ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ราชวงศ์สุดท้าย

    ลำดับตอนที่ #1 : สงครามที่กว่างโจว

    • อัปเดตล่าสุด 23 มิ.ย. 62


    สงครามที่กว่างโจว

    ค.ศ.1911 หรือในปีซินไฮ่

    ท่ามกลางสมรภูมิรบกลางเมืองกว่างโจวของกองกำลังติดอารุธขบวนการถงเหมิงฮุ่ยที่กำลังต่อสู้กับเหล่าพลทหารที่ภายในส่งมากันวังหลวง การต่อสู้ดำเนินมายาวนาน เหล่าผู้กล้าจากขบวนการนี้ค่อยๆล้มตายลงเรื่อยๆ เสียงระเบิด ปืนใหญ่ดังมาเป็นระลอกคลื่น ตามมาด้วยไฟไหม้เป็นวงกว้าง ทั้งฝ่ายราชวงศ์ชิงและฝ่ายถงเหมิงฮุ่ยต่างรบราฆ่าฟันกันเพื่อหวังชิงชัยชนะ  คราบเลือดสีแดงฉานกระจายเต็มผืนแผ่นดินกว่างโจว ท้องฟ้าคล้ายเปลี่ยนสีจากยามเย็นวันเวลาคล้อยผ่านร่วมกว่าหลายชั่วโมงฟ้าเริ่มมืดหม่นและคลับคล้ายว่าจะกลายเป็นสีแดงราวกับสีเลือดที่แดงฉานทั่วแผ่นดิน

    บุรุษหนุ่มพลทหารชั้นผู้น้อยของฝ่ายราชวงศ์ชิงวิ่งอย่างรวดเร็วฝ่าเหล่าทหารชั้นผู้น้อยด้วยกันฝ่ากองกำลังติดอาวุธฝ่ายตรงข้าม ในมือกระชับปืนเล็กยาวหรือปืนไฟ ชุดพลทหารชั้นผู้น้อยเป็นเพียง

     

    เศษผ้าสีขาวขุ่นที่ถูกนำเย็บให้เป็นชุดเท่านั้น ชุดสีขาวเปรอะคราบเลือด เหม็นกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งชวนสะอิดสะเอียนแต่กระนั้นเวลานี้เขากลับไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้จิตใจเขาร้อนรุ่มและเร่งร้อนให้ไปถึงจุดหมายโดยเร็วก่อนจะมีผู้ใดสงสัยเขา ตอนนี้ชายหนุ่มวิ่งเลี้ยวมายังทางแคบๆ..ซึ่งมีพลทหารสวมชุดสีขาวขุ่นแบบเขากระชับดาบกับตัวตลอดเวลาอยู่เพียงสองคน ยืนเฝ้าคุมอยู่ หน้าคุก..คุมขังซึ่งใช้เป็นพื้นที่คุมขังเหล่าเชลยศึก...ขณะที่เพื่อนทหารด้วยกันคว้าปืนที่วางอยู่กับพื้นขึ้นมาพลางกระซิบอะไรบางอย่าง ซึ่งเขารู้ความหมายดีถึงแม้จะไม่ได้ยินเสียงกระซิบนั้นก็ตาม พลทหารหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก...

    แผนการทุกอย่างกำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า หัวใจของเขาเต้นแรงราวกับจะทะลุออกข้างนอกเสียอย่างนั้น ลมหายใจพ่นออกมาดังฟืดฟาด ขณะที่เหงื่อที่ไหลโชมกายอยู่แล้วนั้น ยิ่งไหลเพิ่มขึ้นอีก มือหยาบกร้านจับดาบแน่นกว่าเดิม..แค่รออีกไม่นานเขาจะได้ทำหน้าที่ที่ไม่ใครจารึกชื่อเขา หากแต่เขารู้เสมอว่า...หน้าที่นี้คือหน้าที่ที่แม้จะเสี่ยงภัยอันตรายสักแค่ไหน แต่มันทำให้ชาติกลับคืนอีกครั้ง แม้สุดท้ายชีวิตของเขาหรือลมหายใจจะต้องแลกกับมันก็ตาม...เขาจะไม่เสียใจเลยสักนิดเดียวที่เขาได้ทำหน้าที่นี้...

    ....ไม่มีใครบอกได้ว่าแผนการนี้จะสำเร็จหรือไม่...ไม่มีใครฝืนโชคชะตาฟ้าลิขิตได้ หากเขาต้องจากไปเสียจริงๆ..เขาพร้อมจะอ้าแขนรับความตาย...ในทุกวินาทีที่เขามีลมหายใจ หากมันจะทำให้แผ่นดินจีนผืนนี้สูงขึ้นเสียที!!

    ....ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน เต็มเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ สบกับดวงตาเล็กเรียวยาว หากแต่แฝงความมุ่งมั่นและตั้งใจ ตาสบกัน หัวใจพลันรับรู้ได้..ไม่มีคำพูดสักคำในเวลาที่เสียงของปืนและเสียงกรีดร้องโหยหวนดังกลบเสียงสรรพสิ่งต่างๆ...เสียงมากมายดังกลบหากเขาจะเอื้อนเอ่ยอะไรสักอย่าง...เขารู้ดีว่าไม่ต้องใช้คำพูดใดๆให้มากมาย แค่เพียงชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆ..ดวงตาของเขาถ่ายทอดทุกความรู้สึกแก่อีกฝ่าย..ไม่มีแววตาเว้าวอน รั้งเขาเอาไว้ ฝ่ายนั้นพยักหน้ากลับ ก่อนจะค่อยๆสาวเท้าเดินเข้าไปอีกทางหนึ่งตามแผนซึ่งวางเอาไว้....ส่วนเขาเองหลับตาพริ้มพลางยิ้มกว้าง..ราวกับว่าเขายินดีเสียเหลือเกินหากในอนาคตจะมีอะไรเกิดขึ้น...ขณะที่เท้าทั้งคู่ก็ก้าวตรงเข้าไปยังคุกคุมขังแห่งนั้น
    ...นี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้เดินเข้าไปโดยไม่มีสิทธิ์กลับออกมากระมัง...เขาคิดในใจ

     

    ฟ่านเหมยจิงสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย เหงื่อเม็ดโตผุดเต็มใบหน้า และชุ่มกาย หญิงสาวหายใจหอบถี่ คิ้วสวยดั่งคันศรที่พาดอยู่ขมวดมุ่น ขณะที่ตาเล็กตี๋ฉายแววความกังวลใจอย่างเห็นได้ชัด เพียงแต่ในยามค่ำคืนที่หลินหลินน้องสาวที่นอนอู้คู้อยู่ข้างๆเธอคงมองไม่เห็นแววตาความกังวลของเธอในยามนี้..

    ฝันประหลาดที่เธอมักฝันซ้ำๆเสมอ มันทวีความชัดเจน จากภาพอันเลือนรางที่ดูห่างไกลค่อยๆชัดเจน ทุกเสียงความเจ็บปวด..ทุกความรู้สึกของบุรุษหนุ่มผู้นั้น เธอได้ยินมันราวกับมันดังในหัวใจของเธอ..

                           ฟ่านเหมยจิง ใช้ฝ่ามือเรียวทั้งสองข้างลูบใบหน้าตัวเองเพื่อสลัดความคิดตัวเองออกไป แต่แล้วก็ชะงักมือเมื่อสายตาเธอปะทะกับปิ่นหยกบนฝ่ามือเธอจริงสินะ  เธอได้มันมาตั้งแต่เมื่อไรกัน..ทำไมเธอถึงไม่รู้ตัวว่าเธอได้มันมา?  คิ้วสวยกดลงอย่างครุ่นคิด ภาพเมื่อสองสามวันก่อนพลันปรากฏขึ้น

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×