ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] l Secretly love l Markbam

    ลำดับตอนที่ #3 : >> SECRETLY LOVE

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ค. 58


    2

     






     

     

      สองอาทิตย์ผ่านไป

     

      หลังเปิดเทอมมาได้สองอาทิตย์เต็มๆ ผมก็พบว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เจออะไรในชีวิตที่ทำให้รู้สึกลำบากใจขนาดนี้มาก่อนเลยให้ตายเหอะ

     

      หลายคนคงสงสัยว่าหลังจากที่รู้ว่าต้องอยู่ห้องเดียวกันกับไอ้หน้าหล่อนั่นต่อไปอีกสามปีแล้วผมทำยังไงต่อ จะทำอะไรได้ล่ะครับ นอกจากทำใจ เอาเหอะ ก็แค่อยู่ห้องเดียวกันถ้าผมทำเป็นมองไม่เห็นซะ ก็หมดเรื่องเนอะ..

     

     

     

      หมดเรื่องบ้าอะไรล่ะ!!

     

     

      ขอโทษทีเหอะ!! คิดดูนะ ที่นั่งของผมกับไอ้หน้าหล่อนั่นอยู่ห่างกันแค่หนึ่งคนนั่งกั้นเท่านั้นเอง ถึงแม้จะอยู่คนละแถวก็เหอะ แต่แม่งไม่อยากจะพูด หันไปทีไรก็เจอหน้ามันตลอดเลยครับ!! แรกๆก็คิดว่าคงคิดไปเอง แต่ตอนนี้อยากลุกไปถามมากแบบ มองหน้าหาพ่องงงงง

      ยัง.. ยังไม่หมด ก็อย่างที่ทุกคนรู้ว่าผมกับมันนั่งตรงข้ามกันตอนเรียนคอมฯ ไม่อยากจะพูดไอ้นี่ก็เข้ามากวนประสาทกันได้ทั้งคาบอ่ะ แบบเดี๋ยวสะกิด สักพักก็โยนกระดาษมาใส่ บางทีก็ถามเรื่องงานที่อาจารย์สั่งให้ทำทั้งๆที่แม่งก็ทำถูกแล้ว คือเพื่อนข้างๆมึงก็ถามได้ป่ะ บอกเลยมันกวนตีนล้วนๆเลยครับ ดูก็รู้

     

      ล่าสุดเลยนะ.. อาทิตย์ที่แล้วครับ อาจารย์สั่งให้ทำงานกลุ่ม ให้จับกลุ่มกันทำ กลุ่มล่ะ6คน ประเด็นมันอยู่ที่กลุ่มผมมีแค่สามคนไง ถามว่าทำไงเหรอ ไอ้ยูคครับไอ้ยูค ยิ่งพูดยิ่งหงุดหงิด มันไปคุยกับไอ้หน้าหล่อนั่นตอนไหนก็ไม่รู้ครับ ไปๆมาๆอยู่กลุ่มเดียวกับมันเฉยเลยยยยย คนหล่ออยากตาย ได้ยินมั้ยยยย

     

      “ไอ้แบม.. นี่อาทิตย์หนึ่งแล้วนะมึง คุยกับกูสักทีเหอะกูไหว้” ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้พร้อมยกมือไหว้เหนือหัว  เหอะ คิดว่าแค่นี้กูจะหายเหรอ.. ไม่เว้ยบอกเลย!! นี่ใคร? พี่แบมคนเมนนะเว้ย! บอกแล้วว่าจะไม่คุยด้วยสองอาทิตย์ คำไหนคำนั้น!! จบนะ

     

      “แบม.. มึงจะโกรธอะไรมันนักหนาวะ ดูดิ๊ มันเลยมาร้องไห้ให้กูฟังทุกวันเลยเนี่ย ไม่ได้นอนเพราะมันเนี่ยแหละแม่ง!! ขอบตากูดำเลยเห็นมั้ยไอ้ยูค!!” ประโยคแรกมึงเกือบหล่อแหละยองแจ..

     

      “ก็ดูมันทำดิ แม่ง.. รู้ทั้งรู้ว่ากูไม่ชอบมันอ่ะ!!

     

      “โธ่ ไอ้แบมก็กูเห็นว่าไอ้มาร์คมันเก่งเรื่องคอมฯ ไหนจะเรื่องทำโมเดลอีกอ่ะ..”

     

      “...”

     

      “อีกอย่างนะเว้ย! กูว่าดีด้วยซ้ำ มึงกับไอ้มาร์คจะได้สนิทกันไง” ยูคยอมพูดพลางยิ้มตาหยี จ๊ะ.. กูแล้วแต่มึงเลย..

     

     

      พ่องงงงงงงงงงงงงงงง!!!

     

     

      “สนิทกับพ่อมึงดิ!! สัด!!” ไม่สนล่ะครับ ที่บอกไม่พูดด้วยสองอาทิตย์ขอยกเลิกชั่วคราว ตอนนี้ขอด่าก่อน

     

      “อ่าวมึง กูพูดจริงนะเว้ย เห็นกี่รายๆตอนแรกไม่ชอบหน้ากันตอนหลังสนิทกันทุกที”

     

      “กูว่ามึงดูหนังเยอะไปล่ะสัด พอเลยๆ กูยอมให้ก็ได้วะ.. แค่ครั้งนี้นะเว้ย!” ผมพูดพร้อมชี้หน้า ยูคยอมยิ้ม

     

      “โอเคคค” แหนะมึง อย่ามาทำกระแดะทำท่าโอเคแอ๊บแบ๊วใส่กู มันไม่ได้น่ารักเหมือนที่คิดหรอกนะเพื่อน

     

      “พวกมึงสองคน เคลียร์กันเสร็จแล้วใช่ไหม” ยองแจหันมาถามพวกผมสองคน ผมเห็นแวบๆว่ามันเพิ่งวางโทรศัพท์ไปเมื่อกี้

     

      “ทำไมวะ” ยูคยอมถาม ยองแจเดินไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะเรียนก่อนเดินไปหน้าประตูห้อง

     

      “ก็เพื่อนมาร์คมันโทรมาเมื่อกี้ บอกว่าวันนี้จะไปทำรายงานบ้านมาร์คกัน ตอนนี้มันรออยู่หน้าโรงเรียน” ว่าจบเพื่อนตัวอวบก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ผมกับยูคยอมนั่งเอ๋อแ-กอยู่กับที่

     

     

      “เฮ้ยมึง!! รอพวกกูด้วยดิ!!

     

     

     

     

     

     

      ถ้าถามว่าตอนนี้ผมอยู่ไหน..

     

      นั่นสิครับ.. ผมก็อยากรู้..

     

     

     

     

      นี่เรียกบ้านหรือคฤหาสน์เหรอครับคุณแม่!!!

     

     

      ให้ตายเถอะแก เกิดมายังไม่เคยเห็นบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้มาก่อน ไอ้ประตูรั้วบ้านบานใหญ่ๆนี่คืออะไร? เลื่อนได้ด้วยยย เฮ้ยตื่นเต้นแป็ป คือไม่ใช่ว่าบ้านผมไม่รวยนะครับ ส่งมาเรียนโรงเรียนอินเตอร์ขนาดนี้ก็ต้องมีฐานะอยู่แล้ว แต่แบบ เฮ้ยยยย คือนี่มันยิ่งใหญ่มาก แล้วนี่อะไร? การขับรถผ่านสวนดอกไม้คืออะไรรร อือหือแก สาบานนี่บ้านนะ

     

      ใช้เวลาไม่นาน พวกเราทั้งหมดหกคนก็มาถึงบริเวณหน้าประตูบ้าน เอ่อ.. ช่างเถอะ ของไอ้หน้าหล่อแล้วครับ คือทุกคนนึกภาพคฤหาสน์อัมราพรในน้ำตากามเทพได้ไหม? แบบนั่นเลยเว้ย คือมันใหญ่มาก นี่อยากอยู่มาก อ๋อใช่ หลายคนคงสงสัยว่าพวกเรามาที่นี่กันได้ยังไงเพราะผมยังไม่ได้บอก ไม่ได้นั่งรถเมล์มาแน่ๆแหละแก

     

      คำตอบคือ รถของไอ้หน้าหล่อและเพื่อนๆครับ นี่ก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าไอ้พวกนี้ขับรถมาเรียน รวยมากดิ ประเด็นคือแต่ละคันนี่สวยๆทั้งนั้นเลยครับผม เห็นแล้วอยากกลับไปบอกแม่ที่บ้านมากว่าซื้อให้พี่แบมคนนี่สักคัน แต่แทนที่จะได้รถ คงได้ฝามืองามๆของคุณแม่บังเกิดเกล้ามาประทับบนหัวสักที พอเถอะ ผมว่าผมเพ้อมาไกลเกิน กลับเข้าเรื่องต่อ

     

      หลังจากนั้นพวกเราทุกคนก็เดินไปที่ห้องทำงานของไอ้หน้าหล่อที่เดินนำหน้าทุกคนขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน ตลอดทางพี่แบมคนนี้พร้อมพ้องเพื่อนอีกสองคนเดินมองซ้ายที ขวาทีอารมณ์เหมือนบ้านนอกเข้ากรุงเบาๆ คือมันใหญ่และอลังจริงๆนะ อธิบายไม่ถูก ไว้ว่างๆแวะมาดูกันเองนะ

     

      “อ่ะ! พวกมึงรออยู่ในนี้ก่อน เดี๋ยวกูมา” ไอ้หน้าหล่อหันไปบอกเพื่อนมัน ก่อนเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่ก็ยังไม่วายส่งยิ้มมาให้ผมก่อนเดินไป

     

      ยิ้มหาพ่อมึงเหรอ

     

      ระหว่างนั่งรอ พวกเราปรึกษากันเรื่องงานว่าจะทำเรื่องอะไรกันดี งานนี้ให้เวลาทำนานมากครับ ส่งเกือบๆปลายเทอมเลย คล้ายๆพวกงานเก็บคะแนนสุดท้ายอะไรแบบนั้น เราต้องส่งทั้งรูปเล่มรายงานแล้วก็ตัวชิ้นงานด้วย เพราะฉะนั้นจึงต้องแบ่งงานกันทำเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว

     

      “เราทำเรื่องงานไม้ดีไหม พวกงานแกะสลักหรือไม่ก็พวกเฟอร์นิเจอร์ไม้” ยองแจเสนอเป็นคนแรก พวกเรานั่งล้อมกันเป็นวงกลมเพื่อสะดวกในการคุย

     

      “ก็น่าสนใจดีนะ ตอบโจทย์ที่อาจารย์แกสั่งด้วย จดไว้ก่อนล่ะกัน” เจบี เพื่อนไอ้หล่อครับ ชื่อเต็มๆมันชื่อ อิม แจบอม ตอนเจอมันครั้งแรกนี่กลัวมาก นึกว่าจอบเดินได้

     

      “สมมตินะถ้าจะทำเรื่องนี้ แล้วเราจะไปหาไม้เยอะแยะจากไหนมาทำงาน” แจ็คสัน นี่ก็เพื่อนไอ้หน้าหล่ออีกคนครับ รายนี่ฟันไม่ยื่นแต่ตัวเตี้ย ถามจริงๆ กลุ่มนี้มีอะไรดีบ้างวะ คนหนึ่งก็กวนตีน คนหนึ่งก็ฟันยื่น อีกคนก็ตัวเตี้ย

     

      “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงเลย นี่เลย บ้านไอ้แบมนี่แหละ บ้านมันเป็นบริษัทขายไม้โดยเฉพาะ” ยูคยอมพูดพร้อมตบบ่าผมสองสามที

     

      “มีเรื่องอื่นเสนอไหม” เจบีถาม

     

      “ทำเรื่องเชือกไหมมึง แบบเอาเชือกกล้วยมาประดิษฐ์เป็นของใช้ในบ้านแบบใหม่ไรงี้” แจ็คสันเสนอ เจบีพยักหน้าก่อนจดหัวข้อลงบนกระดาษ

     

      “แล้วคนอื่นล่ะ” พูดพร้อมเงยหน้ามองทุกคนในวง ก่อนหยุดลงที่คนสุดท้าย.. กูเอง

     

      “เอ่อ.. ยังคิดไม่ออกอ่ะ” ผมพูดพร้อมส่งยิ้มแห้งไปให้ ทำไมต้องหยุดที่ผมด้วยครับ ไม่เข้าใจ

     

      แอ๊ด

     

      โอ้โห.. นั่นเสียงประตูบ้านมึงเหรอ..

     

      “ได้เรื่องไรบ้างยัง” เจ้าของบ้านเดินเข้ามาพร้อมถุงขนมกับน้ำเต็มสองมือ วางของลงกลางวงก่อนหย่อนตัวลงนั่งข้างแจ็คสันด้วยท่าทีสบายๆ

     

      “ได้สองหัวข้ออ่ะ นี่” เจบียื่นกระดาษให้เพื่อนมันดู ไอ้หน้าหล่อมันมองก่อนพยักหน้าสองสามที

     

      “แล้วไม่มีใครเสนอเพิ่ม?” มันเงยหน้าขึ้นมาถาม

     

      “อืม..” ทุกคนยกเว้นผมพยักหน้าพร้อมส่งเสียงตอบ ส่วนผมเหรอ? กินขนมสิครับ เรื่องกินนี่เรื่องใหญ่มากนะ ไม่กินอยู่ไม่ได้ ทำงานไม่ได้ ไม่มีแรง แล้วนี่เย็นแล้วเดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะรู้เปล่า?

     

      เอาตรงๆ คือกูหิวครับ จบ

     

      “งั้นก็เอาสองอันมารวมกันเลยดิ” ผมเงยหน้าขึ้นมาจากถุงขนมแสนอร่อยขึ้นมองไอ้หน้าหล่อ ทำสองอัน? ทำไงวะ

     

      “มึงหมายถึงเอามาMIX กันว่างั้น?” แจ็คสันเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

     

      “เออใช่ เฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งบ้านจากไม้กับเชือกไง กูว่าเก๋ดีออก”

     

      “ก็ดีนะ น่าสนใจด้วย” ยองแจว่า ยูคยอมพยักหน้าเห็นด้วย

     

      “แบมแบม นายว่าไงอ่ะ” หือ อะไรใครเรียก เป็นอีกครั้งที่ผมเงยหน้าจากถุงขนม มองหน้าแจ็คสันที่กำลังเลิกคิ้วถามอยู่

     

      “ห๊ะ.. เอ่อ.. ไงก็ได้อ่ะ” คือสารภาพตามความจริง เมื่อกี้ฟังบ้างไม่ฟังบ้างอ่ะ คือกำลังกินอยู่ไง อยู่ในช่วงตัดขาดจาดโลกภายนอกอ่ะแก

     

      “งั้นตกลงตามนี้ ส่วนเรื่องแบ่งงาน.. เรา ยองแจ แล้วก็แบมแบมทำส่วนของรายงานล่ะกัน..” เจบีที่เป็นหัวหน้ากลุ่ม(ตอนไหนก็ไม่รู้) เริ่มแบ่งงาน คือผมโอเคครับ โอเคหมดเลย อะไรก็ได้ขออย่างเดียวอย่าให้กูทำงานฝ่ายเดียวกับไอ้หน้าหล่อก็พอ

     

      “.. ส่วน มึงกับมึง แล้วก็ยูคยอม อยู่ฝ่ายทำโมเดล เข้าใจ๊?” เจบีพูด ชี้นิ้วเรียงตามลำดับ สามคนนั้นพยักหน้าก่อนยูคยอมจะทำการย้ายร่างตัวเองสลับที่กับเจบี ถึงเวลาทำงานแล้วครับผม

     

     

      แต่ก่อนหน้านั้น..

     

     

      ขอกินก่อนนะ อิอิ

     

     

     

     

     

     

      สามทุ่มแล้วครับ

     

      มึงเอ๊ยยยยย ถ้าจะขยันกันขนาดนี้ เผื่อมึงจะลืมกันไปว่าอาจารย์ให้ส่งปลายเทอมนะ คือมึงรีบกันมากไหม นี่กะจะทำกับแบบตื่นมาพรุ่งนี้เช้าเสร็จเลยไหมมึง? คือกูต้องกลับบ้านกลับช่องไหมล่ะสังคม ไหนจะหม่อมแม่ที่รอกูอยู่ที่บ้านอีก ตอนนี้ร้องห่มร้องไห้รึยังก็ไม่รู้  เขาจะคิดว่ากูหนีเที่ยวไหม โธ่..

     

     

     ถามจริง เล่นใหญ่เพื่อใคร?

     

     

      พอเถอะ นี่นับวันยิ่งเพ้อเจ้อมากขึ้นทุกวัน ไม่รู้เพราะอะไร

     

     

      “เอ่อ.. คือ..” อะไรมึง? ยังไม่ทันพูดจบต้องมองกันด้วยสายตาแบบนั้นด้วยเหรอ

     

      “มีอะไร” เจบีเหลือบสายตามามองผมแวบนึงก่อนจะหันไปสนใจโน้ตบุ๊คตรงหน้าต่อ โน้ตบุ๊คมันไม่หายไปไหนหรอกมึง หน้ามึงนั่นแหละจะจมหายไปกับจอล่ะ ตัดแว่นไหม?

     

      “คือ.. ตอนนี้สามทุ่มแล้ว..” เสียงมึงสั่นเพื่อใคร แบม เพื่อออออ

     

      “เรากลัวแม่เป็นห่วงอ่ะ.. ยังไม่ได้โทรบอกด้วยว่าจะมาทำงานกับเพื่อนอ่ะ” พูดจบแล้วครับ แต่ปฏิกิริยาของแกคืออะไร มึงนิ่งไปไหม คือพูดแค่นี้เอง หลับเหรอ

     

      “แต่พรุ่งนี้วันเสาร์”

     

     

     

      รู้สึกเหมือนคิ้วกระตุก..

     

     

      พรุ่งนี้วันเสาร์แล้วไงวะ!! วันเสาร์แล้วกูไม่ต้องกลับบ้านไง!!

     

     

      ไอ้ข้างบนนั่นคิดในใจครับ ไม่กล้าพูด

     

      “ชิ..” ชีวิตจริงได้แต่จิ๊ปากอย่างขัดใจก่อนจำใจทันกลับไปทำงานต่อ เออ จำไว้เลยมึง

     

     

      “กูว่าพอก่อนเถอะ เดี๋ยวค่อยมาทำกันต่อ นี่ก็ดึกแล้วด้วย” โฮกกกกกกกกก ในที่สุดก็มีเสียงสวรรค์ประธานมา เทวดามาโปรดดดดดดดด ดีใจจจจจจ แม่จ๋า รอกันต์พิมุกก่อน อย่าเพิ่งปิดบ้าน รอกันต์ก่อนนนนนนนนนนน

     

      กำลังจะหันไปส่งยิ้มหวานให้คนพูดล่ะครับ ถ้าไม่ติดว่าไอ้คนที่พูดคือไอ้เจ้าของบ้าน ปากนี่หุบเลยครับ ไอ้เทวดาอะไรเมื่อกี้ถือว่าไม่ได้พูดล่ะกัน

     

      ในขณะที่ทุกคนกำลังช่วยกันเก็บของ ผมเดินถือโน้ตบุ๊คกลับไปวางบนโต๊ะทำงานเหมือนเดิม ยกนู่นวางนี่ไปเรื่อย ก็นะ มาบ้านคนอื่นเขา ก็ต้องช่วยเก็บ

     

      “กลับไง?” หือ

     

      ผมเงยหน้าจากการจัดของตรงหน้ามามองคนถาม จะใครล่ะ ไอ้เจ้าของบ้านไง

     

      “ว่าไง” มีถามย้ำด้วยเว้ย ทำไมมันขี้เสือ ก จังวะ ไม่มีใครเคยบอกเหรอ เป็นผู้ชายอย่าขี้เสือ ก

     

      “กลับเอง” ตอบไปแค่นั้นครับ แล้วเดินเลี่ยงไปหายูคยอมกับยองแจที่กำลังเก็บกระเป๋ากลับบ้าน

     

      “พวกมึงจะกลับแล้วช้ะ กูไปด้วย” ผมพูดก่อนเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าตัวเองพร้อมหยิบมือถือมาพิมพ์ไลน์บอกหม่อมแม่ว่ากำลังจะกลับ

     

      “พวกแกไม่กลับบ้านเหรอ” ยูคยอมหันไปถามเจบีกับแจ็คสันที่ตอนนี้นั่งเล่นมือถืออยู่ที่โซฟา

     

      “ไม่อ่ะ นอนบ้านไอ้มาร์คนี่แหละ พรุ่งนี้ค่อยกลับ” แจ็คสันว่าก่อนจะเงียบไป

     

      “งั้นไปล่ะ มีอะไรโทรมาล่ะกัน” ยูคยอมพูด ผมเห็นแจ็คสันพยักหน้าเออออแบบขอไปที ส่วนตาก็ยังจ้องอยู่แต่โทรศัพท์ แบบนี้นะ.. เล่นเกมชัวร์

     

      ยูคยอมกับยองแจหันไปบอกลาเจ้าของบ้านที่กำลังมองมาทางพวกผมอยู่ก่อนแล้ว เจ้าตัวยิ้มให้เล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยบอกกับเพื่อนของผมทั้งสองคน แต่สายตากลับมองมาที่ผมแทน

     

     

     



     “ไว้เจอกันนะ”






     

    ..........................................................................

    TALKING

    มาแล้วววววว

    เอาแล้วไงต้องทำงานกลุ่มเดียวกัน ชีวิตจะเป็นยังไงเนี่ย55555

    สามารถไปพูดคุยกันได้ที่ >>> #แอบชอบมบ



     





     

    ©YHPM

    ?YHPM
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×