ลำดับตอนที่ #14
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : เซรุ่ม
กลับไปยังเวลาในช่วงตอน10
ฟินน์,เจค และ จอห์นกลับไปยังอาณาจักรแคนดี้ทันที เจ้าหญิงบับเบิลกัมเมื่อรู้เข้าว่าพวกเขากลับมาแล้วจึงรีบถามหา
เชื้้อตัวแม่"ไวรัสอยู่ไหน?"เจ้าหญิงรีบถามราวกับคนเมายาบ้าถามหาเฮโรอีนมาแกล้ม จอห์นรีบยื่นกระปุกแก้วที่บรรจุ
ของเหลวสีส้มคล้ายเจลมาให้เจ้าหญฺิงทันที เจ้าหญิงรีบวิ่งไปห้องแล็บราวกับนักวิ่งเหรียญทองโอลิมปิกโดนผึ้งต่อย โทนี่
มองฟินน์อย่างประหลาดใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกของตน"ลูกรัก มันเกิดอะไรขึ้น?"ฟินน์ไม่กล้าพูดความจริง กลัวว่าหากพ่อ
รู้ว่าตนนั้นเป็นสายพันธุ์เดียวกับอสุรกายจากอเวจีกลุ่มนั้นแล้วจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น"ผมอยู่ที่นั่นนานหลายปีเลยครับ"ฟินน์
ตัดสินใจโกหกกลบเกลื่อนความจริงไม่ให้พ่อของตนรู้ว่าตนนั้นกลายเป็นอสุรร้ายตัวหนึ่งไปแล้ว หากว่ารู้เข้าจงเกิดเรื่อง
เลวร้ายขึ้นแน่นอนนายทหารคนหนึ่งรีบวิ่งหาโทนี่"ท่านครับ!ดูนี่สิครับ"ภาพบนโน็ตบุ็คคือซากอาคารสหประชาชาติที่
เหลือแค่ซากทั้งหลายแหล่ ซากความรุ่งเรืองของอารยธรรมมนุษย์ที่จมดิน กําแพงเมืองจีนที่เป็นเศษอิฐ เทพีเสรีภาพที่
เป็นแค่คบเพลิงแห่งความพ่ายแพ้ที่ไร้หัว หอไอเฟลที่เป็นแค่เศษเหล็กกองพิ้น ทัชมาฮาลที่เป็นแค่กองหินไร้ค่าไม่มีราคา
"ไม่จริงน่า ขอให้ออสเตรเลียรอดเถิด!"ภาพสุดท้าย คือภาพของซิตนีย์โอเปร่าเฮาส์ที่ดูเหมือนซากติดไฟจากภัยร้าย
อะไรบางอย่าง "มันจบแล้ว"โทนี่คิดในใจ"มันจบสิ้นแล้ว!มนุษย์ชาติ!เรากําลังจะพ่ายแพ้หรือนี่"ความคิดแห่งความ
เลวร้ายถาโถมเข้าใส่สมองของเขาจนต่อมนํ้าตาไม่สามารถจะยั้งการทํางานของมันได้ นํ้าตาของชายแกร่งอย่างทหารไหล
ลงมาอาบแก้ม ขาสั่นจนแทบล้มฟุบลงกับพิ้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยนํ้าตา มากเกินกว่าจะเห็นสิ่งใดๆได้ เขาเอามือ
ทั้งสองข้างบังหน้าไม่อยากให้ลูกทั้งสองของเขาต้องเห็นพ่อของเขามาเจอเขาในสภาพแบบนี้ ฟินน์นั่งยองๆเอาแขนโอบ
ไหล่หวังว่าจะให้พ่อของเขานั้นมีกําลังใจมากขึ้น แต่ก็เหมือนกับการเอาเกลือเท่าเศษเล็บไปละลายทะเลสาบหวังให้
ทะเลสาบเค็มเป็นการกระทําที่ดูเหมือนไร้ประโยชน์ เหมือนสํานวนไทยที่ว่า ตําน้ำพริกละลายแม่น้ำ พ่อของเขาเอาแขน
ปัดลูกของเขาจนล้มลงกับพิ้น เขานั้นดูเหมือนจะตายให้ได้ เขาไม่อยากกุมชะตากรรมรับความจริงว่ามนุษย์จะพ่ายแพ้ คิด
ว่ามนุษย์ชาติคงจะอยู่ค้ำฟ้า "อย่ามายุ่งกับพ่อ!จะไปไหนก็ไป!" เขาตะโกนไล่ฟินน์ให้ไปไกลๆจากเขา ทุกๆคนหลีกหนี
จากพ่อของเขาปล่อยให้พ่อของเขาร้องไห้จนกว่าเขาจะพอใจ "เซรุ่มเสร็จแล้ว!"เสียงหนึ่งดังขึ้น เสียงนั้นเหมือนกับ
เสียงแห่งความหวังจากพระผู้เป็นเจ้าจากฟากฟ้าของโทนี่ เขากลับมามีกําลังวังชาอีกครั้ง เขาลุกขึ้นมา เช็ดคราบน้ำตา
แล้วยกลับมายิ้มอีกครั้ง"ค่อยยังชั่วหน่อย!มนุษย์ชาติ"
ณ ห้องแล็บของเจ้าหญิง
หล่อนสกัดของเหลวสีฟ้าใส่ในลูกกระสุนช้าๆทีละลูกก่อนจะมอบปืนให้ทุกคน"นี่คือกระสุนชนิดพิเศษ!"เจ้าหญิงกล่าว"มัน
มีเซรุ่มที่จะไปทําลายเซลล์มหามนุษย์แล้วไปสนับสนุนเซลล์ธรรมดาแทน"ทุกคนปรบมือ นํ้าตาแห่งความยินดีปรีดาหลั่ง
ไหลอาบแก้มทุกคนรวมถึงฟินน์ มนุษย์(?)หน้าใหม่ก็ยังนํ้าตาอาบแก้ม "ลูกทหารห้ามร้อง"โทนี่กล่างอย่างอ่อนโยนก่อน
จะลูบหัวลูกของเขาช้าๆ"แล้วตอนที่ป๋าร้องนี่หมายความว่าไง?"ฟินน์ย้อนพลางทําหน้ายิ้ม โทนี่อดยิ้มไม่ได้ก่อนเดินไปรับ
ปืนจากเจ้าหญิง"แด่มนุษย์ชาติ!"โทนี่ชูปืนขึ้นแล้วตะโกน เจ้าหน้าที่ทุกคนทําตาม"แด่มนุษย์ชาติ!""แด่มนุษย์ชาติ!"
"แด่มนุษย์ชาติ!""ผมขอพูดอะไรบางอย่างหน่อยครับ"เสียงหนึ่งพูดมาเบาๆขัดการปลุกใจของนักรบแห่งความหวัง
"ผมปวดขี้ครับ!"เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าว ทุกคนหายเงิบแทบไม่ทัน "ไปห้องนํ้าซะ!"โทนี่ตะโกน มือหนึ่งชูขึ้นกลาง
อากาศ โทนี่มองไปเจ้าของมือนั้นช้าๆ"อย่าบอกนะว่าแกเป็นคู่เกย์ของมัน"แต่โทนี่ก็ต้องหยุดพูดลงเมื่อคำพูดหนึ่งหลุด
ออกมาจากปากของลูกของตน"ผมติดเชื้อมหามนุษย์ครับ"ทุกคนตกใจแต่โทนี่ก็ยิ้มเล็กๆ"ไม่เป็นไร,พ่อว่าลูกกลัวที่จะทํา
ให้พ่อต้องเสียใจ แต่คราวหลังอย่าโกหกอย่างนี้อีก"ฟินน์ยิ้มอย่างดีใจ"พ่อจะลูกไถ่โทษโดยการเป็นตัวทดลองลูกกระสุน
ก็แล้วกัน"ฟินน์ได้ยินแล้วก็ตกใจเหมือนเห็นผี เขารู้สึกเหมือนมีอะไรผ่านน่องของเขา เขารู้สึกว่าฤทธิ์ยาได้แพร่กระจาย
แล้ว ความเจ็บปวดแพราไปทั่วร่างกาย ตั้งแต่หัวจรดเท้า ความเจ็บปวดนั้นราวกับถูกเผาทั้งจากข้างในและข้างนอก
ด้วยไฟจากนรกอเวจี กระดูกเหมือนแตกเป็นชิ้้นเล็กชิ้นน้อยเหมือนแก้วแตก เนื้อเหมือนถูกฉีกราวกับกระดาษ ผิวหนัง
เหมือนถูกเผาราวกับใบไม้แห้ง ท้องไส้ครวญครางราวกับถูกเผาด้วยนํ้าโลหะร้อน หายใจไม่ได้ ปวดหัวราวกับจะระเบิด
ออกมาแต่ก็ถูกดันจากข้างนอก ปวดไปทั่วร่างกายเหมือนถูกทุบให้แตกเป็นรูปปั้นปูนที่โดนค้อนทุบ ร่างของเขาล้ม
ลงพิ้น ดิ้นราวกับปลาขึ้นบกโดนถอดเกล็ดบนเขียง กรีดร้องจนเส้นเสียงแทบขาด ความเจ็บปวดเข้าครอบงําร่างกาย
เกินกว่าจะรู้สึกถึงภายนอก เขาเห็นเพียงแต่ความดํามืดไม่เห็นอะไร ทรมานราวกับตกนรก ไม่เห็นแม้แต่มือตนเอง ไม่ได้
ยินแม้แต่เสียงกรีดร้องของตน ไม่รู้สึกถึงอะไรนอกจากความเจ็บปวดที่่ทวีคูณเรื่อยๆ จิตใจวุ่นวายสับสนคล้ายจะบ้าตาย
ให้ได้ ความทรมานเกินบรรยายได้เข้าครอบงําเขาช้าๆ มีดที่มองไม่เห็นแทงออกมาจากภายนอก ความรู้ราวกับไกล้กับ
ฝ่ามือของพญามัจจุราช ร่างกายไม่รู้ถึงอะไรทั้งสิ้น จนกระทั่งหลับหายไป ฟินน์รู้สึกว่างเปล่า อ้างว้าง ราวกับอยู่ใน
ความเว้งว้างของจักรวาล ไม่รับรู้อะไรนอกจากความเย็นเฉียบ "ฉันตายแล้วหรือ?"เขาถามกับตนเอง สติเริ่มเรือนราง
ก่อนจะไม่รู้สึกอะไร .........
.
.
.
.
.
.
.
.
..
...
....
.....
......!....
เขาตื่นขึ้นมาจากภวังค์ แล้วมาเจอกับ......!
ฟินน์,เจค และ จอห์นกลับไปยังอาณาจักรแคนดี้ทันที เจ้าหญิงบับเบิลกัมเมื่อรู้เข้าว่าพวกเขากลับมาแล้วจึงรีบถามหา
เชื้้อตัวแม่"ไวรัสอยู่ไหน?"เจ้าหญิงรีบถามราวกับคนเมายาบ้าถามหาเฮโรอีนมาแกล้ม จอห์นรีบยื่นกระปุกแก้วที่บรรจุ
ของเหลวสีส้มคล้ายเจลมาให้เจ้าหญฺิงทันที เจ้าหญิงรีบวิ่งไปห้องแล็บราวกับนักวิ่งเหรียญทองโอลิมปิกโดนผึ้งต่อย โทนี่
มองฟินน์อย่างประหลาดใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกของตน"ลูกรัก มันเกิดอะไรขึ้น?"ฟินน์ไม่กล้าพูดความจริง กลัวว่าหากพ่อ
รู้ว่าตนนั้นเป็นสายพันธุ์เดียวกับอสุรกายจากอเวจีกลุ่มนั้นแล้วจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น"ผมอยู่ที่นั่นนานหลายปีเลยครับ"ฟินน์
ตัดสินใจโกหกกลบเกลื่อนความจริงไม่ให้พ่อของตนรู้ว่าตนนั้นกลายเป็นอสุรร้ายตัวหนึ่งไปแล้ว หากว่ารู้เข้าจงเกิดเรื่อง
เลวร้ายขึ้นแน่นอนนายทหารคนหนึ่งรีบวิ่งหาโทนี่"ท่านครับ!ดูนี่สิครับ"ภาพบนโน็ตบุ็คคือซากอาคารสหประชาชาติที่
เหลือแค่ซากทั้งหลายแหล่ ซากความรุ่งเรืองของอารยธรรมมนุษย์ที่จมดิน กําแพงเมืองจีนที่เป็นเศษอิฐ เทพีเสรีภาพที่
เป็นแค่คบเพลิงแห่งความพ่ายแพ้ที่ไร้หัว หอไอเฟลที่เป็นแค่เศษเหล็กกองพิ้น ทัชมาฮาลที่เป็นแค่กองหินไร้ค่าไม่มีราคา
"ไม่จริงน่า ขอให้ออสเตรเลียรอดเถิด!"ภาพสุดท้าย คือภาพของซิตนีย์โอเปร่าเฮาส์ที่ดูเหมือนซากติดไฟจากภัยร้าย
อะไรบางอย่าง "มันจบแล้ว"โทนี่คิดในใจ"มันจบสิ้นแล้ว!มนุษย์ชาติ!เรากําลังจะพ่ายแพ้หรือนี่"ความคิดแห่งความ
เลวร้ายถาโถมเข้าใส่สมองของเขาจนต่อมนํ้าตาไม่สามารถจะยั้งการทํางานของมันได้ นํ้าตาของชายแกร่งอย่างทหารไหล
ลงมาอาบแก้ม ขาสั่นจนแทบล้มฟุบลงกับพิ้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยนํ้าตา มากเกินกว่าจะเห็นสิ่งใดๆได้ เขาเอามือ
ทั้งสองข้างบังหน้าไม่อยากให้ลูกทั้งสองของเขาต้องเห็นพ่อของเขามาเจอเขาในสภาพแบบนี้ ฟินน์นั่งยองๆเอาแขนโอบ
ไหล่หวังว่าจะให้พ่อของเขานั้นมีกําลังใจมากขึ้น แต่ก็เหมือนกับการเอาเกลือเท่าเศษเล็บไปละลายทะเลสาบหวังให้
ทะเลสาบเค็มเป็นการกระทําที่ดูเหมือนไร้ประโยชน์ เหมือนสํานวนไทยที่ว่า ตําน้ำพริกละลายแม่น้ำ พ่อของเขาเอาแขน
ปัดลูกของเขาจนล้มลงกับพิ้น เขานั้นดูเหมือนจะตายให้ได้ เขาไม่อยากกุมชะตากรรมรับความจริงว่ามนุษย์จะพ่ายแพ้ คิด
ว่ามนุษย์ชาติคงจะอยู่ค้ำฟ้า "อย่ามายุ่งกับพ่อ!จะไปไหนก็ไป!" เขาตะโกนไล่ฟินน์ให้ไปไกลๆจากเขา ทุกๆคนหลีกหนี
จากพ่อของเขาปล่อยให้พ่อของเขาร้องไห้จนกว่าเขาจะพอใจ "เซรุ่มเสร็จแล้ว!"เสียงหนึ่งดังขึ้น เสียงนั้นเหมือนกับ
เสียงแห่งความหวังจากพระผู้เป็นเจ้าจากฟากฟ้าของโทนี่ เขากลับมามีกําลังวังชาอีกครั้ง เขาลุกขึ้นมา เช็ดคราบน้ำตา
แล้วยกลับมายิ้มอีกครั้ง"ค่อยยังชั่วหน่อย!มนุษย์ชาติ"
ณ ห้องแล็บของเจ้าหญิง
หล่อนสกัดของเหลวสีฟ้าใส่ในลูกกระสุนช้าๆทีละลูกก่อนจะมอบปืนให้ทุกคน"นี่คือกระสุนชนิดพิเศษ!"เจ้าหญิงกล่าว"มัน
มีเซรุ่มที่จะไปทําลายเซลล์มหามนุษย์แล้วไปสนับสนุนเซลล์ธรรมดาแทน"ทุกคนปรบมือ นํ้าตาแห่งความยินดีปรีดาหลั่ง
ไหลอาบแก้มทุกคนรวมถึงฟินน์ มนุษย์(?)หน้าใหม่ก็ยังนํ้าตาอาบแก้ม "ลูกทหารห้ามร้อง"โทนี่กล่างอย่างอ่อนโยนก่อน
จะลูบหัวลูกของเขาช้าๆ"แล้วตอนที่ป๋าร้องนี่หมายความว่าไง?"ฟินน์ย้อนพลางทําหน้ายิ้ม โทนี่อดยิ้มไม่ได้ก่อนเดินไปรับ
ปืนจากเจ้าหญิง"แด่มนุษย์ชาติ!"โทนี่ชูปืนขึ้นแล้วตะโกน เจ้าหน้าที่ทุกคนทําตาม"แด่มนุษย์ชาติ!""แด่มนุษย์ชาติ!"
"แด่มนุษย์ชาติ!""ผมขอพูดอะไรบางอย่างหน่อยครับ"เสียงหนึ่งพูดมาเบาๆขัดการปลุกใจของนักรบแห่งความหวัง
"ผมปวดขี้ครับ!"เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าว ทุกคนหายเงิบแทบไม่ทัน "ไปห้องนํ้าซะ!"โทนี่ตะโกน มือหนึ่งชูขึ้นกลาง
อากาศ โทนี่มองไปเจ้าของมือนั้นช้าๆ"อย่าบอกนะว่าแกเป็นคู่เกย์ของมัน"แต่โทนี่ก็ต้องหยุดพูดลงเมื่อคำพูดหนึ่งหลุด
ออกมาจากปากของลูกของตน"ผมติดเชื้อมหามนุษย์ครับ"ทุกคนตกใจแต่โทนี่ก็ยิ้มเล็กๆ"ไม่เป็นไร,พ่อว่าลูกกลัวที่จะทํา
ให้พ่อต้องเสียใจ แต่คราวหลังอย่าโกหกอย่างนี้อีก"ฟินน์ยิ้มอย่างดีใจ"พ่อจะลูกไถ่โทษโดยการเป็นตัวทดลองลูกกระสุน
ก็แล้วกัน"ฟินน์ได้ยินแล้วก็ตกใจเหมือนเห็นผี เขารู้สึกเหมือนมีอะไรผ่านน่องของเขา เขารู้สึกว่าฤทธิ์ยาได้แพร่กระจาย
แล้ว ความเจ็บปวดแพราไปทั่วร่างกาย ตั้งแต่หัวจรดเท้า ความเจ็บปวดนั้นราวกับถูกเผาทั้งจากข้างในและข้างนอก
ด้วยไฟจากนรกอเวจี กระดูกเหมือนแตกเป็นชิ้้นเล็กชิ้นน้อยเหมือนแก้วแตก เนื้อเหมือนถูกฉีกราวกับกระดาษ ผิวหนัง
เหมือนถูกเผาราวกับใบไม้แห้ง ท้องไส้ครวญครางราวกับถูกเผาด้วยนํ้าโลหะร้อน หายใจไม่ได้ ปวดหัวราวกับจะระเบิด
ออกมาแต่ก็ถูกดันจากข้างนอก ปวดไปทั่วร่างกายเหมือนถูกทุบให้แตกเป็นรูปปั้นปูนที่โดนค้อนทุบ ร่างของเขาล้ม
ลงพิ้น ดิ้นราวกับปลาขึ้นบกโดนถอดเกล็ดบนเขียง กรีดร้องจนเส้นเสียงแทบขาด ความเจ็บปวดเข้าครอบงําร่างกาย
เกินกว่าจะรู้สึกถึงภายนอก เขาเห็นเพียงแต่ความดํามืดไม่เห็นอะไร ทรมานราวกับตกนรก ไม่เห็นแม้แต่มือตนเอง ไม่ได้
ยินแม้แต่เสียงกรีดร้องของตน ไม่รู้สึกถึงอะไรนอกจากความเจ็บปวดที่่ทวีคูณเรื่อยๆ จิตใจวุ่นวายสับสนคล้ายจะบ้าตาย
ให้ได้ ความทรมานเกินบรรยายได้เข้าครอบงําเขาช้าๆ มีดที่มองไม่เห็นแทงออกมาจากภายนอก ความรู้ราวกับไกล้กับ
ฝ่ามือของพญามัจจุราช ร่างกายไม่รู้ถึงอะไรทั้งสิ้น จนกระทั่งหลับหายไป ฟินน์รู้สึกว่างเปล่า อ้างว้าง ราวกับอยู่ใน
ความเว้งว้างของจักรวาล ไม่รับรู้อะไรนอกจากความเย็นเฉียบ "ฉันตายแล้วหรือ?"เขาถามกับตนเอง สติเริ่มเรือนราง
ก่อนจะไม่รู้สึกอะไร .........
.
.
.
.
.
.
.
.
..
...
....
.....
......!....
เขาตื่นขึ้นมาจากภวังค์ แล้วมาเจอกับ......!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น