คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : [SF]Famous' Lover :สะดุดรักพ่อหนุ่มซุป'ตาร์ *PG-15
Title: Famous’lover
Genre: Comedy
Rating: PG-15
Talk : สวัสดีอีกครั้งคะ ทุกคน 5555 ก๊ากกก ขอฮาชื่อภาษาไทยที่สะดิ้งอยากตั้งแบบพวกซี่รี่ห์เกาหลี กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก วันนี้มาพร้อมกับฟิคแปลงอีกแล้ว เพราะว่าปั่นรูมเมทต่อไปไม่ไหว มันตัน! เลยต้องหาฟิคแปลงมาเซ่นทุกท่านไปพลางๆก่อน ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน และเม้นท์กันนะค่ะ ดีใจๆๆ และก็คนอ่านหลายท่านแอดเฟสบุ๊คไรเตอร์ไป คริๆ รู้มั้ยไรเตอร์ตื่นเต้นมากก เมื่อทราบว่าเป็น คนอ่านฟิคตัวเองแอดมา มือนี่ัสั่นน ยิ้มไม่หุบ คริ๊! แล้วเห็นน้องคนนึงเอาฟิคเค้าไปแชร์ด้วย ><" อ้ออ แล้วไรเตอร์มีฟิคยาวของเพื่อนสนิทของไรเตอร์นี่แหละคะ มาโปรโมตกัน(อาจจะยังไม่มีแบนเนอร์เพราะอยู่ในช่วงฝึกทำ 555 ) เข้าไปอ่านแล้วให้กำลังใจเค้าเยอะๆนะคะ
" http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=739983 "
เพื่อนไรเตอร์คนนี้เค้าทุ่มเทมากกับฟิคเรื่องนี้ ไปอ่านและเม้นท์ให้เค้าเยอะๆนะค่ะ : )))
CREDIT : ในรูปนะค่ะ ขอบคุณมากค่า :)
“จริงรึเปล่าคะ ข่าวที่ออกมาหาว่าเต๋าเป็นเกย์?” โอ้ยย จริงยิ่งกว่าจริง ผมน่ะมั่นใจยิ่งกว่าโลกจะแตกในปี 2012 เสียอีกน่ะ
“ไม่หรอกครับ ข่าวลือทั้งนั้นแหละครับ ผมยืนยันกับทุกคนตรงนี้เลยนะครับว่าผมแมนร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ เดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะครับ ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มรูปร่างสูงดูท่าทางสง่างามที่กำลังให้สัมภาษณ์คนนี้ คือ เศรษฐพงศ์ เพียงพอ ดาราหนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่ตอนนี้กำลังโด่งดังเป็นพลุแตกเชียวละ ผมนั่งขบเขี้ยวฟันอยู่เล็กน้อยก่อนที่จะระเบิดเสียงตะโกนที่อัดอั้นมานานของตัวเองออกมา
“ไอ้สตอเบอรี่เอ้ยยยยย !” โว้ยย ยิ่งคิดยิ่งอารมณ์เสีย ไม่ใช่โฮโมบ้านแกดิ๊ .. ทุกคนอย่าเพิ่งตกใจกับอาการอาละวาดบ้านแตกของผมเลยนะครับ ถ้าคุณอยากรู้เรื่องละก็ ผมจะเล่าให้ฟัง
ผมชื่อนนทนันท์ อัญชุลีประดิษฐ์ หรือเรียกง่ายๆว่าคชาก็ได้ครับ เป็นลูกชายของผู้ดูแลคอนโดสวยหรูใจกลางกรุง หรือพูดง่ายๆว่าพ่อผมเป็นยามของคอนโดนี้แหละครับ ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบแทนในการทำงานมาเป็นเวลานานและทำงานได้เป็นอย่างดีมาตลอด เจ้าของคอนโดนี้เลยอนุญาตให้พ่อผมนำครอบครัวเข้ามาอาศัยภายใต้สถานที่สุดหรูนี่โดยที่ไม่ต้องเสียเงินสักบาท ยกเว้นค่าน้ำค่าไฟนะฮะ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักใหญ่ใจความสำคัญเท่ากับการที่มีสมาชิกใหม่ย้ายเข้ามา
และเขาที่ย้ายเข้ามาใหม่นั่นก็คือ ไม่ต้องทายกันให้เมื่อยตุ้มครับ “เศรษฐพงศ์ เพียงพอ” ขวัญใจสาวไทยเกือบครึ่งค่อนประเทศนั่นเอง เอง เอง เอง (แอคโค่เพื่อ? - -‘)
และผมที่ยึดถือคำที่พ่อสอนไว้ว่า อยู่คอนโดท่านอย่านิ่งดูดาย ไปช่วยเขาทำงานเอาเงินบ้างก็ดี ผมเลยอาสาไปช่วยเขาขนข้าวของขึ้นห้องตามปกติ
“ไม่น่าเชื่อเลยนะ ตัวเล็กๆบางๆเหมือนผู้หญิงอย่างนายจะยกไหวด้วย” ไอ้คุณดารากระเซ้าผมเล่นขณะที่ผมกำลังแบกกระเป๋าเสื้อผ้าใบโตราคาแพงหูฉีกของเขาเข้าไปในห้องพัก ผมวางมันลงช้าๆ ก่อนที่จะหันหน้ามาสบตากับเขาอย่างจัง ผมสะดุ้งเล็กน้อยก็ในเมื่อใบหน้าของผมและเขาอยู่ใกล้กันเกินความจำเป็น ก่อนที่ผมจะส่งยิ้มหวานให้เขาแล้วพูดรัวๆไปว่า
“กระเป๋าคุณเบาออกจะตายไปนี่ครับ ผมขนของมาให้ครบแล้วนะครับ เดี๋ยวอีกสักสิบห้านาทีแม่บ้านจะขึ้นมาทำความสะอาดและจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยนะครับ” ผมโค้งให้เขาเล็กน้อยก่อนที่จะรีบเดินออกมาจากห้องนั้น
ตายห่าละไอ้คชา!! คนห่าอะไรวะ ออร่านี่กระแทกตาเชียว โอ้ยยย ตากรูจะบอดด!
และหลังจากนั้น ผมก็กลายเป็นเหยื่ออันโอชะของพ่อดาราตัวขาวนี่ทันที่ คุณไม่รู้หรอกว่าที่ผมประสบมาน่ะ มันมากมายแค่ไหน ทั้งโดนกลั่นแกล้งสารพัด จิกใช้งานเยี่ยงทาส และสุดท้าย อันนี้ผมรับไม่ไหวจริงๆ นั่นก็คือ
“คุณเต๋าครับ ผมกำลังทำครัวอยู่ กรุณาออกห่างด้วยรัศมีสามเมตรเป็นอย่างต่ำด้วยครับ” ผมพยายามบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่ผมคิดว่า ปกติสุดๆ ไม่ได้เคลือบแฝงไปด้วยความแค้นแต่อย่างใด แต่ผลที่ได้ก็เหมือนกับทุกครั้งที่ผมบอกเขาคือ ก็ยังคงนัวเนียผมไม่เลิก กอดจากทางหลังยังไม่พอ ยังเอามือมาเขี่ยๆแก้มผมอยู่นั่นแหละ ถ้าไม่เห็นแก่อนาคตอันสดใสสวยงามของผมในรั้วมหาวิทยาลัยละก็ อาจจะเกิดข่าวหน้าหนึ่งว่าเด็กม.ปลายแทงดาราดังตายคาคอนโดแน่ๆ
“ก็แก้มคชาของฉันนิ่มนี่นา ขอหอมหน่อยได้ป่ะ?”
ปังงง !!!
ผมสับมีดลงบนเขียงอย่างแรง ก่อนที่จะส่งสายตาดุร้ายไปให้ผู้ชายที่กำลังทำตัวน่ารัก ออดอ้อน แอ๊บแบ๊ว ขัดกับรูปร่างของตัวเองซะจริง
“กรุณาเรียกผมว่า คชา เฉยๆด้วยครับ อีกอย่างผมเตือนคุณแล้วนะ ถ้าเกิดอันตรายอะไรมา ผมไม่รับผิดชอบจริงๆด้วย” ผมยื่นคำขาด ร่างสูงจิ๊ปากขัดใจเล็กน้อย ก่อนที่จะโยกย้ายตัวเองไปนั่งอยู่หน้าจอทีวี พลาสม่าขนาดใหญ่กลางห้อง
โหยยย รู้งี้ใช้มุกนี้ตั้งนานละก็ดี ผมคิดก่อนที่จะหันไปทำอาหารต่อ อ้อ อย่าตกใจนะครับว่าผมได้มาทำอาหารให้เขาได้ยังไง เป็นเพราะเขาทั้งนั้นแหละครับ เรื่องมากนู่นนี่วุ่นวาย คือ ไอ้คุณเต๋าเนี่ย จะต้องกินข้าวเย็นที่บ้านทุกวัน แต่เขากลับบ้านเป็นเวลาที่ไหนละครับ ดังนั้นตัดไปได้เลยเรื่องการให้ป้าแม่บ้านมาทำให้ เพราะแต่ละคนก็กลับบ้านกันไปหมดแล้ว ก็มีแต่ผมนี่ครับที่ทำอาหารให้สามารถกินได้โดยที่ท้องไม่เสีย หน้าที่ทำครัวดังกล่าวจึงตกเป็นของผมโดยปริยาย
ขอให้กรูได้เป็นดาราบ้างเหอะ ... !
“พี่คชา ที่รักหนูเรียกใช้อีกแล้วละ” เสียงเจี้ยวแจ้วของน้องสาวผมดังมาแต่ไกล ผมถอนหายใจเล็กน้อยก่อนที่จะลุกขึ้นไปปิดทีวี ทันทีกับที่น้องสาวตัวแสบของผมเปิดประตูเข้ามา
“รู้ละน่า ... กำลังจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” ผมพูดเดินไปเปลี่ยนเสื้อให้ดูเหมาะสมกว่าเมื่อกี้หน่อย
“หนูอยากรู้จริงๆ ว่าทำไมพี่เต๋าถึงเรียกใช้แต่พี่นะ”
“จะรู้กับเค้ามั้ยละ”
“พี่คชาอย่าลืมนะ พูดถึงหนูให้พี่เต๋าฟังบ่อยๆนะ เค้าจะได้สนใจหนูสักที เฮ้ออ มีของดีอยู่ใกล้ตัวแล้วมองข้ามตลอดเล้ยย ยัยเอมี่นั่นมันมีอะไรดีนะ ถึงได้ไปเดทด้วยเนี่ย” น้องสาวผมฟึดฟัดไปมา ผมส่ายหัวเล็กน้อยก่อนที่จะตีไปที่หัวของเธอเบาๆอย่างเอ็นดู
“แก่แดดใหญ่แล้วนะเราน่ะ”
“ไม่รู้ละ ถ้าหนูไม่ได้เดทกับพี่เต๋านะ ใครหน้าไหนก็เดทด้วยไม่ได้หรอก” ผมหัวเราะกับความคิดของน้องสาว ก่อนที่จะคว้าเสื้อเชิ้ตอีกตัวมาสวมทับเสื้อยืดลายเก๋ข้างใน แต่ก็ไม่ลืมที่จะกำชับให้น้องสาวสุดที่รักปิดประตูห้องให้ดี ช่วงนี้โรคจิตมันแยะ
ไม่รู้ว่าคุณดาราใหญ่จะไว้ใจอะไรผมนักหนา เลยให้คีย์การ์ดห้องตัวเองไว้ให้ผมเสร็จสรรพ ด้วยเหตุผลที่ว่า “ถ้าเกิดเขาอยากเรียกใช้ผมเมื่อไหร่เขาจะได้ไม่ต้องลำบากเดินไปเปิดประตูให้” ดีนะครับเนี่ย ที่ผมน่ะเป็นเด็กดีที่เชื่อฟังคำสอนของพ่อแม่ ว่าอย่าไปขโมยของของคนอื่น ไม่อย่างนั้นนะ ของในห้องของคุณเต๋าหายไม่เว้นแต่ละวันแน่ๆ ทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องก็ได้ยินเสียง
“เต๋า นี่เบาๆหน่อยมั้ย ?”
เห ??? นั่นมันเสียงผู้หญิงชัดๆ แต่เดี๋ยวนะ เขาจะเรียกผมมาทำไมกันละ ถ้าในเมื่อตัวเองก็ตั้งใจจะ จุ๊กกะลุกอิ๊อุคริ๊ๆ อยู่แล้ว ผมค่อยๆก้าวไปข้างหน้าช้าๆและมั่นคงก่อนที่จะเดินไปหยุดอยู่ตรงโซนกลางห้องนั่งเล่น
“ชั้นเจ็บนะ อ่าวแล้วนั่นใครมาน่ะ?”
โอ๊ะ แม่เจ้า นั่นมันคุณเอมี่ นางเอกที่แสดงละครเรื่องเดียวกันกับอิตาดาราโรคจิตนี่ ภาพที่ผมเห็นตอนนี้ก็คือคุณเอมี่กำลังนั่งอยู่บนโซฟา โดยที่คุณเต๋ากำลังทำอะไรบางอย่างที่ส่วนล่างของเธออยู่ ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่เพราะโซฟามันบังน่ะ แต่ ...มันเป็นภาพที่ล่อแหลมมากเลยน๊ะ O[]O’’
“อ๋อ คชาน่ะ ชั้นเรียกมาช่วยเธอเอง” ร่างสูงลุกขึ้นเท้าสะเอวพลางกวักมือเรียกผมที่ตอนนี้สติหลุดไปดาวอังคารแล้วให้เข้าไปหาเขา
อะไรนะ ? มาช่วยงั้นหรอ ? นี่คุณเอมี่เป็นพวกสวิงกิ้งเกี๊ยวหมี่รึยังไงกัน?
“ยืนบื้ออยู่ทำไมละ คชามาช่วยกันเร็วๆสิ”
“พวกคุณไม่อายกันบ้างเลยรึไงครับ” ผมพูดเสียงเรียบ พลางหันหน้ามองไปทางทั้งสองคนที่แสร้งทำหน้าเหรอหราไม่รู้เรื่องอะไร
“นายพูดอะไรเนี่ย จะอายทำไมกันเรื่องแค่นี้เอง”
“ถึงจะเป็นเรื่องแค่นี้ของพวกคุณ แต่มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผมนะครับ อีกอย่างตอนนี้ก็กลางวันแสกๆ ไม่อายผีสางเทวดากันเลยรึยังไงกันห๊า ?!?”
ผมตะเบงไปสุดเสียง ทำเอาสองคนนั้นงงหนักไปยิ่งกว่าเดิม ก่อนที่จะเป็นร่างสูงที่ยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ออกมา พร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ๆผมอย่างที่ทำเป็นประจำ แต่ครั้งนี้ผมรู้สึกว่ามันมีรังสีแปลกๆแผ่ซ่านออกมาด้วยสินะ
“นายกำลังคิดอะไรทะลึ่งๆอยู่ใช่รึเปล่านะคชา” ร่างสูงกระซิบไปที่ข้างหูของผม ก่อนที่จะเป็นผมเองที่เป็นฝ่ายผละออกมา พลางพูดแก้ตัวตะกุกตะกัก
“ปละ..เปล่าสักหน่อย ละ แล้วว พวกคุณจะ จะ ให้ผมทำอะไรละ?”
“อ๋อ ..พอดีว่าวันนี้ชั้นกับเต๋านัดกันจะมาซ้อมบทสำคัญพรุ่งนี้น่ะ แล้วพอดีว่าชั้นดันไปสะดุดหกล้มเข้า ขาก็เลยแพลง เต๋าเลยอยากให้เธอมาช่วยนวดให้ชั้นหน่อยน่ะจ๊ะ” คุณเอมี่ที่นั่งอยู่บนโซฟาตะโกนตอบมา
เช๊ทททท!!! แล้วทำไมไม่บอกให้มันเร็วกว่านี้นะว่าให้มานวด
คนเค้าก็คิดกันไปถึงไหนต่อไหนก็ไม่รู้แล้วเนี่ยเห็นมั้ย?
ผมคิดด่าตัวเองในใจก่อนที่จะแสร้งทำเป็นเดินหนีพ่อดาราใหญ่ที่ตอนนี้จ้องผมจนตัวจะทะลุอยู่แล้ว แต่ก่อนที่ผมจะได้เดินไปช่วยคุณเอมี่นั้น แขนแกร่งก็รั้งผมไว้แล้วก็กระซิบประโยคที่น่าขนลุกขนพองต่อไปว่า
“เรื่องที่นายคิดเมื่อกี้น่ะ เอาไว้อยู่ด้วยกันสองคนค่อยทำละกันนะ”
ผมบอกแล้วไง ว่าเศรษฐพงศ์ เพียงพอน่ะ มันเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกัน!!!!!!
“ขอบคุณมากนะจ๊ะ คชาอาหารฝีมือเธออร่อยมากๆเลยละ ไหนจะเรื่องที่ช่วยนวดข้อเท้าให้ชั้นด้วย” คุณเอมี่กล่าวขอบคุณผม ก่อนที่จะเดินออกไปพร้อมกับคุณเต๋าที่อาสาจะไปส่งที่ข้างล่างให้ ผมถอนหายใจยาวพลางปิดประตูห้องลง พลางเดินไปทำความสะอาดจานชามกองโต
“เรื่องที่นายคิดเมื่อกี้น่ะ เอาไว้อยู่ด้วยกันสองคนค่อยทำละกันนะ”
ประโยคที่คุณเต๋าพูด คอยวนเวียนมาหลอกหลอนผมทุกสองนาที ตั้งแต่เมื่อตอนบ่าย มันทำให้ผมต้องรีบทำงานในส่วนนี้ให้เร็วที่สุดก่อนที่เขาจะขึ้นมา แล้วผมกับเขาก็จะอยู่กันสองต่อสอง แล้วมันก็จะ อ๊ากก มันล่อแหลมเกินไป!!!
“ล้างจานให้ดีๆหน่อยสิ รู้มั้ยว่าจานชามชุดนั้นมันราคาตั้งเท่าไหร่”
กล้วยทอดแล้วมั้ยละไอ้คชาเอ้ย! เสียงนี้ ใช่เลย เสียงของคุณเต๋า ทำไมขึ้นมาเร็วจังเลยวะ ?
“ผมขอโทษครับ คือว่าผมรีบนิดหน่อยน่ะครับ พรุ่งนี้ผมมีสอบพอดีนะครับ เลยต้องรีบลงไปอ่านหนังสือ” ผมก็แถไปเรื่อยๆ ใครจะไปกล้าบอกละ ว่าที่รีบเนี่ยเพราะไม่อยากอยู่กับคุณสองต่อสองน่ะ
“ฉันก็นึกว่านายรีบเพราะไม่อยากอยู่กับฉันสองต่อสองเสียอีก”
“.........” พูดไปไพสองเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง นี่ก็รู้ทันกันไปหมดเสียทุกเรื่อง
“นายกลัวว่าฉันจะทำเรื่องที่นายคิดเมื่อตอนบ่ายจริงๆหรอ?”
“และผมคิดอะไรเมื่อตอนบ่ายหรอครับ”
“ก็คิดว่า ... จะให้ฉันพูดจริงๆหรอคชา” น้ำเสียงของเขาเริ่มเปลี่ยนไป เท่าที่ผมรู้สึกได้ตอนนี้คือ เหมือนว่าเขาเริ่มเข้าใกล้ตัวผมเข้ามาทุกที
“เสร็จพอดี งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ผมรีบสไลด์ตัวไปข้างๆ แทนที่จะหันหลังออกไป เพราะผมรู้สึกว่า หากหันหลังไป คงจะเจออะไรดีๆ เอ๊ะ ไม่ใช่สิ เจออะไรแย่ๆ แน่นอน ยังไม่ทันที่ผมจะได้ปลีกตัวออกจากห้องนั้น แขนของผมก็ถูกกระชากให้เดินตามคุณเต๋าไป
“คุณเต๋าครับ ผมไม่เล่นแล้วนะครับ” ผมพยายามเกลี้ยกล่อมผู้ชายตัวโตที่เอาแต่เดินลากผมไปอย่างที่ใจตัวเองต้องการ ก่อนที่เขาจะหยุดอยู่หน้าห้องนอนของตัวเอง เท่านั้นแหละ จากพูดด้วยดีๆ ผมก็เริ่มโวยวายทันที
“ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นผมร้องให้คนช่วยแน่ๆ ไหนคุณบอกว่าคุณไม่ใช่เกย์ไงละ !!”
ได้ผล ร่างสูงนิ่งไปสักพักก่อนที่คลี่ยิ้มหวานอย่างมีเลศนัยให้ผม
“ก็ไม่เป็นกับคนอื่น” เขาหยุดพูดสักพักก่อนที่จะยื่นหน้าหล่อๆของเขาเข้ามาใกล้ๆผม
“แต่สำหรับนายน่ะ กรณีพิเศษนะ” แล้วทำไมต้องใช้เสียงกระเส่าแบบนั้นด้วยละครับคุณดาราดัง ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตั้งตัวอะไร ริมฝีปากหนาของพ่อดาราดังก็ประกบลงที่ปากของผมโดยทันที ผมตกใจมากจึงพยายามผลักตัวออกมา แต่เหมือนว่าจะช้าเกินไป ในเมื่อตอนนี้ผมถูกเขากอดไว้เสียแน่น จากจูบธรรมดากลับกลายเป็นจูบชั้นเซียนที่เล่นทำเอาผมยืนแทบไม่อยู่ภายในเวลาไม่กี่นาที
“อื้อออ ... “ คุณเต๋าค่อยๆถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง เมื่อถูกผมทุบไปหลายที เนื่องจากอาการขาดอากาศหายใจของผมเอง
“คุณนี่มันชั่วที่สุดเลย ถ้าหากว่าอยากได้คนระบายอารมณ์นักละก็ ไปหาผู้ชายขายตัวที่อื่นสิครับ ผมจะถือว่าวันนี้ระหว่างเราไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วกัน ถ้าหากคุณเลิกยุ่งกับผมสักที” ผมตะคอกใส่เขาอย่างสุดทน และก็ไม่รู้ว่าทำไม ผมต้องร้องไห้สะอึกสะอื้นแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้ ร่างสูงตกใจกับปฏิกิริยาของคนตรงหน้าก่อนที่เขาจะค่อยๆเอื้อมมือไปแตะไหล่ของร่างบางเบาๆ
“ฉันขอโทษนะ”
“ขอโทษแล้วมันหายหรือเปล่าเล่า อึกก ผมไม่ได้อยากเป็นที่ระบายอารมณ์อะไรๆของคุณซะหน่อย โฮฮฮฮฮฮฮฮฮ” ผมโวยวายออกไปเหมือนเด็กๆ ก่อนที่จะรู้สึกตัวอีกทีเมื่อเขาอุ้มผมขึ้นมาในท่าเจ้าหญิงแล้ว
เห ?????
“ถ้าขอโทษด้วยคำพูดแล้วมันไม่หาย ขอโทษด้วยอย่างอื่นดีไม๊ เผื่ออะไรจะดีขึ้น ?”
“นายไม่ได้เป็นแค่ที่ระบายของฉันหรอก แต่นายน่ะจะได้เป็นมากกว่านั้นอีกนะ” ร่างสูงทิ้งทวนอย่างเจ้าเล่ห์โดยยังไม่วายแอบจุ๊บเบาๆที่ริมฝีปากผมเพื่อเหมือนเป็นการย้ำอีกที ก่อนที่จะเดินเข้าไปข้างในห้องนอนของตัวเองอย่างอารมณ์ดี
“นี่ปล่อยผมลงไปเลยนะ คุณต๋าววววววว!!!!”
“ไอ้โรคจิต ไอ้ดาราโรคจิต อู้ยยยย สะโพกชั้นจะหักมั้ยเนี่ย ?” ผมเดินกะเผลกๆไปตามทางเดินเพื่อไปขึ้นรถโดยสารไปโรงเรียนตามปกติ แต่ที่ผิดปกติไปก็คือ ท่าเดินของผมนี่แหละ ก็เมื่อคืนน่ะสิ ไอ้เจ้าดาราบ้าบอคนนั้นมัน ว๊ากกก ไม่พูดถึงแล้ว เขินว๊อยย !
“พี่คชาเดินเร็วๆหน่อยสิ นี่ละน้า ไปหกล้มที่ห้องพี่เต๋า แถมยังไม่พอไปสลบคาห้องเค้าอีก เป็นไงละ ลำบากพี่เต๋าของหนูแย่เลย ดีนะที่พี่เค้าน่ะอุตส่าห์พามาส่งถึงห้อง” ยัยน้องสาวตัวแสบของผมที่เดินนำหน้าไปหันกลับมาบ่นเป็นหมีกินผึ้ง ใช่แล้วละครับ ตอนเช้าไอ้บ้านั่นเป็นคนพาผมมาส่งที่ห้อง พร้อมกับจัดการตบแต่งเรื่องให้เสร็จสรรพ น่าอายชะมัด
“พี่คชาจะหน้าแดงทำไมอะ?”
“โอ้ยย เรื่องของพี่ เราเองก็รีบๆเดินไปเหอะน่า”
ยังไม่ทันที่ผมจะได้ออกตัวเดินต่อ เสียงแตรรถราคาแพงของพ่อดาราก็ดังขึ้นข้างหลังผม พร้อมกับรถคันหรูที่เคลื่อนมาจอดข้างผม
“คชา ฉันไปส่งมั้ยละ?” เอาอีกแล้วครับ เสียงตาบ้านี่อีกแล้ว โอ้ยย เมื่อไหร่จะย้ายๆออกไปสักทีนะ ผมจะได้เลิกหลอนสักที
“ไม่เป็นไรครับ” ผมหันไปตอบผู้ชายที่นั่งอยู่บนรถคันหรู เขายิ้มให้ผมก่อนที่จะพูดเบาๆ เพียงให้ผมกับเขาได้ยินกันสองคน
“ฉันรู้น่าว่าร่างกายนายน่ะรู้สึกยังไง อีกอย่างเราก็เป็นแฟนกันแล้วนะ”
“เห ? “
“ไปเป็นตอนไหนกัน ผมยังไม่ได้ไปตกลงอะไรกับคุณเลยนะ”
“ก็เมื่อคืนไง ตอนนั้น ที่นายบอกว่า อ๊ะ คุณเต๋าครับ ผม ..” ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไรมากกว่านี้ ผมก็รีบเอามือไปปิดปากเขาไว้อย่างทันท่วงที โดยที่หันไปมองน้องสาวผมที่กำลังวิ่งมาทางนี้พอดี
“นายว่ายังไงละ ?” เขาปัดมือผมออก
“เอ่อ ... ผมไม่รู้หรอก” ผมพูดปัดไป ทันทีกับที่คุณน้องสาวของผมเข้ามาพอดี เราทั้งสองจึงขึ้นไปนั่งบนรถของคุณเต๋าอย่างปฏิเสธไม่ได้
ผมไม่รู้หรอกว่าผมรู้สึกยังไงกับเขา
แต่ตอนนี้น่ะ ผมอายจะแย่อยู่แล้ว
เลิกมองผมด้วยสายตาแบบนั้นได้แล้ว ไอ้ดาราโรคจิต!!!
- FIN -
ความคิดเห็น