คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : +Bloodmoon+ 1 : เรื่องที่ไม่คาดฝัน
-1-
: ห้อง ICU :
ภายในห้องไอซียูถูกปกคลุมด้วยบรรยากาศอันตึงเครียด เพราะอาการของคนไข้ที่จู่ๆก็แย่ลงหลังจากทำการผ่าตัดได้ไม่นาน พยาบาลทุกคนเงยหน้าสบตากับด้วยความเป็นกังวล ไม่มีใครเอ่ยคำพูดใดออกมา
“hemostat” หมอหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมแบบมือไปทางพยาบาลซึ่งเป็นผู้ช่วย เธอหยิบและส่งคีมให้เขาอย่างคล่องแคล่ว
เขาใช้คีมที่ได้รับมาเมื่อครู่หนีบที่หลอดเลือดแดงเพื่อป้องกันการเสียเลือดของคนไข้ ก่อนจะหันไปขออุปกรณ์กับนางพยาบาลคนเดิมอย่างรวดเร็ว โดยที่หมอหนุ่มไม่ได้ละสายตาไปจากคนไข้เลยแม้แต่น้อย
คุณหมอยังคงทำการผ่าตัดไปเรื่อยๆท่ามกลางสายตาของพยาบาลและนักศึกษาแพทย์ที่เข้ามาดูการผ่าตัดครั้งนี้ ไม่นานนักอาการของคนไข้ก็กลับมาเป็นปกติ ทั้งชีพจรและความดัน ทำให้นักศึกษาบางคนถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
หลังจากทำการผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย หมอหนุ่มลงมือเย็บปากแผลด้วยตัวเอง เมื่อเช็คว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว จึงปล่อยให้ที่เหลือเป็นหน้าที่ของพยาบาลและผู้ช่วยคนอื่นๆ และรีบออกไปบอกข่าวดีกับญาติของคนไข้ที่รออยู่ด้านนอก
ครืด..
“คุณหมอปาร์ค คุณพ่อของผมเป็นปลอดภัยแล้วใช่ไหมครับ” ทันทีที่ประตูห้องไอซียูเลื่อนเปิดออก ลูกชายของคนไข้ก็รีบถลาเข้ามาหาคนเป็นหมอทันที หมอหนุ่มดึงผ้าปิดปากอยู่ออกก่อนส่งยิ้มบางให้
“ครับ คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้ว” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ฝ่ายลูกชายเมื่อได้ยินดังนั้นก็ยิ้มออก
“ขอบคุณ.. ขอบคุณคุณหมอมากนะครับ” เขาพูดพร้อมก้มหัวขอบคุณอยู่เช่นนั้น ซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบจนหมอหนุ่มต้องเป็นฝ่ายห้าม
“พอแล้วครับ.. ผมเองก็ไม่ได้ทำอะไรมากมาย ช่วงนี้ต้องคอยดูแลคนไข้อย่างใกล้ชิดเพราะคงมีอาการเจ็บแผล.. ผมจะอนุญาตให้เข้าเยี่ยมได้ในวันพรุ่งนี้แล้วกันนะครับ” หมอหนุ่มพูดทั้งรอยยิ้ม ก่อนเอ่ยขอตัวไปจัดการงานส่วนอื่นต่อ
“คุณหมอครับ!! หมอปาร์ค!!” หมอหนุ่มหันหน้ากลับไปมองตามเสียงเรียกก็พบกับเด็กหนุ่มผมดำหน้าตาน่ารักกำลังวิ่งมาหาเขา
“มีอะไรเหรอ แบมแบม” คนเป็นหมอเอ่ยถามนักศึกษาแพทย์ภายใต้การดูแลของตนพลางส่งยิ้มให้อย่างทุกครั้ง
“ผม.. แฮ่ก.. คือช่วยเช็คเอกสารในนี้ให้หน่อยครับ” เด็กหนุ่มนามแบมแบมเอ่ยพร้อมยืนแฟ้มเอกสารให้คุณหมอ เขารับมาก่อนเปิดดูคราวๆ
“คุณสรุปเองเหรอ” ก่อนเอ่ยถามอย่างสงสัย
“เปล่าครับ ผมกับเพื่อนอีกคนช่วยกัน” เด็กหนุ่มตอบ
“เดี๋ยวผมจะตรวจให้ มีอะไรอีกไหม” หมอปาร์คเอ่ยถามอีกครั้งพลางปิดแฟ้มในมือ
“ไม่ครับ ขอบคุณมากครับ” แบมแบมส่ายหน้าไปมาก่อนก้มหัวให้คุณหมอเป็นการขอบคุณ หมอปาร์คแย้มยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู ก่อนเดินเลี้ยวไปทางขวามือและหยุดลงที่หน้าห้องทำงานของเขาซึ่งมีป้ายเขียนไว้ว่า ปาร์ค จินยอง
ร่างบางของคุณหมอหนุ่มก้าวเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัว เขาวางแฟ้มเอกสารที่ได้มาจากนักศึกษาไว้บนโต๊ะก่อนนั่งลงตรงโซฟาเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งวัน คุณฟังไม่ผิดหรอก เพราะตั้งแต่เช้ามาหมอหนุ่มต้องเข้าเวรตรวจและช่วงบ่ายเข้าห้องไอซียูเพื่อผ่าตัด พึ่งจะได้นั่งพักก็เมื่อครู่นี้เอง
RRRR~~~~~
เสียงสมาร์ตโฟนเครื่องบางที่ใส่อยู่ดังกระกางเกงดังขึ้น จินยองหยิบมันออกมาจากางเกงจะกดรับสายทันทีโดยไม่มองว่าใครเป็นคนโทรมา
“ฮัลโหล..” จินยองเอ่ยทักปลายสายทั้งทีตนยังคงหลับตาอยู่
// พี่ว่างมั้ยอ่ะ // เสียงหวานตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงติดกังวล จินยองขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ตอนนี้ว่าง มีอะไรหรือเปล่าจีมิน” หมอหนุ่มเอ่ยถามคนเป็นน้องด้วยน้ำเสียงสงสัย ก่อนลืมตาขึ้นและยืดตัวขึ้นนั่งดีๆ
// คือพี่กลับบ้านมาตอนนี้เลยได้มั้ย.. //
“มีเรื่องอะไรที่บ้านเหรอ” จินยองถามด้วยความสงสัย พลางลุกขึ้นยืนและถอดเสื้อกาวที่สวมอยู่พาดไว้กับเก้าอี้
// หนูไม่รู้.. แต่หนูเห็นเงาใครไม่รู้อยู่ในบ้าน // จินยองได้ยินดังนั้นคิ้วก็ยิ่งขมวดเข้าหากันมากกว่าเดิม
.. ก็ในเมื่อตอนนี้เขาอยู่กับน้องสองคน พ่อกับแม่ก็ไปทำงานที่ต่างประเทศ..
.. แล้วใครอยู่ในบ้าน?..
“ตอนนี้อยู่ไหน” หมอหนุ่มเอ่ยอย่างร้อนใจนึกห่วงน้องสาวของตน เขารีบคว้ากุญแจรถและออกจากห้องทำงานตรงไปยังลาดจอดรถอย่างรีบร้อน
// หนูอยู่บ้านของเพื่อนที่ถัดมาอีกซอยหนึ่งอ่ะ.. รีบมานะพี่ // ปลายสายเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ติดจะกลัวอยู่หน่อยๆ จินยองกดปลดล็อครถยนต์คันสวยของตัวเองก่อนตอบกลับ
“โอเค.. อยู่ที่นั้นก่อนนะ ห้ามออกมานะจีมิน” พูดจบร่างบางที่พาตัวเองเข้ามานั่งอยู่ในที่นั่งคนขับเรียบร้อยก็สตาทรถและคับออกไปอย่างรวดเร็ว
: บ้านของจินยอง :
ตอนนี้หมอหนุ่มขับรถมาจอดเทียบอยู่ในจุดที่ไม่ห่างจากบ้านของตนนัก เขายังไม่ไปรับน้องจากบ้านเพื่อนเพราะกลัวว่าหากมีคนร้ายอยู่ในนั้นจริง เขาไม่อยากให้น้องของเขาต้องเป็นอะไรไป จินยองตัดสินใจค่อยๆย่องเข้าใกล้บ้านของตนโดยใช้กำแพงเป็นตัวกำบังไว้ เมื่อถึงหน้าประตูบ้าน จินยองชะโงกหน้าออกไปดูเล็กน้อยเพื่อสำรวจสภาพภายใน
แต่แล้วเขาก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อพบว่าประตูบ้านของตนถูกเปิดข้างเอาไว้และเห็นข้าวของบางส่วนในบ้านกระจัดกระจายออกมาด้านนอก อีกทั้งไฟในบ้านยังคงเปิดทิ้งไว้เมื่อคนร้ายรีบร้อนออกไปจนลืมปิด จินยองมองดูลาดเลาอยู่สักพัก เมื่อเห็นว่าไม่น่ามีใครอยู่ข้างในแล้วจึงตัดสินใจเดินเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน
จินยองมองสภาพบ้านของตนเองที่เละเทะไม่เป็นท่า ข้าวของมากมายถูกรื้นออกมากระจัดกระจายเต็มทางเดิน เขาพยายามเดินอย่างระมัดระวังและเข้าไปสำรวจตามห้องต่างๆ หลังจากตรวจสอบชั้นล่างดีแล้วและไม่พบว่าจะมีของอะไรหายไปจึงขึ้นไปสำรวจห้องบนชั้นสองต่อ
หมอหนุ่มเดินสำรวจทุกห้อง ทั้งห้องนอนของตน ห้องน้องสาว ห้องของคุณพ่อคุณแม่ และห้องสุดท้ายที่ดูแล้วเหมือนจะถูกรื้อค้นมากที่สุด
.. ห้องทำงานของคุณพ่อ..
เขาไม่เคยเข้ามาในห้องนี้เลยแม้แต่ตอนยังเป็นเด็ก เพราะห้องทำงานของคุณพ่อมักจะล็อคไว้เสมอ ถึงเมื่อก่อนจะพยายามแอบเข้ามาในห้องนี้เพราะความอยากรู้อยากเห็นในวัยเด้กแต่ก็มักจะโดนผู้เป็นพ่อจับได้อยู่เสมอ
จินยองมองสภาพห้องทำงานของคนเป็นพ่อที่บัดนี้ไม่เหลือชิ้นดี บนพื้นที่ปูพรมราคาแพงถูกแทนที่ด้วยเอกสารมากมายจนแทบมองไม่เห็นพื้นที่ว่าง เขากวาดสายตามองไปทั่วห้องก่อนไปสะดุดกับโน้ตบุ๊คเครื่องโปรดที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงาน จินยองเดินเหยียบเอกสารเหล่านั้น เขาไม่สนใจว่าเอกสารที่กองอยู่พื้นนั้นจะหยับหรือมีสภาพอย่างไร เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือโน้ตบุ๊คที่ถูกเปิดทิ้งไว้ ทั้งทีความจริงแล้วมันควรปิดอยู่
เมื่อถึงเป้าหมาย จินยองผงะด้วยความตกใจเล็กน้อยเพราะหน้าจอของโน้ตบุ๊คที่ควรอยู่ในสภาพดีกลับมีรอยร้าวและรูโหว่ขนาดเล็กอยู่ตรงกลาง.. รอยกระสุน.. เขาคิด ก่อนตัดสินใจพับโน้ตบุ๊คและถือมันไว้
.. ถึงแม้ว่าหน้าจอจะพังไปแล้ว.. แต่ไม่ได้ความว่าอย่างอื่นจะเสียไปด้วย
เขาใช้สายตาสำรวจรอบห้องอย่างคราวๆ พลันสายตาก็ไปสะดุดกับรูปภาพแปลกประหลาดที่ตกอยู่บนพื้นไม่ไกลจากจุดที่เขายืนนัก แม้ว่ามันจะถูกกระดาษแผ่นอื่นทับอยู่ แต่ด้วยความชังสังเกตของเขา ไม่แปลกที่เขาจะเห็นมัน จินยองนั่งลงก่อนเอื้อมไปหยิบรูปใบนั้นขึ้นมาจากพื้น
รูปภาพศพ.. ศพมากมายที่นอนอยู่เกลื่อนบนดิน แต่นั้นไม่ใช่จุดสำคัญ รูปศพเหล่านี้แปลกประหลาดมากกว่าศพทั่วไปที่เขาเคยเห็น คิ้วของจินยองขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด แม้เขาจะเป็นหมอได้ไม่นานแต่จากประสบการณ์และการได้อยู่ในครอบครัวที่ทั้งพ่อและแม่ต่างก็เป็นหมอทั้งคู่ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหากเขาจะเห็นสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นจากรูปใบนี้
ศพที่มีเล็บยาวผิดปกติ.. และมีฟันที่แหลมคม
จินยองตัดสินใจเก็บรูปใบนั้นไว้และหารูปใบอื่นๆที่อาจตกหล่นอยู่ตรงไหนสักที่ในห้องทำงานของพ่อ และก็เป็นอย่างที่คาดไว้.. เขาพบรูปถ่ายอีกจำนวนมากกองอยู่ใต้เอกสารมากมาย แม้รูปภาพเหล่านั้นจะไม่ใช่รูปศพแปลกประหลาดแต่กลับทำให้จินยองตั้งข้อสงสัยมากมายอยู่ในหัว
.. รูปพวกนี้มาจากไหน..
.. พ่อของเขากำลังทำอะไรอยู่..
.. แล้วคนที่มาค้นบ้านของเขาต้องการอะไรกันแน่..
คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวจนผสมปนเปกันมั่วไปหมด จินยองส่ายหัวไล่ความมึนงงและเรียกสติของตนกลับมา เขาตัดสินใจโทรไปบอกน้องสาวว่าคืนนี้ให้นอนค้างที่บ้านเพื่อนไปก่อน ส่วนตนจะอยู่ที่บ้านเพื่อเก็บกวาดเอง แม้ในตอนแรกจีมินจะเถียงและไม่ยอมทำตามที่เขาบอก แต่สุดท้ายก็ต้องทำตามคำสั่งของพี่ชายอย่างจำใจ
หลังจากวางสายจินยองโทรหาเพื่อนของตนซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอินเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ ให้มาหาเขาที่บ้านทันที เขาเดินออกจากห้องทำงานของพ่อพร้อมโน้ตบุ๊คและรูปหลายสิบใบในมือเพื่อลงไปจัดการเก็บกวาดข้าวของที่ถูกรื้อค้นทั้งหมดให้เข้าที่
.. คืนนี้ก็คงไม่ได้นอนอีกตามเคย..
.........................................................................................................
บทที่หนึ่งมาล่ะ อย่างงงนะถ้าแบมออกมานิดเดียว ใจเย็นเดี๋ยวคนอื่นๆก็ออกมาต่อๆไปในตอนอื่น
ถ้าเราเขียนอะไรผิดไปในขั้นตอนการผ่าตัด บอกได้นะ555
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกัน เม้นให้ด้วยจะดีมาก เราจะได้มีกำลังใจในการอัพต่อเนอะ
รักทุกคนเข้ามาเม้นนะจ๊ะ
ความคิดเห็น