ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    It'so bad เลวโคตรพ่อ

    ลำดับตอนที่ #2 : It'so bad chapter 2 :: จุดเริ่มต้น พนันเป็นเหตุ

    • อัปเดตล่าสุด 29 มิ.ย. 56


    ไอ้ซอรรรรรรร์ ซอร์รี่ไอ้เหี้ยไม่เคยแดกนม!”เสียงแว้ดๆเหี้ยอะไรมาดังอยู่ข้างหูวะ ? ผมหันซ้ายหันขวาหาเสียงแทรกซ้อนที่ดังขัดความคิดอันล้ำเลิศของผมที่กำลังแล่นปรื๊ดปร๊าดคิดหาวิธีที่ให้ไอ้พวกเหี้ยพวกนั้นแพ้พนันผม แหม่! คิดแล้วก็อยากให้ครบสองอาทิตย์เร็วๆนะครับกูจะทำหน้าสะใจใส่พวกมันยังไงดีน้าาาา^0^

    ผั๊วะ!!

    เหมือนผมจะลืมอะไรไปบางอย่าง ไอ้เหี้ยต้าตบหัวกูเพื่อ!? ผมตั้งท่าจะหันไปอ้าปากพะงาบๆด่าพ่อล่อแม่ไอ้สัสต้าสักทีเพราะไอ้เวรนี่คือคนๆเดียวกันกับที่เพิ่งแว้ดด่าผมไปแถมตอนนี้ยังเสือกมาตบหัวผมอีก แต่ก็ต้องหุบปากฉับกับใบหน้าของคนที่ไม่ค่อยจะคุ้นเคยแต่ก็ได้เห็นกันมาแล้วเมื่อไม่นาน (?) คุณยังจำไอ้ขี้ยาที่ยืนสูบบุหรี่พ่นควันใส่หน้าเพื่อนแล้วก็โดนผมฉกบุหรี่มันมาสูบเสียเองได้ไหมครับ?

     อ่า...ถ้าคุณยังจำได้ ผมขอบอกว่าตอนนี้มันกำลังยืนเต๊ะท่าหล่อเป็นพี่โตโน่เดอะสตาร์(คนนี้ท่าเยอะจริงผมล่ะยอม) อยู่ตรงหน้าผมนี่เองครับ....

     ผมเอียงคอเล็กน้อยถึงปานกลางมองหน้ามันด้วยอารมณ์ประหนึ่งตอนที่พี่ริทเดอะสตาร์กำลังทำหน้ากวนส้นตีนพี่โน่ (ยังไงกูก็จะลากเข้าคู่จิ้นคู่นี้ให้ได้ เหอะ!) แยกยิ้มให้นิดหน่อยตามประสาคนอารมณ์ดีและมีอัธยาศัยเลิศแหม่! ไอ้หน้าหล่อ มองไปมองมามึงก็หล่อนะเนี่ย เสียอยู่สองอย่าง แม่งสูงเป็นเปรต กับหล่อน้อยกว่ากูนี่แหละ ^^!

    มีไรกะกูป่ะ? ผมถามมันไปด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยใส่ใจก้มหน้าลงมองแหวนรูปกะโหลกหนักเกือบกิโล(?)ที่อยู่บนนิ้วหัวแม่มือเหมือนมันมีอะไรดีนักหนาทั้งๆที่ในใจกำลังคิดจะเอามันออกจากนิ้วสักที แม่งแหวนสีตก ดำๆด่าง คันสัสๆส้นตีนเอ้ย!

    เรื่องพนัน...ผมเงยหน้าขึ้นสบตามันเลิกคิ้วใส่เป็นเชิงถาม แล้วมันก็ โอ้ทะเลแสนงามมม~... ยิ้มสวยสัสๆ โอ้ยกูชอบอ้าาาา ลักยิ้มมึงขายเท่าไหร่กูจะขอซื้อต่อ (?)

    กูจะมาบอกมึงว่ากูจะเปลี่ยน....มันหยุดประโยคไว้นิดหนึ่งพอให้ผมได้สงสัยเล่นก่อนจะต่ออีกประโยคที่ทำผมหงายเงิบ ไอ้สัสมึงทำกูเสียว!

    เปลี่ยนเป็นพนันว่ากูจะต้องจีบมึงให้ได้ภายในสองอาทิตย์แทน...สองแสนนะจ้ะเบบี๋^^” อะ..อะ..ไอ้เหี้ย! กูเป็นผู้ชาย มึงก็เป็นผู้ชาย แม่เจ้าได้โปรดอย่าจีบกูเลย กูเสียววววว -0-.....

    ไอ้เหี้ย(ที่ผมเหมือนจะไม่เคยรู้จัก)วางระเบิดตูมใหญ่กองอยู่ตรงหน้าผมก่อนมันจะเดินหายไป ทิ้งไว้เพียงใบหน้าเหรอหราของผมกับเสียงหัวเราะหึหึชวนขนหัวลุกของไอ้เหี้ยต้า ขนในกายผมลุกชัน ถ้ามันพูดจริงแล้วมาจีบผมจริงๆล่ะ? เหี้ยกูไม่อยากจะคิด!

    กูว่าไอ้ฝุ่นมันก็หล่อเข้ากับมึงดีนะซอร์ หึหึหึไอ้ต้าพูดก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะชวนเสียวสันหลังออกมา ผมหันไปมองมันด้วยสายตาชนิดหนึ่งที่ผมก็ไม่แน่ใจว่าคือชนิดไหน (?)แต่ที่รู้ๆคือกูกำลังอึ้ง ความคิดกำลังโลดแล่นไปไกล...ถามจริง กูเหมือนเคะเหรอไอ้สัส! กูชอบผู้หญิงเว้ยเฮ้ย!

    เงียบปากไปซะไอ้ต้า...ทำไมไม่รีบบอกกูว่ามันมาผมหันไปแยกเขี้ยวใส่เพื่อนรัก(แสนเหี้ย) ของตัวเองทีหนึ่ง เอ๊ะ! ผมบอกพวกคุณรึยังว่าไอ้ต้ามันเป็นใครน่ะ...?...คงยังไม่บอกสินะ...ไอ้ต้านี่เป็นเพื่อนโคตรสนิทของผมครับคบกันมาตั้งแต่ ม.ต้นจนมาถึงปีสามนี่ล่ะ ความจริงยังมีไอ้ไวน์อีกคนนะครับแต่ เหี้ยแม่งติดหนุ่ม(?) เลยไม่ค่อยได้สนใจเพื่อนผู้ประเสริฐอย่างพวกผม แต่ก็เอาเถอะครับอภัยให้ได้เพราะกูเองก็ทำแบบนี้กับพวกมันอยู่บ่อยๆ^0^

    ว่าแต่มึงไปพนันกับมันตั้งแต่เมื่อไหร่วะระหว่างที่ผมกำลังคิดย้อนถึงอดีตที่นานแส้นนานไอ้ต้าก็ถามขึ้น เรียกให้ผมสะดุ้ง

    อ่า...เมื่อกี้กูไปเข้าห้องน้ำเห็นมันพนันกันเลยพนันด้วยผมเอ่ยเรียบๆโดยมีไอ้ต้ายืนพยักหน้าให้เนิบๆอย่างเข้าใจก่อนจะอ้าปากถามอีกเพื่อสนองความเสือก

    พนันว่า?

    แสนนึงถ้าจีบไอ้คิมได้

    “!!!!”

     ไอ้ต้าเบิกตาขึ้นเล็กน้อย...เอ่อจะว่าไปก็ไม่น้อยมั้ง? กว้างอยู่ ในขณะที่ปากแม่งฉีกยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมขนลุกได้ทุกที ไอ้ต้ามันเป็นจำพวกเดาใจยาก ทำตัวคล้ายตาแก่เก่งอาคม หัวเราะทีแม่งเด็กกูหนีกระเจิงทุกที ซึ่งมันเป็นเหตุผลนึงที่ทำให้ผมกับไอ้ไวน์ไม่ชอบพาเด็กที่คั่วอยู่มาให้มันเจอ เกิดเด็กมันกระเจิงขึ้นมาตอนกูยังไม่ได้เคลมนี่ เรื่องใหญ่นะครับ เสียของแย่!

    หึหึ คงจะจีบติดหรอกนะน้องมึงน่ะ

    ทำไมวะ?

    ถ้ากูยังไม่ได้ไอ้ห่าหน้าไหนก็จีบไม่ได้...เก็ทไหมครับ?

    “!!!!”

    โคตรจะเก็ทเลยไอ้ห่า! นี่มึงกะจะเคลมน้องกูทีเผลอใช่ไหม!? ผมส่งสายตาอึ้งๆปนเชือดเฉือนไปให้ไอ้คุณเพื่อนรักสุดสวาทขาดใจ(?) ในใจก็ยังคิดไม่ตก หวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะพูดเล่นนะนั่น!...คือกูยังไม่อยากได้น้องเขยเป็นเพื่อนที่เห็นความเลวกันมาตั้งแต่เด็กนะครับ!

    ....

    ....

    ....

    ก๊ากกกกกกกกก!” เสียงหัวเราะดังผ่านประสาทกกหูเข้ามา ทำเอาผมส่ายหน้าไม่สบอารมณ์ คุณกำลังทายกันอยู่ใช่ไหมว่าเสียงหัวเราะเหี้ยๆนี่จะเป็นของใคร? ไม่ต้องทายครับ ผมจะบอกให้...มันคือเสียงสิบแปดหลอดของน้องสาวคนเดียวของผมเองครับ! และถ้าถามว่ามันหัวเราะอะไร ผมก็ยินดีจะบอกให้ว่ามันหัวเราะเยาะที่พี่ชายมันจะโดนจีบครับ ฮาไหมล่ะ!

    อิคิมคิ้ม! มึงจะหัวเราะอีกนานไหมเด็กกูกลัว อิห่า!” เอ่อ...แล้วคุณก็คงกำลังสงสัยอยู่เช่นกันใช่ไหมครับว่าไอ้เสียงตวาดที่แว้ดๆด่าเสียงหัวเราะไอ้คิมอยู่นี้เป็นเสียงใคร? ไม่ต้องทายครับ ผมจะบอกให้อีกรอบ มันคือเสียงของไอ้ไวน์เพื่อนผู้แสนดีของผมที่กำลังเอามือหยาบๆของมันปิดหูเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักที่กำลังนั่งสั่นด้วยกลัวเสียงหัวเราะของไอ้คิมอยู่บนตักมัน..คือถามจริงเสียงหัวเราะน้องกูเป็นพิษทางมลภาวะขนาดนั้นเลยเหรอวะครับ!

    มึงอย่ามากระแดะอีเหี้ย กูรำคาญเอาแล้วไงครับ ไอ้คิมหันไปด่าเด็กของไอ้ไวน์อย่างคนที่มีความเป็นผู้ดีสูงส่ง นั่น!แถมยังไปใช้ตีนเขี่ยมันอีก คือจะทำอะไรไว้หน้าเพื่อนพี่มึงมั่งเห้อะ! ถึงยังไงมึงก็อายุน้อยกว่ามันนะคิ้มมมมม ...แต่ถามว่าผมจะห้ามมันไหม ก็เปล่าครับเห็นแล้วก็สะใจดี กูก็รำคาญเหมือนกันแม่งอีตัวผัวไม่เท่าไหร่ (ยังไงก็เพื่อนกู) แต่อีตัวเมียนี่แม่งทำตัวแบ๊วเหลือเกิน เลยกลายเป็นว่าผมปล่อยให้มันทะเลาะกันไปส่วนตัวเองก็หันมาก๊งเหล้ากับไอ้ต้าที่นั่งฟังไอ้พวกนั้นทะเลาะกันเงียบๆ ซึ่งถ้าสังเกตให้ดี สายตาแม่งส่อแววอยากจับน้องกูทำเมียมาก!

    ตอนนี้พวกผมนั่งอยู่ในร้านอาหารกึ่งผับข้างๆมหาลัยครับเป็นผับของรุ่นพี่ที่มหาลัยนั่นแหละ ผับประจำไอ้ไวน์มันล่ะครับ เห็นว่าจะเอาเมียมาให้ดู ไอ้เราก็อุตส่าถ่อกันมาดู แล้วดูมันทำสิครับประคบประหงมเมียจนลืมเพื่อนอย่างพวกกู อีเด็กนั่นก็เหลือเกินครับเสียงดังนิดหน่อยแม่งก็ทนฟังไม่ได้ ถามจริงมึงไม่เคยได้ยินคนเค้าหัวเราะ(แบบอุบาทศ์ๆ)เหรอ?? จะบอกให้ว่าบ้านกูได้ยินบ่อยมาก!

    เออ..พอๆๆ กูยอมมึงละห่าคิม ว่าแต่มึงเหอะซอร์ตกลงไอ้ฝุ่นมันจะจีบมึงจริงๆเหรอเหมือนมันจะพึ่งนึกได้ว่าสมควรจะพอสักที ไอ้ไวน์ผลักหัวไอ้คิมนิดหน่อยก่อนจะหันมาพูดกับผมทั้งๆที่มีไอ้ลูกลิงนั่งป้อนขนมจนน่ารำคาญ

    จะว่าไปกูยังไม่รู้จักชื่อไอ้เปรตนั้นเลยนะ แล้วมึงรู้จักมันได้ไงวะ? คือถ้าย้อนไปก่อนหน้านี้ผมว่าไอ้ต้าก็เคยเรียกไอ้ห่านั่นว่าฝุ่นนะตกลงมันชื่อฝุ่นใช่ปะวะ? ทำไมกูถึงไม่รู้จักมันล่ะ...แต่ก็ช่างเหอะเพราะตอนนี้มันมีเรื่องที่น่าสนใจกว่าเรื่องไอ้หมอนั้นเยอะ!

    ตุบ!

    สงสัยไหมครับว่าเสียงอะไร? มันคือเสียงไฟแช็กผมที่ตกไปกระทบบนหัวไอ้ต้านี่ล่ะครับ! ไอ้ห่าจะสูบบุหรี่ก็บอกกูนี่ กูจะจุดไฟให้ไม่ต้องเสนอหน้าเข้าไปใกล้หน้าน้องกูขนาดนั้น ผมส่งสายตาขวางๆไปให้ไอ้ต้าที่ตอนนี้กำลังนั่งลูบหัวป้อยๆโดยไม่พูดอะไร แน่ะยังมีหน้ามายิ้มอีกนะมึง! สงสัยกันอีกแล้วใช่ไหมว่าแค่จะสูบบุหรี่ทำไมผมต้องเคือง ผมจะไม่เคืองเลยครับถ้ามันจะไม่คาบบุหรี่ไว้ในปากแล้วยื่นหน้าเอาบุหรี่ของมันไปจ่ออยู่กับบุหรี่ในปากของไอ้คิมที่กำลังจุดไฟใส่อยู่ อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะครับว่ามันมีจุดประสงค์อะไรนอกเหนือจากจุดบุหรี่น่ะ เพราะขนาดไอ้ไวน์ที่ว่าโง่ๆยังยกตีนถีบไอ้ต้าเข้าไปทีนึงข้อหาทำประเจิดประเจ้อให้ผมจับได้(?)

    ....?.... อ้าวไอ้เวร...นี่มึงส่งเสริมให้เพื่อนกินน้องสาวกูลับหลังเหรอ!

    พอๆ แล้วนี่ตกลงจะเอายังไงล่ะหนุ่มน้อย มันประกาศซะขนาดนั้นกูว่ามึงคงไม่รอดว่ะไอ้ไวน์วกประเด็นกลับมาเรื่องเดิมที่คุยค้างกันไว้ตั้งแต่แรก เอิ่ม =_=! ความจริงกูว่ามึงปล่อยให้มันผ่านเลยไปไม่ดีกว่าเหรอวะ? จะมารื้อฟื้นให้กูเสียวหลังทำเพื่อ???

    กูสงสัยว่ะ มันคิดยังไงถึงได้บอกว่าจะจีบมึงไอ้คิมพูดพลางพ่นควันสีขาวใส่หน้าผมประหนึ่งว่ามันลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นผู้หญิง ไอ้ห่าผู้หญิงสมัยนี้เขามีนิสัยแบบนี้ทุกคนรึเปล่าครับ ผมจะได้ไม่ต้องคบมันละผู้หญิงตอบตกลงไปกับไอ้เปรตนั้นเลยแม่ง

    อย่าไปใส่ใจเลย กูว่ามันคงแค่จะท้าทายไอ้ซอร์เล่นๆ นั่นแหละเด็กวิดวะก็เงี๊ยะไอ้ต้าพูดขึ้นเป็นคนสุดท้ายก่อนจะหันไปยกเหล้าขึ้นมาแดก คือความจริงเรื่องนี้มันคงจะไม่เป็นประเด็นหรอกครับถ้าไอ้ฝุ่นอะไรเทือกนั้นมันจะจีบไอ้คิม แต่คือมันบอกว่าจะจีบผมไงก็เลยกลายเป็นประเด็นไปเพราะเรื่องนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดไปหน่อย ลองจินตนาการดูสิครับ ผู้ชายแมนๆสองคนมาตามจีบกัน สยองสัสๆ กูยังชอบผู้หญิงเฟ้ย!

    อืม...งั้นกูกลับนะวันนี้คิวกูต้องไปนอนกับมาม้า คิมนอนคอนโดตัวเองนะมึงอย่าเสล่อไปนอนห้องชุดไอ้เหี้ยที่ไหนล่ะผมพูดก่อนจะลุกขึ้น ประโยคหลังไม่วายหันไปแขวะไอ้คิมกับไอ้ต้าเล็กน้อย คือจริงๆนะผมรู้ว่าไอ้ต้ามันยังไม่ได้เคลมน้องผมง่ายๆหรอกแต่ผมก็อดห่วงไม่ได้ ถึงจะเป็นเพื่อนกันมานานผมก็ไม่อยากวางใจอยู่ดี บอกตรงๆกลัวใจไอ้ต้าชิบหาย ไม่อยากจะให้เกิดเรื่องเพราะคนอย่างผม ถ้าหากมีปัญหากันผมไม่มีทางโทษน้องตัวเองแน่ๆล่ะครับ 
              พูดกันตามตรง ถ้าหากมันถึงขั้นที่สุดๆจริงๆถึงจะคบกันเป็นสิบปีผมก็ตัดได้ เรื่องนี้ไอ้ต้าย่อมรู้ดี แล้วนี่ก็อาจเป็นเหตุผลที่ว่าจนป่านนี้ไอ้ต้ามันก็ยังไม่กล้าพาน้องผมไปเคลม

    ผมเดินลอยละล่องออกมาเรื่อยๆอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก วันนี้คงต้องนั่งแท็กซี่กลับบ้านกันละครับเพราะเมื่อกี้เพิ่งใจดีจนเกินเหตุถึงได้ทิ้งรถไว้ให้ไอ้คิมมันขับกลับคอนโด ก็อย่างที่พวกคุณคิด

    ผมกับคิมอยู่คอนโด แต่ก่อนจะออกมาอยู่คอนโดมาม้าตั้งกฎไว้ว่าอาทิตย์หนึ่งพวกผมคนใดคนหนึ่งต้องกลับไปนอนกับท่านไม่งั้นจะไม่ยอมให้ออกมาอยู่กันเอง เพราะฉะนั้นในหนึ่งอาทิตย์จะมีวันนึงที่พวกผมสลับกันไปนอนที่บ้านกับมาม้า ซึ่งวันนี้ก็เป็นคิวกูน่ะสิครับ

    อ่าพี่ครับไปXXXXครับผมบอกพี่คนขับไปก่อนจะเอนหลังบนเบาะหลับตาลงไม่อยากรับรู้เรื่องใดๆอีก จะถามว่าผมเครียดอะไร ความจริงมันไม่มีอะไรให้เครียดหรอกครับ กูแค่เหนื่อยเท่านั้นเอง ถามว่าเหนื่อยอะไร? อันนี้ก็ตอบไม่ได้หรอกครับ...คนมันอยากจะเหนื่อยก็แค่นั้น จบประเด็นนี้ไป...!!

    .....

    น้อง น้องอยู่มหาลัย XXXX  รึเปล่าน่ะผ่านไปนานทีเดียวกว่าเสียงของพี่แท็กซี่จะเรียกให้ผมที่ไปเฝ้าพระอินทร์แล้วเรียบร้อยให้ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะตอบรับพี่แกไปแบบงงๆ

    อ่า...ใช่ครับ พี่มีอะไรรึเปล่า?ผมเอียงคอมองพี่คนขับที่ชะลอรถให้ช้าลง มองไปรอบก็เห็นได้ว่าตรงนี้มันเป็นซอยที่ติดๆกับซอยบ้านของผมว่าแต่พี่จะชะลอรถตรงนี้ทำเพื่อ??? ขับไปอีกซอยเซ่ ผมทำท่าจะอ้าปากบอกแกแล้วถ้าไม่ติดว่าพี่แกพูดอะไรบางอย่างออกมาก่อน

    งั้นก็ช่วยมองทีว่าไอ้ที่โดนสหประชาตีนนั่นใช่เด็กมหาลัยเดียวกันกับน้องรึเปล่า?ผมหันไปมองตามที่พี่คนขับบอก ก่อนจะเบิกตากว้าง ไอ้บ้า! สหประชาตีนที่ไหนเล่า นั่นมันกำลังจะชักปืนมายิงแล้วนั่น!!! แล้วไอ้คนนั้น?...บอกที่ซิว่าไอ้คนที่กำลังจะโดนซิวหัวนั่นไม่ใช่ไอ้เปรตที่เพิ่งพนันเรื่องบ้าบอคอแตกไปกับผมเมื่อเย็นน่ะ

    เฮ้ยพี่ขับรถผ่ามันเลย เดี๋ยวมันก็ยิงเพื่อนผมตายห่ากันพอดีเท่านั้นล่ะครับพี่แกก็เหยียบคันเร่งตรงไปยังที่ที่ไอ้ห่าฝุ่นกำลังโดนยำตีนอยู่ทันทีพร้อมกับบีบแตรลั่น ไอ้พวกชายชุดสีดำๆนั่นหันมามองอย่างตกใจก่อนจะวิ่งหายไปคนละทาง

    เอี๊ยดด!!  เสียงล้อบดเข้ากับถนนดังสนั่นผมรีบกระโดดลงไปช่วยไอ้ฝุ่นนั่นทันที ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นเพื่อนกับผมตอนไหน เอาไว้ค่อยคิด ตอนนี้วิญญาณคนดีกำลังเข้าสิง อย่างน้อยก็ช่วยๆมันก่อนครับ!!

    ตกลงว่าจะเอาไงวะน้องจะให้พี่ไปส่งโรงงบาลก่อนไหมพี่แท็กซี่ถามผมในขณะที่มือก็กำลังช่วยผมพยุงร่างที่(เกือบ)ไร้สติของไอ้ฝุ่นขึ้นรถ แหม่ พี่ช่างน้ำใจงามยิ่งนัก เพราะผมคนเดียวแบกมันไม่ไหวหรอกครับ ร่างมัน...ต่างกันเยอะ!

    อ่า....เออ...ไป ไปที่เดิมแหละพี่ เดี๋ยวที่เหลือผมจัดการมันเองผมกำลังจะตอบว่าพาไปโรงบาลอยู่แล้วเชียวถ้าไอ้คนที่เกือบหมดสติมันไม่ดึงเสื้อผมยิกๆซะก่อน  ถ้าญาณการเดาใจคนของผมยังไม่เสื่อมมันคงหมายความว่าอย่าพามันไปโรงบาลใช่ไหม?  

    เพียงไม่นานรถแท็กซี่คันสีฟ้าก็เข้ามาจอดเทียบหน้ารั้วบ้านของผมครับ ผมหันไปมองไอ้คนที่เพิ่งไปเก็บได้จากข้างทางด้วยสายตาเอ่อ...กึ่งมึน กึ่งงง และอีกหลายกึ่ง เอาเป็นว่าผมไม่รู้ละกันว่าตัวเองมองแบบไหนมันหลายอารมณ์เกิน แต่ที่รู้ๆคือผมเป็นห่วงสภาพมันมากครับตอนนี้ ใบหน้าที่ผมขอบอกแบบไม่มีอคติเจือปนเลยว่าหล่อมาก ตอนนี้เละแทบไม่เหลือเค้าเดิม หัวคิ้วแตกเป็นแผลค่อนข้างลึก มุมปากก็แตก ตามร่างกายมีทั้งรอยแผลกับรอยช้ำไปทั่วร่าง เลือดก็เลอะกรังไปทั้งตัว

    อ่านี่ครับเงิน ยังไงก็ขอบคุณพี่มากนะครับ^^”ผมยื่นเงินจำนวนหนึ่งให้พี่แท็กซี่โดยไม่ได้เหลือบมองมิเตอร์เลยแม้แต่น้อย ก่อนจะค่อยๆพยุงกึ่งลากซากศพที่ผมไปเก็บมาได้เมื่อไม่กี่นาทีก่อนเข้าบ้านด้วยความทุลักทุเลยิ่ง ต้องเข้าใจครับผมมันเป็นผู้ชายร่างบางต่างกับมันที่เป็นไอ้ตัวร่างยักษ์ หนักชิบหายวายวอดเลยครับขอบอก!

    ซอร์รี่ของม้า..มาแล้วเหรอค้าาาาเสียงแสบแก้วหูของหญิงผู้มีอิทธิพลยิ่งในชีวิตของผมดังมาแต่ไกลก่อนร่างบางๆของมาม้าจะมาปรากฎอยู่ต่อหน้าผมด้วยอาการเหวอเล็กน้อยเมื่อมองมาเห็นสภาพของคนที่ผมแบกเข้ามาด้วย
             ...ซอร์รี่ขอสัญญากับมาม้านะครับ ว่าจะไม่ยอมให้มันมาตายในบ้านเด็ดขาดอย่างน้อยถ้ามันจะตายจริงๆซอร์รี่จะโยนมันไปตายข้างนอกบ้านนะครับ!
               ผมมองหน้ามาม้าที่ยืนอ้าปากหวออย่างชั่งใจ กำลังคิดอยู่ว่าผมจะเอาไอ้ห่านี่ไปไว้ไหนถ้ามาม้าไม่ยอมให้เข้าบ้าน...แต่ดูเหมือนผมจะคาดอะไรผิดไป(มาก)หน่อยแฮะ

    ซอร์รี่...นี่เพื่อนลูกเหรอ? เข้าบ้านๆ...อ้อย อิ่ม เอาผ้ากับน้ำอุ่นตามไปที่ห้องซอร์รี่ด่วนเลย อ้อ...ขออุปกรณ์ทำแผลด้วยนะเพล้ง! ได้ยิ้นไหมครับ มันคือเสียงความคิดของผมก่อนหน้าที่หล่นลงแตกยับ เพราะพอหายตกใจแทนที่จะไล่ให้ผมเอาไอ้ซากศพนี่ออกไปให้ไกลจากบ้าน มาม้ากลับสั่งให้เอามันไปเก็บในห้องลูกชายของท่านเสียอย่างนั้น  ผมเลยทำได้แค่รีบพาร่างของมันขึ้นไปชั้นบนครับ เพราะหากยังยืนอยู่ตรงนี้คาดว่าไอ้ฝุ่นมันคงได้ตายอยู่หน้าบ้านผมเพราะเสียเลือดมากเป็นแน่แท้!

    ....

    ....

    ....

    แล้วนี่ไปมีเรื่องอะไรกันมาล่ะเอาแล้วไง...หลังจากที่มาม้าผู้มีจิตใจสูงส่งของผมทำการบูรณาการร่างของไอ้ฝุ่นอะไรนั่นเสร็จ ก็หันหน้ามามองผมด้วยสายตาเชือดเฉือนราวกับอยากจะฆ่าผมให้ตายซะตรงนี้  มันเหมือนเป็นการระแวงส่วนตัวของมาม้าน่ะครับ ต้องเข้าใจว่าลูกชายท่านเคยเลวมาก่อนมันเลยอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่อาจเป็นเพราะผม...ก็อย่างว่าละครับ คนทำผิดมักเป็นเป้าเสมอ มันเป็นเรื่องธรรมดา หึๆ

    ผมทำเพียงยักไหล่นิดหน่อยให้ท่านก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงใกล้ๆกับร่างของไอ้ฝุ่นที่นอนจับจองเตียงของผมเป็นที่เรียบร้อย เลี่ยงบรรยากาศมาคุที่กำลังเกิดขึ้นภายในห้องโดยการไปหยิบผ้าขนหนูและเลือกที่จะเดินเข้าห้องน้ำ ที่ผมไม่ตอบ ไม่ใช่เพราะจะหนีความผิดหรืออะไร เพราะอย่างที่รู้ๆผมแค่ไปเก็บมันมาได้เท่านั้น ไม่ได้เข้าไปวุ่นวายหรือร่วมรุมกระทืบมันแต่อย่างใด แต่ที่ผมเลือกที่จะเลี่ยง นั่นเพราะผมไม่รู้จะบอกท่านว่ายังไง ผมไม่รู้ว่าไอ้ฝุ่นมันไปมีเรื่องกับใคร ผมว่ารอให้มันตื่นขึ้นมาพูดกับมาม้าเลยจะดีเสียกว่า เพราะการที่ผมจะพูดหรือเอ่ยอะไรออกมาตอนนี้คงจะไม่มีใครใคร่จะเชื่อสักเท่าไหร่...ผมน่ะประวัติไม่ดีนักหรอก!

    ใช้เวลาร่วมชั่วโมงกว่าผมจะเดินออกจากห้องน้ำได้  อันที่จริงผมไม่ได้เป็นคนอาบน้ำช้าหรืออะไรหรอกครับ...เพราะจริงๆแล้วกูหลับครับผม!! หลับมันคาอ่างอาบน้ำนั่นละครับ

    อ่อ...เจ้าของห้องอยู่นี่นี่เองเสียงทุ้มแหบๆดังขึ้นทำให้ผมที่ง่วนอยู่กับเสื้อผ้าในตู้หันไปมองสบเข้ากับนัยน์ตาสีสนิมที่มองผมอยู่ก่อนแล้ว ผมแย้มยิ้มเล็กน้อยแบบที่ไม่ค่อยมีความหมายเท่าไหร่ให้มัน คิดได้แค่นี้แหละครับไม่รู้จะพูดอะไรกับมัน

    ผมหันมาสนใจกับเสื้อผ้าอีกครั้ง หยิบเสื้อคอกลมสีดำซีดๆกับบ็อกเซ่อร์เก่าๆตัวหนึ่งมาใส่ ก่อนจะเดินหน้าเชิดไปยืนพิงโต๊ะหนังสือที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเตียงโดยมีสายตาคู่หนึ่งมองอยู่ตลอด

    ไงล่ะ...ไปมีเรื่องกับใครเข้าล่ะพ่อรูปหล่อผมถาม วางท่ากวนประสาทมันนิดหน่อยพอเป็นพิธีเพื่อไม่ให้เสียมาด แหม่...หล่อบรรเจิดเลยผมเนี่ย ^0^

    มาเฟียแถวบ้านมันตอบพลางยิ้มเผล่ ความจริงผมว่าผมทำหน้าได้กวนอารมณ์แล้วนะเจอมันเข้าไปนี่ กินกูขาดเลยเหอะ! ผมมองหน้ามันนิ่งด้วยความโมโหที่พุ่งขึ้นหน้าอย่างไร้เหตุผล เดินไปทิ้งตัวลงบนเตียงข้างๆมันด้วยมาดที่คุณชายพุฒิภัทรยังคงชิดซ้าย คุณชายรัชชานนท์นี่ยังเทียบไม่ติด มาดของว่าที่หมอริทผสมเฮียโน่ล้วนๆครับ กวนส้นตีน สัสๆอ่ะ ^^

    บอกกูหน่อยซิ ว่ากูควรจะยำตีนให้มึงต่อจากพวกมันไหม?ผมพูดด้วยน้ำเสียงค่อนไปทางเย็นชา มองหน้ามันนิ่งในขณะที่มันก็จ้องผมนิ่งเหมือนกัน คล้ายๆกับสงครามประสาทจะเริ่มยังไงไม่รู้นะครับ เพราะเราเอาแต่มองหน้ากันนิ่ง ไม่คิดจะทำความรู้จักหรืออะไรทั้งสิ้น ปล่อยให้บรรยากาศมาคุลอยฟุ้งไปรอบๆห้อง ผมไม่ใส่ใจที่จะพูดก่อน มันก็เหมือนกัน...

    ...กูชื่อใต้ฝุ่นถ้ามึงจะอยากรู้

    ...

    ...

    ฮะ??

     ผมแทบจะหลุดหัวเราะออกมาดังๆกับคำพูดที่หลุดออกมาจากปากมัน คือมันเลือกที่จะแนะนำตัวในขณะที่ผมแทบจะกระทืบมันอยู่รอมร่อเนี่ยนะ? ผมมองมันด้วยแววตาขบขันเต็มที่ ห้ามตัวเองไม่อยู่จนต้องอมยิ้มออกมาหน่อยๆ อย่างนี้สิ ถึงจะน่าคุยด้วยหน่อย

    กูชื่อซอร์รี่...ผมแย้มยิ้มก่อนจะแนะนำตัวเองบ้าง ความจริงนี่อาจไม่ได้เป็นสิ่งที่คนที่เกือบจะตีกันอยู่ร่อมร่อมักจะทำ เอาจริงๆมันไม่มีหรอกครับไอ้คนแบบนี้น่ะ มันมีแต่ตีกันจนตายมากกว่า  ก็นับว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ของชีวิตนะ อยู่กับมันไม่กี่นาที ผมทั้งโมโหแล้วก็หลุดขำได้แบบติดๆกัน ถือว่ามันทำลายสถิติของผมเลยนะ!

    เหอะๆ เอาเป็นว่าวคืนนี้มึงก็นอนห้องนี้ไปก่อนละกันพรุ่งนี้ตื่นมาจะได้ให้คนขับรถไปส่งผมพูดพลางลุกขึ้นจากเตียงเพราะไม่รู้ว่าจะพูดกับมันยังไงต่อ ไหนๆก็ไม่รู้จักกัน แค่แนะนำชื่อกันก็คงจะพอมั้งผมว่า อีกอย่างตั้งใจว่าคืนนี้ผมคงต้องระเห็จไปนอนห้องรับแขกแล้วล่ะครับ เพราะผมคงไม่สนิทใจเท่าไหร่ถ้าจะนอนกับคนที่เพิ่งประกาศไปก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมงว่าจะจีบผม ถึงมันจะไม่ได้มีท่าทางจะจีบผมแบบที่มันพูดไว้ก็เหอะ

    นี่...เรื่องที่พนันกันไว้น่ะ...กูเอาจริงนะจู่ๆเสียงมันก็แทรกขึ้น ขาที่กำลังจะก้าวพ้นประตูของผมหยุดชะงัก ผมไม่ได้หันไปมองคนพูดแล้วก็ไม่ได้คิดที่จะหันไปมองมันด้วย บอกตรงๆผมกลัว...น้ำเสียงมันจริงจังจนน่ากลัว คือผมไม่ได้อยากมีแฟนเป็นผู้ชายนะเห้ย!

    ถ้ามึงทำได้...กูยอมจ่ายสด สองแสน!!” ผมบอกออกไปอย่างนั้นก่อนจะสาวเท้าออกมาจากห้องเป็นการเร่งด่วน ไม่อยากจะเสวนาหรือหันไปมองมันด้วยซ้ำ ไม่ใช่เพราะเขิน ไม่ใช่เพราะอาย แต่-กู-เสียวววว! -0-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×