ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Don't Love You No More ขอโทษทีพ พอดีรักนายมากไปหน่อย

    ลำดับตอนที่ #5 : เรื่องราวครั้งที่ 5

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ย. 56








    ตอนที่ 5 บทสรุปครั้งสุดท้าย


                ขุนหน้าเหวอทันที และใบหน้านั้นก็ทำให้เซอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ ชายหนุ่มยืนมือไปขยี้หัวคนตัวเล็กกว่าแล้วกล่าวเบาๆ

                "อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ เห็นแล้วมันแกล้งต่อไม่ลงนะ"

                "แกล้ง แกล้งอะไร?" ขุนปัดมือเซออกแล้วถามด้วยท่าทางเอ๋อๆ เซเอามือปิดปากทำนองตกใจเล็กน้อยก่อนจะยิ้มเจื่อนๆ อา...นี่เขาเผลอพูดอะไรออกไปล่ะนี่?

                "ก็ คือพวกแพรพัน อิงฟ้า วายุ แล้วก็คานัน ....." และเซก็เริ่มต้นเล่าเรื่อง

    เมื่อสองสามวันก่อน

                "เซ" เสียงแพรพันเรียกเซให้หลุดจากการเหม่อลอย ชายหนุ่มหันไปมองเธอที่กำลังยืนหน้าเครียดอยู่ "อะไร" เซถามนิ่งๆ

                "นายเคยเห็นนุ่นที่เป็นว่าที่คู่หมั้นของขุนมันใช่ไหม?" เซพยักหน้ารับ

                "เด็กคนนั้น เป็นญาติฉันเอง" เซขมวดคิ้วเล็กน้อย "มาบอกฉันทำไม?" เขาถามกลับ แพรพันถอนหายใจเฮือกใหญ่ "นายน่ะ แอบชอบขุนอยู่สินะ" เหมือนมีดปักลงกลางใจ เซสะอึกไปเล็กน้อยแต่ก็ไม่ตอบอะไร เขาเห็นแพรพันกวักมือเรียกวายุ อิงฟ้า และคานันเข้ามาร่วมในการสนทนาด้วย

                " เซ ขุนมันแสดงได้ไม่ค่อยดีเลยหลังจากที่นายตีตัวออกห่าง ถ้านายไม่ได้คิดอะไรกับมันจริงๆ นายจะตีตัวออกห่างทำไม?" อิงฟ้ายิงคำถาม เซเหลือบมองหน้าคานันที่เป็นเพื่อนเก่าเล็กน้อย ยัยนั่นยักไหล่ก่อนจะพูดขึ้นมา

                "ไม่ต้องอ้างเรื่องของฉันเลยนะ ที่นายมาเทคแคร์ฉันช่วงนี้ไม่ใช่เพาะฉันเป็นเด็กใหม่แน่ๆ นายก็รู้ น้าฉันกับฝ่ายปกครองรู้จักกัน และฉันที่ต้องย้ายบ้านตามแม่มากะทันหันก็ไม่ใช่ปัญหาในการปรับตัว เรื่องนี้นายรู้อยู่แก่ใจ"

                "พวกเธอต้องการอะไรกันแน่" เซถามอีกครั้ง เขาไม่เข้าใจจุดประสงค์ของผู้หญิงสี่คนนี้เลย "นุ่นจะเป็นญาติแพรพันแล้วยังไง? ฉันจะอยู่กับคานันเพราะไม่อยากเจอขุนแล้วยังไง? ขุนมันจะแสดงบทบาทไม่ดีแล้วยังไง? เกี่ยวอะไรกับพวกเธอไม่ทราบ"

                "เกี่ยว นุ่นไม่ได้รู้สึกกับขุนในแบบชู้สาว เธอแค่รู้สึกดีที่ได้เห็นเคะในดวงใจ" แพรพันตอบอย่างมั่นใจ เซขมวดคิ้วเมื่อได้ยินศัพท์แปลกใหม่ เคะคืออะไร?

                "นายไม่ต้องสนใจไอ้คำว่าเคะอะไรนั่นหรอก บอกมาเถอะว่านายคิดยังไงกับขุน" วายุเร่ง เซเบือนหน้าหนีก่อนจะตอบด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ

                "ก็รู้อยู่แล้วจะมาถามทำไม" สี่สาวยิ้มให้กันอย่างมีเลศนัย แพรพันขอตัวออกไปโทรศัพท์หานุ่นเพื่อบอกข่าว ส่วนวายุ อิงฟ้า และคานัน ยังคงยืนอยู่รอบตัวเขา

                "ถ้านายคิดแบบนั้น ทำไมนายไม่บอกขุนไป? .... รึนายกลัวหมอนั่นจะปฏิเสธ" เซไม่ตอบ วายุจึงหันหน้าไปมองอิงฟ้าเป็นเชิงให้พูดต่อ

                "เซ พูดไปนายอาจไม่เชื่อ แต่ขุนน่ะ ... มันก็น่าจะชอบนายอยู่นะ"

    กลับมาที่ปัจจุบัน

                ขุนหน้าขึ้นสีทันทีที่ได้ยินประโยคสุดท้ายที่เซเล่า อะไรทำให้ยัยพวกนั้นคิดแบบนี้นั้นเนี่ย แล้วยัยนุ่น ที่ผ่านๆมาก็แค่คอยจับตาดูเขาเพราะเขาเป็นไอ้เคะในดวงใจที่ว่า แค่นั้นเองเรอะ!

                "พวกฉันวางแผนให้นุ่นเซ้าซี้นายมากขึ้น และให้ฉันห่างนายให้มากขึ้นเพื่อดูปฏิกิริยาของนาย แล้วมันก็อย่างที่เห็น" เซยิ้ม "ไม่นึกว่านายจะไม่สนใจคู่หมั้นที่เป็นเด็กสาวตัวเล็กๆ แต่กลับมา...." เซพูดไม่ทันจบ ขุนก็ยกมือขึ้นปิดปากเขาซะก่อน

                "นายแกล้งฉัน!!" คนตัวเล็กกว่าตัดพ้ออย่างน้อยใจ ขุนเม้มริมฝีปากเบาๆแล้วก้มหน้าไม่ยอมสบตา มือทั้งสองค่อยๆเลื่อนออกจากริมฝีปากของเซแล้วปล่อยมันไว้วางลำตัว "แกล้งฉันทำไม?" เสียงน้อยใจแบบนั้นทำให้เซต้องยิ้มอีกรอบ ก็มันน่าแกล้งไหมล่ะ??

                "แกล้งเคะของตัวเองน่ะ มันผิดตรงไหนล่ะ?" ขุนเงยหน้ามองคนสูงกว่าทันที ถึงเขาจะไม่รู้ความหมายของคำๆนั้น แต่ก็เดาได้ไม่ยากว่าควาหมายคล้ายคลึงกับคำว่าผู้หญิง

                "คะ ใครเป็นเคะของนายกัน!" ขุนเบนหน้าไปทางอื่น เสียงหัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะเมื่อใบหน้าของเซขยับมาจนเกือบชิด คนร่างสูงขยับยิ้มเบาๆ แล้วกระซิบข้างหู

                "นายไง เคะที่ฉันรักที่สุด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×