ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {EXOYOU} : [Sehun] Waiting for you การรอคอย

    ลำดับตอนที่ #2 : EXOXYOU:SEHUN WAITING FOR YOU 1 100%

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 57


        

     

    Ficforyou
    Waiting for you 1

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------




           ไอ้เซฮุนโว้ยมึงตายอยู่ในห้องน้ำหรอวะ!!”

     

       เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายของรูมเมทดังก้องไปยังห้องน้ำที่มีเซฮุนอยู่ ก่อนประตูจะถูกเปิดออกพร้อมกับสีหน้าเรียบนิ่งของเจ้าตัว เล่นเอาจงอินที่เป็นเพื่อนร่วมห้องหมั่นไส้

     

            “เดี๋ยว..”

     

       เซฮุนชะงักฝีเท้าก่อนจะหันมามองตามเสียงเรียกของจงอิน ในขณะที่มือหนายังคงเช็ดผมตัวเองอยู่ลวกๆ

     

            “มึงหาพี่รหัสเจอยัง?”

     

       เซฮุนส่ายหน้าแทนคำตอบสองอาทิตย์แล้วตั้งแต่เขาเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ประเพณีพี่รหัสน้องรหัสเริ่มขึ้นตั้งแต่เริ่มเปิดภาคเรียนจนป่านนี้เขาก็ยังหาตัวไม่เจอด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะมาใส่ใจสักเท่าไหร่ ยังไงซะพี่รหัสเขาก็มาปรากฏตัวเองล่ะ

     

         ชายหนุ่มสวมยูนิฟอร์มเสร็จเรียบร้อยเตรียมตัวจะไปเรียนคาบบ่ายนี้ ทว่าเสียงจงอินทั้งๆที่อยู่ในห้องน้ำเอ่ยใช้เขาเสียก่อน

     

          “ไปรดน้ำดอกไม้ที่หน้าระเบียงด้วย

     

       เซฮุนส่ายหน้าอย่างเอือมระอาก่อนจะไปหยิบฝักบัวรดน้ำแล้วเดินออกไปที่ระเบียง มือขาวจัดการรดน้ำดอกไม้สีสดในกระถางช้าๆ เขาไม่ใช่คนพิถีพิถันอะไรมากและดอกไม้นี่ก็ไม่ใช่ของเขา แต่มันเป็นของจงอินที่ปลูกไว้เอาไปให้แฟนมัน

     

       ทว่าดวงตากลับมองเห็นผีเสื้อตัวน้อยๆกำลังเกาะอยู่กับกลีบดอกไม้สีสดอยู่ สีของปีกมันดูโดดเด่นกว่าดอกไม้ดอกนั้นเสียอีกขยับปีกเล็กน้อยๆเมื่อดูดน้ำหวานเสร็จสรรพก็บินผ่านหน้าเขาไป

     

      ดูดน้ำหวานเสร็จแล้วก็บินจากไปงั้นหรอ..

     เหมือนใครบางคนที่เข้ามาทำให้หัวใจหวั่นไหวแล้วเดินจากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

    เซฮุนหันหลังกลับเข้ามาจัดการปิดประตูหน้าระเบียงก่อนที่จงอินจะเดินถือโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาจากห้องน้ำ หน้าตาดูไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่

     

          “มือถือมึงลืมในห้องน้ำเอาเข้าไปทำเชี่ยไรห้ะ?”

     

        เซฮุนไม่ตอบคำถามแต่กลับไปหยิบมือถือของตัวเองในมือของจงอินมองดูพวงกุญแจรูปผีเสื้อที่ห้อยอยู่ว่ามันหลุดหรือไม่

     

          “ผีเสื้อหรอนี่มึงตุ้ดป้ะเนี่ย?”

     

        เซฮุนเหลือบตามองหน้ารูมเมทด้วยสายตาขวางเล่นเอาจงอินหุบยิ้มทันทีก็ไม่เข้าใจหรอกว่าที่เวลาเขาพูดถึงผีเสื้อทีไรมันจะเป็นแบบนี้ทุกที เคยเข้าไปในห้องนอนมันครั้งนึงนึกว่าดงผีเสื้อซะอีก

     

       เซฮุนเก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกงก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยไม่สนใจรูมเมทตัวเองที่ยืนเกาหัวอยู่อย่างงุนงง

     

      ชายหนุ่มเดินเข้ามหาวิทยาลัยตามปกติที่เคยทำ นึกถึงตอนเรียนอยู่มัธยมปลายกว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยที่นี่ได้มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เพราะใครบางคนที่เป็นเหมือนแรงผลักดันให้ตั้งใจและทำให้ได้และในที่สุดเขาก็ทำได้



            แต่จุดประสงค์ไม่ใช่มหาวิทยาลัยแต่เพราะใครบางคนต่างหากที่ทำให้เขาดั้นด้นมาที่นี่ นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้เจอใครคนนั้น

         สามปีแล้วสินะ

     

       สองอาทิตย์ที่เปิดภาคเรียนก็ยังไม่เจอหน้าใครคนนั้นสักที มหาลัยตั้งใหญ่ตั้งกว้างแล้วเมื่อไหร่เซฮุนจะได้เจอสักที

     อยากเจอจนใจจะขาดแล้วนะ

     

        พี่คนดี..ของโอเซฮุนอยู่ที่ไหน..

     

       บรรดานักศึกษาสาวรุ่นพี่ต่างมองเขาเป็นตาเดียวมันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เขาอยู่ม.ปลายแล้วจนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังถูกจับจ้อง เซฮุนไม่ค่อยชอบเป็นจุดเด่นไม่ชอบให้ใครจ้องมองเขาบ่อย ดังนั้นเขาจึงหลบเลี่ยงสายตานับสิบแบบนี้เป็นประจำ

     

            คนที่อยากให้มองกลับไม่มองเห็นเขาด้วยซ้ำ

     

       ชายหนุ่มเดินไปยังล็อกเกอร์เก็บของทว่ามันกลับผิดปกติเมื่อล็อกเกอร์ของเขาถูกเปิดออกอยู่ เซฮุนเห็นเพียงร่างหญิงสาวด้านข้างกำลังทำอะไรอยู่ข้างในล็อกเกอร์ยุกยิกๆ แถมยังเขย่งปลายเท้าให้ลำตัวสูงขึ้นไปอีก

     

         

            “ทำอะไรครับ?”

         
              “โอ๊ะ!”

     

        หญิงสาวนิรนามสะดุ้งโหยงเมื่อเจอเสียงบุคคลใหม่ ก่อนที่บานประตูล้อกเกอร์จะถูกจับโดยเจ้าของ นั่นทำให้รู้ได้ทันทีว่าถูกจับได้เสียแล้วสินะ

     

    เซฮุนหรี่สายตามองด้วยสีหน้าเรียบนิ่งจนกระทั่งหญิงสาวหันหน้ามาเท่านั้น ใบหน้าที่เคยเย็นชากลับแปรเปลี่ยนเป็นตกใจ ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะใช่….

     

           สามปีที่ผ่านมาไม่เคยเปลี่ยนไปสักนิด

            พี่คนดีของโอเซฮุนอยู่ตรงหน้าแล้ว..

          เรื่องจริงใช่ไหม เซฮุนไม่ได้ฝันไป

     

     

     

     

         เซฮุนกัดริมฝีปากก่อนจะจ้องหน้าพี่คนดีอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้มองผิดไป เขาจำทุกอย่างเกี่ยวกับพี่คนดีได้หมด จำทุกอย่างแม้กระทั่งสิ่งเล็กๆน้อยๆที่พี่คนดีชอบหรือไม่ชอบอะไร

      แล้วพี่คนดีจะจำเซฮุนได้รึเปล่า

     

          “โดนจับได้ซะและ

     

       หญิงสาวเอ่ยออกมาพร้อมถอนหายใจออก ในขณะที่เซฮุนกำสายสะพายกระเป๋าไว้แน่นกำลังรอว่าพี่คนดีของเขาจะพูดอะไรต่อไป

     

          “โอเซฮุนสินะ..”

     
     

       เซฮุนเบิกตากว้าง หรือว่าพี่คนดีจะจำเขาได้ พี่คนดีจำเซฮุนเมื่อสามปีก่อนได้ใช่ไหม

     

          “พี่คือพี่รหัสนายไง..”

     

      …..เปล่าเลย

      พี่คนดีไม่ใช่แค่จำไม่ได้แต่เซฮุนไม่เคยอยู่ในความทรงจำของเธอเลยต่างหาก ที่แท้เธอก็คือพี่รหัสของเขาเองสินะ ที่พูดชื่อเขาก็เพราะเป็นน้องรหัสไม่ใช่เด็กชายโอเซฮุนเมื่อสามปีก่อนเลย

     

          “พี่ชื่อนาบีเรียกบีเฉยๆก็ได้

     

        

           เซฮุนพยักหน้ารับก่อนที่หญิงสาวจะเอื้อมมือมาลูบหัวเบาๆพร้อมกับส่งรอยยิ้มให้ให้ความอบอุ่นระหว่างพี่กับน้อง

     
          แต่สำหรับโอเซฮุนมันไม่ใช่

      

          การกระทำแบบนี้รอยยิ้มแบบนี้สายตาแบบนี้ มันทำให้เขานึกถึงเมื่อสามปีก่อนที่พี่คนดีช่วยเขาไว้  ตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็นถึงแม้มันจะเป็นเพียงวัยเด็กของเขาและพี่คนดีที่อยู่มัธยมปลายก็ตาม

     

    ทำไมนะ ทำไมกัน ทำไมถึงจำเซฮุนไม่ได้

     

          “น้องรหัสพี่หล่อจัง

     

        หญิงสาวพูดพลางเลื่อนมือมาหยิกแก้มเบาๆ รู้สึกชอบใจอีกฝ่ายที่เป็นคนไม่ค่อยพูดค่อยจา ความจริงนาบีเพิ่งมาดูแลน้องรหัสก็วันนี้ สองอาทิตย์ที่ผ่านเธอกำลังวุ่นอยู่ธุรกิจทางบ้านจนไม่มีเวลามาดู แต่ก็ถูกจับได้ตั้งแต่วันแรกซะแล้ว

     

          “ว่าแต่กินข้าวเที่ยงหรือยัง?”

     

       นาบีเอ่ยถามก่อนจะลดมือลงแล้ววางไว้ข้างลำตัวเหมือนเดิม จ้องมองหน้าน้องรหัสที่ทำตัวไม่ถูกอยู่แล้วนึกขำ เซฮุนเป็นอะไรไปเธอดูน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอ

     

          “..ยังครับ..”

     

          “ดีเลยพี่ทำข้าวกล่องมาให้ด้วยแหละ

     

       หญิงสาวพูดพร้อมกับหยิบข้าวกล่องห่อด้วยผ้าอย่างดีจากล็อกเกอร์ที่กะว่าจะให้น้องรหัสแปลกใจเสียหน่อย แต่ยังไงซะถูกจับได้แล้วก็กินด้วยกันเลยแล้วกัน

     

          “ไปกินข้าวกัน

     

       ข้อมือหนาถูกมือเล็กๆของพี่คนดีคว้าจับแล้วออกแรงดึงให้เดินไปตามกัน ก้มมองข้อมือตัวเองจู่ๆแก้มสีขาวก็ปรากฏรอยแดงจางๆ ความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ชินชาไปนานกว่าสามปี



           มันเป็นแบบนี้หากมีพี่คนดีอยู่ข้างๆ

     

        
             “ทำไมเซฮุนไม่ค่อยพูดเลยล่ะ

     

        นาบีเอ่ยถามในขณะที่ยื่นตะเกียบให้น้องรหัสตัวเอง สังเกตมาอยู่พักใหญ่ๆมีแค่เธอเท่านั้นที่เป็นฝ่ายถามอยู่ฝ่ายเดียว มันก็ดีอยู่ที่น้องรหัสของเธอเป็นแบบนี้ แต่เซฮุนก็ไม่พูดอะไรออกมาเลยเว้นก็แต่พยักหน้ากับส่ายหน้าเท่านั้น

     

          “ผม…”

     

       ผมคิดถึงพี่..

     

          “ฮะฮ่าฮุนอ่าไม่ต้องเกร็งก็ได้ทำตัวสบายๆเถอะ

     

         นาบีพูดอย่างเป็นกันเองกับน้องรหัสตัวเองเพื่อให้เซฮุนไม่ต้องอึดอัดระหว่างพี่น้องที่เพิ่งพบกันครั้งแรก เหลือบมองชายหนุ่มที่ก้มหน้าก้มตาเงียบกริบก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวน้องอย่างอ่อนโยน

     

          เซฮุนประหม่าอีกครั้งไม่กล้าสบตากับพี่คนดีของเขาตอนนี้หน้าอกด้านซ้ายมันเต้นแรงจนกลัวว่าเธอจะได้ยิน

        เซฮุนชอบที่พี่คนดีลูบหัวเขา ชอบที่พี่คนดียิ้มให้เขา ชอบที่พี่คนดีพูดกับเขา ชอบทุกอย่างที่เป็นนาบี นาบีที่เหมือนผีเสื้อที่สดใสยามดูดเกสรดอกไม้….

     

          “ไม่กินซักทีพี่ป้อนดีกว่า

     

       นาบีหยิบตะเกียบจากมือของเซฮุนคีบข้าวปั้นที่เธอตั้งใจทำมาให้แล้วยื่นจ่อปากน้องรหัสที่ดูอ้ำอึ้งอยู่อย่างไม่คิดอะไร เซฮุนเงยหน้าขึ้นมองก่อนที่หญิงสาวจะยิ้มให้ ยิ้มให้อีกแล้ว

     

     ชายหนุ่มอ้าปากกินข้าวปั้นจากพี่คนดีป้อนให้ มันอร่อยที่สุดแล้วสำหรับอาหารที่กินมาทั้งหมด ในขณะที่นาบีจ้องมองน้องรหัสตัวเองเพื่อรอดูว่าอาหารที่เธอทำมาจะกินได้หรือเปล่าและก็ต้องโล่งอกเมื่อเซฮุนยังคงเคี้ยวตุ้ยๆไม่พูดอะไรสักคำ

     

     

          “อร่อยมั้ย?”

         

           “…”

     

        เซฮุนเงยหน้ามองหญิงสาวเมื่อได้ยินคำถาม ใบหน้าเปื้อนยิ้มของพี่คนดีทำให้เซฮุนต้องอมยิ้มที่มุมปากน้อยๆซึ่งน้อยคนนักที่จะเห็นมันหรือบางทีอาจจะไม่มีเลยก็ได้..

    พี่คนดีจะเป็นคนเดียวที่ได้เห็นมันเท่านั้น

     

          “ว่าไงหืม?”

     

          “..อร่อย..ครับ..”

     

          “จริงหรอดีใจจังพี่ตั้งใจทำมาให้เราเลยนะกินเยอะๆล่ะ

     

     

        เป็นอีกครั้งที่พี่คนดีคีบอาหารมาจ่อปากป้อนคำที่สองเซฮุนไม่รอช้ารับอาหารเข้าปากทั้งที่ยังอมยิ้มอยู่ มันคงจะดีหากได้กินข้าวกับพี่คนดีของเขาทุกวัน..

     

     

    ครืด ครืดด

     

          “อ่าว่าไงมาร์ค..”

     

        เซฮุนจ้องมองพี่คนดีพูดกับคนปลายสายโดยที่หญิงสาวขยับตัวเปลี่ยนท่าหันข้างคุยโทรศัพท์อยู่

     

          “ฮะฮ่าแกจะบ้าหรอวะ

     

        เซฮุนรู้สึกไม่ชอบใจที่รอยยิ้มของพี่คนดีที่เคยยิ้มให้เขาถูกแบ่งให้ใครอีกคนที่อยู่ปลายสาย ชายหนุ่มกำหมัดแน่นระงับความไม่พอใจอยู่ในความรู้สึก อยากจะพูดอยากจะบอกให้พี่คนดีสนใจคนข้างหน้าที่กำรังรอบ้างสักนิด


            แต่โอเซฮุนก็ลืมไปว่าเป็นแค่น้องรหัสจะไปมีสิทธิ์อะไรทำแบบนั้น..

     

          “อะไรนะทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกวะ!!เออไปแล้วๆๆ

     

         ใบหน้าที่เคยหัวเราะเมื่อสักครู่แปรเปลี่ยนเป็นคิ้วขมวดทันทีนั่นก็ทำให้เซฮุนรู้ว่าพี่คนดีจะไม่อยู่กินข้าวกับเขาอีกต่อไป ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ เป็นแบบนี้อีกแล้ว..

     

          “ฮุนอ่าพี่ต้องไปแล้วนะกินให้หมดละแล้วก็นี่เบอร์พี่มีไรโทรมาได้นะ”    

     

       นาบีพูดอย่างร้อนรนส่งตะเกียบคืนให้เซฮุนที่นั่งจ้องมองเธออยู่ หยิบกระดาษโน๊ตและปากกาในกระเป๋าจดเบอร์โทรยิกๆแล้วส่งให้น้องรหัส ก่อนจะเอื้อมมือมาลูบหัวอีกครั้งแล้วกึ่งวิ่งกึ่งเดินหันหลังไป

     

        ชายหนุ่มมองตะเกียบในมือตัวเองที่ก่อนหน้านี้มันอยู่ในมือพี่คนดีที่กำลังป้อนอาหารเขา แต่ตอนนี้เขากลับมานั่งอยู่คนเดียวอีกครั้ง พาลให้นึกถึงเหตุการณ์ที่ฉายซ้ำเมื่อสามปีก่อน

     

     

    พี่ต้องไปแล้วนะรีบกลับบ้านอย่าให้แผลโดนน้ำนะเข้าใจใช่มั้ย?’

     

       ถึงแม้จะเข้าใจดีว่าเดี๋ยวก็เจอกันอีกครั้งแต่ทำไมเขาถึงรู้สึกแปลกๆแบบนี้ เขาได้เจอพี่คนดีแล้วแต่ก็ยังอยากจะอยู่ต่ออีกสักนิด อยากจ้องมองหน้าพี่คนดีไปอีกสักพัก แต่มันก็ไม่เป็นไปตามดั่งใจ สุดท้ายเขาก็อยู่คนเดียวอีกจนได้

     

     

     

     

          เซฮุนเดินเข้ามาในหอพักจงอินคงจะเรียนภาคค่ำกว่าจะกลับก็คงดึกดื่นบรรยากาศเลยเงียบเหงาไปหน่อย เปิดประตูเข้าห้องนอนตัวเอง วางกล่องเข้าที่เขาด้วยผ้าสีสวยไว้เหมือนเดิมอยู่บนโต๊ะ ล้วงหยิบกระดาษแผ่นเล็กในกระเป๋าเสื้อที่มีเบอร์ของพี่คนดีของเขาอยู่


           อยากโทรไปจังแต่จะมีเหตุผลอะไรให้โทรไปล่ะ

     

            วางไอโฟนลงกับเตียงก่อนจะหยิบสมุดไดอารี่ที่หน้าปกห่อหุ้มด้วยผ้าสีซีดในลิ้นชัก  มีความหนาอยู่พอสมควรเพราะเขาเริ่มเขียนมันตั้งแต่เริ่มต้นเจอพี่คนดีในวันนั้น

      ลงมือเขียนตัวอักษรบนเนื้อกระดาษอย่างเชื่องช้า นึกถึงวันนี้ที่เขาเจออะไรเกี่ยวกับพี่คนดีมาบ้าง วันนี้เป็นวันแรกที่โอเซฮุนมีอะไรให้เขียนเยอะมากกว่าวันที่ผ่านมา เพราะตลอดสามปีตั้งแต่พี่คนดีของเขาจบมัธยมปลายไป เขียนแค่คำว่า….

     

    ผมอยากเจอพี่

     

       

           ลงมือเขียนเสร็จเขาจึงจัดการกับธุระส่วนตัวของตัวเอง ล้มตัวนอนบนเตียงกว้างเมื่อทำธุระเสร็จสรรพ นึกถึงใบหน้าของพี่คนดีเมื่อยามลูบหัวเขา ทั้งยิ้มให้ทั้งห่วงใย

     

       มุมปากหยักยกยิ้มช้าๆ การที่ได้เจอหน้าพี่คนดีเหมือนเวลาที่รอคอยมาทั้งชีวิตมันคุ้มค่ามากหากแลกกับความเหนื่อยที่เขาต้องตั้งใจเรียนหนังสือเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยนี้ให้ได้

    คุ้มค่าจริงๆ..

     








    ************
     

         เวลากลางวันที่นักศึกษาจะมากินข้าวกันที่โรงอาหาร วันนี้เซฮุนเรียนเสร็จตั้งแต่สายๆพร้อมกับจงอิน รอเพื่อนผิวเข้มซื้อข้าวมากินด้วยกันอยู่ที่โต๊ะ ก่อนที่เซฮุนจะวางกล่องข้าวที่ตั้งใจจะเอามาคืนพี่รหัสของเขา แต่จนป่านนี้ยังไม่เห็นวี่แววของหญิงสาวเลย

     

          “มองใครวะกูอยู่นี่

     

        จงอินเอ่ยถามเพื่อนตัวขาวพร้อมกับวางถาดอาหารลง ชะเง้อมองไปตามที่เซฮุนมันมองอยู่ก็ไม่เห็นจะมีใครสักหน่อย

     

          “พี่รหัส…”

     

          “เอ้าเจอแล้วหรอวะ

     

        เซฮุนพยักหน้าหงึกๆก่อนที่จงอินจะกินข้าวต่อโดยไม่สนใจ เซฮุนยังคงมองหาพี่คนดีอยู่อย่างนั้นแม้ไม่รู้ว่าเธอจะอยู่แถวๆนี้หรือไม่ เขาอยากรู้จังว่าพี่คนดีของเขาทำอะไรอยู่ตอนนี้..

    จะกินข้าวยังนะ

     

     

          “ไอ้มาร์ค!เดินเร็วๆดิวะ!”

     

           “ยัยบ้านิคนมันเบียดอยู่จะให้ฉันทำยังไงวะ

     

     

         นาบีใช้ฝ่ามือฟาดเข้าที่ลำแขนของเพื่อนสนิทอย่างนึกหมั่นไส้ มาร์คชวนเธอไปกินข้าวที่ห้างสรรพสินค้าใกล้กับมหาวิทยาลัย แต่นาบีก็ปฏิเสธเนื่องจากมีงานคั่งค้างที่ยังต้องเคลียร์ให้เสร็จในวันนี้ และถ้าหากจะต้องไปไกลถึงที่นั่นกินข้าวที่โรงอาหารมันจะไม่ง่ายกว่าหรือไง

     

         

          “เอ้าไอ้ดำนี่

     

        มาร์คเรียกชื่อน้องชายที่นั่งกินข้าวอยู่ใกล้ๆที่ตัวเองยืนอยู่ เล่นเอาทั้งเซฮุนทั้งจงอินหันมาตามต้นเสียง ก่อนที่จงอินจะทำสีหน้าเบ้ปากใส่พลางยักไหล่อย่างกวนๆทำให้มาร์คต้องเอื้อมมือตบหัวจงอินอย่างหมั่นไส้

     

           “ไอเด็กนี่กวนซะละ

     

          “จะทักทั้งทีทักให้มันดีๆหน่อยไม่ได้หรือไง

     

          “จะให้ทักว่าไรล่ะเห้ยจงอินน้องรักแบบนี้น่ะเหรอ เหอะ

     

     

         เซฮุนจ้องมองระหว่างจงอินกับรุ่นพี่คนใหม่ที่กำลังสนทนากันอย่างกวนๆมันเคยเล่าให้ฟังอยู่ว่ามันมีพี่ชายแท้ๆอยู่คนนึง แต่มันกับพี่ชายก็ทะเลาะกันบ่อยจนทำให้มันต้องย้ายมาอยู่หอส่วนพี่มันก็อยู่คอนโดแถวๆมหาวิทลัยนี่แหละ ถึงจะทะเลาะกันยังไงก็ยังรักกันอยู่ดี

     

          “มาร์คแกทำอะไรอยู่วะ

     

         มาร์คหันกลังกลับไปตามเสียงเรียกของเพื่อนสนิทก่อนจะกวักมือเรียกให้นาบีเดินมาทางที่เขายืนอยู่ มาร์คจึงถือวิสาสะนั่งโต๊ะเดียวกับน้องชายเสียเลย

     

          “มานั่งทำไมตรงนี้เอ้าจงอิน

     

           “หวัดดีเจ้

     

         เซฮุนที่ก้มกินข้าวอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินชื่อสรรพนามของใครบางคนพอดี ทำเอาเซฮุนต้องถือตะเกียบค้างไว้อยู่แบบนั้นก่อนที่สายตาของหญิงสาวจะสบเข้าพอดี

     

          “โอ๊ะเซฮุนอยู่นี่เองหรอ

     

        นาบีเอ่ยทักทายน้องรหัสตัวเองด้วยน้ำเสียงสดใสก่อนที่จะนั่งลงข้างๆกับมาร์คที่กำลังถกเถียงอยู่กับจงอินอยู่อย่างไม่สนใจใคร

     

          “เรียนเป็นยังไงบ้างล่ะ

     

         นาบีเปิดประเด็นสนทนาหยิบยกเรื่องเรียนถามไถ่น้องรหัส เซฮุนจ้องหน้ามองพี่คนดีที่กำลังยิ้มให้เขาอยู่ เล่นเอาเซฮุนเองก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน

     

          “ดีครับ. .”

     

          “ถ้าไม่เข้าใจอะไรก็ถามพี่นะเข้าใจไหมครับ

     

            หญิงสาวเอ่ยด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง จนบางครั้งเซฮุนก็หวั่นๆว่าพี่คนดีไปยิ้มให้ใครคนอื่นแบบนี้บ้างหรือเปล่า

    พี่คนดีของเขาเป็นคนสวยน่ารัก ไม่แปลกหรอกหากจะมีคนมาชอบมารัก

     

       เซฮุนวางตะเกียบลงก่อนจะหยิบกล่องเข้าแล้วยื่นให้ตรงหน้าพี่คนดีของเขา เล่นเอานาบีเอียงหน้าสงสัยก่อนที่เซฮุนจะขยับปากพูดกับเธอ

     

          “ผม..คืนครับ

     

          “อ่าๆโอเคไว้วันหลังพี่จะทำมาให้กิน

     

           "รู้จักกันหรอบี"

     

     

           มาร์คหันมาถามเมื่อกวนประสาทจงอินจนพอใจแล้ว นึกสงสัยว่าจะสนิทอะไรกันถึงขนาดต้องลูบหัวแถมยังยิ้มจนหวานหยาดเยิ้ม ก็เข้าใจอยู่ว่าเพื่อนสนิทเขาเป็นคนอัธยาศัยดียิ้มเก่งแต่นี่เพิ่งเจอกันเองไม่ใช่หรือไง

     

     

          “ก็น้องรหัสฉันไง

     

     

          “คนนี้เองหรอ..ดูไปก็หล่อนะเนี่ย

     

           เซฮุนเงียบเมื่อเจอสายตาของพี่ชายจงอินมองมาแบบนั้น ทำเอามาร์คต้องหัวเราะในลำคอๆก่อนจะเท้าคองนั่งจ้องหน้าเซฮุนอยู่อย่างนั้นแต่ก็โดนฝ่ามือของเพื่อนตัวดีตีเข้ามาอีกรอบ

     

          "มาร์คหยุดจ้อง..."

     

       

           นาบีดูออกว่าเซฮุนคงจะอึดอัดและทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกจ้อง ยิ่งเป็นมาร์คจอมขี้แกล้งยิ่งแล้วใหญ่ เธอรู้ดีว่าน้องรหัสเป็นคนเงียบๆและการพูดคุยแต่ละครั้งนั้นแทบนับคำได้

     

     

     

        “อะไรวะจ้องนิดหน่อยก็ไม่ได้

     

      

          “ก็น้องฉัน หวงนะเว้ยนี่แกไม่ได้เป็นเกย์ใช่มั้ย

     

     

     

          มาร์คช้อนสายตามองนาบีขวางๆสีหน้ามันดูเหมือนไม่ไว้ใจเขาสักเท่าไหร่ ก่อนจะละความสนใจจากนาบีมาจ้องที่เซฮุนต่อ ถามว่าทำไมเขาถึงต้องจ้องเซฮุนอ่ะหรอ

     

      

            “ไม่ต้องสนใจพี่มาร์คหรอกนะเซฮุนสนใจแต่พี่ก็พอ

     

         

      

           นาบีแกล้งพูดพลางตวัดสายตามองเพื่อนตัวแสบนิดๆก่อนจะหันไปยิ้มให้เซฮุนต่อ เล่นเอาเซฮุนต้องก้มหน้าหลบสายตาอีกครั้ง ซึ่งมาร์ครู้ได้ทันทีว่าน้องรหัสของนาบีกำลังคิดอะไรอยู่ เห็นเพียงด้านข้างที่แก้มขาวๆเริ่มแดงจนลามไปถึงหูก็พอดูออก

      ใครที่ไหนจะแสดงอาการเขินเงียบๆแบบนั้นหากไม่ได้คิดอะไร เซฮุนคิดอะไรมากกว่าน้องรหัสแน่ๆ

     

     ชักจะสนุกแล้วสิ










    ............100%.............





     

    ********************
    อ้าวิืพี่มาร์คจะแกล้งอะไรน้อง แสบสุดๆ ติดตามนะคะ ฝากเม้นด้วยเน้อนางเอกจ๋า
    รีบเม้นไรท์จะได้รีบอัพนะคะ อยากอ่านเร็วต้องเม้นนะนะนะนะนะ

    คนเข้ามาอ่านกันเยอะนะแต่ไม่เม้นเลยอ่ะ 
    ไรท์ก็เริ่มไม่มีกำลังใจแล้วอ่ะ บางครั้งมันก็ตันนะคิดไม่ออก



    อย่าลืมนะ นางเอกชื่อนาบี นาบีที่แปลว่าผีเสื้อออเสื้อออเสื้อออ

    (c)  Chess theme

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×