ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มุกมังกร

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 1 (2)

    • อัปเดตล่าสุด 31 พ.ค. 58



    >>> ต่อค่ะ

    “ไปฮ่องกง... คงอีกนานถึงจะได้มาที่นี่อีก หรือไม่ก็คงไม่ได้มาเลย” มุกตาภาเอ่ยขึ้นเป็นประโยคแรกหลังจากที่ทั้งคู่รับประทานอาหารเรียบร้อยแล้ว

                “อยู่ต่ออีกหน่อยไม่ได้เหรอ”

                “คุณก็น่าจะรู้ว่ามุกปฏิเสธแด๊ดไม่ได้” หญิงสาวยักไหล่เล็กน้อย

                หล่อนไม่รู้หรอกว่าแท้จริงแล้วหล่อนสามารถปฏิเสธได้หรือไม่ได้ แต่อะไรก็แล้วแต่ หากเป็นคำสั่งของบิดาบุญธรรมแล้วล่ะก็หล่อนก็ไม่คิดปฏิเสธหากสิ่งที่นั้นมันไม่เหนือบ่ากว่าแรงที่หล่อนจะทำได้

                “แล้วคุณวางแผนหรือยังว่าจะทำอะไรที่นั่น... เอ๊ะแต่ถึงไม่ทำอะไรคุณก็อยู่สบายไปจนตายแล้ว” ชายหนุ่มเย้าหล่อนเล่นในประโยคสุดท้าย

                “แด๊ดคงวางไว้ให้มุกหมดแล้วค่ะ” หญิงสาวบอกพรางยกแก้วไวน์ขึ้นกระดกลงคอรวดเดียว

                “คุณไม่มีสิทธิ์เลือกอะไรเองได้เลยเหรอมุก”

                “ถ้าจะมีก็คงเป็นเรื่องคุณ”

    หล่อนไม่ได้ให้ความหวังเขา ถึงแม้ว่าสถานะหล่อนและเขาตอนนี้จะยังไม่ชัดเจนว่าอยู่ในระดับไหน ตลอดเวลาสามปีเศษหล่อนเปิดใจเปิดทางให้เขาหมดทุกประตู หากแต่ก็ดูเหมือนว่ายังมีอะไรบางอย่างที่ทำให้คริตยังคงเข้าไม่ถึงก้นบึ้งหัวใจหล่อน คำบอกรักไม่เคยมีหลุดออกจากปาก หากมีแต่คริตฝ่ายเดียวเท่านั้นที่เป็นคนพร่ำบอกรัก ต้องการใช้ชีวิตร่วมกับหล่อน

    “ที่พูดน่ะมั่นใจเหรอว่าจะเลือกผม ที่สำคัญแน่ใจเหรอว่าคุณมีสิทธิ์ในเรื่องนี้” ไม่รู้เพราะอะไร เขารู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ กับเรื่องนี้

    “ไม่เชื่อใจมุกเหรอคะ” หญิงสาวเอียงคอถามน้อยๆ

    “คุณทำให้ผมเชื่อได้ไหมล่ะว่าระหว่างอยู่ที่ฮ่องกงคุณจะไม่มีใคร” ชายหนุ่มหรี่ตามอง เพราะรู้ดีว่า สาวเจ้าชู้คารมดี ไม่ปิดกั้นตัวเองแบบเธอไม่มีทางทำได้ เพราะขนาดมีเขาไปไหนมาไหนด้วยตลอดเช่นนี้ ยังมีเวลาคุย ไปไหนมาไหนกับหนุ่มอื่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    “หวงเหรอ” หญิงสาวเลิกคิ้วเชิงเป็นคำถามเล็กน้อย พร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์

    “ผมมีสิทธิ์คิดแบบนั้นได้ด้วยเหรอมุก”

    “ไม่เอาล่ะ มุกไม่คุยเรื่องนี้แล้ว... คุณจะกลับฮ่องกง หรือไทยเมื่อไหร่”

    เลือดความเป็นไทยในตัวของทั้งคู่ทำให้ทั้งสองคนสามารถเข้าหากันได้ง่าย มุกตาภาเป็นคนไทยแท้แต่กำเนิด ถือสัญชาติไทยมาตั้งแต่เกิด และโอนเปลี่ยนสัญชาติเป็นจีนฮ่องกงก่อนถูกส่งตัวมาเรียนที่สหรัฐอเมริกา

    ส่วนคริต บราวน์ คิงตัน เป็นหนุ่มลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง มารดาเป็นสาวไทยแท้ ส่วนบิดาก็เป็นคนฮ่องกง เขาเติบโตและศึกษาอยู่ที่ฮ่องกง และที่อเมริกามาโดยตลอด ฉะนั้นการใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทยนั้นค่อนข้างน้อยมาก

    นั่นก็เหมือนกับมุกตาภา หากแต่จะต่างกันตรงที่หล่อนยังไม่เคยใช้ชีวิต หรือเรียนรู้อะไรที่ฮ่องกงเหมือนอย่างเขา เพราะนับจากที่ถูกส่งตัวมาอเมริกา หล่อนก็ใช้ชีวิต และรับวัฒนธรรมจากที่นี่มาโดยตลอดร่วมสิบปี ไม่เคยย้อนกลับไปเมืองไทย และยังไม่เคยเหยียบย่างไปยังประเทศของผู้เป็นบิดาบุญธรรมเลยสักครั้ง

    ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ทั้งคู่คุยและสื่อสารกันด้วยภาษาไทยตลอด หากมีความจำเป็นที่ไม่ต้องการให้ใครรู้ถึงจะสื่อสารกันด้วยภาษากวางตุ้ง หรือไม่ก็จีนกลาง

    มุกตาภาเป็นเด็กฉลาด หัวดี เรียนเก่ง ไหวพริบดี เรื่องครูพักลักจำก็เป็นเลิศ เรื่องภาษาไม่ใช่เรื่องอยากสำหรับหล่อน ภาษาที่หล่อนใช้อยู่หลักๆ จึงมีหลายภาษา ทั้ง ไทย อังกฤษ จีนกลาง กวางตุ้ง และภาษาฝรั่งเศส

    “ตอนนี้งานมีปัญหานิดหน่อย คงต้องอยู่เคลียร์ก่อนสักสองสามอาทิตย์ และคงต้องบินไปไทยก่อน แล้วถึงเข้าฮ่องกง”

    “ค่ะ ว่าแต่เรื่องงานมีปัญหาอะไรมากไหมคะ มุกพอจะช่วยได้ไหมคะ”

    “หยกที่เพิ่งได้รับมีปัญหานิดหน่อยครับ” ชายหนุ่มตอบพร้อมยิ้มให้น้อยๆ ด้วยเพราะรู้คำตอบของหล่อน ที่จะตอบกลับมา

    คริต บราวน์ คิงตัน เป็นหนุ่มนักธุรกิจในวงการอัญมณี ที่เพิ่งเข้ามารับช่วงต่อจากบิดา ถึงแม้จะเพิ่งเข้ามาในวงการได้ไม่กี่ปี ด้วยความเป็นหนุ่ม หล่อ รวย เก่ง กล้าได้กล้าเสีย ทำให้เขาขยับตัวขึ้นมาอยู่แถวหน้า จนกลายเป็นอีกหนึ่งนักธุรกิจที่น่ากลัวในวงการนี้ภายในระยะไม่กี่ปี

    “เรื่องนี้ มุกคงช่วยอะไรไม่ได้ไม่มีความรู้เลยจริงๆ” จากที่ตั้งใจจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ก็ต้องรีบปฏิเสธทันที เมื่อรู้ปัญหาของเขา ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่คริตรู้ดีอยู่

    “แต่ผมีเรื่องให้มุกช่วยผมได้”

    “ยังไงคะ” หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนคว้าแก้วไวน์ขึ้นดื่มหมดแก้วอีกครั้ง

    “แค่บอกรักผม... แค่นี้กำลังใจผมก็มากโขแล้ว” ชายหนุ่มคว้ามือหญิงสาวมากุมไว้ จ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่งรอคำตอบใจจดใจจ่อ

    “กลับเถอะค่ะดึกแล้ว” คำตอบที่เขาได้รับ ไม่ต่างจากทุกๆ ครั้งๆ ที่เขาร้องขอในสิ่งนี้ หล่อนสามารถเบี่ยงประเด็นหรือหาข้ออ้างต่างๆ นานาทำให้เขาไม่รู้สึกโกรธได้ทุกครั้ง

    “กลับก็กลับ มีข้อแม้คืนนี้ให้ผมค้างที่บ้านคุณนะ” ข้อแม้นี้เป็นสิ่งที่เขาจะพูดตั้งแต่ก่อนออกมาและไม่ได้บอกเพราะพอจะรู้ว่าควรพูดหรือบอกตอนไหน มุกตาภาได้แต่ยิ้มและคว้ากระเป๋าลุกขึ้นเดินนำหน้าเขาออกไป

    ถึงไม่มีคำตอบว่าอนุญาตหรือไม่อนุญาต แต่เขารู้ดีว่าการนิ่งยิ้มให้เช่นนี้ไม่ใช่การปฏิเสธ เพราะคนอย่างมุกตาภาหากไม่ก็คือไม่และจะพูดออกมาชัดเจน อีกอย่างการนอนค้างที่บ้านหล่อนนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก เขาไปนอนกับหล่อนบ่อยครั้ง หากต้องการใช้เวลาอยู่ด้วยนานๆ หรือใช้เป็นที่ลี้ภัยจากบุคคลที่สาม ทว่าเรื่องการเกินเลยก็ไม่เคยเกิดขึ้นเพราะเขาให้เกียรติหล่อนเสมอ

    ------------------------------------------------------------------------

    อ่านแล้วช่วยกันแนะนำติชมด้วยนะคะ

    ขอบคุณที่ยังติดตามกันอยูนะคะ อ่านแล้วเม้นต์ ไรท์เตอร์ก็มีกำลังใจเขียนต่อน้าาาาาาาา 

    อ่านแล้วนิ่ง ไร้ท์เตอร์ก็นิ่งตามครัชชชชชชชชช (ตามนี้โนะ)

    By >>> ภคมน 



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×