ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรียนหมอ ยา ยาก กว่าที่คิด

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 3 : งานกีฬาเภสัชสัมพันธ์ครั้งที่ 21 @ UBU

    • อัปเดตล่าสุด 29 มิ.ย. 53


    วันนี้พี่ก็จะมาเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างคณะเภสัชศาสตร์แต่ละมหาวิทยาลัย

    อย่างที่พี่ได้บอกไปว่าช่วงเดือนพฤษภาคมจะมีงาน แรกพบสนภท. (คืองานรับน้องเฟรชชี่เภสัชทั่วประเทศพร้อมกันแล้วรับน้องพร้อมกัน ตอนพี่อยู่ปี 1 จัดที่มหาวิทยาลัยหัวเฉียว)

    ส่วนงานกีฬาเภสัชสัมพันธ์จะจัดในช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี

    แล้วเราจะรู้ได้งัยว่าจัดที่ไหน และใครเป็นคนรับผิดชอบ ??????

    โดยจะมีองค์ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อดูเเลนิสิตนักศึกษาเภสัชทั่วประเทศ นั่นก็คือ

    สนภท. (สหพันธ์นิสิตนักศึกษาเภสัชศาสตร์แห่งประเทศไทย)

    PSUT ( The Pharmacy students' union of Thailand)

    โดยจะมีการเลือกคณะกรรมการและเลือกประธานทุกปี

    โดยสนภท. จัดการประชุมเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น แรกพบสนภท. , งานกีฬาเภสัชสัมพันธ์, เข้าค่าย (ไปบำเพ็ญประโยชน์ให้ชุมชน)  โดยการประชุมในแต่ละครั้งจะเรียกว่า ประชุมสัญจร คือจะเปลี่ยนประชุมไปเรื่อย ๆ อย่างเช่น 26-27 มิถุ 53 ที่ผ่านมาก็มีงานประชุมสัญจรครั้งที่ 1 ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น (ที่เป็นครั้งที่ 1 เพราะเป็นการประชุมครั้งแรกของปีการศึกษานั้น ๆ )

    น้อง ๆ สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของ สนภท. ได้ที่ facebook ของ สนภท. ตาม link นี้เลยจ้า

    http://www.facebook.com/pages/snphthshphanth-nisit-naksuksa-phesachsastr-haeng-prathesthiy/105799149461912?ref=search

    เอาหล่ะในเมื่อเราก็รู้แล้วว่าใครเป็นคนดูเเลเรื่องงานต่าง ๆ เราก็จะมารับรู้ถึงบรรยากาศงานกันว่าแข่งกีฬายังงัยกีวัน ทำอารัยบ้าง

    โดยงานกีฬาเภสัชสัมพันธ์จะจัด สี่วันสามคืน โดยในแต่ละวันก็จะมีกิจกรรมแตกต่างกันไป แต่ที่ขาดไม่ได้เลย คือ กองเชียร์และลีดเดอร์ (ตอนที่พี่ไปพี่ยังอยู่ปี 1 อยู่เลย จัดปี 2551 อ่ะ)

    เป็นงานประชันความพร้อมและความเริ่ดของสแตนและลีดได้อย่างเยี่ยมยอดมาก

    แต่ละมหาวิทยาลัยก็ตั้งใจฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่เพื่อที่จะมาโชว์ศักยภาพของมหาวิทยาลัยตัวเอง

    กิจกรรมในวันแรก ก็จะเป็นการลงชื่อเข้าพักของแต่ละมหาวิทยาลัย และในตอนกลางคืนก็จะมีการแสดงต้อนรับของมหาวิทยาลัยที่เป็นเจ้าภาพในการจัดงานครั้งนั้น

    กิจกรรมในวันที่สอง ก็จะเป็นการแข่งกีฬาในประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น บาส ปิงปอง วอลเล่ย์ ETC
    ส่วนในตอนเย็นก็จะให้แต่ละมหาวิทยาลัยแยกย้ายไปซ้อมสแตนของตัวเอง

    กิจกรรมวันที่สาม  เป็นวันเที่ยววววว จะแบ่งสายเที่ยวออกเป็น 4 สายโดยประมาณ(แล้วแต่ว่าจังหวัดนั้นมีที่เที่ยวมากน้อยแค่ไหน) โดยสายเที่ยวก็จะจัดปนกันไป ตั้งแต่ชั้นปีและได้ไปเจอเพื่อนต่างสถาบันอีกด้วย และตอนกลางคืนก็มีงานเลี้ยงอาหารอย่างยิ่งใหญ่พร้อมกับการแสดงของมหาวิทยาลัยเจ้าภาพ

    กิจกรรมวันที่สี่  เป็นวันแข่งขันสแตนเชียร์และลีด วันนี้เป็นวันที่สดใสมากกกก เพราะจะได้ดูสแตนของทุกมหาวิทยาลัยและลีดที่สวยงานและสง่าอีกด้วย พอแข่งสแตนเสร็จ ก็มีการมอบรางวัลการแข่งกีฬาประเภทต่าง ๆ และรางวัลกองเชียร์และลีดเดอร์ เมื่อเสร็จสิ้นก็มีการประชาสัมพันธ์การจัดกีฬาครั้งต่อไป โดยครั้งที่ 22 จัดที่ มศว โดยใช้หัวข้อว่า SPF22 (เดี๋ยวมาเล่าให้ฟัง ไปมาแล้วววว) สุดท้ายจะร้องเพลง มงคลนาม จากนั้นก้เดินทางกลับมหาวิทยาลัย

    พี่ว่าน้อง ๆ คงอยากจะเห็นภาพหล่ะสิว่าเป็นยังงัย คริๆๆๆๆ ^___________________^

    พี่คงไม่เอาลงหรอก 5555+ เพราะพี่ไม่มีรูปอ่ะดิ ตอนปี 1 จะมีเวลาไปถ่ายรูปที่ไหนกานนนนนนน

    แต่ที่เป็นการสร้างสีสันและสร้างรายได้ให้แก่มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ก็คือ

    การขายสินค้าของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ และสันทนาการ

    โดยแต่ละมหาวิทยาลัยก็จะทำของมาขาย หลัก ๆ เลยก็มี เสื้อยืด (หลากหลายสีและหลากหลายลาย) กางเกเล สมุด กระเป๋าผ้า ติ้ง การขายสินค้าจะเริ่มวางขายตั้งแต่งานแรกพบสนภท.แล้ว (ถ้าหากใครพลาดซื้อที่งานแรกพบไม่ทันก็สามารถมาซื้อของที่งานที่ต่อได้) มีทั้งตั้งร้าน และบริการถึงที่ (เดินขายนั้นเอง) ส่วนเรื่องราคาก็ย่อมเยาว์ ไม่แพงมากเกินไป (แต่พกตังค์ไปที่รัยก็หมดทุกที ==" ) และทาง สนภท. เองก็มีการจัดขายสินค้าด้วย โดยสินค้าของสนภท. ส่วนมากจะมีคำว่า PSUT อยู่ด้วยเสมอ เป็นการหารายได้อีกทางหนึ่ง

    ว่าแต่ในการจัดงานแต่ละงานต้องใช้เงินเยอะนิ แล้วเงินมันมาจากไหนหล่ะ

    เงินที่ใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานต่าง ๆ ก็มาจากการจ่ายค่าสโมสรนักศึกษาเภสัชศาสตร์ของแต่ละมหาวิทยาลัย ขายของ และที่ขาดไม่ได้สปอนเซอร์

    พูดถึงค่าสโมฯพี่ก็แสนจะเบื่อออออออออออออออออ

    พี่ก็ไม่รู้ว่าม.รังสิตเป็นรัยกัน ขอบอกว่า นศภ. ม.รังสิตเป็น โรคไม่ยอมจ่ายค่าสโมฯ

    ทวงแล้วทวงเล่าก็ไม่ยอมจ่าย อ้างว่าจ่ายไปก็ไม่เห็นได้อารัยมา (ก็แน่สิคุณไม่เคยสนใจนิว่าเขามีกิจกรรมรัยบ้าง วัน ๆ เอาแต่เรียน เรียนเข้าไปให้มันหลุดโลก โย่วววววว)

    สงสัยค่าเทอมคงจะแพงจนไม่สามารถมีเงินจ่ายค่าสโมฯได้ ==" (แต่มีเงินไปเที่ยวต่างประเทศได้แต่ค่าสโมฯ 300 บาท ไม่ยอมจ่าย เซ็งเป็ด ขอระบายยยยยยย)

    เอาเหอะ ก็อย่างว่าม.เอกชน จะทำอารัยได้มาก ทำอารัยแต่ละอย่างยังกะมีคนมาเล่นเกมจับผิดด้วย -*-

    เอาหล่ะเราต่อเรื่องงานกีฬาเราต่อดีกว่า

    อย่างที่บอกไปว่าสีสันอีกอย่างนอกจากการขายของแล้วก็ยังมี สันทนาการ

    เสียงกลองที่ดังลั่น พร้อมกับเพลงและท่าเต้นสุดมันส์ อารัยจะมีความสุขเท่านี้อีกแล้ววววว

    ถ้าจะยกให้เป็น ตัวแม่ ของสันทนาการเภสัช ในความคิดพี่ พี่ขอยกให้ ม.ศิลปากร

    เพราะของเขา เเหล่มจริง คอนเฟิร์ม ทุกปีที่มาต้องมี concept แปลก ๆ แต่ แนว ให้เราฮือฮาทุกปี

    และที่สำคัญสันทนาการของม.ศิลปากรมันส์มากกกกก สุดเหวี่ยงจริง ๆๆๆ

    ถ้าไปงานกีฬาครั้งไหนพี่ไม่ได้เต้นสันทนาการกับม.ศิลปากรเหมือนไปงานกีฬาได้ไม่ครบ 100%

    ส่วนเรื่องกลองหล่ะก็พี่ว่า ม.รังสิต แหล่มสุดดดดด ไม่มีใครตีกลองได้มันส์เท่าเภสัชรังสิตอีกแล้ววววววว

    ขอบอกว่า นายแน่มากกกก แหล่มโคตรรรรรร เสียงกลองดังขึ้นที่รัย เหมือนมีอารัยมาลนก้นให้ลุกขึ้นเต้นทุกที

    ถ้าลองคิดเล่น ๆ เอาสันทนาการของม.ศิลปากรมารวมกับกลองของเภสัชรังสิต จะเป็นยังงัยน๊า O_O

    พี่ว่าการจัดงานกีฬาขึ้นมันเป็นกิจกรรมที่ดีมากกกอ่ะ อย่างบางคนเรียนเภสัชเหมือนกัน แต่คนละที่ ก็ได้มาเจอกัน ได้มาทำความรู้จักกับเพื่อนต่างสถาบัน มันเป็นอารัยที่ดีมาก ๆ เลย

    ทำให้เราได้เเลกเปลี่ยนความคิด และอารัยอีกหลาย ๆ อย่าง

    แล้วตลอดเวลาที่จัดงานกีฬาใครป็นคนดูแลเราหล่ะ ????

    ทางมหาวิทยาลัยเจ้าภาพจะจัดปติคมมาเป็นคนดูแล โดยจะมีปติคมมาดูแลประมาณ 4-5 คนต่อมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง

    แต่พี่ขอบอกว่าใครที่มาเป็นปติคมให้ม.รังสิตจะเป็นอารัยที่เหนื่อยกว่าชาวบ้านประมาณ 10 เท่าได้

    เพราะอารัยเหรอ เพราะว่าสโลแกนของม.รังสิตคือ สายเสมอ ทำให้พี่ ๆ ปติคมต้องเหนื่อยที่ต้องมาคอยดูแล

    โดยเฉพาะตอนกลางคืนที่มาการซ้อมสแตนเชียร์ คือต้องบอกก่อนว่าม.รังสิตไม่ได้บังคับให้ใครไปร่วมงาน ให้ไปโดยสมัครใจ เลยทำให้จำนวนคนที่ไปแสนจะน้อยแล้วที่ไปก็มีแต่หน้าเดิม ๆ

    ตอนที่อยู่ม.รังสิตก็ไม่ค่อยได้ซ้อม นัดซ้อมกันทีก็ไม่มา บางคนซ้อมกันดิบดี พอวันไปจริงกลับซิ่งหนี =="

    กว่าจะซ้อมสแตนเสร็จก็ดึกดื่น พอพี่ปติคมส่งพวกเราเสร็จก็ต้องไปประชุมเตรียมงานวันพุ่งนี้อีก O_O

    พวกเราขอโทษพี่ปติคมมา ณ โอกาสนี้ด้วยนะค่ะที่ทำให้พวกพี่ต้องเหนื่อย และต้องขอขอบคุณพวกพี่ที่ดูแลพวกเราเป็นอย่างดีค่า ^___________^

    แล้วพี่ปติคมคือใครอ่ะ

    พี่ปติคมก็เป็นพี่ประจำมหาวิทยาลัยนั้น ที่เรียนคณะเภสัชศาสตร์ ที่ต้องมีเพราะว่าเราไปต่างถิ่นไม่รู้จักทางอาจจะหลงทางได้ ถ้ามีพี่ปติคมก็เหมือนมี GPRS และ Google ส่วนตัวไปเลยยยยย

    ขอบอกว่าวิวตอนกลางคืนของม.อุบลสวยงามมากกกกกก และที่สำคัญ นมที่พาไปกินตอนกลางคืน(เพื่อนพี่เล่าให้ฟัง พอดีพี่แอบกลับบ้านก่อนอ่ะ คริๆๆๆ) อร่อยมากกกก

    ม.อุบลกว้างมากกกกกก มากกกกกจนเดินจนเหนื่อย ถ้าไม่มีรถวันไหนตื่นสายคงไปเรียนไม่ทัน =="

    แต่ม.อุบลดูแลพวกเราเป็นอย่างดีและจัดงานได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยยยย

    ว่าแต่เราจะนอนกันที่ไหนอ่ะ

    ส่วนมากก็จะให้นอนในหอในของพวกนักศึกษาแหละ ออกแนวใครดีใครได้ มหาวิทยาลัยไหนไปก่อนก็ได้ที่นอนดี ๆ ไป (แต่บางครั้งก็ให้เลือกตั้งแต่ประชุมสัญจรนะ) อย่างว่าม.รังสิต สายเสมอ เลยได้เหลือเลือกประจำ =="

    ส่วนที่นอนที่ม.อุบลหาให้ต้องเช่าชุดละ 300 บาท เวลางานเสร็จก็เอามาคืนแล้วก้จะได้ตังค์คืน

    เวลานอนจะแยกชาย-หญิง แล้วคิดดูเพื่อนผู้ชายได้หอที่ห้องน้ำในตัว มีแอร์ด้วย ==" ที่นอนเป็นเตียงเดี่ยวสี่เตียง

    ส่วนหอที่พวกพี่นอนเป็นหอเก่าแล้ว ห้องน้ำรวม ไม่มีแอร์ ==" แต่ดีที่มีพัดลมให้ ส่วนที่นอนเตียงสองชั้น แน่นอนว่าพี่ต้องนอน ชั้นสอง เพราะแย่งชั้นหนึ่งไม่ทัน ==" แต่มันก็ได้ feel ไปอีกแบบนะ แต่อย่านอนดิ้นหล่ะ เพราะเตียง มัน สูง มาก

    โดยแต่ละห้องจะให้นอนห้องละ 4 คน ในแต่ละหอก็จะมีหลายมหาวิทยาลัย แต่ถ้าในชั้นเดียวกันก็จะเป็นมหาวิทยาลัยเดียวกัน

    แล้วจะรู้ได้งัยว่าเรานอนกับใครแล้วนอนห้องไหน

    พวกพี่สโมฯที่ไปประชุมมาจะให้เราจัดกลุ่มกันเองว่าเราจะนอนกับใครแล้วพี่เขาจะส่งรายชื่อไปให้เจ้าภาพ ส่วนนอนห้องไหนอันนี้ก็แล้วแต่เจ้าภาพจะจัดการ

    แล้วเรื่องอาหารการกินหล่ะ

    ทางเจ้าภาพจะมีคูปองอาหารแจกให้ แล้วเราก็เอาไปใช้จ่ายในการซื้ออาหารได้ในโรงอาหาร แต่ถ้าวันไหนมีงานกิจกรรมตอนกลางคืนก็จะมีข้าวกล่องไปแจกให้บนสแตน อารมณ์ประมาณว่ากินข้าวไปดูโชว์ไป ประมาณนั้น

    แล้วค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไหร่หล่ะนั้น

    อย่างที่บอกไปว่าสโมฯของแต่ละมหาวิทยาลัยต้องจ่ายค่าบำรุง สนภท. ทุกปี โดยที่สนภท.จะกำหนดมาว่าแต่ละมหาวิทยาลัยต้องจ่ายเงินจำนวนเท่าไหร่ (เท่าที่รู้มาเยอะอยู่นะ ไม่หลักหมื่น ก็หลักแสน มั้ง ดังนั้น ช่วยกันจ่ายค่าสโมฯด้วย)

    งานกีฬาเภสัชสัมพันธ์ครั้งที่ 21 @ UBU (จัดปี 2551) ก็มีประมาณนี้

    ครั้งที่ 22 ที่ มศว concept "SPF22" ( จัดปี 2552 เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังเน้อ)

    ครั้งที่ 23 ที่ มน. (จัด 19-22 ตุลา 53 ไปแน่นอนนนนน)

    เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะเก็บมันไว้ตลอดไป ถ้าไม่มีคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต คงไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมแบบนี้ และคงไม่ได้ใช้คำนำหน้าว่า นศภ.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×