คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 7 สงสัยผีอยากจะแกล้งฉัน
7
7
(สงสัยผีอยากจะแกล้งฉัน)
ฉันหนักหัวไปหมดลืมตาตื่นขึ้นมา พบว่าฉันนอนอยู่ที่เตียง นี้มันห้องนายนั่นนิ!!! ฉันมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง ฉันจะรีบออกไปจากห้องนี้ ฉันลุกขึ้นจากเตียงเตรียมจะออกไปให้พ้นๆห้องนี้ แล้วพอเปิดประตูห้องนอนออกก็มาเจอนายนี้ยืนขวางประตูอยู่
“หลีกทาง ฉันจะออกจากห้องนี้ -_-” ฉันพูดโดยหันหน้าไปทางอื่น
“เธอ...” เขาพูดเสียงอ่อนและเอามือมาจับที่ไหล่ฉันทั้งสองข้าง “ฉันขอโทษ เธออย่าโกรธฉันเลยนะ ฉันผิดไปแล้ว -_-” นึกแล้วว่านายต้องพูดอย่างนี้ ฮะ! เมื่อกี้นายนั่นว่าไงนะ OoO
“เมื่อกี้นายขอโทษฉันหรอ ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม”
“ไม่หูฝาดหรอกฉันพูดอย่างนั้นจริงๆ หรือไม่แน่ใจฉันก็จะพูดอีกทีก็ได้ว่าฉันขอโทษเธอยกโทษให้ฉันนะ -_-” เหอะๆ หัวเราะดีไหมนะ ฉันไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
“นายจะมาขอโทษฉันทำไมกัน”
“ก็เรื่องเมื่อคืนฉันพูดไม่ดีกับเธอ ฉันผิดไปแล้ว -_-”
“นายสำนึกผิดแค่ไหนกัน ฉันจะรู้ได้ไง”
“แต่ฉันสำนึกผิดแล้วจริงๆนะ เธอจะให้ฉันทำยังไงเธอบอกมาสิ -_-”
“ฉันไม่รู้” ‘เลิกกับแฟนนายคนนั้นได้ไหมล่ะ’ ฉันอยากจะพูดอย่างนี้แต่มันเกี่ยวกันตรงไหน
“อืม... งั้นฉันให้เธอไปพบแม่ฉันกับฉันนะ เพื่อเป็นการไถ่โทษ เธอจะได้รู้ว่าฉันไม่ได้คิดว่าการที่ฉันต้องมาสุงสิงกับเธอมันไม่ได้ทำให้ฉันคิดว่าฉันลดตัวเองลงมา -_-” ถึงเขาจะอ้อนวอนฉัน แต่สีหน้าของเขาก็ยังเหมือนไม่ได้อ้อนวอนอยู่ดี เขายังเก๊กหน้าโหดใส่ฉันทุกครั้งที่พูดกับฉัน
“ก็ได้!” ฉันบอกไปอย่างจำใจ เขาได้ยินอย่างนั้นแล้วก็ยิ้มแฉ่งออกมาไม่ถึงวินาทีเข้าก็หุบยิ้ม แล้วก็เก๊กเหมือนอย่างที่เคยทำ
“ตีต้าร์เมื่อคืนฉันจำได้ว่าฉันถูกพวกขี้เมานั้นวิ่งไล่ไม่ใช่เหรอ ฉันมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง”
“แล้วถ้าฉันบอกว่าฉันไปช่วยเธอล่ะ เธอจะเชื่อไหม”
“นายช่วยฉัน เหลือเชื่อ! เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉันฟังหน่อยสิ”
“ฉันขับรถตามหาเธอแล้วก็ไปพบพวกนั้นเข้า ฉันเลยจอดรถลงไปดู และจัดการพวกนั้นนิดหน่อยพอมันวิ่งหนีฉันก็ไปดูเธอที่นอนอยู่แต่ฉันไม่รู้หรอกว่าเธอเธอมันมืดมาก สภาพของเธอตอนนั้นน่ะนะเสื้อถูกฉีกขาดออก เหลือแค่ชุดชั้นในตัวเดียว ฉันเลยเอาเสื้อแจ็คเก็ตคลุมให้เธอและอุ้มเธอขึ้นรถ ฉันอยากเช็คดูว่าจะเป็นเธอหรือเปล่าแต่ในความคิดของฉัน ฉันคิดว่าไม่น่าจะใช่เธอ แต่พอเปิดไฟในรถดูก็เป็นเธอซะงั้น ฉันเลยอุ้มเธอมาไว้ที่ห้อง เรื่องทั้งหมดมันก็เป็นอย่างนี้แหละ”
“นายตั้งใจตามหาฉัน...”
“ก็ใช่น่ะสิ ตอนนั้นฉันทำอะไรไม่ถูกไปหมดฉันเป็นหะ...” พูดแค่นั้นเขาก็หยุดเหมือนจะพูดไม่จบ
“เป็นไรนะ”
“เปล่าไม่มีไร เมื่อคืนเจอเรื่องมาเยอะไปพักผ่อนเถอะ ฉันให้เธอพักครึ่งวัน -_-”
“ฉันไม่อยากนอน ฉันอยากดูหนัง วันนั้นตอนนายดูบอลฉันเหลือบไปเห็นแผ่นซีดีวางอยู่ใต้ตู้โทรทัศน์ด้วยล่ะ ฉันอยากเปิดดูเรื่องนั้น นายให้ฉันดูนะ”
“ฉันมีสิทธิ์ไม่ให้เธอดูเหรอ -_-” ก็เออน่ะสิ ทุกครั้งนายก็ใช้สิทธิ์ของนายอย่างเหลือเฟือ >.< ฉันเดินไปหยิบแผ่นซีดีขึ้นดูหน้าปกว่าเป็นเรื่องอะไร ปรากฏว่ามันเป็นเรื่องผี ฉันกำลังอยากดูหนังแนวนี้อยู่พอดีเลย “เปิดดูตามสบายนะ”
“ตีต้าร์ นายมานั่งดูเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ”
“ทำไม -_-?”
“ฉันกลัวผี...”
“เธอก็ดูเรื่องแนวอื่นสิ กลัวจะดูทำไม หนังแนวอื่นก็มี” เขาพูดขำๆ
“ก็ฉันอยากดูแนวนี้ แต่ฉันกลัว นายดูเป็นเพื่อนฉันนะ นะ” ลูกอ้อนเต็มที่
“กริ้ดดดด” ตีต้าร์สะดุ้งเฮือก เสียงกรี้ดของเธอทำเอาเขาตกใจอีกแล้ว หนังผีมันก็ลุ้นระทึกอยู่หรอกนะ แต่ตกใจเสียงกรี้ดของผู้หญิงที่นั่งข้างๆเขามากกว่า
“จะร้องทำไม หนวกหู -_-” เขาทนไม่ไหวหลังจากที่เก็บความรู้สึกมานาน
“ก็ไม่ได้อยากร้องหรอกนะ แต่คนมันตกใจนิ”
แปดนาทีผ่านไปมินติ์ก็ยังไม่ร้องออกมาสักแอะหลังจากที่เขาพูดบอกเธอไป ก่อนหน้านี้ สามนาทีติดกันเห็นจะได้ บ้างทีไม่ถึงหนึ่งนาทีก็ร้องขึ้นมาอีก ทำให้ตีต้าร์โล่งหูขึ้นมาเยอะ แต่...
“กรี้ดดดดดดดดด” อีกแล้ว พูดยังไม่ทันขาดคำ เป็นอีกแล้ว ครั้งนี้เธอก็กอดเขาด้วยล่ะ เขามองเธอเธออย่างเอือมๆ
“แหะๆ โทษทีตกใจน่ะ” เธอเอาแขนออกจากเขา
แล้วก็ดูต่อ ไม่ถึงนาทีเธอก็เป็นอีก
“แหะๆ โทษที”
แล้วก็...
“โทษนะ... แหะๆ”
ก็...
“แหะๆ ตกใจมากไปหน่อย” อย่างนี้จนหนังจบ
“ว้า!จบแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าฉันจะดูหนังที่น่ากลัวอย่างนี้จนหนังจบ”
“อืมไม่น่าเชื่อ ว่าฉันจะนั่งดูเป็นเพื่อนเธอจนหนังจบเช่นกัน -_-”
“นายพูดงี้หมายความว่าไง”
“ก็ฉันต้องทนต่อเสียงเธอแหกปากร้องอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเวลามันลุ้นระทึกอย่างนี้เธอก็แหกปากร้องเล่นเอาฉันสะดุ้งตลอด แถมยังไม่พอแค่นั้น เธอยังแอบแต๊ะอั๋งฉันตลอดเลย” ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าในระหว่างที่ดูฉันกอดเขากี่ครั้งไม่รู้ต่อกี่ครั้ง ยิ่งจ้องหน้าเขาตอนนี้ก็รู้สึกอายตัวเองจัง
“หิวน้ำจัง >o<” ฉันแกล้งทำเป็นหิวน้ำเดินเข้าห้องครัวเพื่อจะได้ไม่โดนเขามองหน้าด้วยสายตาเยี่ยงนั้น -_-
วันต่อมา
“ปิ่นดีกันกับผมนะผมขอโทษ” ตีต้าร์คุยโทรศัพท์เพื่อง้อใบปิ่น
(ไม่ค่ะ ต้าร์นอกใจปิ่น)
“ผมไม่ได้นอกใจปิ่นนะจริงๆ กิ๊กที่ปิ่นพูดถึงน่ะ ต้าร์ก็ไม่ได้ซุกไม่ได้ซ่อนไว้เลย”
(ปิ่นก็อยากจะเชื่อต้าร์หรอกนะคะ แต่ที่ผ่านมาปิ่นต้องรับมือกับผู้หญิงที่ต้าร์ไปแอบควงมานั้นไม่รู้กี่คนต่อกี่คน แต่ละคนหน้าด้านๆกันทั้งนั้น เมื่อกี้ก็เพิ่งจำใจถ่ายแบบคู่กับยัยปังปอนเกือบจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ตบกับมันกลางกองมารู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง)
“ปิ่น ต้าร์รู้ว่าที่ผ่านมาต้าร์ทำตัวไม่ค่อยดีนัก แต่ครั้งนี้ผมไม่ได้ซุกใครจริงๆนะ”
(แน่ใจนะคะ แล้วเสียงผู้หญิงคนนั้นมันใครกัน)
“ก็อย่างที่บอกน่ะแหละครับว่าแม่บ้าน พอดีหล่อนไม่ค่อยรู้มารยาทเท่าไหร่เลยเรียกชื่อแขกของโรงแรมอย่างนั้นแต่ผมก็จัดการสั่งสอนหล่อนแล้วล่ะ”
(ถ้าต้าร์ยืนยันอย่างนั้นปิ่นก็จะเชื่อต้าร์สักครั้งค่ะ)
“ขอบคุณนะปิ่นที่เชื่อใจผม เอาล่ะแค่นี้ก่อนนะ ปิ่นไปทำงานเถอะเดี๋ยวโดนว่า”
(ค่ะ ปิ่นรักต้าร์นะ ต้าร์อย่ามีใครนะ)
“ครับ” นี้เป็นคำพูดทุกครั้งที่ตีต้าร์รับปากกับใบปิ่น และสุดท้ายเขาก็แอบควงผู้หญิงอยู่เหมือนเดิม จะมีก็แต่ครั้งนี้ที่เขาพูดความจริงว่าเขาไม่ได้มีใคร
ฉันเดินเข้ามากวาดห้องทำความสะอาดเห็นเขากำลังคุยโทรศัพท์กับใครซักคนเสร็จพอดี
“หน้าบานเชียวนะ คุยกับแฟนมาหรอเมื่อกี้” ฉันถาม ที่จริงแล้วเขาก็สีหน้าปกติแต่ฉันแกล้งพูดเป็นหน้าบานไปอย่างนั้นแหละ
“อืม เพิ่งคุยกับแฟนเสร็จ” เขาพูดอย่างธรรมดาๆ แต่ฉันนี้สิไม่ธรรมดาฉันร้อนรนตาลุกเป็นไฟวาวๆกับคำตอบที่ได้มา ทั้งๆที่ถามออกไปอย่างนั้นแท้ๆ
“แฟนนายใช่คนที่ชื่อว่าใบปิ่นไหม แล้วใช่คนเดียวกันกับที่หน้าใช้เป็นภาพบนหน้าจอโทรศัพท์ไหม” ฉันแอบหวั่นใจกับคำตอบที่ได้เขากำลังจะพูดมา
“เธอนี้ความจำดี แล้วยังช่างสังเกตอีกนะ คิดวิเคราะห์ก็เก่ง อืมใช่คนนั้นแหละ น่ารักมั๊ยล่ะ”
“…”
“เธอเงียบไปทำไมกัน หรือว่าเธอกำลังอกหักเธอหลงรักฉันจริงๆนี้หว่า”
“…”
“เธอ… เมื่อกี้ฉันแค่ล้อเล่นนะ เธอคิดอะไรมากเปล่าเนี่ย”
“เปล่าฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอก มุกนายมันเสี่ยวแล้วนะ ที่บอกว่าฉันรักนายน่ะ มันเสี่ยวสิ้นดีเลยเลิกเล่นเถอะนะมุกนี้ -_-” เพราะฉันเจ็บทุกครั้งที่ได้ยินอย่างนี้….
ตกดึก
ฉันนอนอยู่ที่เตียงกำลังจะหลับ ตีต้าร์เดินเข้ามานอนหลังจากเพิ่งอาบน้ำเสร็จ(ฉันอาบน้ำก่อนเขา) แต่ยังไม่ทันที่เขาจะโน้มหัวลงนอน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน เขาเดินออกไปเลี่ยงพูดโทรศัพท์ที่หน้าระเบียง ฉันเหลียวตามองตามเขาตามไปติดๆโดยที่ไม่รู้ตัว แล้วก็หันหน้าหนีพยายามข่มตาหลับอย่างอึดอัดใจ ฉันต้องไม่มอง ไม่มองเขา…
สี่คืนต่อมา
“เธออยู่คนเดียวไปก่อนนะ ฉันออกไปทำธุระข้างนอกแป๊บเดียว” เขาคว้าเอาเสื้อแจ็คเก็ตที่วางอยู่บนโต๊ะ
“นายจะไปนานไหม ฉันไม่เคยอยู่คนเดียวฉันกลัว”
“ไม่รู้สิบอกไม่ได้เหมือนกัน แต่เธอไม่ต้องกลัวหรอก ห้องนี้ฉันก็เคยอยู่คนเดียวมาแล้วไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลย มีแต่เธอนั้นแหละที่จะคิดไปเองซะมากกว่า”
“งั้น…นายอย่าไปนานนะ >_<” ฉันพูดเสียงสั่นตีต้าร์เดินออกไปแล้วฉันก็ดูทีวีต่อ ฉันเร่งเสียงให้มันดังๆจะได้ไม่น่ากลัว พอดังมากแล้วฉันก็รู้สึกเริ่มอุ่นใจขึ้นมาหน่อยแล้ว แต่จู๋ๆทีวีมันก็ดับไปซะเฉยๆ ในใจฉันคิดภาวนาว่าอย่านะๆ ตีต้าร์เพิ่งจะออกไปเองผีอย่าเพิ่งมานะจ๊ะ ฉันอยู่คนเดียวกับผีม่ายยยยด้ายยยย อย่าเพิ่งมาหลอกฉันเลยเดี๋ยวฉันอุทิศส่วนบุญกุศลไปให้
‘แต่เธอไม่ต้องกลัวหรอก ห้องนี้ฉันก็เคยอยู่คนเดียวมาแล้วไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลย มีแต่เธอนั้นแหละที่จะคิดไปเองซะมากกว่า’
จู๋ๆคำพูดของตีต้าร์ก็ลอยเข้ามาในหัวฉัน ใช่สิ! ตอนนี้ฉันกำลังคิดมากไปเองมันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น 555+ ผีเผลอมีที่ไหนกัน ฮ่าๆ ^O^ (หัวเราะให้กำลังใจตนเอง)
ผรืดดดด ผรืดดดด ผรืดดดด
เสียงลมพัดเข้ามาทางบานกระจกที่ฉันได้ปิดไว้สนิทแล้ว มันเย็นจับใจ ฉันแน่ใจว่าฉันได้ปิดมันไว้แล้ว ฉันคงรู้สึกเย็นไปเอง ฉันหันไปมองทางบานกระจกว่ามันคงจะเหมือนเดิม แต่ไม่ใช่เลย! มันไม่เหมือนเดิม บานกระจกมันถูกเปิดออก!! ใครกันมาเปิด!!! ผ้าม่านที่อยู่บานกระจกก็พัดปลิวพลิ้วไสวไปมาตามแรงลมอยู่ไม่หยุดสักที
ฟึบ
ทีวีดับเอเอาซะเฉยๆ
บานกระจกเปิดเอง ลมอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าโคตรเย็น ผ้าม่านก็ปลิวไปมาเหมือนในหนังผี บรรยากาศน่ากลัวซะไม่มีเลย แต่บางทีมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ ฉันคิดไปเองหมด บางทีบานกระจกฉันอาจปิดไม่แน่นก็ได้มันเลยหลุดอย่างนั้น ฉันรวบรวมความกล้าเพื่อที่จะเดินไปปิดบานกระจก ลมเย็นๆนั้นจะได้ไม่พัดเข้ามาอีกฉันจะได้ไม่ขนลุกอีกต่อไป ฉันลุกขึ้นเดินก้าวแรก ก้าวที่สอง ที่สาม ที่สี่ ใกล้ถึงบานกระจกแล้ว กลั้นใจอีกนิดเดี๋ยวก็ถึงแล้ว มันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น
แวบ!
แสงไฟจากข้างนอกส่องเข้ามาโดนผ้าม่าน แล้วก็เหมือนมีเงาคนวิ่งผ่านกระจกไปเมื่อกี้ เอาแล้วไงล่ะ ตอนนี้ฉันควรทำยังไงดี ฉันกำลังโดนผีหลอกใช่ไหมเนี่ย สติเท่านั้นๆ อย่าเพิ่งกระเจิงฉันต้องมีสติๆ เอาล่ะข้างนอกมันไม่มีอะไรหรอกฉันจะลองเปิดม่านดู ฉันต้องไม่เห็นอะไร
พรื้บบบบ
ฉันรีบเปิดม่านอย่างรวดเร็ว แต่มันก็ไม่มีอะไร เมื่อกี้เหมือนฉันยกภูเขาทั้งลูก แต่ตอนนี้ฉันปลดปล่อยออกไปจากตัวได้ทั้งลูกแล้ว จะมีก็แต่ลมเย็นๆหนาวๆที่พัดเข้ากระทบร่างฉันแทน ฉันปล่อยมือจากผ้าม่านและเอื้อมมือไปจับบานกระจกเข้ามาปิดอย่างช้าๆ
แวบ!
เงาคนวิ่งผ่านไปอีก ฉันต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะใจแข็ง และปิดบานกระจกให้สนิท แต่…
แวบ!
…เงานั้นมาปรากฏอีก ครั้งนี้เล่นยืนนิ่งๆอยู่ที่เดิม ให้ฉันได้มีบุญตาเห็นนานๆ เป็นเงาเหมือนผู้หญิงผมยาว เพราะลมข้างนอกพัดแรงทำให้ผมยาวๆของเธอปลิวไปมาตามสายลม มันคงเป็นภาพที่น่ารักมากเลย(ตรงไหน)สำหรับฉัน เผ่นล่ะ ไม่ไหวแล้วเว้ย!
จ้ากกกกก
ฉันแปลงร่างเป็นหมาเผ่นวิ่งเข้าห้องนอนแล้วเอาผ้าห่มคลุมโปงทันที ผีบ้าอะไรมาดุตอนฉันอยู่คนเดียวทีอยู่กับนายนั่นไม่เห็นมีไรผิดปกติ สงสัยรอเวลาที่จะแกล้งฉันแน่ๆ ขอด่าผีหน่อยเถอะ แค้น! ยัยผีโรคจิต ถ้าฉันตายเมื่อไหร่นะ ฉันจะสะสางกับหล่อนเป็นคนแรกเลย ฝากไว้ก่อนเถอะ อุ้ย! นี้ฉันเผลอพูดอะไรออกไปเนี่ย
โปรดติดตามตอนต่อไป
[ตัวอย่างตอนต่อไป]
“เอ้า กระเป๋า”
“กระเป๋า เอามาให้ฉันทำไม หรือว่าเป็นรางวัลที่ฉันทำงานดี แหม!ที่จริงไม่ต้องให้ก็ได้ ^///^”
“ไม่ใช่รางวัล แต่ให้เธอเก็บของของฉันเข้ากระเป๋านี้ เพราะฉันกำลังจะไปบ้านแม่กับเธอ -_-”
“มีผู้หญิงมาบ้านอย่างนี้ แล้วก็ไม่ใช่ใบปิ่น อย่าบอกนะว่า… ตีต้าร์แกไปทำผู้หญิงท้องหรอ!”
“เอ้ยๆ อย่าแม้แต่จะคิดเลยนะพี่ ความคิดพี่นี้อกุศลจริงๆเลย -_-”
“น้องชายแกน่ะมันไปขับรถชนแม่หนูนี้ เล่นเอาเธอความจำเสื่อมไปเลย หมอก็ไม่พาเธอไปหา นพช่วยมาตรวจดูอาการให้แม่หนูนี้หน่อยว่าเป็นอะไรมากไหม”
“มันแน่อยู่แล้วครับ”
“ไม่เห็นจะยากเลยครับ ผมก็เรียกว่ายัยบ้า ยัยตัวแสบ ยัยจอมจุ้น ไม่เห็นจะต้องตั้งชื่อให้ยากเลยนิครับ เรียกเหมือนผมก็สิ้นเรื่อง อีกอย่างมีตั้งสามชื่อให้เลือกแน่ะ ยัยตัวแสบนี้คงจะชอบเพราะมีชื่อเยอะๆ ใช่ไหมล่ะ”
“ไอ้ต้าร์แกก็เลิกเรียกเขาว่าอย่างที่แกพูดมาได้แล้ว ดูตั้งชื่อให้ผู้หญิงแต่ละชื่อสิ เสียชื่อเสียงว่าเป็นลูกฉันหมด รู้ถึงไหนอายถึงนั้นนะเนี่ย เรียกเธอดีๆหน่อย”
“หนูลองเลือกสิว่าหนูจะชื่ออะไร”
“อืม…”
ติ๊กต้อกๆ
“หนูอยากชื่อว่ามายค่ะ”
add fan จิ้มๆ
ขอบคุณพื้นหลังสวยๆจากB ♔ W
ความคิดเห็น