ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Earthling Channel : มนุษยชาติดอทคอม

    ลำดับตอนที่ #1 : เครือข่ายแห่งอนาคต

    • อัปเดตล่าสุด 1 ธ.ค. 55



              อีกหนึ่งวันในโลกอันปรักหักพัง...

                ผมละความสนใจกับแสงสีส้มปนเหลืองจากหลอดไฟฟ้า 3 ดวงด้านบน ตลอดสองปีมานี้มันไม่เคยสาดส่องไปทั่วทุกซอกมุมในห้องนี้อย่างที่ควรเป็นเลย แต่นั่นอาจดีที่สุดแล้วสำหรับห้องหลบภัยใต้ดินของใครก็ไม่รู้ ที่ผมบังเอิญพบเข้าระหว่างการสำรวจหาอาหารสำรอง และก็ต้องประหลาดใจที่ด้านในยังใหม่เอี่ยมราวกับไม่มีใครเคยใช้งานมาก่อน ซึ่งถ้าหากตัดเรื่องหลอดไฟเหลืองส้มที่ใกล้จะหมดอายุใช้งานเต็มทีนี่แล้ว เจ้าห้องหลบภัยนี้ก็แทบไม่ต่างไปจากสวรรค์ใต้ดินเลยสักนิด

                มันเป็นห้องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้างพอๆ กับห้องรับแขกแต่ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อย่างโซฟาหรือโทรทัศน์ มันเต็มไปด้วยตู้เก็บของที่เคยมีอาหารและน้ำจำนวนหนึ่งสำรองไว้ นอกเหนือจากนั้นก็มีเก้าอี้บุนวมสองตัว ของมีดคมจำนวนหนึ่ง เชือก อุปกรณ์ให้แสงสว่าง เจ้าห้องนี้จะกลายสภาพเป็นห้องเก็บเครื่องมือในงานช่างทันที ถ้าเกิดว่ามันไม่มีเครื่อง BATD ที่ผมกำลังเปิดอยู่

                “ขณะนี้กำลังประมวลผล...กรุณารอสักครู่...”

                ผมตอบรับเสียงสังเคราะห์ในโทนผู้หญิงว่าด้วยการให้รอนั้น ด้วยการวางปืนยาวและปืนสั้นอีกกระบอกไว้บนโต๊ะใกล้เครื่องทรงแคปซูลขนาดใหญ่ โลกในตอนนี้ไม่ปลอดภัยสำหรับคนที่ไม่ถือปืนหรือเดินมือเปล่าไปตามถนน นั่นเป็นเหตุผลที่ผมต้องลงมาอยู่ในนี้ ต้องถือปืนและสวมชุดป้องกันทุกครั้งเมื่อจะออกไปเดินบนพื้นโลก ในตอนนี้ไม่มีใครชื่นชอบโลกภายนอกห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ กันนัก รวมถึงผมด้วย

                เหตุผลหลักคือเราต้องเอาตัวรอดจากสงครามโลกครั้งที่สาม มันดำเนินมาได้ราวสองปีแล้วและกำลังมุ่งหน้าสร้างความหายนะต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อนด้วยเทคโนโลยีอันยอดเยี่ยมของโลกปี 2042 ค่อนข้างน่าภูมิใจที่ในที่สุดมนุษย์ก็สร้างของมาทำลายเผ่าพันธุ์ของตัวเองได้จนเกือบหมดโลก ไม่ว่าจะขีปนาวุธพิสัยไกลลิบ เชื้อโรคนานาพันธุ์ และของอีกหลายสิ่งที่ผมไม่รู้จัก ของพวกนั้นผมไม่รู้จะเรียกมันว่ายังไงด้วยซ้ำ

                ฝาครอบทำจากกระจกดำขลับของเครื่อง BATD ดีดตัวเปิดออก มันมีลักษณะคล้ายแคปซูล เพียงแต่สูงสองเมตรครึ่งและกว้างเมตรครึ่ง ใหญ่พอจะให้คนแออัดเข้าไปได้ถึงห้าคนถ้าหนึ่งในนั้นเป็นเด็กเก้าขวบ ตัวเครื่องมีสีเทา หนาและแข็งพอจะกันกระสุนปืนพก ด้านหลังมีช่องสำหรับเชื่อมต่อสายต่างๆ ตามต้องการ

                BATD มาจากตัวย่อของคลื่นสมอง 4 ชนิดของมนุษย์ ได้แก่ Beta, Alpha, Theta และ Delta ซึ่งสามารถโยงไปถึงหลักการทำงานของมันได้

                เครื่องนี้เริ่มต้นด้วยรับเอาคลื่นสมองของผู้ใช้ไปแปลงเป็นเลขฐานสองอันประกอบด้วย 0 และ 1 จากนั้นมันจะประมวลผลและแปรสภาพมนุษย์เป็นโค้ดอันยาวเหยียด ในตอนท้ายสุด เมื่อถูกแปลงเป็นโค้ดอย่างสมบูรณ์ ตัวผู้ใช้จะรวมเป็นส่วนหนึ่งของตัวเครื่องและสามารถเรียกใช้การทำงานต่างๆ ได้อย่างอิสระภายใต้ประสิทธิภาพของเครื่อง และเจ้า BATD นี้สามารถผลิตกระแสไฟฟ้ามากักเก็บและใช้งานได้ด้วยตัวของมันเอง ตามหลักการเพียโซอิเล็กทริก ซึ่งว่าด้วยแร่บางชนิดที่สามารถสร้างสนามไฟฟ้าขึ้นมาจากได้จากแรงกล จำพวกแรงสั่นสะเทือนหรือแรงเสียดสี มันเป็นระบบที่ฉลาดคิด สำหรับโลกที่เต็มไปด้วยแรงสั่นสะเทือนมากมาย ทั้งแผ่นดินไหว การทิ้งระเบิด การเดิน ไปจนถึงเสียงพูดของคนเรา สิ่งที่ต้องทำก็แค่เชื่อมต่อเครื่องตรวจจับแรงสั่นสะเทือนกับระบบเพียโซอิเล็กทริกนั่น เพียงเท่านี้เราก็ได้เครื่องที่ใช้กระแสไฟจากตัวมันเองแล้ว

                มันฟังดูบ้าเมื่อผมได้ยินเป็นครั้งแรกจากข่าวในโทรทัศน์ แต่ตอนนี้ผมคุ้นชินจนมองไม่เห็นความบ้านั่น มัน... เป็นแค่เทคโนโลยีที่ล้ำยุคเกินไปจนขัดกับหลักสามัญสำนึกของคนธรรมดาเท่านั้น เพราะเราเชื่อว่าคนคือคน คนจะไม่สามารถแปรสภาพเป็นอย่างอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำ เป็นมีด เป็นระเบิด แต่ความเชื่อหลายอย่างจากสามัญสำนึกของมนุษย์ก็เริ่มถูกเทคโนโลยีลบออกไปทีละเรื่องสองเรื่อง นอกจากนั้นมันก็ยังลบความเชื่อที่ว่าเราไม่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากของอย่างอื่นที่ไม่ใช่น้ำ ลม หรือปฏิกิริยานิวเคลียร์ออกไปด้วย

                ไม่ต่างจากความสำเร็จในการประดิษฐ์เครื่องบิน ถึงแม้มันจะขึ้นบินโฉบไปมาให้ว่อนเต็มท้องฟ้า แต่บางคนก็ยังฝืนบอกว่าเป็นไปไม่ได้อยู่ดี พูดง่ายๆ คือ คนเราทำใจยอมรับสิ่งเหนือสามัญสำนึกได้ยากนั่นเอง

                ผมก้าวเข้าไปและทิ้งตัวลงนอนกับเบาะฟองน้ำ จากนั้นจึงกดปุ่มปิดฝาครอบและปิดล็อคจากด้านใน เพื่อป้องกันแขกรับเชิญไม่พึงประสงค์ กระจกนี้หนาพอจะซื้อเวลาจากกระสุนปืนได้สักห้าวินาที ซึ่งมากพอจะให้ผมใช้ระบบฉุกเฉินของตัวเครื่อง นั่นคือการวาร์ปหนีไปยังต้นเครือข่ายอื่นที่ใกล้เคียงที่สุด แต่ข้อเสียคือระบบนี้ใช้ได้เพียงครั้งเดียวต่อหนึ่งเครื่องเท่านั้น ไม่เช่นนั้นป่านนี้มนุษย์คงรวมกลุ่มกันได้ใหญ่พอตัวแล้ว

                BATD นั้นไม่ถือว่าเป็นคอมพิวเตอร์ มันควรจะจัดอยู่ในหมวดอินเทอร์เน็ตมากกว่า เพราะแต่ละเครื่องจะส่งสัญญาณเพื่อให้อีกเครื่องที่ห่างออกไปตรวจพบและเชื่อมต่อกัน สัญญาณนี้เป็นคลื่นวิทยุระดับ 200 กิ๊กกะเฮิร์ต มันมากพอจะกระจายออกไปในรัศมีสิบกิโลเมตรได้ไม่ยาก

                “กรุณาเลือกคำสั่ง”

                ทันทีที่กระจกฝาครอบปิดลงมา แถบเมนูสีเขียวบนพื้นหลังสีดำก็ลอยขึ้นมาพร้อมกับคำสั่งให้เลือกคำสั่ง ซึ่งแตกต่างไปตามการใช้งาน แต่โดยส่วนมากแล้วเราจะใช้เชื่อมต่อเครือข่ายเพื่อพบปะพูดคุย ซึ่งเครือข่ายหลักและเครือข่ายเดียวนั้นอยู่ในรูปของเกมออนไลน์ชื่อ Earthling Channel

                ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นผู้สร้างขึ้นมา เรารู้แค่ว่าเกมนี้ถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อหกปีก่อน ด้วยกลุ่มนักวิจัยและพัฒนาหน้าใหม่ที่ไม่เปิดเผยตัว มันถูกเปิดให้ทดลองเล่นเป็นเวลาหนึ่งปีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายก่อนจะปิดตัวลง หลังจากนั้นราวสี่ปี Earthling Channel ก็กลับมาใหม่พร้อมกับเครื่อง BATD อาจเป็นไปได้ว่าผู้ผลิตทั้งสองอย่างนี้เป็นกลุ่มเดียวกัน และมันก็ออกมาทันช่วงสงครามโลกพอดิบพอดี จึงกลายเป็นว่าเจ้าสองอย่างนี้ถูกผลิตออกมาใช้ในการติดต่อระหว่างการเอาตัวรอดจากสงครามโลก น่าเศร้าที่ผู้สร้างพวกมันไม่ได้ค่าตอบแทนใดๆ เลยแม้แต่น้อย เมื่อสงครามปะทุขึ้น ร้านที่ขายผลงานของพวกเขาต่างก็ถูกปล้นชิง เนื่องจากไม่มีใครจะมายืนขายของกลางห่ากระสุน ลูกระเบิด และอาวุธชีวภาพ

                Earthling Channel” ผมพูดออกมาด้วยเสียงแหบแห้ง อันที่จริงผมจะใช้นิ้วลากและเลือกเอาจากหน้าจอก็ได้ แต่มันจะกินเวลานานกว่า

                “เลือก Earthling Channel... กำลังตรวจสอบ...”

                ผมรออยู่นาทีกว่า ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าลืมเปิดระบบป้องกันผู้บุกรุก มันคล้ายระบบเรดาร์ คือจะส่งคลื่นเสียงออกไปกระทบกับวัตถุรอบๆ และประมวลผลว่ามีอะไรในรัศมีจากการสะท้อนกลับมา มันไม่ใช่ระบบของเครื่อง BATD มันเป็นกล่องที่ติดตั้งอยู่บริเวณประตูห้อง แต่ผมสามารถสั่งการณ์ระยะไกลด้วยรีโมตคอนโทรลทรงนาฬิกาข้อมือที่แขนซ้าย ผมจึงกดเปิดมันเสีย เพราะเราไม่รู้หรอกว่าด้านนอกจะเป็นยังไง ระหว่างที่กลายเป็นโค้ดและเข้าไปท่องในเครือข่ายพวกนั้น

                “ตรวจพบเครือข่ายในรัศมี 5 กิโลเมตร 422 เมตร... กำลังประมวลผล...”

                ครั้งนี้สัญญาณอยู่ใกล้เข้ามา... จำได้ว่ามันเป็น 8 กิโลเมตรเมื่อครั้งก่อน บางทีอาจมีคนอื่นอยู่แถวนี้ แต่ไม่ค่อยคุ้มเท่าไรที่ผมจะเสี่ยงไปคุ้ยกองหินหาห้องลับ และถึงผมจะหาเจอ สิ่งแรกที่ทักทายแทนคำสวัสดีย่อมเป็นลูกตะกั่วจากกระบอกปืน ไม่มีใครในตอนนี้จะพูดทักทายผู้ที่บุกรุกเข้ามาในที่หลบภัยของพวกเขาหรอก เพราะเราไม่รู้ว่าใครเป็นมิตรหรือศัตรูอย่างแท้จริง

                ผมเองก็เป็นเหมือนคนอื่นๆ ที่ไม่ไว้ใจมนุษย์คนอื่นภายนอกโลกเครือข่าย สาเหตุมาจากผู้ล่าของเรามีรูปลักษณ์ไม่ต่างจากคนธรรมดา เราไม่รู้เลยว่าเขาเป็นศัตรูจนกว่าเราจะโดนเจาะรูบนตัวหรือแย่หน่อยก็ที่หัว แต่ผมเป็นหนึ่งผู้โชคดีที่ยังไม่ถูกพวกนั้นไล่ยิงถึงแม้จะเคยเจอเข้าสองสามครั้ง บางทีมันอาจเป็นโชคช่วยหรือฝีมือในหลบซ่อนของผมเอง พูดตามตรงคือผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงรอดมาได้

                “คุณเข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ 58 ชั่วโมง 45 นาทีที่แล้ว... ระบบกำลังดำเนินการ...”

                ข้อดีของการแปลงตัวผู้ใช้เป็นโค้ดคือเราไม่ต้องมาคอยกรอก ID และรหัสผ่านทุกครั้ง เราแค่นอนแหมะบนเบาะฟองน้ำที่หุ้มด้วยหนังหรือพลาสติกหรือผ้าอะไรสักอย่าง รอให้ตัวเครื่องทำการแปลงคลื่นสมองและทั้งตัวเป็นโค้ด ซึ่งเราไม่ต้องสวมอะไรเพิ่มเติมเลย แค่เข้ามานอนในนี้และเลือกคำสั่งใช้งาน เป็นอันจบ

                “อยู่ระหว่างการแปลงโค้ด... กรุณาอย่าออกจากตัวเครื่องหรือสั่งปิดอย่างกระทันหัน...”

                ผมรีบหลับตาเพราะไม่อยากตาบอดตลอดชีวิตจากแสงที่ส่องจ้าไปทั่ว มันเป็นกระบวนการที่ค่อนข้างน่าอึดอัดและชวนหวาดเสียว เพราะเราไม่สามารถพลีพลามปิดลงไปได้ทันทีถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น

                แต่ก็แค่ความวิตกเท่านั้น ระหว่างการรับคลื่นสมองและแปลงเป็นโค้ดไม่มีอะไรเกิดกับร่างเราทั้งสิ้น เราไม่รู้สึกเจ็บปวด ไม่รู้สึกอะไรเลย เรายังหายใจหรือเคลื่อนไหวได้ตามปกติ และจะลืมตาขึ้นมาก็ได้สำหรับคนที่อยากตาบอดภายในสองวินาที

                “กระบวนการเสร็จสิ้น... กำลังนำเข้าสู่เครือข่าย Earthling Channel...” เสียงนั้นดังขึ้นหลังผ่านไปอึดใจหนึ่ง ผมลืมตาและพบกับความมืดรอบตัว มันไม่มีอะไรต้องตื่นเต้นตกใจ เราแค่กำลังอยู่ระหว่างทางเข้าสู่เครือข่าย มันเป็นเหมือนถนนหรือท่อที่ไม่มีแสงอะไรเลย ระหว่างนี้เราจะมองไม่เห็นแม้แต่มือตัวเองด้วยซ้ำ

                แล้วทุกอย่างก็จบลง พร้อมกับแสงและเสียงที่เริ่มปรากฏเข้ามาทีละน้อย จนในที่สุดความมืดรอบตัวก็หายไป ผมมายืนอยู่ใต้ร่มเงาของไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง รอบตัวมีผู้คนรวมถึงสิ่งปลูกสร้างมากมาย และ...

                “ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Earthling Channel

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป

    C, 24/พฤศจิ/พ.ศ.2555, 23:38 น.

    แก้ไขล่าสุด 1 ธันวา พ.ศ. 2555, 19:04น.

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×