สาระน่ารู้เกี่ยวกับวิตามิน

ลำดับตอนที่ #3 : วิตามินเอ

ความเป็นมา

ค.ศ.1913 นักวิจัยชาวอเมริกันสามารถสกัด สารสำคัญต่อชีวิต จากเนย ไข่แดง และน้ำมันตับปลา

ค.ศ.1904 มีการรักษาโรคตาแดงในญี่ปุ่น โดยใช้น้ำมันตับปลา

วิตามิน เอ มี 2 รูปแบบ คือ preformed vitamin A ได้แก่ retinol มีอยู่เฉพาะอาหารที่มาจากสัตว์เท่านั้น ( ได้แก่ น้ำนม ไข่ น้ำมันตับปลา) รูปแบบที่ 2 คือ provitamin A จะถูกเปลี่ยนเป็นVitamin A ในร่างกาย ได้แก่สารในกลุ่ม Carotenoids ซึ่งเป็นรงควัตถุในพืชที่มีสีส้ม เหลืองและเขียวเข้ม carotenoid ที่มี Vitamin A activity มากที่สุดคือ beta-carotene ร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็น Vitamin A ได้ที่ผนังลำไส้ ในอัตราส่วน beta-carotene : retinol = 6:1 , Beta-carotene พบมากในผักและผลไม้ เช่น มะละกอ แครอท ฟักทอง และผักใบเขียวเข้ม

หน่วยของวิตามิน เอ มี 2 แบบ คือ หน่วยสากล ซึ่งใช้ตัวย่อ I.U.=International unit และหน่วยของ retinol คือ R.E.= Retinol equivalent การบอกหน่วยของวิตามิน เอ จะใช้หน่วยใดก็ได้ ซึ่ง 1 R.E = 3.33 I.U.

เมื่อรับประทานวิตามิน เอ ร่างกายจะดูดซึมแล้วเก็บไว้ที่ตับ เนื่องจากวิตามิน เอ เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน ดังนั้นในลำไส้จะต้องมี bile salt เพียงพอ วิตามินจึงจะดูดซึมได้ ถ้าให้ mineral oil ร่วมกับ วิตามิน เอ วิตามิน เอจะละลายถูกขับออกมากับ mineral oil ทำให้ไม่สามารถถูกดูดซึมได้



 

ประโยชน์

1. ช่วยการมองเห็นในที่มืด
ป้องกันไม่ให้เกิดโรคตาฟางในเวลากลางคืน ป้องกันเยื่อตาขาวแห้ง

2. ทำให้การเจริญและพัฒนาของเซลล์บุผิว เป็นปกติ
[Growth and differentiation of epithelial cells]
รวมทั้งเป็นสารจำเป็นต่อการสร้างเมือก [Mucous] ของเซลล์บุผิว

[Growth and differentiation of epithelial cells]
รวมทั้งเป็นสารจำเป็นต่อการสร้างเมือก [Mucous] ของเซลล์บุผิว

3. มีบทบาทในการเจริญเติบโตของกระดูก ฟัน อัณฑะ
รังไข่ และทารกในครรภ์

อาการของการขาดวิตามิน เอ
ถ้าขาดวิตามิน เอ จะทำให้เกิดมีอาการต่างๆดังนี้คือ

ถ้าขาดวิตามิน เอ จะทำให้เกิดมีอาการต่างๆดังนี้คือ

1.เกี่ยวกับตา แรกเริ่มที่ขาดวิตามิน เอ จะทำให้เยื่อตาแห้งเหี่ยวย่น ตามัว ขาดน้ำตาหล่อเลี้ยงลูกตา เพราะว่าเกิดการอุดตันของท่อน้ำตา เกิดการกลัวแสงสว่าง แก้วตาอาจจะเป็นแผล และถ้ามีการติดเชื้อร่วมด้วยจะทำให้ตาบอดได้ อาการดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่

แรกเริ่มที่ขาดวิตามิน เอ จะทำให้เยื่อตาแห้งเหี่ยวย่น ตามัว ขาดน้ำตาหล่อเลี้ยงลูกตา เพราะว่าเกิดการอุดตันของท่อน้ำตา เกิดการกลัวแสงสว่าง แก้วตาอาจจะเป็นแผล และถ้ามีการติดเชื้อร่วมด้วยจะทำให้ตาบอดได้ อาการดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่

2.เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ที่เยื่อบุทางเดินหายใจทำให้ลอกหลุดง่าย และทำให้ง่ายต่อการติดเชื้อ

ที่เยื่อบุทางเดินหายใจทำให้ลอกหลุดง่าย และทำให้ง่ายต่อการติดเชื้อ

3.เกี่ยวกับผิวหนัง จะทำให้ผิวหนังมีลักษณะแห้ง หยาบกร้านเป็นเกล็ด มีเม็ดผื่นขึ้นเป็นตุ่มโตบริเวณช่องเปิดของรูขุมขน

จะทำให้ผิวหนังมีลักษณะแห้ง หยาบกร้านเป็นเกล็ด มีเม็ดผื่นขึ้นเป็นตุ่มโตบริเวณช่องเปิดของรูขุมขน

4.เกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ จะทำให้เกิดการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะและอาจเกิดนิ่วได้

จะทำให้เกิดการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะและอาจเกิดนิ่วได้