีขาวที่สูงราวๆ2เมตร มีตราดวงอาทิตย์แบบนต้นไม้แต่มีวงกลมสีเหลืองและรัศมีสีส้มที่บั้นท้าย มีปีใหญ่ เขายาว ตาสีม่วงทรงแบบอียิปต์ ผมสลับสีระหว่าง ฟ้า ม่วง และ เขียว สวมมงกุฎและกรองคอสีทอง ทั้งสองอันมีเพชรสีม่วงอยู่ตรงกลาง มีเกือกสีทอง เธอคือองค์หญิงเซเลสเทรียแห่ง เอเควสเทรีย เจ้าแห่งดวงอาทิตย์
บนตัวเธอมีรู2รูปที่ท้องด้านขวา มีหยดน้ำสีเขียวๆหยดลงมาทีละหยด
“องค์หญฺงเซเลสเทรีย ท่านมาทำอะไรที่นี่!?!”เรนโบว์แดชตะโกน “เรื่องนั้นไม่สำคัญ เจ้าต้องกลับไปที่วัง” เจ้าหญิงตะโกน ใช้เวทย์มนต์สีขาวของเธอ เสกให้ทั้ง3หายไปในทันที
“แกเป็นตัวอะไร….” เจ้างูยักษ์พูด
บัดนี้ตัวของมันเป็นโลหะสีเงิน เกล็ดสีเงินเข้มทับกันเป็นริ้วๆ ดวงตาสีเงินจ้องมององค์หญิงใต้นัยน์ตาสีเงินอ่อน เขี้ยวสีเงินส่องแสงน่ากลัวออกมาจากปาก
“ฉันต่างหากที่ควรจะถามคำถามข้อนั้น แล้วอีกอย่างเจ้ามาทำอะไรที่นี่?”องค์หญิงพูด
“ฮึ! ข้าคือพ่อมดเลือด บริสุทธ์ที่ทรงพลังที่สุดในโลกเวทย์มนต์ ซัลลาซา สลิธิลิน” มันพูดอย่างภูมิใจ
“ซัลลาซา สลิธิลิน เจ้ามาที่นี่เพื่ออะไรกัน” องค์หญิงถาม
“ข้ามาเพื่อนำวิญญาณบุตรแห่งข้ากลับมา…..”มันพูดพลางหัวเราะ เอาตัวของมันล้อมรอบองค์หญิง ขดเป็นวง
“หมายถึง ลอร์ด…อึก!” องค์หญิงเอาปีกป้องแผล จากของเหลวสีเขียวที่ไหลออกมา บัดนี้เป็นของเหลวข้นสีดำอมแดง รอบๆแผลขนร่วงเป็นสีดำ
“หึๆๆพิษของข้าร้ายไหมละ เคยมีคนบอกว่าอะไลคอร์นไม่มีวันตาย ดูซึว่า มันจะจริงรึเปล่า….”มันพูดพลางหัวเราะหึๆ องค์หญิงเริ่มโซเซ
“ข้าคงต้อวกลับไปที่ของข้าแล้วละ เจ้าก็ตายที่นี่ซะเถอะ….” งูยักษ์พูด ผิวสีเงินของมันกลายเป็นผงแสงสีเขียวช้าๆ ลอยกลับกลายเป็นควัน หายไปในสายลม
ขณะเดียวกัน ณ วังแห่งแคนเทอร์ลอต
“ว่าแต่ ซัลลาซา สลิธิรินนี่เป็นใคร” ทไวไลท์ถามอย่างุนงง
“โดนอัจฉริยะถามอย่างงี้ ใครจะรู้?”เรนโบว์แดชเหน็บ
“ทำไมไม่ไปห้องสมุดดูละ เผื่อจะเจอคำตอบ”แอปเปิ้ลแจ๊คเสนอ
“ฉันอ่านหนังสือในห้องสมุดหลวงมาตั้งหมื่นๆเล่ม แต่คุ้นๆชื่อนั้นรู้สึกว่าจะมาจาก…” “ข้อมูลสำคัญและประวัติศาสตร์ของมิติต่างๆ” เสียงหนึ่งพูด
เสียงนั้นมาจากม้ามีปีก มีเขา ผิวสีน้ำเงินเข้ม ผมสีน้ำเงินออกม่วง ตาสีฟ้า มีคิวตี้มาร์คเป็นรูปดวงจันทร์เสี้ยวที่มีฉากหลังเป็นสีดำ สวมมงกุฎและกรองคอสีดำ กรองคอมีรูปดวงจันทร์ เกือกสีเงิน เสียงเธอดูอายุน้อยกว่าเซเลสเทรีย
“ใช่ค่ะ องค์หญิงลูน่า แล้วซัลลาซา สลิธิรินมาทำอะไรที่นี่” ทไวไลท์ถาม
ลูน่าเสกคาถาสี้น้ำเงินขึ้น ให้แรริตี้ ฟลัตเตอร์ชาย พิงค์กี้พาย และ แอปเปิ้ลแจ๊คปรากฏตัว
“หา! ฉันซ่อนตัวในป่าอยู่ดีๆ ไหงโผล่มาที่นี่ล่ะ องค์หญิง” พิงค์กี้ถาม
“ตามฉันมา” ลูน่าพูดเสียงเรียบ
“อะไรจะสำคัญนักหนา?” เรนโบว์แดชพูดอย่างหงุดหงิด
“ตามฉันมาก็พอ!” ลูน่าตะโกน เธอเดินผ่านประตู “ห้องสมุด:เวทย์มนต์พื้นฐาน” “ห้องสมุด:ตำราครัว” “น้ำยา” “สิ่งมีชีวิต” “ประวัติศาสตร์” “ศาสตร์มืด”
ยิ่งเดินลึกเข้าไปก็ยิ่งลึก จากที่มีแสงสว่างทะลุกระจกโมเสกกลับมืดมิด กำแพง เพดาน และ พื้น เป็นหินตัดทั้งหมด ไม่มีกระจกหรือโคมไฟ มีแต่เวทย์มนต์ของลูน่าเท่านั้นที่เป้นแสงนำทางเหล่าโพนี่ทั้ง6
“ทำไมต้องเก็บไว้ลับขนาดนี้ด้วย” แอปเปิ้ลแจ๊คถาม
“ยังจำเรื่องโจรขโมยมงกุฎได้รึเปล่า “ลูน่าพูดด้วยเสียงเย็นชา
ตอนนี้เธอหยุดอยู่หน้าประตูบานหนึ่ง มันมีตัวอักษรคล้ายรอยไหม้เขียนว่า “ห้องสมุด:อื่นๆ:ห้ามเปิดยกเว้นกรณีฉุกเฉิน” เธอเอาเขาแยงเข้าในช่องกุญแจ อยู่ดีๆประตูก็เรืองแสงสีเงิน ผงสีเงินพุ่งออกมาจากขอบประตู ลมเย็นพัดบาดๆทุกตัวจนต้องเอากีบมาป้องไว้ ประตูแง้มออกเล็กๆ ข้างในดูมืดมิดและลึกลับอย่างมาก
“เข้าไปสิ” ลูน่าพูด
โพนี่ทุกตัวเข้าไปอย่างว่าง่าย ทไวไลท์เดินเข้าไปตัวแรก ข้างในมืดสนิท เธอรู้สึกเหมือนอยู่ในน้ำ แต่หายใจไดแต่ว่าอากาศนั้นเย็นไปถึงขั้วปอด แรริตี้หยิบผ้าพันคออกมาด้วยปาก
“ฉันขอผืนนึงได้ไหม” ฟลัตเตอร์ชายถาม “เอาของฉันไปก็แล้วกัน”
แรริตี้เคลื่อนผ้าคลุมไปที่คอของฟลัตเตอร์ชานด้วยเวทย์มนต์
“ขอบใจ”ฟลัตเตอร์ชายบอกเบาๆ
ประตูถูกปิดเบาๆโดยลูน่า อยู่ดีๆ ก็มีลูกแก้วเรืองแสงปรากฏออกมา จากระยะสายตาของทไวไลท์ที่อยู่หน้าสีแล้ว มันมีขนาดรัศมีสักราวๆเมตรค่อนๆ ลูกแก้วนั้นให้ความรู้สึกอบอุ่น ทไวไลท์เดินไปหาลูกแก้วนั้นช้าๆ เธอเห็นตัวอักษรสีดำปรากฏขึ้น
“ข้าคือลูกแก้วแห่งความรู้ ท่านอยากรู้อะไร”
ทไวไลท์มองตัวอักษรเหล่านั้นด้วยใบหน้าบึดงอจากความงงงวย
“ถามสิ” ลูน่าบอกเสียงเรียบๆ
“ซัลลาซา สลิธิลิน คือใคร”เธอพูดด้วยน้ำเสียงประหลาด
“ซัลลาซา สลิธิริน คือ 1ใน4ผู้ก่อตั้งฮอกวอร์ต อันประกอบด้วย กอดริก กริฟฟินดอร์ เฮลกา ฮัฟเฟิลพัฟ โรวีน่า เรเวนคลอว์ และ ซัลลาซา สลิธิลิน”
อยู่ดีๆรูปของมนุษย์ สี่คนก็โผล่ออกมายืนแถวตรง คนแรกอยู่ในชุดอัศวิน ถือโล่ขนาดเท่าตัวสีแดงขอบทอง ตราสิงโตคำรามสีทอง ใบหน้าดูมั่นใจ ผมสี บลอนด์หยิกเป็นลอน ดูหนุ่มแน่นเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ไร้หนวดเครา
อีกคนผู้หญิงผมสีดำ รูปร่างท้วม อยู่ในชุดเดรสสีเหลือง ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ทรงผมปล่อยตามสบาย
อีกคนเป็นผู้หญิงร่างบาง ใส่แว่น ไว้ ผมจุกสีน้ำตาล อยู่ในชุดคลุมสีฟ้า ดูแก่กว่าสองคนที่ผ่านมา
อีกคนเป็นชายหัวล้านหลังค่อม ดูแก่กว่าใครเพื่อน ไว้เคราและหนวดฝรั่งเศสสีเงินสั้นๆ อยู่ในชุดพ่อมดสีเขียว
ข้างล่างมีชื่อเรียงคน กอดริก กริฟฟินดอร์ เฮลกา ฮัฟเฟิลพัฟ โรวีน่า เรเวนคลอว์ ซัลลาซา สลิธิลิน
“แล้วทำไม ซัลลาซา สลิธิลินถึงปรากฏต่อหน้าเราในรูปงูได้ละ” ทไวไลท์ถามด้วยเสียงที่ไม่ค่อยปกติใจ
“ผู้ก่อตั้งทั้ง4มีสัตว์ประจำตัวอยู่ กริฟฟินดอร์มีสิงโต ฮัฟเฟิลพัฟมีตัวแบดเจอร์ เรเวนคลอว์มีเหยี่ยว และสลิธิลินมีงู และทั้ง4คนได้สิ้นอายุขัยไปแล้ว แต่สลิธิลินรู้วิธีโกงความตายวิธีหนึ่งซึ่งไม่ควรถูกเปิดเผย มันทำให้เขากลายเป็นเวทย์มนต์ที่มีชีวิต สถิตอยู่ในไม้กายสิทธิ์ของเขาเอง” ตัวอักษรถูกเขียนขึ้นมา
“ไม้กายสิทธิ์?”เรนโบว์แดชถามงงๆ
“ไม้กายสิทธิ์ เป็นสิ่งที่นักเวทย์ชาวมนุษย์ใช้เป็นสื่อกลางการใช้เวทย์มนต์คาถา ทำมาจากไม้และแกนที่แตกต่างกัน เช่น ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์”
อยู่ดีๆไม้กายสิทธ์สีน้ำตาลอ่อนก็โผล่บนลูกแก้ว มันมีลักษณะพองๆออกมา4รอบ ยอดแหลม “ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ทำมาจากไม้เอลเดอร์ แกนเป็นขนเธสธอลด์” มันเขียน
ทไวไลท์สูดลมหายใจ มองสายนาแน่วแน่ที่กระจก ”แล้วเขามาทำอะไรที่นี่?”
“สลิธิลินไม่ได้มาเองแน่นอน จะต้องมีคนที่ครอบครองไม้กายสิทธ์….” มันหยุดเขียน
บัดนี้ลูกแก้วนั้นเต็มไปด้วยตัวอักษรเบียดเสียดหนาแน่นซ้อนกันจนอ่านไมม่ออก ไม่เหลือพิ้นที่ให้เขียนอีกต่อไป
“พวกเธอถามมากพอแล้ว มันจำเป็นต้องพัก”ลูน่ากล่าว
ลูกแก้วที่เคยส่องแสง บัดนี้กลายเป็นสีดำช้าๆ แสงสว่างจางหายลงไปทีละนิด ฟลัตเตอร์ชายรีบวิ่งไปเปิดประตูทันที โพนี่ทุกตัวรีบตามไปโดยมีลูน่าตามหลัง
“สไปค์หายไปไหนแล้วล่ะ ท่านลูน่า”ทไวไลท์ถามลูน่า
“สไปค์นะเหรอ เขานะอยู่ที่ห้องสมุด มัวแต่หาตำราเกี่ยวกับเจ้าปีศาจสลิธิลินนั่น ซึ่งเขาก็ไม่พบอะไรเลย…” ลูน่าพูดเศร้าๆแล้วถอนหายใจ
“ตอนนี้เขาอยู่ไหนละ?” ทไวไลท์ถามลูน่า
“สไปค์น่ะ เขาโดนตำรามนต์ดำกัดหน้า กัดเข้าหน้าตอนนี้พวกทหารกำลังพยายามแกะตำรานั่นออกจากหน้าเขาอยู่”
เรนโบว์แดชแอบหัวเราะเบาๆ
" เพื่อนฉันถูกสาปโดยคำสาปโดยที่ฉันไม่รู้จักแล้วเธอจะยังมาหัวเราะอีก จะบ้ารึไง" ยูนิคอร์นสาวพูดเคืองๆ
เรนโบว์แดชหยุดหัวราะเบาลงช้าๆ สายตาของยูนิคอร์นสาวจ้องมองเปกาซัสสีรุ้งอย่างมีน้ำโห มองเหมือนจะคั้นเอาอะไรสักอย่างจากเธอ
"ช่างเหอะ ฉันจะไปหาสไปค์" เธอพูดพลางบินไปยังห้องพยาบาล
ณ ห้องพยาบาลหลวง
ในห้องพยาบาลนั้นเป็นห้องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีน้ำตาล ในห้องดูสะอาดหมดจด มีหนังสือและอุปกรณ์การแพทย์ตั้งบนข้างเตียงราวๆ20ตัว ทหารยามกำลังช่วยกันแกะหนังสือสีดำที่กำลังเกาะอู่บนหน้าสไปค์อยู่ เหล่าทหารช่วยกันยุดซ้ายยุดขวา แต่ทว่าตำรากลับยังเกาะอยู่บนหน้าสไปค์เหมือนกับว่ามันเป็นปลิง ทไวไลท์รีบเปิดประตูเข้ามา
“สไปค์ เป็นอะไรมากไม้”ทไวไลท์ถาม สไปค์ได้แต่ทำเสียงอู้อี้ไม่เป็นภาษา
“องค์หญิงครับ พวกเราพยายามแกะหนังสืออกจากหน้าเขามาครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่มันไม่มีทีม่าว่าจะหลุดเลยครับ”ทหารคนหนึ่งรายงานความคืบหน้า
“ดูสิว่าจะมีคาถาอะไรบ้างที่จะช่วยได้”ทไวไลท์พูด พลางเสกให้ขนนกไปจี้ตำราสีดำ
มันเริ่มขยับช้าๆ ทไวไลท์ตั้งสมาธิ จ้องเขม็งงที่ตำรา ขยับขนนดกด้วยเวท์มนต์ให้เร็วขึ้น ตำราเริ่มขยับมากขึ้น มือของสไปค์รีบหยิบตำราออกจากหน้า หน้าจากที่เป้นสีม่วง บัดนี้เป็นสีแดงเหมือนถูกเผา รอบๆมีแผลถลอกจากการถูกกัด มีแผลเลือดไหลซิบๆ เขารีบโยนตำราใส่พิ้นด้วยความโมโห
“สไปค์ ทำอย่างนี้กับหนังสือทำไม!?! ... “ก่อนที่ทไวไลท์จะด่าอะไรใส่สไปค์เพิ่มเติม เธอเห็นตัวอักษรสีทองบนตำรา “ฮอกวอร์ต:ข้อควรรู้ โดย เจมส์ เกรย์ฮาวน์”
“เจมส์ เกรย์ฮาวน์ เหรอ ชื่ออะไรประหลาดจัง” ทไวไลท์พูดเสียงประหลาด
เธอลองเอาขนนกจิ้มมันดูสองสามรอบ ไม่มีเสียงใดเล็ดลอด แม้แต่การเคลื่อนไหว
“ฉันว่ามันสิ้นฤทธิ์แล้ว สไปค์ “ ทไวไลท์พูด
“ดีเลย!” สไปค์พูดอย่างโมโห ทไวท์เปิดหนังสือช้าๆ
ความคิดเห็น