ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1
บริเวณหน้าโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง มีนักเรียนหญิงวิ่งมาด้วยความเร็ว 4 Í 100 เมตร เพราะเธอเพิ่งได้ยินเสียงเพลงชาติที่ดังตามสายจบลง แถมวันนี้ยังเป็นวันเปิดเทอมวันแรกจึงไม่อยากมาโรงเรียนสาย แต่แล้วเธอก็เกิดชนกับนักเรียนชายคนหนึ่งเข้า
“นี่เธอ!” นายคนนี้ตะโกนขึ้นทันทีที่เห็นฉันลุกแล้วทำท่าจะวิ่งต่อ
“มีไร ฉันรีบ”
“วิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือแบบเนี้ย จะรีบไปตามควายกลับบ้านหรือไง”
“แล้วไง” ฉันตอบพร้อมกับทำหน้าเฉยๆ
“แล้วไงงั้นหรอ คิดจะขอโทดสักคำเป็นม่ะ” นายคนนี้ขึ้นเสียง
“ถ้าฉันจะตอบว่าไม่ล่ะ”
“งั้นเธอก็จะ...”ยังไม่ทันที่นายคนนี้จะพูดไรได้มาก ฉันก็ชิ่งหนีออกมาก่อน ใครจะมั่วยืนฟังให้โง่ล่ะ คนยิ่งรีบๆ อยู่ แต่ฉันนึกได้ว่าลืมอะไรบางอย่างจึงวิ่งกลับไปที่เดิมอีก
“เออ...ลืมบอกไป นายลืมรูดซิปกางเกงน่ะ เห็นแล้วรู้สึกอุบาทว์ตาพิกล” ฉันว่าพลางวิ่งหนีมาอีกครั้งพร้อมกับยิ้มเยาะสะใจ
“ร้ายนักนะยัยตัวแสบ ไว้ฉันเจอเธอเมื่อไหร่ เธอได้เจอดีแน่” นายขึ้นนี้พูดพร้อมกับหันหลังรูดซิปกางเกง แล้วสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นมือถือที่ตกไว้
“ฉันว่า...เธอคงได้เห็นดีกับฉันในไม่ช้านี้แหละ” เขาว่าพร้อมยิ้มอย่างมีชัยและเก็บมือถือลงในกระเป๋า
แฮก ๆ ๆ
“โอ๊ย! เหนื่อยชะมัด กว่าจะวิ่งมาถึงแทบตายน่ะ” ฉันยืนบ่นแต่เมื่อเงยหน้าขึ้น สายตาของฉันก็เหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งเข้า
“ซวยแล้วสิ นายคนนี้ดันเรียนที่เดียวกับฉันอีก รีบไปดีกว่า” พร้อมกับออกแรงวิ่งอีกครั้ง
เออ...ลืมแนะนำตัวฉัน แก้มป่อง สาวน้อยตาโต แก้มป่องสมชื่อ เป็นนักเรียนใหม่ของโรงเรียนแห่งนี้ แต่จริง ๆ แล้วฉันเคยเรียนอยู่โรงเรียนนี้มาก่อนแล้ว 1 ปี แต่ก็ออกไปเรียนที่อื่นก่อนจะกลับมาเข้ามาเรียนม.4 ที่นี้อีกครั้ง ฉันกลับมาพร้อมกับลุคใหม่ที่แม้กระทั่งเพื่อนเก่าที่สนิทกับฉันและพวกเพื่อนๆคนอื่นที่ชอบล้อฉันว่า ฟันเฉาะหัว คงจะไม่กล้าว่าฉันอีกแน่ก็ฉันไปจัดฟันมาแล้วน่ะสิ [--เพิ่งจัดได้แค่ปีเดียวเอง--] อยากรู้จังว่าเพื่อนๆยังจำฉันได้หรือป่าว
“แล้วจะไปไหนเนี้ย อืม...ลองไปถามกลุ่มนั้นแล้วกัน” ฉันว่าพร้อมกับเดินไปยังโต๊ะที่มีนักเรียน 3 คนนั่งอยู่
“เออ...ขอโทดนะ รู้ไหมว่าม.4 ไปไหนกัน” ฉันถามโดยไม่ทันสังเกตสีดาวที่ปักอยู่บนคอปกว่าเป็นสีของพี่ม.5
“พบอาจารย์ที่ปรึกษาครับ”
“เออ...ขอบคุณ” ฉันกล่าวขอบคุณแล้วเดินไปยังห้องอาจารย์เอ็นดู ที่ปรึกษาของฉันเอง
“เดี๋ยวครับ” เสียงใครคนหนึ่งตะโกนกลับมาจึงทำให้ฉันหยุดและหันกลับไปมอง
“มีไรอีกหรอ” ฉันถามกลับ
“น้องอยู่ห้องไรล่ะ เดี๋ยวพี่เดินไปส่ง” นายคนนี้ว่าพร้อมทำตาแปลกๆ
“ นิ! นายอย่ามาเรียกตัวเองว่าพี่เลย ฉันไม่ใช่รุ่นน้องนายซะหน่อย แล้วฉันก็เดินไปเองได้ย่ะ” ฉันแย้งกลับพร้อมกับเดินหลีกมา
“ เออ...ครับไม่ใช่ก็ไม่ใช่ แต่ให้พี่เอ้ย! เราไปส่งนะ” เหอ ๆ รู้สึกกระดากปากไงไม่รู้ ก็เราเป็นรุ่นพี่จริงๆ ไมน้องเข้าใจผิดได้เนี้ย เอ๊ะ! หรือว่าเราหน้าเด็ก [--ไม่ค่อยหลงตัวเองเล้ย--] ว่าไปแล้วน้องคนนี้ก็น่ารักเหมือนกันแฮะ คอยดูนะจะจีบให้ติดเลย พลางยิ้มออกมาพร้อมกับฉายแววตาเจ้าชู้
“ไม่ต้อง ฉันรีบไป” พูดจบฉันก็รีบวิ่งทันที
ณ ห้อง 4392
“นักเรียนอีกหนึ่งคนยังไม่มาอีกเหรอ ” เสียงของอาจารย์เอ็นดูหรือชื่อเต็มๆ ก็คือ อาจารย์พัชดาภรณ์ หันไปถามนักเรียนคนอื่นที่มาครบกันแล้ว ซึ่งอาจารย์เอ็นดูเนี้ยทั้งยังสาว+สวยอีกด้วย สงสัยจังว่าเพิ่งเข้ามาสอนแน่ๆ
“มาแล้วค่าาา...” เสียงของฉันขานรับมาแต่ไกล และมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้อง
“ยืนทำเซ่อไรล่ะ รีบเข้ามาในห้องเร็ว คนอื่นเขานั่งรอเธอเป็นชาติล่ะ” เสียงอาจารย์เอ็นดูบ่นทันที หลังจากที่ฉันเดินเข้ามาในห้อง อาจารย์ยังสาวแท้ๆ ไมบ่นเป็นคุณป้าแก่ๆ ยังเงี้ยหรืออาจารย์แกแอบไปดึงหน้า [--เหอๆ บาปกรรม นินทาครูบาอาจารย์--] ฉันยืนมองหาใครคนนึงอยู่สักพัก นั่นไงเป็นประจำเลยยัยเพื่อนตัวดีคนนี้ นั่งอ่านนิยายไม่สนใจใครคนอื่นเข้าบ้างเลย อ่ะ! นึกออกแหละว่าจะแกล้งยัยเพื่อนตัวดีนี้ยังไง ฉันว่าพลางเดินตรงไปที่ยัยคนที่พูดถึง
“เธอมีใครนั่งตรงนี้มั้ย ถ้าไม่มีฉันนั่งนะ” ฉันแกล้งทำท่าจะนั่งแต่ยัยเพื่อนตัวดีดันพูดแทรกเข้ามาก่อนว่า
“โทดทีนะ ที่ตัวนี้สำหรับยัยเพื่อนฟันยื่นๆ ของฉันน่ะ เธอต้องไปนั่งข้างหลังของฉันแล้วล่ะ” ยัยเพื่อนตัวดีพูดโดยไม่หันขึ้นมามองก่อนว่า ฉันนี้แหละเพื่อนฟันยื่นที่แกว่าไปหยกๆ แต่สงสัยจังถ้ายัยเพื่อนตัวดีเห็นฉันในลุคใหม่จะว่าไงบ้างเนี้ย
“อ้อหรอ งั้นโทดที” ฉันกำลังจะเดินไปนั่งโต๊ะอีกตัว แต่จู่ๆ ยัยเพื่อนตัวดีก็ตะโกนเรียกฉันอย่างดัง
“แก้มป่อง!!!”เพื่อนในห้องที่นั่งกันอยู่แบบเงียบๆ ก็หันมามองฉันเพราะเสียงยัยเพื่อนตัวดีของฉันนี่แหละ แต่ก่อนที่ยัยเพื่อนตัวดีจะพูดอะไรต่อนั้นก็ถูกขัดด้วยเสียงของอ.เอ็นดูซะก่อน
“นี่! เธอทั้ง 2 คนน่ะเสียงดังนะจ๊ะ หรือว่าอยากจะออกมายืนโชว์หน้าห้อง” เสียงของอาจารย์เอ็นดูฟังแล้วรู้สึกขนลุกพิกลแฮะ [--อาจารย์เป็นคนไม่ใช่ผีนะ--]
“ ไม่อยากค่าาา...” ฉันกับมายะ[--ชื่อยัยเพื่อนตัวดีของฉันเนี้ยแหละ--]ขานตอบ
“ งั้นก็อย่าเสียงดังอีกไม่งั้นเธอ...”
เป็นแฟนกันไหม ฉันถามใจมานาน ก็กว่าจะมันใจ* ยังไม่ทันที่อาจารย์เอ็นดูพูดจบ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังแทรกเข้ามาก่อนเลยทำให้อาจารย์หยุดบ่น
“ นี่เดี๋ยวอาจารย์ไปคุยธุระก่อน อยู่กันเงียบๆล่ะ ไม่งั้นจะให้ออกไปยืนคาบไม้บรรทัดอยู่หน้าห้อง” อาจารย์สั่งจบก็กดรับสายแล้วรีบเดินออกจากห้องไปเลย
“นี่ยัยพะโล้ [--ฉายาของยัยมายะที่ฉันตั้งให้--] ฉันว่านะแก คนที่โทรมาเนี้ยต้องเป็นคนสำคัญของอาจารย์แน่ ไม่งั้นอาจารย์คงไม่ตั้งเสียงเรียกเข้าเป็นเพลงนี้หรอก”
“นี่แกยังจำฉายานี้ได้อีกหรอ ฉันนึกว่าแกจะลืมแล้วสะอีก” ยัยพะโล้ทำท่าตกใจ ฉันจึงพยักหน้าตอบ “แม้...ฉันก็ว่างั้นแหละ ว่าแต่แกเหอะไม่เจอกันตั้ง 2 ปีเปลี่ยนไปเลยนะ” ยัยพะโล้ว่าพลางมองสำรวจฉัน
“แกก็เหมือนกันนั้นแหละ อ้วนขึ้นกว่าเดิมอีก” ฉันแกล้งแซวยัยพะโล้จนยัยนี้หน้าง้อ “ฉันล้อเล่นนะ จะว่าไปเมื่อคืนฉันไม่น่าโทรบอกแกเลยว่าฉันกลับมาเรียนที่นี้อีก”
“ถ้าแกไม่โทรบอกแล้วฉันจะตรัสรู้ไหมล่ะ ดีนะที่เมื่อกี้ฉันยังจำเสียงแกได้” ยัยนี้แก้ตัว*เพลง เป็นแฟนกันมั้ย ของ Four - Mod
“เออๆๆ” ฉันว่าพลางพยักหน้า ส่วนยัยพะโล้ก็หันไปอ่านนิยายต่อ
เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้วอาจารย์เอ็นดูยังไม่กลับเข้ามา และตอนนี้ก็มีเพื่อนเก่าๆ ที่จำฉันได้เริ่มเดินมาทักทายฉันทีละคน 2 คน จะว่าไปแล้วห้องที่ฉันอยู่เนี้ยเกือบครึ่งห้องเป็นคนที่ฉันรู้จักเลยล่ะ ส่วนคนที่ฉันไม่รู้จักก็มีมาทักทายบ้าง
“อาจารย์ต้องขอโทดด้วยนะจ๊ะที่คุยธุระนานไปหน่อย” อาจารย์เอ็นดูว่าพลางนั่งลงที่เก้าอี้
“นานไปหน่อยหรือเนี้ย อีก 10 นาทีจะหมดชั่วโมงล่ะ” ฉันที่กำลังกระซิบกระซาบกับยัยพะโล้ก็ต้องหยุดเนื่องจากอาจารย์เอ็นดูส่งสายตาอาฆาตมา
“ยังเหลือเวลาอีก 10 นาทีงั้นเรามาเลือกหัวหน้าห้องกันก่อน เริ่มจากใครจะเสนอ” เสียงอาจารย์ถามพลางมองไปรอบห้อง
“โตโต้ค่ะ” เสียงของยัยหลักกิโลที่นั่งหน้าสุดพูด
“ตะวัน” เสียงของคนที่นั่งหลังห้องพูดขึ้นบ้าง
“แก้มป่อง” เสียงยัยพะโล้พูดขึ้น เหอๆยัยนี้รู้จักคำว่าประชาธิปไตยด้วยวุ้ย แต่เอ๊ะ! ชื่อแก้มป่องมันคุ้นๆ นะ เฮ้ย!!! นั่นมันชื่อเรานี่หว่าซวยแล้วสิ ฉันหันไปจ้องยัยพะโล้ทันที หน็อยแกบังอาจมากนักนะยัยพะโล้มาเสนอชื่อฉันไม่คิดจะถามกันบ้างหรอว่าฉันอยากเป็นนักหรือไง
“มีแค่ 3 ใช่มั้ย”
“เนเน่อีกคนครับ” หลังจากที่มีคนถูกเสนอชื่อทั้งหมด 4 คนแล้วก็ถึงเวลาที่ทุกคนจะลงคะแนนให้ใครเป็นหัวหน้าห้อง สาธุขออย่าให้มีใครยกมือให้นู๋ด้วยเถอะ เพี้ยง! ฉันแอบนอธิฐานในใจ และผลลงคะแนนปรากฏว่า
“เนเน่เป็นหัวห้อง ตะวันเป็นรองฯ แก้มป่องเป็นเลขาฯ และโตโต้เธอเหรัญญิก” เสียงประกาศของอาจารย์เอ็นดูเสร็จพร้อมกับมีเสียงกริ่งดังหมดเวลาพอดี
“อ้อ... ถ้าอยากจะรู้ว่าเรียนวิชาไรต่อไปก็ไปดูที่หน้าห้องนั้นแหละ อาจารย์ติดไว้ให้แล้ว” อาจารย์พูดเสร็จก็เดินออกจากห้องไป
ช่วงพักกลางวันมาถึงนักเรียนทั้งโรงเรียนต่างเดินมาที่โรงอาหาร จึงทำให้โรงอาหารแน่นขนัดไปด้วยนักเรียนที่แย่งกันซื้อข้าว
“ยัยป่องเหล็ก [--ฉายาใหม่ที่ยัยพะโล้ตั้งให้--] แกเป็นอะไร ไม่หม่ำข้าวหรอ เดี๋ยวฉันแย่งหมดแล้วแกจะเสียดาย” ยัยพะโล้ขู่ฉัน
“ยัยพะโล้ มือถือสุดเลิฟของฉันหายอ่ะ ทำไงดี” ฉันทำเสียงเศร้าๆ
“โฮ้! เรื่องแค่นี้เอง ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวฉันช่วยตามหา แกรีบหม่ำเถอะฉันชักจะอดใจแย่งแกไม่ไหวแล้วล่ะ” ยัยพะโล้ว่าทำท่าจะตักผักบุ้งไปจากจานฉัน
“อย่ายุ่ง” ฉันว่าพลางรีบตักข้าวใส่ปาก ก็ใครจะยอมให้ยัยนี้แย่งผักสุดโปรดของฉันไปได้ล่ะ หลังจากฉันกับยัยพะโล้หม่ำข้าวกันเสร็จแล้วกำลังจะลุกเดินไปเก็บจาน มีใครคนหนึ่งเดิน มาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน
“เธอ” เสียงคุ้นๆเหมือนเคยได้ยินที่ไหนหว่า พอฉันเงยหน้าขึ้นมองเท่านั้นแหละ เย้อ!!!
“จะรีบไปไหน ไม่คิดอยากได้ของคืนหรอกหรอ” นายคนนี้ว่าพลางหยิบมือถือของฉันแกว่งไปแกว่งมา ฉันซึ่งเตรียมท่าวิ่งหนี ก็ต้องหยุดชะงัก
“มือถือของฉันไปอยู่ที่นายได้ไง” ฉันถามทันทีที่เห็นมือถือ
“ก็เก็บได้นะสิ ไม่รู้ว่ายัยบ้าที่ไหนทำตกไว้” นายคนนี้ว่าพร้อมกับทำหน้ากวนบาทา
“เอามือถือฉันคืนมานะ” ฉันทำท่าจะเอื้อมไปหยิบมือถือ แต่นายคนนี้ดันเก็บใสกระเป๋ากางเกงไปก่อน
“ถ้าฉันไม่คืนให้เธอล่ะ” นายคนนี้จ้องด้วยแววตาน่ากลัว
“แล้วนายต้องการอะไร ให้ฉันขอโทดงั้นหรอ ก็ได้ ขอโทด” ฉันพูดพลางเก็บอารมณ์
“มันไม่ง่ายไปหน่อยหรอ ที่เมื่อเช้าให้ขอโทดเธอก็ดันวิ่งหนี ที่ยังนี้ยอมง่ายเชียว” หน็อยชักจะมากไปแล้วนะ ถ้าไม่ติดว่าในมือถือมีรูปฉันอยู่ จ้างให้ฉันก็ไม่เอาหรอก
“ฉันขอโทดแล้ว นายจะเอาอะไรอีกฮะ” น้ำเสียงของฉันเปลี่ยนไป
“ก็ไม่ยากหรอก แค่เธอยอมเป็นทาสฉันอาทิตย์หนึ่ง” นายคนนี้พูดจริงจัง
“เป็นทาสนายเนี้ยนะ ฝันไปเหอะ คนอย่างฉันไม่ลดศักดิ์ศรีให้กับใครหน้าไหนทั้งนั้น” ฉันว่าพร้อมกับเดินหนีแต่ต้องหยุดอีกครั้งเมื่อนายดันตะโกนขึ้นว่า
“ถ้าเธอไม่ยอม ฉันก็เอารูปในมือถือเธอไปติดที่บอร์ด” นายบังอาจมากที่แอบดูรูปของคนอื่น “เอาไง เธอจะตกลงไหม” นายคนนี้ถามย้ำอีกครั้ง นักเรียนคนอื่นๆ ที่นั่งกินข้าวกันอยู่เริ่มหันมองฉันกับนายคนนี้ แย่ละหว่าคนเริ่มมองเยอะแล้วทำไงดีเนี้ย ฉันหันไปขอคำปรึกษากับยัยพะโล้แต่ปราฎว่ายัยพะโล้หายตัวไปแล้ว เอาไงเอากัน
“ก็ได้ แค่อาทตย์เดียวเท่านั้น แล้วไหนล่ะมือถือฉัน” ฉันว่าพร้อมกับแบมือ
“ได้คืนน่ะได้แน่ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้” นายคนนี้พูดเสร็จเดินหันหลังไปปล่อยให้ฉันยืนเจ็บใจอยู่ข้างหลัง คราวนี้ถือเป็นที่ของนายไป อย่าให้ถึงคราวฉันบ้างแล้วนายจะรู้สึก
ตลอดคาบบ่ายก็ไม่มีไรมากแค่นั่งจุดประสงค์การเรียน ยกเว้นวิชาสังคมวิชาเดียวที่เปิดเทอมวันแรกก็ให้จับกลุ่มทำรายงาน กลุ่มที่ฉันอยู่เนี้ยค่อนข้างจะดี [--มั้ง--] ก็ได้อยู่กับเพื่อนเก่าๆ ทั้งนั้นนะสิ ยกเว้นยัยโมเมคนเดียวที่อยู่ห้องอื่นตอนที่ฉันอยู่ม.1 แต่ใช่ว่าฉันจะไม่รู้จักยัยโมเมนะ ฉันเคยเรียนพิเศษที่เดียวกับยัยโมเมมาก่อนแล้วในกลุ่มที่ฉันอยู่มี ยัยแจน [--คนเดียวกับยัยหลักกิโลนี้แหละ--] ยัยแพรว ยัยโมเม และยัยโตโต้ [--จะเรียกนายก็กะไรอยู่ เพราะมันเป็นผู้ชิ่งนะสิ--] ซึ่งกลุ่มที่ฉันอยู่เนี้ยซวยอย่างยิ่งดันจับฉลากได้กลุ่มหนึ่ง เย็นนี้ทุกคนเลยนัดกันไปหาข้อมูลที่ห้องสมุด เฮ้อ!!! อดไปร้านหนังสือกับยัยพะโล้เลย
“แก้มป่องหาข้อมูลได้บ้างยัง” เสียงของยัยหลักกิโล [--เรียกชื่อแจนมันไม่เหมาะกับตัวเล้ย--] ถามฉัน
“หาได้นิดเดียวเองน่ะ” ฉันหันกลับไปตอบ ใครเขาจะหาเร็วหาเก่งเหมือนเธอล่ะ
“เออ...แต่งานต้องให้เสร็จก่อนไปเข้าค่ายล่ะ” ยัยหลักกิโลสั่ง โฮ้แม่เจ้าประคุณ ใครจะไปทำทันว่ะอีกแค่ 3 วันเนี้ยนะ
“แต่อาจารย์สั่งให้ส่งหลังเข้าค่ายไม่ใช่หรอ” ฉันถามกลับ
“ถึงจะสั่งให้ส่งหลังเข้าค่าย แต่เธอก็น่าจะทำให้เสร็จก่อน จะได้ไม่ต้องนั่งกังวลไงล่ะ” ยัยหลักกิโลแย้ง
“อืม....งั้นฉันขอไปหาข้อมูลเพิ่มที่บ้านแล้วกัน” ฉันว่าพลางลุกขึ้นเดินออกจากห้องสมุด
ระหว่างที่ยืนรอรถหน้าโรงเรียน ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาทักฉัน
“ดีครับ รอรถกลับบ้านหรอ” ฉันหันไปตามเสียงนั้น ใครหว่ารู้จักเราด้วย หน้าคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหนนะ ฉันกำลังนึกอยู่ว่าคนตรงหน้าเป็นใคร ก็พอดีกับที่เจ้าตัวแนะนำตัวพอดี
“พี่ชื่อเบลล์ครับ คนที่น้องเข้าใจผิดคิดว่าพี่รุ่นเดียวกับน้องน่ะ” พี่คนนี้ว่าพร้อมกับส่งยิ้มมาให้
“อ้อ...” ฉันยิ้มตอบกลับพร้อมกับมองดาวที่ปักอยู่บนคอปกเสื้อ จริงด้วยสิเขาเป็นพี่เราแล้วเมื่อเช้าเราก็ดันไปว่าเขาอีก
“จำได้แล้วใช่ไหมครับ” พี่คนนี้ว่าแถมยังยิ้มให้อีก
“ค่ะ เออ...เมื่อเช้าต้องขอโทดด้วยนะค่ะที่ว่าพี่ไปยังนั้น” ฉันกล่าวขอโทดพร้อมกับส่งรอยยิ้มให้พี่เขาอีก
“ไม่เป็นไรครับว่าแต่น้องชื่อไรครับ”
“แก้มป่องค่ะ แล้วพี่เบลล์ยังไม่กลับบ้านอีกหรอค่ะ” ฉันหันไปถามเพราะเห็นรถที่ฉันจะขึ้นกลับบ้านกำลังมา
“ว่าจะกลับเหมือนกันครับ งั้นพี่ไปก่อนนะพอดีพ่อพี่มาแหละ บาย” พี่เบลล์ว่าพลางโบกมือมาให้
“ค่ะ พอดีรถก็มาเหมือนกัน บายค่ะ” พอฉันโบกมือให้พี่เบลล์เสร็จ รถก็มาถึงพอดี ฉันจึงรีบขึ้นรถ เมื่อถึงบ้านฉันรีบกินข้าว อาบน้ำและนั่งหาข้อมูลเพื่อทำรายงานต่อ เฮ้อ!!! หาเสร็จสักทีนั่งเอ็มเล่นสักพักดีกว่า
ติ๊งต้อง !!! เสียงยัยพะโล้ทักมา
พะโล้ >> นี่ฉันถามไรแกหน่อย
แก้มป่อง >> เรื่องไรล่ะ
พะโล้ >> แกไปเจอไอ้ไปรัท[--อ่านว่า ไป-รัด--]ได้ไง
แก้มป่อง >> ไปรัทไหน
พะโล้ >> ก็คนที่เก็บมือถือแกไง อย่าบอกนะว่าแกจำมันไม่ได้
แก้มป่อง >> นายนั้นอ่ะนะ ชื่อไปรัท
พะโล้ >> เออ...คนนั้นนั่นแหละ แล้วแกไปเจอมันได้ไง
แก้มป่อง >> พรุ่งนี้ฉันเล่าให้ฟังแล้วกัน ว่าแต่แกเถอะเมื่อกลางวันหายไปไหนมา
พะโล้ >> ฉันก็ไปห้องสมุดน่ะสิ จะมั่วฟังแก 2 คนทะเลาะกันเสียเวลาอ่านนิยายฉันหมด
แก้มป่อง >> เออ...แทนที่จะอยู่ช่วยเพื่อน นึกขึ้นได้ฉันต้องเป็นทาสให้นายไปรัท
พะโล้ >> +555 สมน้ำหน้า
แก้มป่อง >> กำ ไม่ช่วยคิดยังมาซ้ำเติมอีก
พะโล้ >> อิอิ ใครก่อก็แก้เองสิ
แก้มป่อง >> เออ...ยัยพะโล้ใจดำ เจอกันที่ห้องสมุด ฝันร้ายล่ะ
พะโล้ >> บาย ฝันร้ายเช่นกันยัยป่องเหล็ก
หลังจากที่ฉันปิดคอมแล้ว ก็หันไปหยิบไดอารี่เล่มโปรดขึ้นมานั่งเขียน นายนั้นใช่ไปรัทจริงๆ หรอ ยังกับไม่ใช่มันแน่ะ ดูมันหน้าตาดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย ฉันนั่งพึมพำกับตัวเองพร้อมกับปิดไดอารี่ ปิดไฟ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น