คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 : ชีวิต นศภ. ปี 1 เทอม 2
หลังจากที่ตอนที่แล้วพี่ได้เล่าถึงความเป็น เฟรชชี่ อย่างต๊อง ๆ ไป ตอนนี้เริ่มเข้าสู่โหมดจริงจังกันบ้างแล้ว
หลังจากจบเทอม 1 ไป พี่ก็ยังรู้สึกชิวอยู่ แต่ที่เซ็งคือ ปิดเทอมเดือนตุลา น้อยมากกกกก รู้สึกจะปิดไม่ถึงสองอาทิตย์มั้ง ก็เปิดเทอมอีกแล้ว อารัยเนี้ยยยยยยย ยังไม่ทันพักให้หนำใจก็เปิดเทอมแล้ว
ช่วงเดือนพฤศจิกายน ที่ม.รังสิตก็จะมีจัดสอบตรงเข้า วิทยาแพทยศาสตร์ และ คณะทันตแพทยศาสตร์ แต่ก่อนจะมีคณะเภสัชศาสตร์ด้วย แต่ด้วยความที่ว่าทางคณะจะปรับปรุงหลักสูตรให้เป็น หลักสูตรหกปี (รุ่นพี่ Rx22 เป็นรุ่นสุดท้ายที่เรียนหลักสูตรเภสัชห้าปีของม.รังสิต) ทำให้ไม่มีจัดสอบในเดือนพฤศจิกายน
แน่นอนว่าพี่ต้องไปสอบ อย่างที่บอกไปแม่พี่อยากให้พี่เรียนหมอ พี่ก็ไปสมัครนะ เขาให้เลือก 4 อันดับ พี่เลือกคณะเดียวเลย วิทยาลัยแพทยศาสตร์ ผลปรากฏว่า พี่สอบไม่ติด =="
แต่เพื่อนพี่คนสองคนสอบติดทันตะ หญิงคน ชายคน แต่เพื่อนที่เป็นผู้ชายก็อยากเรียนหมอเหมือนพี่ แต่ด้วยความที่ได้คณะทันตแพทย์เลยเอาไว้ก่อน ค่อยรอสอบอีกรอบตอนเดือนพฤษภาคมปีหน้า
อย่างที่บอกไว้ ตั้งแต่ตอนแรกว่าเทอม 2 จะมีวิชาคณะเข้ามา วิชานี้จะเรียนรวมกันทั้งชั้นปี (รุ่นพี่ตอนนั้นมีประมาณ 270 ได้ เยอะมากกก) เรียนรวมกันที่ห้อง slope (เป็นห้องที่คล้าย ๆ ในโรงหนัง แต่มีโต๊ะ lecture ) คาบแรก ท่านคณบดีประจำคณะเภสัชศาสตร์ก็เข้ามาสอน มาพูดถึงเรื่องราวของ คณะเภสัชศาสตร์ ม.รังสิตให้ฟัง
พี่ยอมรับว่า ง่วงมากกก เพราะตารางเรียนพี่ มีเรียน อังกฤษ ตอน 07.30 -09.00 แล้วมาเรียนอีกทีบ่ายโมง ยอมรับเลยว่า หลับบ่อยมากกก (น้อง ๆ อย่าเลียนแบบนะจ๊ะไม่ดีจ้า)
แล้วการก้าวขึ้นไปเป็นรุ่นพี่ปี 2 ก็คือ ต้องเตรียมงานรับน้อง
พี่ ๆ ปีสอง ก็จะมาแนะนำแนวทาง ในการทำงานรับน้อง และจัดสรรหาน้องเข้าไปอยู่ในฝ่ายต่าง ๆ (ส่วนมากก็ตามใจน้องแหละว่าอยากทำอารัย)
ให้ทายว่าฝ่ายไหนคน ลงชื่อ (เน้นว่าลงชื่อ) เยอะที่สุดดดด แต่เวลามาทำมาทำน้อย (เน้นว่า น้อย) ที่สุดดดด
ติ๊กกกกกต๊อกกกก คิดออกมั้ยยยยย
เฉลยยยยย ฝ่ายสันทนาการจ้า
เพราะทุกคนคิดว่าแค่ร้องเพลงและเต้นได้ก็จบไม่เห็นยากกกก
แต่ถ้าคนที่ได้มาเป็นสันทนาการจริง ๆ จะรู้ว่า มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
ถ้าถามว่ารุ่นของพี่ส่วนมากกระตืดรือร้นที่จะทำกิจกรรมมั้ย
พี่ตอบเลยว่าไม่
น้องๆ อาจจะถามว่าก็มีเด็กทุนนิ เด็กทุนก็ต้องทำกิจกรรมให้ครบชั่วโมงดิ
พี่จะบอกว่าที่ม.รังสิตให้อิสระกับทุกคน มันมีทางหลายทางที่น้องจะได้ชั่วโมงทุนมา
ไปช่วยงานที่ห้องสมุดบ้าง ไปช่วยงานที่ตึก 1 บ้าง ไปลงชื่อฟังสัมมนาบ้าง
แค่นี้ก็ได้ชั่วโมงแล้ว ไม่เห็นต้องทำกิจกรรมให้วุ่นวาย จริงมั้ย
เรื่องเด็กทุนมีอีกเยอะ แต่พี่กลัวว่าตอนนี้จะยาวไป ข้ามเรื่องเด็กทุนไปก่อนแล้วกัน
แล้วพี่หล่ะไปอยู่ฝ่ายไหน
พี่จะใบ้ให้ พี่ไปอยู่ในฝ่ายที่เงียบ รุ่นน้องเกลียด ทำหน้าเครียดตลอดเวลา
คิดออกกันหรือยังงว่าพี่ไปอยู่ฝ่ายไหนนนนน
ถูกต้องงงงง พี่ไปอยู่ฝ่ายวินัย (หรือที่มหาวิทยาลัย หรือคณะอื่น เรียกว่า ว้าก หรือ พี่ระเบียบ)
คนแบบพี่เนี้ยนะ ไปอยู่ฝ่ายวินัย
ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเหมือนกันว่าไปอยู่ได้งัย รู้แต่ว่าตอนให้ลงชื่อ พี่ไปลงชื่อเป็นคนแรกเลย
ซึ่งฝ่ายวินัยนี้ ไม่มีใครอยากอยู่
เพราะทุกคนอยากเล่นกับน้อง อยากเต้นกับน้อง อยากอยู่ใกล้น้อง ซึ่ง พี่วินัย ทำแบบนั้นไม่ได้ จนกว่าการประชุมเชียรจะเสร็จถึงจะทำแบบนั้นได้
แต่พี่คิดว่า ถ้าไม่มีฝ่ายนี้ น้องใหม่ที่เข้ามา จะอยู่ในสังคมที่แปลกใหม่แบบนี้ได้ยังงัย ต้องมีคนกลุ่มนึงคอยบอกคอยสอน ให้น้องรู้จักกฏให้มากขึ้น และเป็นการย่นเวลาในการปรับตัวของน้องๆ เอง ให้ปรับตัวได้เร็วขึ้น
ชีวิตของการฝึกเป็นพี่วินัย การเข้ามาอยู่ในครอบครัววินัย มันยาววววว กว่าเรื่องเด็กทุนอีก ถ้าน้องคนไหนอยากรู้ต้องติดตามไปเรื่อย ๆ นะจ้า ^______________^
พอเทอมสองการลงทะเบียนเรียนก็จะลงล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนสอบ final ของเทอม 1 ซึ่งที่นี้จะจัดเพลนให้ โดยเรียงตามลำดับรหัสนักศึกษา (พอขึ้นปีสองถึงค่อยจัดเพลนเอง) ก็มีคนมากมายไม่ยอมที่จะอยู่เพลนที่ทางคณะได้กำหนดไว้ให้ ก็ไปขอย้ายเพลนกับอาจารย์ที่ปรึกษา จนทำให้เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต แต่ผลสุดท้าย ก็มีทั้งคนที่ย้ายเพลนสำเร็จ และคนที่ไม่ได้ย้ายเพลน
ตอนนั้นพี่อยู่เพลนสุดท้าย (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเพลน E) ซึ่งเทอมสองนี้พี่ต้องเลือกเก็บหน่อยกิตพวกวิชาเลือกอิสระและเลือกในกลุ่มมนุษย์และสังคม (รายละเอียดในตอนที่ 1 จ้า) พี่เองได้ลงไปสองตัว คือ CHM101 (เคมีในชีวิตประจำวัน)กับ SOC112 (จิตวิทยาพื้นฐาน)
แล้วพี่รู้ได้งัยว่า พี่ต้องเลือกวิชาอะไรบ้าง
ก็เพราะว่าตอนเข้ามาอยู่ในมหาวิทยาลัย จะมีพี่กลุ่มนึงที่เราเรียกว่า พี่เทค หรือ พี่สาย หรือ พี่รหัส เป็นคนดูแลเราเรื่องหนังสือ ชีทอ่านเพิ่ม การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย การเลือกเรียนวิชาเลือกต่าง ๆ ที่เรียนง่ายและได้ A
แต่ก็มีเพื่อนพี่บางคนที่พี่เทคไม่ดูเเล ไม่ใส่ใจ ทำให้เขา พลาด โอกาสดี ๆ ไป แต่โชคดีตอนเดือนรับน้องเขาเข้าทุกวัน เลยมีพวกพี่สันทนาการ มาช่วยดูแล ดูแลดีกว่าพี่เทคตัวเองเสียอีก ^____________^ เพื่อนพี่บอกว่า ถ้าเราไม่ตัดสินใจเข้ารับน้อง เราคงไม่ได้พี่ที่ดี ๆ ที่ดูแลเราอย่างนี้แน่นอน
ส่วนวิชาที่ลงทะเบียนเรียนไปตอนเทอมสองก็มี
general biology II
general biology Lab II
general chemistry II
organic chemistry
organic chemistry Lab
English II
Pharmacy Orientation (วิชาคณะตัวแรกที่ได้เรียน)
เคมีในชีวิตประจำวัน (อยู่ในตัวเลือกอิสระ)
จิตวิทยาพื้นฐาน(อยู่ในกลุ่มสังคมศาสตร์)
แต่เพื่อนพี่เองบางคนก็ไม่ได้เรียนอังกฤษนะ เพราะก่อนเปิดเรียนเทอม 1 ทางคณะจะจัดสอบวัดความรู้ภาษาอังกฤษถ้าใครผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ก็อาจจะยกเว้นไม่ต้องเรียนอังกฤษ1 หรือ ไม่ต้องเรียนอังกฤษเลย ส่วนค่าเทอมที่จ่ายไปนั้น ทางมหาวิทยาลัยก็จะโอนเข้าให้ในบัญชีของเรา
เพราะที่ม.รังสิตบัตรนักศึกษาจะเป็น atm ของธนาคารกรุงเทพ สามารถใช้เป็น atm(แต่รูดได้ด้วยนะ แบบเวลารูดก็หักจากเงินบัญชีงัย) และ บัตรนักศึกษาได้ ในบัตรเดียว
พี่ว่า bio เทอม 1 ยากแล้วนะ พอมาเจอ bio เทอมสอง ยากกกก กว่า เพราะเทอมสองจะมีการ VIVA
VIVA คือ การที่อาจารย์ในภาควิชา bio จะมีคำถามในหัวข้อนั้น ๆ ที่เราได้เรียนใน lab ก็จะถามเป็นรายบุคคล ถามปากต่อปาก ไม่มีการดูชีท แอบมีผู้ช่วยได้บ้าง (เพราะคณะพี่เด็กเยอะ เวลาถามเลยต้องแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ เลยแอบช่วยกันได้บ้าง)
ส่วนอาจารย์ที่จะมา VIVA เรานั้นก็จะเปลี่ยนไปทุกสัปดาห์ แล้วแต่ว่าสัปดาห์นั้นเราจะได้เจออาจารย์ไหน
ถ้าตอน VIVA เราตอบคำถามอาจารย์ไม่ได้ก็ต้องทำโทษ โดยการคัดคำตอบคำนั้นมาส่ง (แล้วแต่ว่าอาจารย์ท่านไหนให้คัดกี่รอบ) พี่เหรอ เหอะๆๆๆ คัดบ้างเป็นบางเรื่อง แต่ก็คัดไม่บ่อยหรอกนะ แต่พี่ว่าก็ดีนะ ทำให้เราจำได้ขึ้นใจเลยยย
ส่วนการสอบ lab bio ของเทอมสองนั้จะเป็น labกริ๊งงง คือจะมีเวลาในการทำโจทย์ข้อละ 1 นาที ถ้าได้ยินเสียง กริ๊งงงง ต้องไปที่ข้อใหม่ และไม่สามารถวนกลับมาตอบคำถามข้อนี้ได้อีก
คำถามก็เป็นอัตนัย และเป็น ศัพท์ภาษาอังกฤษ ต้องสะกดให้ถูกต้อง ถามเขียนผิด แค่ตัวเดียวก็จะไม่ได้คะแนนในข้อนั้นไป
เป็นการสอบที่ระทึกใจมากกก เพราะบางข้อจะเขียนว่า พัก นั้นคือข้อนั้นไม่มีข้อสอบให้เราพักทำสมาธิ แต่เราก้อต้องเขียนด้วยว่าข้อนี้ พัก ไม่งั้นเราจะรันข้อผิด คราวนี้แหละ งานเข้า
และแน่นอนก่อนที่จะเรียน lab ทุกวิชา (ตั้งแต่เทอม 1 ) ก็จะมีการ quiz ก่อนเพื่อเก็บคะแนน เป็นการวัดว่าเราได้อ่านและทำความเข้าใจ lab ที่จะเรียนวันนี้มาบ้างหรือป่าว ใครไม่อ่านมาก็จะทำ quiz ของ lab วันนั้นไม่ได้ ก็อดได้คะแนนไป
ลืมเล่าอีกเรื่องตอนเทอม 1 จะมีการให้ทำ divesity of life ด้วยยย ใน lecture จะทำเรื่องสัตว์ ส่วนใน lab จะทำเรื่องพืช
แล้วมันจะทำยังงัยหล่ะ
พี่คิดว่าน้อง ๆ ทุกคนคงจะรู้จักรายการ กบนอกกะลา นั้นแหละ ทำแบบนั้นเลย
ขอบอกค่ะ ขอบอก ว่ามันส์มากกก แต่ก็เหนื่อยด้วยยยย และตื่นเต้นตอนที่ present งานนี้แหละ ไหนจะ slide ไหนจะ VDO ที่ต้องตัดต่อ โอ้ยยยยยยยย สารพัด และที่เครียดและตื่นเต้นที่สุด คือ ตอนที่อาจารย์ถามมมมม เพราะไม่รู้ว่าแต่ละคนจะถามว่าอารัย เดาใจไม่ออก แต่ก็จะแอบมีรุ่นพี่บอกว่า อย่าทำเรื่องนั้น เรื่องนี้นะ ไม่ได้ๆๆๆๆ ก็เอาไว้เป็นแนวทางในการตัดสินใจ -*-
เรียนเทอมสองก็ออกแนว ชิว กว่าเทอม 1 อีก เพราะว่าเราปรับตัวได้แล้วในการที่ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ที่หอ และการเรียนอันแสนหนักหนา สาหัส กันมากมายยยย
พอขึ้นปีใหม่ พวกพี่ก็ต้องช่วยพี่ปีสามทำค่าย DREAM CAMP # 4 ซึ่งจะจัดทุกซัมเมอร์ที่คณะเภสัชศาสตร์ ม.รังสิต (ปีนี้ครั้งที่ 6 แล้วพวกพี่กำลังเตรียมงานอยู่อดใจรอฟังประกาศหน่อยนะ ^^)
พวกพี่ก็ต้องเข้าร่วมประชุมกับพี่ปีสองและพี่ปีสามเพื่อฟังรายละเอียดและงานที่ได้รับมอบหมายที่จะต้องทำ แต่หน้าที่ปี 1 อย่างพี่ไม่มีรัยมาก เป็น staff ดูแลน้อง ๆให้ความใกล้ชิดสนิทกับน้อง ค่ายนี้ใช้ระยะเวลาในการจัดทั้งหมด 3 วัน 2 คืน โดยพวกพี่ทั้งปีสาม ปีสอง ปีหนึ่ง และพี่ปีห้า หรือพี่ที่สูงกว่านั้น รวมทั้งอาจารย์ ดูแลน้อง ๆ ที่มาเข้าค่ายอย่างเต็มที่และเต็มความสามารถ ฉะนั้นหายห่วงได้จ้า
หลังจากสอบมิดเทอม ก็ต้องฝึกเป็นพี่วินัยหนักขึ้น ฝึกถึงดึกดื่น พวกพี่ปีสูงไม่ได้บังคับให้ซ้อม แต่มันเป็นจุดประสงค์ของทีมพี่เองที่จะซ้อมเยอะ ๆ เพื่อคนกลุ่มนึงที่พี่ไม่เคยเห็นหน้า แต่พี่รักและอยากดูและคนกลุ่มนี้ ที่พี่เรียกว่า น้อง
สำหรับการเรียนเทอมสองก็ไม่ค่อยหนักมาก แต่เหนื่อยกับการฝึกและการซ้อมเป็นพี่วินัยมากกว่า แต่ก็ไม่เป็นรัยพี่ตัดสินใจแล้วที่จะมาอยู่ตรงนี้ พี่ต้องทำให้ได้สิ
เอาหล่ะต่อไปก็เหลือแค่ ซัมเมอร์เท่านั้น เราก็จะได้ขึ้นปีสอง และเป็น พี่วินัย อย่างเต็มตัวสักที ^__________^
ความคิดเห็น