คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ยูนิคอร์นปริศนา(แก้แล้ว)
ณ สักที่หนึ่งในวังแห่งแคนเทอร์ลอต
“ตึกๆๆๆ”เสียงๆหนึ่งดังขึ้นช้าๆทั่ววัง วังแห่งนั้นมีผนังทำมาจากหินอ่อนสีม่วง จริงๆแล้วทุกอย่างในวังเป็นสีม่วง ข้างๆทางมีแจกันดอกไม้แขวนไว้เรียงรายบนเสาหิน มีดอกกุหลาบรรจุอยู่ทุกใบ บนทางปูพรมแดงลายแบบเปอร์เซียสวยงาม พื้นเป็นทรงสี่เหลี่ยมลายสก๊อต ระหว่างหินอ่อนนั้นมีภาพวาดกระจกโมเสก แต่หาว่ารูปโมเสกจะเป็นรูปมนุษย์ไม่ แต่กับเป้รูปม้าแคระที่น่าจะมีตาโตเท่าหน้าคน ตัวเล็กหากเทียบอัตราส่วนระหว่างหัวกับตัวในโลกแห่งความเป็นจริง มีสีประหลาดแตกต่างกันไป
“แอ๊ด…..” ประตูบานหนึ่งถูกแง้มออก แต่ทว่าประตูบานนั้นไม่ได้ถูกเปิดด้วยมือ ฝั่งด้านที่เปิดนั้นมีออร่าสีเขียวคลุมไว้อยู่
เมื่อประตูถูกเปิดออก มีร่างสูงราวๆเมตร เดินออกมา ร่างนั้นถูกคลุมด้วยผ้าคลุมที่ใหญ่กว่าขนาดตัวของมันมาก สิ่งเดียวที่เห็นจากร่างนั้นคือปากที่ยื่นออกมาจากผ้าคลุม ดูคล้ายปากของม้า ร่างนั้นมีหลังที่นูนออกมา ดูท่าทางไม่ได้มีรูปร่างอย่างมนุษย์ ร่างๆนั้นมองซ้ายมองขวา ก่อนที่จะย่องไปช้าๆ เดินไปตามพรม
“นายท่าน ข้าเชื่อว่าสักวันท่านจะต้องกลับมายิ่งใหญ่…”มันพึมพำกับตนเองด้วยน้ำเสียงแหบแห้งที่ดูเหมือนว่า
มันจะมีเสลดเต็มลำคอของมัน
“แคกๆๆ….”มันไอเบาๆ
ร่างนั้นมองไปด้านหลังของมัน ข้างหลังของมันเป็นม้ายูนิคอร์นสีน้ำตาล ขนหัวสีน้ำตาลเข้ม สวมชุดเกราะสีทอง ตาสีฟ้าโตมองไปยังบุคคลปริศนาช้าๆ
“ตอนนี้วังปิดอยู่! เจ้าหญิงเซเลสเทรียและ ลูน่า กำลังบรรทมอยู่!”มันตะโกน
ม้าชุดดำหันไปยังทหารยาม เดินไปหาช้าๆ“ข้าไม่ได้มาหาเจ้าหญิงหรอก….”มันบอกด้วยเสียงแหลมแห้ง
ทหารยามรีบหยิบดาบออกจากฝักด้วยเวทย์มนต์ แต่ขาทั้งสี่กลับสั่นด้วยความหวาดกลัว “และดาบนั่น ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก…..”
มันเดินไปหาทหารยามช้าๆ สิ่งๆหนึ่งผุดออกมาจากใต้ผ้าคลุม มันเป็นไม้กายสิทธิ์สีดำบาง สลักเป็นรูปงูพันกิ่งไม้ไร้ใบ “อะวาดรา…..เคดาฟ-รา!”
เช้าวันต่อมา
“ฮ้าว….”เสียงสาวอายุราวๆ20หาวขึ้นมา ในห้องที่เธออยู่เป็นห้องวอลเปเปอร์สีม่วง ในห้องมีตู้เสื้อผ้า มีหนังสือรกรุงรังอยู่ทั่วไป มีที่วางเทียนไขที่เทียนหลอนละลายหมดแล้ว หน้าต่างขอบทอขนาดใหญ่ทอดแสงผ่านผ้าม่านบางๆสีขาวมาหาเตียงของเธอ สาวผู้นั้นไม่ใช่มนุษย์แต่หากเป็นม้าอีกตัว เธอมีขนสีม่วงอ่อน ผมสีม่วงมีสีชมพูแซม ดูเรียบร้อย เธอมีทั้งเขาและปีก เธอลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจช้าๆ ใช้เวทย์มนต์สีม่วงของเธอเลิกผ้าห่มขึ้นมา เธอค่อยๆหย่อนตัวลงมาจากเตียงสีครีมพื้นกระเบื้องสีน้ำตาล เธอเปิดปิดริมฝีปากของเธอ ตาของเธอกึ่งเปิดกึ่งปิดแต่โตมากพอที่จะเห็นนัยน์ตาสีม่วงของเธอ เธอมีสัญลักษณ์บนก้นของเธอเป็นดาวสีชมพู8แฉก มีดาว6แฉกสีขาวล้อมรอบเนรูปหกเหลี่ยม
“ทไวไลท์!”เสียงๆหนึ่งดังขึ้น เสียงนั้นเป็นเสียงเล็กน่ารัก
เสียงๆนั้นดังมาจากมังกรที่สูงราวๆ ครึ่งเมตร ตาโต มีแถบชนหลังและท้องสีเขียว หูของมันเป็นทรงเปลือกหอย3แฉกสีเขียวอ่อน ตาดูเหมือนตาของสัตว์เลื้อยคลานสีเขียวโตๆดูน่ารัก มือมีอยู่4นิ้วแหลมๆ บนหลังมีแถบสีเขียวเข้ม ยืนด้วยสองขา มันเดินไปหาทไวไลท์ช้าๆ
“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!ทไวไลท์!เธอต้องไปที่ต้นไม้แห่งเอกภาพ!!!”มันตะโกนสุดแรงเกิด
“เกิดอะไรขึ้น…”ทไวไลท์ถามพลางขยี้ตาด้วยกีบของเธอ เธอหาวเบาๆเอากีบป้องปากไว้
“มีโพนี่ตัวนึงไปตัดต้นไม้แห่งเอกภาพ แถมยังฆ่าทหารยามไปคนนึงด้วย”มันตะโกน
“อะไรนะ!?!สไปค์”ทไวไลท์ตะโกนออกมา ตื่นเต็มตัว
“ต้นไม้แห่งเอกภาพถูกตัด แถมธาตุแห่งเอกภาพยังถูกขโมยด้วย!!!” มันตะโกน “รีบพาฉันไปที่นั่นเร็ว”
ณ โพนี่วิลล์
“นี่ สไปค์ ฉันว่าเราไปหาเพื่อนของเราดีกว่า” ทไวลท์บอกทันทีที่เธฮลงมาจากรถไฟ สถานีนั้นเป็นแค่กระท่อมปูฟางเป็นหลังคา โครงทำจากไม้ ขนาดเล็กพอๆกับห้องน้ำสาธารณะ มีผนังสีม่วง เธอรีบวิ่งออกไปข้างนอกสถานีก่อนที่เธอจะชนอะไรสักอย่าง
“ขอโทษ…เรนโบว์แดช!” ทไวไลท์พบว่าโพนี่ที่เธอชนนั้นเป็นเปกาซัสสีฟ้า ผมสีรุ้งดูยุ่งๆ โดยที่ส่วนบนเป็นสีแดง ส้ม และ เหลือง ข้างล่าง เป็นสีเขียว ฟ้า และ ม่วง ตาสีบานเย็นเปี่ยมพลัง ดูออกทอมๆ ท่าทางตื่นนตระหนก
”ทไวไลท์ เธอมาพอดีเลย ฉันกำลังจะบอกว่าเมื่อวานมีโพนี่ตัวนึงทำร้ายฟลัตเตอร์ชายด้วย!” เรนโบว์แดชบอกอย่างรีบเร่ง
”อะไรนะ!?!แล้วตอนนี้เธอยู่ไหนละ”ทไวไลท์ถามต่ออย่างประหลาดใจ
“ตอนนี้เธอยู่ที่โรงบาล เธอบอกว่าโพนี่ที่เธอเจอเป็นยูนิคอร์นคลุมผ้าคุมสีดำ สีออกน้ำตาลอมเขียวนิดๆ”เปกาซัสบอก
“ฉันสาบานเลยว่าถ้าฉันเจอโพนี่ตัวนั้น ฉันอัดมันเละแน่!” เธอพูดด้วยน้ำเคืองๆ ตาสีบานเย็นแสดงแววตาแห่งความแค้น
“แล้วเพื่อนที่เหลือละ พวกเธอยังโอเครึเปล่า” ทไวไลท์ถาม “ยังสบายดี กำลังเยี่ยมฟลัตเตอร์ชายอยู่” เรนโบว์แดชตอบ
“แล้วมันทำอะไรเธอละ?” ทไวไลท์ยังคงถามต่อไป
“ฟลัตเตอร์ชายบอกว่า มันบุกเข้าไปในบ้านของเธอเพื่อที่จะขโมยสมุนไพรของเธอ เธอเลยลงมาข้างล่าง จะคุยด้วย แต่ว่าเขาใช้กิ่งไม้อะไรสักอย่างนี่ละ ยิงอะไรสักอย่าง พร้อมกับท่องคาถาอะไรสักอย่าง คูๆอะไรสักอย่างนี่แหละ แล้วเธอบอกว่าคาถานั้นทำให้เธอเจ็บปวดมาก เหมือนกับโดนเชือดทั้งเป็น ราวๆนี้แหละ…”เรนโบว์แดช บอก
“คาถาออกเสียง? ฉันว่าที่ห้องสมุดคงต้องมีอะไรสักอย่างที่เราควรรู้แน่ๆ”ทไวไลท์บอก
“เอะอะอะไรก็ห้องสมุด ห้องสมุดนี่เป็นคลังอาวุธรึไง?” เรนโบว์แดชเหน็บ
“ความรู้คืออาวุธที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ลืมแล้วรึไง” ทไวไลท์พูด
“จะไม่ไปเยี่ยมฟลัตเตอร์ชายก่อนเหรอ? เธอคงดีใจมากแน่ถ้าเธอมา พักหลังๆเธอไม่ค่อยมาหาพวกเราเลย”เรนโบว์แดชถาม
“คิดว่าการที่ฉันเป็นเจ้าหญิงแล้วทุกอย่างมันจะง่ายรึไง ฉันต้องทำงานเพียบแน่ะ! ทั้งไปแก้ปัญหาให้ประชาชน ไปเจรจาสงบศึกกับมังกร ประกาศโอวาส ฉันแทบไม่มีโอกาสไปเยื่ยมพกเธอเลย ถ้าเป็นไปได้ ฉันกล้าสาบานเลยว่าฉันมาเยื่ยมพวกเธอทุกอาทิตย์แน่!” ทไวไลท์พูด ”ช่างเหอะ เอาเป็นว่าไปเยี่ยมฟลัตเตอร์ชายก่อนก็แล้วกัน”
ณ โรงพยาบาล
ในห้องรวมสีออกฟ้าๆที่มีผ้าม่านสีฟ้าคั่นผู้ป่วยและคนออกจากกัน ดูสะอานสะอ้าน โคมไฟนีออนส่องแสงอย่างมั่นคง ในห้องเบียดเสียดด้วยคนไข้และแขก หนึ่งในนั้นคือเปกาซัสสีเหลือง ผมสีชมพูเป็นลอน ตาสีฟ้าเป็นประกายเปี่ยมเมตตา กำลังนอนอยุ่บนเตียง ตราของเธอเป็นูปผีเสื้อสีชมพูลำตัวน้ำเงิน3ตัว เธอมองเพื่อนๆ3คนของเธอ มีม้าสีส้ม ผมเหลืองมัดเป็นหางม้าสั้นๆที่ปลายผม สวมหมวกคาวบอย ตาสีเขียวดูเป็นกันเอง มีตราเป็นแอปเปิลแดง3ลูก แก้มขึ้นกระ ยูนิคอร์นสีขาวสะอาดตา ผมสีม่วงดัดลอน ตาสีครามมีขนคิ้วยาว ดูหรูหรา มีตราเป็นเพรชสีฟ้า3อัน ทรงข้าวหลามตัด และม้าสีชมพู ผมสีชมพูเข้มหยิกเหมอนคนป่าซาไก ตาสีฟ้าอ่อนดูร่าเริง มีตราเป็นลูกโป่ง3ลูก ลูกสีฟ้าขนาบสีเหลือง
“ขอบใจนะที่พวกเธอมาเยี่ยมฉัน ความจริงแล้วพวกเธอไม่ต้องลำบากขนาดก็ได้หรอก….”เปกาซัสสีเหลืองพูดเสียงเบา
.”ไม่เป็นไรหรอก ฟลัตเตอร์ชาย จริงๆแล้วพวกเราอยากมาเยี่ยมเธอด้วยซ้ำ ว่าหัวเธอโอเคแล้วยัง” โพนี่ที่สวมหมวกคาวบอยพูดยิ้มๆพลางแตะผ้าพัดแผลบนหัวของเธอ
”เอาไหมออกแล้ว อีกแค่พรุ่งนี้ก็เอาผ้าพันแผลออกแล้วแล้ว”ฟลัตเตอร์ชายบอก
“ฉันเอาคุกกี้มาฝาก!”ม้าสีชมพูพูดเสียงสดใส พลางกระโดมายังตะหัวเตียง วางตะกร้าที่ใส่คุกกี้หลาย
ชนิดไว้ ยูนิคอร์นสีขาวเดินไปยังตะกร้าคุกกี้ช้าๆ พิจารณาคุกกี้แต่ละชิ้น
“พิงค์กี้พาย ฉันว่าคราวหลังเอาคุกกี้ถั่วมาเยอะๆนะ เพราะว่าเคยมีโพนี่ตัวนึงบอกฉันตอนเป็นเด็กว่า ตอนเป็นแผลให้กินถั่วกินนมเยอะๆแผลจะได้หายไวๆ” เธอบอกด้วยน้ำเสียงค่อนข้างดราม่า
“ขอบใจนะ”ฟลัตเตอร์ชายกล่าวขอบใจ หยิบคุกกี้ช็อกโกแลตชิบด้วยปาก แล้วกัดคำเล็กๆ
“พวกเราขอถามอะไรสักหน่อยได้ไหมว่าเรื่องมันเกิดอะไรขึ้น ถ้าเรื่องนี้มันกระทบเธอ ไม่ต้องตอบก็ได้” ม้าสวมหมวกคาวบอยถาม
“โอเค แอปเปิ้ลแจ็ค ราริตี้ พิงค์กี้พา พวกเธอพร้อมแล้วนะ?” เธอถาม
“ฉันเจอทไวไลท์แล้ว!”เสียงหนึ่งตะโกน เสียงนั้นฟังดูเหมือนเสียงเด็กผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เธอคือเรนโบว์แดช เธอเดินมากับทไวไลท์
“ หวัดดี ฟลัตเตอร์ชาย”ทไวไลท์ บอก ทุกคนนิ่งเงียบสักระยะหนึ่ง จ้องมองที่เธอ ทุกอย่างดูเงียบไป2-3วิ
“ทไวลท์!!!ในทีสุดเธอก็มา!!!”โพนี่ทุกตัวยกเว้นฟลัตเตอร์ชายรีบกอด ทไวไลท์
“ไม่ได้เจอกันเป็นเดือนสบายดีรึเปล่า?” แอปเปิ้ลแจ็คถามพลางตบไหล่
“งานยุ่งสินะ ไม่ต้องห่วง ทำตัวสบายๆที่นี่เลย”แรริตี้พูดพลางตบไหล่ทไวไลท์อีกตัว
“ยังงี้ต้องฉลอง!”พิงคืกี้พายตะโกน เปิดพลุปาร์ตึ้ เสียงดังลั่น
“ตอนนี้เรามีเรื่องใหญ่แล้ว!” ทไวไลท์พูดเป็นกังวล
“อะไรจะสำคัญกว่าการที่ฟลัตเตอร์ชายถูกทำร้ายละ?” แอปเปิ้ลแจ็คถามอย่างหงุดหงิด
“ต้นไม้แห่งเอกภาพถูกตัด! ธาตุแห่งเอกภาพถูกขโมยไป!” ทไวไลท์ตะโกน
“หา!?!”ทุกคนพูดพร้อมกัน “ขอเดาเลยนะ ฉันว่าโพนี่ทำร้าย ฟลัตเตอร์ชายคงไปตัดต้นไม้นั้นด้วย” แรริตี้พูดพลางเอากีบวาลูบคางของตน
“ว่าแต่เขาเอาไปได้ไงล่ะต้นไม้แห่งเอกภาพอยู่คู่เอเควสเทรียมาพันปี มีแต่พวกอะไลคอร์นที่เอาธาตุออกมาได้ แต่ทำเจ้ายูนิคอร์นนั่นมันเอาออกมาได้ดื้อๆซะงั้น”เรนโบว์แดชพูดงงๆ
“ฉันว่าเขาคงต้องใช้เครื่องรางอะไลคอร์นหรือไม่อะไรพวกนั้นแหละ”ทไวไลท์บอก
“ฉันว่าไม้ของเขาอาจจะเป็นอุปกรณ์วิเศษอะไรสักอย่างนี่แหละ” ฟลัตเตอร์ชายคิดดูบ้าง
“ฉันว่านะ ถ้าเราไปยังที่ป่าเอเวอร์ฟรี เราอาจจะเจอคำตอบ” ทไวไลท์พูด
“ทุกตัวต้องไปกันฉัน ยกเว้นแรริตี้ ฝากดูแลฟลัตเตอร์ชายด้วย” ทไวไลท์บอกแรริตี้ แล้วทุกคนก็เดิน
ออกจากห้อง
ณ ถ้ำที่ตั้งของต้นไม้แห่งเอกภาพ
ในถ้ำแห่งนี้มีผนังที่มีเพชรสีม่วงหม่นขนาดใหญ่ฝังอยู่ พื้นนั้นเป็นหินที่มีหินงอกที่ถูกตัดออกอยู่รอบนอก ต้นไม้ใบหญ้ารอบๆกลับกลายเป็นสีน้ำตาลเฉา มีต้นไม้คริสตัลเป็นเหลี่ยมแฉกอยู่ตรงกลาง แต่ทว่าจากเดิมที่เป็นสีฟ้าสุกสว่าง บัดนี้กลายเป็นสีน้ำเงินหม่น บนลำต้นมีตรารูปดวงอาทิตย์ที่มีรัศมีเป็นหยัก และรูปพระจันทร์เสี้ยวและดาว แต่ทว่าลำต้นที่สูงจากนั้นกลับไม่มีเหลือให้เห็น มีแต่เศษคริสตัลสีดำเกลื่อนกระจายพื้นไปทั่ว ร่างทั้ง 4ตกตะลึงกับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับต้นไม้
“ให้ตายสิ ยูนิคอร์นบ้าอะไรที่มีพลังทำลายต้นไม้แห่งเอกภาพได้” เรนโบว์แดชพูดอย่างตกใจขณะมองไปยังความเสื่อมโทรมที่เกิดขึ้นถ้ำแห่งนี้ “
เธอจะรู้ไงว่ามันไม่ใช่ยูนิคอร์น หรือใช่กิ่งไม้ประหลาดนั่น” แอปเปิ้ลแจ็คพูด ทไวไลท์มองความเสียหายโดยรอบ เธอใช้เวทย์มนต์ของเธอยกเศษคริสตัลขึ้นมาดู บนคริสตัลนั้นมีรอยร้าวและรอยไหม้มากมาย เธอรีบยกคริสตัลทั้งหมดขึ้นมาด้วยเวทย์มนต์ ดวงตาของเธอจ้องมองไปยังตอไม้แห่งเอกภาพ แววตาสีม่วงมองด้วยความมุ่งมั่น ชิ้นคริสตัลค่อยๆลอยไปตอไม้ช้าๆ
“แซบ….” เสียงอะไรบางอย่างคล้ายกระแสไฟดังขึ้น
สายฟ้าสีเขียวเล็กๆเริ่มโผ่ออกมาพร้อมกันขวันสีเขียว ทไวไลท์ใช้เวทย์มนต์มากขึ้น แสงสีม่วงที่เริ่มหุ้มคริสตัลสีดำเริ่มมีควันเขียวพุ่งออกมา ควันเหล่านั้นพยายามผลักเศษคริสตัลไม่ให้ปะติดปะต่อกัน ทไวไลท์ยิ่งใช้เวทย์มนต์เข้าไปจนเหงื่อเริ่มออก เธอหายใจถี่ขึ้นๆขณะที่ควันเขียวเริ่มรวมตัวกัน มันเริ่มพุ่งใส่กันอย่างรวดเร็ว
“ทไวไลท์! เธอหยุดก่อนดีกว่า!”พิงค์กี้ตะโกน
“ฉันก็ว่างั้น ถ้าเธอไม่ยุด เรื่องไม่ดีคงเกิดขึ้น”แอปเปิ้ลแจ็คพยายามห้าม
“ลุยต่อเลย ทไวไลท์! ซ่อมต้นไม้นั่นซะ!”เรนโบว์แดชตะโกน
“เรนนี่! ไม่เห็นรึไงว่าเกิดอะไรขึ้น!ทไวไลท์หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
ควันสีเขียวได้รวมกันเป็นรูปงูใหญ่ สูงราวๆตึก3ชั้น ผิของมันเกิดจากควันรวมกันหยาบๆ แต่หนาพอที่จะไมองไม่ทะลุได้ มันหนาพอๆกับรถไฟ ไฟสีเขียวลุกขึ้นมาแทนตาดูน่าหวาดหวั่น ทุกอณูของมันคือควันพิษแห่งความชั่วร้าย
ทไวไลท์รีบหยุดทันที คริสตัลทั้งหมดตกลงพื้น งูยักษ์จ้องมองพวกเธอช้าๆ
ความคิดเห็น