คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : แรกพบ (๑) two years ago...
GD talk
แฮ่ก แฮ่ก อีกครั้งที่ผมต้องวิ่งราวกระเป๋า ก็ถ้าไม่ทำแบบนี้ชีวิตของผมและครอบครัวคงพังราบเป็นหน้ากลอง กิจการของเราย่ำแย่ลงทุกวัน ไม่มีใครจ้าง หัวสมองไม่มีแนวเสื้อผ้าใหม่ๆ บางทีผมก็อยากฆ่าตัวตายไปให้พ้นๆ แต่ดูพ่อแม่ผมสิ ท่านยังอยู่ ท่านยังอยู่เพื่อพัฒนา เพื่อทำให้กิจการดีขึ้น ผมจึงต้องสู้เหมือนพวกท่านบ้าง และครั้งนี้ผมสาบานว่าจะทำเป็นครั้งสุดท้าย เพราะมันคือเงินก้อนสุดท้ายที่ผมหวังว่ามันจะชุบกิจการขึ้นมาเหมือนเดิม แถมวิ่งหนีตำรวจนี่เหนื่อยชะมัดเลยเว้ยยยยยย....
ตุ้บๆๆๆๆ วิ่งมานานเท่าไหร่แล้วผมไม่รู้ แต่อีกนิดก็คงขาหัก ตำรวจพวกนี้ก็ตามอยู่ได้ พยายามกันจริงๆนะพวกบื้อ ผมว่าในหนังที่เคยดู ตำรวจไม่บ้าวิ่งไล่มากว่า10กิโลแบบนี้นะ ไอ้ชีวิตจริงมันเว่อร์กว่าหนังอีกแน่ะ=,= ผมเหลือบเห็นพุ่มไม้หนาอยู่ข้างหน้า ที่นั่นอาจปลอดภัยก็ได้ แต่ต้องรีบแล้วหละ เพราะตำรวจจะได้มองไม่ทันว่าผมหลบไปแล้ว (ตำรวจล้าหลังอยู่ประมาณเกือบกิโล)
ฟุ่บ!!!! อ้า~หลบได้สำเร็จแล้ววุ้ย ต่อไปก็คงต้องลุ้นแล้วว่าตำรวจจะตามหาผมเจอมั้ย แต่ผมมั่นใจว่าหุ่นอันบอบบางของผมจะช่วยการหลบได้เยอะ เป็นโจรมันก็สนุกดีนะเนี่ย
ผมหายใจหอบๆ ในพงหญ้าค่อนข้างอับสักหน่อย หลายนาทีแล้วที่ตำรวจเงียบเสียงไป แต่ผมก็ยังไม่กล้าออกไปตอนนี้ ขาของผมมันเหมือนจะเป็นอัมพาต แถมปวดสุดๆ แทบไม่น่าเชื่อ ผมวางกระเป๋าหรูของเศรษฐินีที่วิ่งราวมาไว้ข้างๆตัวแล้วเหยียดขาตรงพร้อมกับทุบไปมา (แค่เหยียดขาผมก็ทรมาน ไม่เป็นไร อยากขโมยของๆคนอื่นก็ต้องรับกรรมซะบ้าง)
.......ใบไม้รอบๆตัวไหวไปมา เอ๊ะ อะไรกัน ลมไม่มีสักแอะ หรือว่า.......
“เฮ้ยยยยยย”
“ย้ากกกกกกก”
ไอ้ผู้ชายตัวใหญ่ แต่งตัวดีมีฐานะ แต่มัน.....ไม่ใช่ตำรวจ!!! มันกระโดดเข้ามาแย่งกระเป๋าหรูของผมอย่างเอาเป็นเอาตาย เราสองคนทับกันไปทับกันมาต่างไม่มีใครยอมใคร แต่ผมเสียเปรียบกว่ามาก ร่างอันบอบบางของผม มักสู้ใครไม่ได้และแล้ว......ผมก็สู้มันไม่ได้เสียด้วย!!!o0o
“เฮ้ยยย เอาของชั้นมาๆๆๆ” ผมพูดคำซ้ำไปมา ไอ้ตัวโตบ้านั่นวิ่งข้ามถนนไปแล้ว มันยืนมองผมหอบแฮ่กอยู่บนเกาะกลางถนน พลางสแยะยิ้มเลวๆของมันให้คนดีๆอย่างผมอ้วกเล่น
“แน่จริงก็มาเซ่” เสียงทุ้มๆใหญ่ๆของมันเข้ามาเตะหู เออ แกท้าชั้นเรอะ ย่าส์ส์ส์ส์ส์ส์
ผมวิ่งข้ามถนนไปหามันทันที ไอ้บ้าเอ๊ยยยย ทำเป็นยืนเย็นเยียบอย่างกับคนเพี้ยน....
ปริ๊นนนนนนนนนนนน
ไปสว่างวาบมาด้านข้างของผม มันเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ นั่นมัน....รถสิบล้อ ผมหยุดวิ่ง ยืนอึ้งอยู่กลางถนน หลับตาปี๋ด้วยความกลัว ไม่ได้แล้ว ผมไม่มีสติอีกต่อไป ตายๆๆๆๆ ผมตายแน่น่น่น่น่น่น่น่
“ระวัง!!!!!” เสียงทุ้มเสียงเดิมตะโกนก้อง และผม.......ก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย......
ที่นี่ที่ไหน....ผมไม่เห็นอะไรนอกจากปุยนุ่นสีขาวบริสุทธิ์รอบๆตัว สิ่งสุดท้ายที่ผมจำได้คือ....แรงกระแทกเอ่อ....ผมไม่แน่ใจว่าใช่จากรถสิบล้อรึเปล่านะเพราะมัน....ค่อนข้างอบอุ่นกว่าที่ผมคิด....แล้วตกลงที่นี่ที่ไหนกันแน่นะ ผมไม่รู้สึกปวดขาอีกแล้ว จึงเดินไปเรื่อยๆ เบาๆ ปุยที่อยู่เบื้องล่างเท้าของผมก็เหมือนหมอนนวดเท้าเลยแฮะ เพลินดี....
แปะๆๆๆ
เสียงปรบมือดังมาแต่ไกล ผมเริ่มกังวลแล้วแหละ ใครกำลังต้อนรับใครอยู่นะ แล้วผมเป็นส่วนเกินหรือเปล่า....แล้วเสียงนั้นมันมาจากไหน(ว่ะ)
“ฮิฮิ พี่จีดราก้อนค่ะ” ผมแทบสะดุ้ง นี่มันน้องสาวของผม....ควอนซารัง เธอเสียชีวิตตั้งแต่อายุ 8 ขวบ เพราะโรคร้าย วิ่งเข้ามาจับแขนผม ผมจ้องเธอด้วยความทึ่ง เธอเปลี่ยนไปมาก จากเด็ก 8 ขวบ ดูเหมือนกลายเป็นเด็กวัยรุ่น ใบหน้าเกลี้ยงเกลา บอบบาง น่าทะนุถนอม เธอ....อย่างกับนางฟ้าแน่ะ!
“ซารัง!มาทำอะไรเนี่ย แล้วนี่ที่ไหน?”
“ ^___^” น้องสาวผมยิ้มแฉ่ง เธอจูงผมไปข้างหน้าเรื่อยๆอีก จนมาหยุดอยู่หน้าประตูสีขาว ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันมาปรากฏตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะถ้ามีมานาน ผมน่าจะเห็นตั้งแต่เมื่อกี๊
“มีคนจะพบพี่ค่ะ”
“ใครล่ะ”
“ก็.......ลองเข้าไปสิค่ะ” ซารังจับกลอนประตู
“แล้วเธอไม่ไปกับพี่เหรอ”
“(^ ^ )( ^ ^)”
“ซารัง~! แล้วเราจะได้เจอกันอีกมั้ย?” ผมตารื้น ตอนนี้ซารังดูเย็นชากับพี่มากเลยนะ เธอจะทิ้งพี่อีกแล้ว....
“พี่ค่ะ.....คนๆนั้นเค้ารอนานแล้วค่ะ” ซารังไม่ตอบ เธอเปิดประตูและผลักผมเข้าไป .....สุดท้าย เธอก็ทิ้งพี่....
แปะๆๆๆๆ
ผู้คนมากมายส่งยิ้มให้ผม เสียงปรบมือคงมาจากที่นี่นี่เอง ผมมองไปรอบๆ เหมือบกับการแต่งงานของชาวคริสต์...มีผู้คนยืนต้อนรับผมอยู่ บางคนก็กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ไม่มีใคร เศร้าเลย....ซึ่งมัน...ต่างกับจิตใจของผมยิ่งนัก.....
แล้วเจ้าสาวของผมคือใครกันล่ะ ผมรู้สึกแปลกในท้อง อยากจะทุบให้มันอยุดวุ่นวายสักทีแต่ก็ต้องรักษาหน้า จึงเปลี่ยนเป็นถูมือไปมาแทน ชู่ววว ผมหายใจลึก มองไปเบื้องหน้า หวังจะเห็นเจ้าสาว แต่เอ๊ะ!ไม่มีใครแต่งตัวเป็นเจ้าสาว มีแต่บาทหลวง.......กับ......ไอ้ตัวโต!!!!!!
มันยิ้มให้ผม.....ใช่ หล่อมาก.....ยิ้มที่น่าหลงใหล เฮ้ยยย ผมเป็นผู้ชายนะ.....มะ ไม่ ผมไม่ได้ชอบไอ้บ้านี่
ภาพสโลโมชั่นตอนที่ไอ้บ้านี่แย่งกระเป๋าที่ผมอุตส่าห์พามันวิ่งหนีตำรวจลอยมาแต่ไกล....ทำให้ผมเรื่มคันไม้คันมือ วิ่งเข้าไปเตะมันสักป้าบ แถมด้วยท่าช้างกูอยู่ไหนสัก10หน ก็ยังไม่พอ
“จียง!” เห....แม่ผมมาแต่ใดนี่
“หยุดเถอะลูก....ซึงฮยอนเค้าต้องการลูกนะ” เฮ้ย แม่พูดไรเลี่ยนๆ ใครว่ะ ซึงฮยอน
“จียง.....ยังไม่หายโกรธผมอีกเหรอ” จู่ๆ ไอ้บ้านี่ก็เดินนวยนาดเข้ามากุมมือผม
“แกๆๆๆๆ แย่งเงินก้อนสุดท้ายของชั้นไป” ผมสะบัดมือออก และชี้หน้าต่อว่ามัน
“จียง! ซึงฮยอนต่างหากที่ช่วยเหลือกิจการของเรา....ฉะนั้น ลูกอย่าว่าเค้าสิ” พ่อของผมเข้ามาผสมโรง(ด่า)
“ไม่ช่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไม่เจงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ไอ้เนี่ยที่มันแย่งกระเป๋าที่ผมวิ่งราวไป” ผมกระทืบเท้ายิ่งกว่าเด็ก
“จียง.....มองผม” เสียงไอ้บ้าเช่นเดิมเอ่ย เหมือนสะกดใจผม ผมมองมันทันที สายตาหยาดเยิ้มชวนหลงใหลพาผมเคลิบเคลิ้ม ใบหน้าของมันโน้มลงมาใกล้กับใบหน้าของผม แล้ว.......
“จ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” ผมสะดุ้งพรวด อ้ากกกกก ไม่มีอะไรเกิดขึ้นใช่มั้ย ผมทั้งตบทั้งจิกตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่ามันคือฝัน.....ตื่นแล้วเว้ยยยย ถ้าไม่ตื่นผมคงต้องจบลงอย่างอนาถ แต่นี่ๆๆ มันที่ไหนอีกว่ะ
“คุณควอนจียง” เสียงนุ่มดังขึ้นข้างๆตัว ผมหันไปตามเสียงนั้น.....อะจะบะเห้ย ตำรวจ!!!! ไม่ต้องสั่งชั้นก็รู้ ผมกระโดดพรวดลงจากเตียง.....แต่......เวรๆๆๆ กุญแจมือล็อกผมแน่นหนา ผมกระโดดเหยงๆเหมือนจิงโจ้ติดบ่วง แล้วน้ำตามันก็เริ่มไหลลงช้าๆ ด้วยความกลัวบวกกับสำนึกผิด
“เฮ้อ!คุณยังไม่ต้องร้องก็ได้ เพราะคุณมีทางเลือกนะ คือว่าทางครอบครัวของคุณนายชเวรู้มาว่าคุณเป็นดีไซเนอร์ตกอับ เค้าก็เลยอยากช่วยคุณ”
“โดยให้นายช่วยทำเสื้อที่ดีที่สุดมาให้บริษัทของเรา แต่ถ้ามันไม่ถูกใจชั้นละก็...นายก็จะต้องติดคุก” เหวอ...ไอ้บ้าคนเดิมเดินเข้ามา แขนของมันใส่เฝือกด้วยอ่ะ
“เฝือกนี่เหรอ ฝีมือนายน่ะ” ไอ้บ้าดูเหมือนจะรู้ว่าผมคิดอะไร
“ผมขอตัวนะฮะ” คุณตำรวจเดินออกไปเงียบๆ คงจะให้เคลียๆกันละมั้ง
“นายนะมัวแต่ยืนจังก้าอยู่ให้รถมาทับ ชั้นกลัวว่าจะตายเลยวิ่งไปผลักนายจนแขนหักเนี่ย แต่นายกลับไม่เป็นอะไรสักนิด สวรรค์ไม่ยุติธรรมเล้ย” สวรรค์ หืม ฝันเมื่อกี๊หลอกหลอนผมอีกแล้วT^T
“เออ โคตรไม่ยุติธรรม” ผมแยกเขี้ยว
“ว่าแต่นายจะรับข้อตกลงมั้ย เพราะพ่อแม่นายน่ะตกลงแล้วนะ เหลือแค่นายคนเดียวที่นอนแอ้งแม้งอยู่ในโรงบาลเนี่ย ทั้งๆที่แค่สลบเพราะตกใจ อ่อนแอชะมัด” ไอ้บ้าโน้มหน้าเข้ามาใกล้ๆจนผมแทบสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆของมันได้.....น่าหลงใหลอีกแล้วนะนาย......ไม่ๆ ผมต้องไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น- -
“ละ แล้ว นายเป็นใครถึงมาพูดอะไรแทนเจ้าของกระเป๋าที่ชั้นวิ่งราวมา หา?” ผมหลบหน้าไปทางอื่น
“เป็นลูก เหนื่อยน่าดูเลยนะวิ่งตามนายน่ะ ขนาดตำรวจยังถอดใจ แต่ชั้นน่ะ รักความยุติธรรม”
“แล้วชื่ออะไร” ผมถามต่อ หวังว่าจะไม่ใช่ไอ้ชื่อที่ผมได้ยินในฝันนะ
“ชเว ซึงฮยอน~” OoO
“เฮ่! เป็นไร ตกลงนายจะยอมรับข้อตกลงมั้ย”
“หา เอ่อ อือ” ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ และแล้ว.....ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปนับแต่บัดนี้อย่างที่ผม....ไม่รู้ตัว......
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
จีดีส่งบทมาให้ไรเตอร์...
ณ ปัจจุบัน
เพี๊ยะ!! มืออูมหนาประทับลงบนใบหน้าของร่างสูงฉาดใหญ่ แต่เขาก็มิได้สะทกสะท้านสักนิด
“นี่มันอะไร” คุณนายชเว โบกรูปไปมาในมือ
“รูปไงครับ” เจ้าของเสียงตอบกวนบาทาผู้เป็นมารดา
“ท็อป!แม่ไม่นึกเลยนะว่าจะเป็นคนแบบนี้ แกรู้มั้ยว่าจียงเค้าเป็นขุมสมบัติของบริษัทเรา ถ้าไม่มีเค้า แล้วบริษัทเราจะอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้เหรอ” ผู้เป็นแม่ขึ้นเสียง
“ไม่เห็นจะเข้าใจเลยแม่ ก่อนที่จียงจะเข้ามาในชีวิตพวกเรา เราก็ร่ำรวยอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” ท็อปเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหมือนเดิม
“ฮึ! แกมันโง่ ตอนนั้นบริษัทเราก็แย่พอๆกับบริษัทของจียงเหมือนกันแหละ” คุณนายชเวปารูปใส่หน้าของลูกชาย แล้วเดินจากไป
“แม่ก็ไม่เคยเข้าใจเหมือนกันนั่นแหละ ว่าผมไม่เคยมีความสุขเลยตั้งแต่เจอจียง” ร่างสูงทุบกำปั้นลงบนกำแพงอย่างโกรธแค้น สายตาจ้องมองรูปของควอนจียงชูแหวนที่เขาคุ้นตาบนอากาศ .....
เลิกกัน จบกันเสียทีความสัมพันธ์ แต่ท็อปรู้ดีว่า แม่ของเขาไม่มีทางปล่อยบ่อเงินบ่อทองไปง่ายๆแน่
ความคิดเห็น