คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 ห๊ะอะไรนะไปโรงเรียน ว่าแต่อะไรคือโรงเรียน
ตอนที่ 2 ห๊ะอะไรนะไปโรงเรียน ว่าแต่อะไรคือโรงเรียน
ความเดิมตอนที่แล้ว
“หมดรูปอดีตหัวหน้าเลยแต่เด็กนั่นก็ไม่ธรรมดาจริงแค่วิ่งผ่านบาเรียก็คลายแล้ว” ซาเต้กล่าวออกมาลอยๆพร้อมมองไปยังตาแก่กะเด็กแสบที่กำลังเถียงกันอย่างเมามันส์อยู่นอกร้าน
‘คงได้เวลาที่ต้องไปแล้วสินะ’ ซาเต้คิดในใจแล้วหยิบเอกสารตั้งไว้บนโต๊ะแล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“โอเคข้ายอมแพ้แกชนะไปกินข้าวเย็นได้แล้ว” ชายวัยทองกล่าวอย่างละอ่อนใจเพราะเห็นว่าถ้าเขาไม่ยอมหยุดสงครามน้ำลายคงจะไม่จบลงแน่ๆ
“ฮาๆ เถียงชนะแล้วดีใจวุ้ย” เด็กหนุ่มหัวเราะร่าอย่างดีใจเมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายชนะ
ณ โต๊ะอาหาร เอ่อลืมไปบ้านผมไม่มีโต๊ะนี่นา!!!
“ซุบหัวไชเท้ากับเนื้อหมูป่าอีกละเบื่อจะตาย” เด็กหนุ่มกล่าวอย่างเบื่อหน่าย
“แฮะแฮ่มถ้าแกไม่กินก็เอามาให้ข้ากินเซ่” ชายวัยทองกล่าวออกมาพร้อมกับทำท่างจะตักของเด็กหนุ่ม
“แอ๊ะๆ อย่ามาๆ เรื่องไรผมจะให้ตาแก่” เด็กหนุ่มกล่าวจบก็ลงมือกินอาหารตรงหน้าอย่างรวดเร็วถ้าจะเรียกให้ถูกควรจะใช้คำว่าสวาปามมากกว่า
“โถ่!!ไอ้เด็กขี้งก”
“เหมือนใครกันหล่ะ” เด็กหนุ่มพูดจบทั้งสองก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกัน
หลังจากรับประทานเอ่อสวาปามอาหารเสร็จ
“นี่ไอ้ตัวแสบแกอยากไปโรงเรียนไหม”
“อยากสิว่าแต่โรงเรียนเป็นป่าหรือเขากันหล่ะ”
“บ้านนอกจริงจริ๊งงง” ชายวัยทองกล่าวลากเสียงแนวประชด
“อะไรกันเหล่าก็ตาแก่ไม่เคยบอกผมเลยจะไปรู้ได้ไง” เด็กหนุ่มกล่าวอย่างไม่ยอมแพ้
“มันก็จริง โรงเรียนมันก็คือสถานที่สำหรับศึกษาเล่าเรียนเหมาะสำหรับเด็กที่ด้อยปัญญาอย่างแก”
“พูดงี้ก็สวยซิตาแก่ผมออกจะฉลาดขนาดนี้”
“ท่าทางอวดเก่งแบบนี้เหมือนใครกันนา” ชายวัยทองกล่าวพร้อมกับทำท่างครุ่นคิด
“ตาแก่ไงไม่รู้ตัวอีก”
“เออเหนาะเฮ้ยใช่ที่ไหนกันเล่าพอๆนอกเรื่องละๆ”
‘ใครกันที่นอกเรื่องก่อน’ เด็กหนุ่มคิดในใจ
“สรุปว่าข้าอยากให้แกไปโรงเรียนที่เมืองหลวงหนะ” ชายวัยทองก็ไม่อยากพูดมากเลยพูดตรงๆออกไป
“เอาจริงหรอตาแก่ผมยังไม่เคยไปเมืองหลวงเลยนะว่าแต่ตาแก่มีเงินพาผมไปเมืองหลวงเรอะ”
“ไม่มีเงินแต่มีตั๋วฮาๆ” ไม่พูดเปล่าชายวัยทองยื่นบัตรขึ้นมายืนยัน
“สุดยอด!! ตาแก่ไปจิ๊กใครมาเนี่ย”
“ดูพูดเข้า มีคนให้ข้ามาต่างหากละ”
“ทำไมตาแก่ไปซื้อขนมแล้วได้มาเป็นของแถมเรอะ” เด็กหนุ่มพูดติดตลก
“เรื่องนั้นช่างเถอะหน้าเอาเป็นว่าแกต้องขึ้นไปเมืองหลวงพรุ่งนี้”
“เอาจริงเด่แล้วผมต้องเตรียมอะไรไปบ้างแล้วกลับเมื่อไหร่ไปอย่างไร”
“โอ้ยข้าจะบ้าตายเอาเป็นว่าแกเอาไปเฉพาะเสื้อผ้าและก็อาวุธติดตัวไปซักอย่าง”
“ทะที่”
“ที่หน้าสถานีรถไฟความเร็วสูงที่เมืองใกล้ๆ” ชายวัยทองกล่าวขัดอย่างรู้ทัน
“ปะไป”
“ไปกับเพื่อนของข้าเขาจะพาเธอไปเมืองหลวง” ชายวัยทองกล่าวขัดอย่างรู้ทันอีกครั้ง
“ละและตา”
“ตาแก่จะไม่ไปข้าก็ขายของอยู่ที่นี่” ชายวัยทองกล่าวขัดอย่างรู้ทันอีกครั้ง
แล้ว(?)
“และที่สำคัญข้าจะฝากกล่องนี้ไปให้เพื่อนของข้าที่เมืองหลวงรู้สึกว่าเขาจะเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนนั่น” ชายวัยทองกล่าวพร้อมกับยื่นกล่องแปลกๆให้ก็เด็กหนุ่ม
“โอเคตาแก่”
“และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเจ้าเด็กที่เปรียบเสมือนลูกแท้ๆของข้า รับดาบเล่มนี้ไปมันเป็นของเจ้า”
“พูดซึ้งๆกับเขาก็เป็นนิตาแก่งั้นผมขอรับไว้เลยละกัน เฮ้ยนี่มันไม้กางเขนนี่นาใช้ดาบซะที่ไหนกันเล่า” เด็กหนุ่มกล่าวอย่างแปลกใจเมื่อเห็นว่าสิ่งที่ยื่นให้เขานั่นเป็นไม้กางเขนสีเงินเท่านั้น
“เออนารับๆไปเดี่ยวเมื่อถึงเวลานั้นแกก็รู้วิธีใช้มันเอง”
‘ให้ตายสิยังจะทิ้งปริศนาให้ผมอีกพอถึงเวลาสู้จริงะทำไงละเนี่ย’ เด็กหนุ่มคิดในใจ
เช้าวันต่อมา ณ เมืองลูซอน เมืองที่ติดกับหมู่บ้านการากัส
รถไฟความเร็วสูงหมายเลข1313 พร้อมจะออกเดินทางไปเซรีนาซิตี้แล้วผู้โดยสารโปรดขึ้นรถไฟด้วยค่ะ
เสียงหวานๆของพนักงานดังขึ้นทำให้เหล่าผู้คนน้อยใหญ่ต่างเดินขึ้นรถไฟไปอย่างเป็นระเบียบเว้นแต่ว่า
“เฮ้ยไหนรถไฟของผมเนี่ยหาไม่เจอเดินหลงอยู่ในสถานีตั้งนานนน”
ย้อนกลับไปเมื่อ10นาทีที่แล้ว
“นี่ลุงรถไฟหมายเลข1313อยู่ไหนอะบอกผมที”
“ใกล้ๆเองพ่อหนุ่มแค่เดินไปทางนั้นแล้วเดินตรงไปเลี้ยวซ้ายแล้วเลี้ยวขวาแล้วเดินขึ้นบันไดลงบันไดแล้วหมุนยูเทิร์นเข้าช่องแล้วเดินอ้อมมาได้ซักพักก็เลี้ยวซ้ายแล้วก็เลี้ยวขวาก็ถึงแล้วละ”
“เอ่อขอบคุณมากลุง”
ปัจจุบัน
“ตายแน่ตกรถไฟแหงเลย”
“นี่เธอใช่ไนท์หรือป่าว” เสียงของชายหนุ่มคนนึงเรียกขึ้นมาทำให้เด็กหนุ่มต้องหันไปมอง
“เอ่อคุณใช่เพื่อนของตาแก่หรือป่าว”
“ตาแก่ เอ่อหมายถึงคุณครูซโซรึป่าว”
“ใช่ๆเขานั่นแหละ”
“ผมชื่อว่า ซันเด เป็นเพื่อนกับคุณครูซโซ ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ชายหนุ่มใส่แว่นหน้าตาใจดีกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมกับยื่นมือออกมา
“โทดทีนะตาแก่สอนว่าห้ามจับมือคนแปลกหน้า”
“ห๊ะ!!” ชายหนุ่มกล่าวด้วยสีหน้าเหวอ
“ล้อเล่นหน่า ผมชื่อมิดไนท์ แอร่อนไลท์ยินดีที่ได้รู้จัก” เด็กหนุ่มกล่าวพร้อมกับจับมือกับชายหนุ่ม
“ครับงั้นผมว่าเรารีบไปขึ้นรถไฟกันดีกว่านะครับ”
“เออจริงด้วยจะตกรถไฟแล้ว”
10นาทีต่อมา
“ไม่ไหวละเหนื่อยแทบแย่มาถึงจนได้รถไฟ1313 ทันพอดีสินะ” เด็กหนุ่มกล่าวพร้อมกับหอบเล็กน้อยแล้วหันกลับไปมองหาเพื่อนของตาแก่
“หายไปไหนแล้วเนี่ยเมื่อกี้ยังตามมาอยู่เลยนี่นา”
“คุณไนท์รีบขึ้นมาได้แล้วครับเดี่ยวจะตกรถไฟซักก่อน” เสียงที่คุ้นเคยเรียกเขาอีกครั้ง
‘หมอนี่ขึ้นไปบนรถไฟตั้งแต่เมื่อไหร่กันไม่ธรรมดาความเร็วของเจ้านี่ขนาดตายังมองไม่ทันหรอเนี่ยแถมที่หน้าหมอนี่ยังไม่มีเหงื่อซักหยด’
“ไอ้ตัวแสบคงไม่เป็นไรสินะเพราะคนที่อาสามาอารักขาไอ้ตัวแสบเป็นถึงคนจากหน่วยลับผู้ได้รับฉายามัจจุราชสีเงิน ซันโจ คุโรเบะ” ชายวัยทองกล่าวออกมาทั้งที่ใจยังเป็นห่วงอยู่หน่อยๆ
แต่งไม่ดีก็ติชมกันได้นะครับ :D
ความคิดเห็น