คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : [SF]Roommate 'Sleepwalk:ละเมอ' (1/6)
Author : ป่านนยงเง้อง้ะ
Couple : Tao X Kacha AF8 (สวนด.)
Genre : Romantic
Rating : G PG-15
Talk : และแล้วมันก็มา ซึ่งใช้เวลาในการบ่มเพาะนานพอสมควร เป็นฟิคที่ไม่มีสาระอันใดแฝงอยู่เลย เอาไว้อ่านเพลินๆละกันนะจ๊ะทุกคน ส่วนพาร์ท 2 กำลังจะคลอดตามกันมาแล้วนะค่ะ รับรองน่าัรักไม่แพ้พาร์ทแรกแน่่ๆ คริ๊!
" คงไม่ลำบาก ถ้าหากท่านจะอ่านแล้วเม้นท์"
ไรเตอร์ไม่ใช่คนน่ากลัวอะไร เม้นท์พูดคุยโต้ตอบได้คะ ไม่กัดๆ 5555555555555555555555555555555555555 เพราะถ้าไม่เม้นท์กัน ไรเตอร์ก็ไม่รู้ว่ารีดเดอร์ต้องการอะไร ไรเตอร์ชื่นใจมากกับยอดคนอ่าน แต่ก็อยากทราบเหมือนกันคะว่า ท่านนั้นคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องราวที่ไรเตอร์ได้บรรจงเขียนลงไป ให้เป็นกำลังใจเล็กๆน้อยๆ เป็นแรงใจให้สู้ต่อ เป็นบทเรียน ไว้ว่าฝีมือการแต่งนั้นยังไม่ดีพอ ต้องปรับปรุงตรงไหนอีกบ้าง คอมเม้นทุกคอมเม้นก็เปรียบเสมือนกระจกส่องตัวไรเตอร์เองว่า ตอนนี้คุณสร้างสรรค์ผลงานนั้นดีแล้วหรือยัง?
แต่การหารูมเมทมาแชร์ค่าห้องมันก็ไม่ใช่หาได้ง่ายๆเหมือนเดินเข้าตลาดแล้วไปเลือกซื้อผักนะครับ ยิ่งผมนายเศรษฐพงศ์คนนี้ด้วยแล้ว ก็ไม่ได้อยากจะอวยตัวเองหรอกครับ แต่หลักฐานมันทนโท่บนใบหน้าแบบนี้ก็ไม่แปลกหรอกครับที่ผมจะป๊อปในมหาลัยขนาดนี้
นั่นแหละครับที่มันยาก เพราะใครๆก็อยากเป็นรูมเมทของเต๋ากันทั้งนั้น!
“แต่ชั้นมีคนนึง ขอ Recommend มากๆ” จู่ๆไอ้ต้นมันก็โพล่งขึ้นมา พร้อมกับแววตาเป็นประกายเหมือนมันเป็นคนคิดค้นทฤษฎีบทใหม่ของฟิสิกส์ได้
“ใครวะ?”
“เพื่อนของรุ่นน้องที่คณะชั้นเอง ชื่อคชา คชาเป็นคนน่ารักมาก เป็นคนนิ่งๆน่ารักๆไม่มีปากเสียง He’s the best choice for you”
“น่าสนใจนะ”
“But he had only one BIG problem”
“อะไรวะ?” หวังว่าคงไม่ได้เป็นโรคติดต่อร้ายแรงนะ!
“SLEEPWALKLISIM” อะไรวะ สลีปวอคลิซึ่ม โรคห่าอะไรมึงเนี่ย? เต๋าคิดพลางทำหน้าเอ๋อ จนต้นต้องถอนหายใจออกมาแรงๆทีหนึ่งก่อนที่จะเดินเข้าไปกระซิบว่า
“น้องเค้าชอบนอนละเมอมากกกก ละเมอแบบเทพจริงๆคนนี้”
แล้วไอ้ต้นก็สาธยายสรรพคุณของน้องคชาสุดน่ารักของมันว่า ตอนนี้น้องเค้ามาพักอยู่ที่บ้านของรุ่นน้องคนสนิทของมันได้สักระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากการนอนละเมอแบบสุดโต่งของน้องแกนี่แหละทำให้มีปัญหากับหอที่อยู่ปัจจุบัน ก็น้องดันเดินละเมอเข้าไปในห้องของเด็กเสี่ยที่กำลังนอนรอเสี่ยอยู่ที่ห้อง ด้วยความเข้าใจผิดของนางคิดว่าคชาเป็นเสี่ย จึงกอดรัดฟัดเหวี่ยงเสียเต็มรัก ประจวบเหมาะกับเสี่ยเข้ามาเจอพอดี และนับตั้งแต่วันนั้นน้องคชาจอมละเมอก็มีชีวิตความเป็นอยู่ในหอพักดังกล่าวลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่น บางวันก็เจอโทรศัพท์ขู่ฆ่า ไม่ก็ป้ายมาติดหน้าห้อง หรือแม้กระทั่งมีคนเดินตาม ฯลฯ ทำเอาคชาหลอนจนไม่เป็นอันกินอันนอนและอันเรียนหนังสือ จำต้องระเห็จมาอาศัยบ้านเพื่อนอย่างน้องเจมส์รุ่นน้องคนสนิทของเจ้าต้นมันอย่างช่วยไม่ได้
“โหยย แล้วจะไหวหรอ?” ผมโอดครวญทันทีที่ได้ยินสรรพคุณดังกล่าว
“ถ้าตัดเดินละเมอออกไป ทุกอย่างมัน PERFECT เลยนะต๋าววว” ผมทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่จะพยักหน้าตอบตกลงไป เอาว่ะ! ก็แค่ละเมอเดินไปทั่ว ไม่ได้ละเมอถือมีดมาไล่ฆ่าก็ดีแล้วละ อีกทั้งจะได้มีตังไปจ่ายให้ป้าหอจอมเขี้ยวสักที ป้าเจ้าของหอขี้งกก็ทวงค่าห้องเช้า-เย็นอยู่นั่น คนหล่อรำคาญ!
“แล้วทำไมมึงยัดเยียดน้องคนนี้ให้กูจั๊ง!”
“ก็ช่วงนี้จะไปไหนมาไหนกับเจมส์สองต่อสองลำบากนิ ก็มีน้องคชาพ่วงมาด้วยตลอดเลย ไม่ได้ไม่ชอบน้องคชานะ แต่บางทีก็อยากมีเวลาส่วนตัวบ้างอะไรบ้าง ตามประสา ...อิ๊!”
“อ๋ออ...น้องเค้าเป็น กขค.มึงว่างั้น?”
“บ้า” >////////////////////////<
ตรูว่าแล้วไม่มีผิด -.-‘’
และสุดท้ายผมก็ตกล่องปล่องชิ้น เอ๊ย! ตกลงเป็นรูมเมทกับน้องคชาอย่างปฏิเสธไม่ได้ หรือไม่มีโอกาสได้ปฏิเสธนั่นเอง แต่เมื่อมาคิดอีกทีการมีน้องคชาอยู่ด้วยมันก็มีข้อดีเหมือนกัน
ตอนเช้า
“พี่เต๋าเอาขนมปังเพิ่มมั้ยครับ”
ตอนกลางวัน
“พี่เต๋าอย่าลืมกินข้าวกล่องที่ผมทำให้นะครับ”
ตอนเย็น
“วันนี้มีแกงเขียวหวานไก่ กับไข่เจียวครับ”
ตกดึก
“โกโก้ร้อนก่อนนอนนะครับ”
เดี๋ยวนะ!! นี่กะขุนให้พี่อ้วนแล้วเอาไปชั่งกิโลขายหรือเปล่าครับน้องคช๊า!!!!!!!!! o[]O”
กลับมาถึงอาการนอนละเมอขั้นเทพของน้องคชากันดีกว่าครับ มันเริ่มตั้งแต่คืนแรกที่ย้ายเข้ามา โดยที่ผมนอนอยู่บนเตียงตัวเองอยู่ดีๆ ก็รู้สึกเหมือนมีใครเดินมาใกล้ ปีนขึ้นมาบนเตียง แล้วขึ้นมาคร่อมตัวผมไว้ ตอนแรกนึกว่าผีอำ เราก็กลัวฉี่จะราดอยู่แล้ว แต่พอได้ยินเสียงลมหายใจเบาๆก็คิดว่าคงไม่ใช่ และเมื่อดูดีๆอีกที อ่าวเห้ย!นี่มันน้องคชานี่หว่า?
หลังจากนั้นทุกวัน คชาก็จะเดินละเมอมานอนกับผมทุกคืน
และคืนนี้ก็อีกเช่นเคย
“อื้ออออออออออ” ร่างบางส่งเสียงอู้อี้ในลำคอ พลางขยับกายเข้าเบียดร่างสูงมากขึ้นไปอีก
หูยย!! ใจเย็นๆครับน้อง พี่ไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะ หืมม? ก็หวั่นไหวเป็นอะไรเป็น - -‘’
“สู้เค้านะ คาเมนไรด๊าว ว ว . . ฟี้ zz ZZzz. . .” อะไรกันโตป่านนี้แล้วยังละเมอถึงไอ้มดแดงอีก ไม่คิดเปล่าได้ทีมือหนาจับไปตรงจมูกรั้นนั้นแล้วบิดอย่างหมั่นเขี้ยวหนึ่งที ก่อนที่จะยิ้มให้คนในอ้อมแขน พลางกระชับกอดร่างเล็กนั้นเข้ามาให้แน่นมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมกับปิดตาลง ...บางทีมันก็ถึงเวลาที่ผมควรจะพักผ่อนบ้าง
ฝันดีนะคชา ><”
แสงแดดอ่อนๆส่องลอดมาตามช่องว่างของรางผ้าม่าน ถึงแม้แสงนั้นจะไม่มีอนุภาพความร้อนสูงเท่าใดนัก แต่มันก็สามารถแยงตาร่างสูงที่กำลังนอนหลับสบายได้โดยง่าย เต๋าค่อยๆใช้แขนดันตัวเองลุกขึ้นนั่งพลางขยี้ตาด้วยท่าทางที่งัวเงีย สายตาเริ่มจับจ้องไปรอบๆห้องเพื่อหาจุดโฟกัส ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่คนตัวเล็กที่นอนขดตัวสบายใต้ผ้าห่มผืนหนา ไม่มองเปล่ามือหนานั้นเอื้อมไปจับหัวนั้น พลางลูบมันอย่างเบามือ
ผมยิ้มให้ร่างเล็กตรงหน้านิดหน่อย ก่อนที่จะเป็นฝ่ายลงจากเตียงไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำก่อน แล้วค่อยเดินมาปลุกเจ้าตัวเล็ก ปล่อยให้นอนไปก่อนละกันกำลังหลับสบายอยู่นี่นา
ขณะที่ผมกำลังแปรงฟันและคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ร่างบางเดินขยี้ตาเข้ามาเกาะประตูห้องน้ำ พลางใช้ตากลมนั้นมองผมอย่างงอนๆ
“ทำไมพี่เต๋าไม่ปลุกผมล่ะ?” คชาพูดพลางทำหน้าหงิกใส่คนตรงหน้า ก่อนที่จะใช้ศอกกระทุ้งให้คนตัวโตกว่าให้ขยับไปข้างๆก่อนที่จะรีบหยิบเอาแปรงฟันของตัวเองขึ้นมาแปรงบ้างอย่างลนลาน ดูท่าทางวันนี้ตัวเล็กจะรีบเป็นพิเศษ
มีสอบหรือยังไงกันนะ?
มีสอบ
มีสอบ
อ่าวเห้ย! วันนี้คชามีสอบย่อยตอนแปดโมงนี่นา แล้วตอนนี้ ...เพิ่งเจ็ดโมงห้าสิบเอง
ห๊า! เจ็ดโมงห้าสิบบบบบ!!!!
“ผมบอกพี่เต๋าเมื่อคืนแล้วไงว่าให้ปลุกด้วย” ประจวบเหมาะกับที่ตัวเล็กล้างหน้าล้างตัวเสร็จพอดี คชาหันหน้ามาค้อนผม ก่อนที่จะรีบวิ่งออกไปเปลี่ยนชุด เขาก็ยังไม่ลืมที่จะหันกลับมาบอกผมว่า
“วันนี้ไม่มีอาหารเช้า โทษฐานไม่ปลุกผมเอง แต่นมผมจะเอาออกมาเทให้ละกัน”
น่ารักซะขนาดนี้ ถ้าไม่ ‘หวั่นไหว’ ก็มาช่วยเดินมาตบผมแบบเรียงคิวเลยครับทุกค๊นน!!
“แหมม...ตั้งแต่มีรูมเมทนี่ไม่คิดจะรายงานผลให้เพื่อนทราบเลยหรอครับคุณชายเต๋า” เสียงเจื้อยแจ้วที่ดังขึ้นข้างหลังของผมจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้คุณต้นเจ้าเก่าเจ้าประจำ
“ก็ดี พอมีรูมเมทแล้วประหยัดขึ้นเยอะเลย”
หลังจากที่ผมตอบเสร็จ ต้นก็ทำหน้าเอือมใส่ผม ก่อนที่จะเกิด Death air ขึ้นมาประมาณ 3วินาที
“............................”
“คือเต๋ามึงตอบผิดประเด็นที่กูอยากจะถามไง?”
“เอ้า!! แล้วมึงจะถามประเด็นอะไรกับผมล่ะคร๊าบบบบ”
“ก็น้องเค้าเป็นไงบ้าง? ก่อเรื่องเดือดร้อนอะไรให้มึงบ้างเปล่าแนวนี้ไง ไอ้ควายเผือกก!” ไอ้ต้นไม่พูดเปล่า มันยังเอาสันมือบางๆของมันฟาดเข้าไปที่กระโหลกผมเต็มแรง
“โอ๊ยย!! เบาๆดิวะ ผมแม่งเสียทรงหมด” ผมโวยวายพลางจัดแจงทรงผมที่อุตส่าห์เสียเวลาเซ็ทร่วมครึ่งชั่วโมงให้เข้าที่เข้าทางเหมือนเดิม
“ก็ น้องเค้าน่ารัก (ที่สุดในโลก) ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้กูเลย (มีแต่คอยบันดาลความสุขให้กูตลอด) โดยรวมแล้วก็ดีอะ (ดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เลยต่างหาก xD)” ข้อความในวงเล็บผมไม่ได้พูดออกไปหรอกครับ เดี๋ยวไอ้ต้นจะหาว่าผมคิดไม่ซื่อกับน้องเค้า อันที่จริงก็แอบคิดไปแล้วนิดหน่อย แค่นิดหน่อยเองนะครับทุกคน เชื่อผมสิ!
“แค่นี้จริงๆนะ” สมแล้วครับที่เป็นเพื่อนสนิทกันมานานร่วม 6เดือน นี่มึงชักจะสนิทกับกูมากไปจนรู้ทันกันไปหมดแล้วหรือเปล่าห๊ะ? ไอ้คุณธนษิต!!! ผมพยักหน้าแทนคำตอบพลางเฉไฉมองไปทางอื่นแทนเพื่อหลบสายตาคาดคั้นของไอ้ต้น แต่สายตาเจ้ากรรมมันดันไปเห็นเข้ากับคชาที่กำลังเดินหัวร่อต่อกระซิกมากับสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มที่ดูเหมือนเป็นเพื่อนคณะเดียวกัน และกำลังเดินมาทางโต๊ะที่พวกผมนั่งพอดี เมื่อเห็นอย่างนั้นแล้วผมจึงรีบก้มหน้าลงจัดการกับน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวในชามทันที
“อ่าวนั่นมันน้องคชานี่ เรียกให้มานั่งด้วยกันมั้ย?”
“ไม่ต้องน่า” ผมพูดเสียงเบาแต่ก็ยังไม่เงยหน้ากลับขึ้นไป ต้นชักสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ไม่ได้เรียกให้คชามานั่งร่วมโต๊ะอย่างที่ได้ตั้งใจไว้
“อ่าวทำไมวะ? แล้วดูสิน้องเค้ามีแฟนแล้วก็ไม่ยักจะบอก เจมส์ก็เหมือนกันทำไมไม่บอกฉันนะ” ต้นยังคงพล่ามไปเรื่อยเปื่อยพลางจ้วงตักโยเกิร์ตขึ้นมากินอย่างเอร็ดอร่อยแบบไม่สนใจโลก
แฟนงั้นหรอ?
คชามีแฟนแล้ว
น้องคชาทำไมทำกับพี่แบบนี้ล่ะ
มาทำให้พี่หวั่นไหว แล้วจากไปแบบนี้ได้ยังไงกัน? Y[]Y”
“เป็นอะไรไปวะเต๋า ทำไมทำหน้าหงอยขนาดนั้น?”
“เปล่านิ เอ่อวันนี้กลุ่มเรานัดกันทำโปรเจคใช่มั้ย วันนี้กูว่างเดี๋ยวช่วยทำนะ” ผมพูดพลางหยิบชามอาหารไปเก็บ โดยที่มีต้นมองตามไปแบบงงๆ
“สงสัยวันนี้หิมะจะตกเมืองไทยวะ ไอ้เต๋าแม่งว่างมาช่วยงาน” ต้นพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะเดินตามเต๋าไป
นี่ก็เข้าวันที่สามแล้วที่ผมกลับหอในตอนเช้า ผมไม่ได้ไปเที่ยวเตร่ทำตัวเกเรที่ไหนเลยนะ ที่ต้องกลับเช้าแบบนี้เพราะว่าโปรเจคงานวิชาบังคับที่ทำอย่างยืดเยื้อไม่เสร็จสักที
อะไรนะครับ เอาความจริง!
ครับ! เรื่องโปรเจคงานน่ะมันข้ออ้าง ความจริงก็คือ
ผมยังไม่อยากเจอหน้าคชาตอนนี้
คชา คนใจร้าย!! หลอกผู้ชายแมนทั้งแท่งอย่างผมให้กลายไปเป็นโฮโมได้อย่างเลือดเย็น
ผมคิดว่าถ้าหากไม่เจอคชาตอนนี้ ผมอาจจะไม่รู้สึกหวั่นไหวกับเขามากกว่านี้อีก
และวันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งเช่นกันที่ผมกลับเข้าห้องตอนไก่โห่แบบนี้ ผมค่อยๆไขกุญแจและเปิดประตูเข้าไปช้าๆ ค่อยๆย่อง ค่อยๆย่อง ค่อยๆย่อง . . .
แต่เดี๋ยวก่อน !?
นี่ผมกำลังเดินเข้าห้องตัวเองอยู่นะ จะมัวมาย่องเหมือนคนแอบหนีเที่ยวแล้วกลัวเมียจับได้ทำไม?
ร่างสูงคิดพร้อมกับเปลี่ยนท่าทางการเดินทันที เขาย่ำก้าวแต่ละก้าวอย่างมั่นใจจนไปถึงห้องของตน เขาถึงกับต้องชะงักเมื่อเห็นรูมเมทของตัวเองกำลังนอนขดอยู่บนเตียงที่คุ้นเคย
นอนละเมออีกล่ะสิ
ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ผมสาวเท้าเข้าไปหาร่างที่กำลังนอนหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอบนเตียง ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเห็นร่างนี้นอนหลับสนิทแบบนี้ แต่ทำไมครั้งนี้ใจผมเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก มือหนานั้นค่อยๆเกลี่ยปอยผมที่ปรกดวงหน้าใสนั้นออกไปให้พ้นทาง ยิ่งได้มอง ยิ่งอยากเป็นเจ้าของ
แต่ต้องอดใจไว้ เพราะน้องเค้าไม่ได้ชอบผู้ชายแถมยังมีแฟนแล้วอีกต่างหาก
“อื้อออ ...พี่เต๋าใช่มั้ย?” เสียงงัวเงียเหมือนคนเพิ่งตื่นนอนดังขึ้น พร้อมกันกับที่ร่างบางพยายามดันตัวขึ้นนั่ง
“นอนต่อเถอะ เดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อน” ผมตัดบทเสียงห้วนพร้อมกับกำลังดันตัวออกให้ลุกขึ้นจากเตียง
“ไม่เอา!” คชาตะโกนเสียงดังพลางเกาะแขนหนานั้นไว้ “ผมไม่ให้พี่เต๋าไปไหนทั้งนั้นแหละ” ตัวเล็กเกาะแขนผมแน่นพลางซุกตัวเข้าหาผมอย่างออดอ้อน ไหล่บางนั้นสั่นไหวเบาๆเป็นจังหวะ พร้อมกับเสียงสะอื้น อีกทั้งความรู้สึกเย็นที่แขนของตัวเองนั่นทำให้ผมรู้ว่าคชากำลังร้องไห้
“ผม ม ฮึ่ก ก . .กินข้าวคนดะ . . เดียวมา 3วันแล้วนะ ฮืออ . . .”
“ทะ ทะ ทำไม ฮึ่ก ก พี่เต๋าไม่กลับมาห้องล่ะ”
“โกรธผมหรอ” ปิดท้ายด้วยการใช้ตากลมๆแป๋วๆนั้นจ้องผมอย่างคาดคั้น ผมส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะถามกลับไปว่าแล้วมีเหตุผลอะไรที่ผมจะต้องโกรธเขาด้วย
“ก็วันนั้น ฮึก . . .ผมไม่ได้ทำ อะ อาหารเช้าให้พี่เต๋า แล้วก็ ยะ ..ยังเหวี่ยงพี่เต๋าอีก ฮืออ”
ผมย้อนนึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้น พร้อมกับยิ้มเล็กๆ นี่คชาแคร์ผมมากถึงขนาดนี้เชียวหรือ ก่อนจะยื่นมือไปขยี้ผมคชาอย่างหมั่นเขี้ยว มันทำให้คชายิ้มออกมาได้ไม่มากก็น้อย
“พี่ไม่โกรธคชาหรอก พี่ต่างหากกลัวคชาจะโกรธพี่”
“คชาไม่ได้โกรธนะ!” ตัวเล็กสวนแทบจะทันที ด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจผิด ก่อนที่จะวกเข้าประเด็นเดิมว่า
“แล้วพี่เต๋าหลบหน้าผมทำไม?”
“เอ่อ คือ อ ...” ด้วยความที่คุณหญิงแม่สอนมาดีมากเรื่องการห้ามพูดโกหก เลยทำให้ผมมีจุดอ่อนคือ โกหกใครไม่ค่อยเป็น ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกว่ามือตัวเองชา และเหงื่อผุดออกมาเต็มหน้าเสียมากมายเมื่อคนตรงหน้าเห็นดังนั้นจึงพูดรัวไม่หยุดเป็นชุดด้วยความน้อยใจ
“พี่เต๋าไม่อยากอยู่กับคชาแล้วใช่มั้ย?”
“พี่เต๋าคงเห็นว่าคชาเป็นตัวปัญหาล่ะสิ พี่เต๋าคงรำคาญผม”
“เรื่องเดินละเมออีก พี่เต๋าคงไม่ชอบใช่มั้ยที่ผมชอบมาแย่งที่นอนพี่เต๋านอน”
“พี่เต๋าคง . . .อ๊ะ “
ยังไม่ทันที่ตัวเล็กจะพูดจบประโยค และจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ ผมก็ดึงร่างบางนั้นเข้ามากอดเสียแน่น พลางใช้มือลูบหัวนั้นเพื่อปลอบประโลมยังอ่อนโยน
“พี่ไม่เคยรู้สึกอะไรอย่างที่คชาพูดเลยนะ”
“พี่กลับดีใจ ที่ได้คชามาอยู่ด้วยกัน”
“ทำไมรู้มั้ย?”
“เพราะว่าพี่ชอบนายไงล่ะ”
ร่างบางในอ้อมแขนของเขานิ่งไปทันที ผมค่อยๆคลายอ้อมกอดนั้นลง พร้อมกับเสหน้าไปทางอื่น
สุดท้ายก็บอกไปจนได้สิน่า
แต่ถึงไม่บอกก็รู้ว่าร่างเล็กนี้จะตอบกลับมาว่ายังไง
ก็มีแฟนแล้วนี่นา แถมยังน่ารักซะขนาดนั้นด้วย
“พี่เต๋าพูดจริงหรอ?”
“คชาไม่ต้องไปสนใจนะ พี่ไม่ได้อยากให้คชาตอบตกลงกับพี่หรอก พี่รู้ว่าคชามีแฟนแล้ว แล้วก็น่ารักมากด้วย แต่ไม่เป็นไรใช่มั้ย? ถ้าจะให้พี่คอยเป็นห่วงอยู่ห่างๆแบบนี้ พี่สัญญาพี่จะไม่ล้ำเส้นของคชาเด็ดขาด!”
“ผมมีแฟน?” คชาทวนคำพูดของผม ก่อนที่จะปล่อยเสียงหัวเราะออกมาดังทั่วห้อง “นี่พี่เต๋าไปรู้อะไรมาเนี่ย?” ผมเกาหัวแก้เก้อสักพัก แล้วจึงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้คชาฟัง นั่นยิ่งเรียกเสียงหัวเราะให้เจ้าตัวเล็กมากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อหัวเราะจนสาแก่ใจ(?)แล้วตัวเล็กจึงจัดแจงอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ผมฟังอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
“คนนั้นอ่ะเค้าชื่อเจน เป็นเพื่อนในคณะของผมเอง อีกอย่างพี่ต้นเองก็รู้จักเจนนะ พี่เต๋าอะโดนพี่ต้นเล่นแล้วล่ะ”
หนอยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ไอ้เพื่อนรัก อย่าให้กูได้เจอมึงวันพรุ่งนี้นะ แม่จะด่าให้ลืมทางกลับบ้านเลยคอยดู!!
ผมฟึดฟัดอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะรู้สึกตัวอีกทีคชาก็เอนตัวมาซุกกับอกของผมเหมือนลูกแมวเชื่องๆ พร้อมกับส่งเสียงอู้อี้อะไรบางอย่างที่ผมพอจับเป็นประโยคได้ว่า
“อีกอย่างผมก็มีคนที่ผมชอบอยู่แล้วด้วยนี่นา”
เมื่อได้ยินดังนั้นผมจึงดันตัวของคชาออกเบาๆ พลางจ้องตาแป๋วนั้นอย่างคาดคั้นคำตอบ เจ้าตัวเล็กยิ้มน่ารักพร้อมกับใช้มือบางบีบจมูกผมเล่นอย่างหมั่นเขี้ยว
“แหม ไม่ต้องทำหน้าดุเลยนะ”
จุ๊บ! ริมฝีปากบางหวานฉกฉวยรสจูบบางเบาจากอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ผมนั่งนิ่งไร้การตอบสนองกับการกระทำอันอุกอาจเมื่อครู่
“เมื่อกี้ทำหน้าดุ ตอนนี้ทำหน้าเอ๋อแล้ว” คชาล้อผมเล่น ก่อนที่จะโผเข้าสวมกอดผมไว้
“ถ้าไม่ชอบผมไม่จุ๊บหรอกนะ” ผมไม่รีรอ และหักห้ามใจอะไรอีกแล้ว ผมกดร่างบางนั้นลงกับเตียงนุ่ม ก่อนที่จะแนบริมฝีปากของตัวเองลงบนริมฝีปากหยุ่นนุ่มของอีกฝ่าย พร้อมกับปรนเปรอรสจูบอันแสนหวานให้กับร่างเล็กที่อยู่ข้างใต้ แขนทั้งสองของคชายกขึ้นโอบรอบคอผมพลางโน้มตัวผมให้เข้าหาเขามาขึ้นไปอีก จากจูบอันอ่อนโยนเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นรสจูบที่ร้อนแรงอย่างช่วยไม่ได้
“อ๊ะ . . .พี่เต๋า แฮ่กก . . “ เป็นร่างเล็กที่ผละจูบนั้นออกก่อน พร้อมกับพยายามตักตวงเอาอากาศเข้าปอดให้มากที่สุด พลางดันตัวผมที่กำลังจะโน้มตัวเข้าหาอีกครั้ง
“เดี๋ยวก่อนสิ” ผมถอนหายใจอย่างไม่พอใจนิดหน่อย ก่อนที่จะหยุดการกระทำทุกอย่างพร้อมกับมองหน้าเจ้าตัวเล็กข้างใต้อย่างไม่เข้าใจนัก
“พี่ยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะ”
“ขออาบทีเดียวเลยได้มั้ย?”
“ทะลึ่งน่า . . . ไปอาบเดี๋ยวนี้เลย ไม่งั้นผมจะกลับไปนอนห้องตัวเองนะ” ขู่ครับขู่ ไอ้เราก็นึกว่าจะให้เดินเกมส์ต่อจนจบ มาเบรกกันแบบนี้ คนหล่อก็แอบเซ็งนะครับเนี่ย? ผมพองลมทำท่างอนแบบเด็กๆ ก่อนที่จะดันตัวเองให้ลุกขึ้นเดินตรงที่ห้องน้ำ โดยที่มีคชาคอยดันหลังให้เข้าไปอย่างทุลักทุเล
“สัญญานะว่าเค้าอาบน้ำเสร็จจะต่อจากเมื่อกี้อะ”
“ไม่รู้!!!” คชาพูดเสียงดังกลบเกลื่อนความอาย พร้อมกับปิดประตูห้องน้ำเสียงดัง ร่างบางเดินกลับมาที่เตียง และเมื่อนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาไม่นานดวงหน้าสวยก็ขึ้นสีอย่างปิดไม่มิดพลางเข้าไปจัดเตียงให้เรียบร้อยก่อนที่ตัวเองจะปีนขึ้นเตียงไปนอนรอร่างสูงที่อาบน้ำอยู่
น่าจะขอบคุณอาการนอนละเมอของเขา
ที่ทำให้เขาได้มาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของผู้ชายคนนี้
แต่ความจริงแล้ว . . . อาการนอนละเมอของเขารักษาจนหายขาดแล้วตั้งแต่ก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับเต๋า
ไอ้ที่ละเมอมานอนด้วยทุกวันตลอดสามเดือนน่ะ
มันเป็นข้ออ้างที่จะได้มานอนกับพี่เต๋าต่างหาก ><”
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงอาบน้ำเร็วขนาดนี้ เพียงแค่คิดว่าเจ้าตัวเล็กนั้นนอนรออยู่บนเตียง มันก็แทบเก็บความตื่นเต้นไว้ไม่อยู่ ผมออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูผืนเดียวพลางเดินตรงไปที่เตียงนั้น (เต๋าแม่งโครตหื่น! = ='')
คชานอนหลับไปแล้ว ผมส่ายหน้าให้กับความขี้เซาของตัวเล็กนี้เล็กน้อยก่อนที่จะเดินไปเปลี่ยนเป็นชุดนอน พร้อมกับปีนขึ้นไปนอนอีกฝั่งของเตียง พลางยกหัวคชาขึ้นมาพาดไว้บนแขนข้างหนึ่งของผม ร่างบางซุกตัวเข้ามาหาไออุ่นอย่างที่ทำประจำทุกวัน แล้วสุดท้ายผมจะเข้าสู่ห้วงนิทราตามคชาไป
“ฝันดีนะ ที่รักตัวน้อยของผม”
FIN : PART 1
ความคิดเห็น