คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 (100%)
หลังจากที่พยายามนึกถึงรอยยิ้มของเด็กสองคนนี้ว่าเหมือนใครอยู่ แต่ดูเหมือนว่านึกเท่าไรก็นึกไม่ออก เขาจำต้องยอมแพ้ เลิกให้ความสนใจกับรอยยิ้มนั้นเสีย แต่ยังคงพลิกดูรูปของเด็กแฝดคู่นั้นต่ออย่างสนใจ ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเกิดรู้สึกผูกพันกับเด็กแฝดสองคนนี้ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกัน และไม่เคยได้เจอะเจอกันมาก่อน
“ไงคะรวิชญ์ หน้าตาดูมีความสุขจังเลย งานไม่ยุ่งหรือคะวันนี้” เสียงหวานนุ่มหูของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นเหนือประตูทางเข้าห้องทำงาน
“ฟ้า...ทำไมมาเงียบๆ ล่ะครับ” รวิชญ์เอ่ยขึ้นเมื่อเหลือบสายตาเห็นร่างหญิงสาวหุ่นเซ็กซี่ยั่วตายั่วใจยืนพิงประตูห้องที่เพิ่งปิดสนิทเมื่อครู่
เพียงฟ้า นางแบบสาวหุ่นเซ็กซี่ คู่ควงคนปัจจุบันของรวิชญ์ ซึ่งดูเหมือนว่าคนนี้เขาจะควงคู่ออกงานอยู่บ่อยครั้ง และน่าจะเป็นผู้หญิงที่เขาคบหาได้นานที่สุดอีกด้วย จนใครต่อใครหลายคนต่างพากันพูดว่าเธออาจจะเป็นตัวจริงของรวิชญ์ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ทำให้เพียงฟ้าค่อนข้างพอใจเป็นอย่างมาก
แต่สำหรับรวิชญ์แล้ว เขาไม่สนใจว่าใครจะพูดอย่างไร เพราะไม่เคยคิดจริงจังกับผู้หญิงคนไหน สำหรับเพียงฟ้าก็เหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คนที่เข้ามาเสนอตัวให้เขา และเขาก็ทำหน้าที่สนองตอบ จบแล้วก็จบกันไป ไม่มีการผูกมัดใดๆ ทั้งสิ้น
ใครเลยจะรู้ว่าอันที่จริงแล้วเวลานี้ที่เขาไม่พร้อมจะผูกมัดกับใคร เพราะหัวใจเขาไม่สามารถที่จะมอบให้ใครได้อีกแล้ว หลังจากที่ต้องสูญเสียผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาไม่เคยสนใจไยดี ไม่เคยเห็นคุณค่า เห็นเธอเป็นเพียงของตาย เขาต้องการเมื่อไรก็ได้ เธอไม่มีทางที่จะหนีจากไปไหน
แต่นั่นมันเป็นเพียงความคิดของเขาคนเดียวเท่านั้น เพราะเธอคนนั้นกลับกล้าทิ้งเขาจากไป นับจากวันนั้นทำให้เขารู้ว่า เขารักและปรารถนาที่จะให้เธออยู่เคียงข้าง แต่มันก็สายเกินไป เกินที่จะทำให้มันกลับมาเป็นเช่นนั้น
ที่รวิชญ์ยอมควงคู่ออกงานกับเพียงฟ้าได้นานจนเป็นข่าวลือไปต่างๆ นานา เป็นเพราะเขาชอบที่เพียงฟ้านั้นไม่เคยที่จะทวงสิทธิ์อะไรจากเขา ผิดจากผู้หญิงคนอื่นที่คอยจะหาโอกาสจับเขาอยู่ตลอดเวลา อาจด้วยเพราะเธอเป็นสาวสมัยใหม่ ไม่ได้คิดอะไรมากมายเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่เขายอมคบหากับเพียงฟ้าได้นานกว่าผู้หญิงคนอื่น
“ฟ้าไม่ได้มาเงียบๆ นะคะ รวิชญ์ต่างหากที่กำลังสนใจอะไรอยู่ เลยไม่ได้ยินเสียงเคาะประตู” เพียงฟ้าค่อยๆ ย้ายร่างอันเย้าวยวนเข้าหา โดยการโอบรอบคอโน้มหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าหล่อเหลา ปล่อยให้อกอวบอิ่มประชิดเข้ากับบริเวณไหล่กว้าง
“ผมขอโทษครับ พอดีกำลังนั่งดูรูปเด็กเพลินๆ น่ะครับ”
“โห! ตายแล้ว สงสัยวันนี้ฝนจะตกหนัก นักธุรกิจหนุ่มอย่างรวิชญ์มีเวลามานั่งดูรูปเด็กถ่ายแฟชั่นด้วย” เพียงฟ้าแสร้งทำเสียงสูงตกใจที่ได้รู้ว่าผู้ชายที่เธอกำลังโอบกอดอยู่เวลานี้ทำอะไรอยู่อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“ไหนคะ ขอฟ้าดูหน่อยสิคะว่าเด็กคนไหนที่ทำให้รวิชญ์ของฟ้าสนใจได้ขนาดนี้” เพียงฟ้าเอ่ยพร้อมกับเอื้อมมือหยิบนิตยสารที่เขาเปิดทิ้งไว้มาดู
“อ๋อ เด็กสองคนนี้เอง...แต่เอ๊ะ รวิชญ์สนใจเด็กจริงหรือเปล่าคะ” เพียงฟ้าทำเสียงสูงขึ้นท้ายประโยคเมื่อเจ้าหล่อนเปิดไปดูอีกหน้าแล้วเห็นภาพนางแบบสาวรุ่นน้องอีกคนกำลังโพสถ่ายคู่กับเด็กสองคนนี้อยู่
“เด็กสิครับ...ผมสนใจน้องสองคนนี้ อยากได้มาถ่ายโฆษณาให้ผม”
“แล้วไป...ถ้าเป็นแม่นางแบบสาวคนนี้ฟ้าไม่ยอมจริงๆ ด้วย” เพียงฟ้าทำเสียงออดอ้อน
“เอ...ว่าแต่ฟ้ารู้จักเด็กสองคนนี้ด้วยหรือครับ” รวิชญ์เอ่ยถามเมื่อนึกถึงคำอุทานของหญิงสาวเมื่อตอนแรก เพราะในน้ำเสียงนั้นเหมือนจะรู้จักเด็กฝาแฝดในรูปนั้น
“ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวหรอก ค่ะ...แต่เคยเห็นไปวิ่งเล่นอยู่ที่กองถ่ายเดียวกับฟ้าค่ะ”
“อืม...หน้าเด็กๆ เหมือนกับในรูปหรือเปล่า” รวิชญ์ถามขึ้นอีกก่อนปรับสายตาไปจ้องอยู่ที่รูปเด็กทั้งสองคนอีกครั้ง
“ก็เหมือนนะคะ เด็กๆ ไม่ได้แต่งอะไรมากมาย...ดูเหมือนคุณจะสนใจจังนะคะ” เพียงฟ้าตอบพลางทำน้ำเสียงเหมือนคนกำลังน้อยใจขึ้นมา
“โธ่ฟ้า ผมก็เห็นว่าคุณอยู่ในวงการนี้ก็ถามเอาประวัติไว้บ้างสิครับ ตอนนี้ผมกำลังให้คุณน้องหาทางติดต่อกับผู้ปกครองของเด็กอยู่” รวิชญ์รีบแก้พร้อมกับใช้มือหนาบีบเข้าที่จมูกอีกฝ่ายเบาๆ อย่างเอาใจ
“เฮ้อ...งั้นเดี๋ยวฟ้าช่วยอีกแรงแล้วกันนะคะ ฟ้าจะลองให้แซนดี้ ผู้จัดการส่วนตัวฟ้าลองติดต่อผู้จัดการส่วนตัวเด็กสองคนนี้ให้แล้วกันนะคะ”
เพียงฟ้าจำต้องหาทางช่วย เพราะคนวงการเดียวกันน่าจะหาทางได้ง่ายกว่า และอีกอย่างจะได้ตัดไม่ให้รวิชญ์มัวแต่ให้ความสนใจกับเด็กสองคนนี้จนไม่สนใจเธอ
“ขอบคุณฟ้ามากนะครับ”
“เพื่อคุณฟ้าทำได้ทุกอย่างแหละค่ะ...ว่าแต่คุณจะให้รางวัลอะไรฟ้าดีล่ะคะ” ไม่พูดเปล่า เพียงฟ้ารีบปิดนิตยสารตรงหน้าและทิ้งตัวนั่งลงบนตักเขาพร้อมกับโอบแขนเรียวไว้ที่รอบคอทันที
เพียงฟ้าส่งสายตายั่วยวนเชิญชวนให้เขา นักรักอย่างรวิชญ์ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอต้องการอะไรเป็นรางวัลในครั้งนี้ เขาค่อยๆ กดริมฝีปากเขาเข้ากับริมฝีปากเธอเบาๆ ก่อนเปลี่ยนเป็นหนักหน่วงและค่อยๆ ผ่อนเป็นนุ่มนวลอีกครั้ง ชวนให้ร่างบางเคลิบเคลิ้ม
รวิชญ์ประคองหน้าเธอเอาไว้ ก่อนจะรุกล้ำมอบความหวานล้ำรุนแรงกับเธอมากกว่าเดิม ลิ้นอุ่นซอกซอนหาลิ้นที่ร้อนรุ่มของเธอ เวลานี้ทั้งหัวใจเขาและเธอเต้นระรัว รู้สึกวาบหวิวไปทั่วห้อง จนกระทั่งเขาเป็นฝ่ายถอนริมฝีปากเขาออกอย่างนึกเสียดาย
“นี่ถือว่าผมมัดจำไว้ก่อนนะครับ ถ้าติดต่อเด็กสองคนให้ผมได้เมื่อไร...คุณอยากได้อะไรบอกผมได้เลย”
“ฟ้าซะอย่าง...ว่าแต่คุณแน่ใจหรือคะว่าคุณจะให้ในสิ่งที่ฟ้าต้องการได้” เพียงฟ้าส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้ชายหนุ่ม มือเรียวยังคงลูบไล้ใบหน้าหล่อเหลาอย่างหลงใหลอยู่เช่นเดิม
“เอาเป็นว่าคุณทำให้สำเร็จก่อนแล้วกัน แล้วคุณจะได้รู้ว่าผมให้คุณได้หรือไม่ได้” รวิชญ์พูดพร้อมกดริมฝีปากลงที่แก้มนวลอีกครั้ง
“โอเคค่ะ ฟ้าจะคอยดู ว่าแต่คุณเคลียร์งานเสร็จหรือยังคะ...นี่ฟ้าตั้งใจมาชวนคุณออกไปชอปปิงและหาอะไรกินกัน” เพียงฟ้าทำเสียงออดอ้อนเหมือนที่เคยทำและเป็นผลให้เขาใจอ่อนไปกับเธอทุกครั้ง
“งั้นไปสิ...วันนี้ผมไม่มีงานอะไรต้องเคลียร์แล้ว ฟ้าอยากไปไหน กินอะไร ผมตามใจฟ้าทุกอย่างเลย”
“จริงนะคะ”
รวิชญ์พยักหน้าแทนคำตอบ
เพียงฟ้าจ้องตาเขาอย่างงุนงง เพราะดูเหมือนว่าวันนี้รวิชญ์จะว่าง่ายไปหมดทุกอย่าง ถึงแม้ว่าเธอกับเขาจะควงคู่กันออกงานบ่อยครั้ง แต่ก็ใช่ว่าเขาจะยอมไปไหนมาไหนกับเธอโดยที่เธอเป็นฝ่ายชวนก่อนอย่างเช่นวันนี้
เพียงฟ้าคิดได้เพียงเท่านั้นก็ต้องหยุดความคิด เมื่อเขาบอกให้เธอลุกขึ้น และค่อยๆ จับร่างบางออกจากตักเขาอย่างเบามือ เพื่อจะได้ลุกออกไปช้อปปิ้งตามที่เธอต้องการ
ณ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางเมืองหลวง เวลาบ่ายแก่ๆ จวนจะคล้อยเย็นเช่นนี้ทำให้ผู้คนค่อนข้างหนาตา ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ หรือบรรดานักศึกษาต่างพากันเดินขวักไขว่กันเต็มไปหมด ร้านอาหารต่างๆ ก็เต็มไปด้วยผู้คน บางร้านถึงขนาดรอคิวกันก็มี
ณรันดากับปานชนกจูงมือเด็กน้อยสองคนไว้คนละคน โดยคุณแม่ยังสาวเป็นคนจูงน้องพาฝัน ส่วนน้องทอฝันไปเดินอยู่ข้างปานชนกแทน เด็กทั้งคู่เดินผ่านไปตรงไหนก็มีแต่คนพากันมองเพราะใครเห็นก็รู้จักทั้งนั้น ถ้ามีคนมาทักทายหรือขอถ่ายรูป ณรันดาก็ไม่ขัด และยังคอยบอกให้ลูกสาวทำความเคารพทุกคนที่เข้ามาทักทาย ซึ่งทั้งคู่ก็ทำตามแต่โดยดี ทั้งหมดเดินผ่านร้านอาหารหลายร้านเพื่อตรงไปยังร้านไอศกรีมตามที่ณรันดาได้ให้สัญญากับลูกสาวทั้งสองคนไว้
“เฮ้อ...ไม่ได้มาเดินห้างซะนาน ไม่คิดว่าคนจะเยอะขนาดนี้” ณรันดาถึงกับบ่นอุบเมื่อเดินไปทางไหนก็เห็นแต่ผู้คนเต็มไปหมด
“เป็นธรรมดา เราชินซะแล้ว” ปานชนกหันมายิ้มให้เพื่อนรักอย่างเข้าใจ
นานเท่าไรแล้วที่ณรันดาจะได้มีโอกาสออกมาเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าเหมือนอย่างเช่นวันนี้ โดยปกติแล้ววันๆ เธอเอาแต่ทำงานและใช้ชีวิตอยู่กับเด็กเล็กที่โรงเรียนอนุบาล นานๆ ครั้งเธอจะได้ออกมาเปิดหูเปิดตาตามห้างใหญ่ๆ เช่นนี้ ส่วนเรื่องพาลูกสาวเธอไปเที่ยวหรือเดินเล่นซื้อของมักเป็นหน้าที่ของปานชนก เพราะโดยส่วนมากเมื่อเสร็จจากงานของเด็กๆ เธอก็มักชอบพามาเดินเล่นหาอะไรกินไปเรื่อย ซึ่งณรันดาก็ไม่ได้ห้ามอะไร
“คุณแม่ขา จะถึงร้านไอติมแล้วค่ะ” เสียงน้องพาฝันดังขึ้นเมื่อจำได้ว่าร้านไอศกรีมที่คุณแม่สัญญาว่าจะพามากินอยู่แถวนี้
“จำได้แบบนี้คุณแม่ก็รู้หมดสิคะว่าน้าป่านพาหนูมากินบ่อย” ปานชนกเอ่ยพร้อมกับหยิกแก้มยุ้ยของเด็กน้อยที่ชื่อพาฝันหนึ่งที
“อ้าว มากินกันบ่อยแล้ว...งั้นคุณแม่ว่าวันนี้งดดีกว่าไหมคะ” ณรันดาได้ทีแกล้งลูกสาว
“ไม่นะคะ พี่ทอฝัน / น้องพาฝัน อยากกิน” สองพี่น้องตัวน้อยรีบพูดขึ้นพร้อมกันทันที น้องทอฝันจากที่เดินอยู่กับปานชนกรีบวิ่งมากระตุกแขนอีกข้างของณรันดา
“คุณแม่ล้อเล่นค่ะ...คุณแม่สัญญาแล้วก็ต้องทำตามสัญญาสิคะ ไปค่ะ ถึงร้านแล้ว” ณรันดารีบรุนหลังลูกสาวทั้งสองเข้าไปด้านในร้านทันที
เสียงร้องไชโยดีใจของเด็กดังขึ้น แล้วก็วิ่งตามพนักงานสาวสวยของร้านเข้าไป ก่อนทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้โซฟาสีแดงสดที่พนักงานชี้บอกเด็กน้อยทั้งสอง
“วันนี้กินอะไรดีคะน้องทอฝัน น้องพาฝัน กินเหมือนเมื่อวันก่อนหรือเปล่าคะ” พนักงานสาวคนเดิมกล่าวทักทายพร้อมถามเมนูจากเด็กน้อยอย่างเป็นกันเอง
“นี่แสดงว่าเป็นลูกค้าประจำกันเลยหรือจ๊ะนี่” ณรันดาเอ่ยถามขึ้นด้วยพร้อมยิ้มให้พนักงานสาวอย่างเป็นกันเอง
“ค่ะ น้องๆ เป็นแขกประจำร้านเลยก็ว่าได้ค่ะ” พนักงานสาวหน้าหวานหันมาตอบพร้อมรอยยิ้ม พลางส่งเมนูให้แก่ผู้ใหญ่ทั้งสอง
“กินอะไรคะลูกสาว ช็อกโกแลตหรือสตรอว์เบอร์รีดีจ๊ะ” ณรันดาหันไปถามลูกสาวที่กำลังชะเง้อมองดูเมนูในมือเธออยู่เวลานี้
“พี่ทอฝันเอาช็อกโกแลตค่ะ เอาสองลูกเลยนะคะ” เด็กหญิงรวีรินดา หรือน้องทอฝัน ตอบขึ้นก่อน
“น้องพาฝันเอาช็อกโกแลตด้วย เอาสองลูกด้วยนะคะ” ตามด้วยเสียงของเด็กหญิงรวีรันตรา หรือน้องพาฝัน ดังตามมา พร้อมกับซบหน้าเข้ากับแขนของมารดาอย่างประจบ
“โอเค...งั้นเอาอันนี้นะจ๊ะ” ณรันดาหันไปตอบลูกสาวทั้งสองก่อนหันไปสั่งรายการให้เด็กทั้งสองคนกับพนักงานสาวหน้าหวานคนเดิม
“นี่ป่าน ช่วงนี้ทอฝันกับพาฝันมีงานอะไรอีกเยอะหรือเปล่าจ๊ะ...เราจำได้ว่าเสร็จงานนี้แล้วก็ว่างแล้วใช่หรือเปล่า” ณรันดาหันมาถามเพื่อนรักที่เป็นคนจัดคิวให้เด็กๆ อย่างใคร่รู้
“จริงๆ ตอนแรกหมดงานแล้ว...แต่เพิ่งมีนิตยสารเกี่ยวกับเด็กมาติดต่อให้ยายสองแสบไปถ่ายแบบชุดให้หน่อย เราเห็นว่างานนี้ถ่ายแค่แป๊บเดียว และอีกอย่างถ่ายที่สตูด้วย ก็เลยรับงานไว้โดยไม่บอกก่อน คงไม่ว่ากันนะปลาย”
“จะว่าทำไมกัน เรายกหน้าที่นี้ให้ป่านดูแล ก็ดูไปตามความเหมาะสมนั่นแหละ เราก็ถามดู เพราะกะว่าถ้างานหมดแล้วว่าจะพาทอฝันกับพาฝันไปเที่ยวตามประสาเด็กเหมือนคนอื่นบ้าง...บอกตรงๆ นะ เราสงสารลูกจริงๆ แล้วก็เริ่มไม่อยากให้ลูกรับงานแล้วด้วยซ้ำไป” ณรันดาเอ่ยขึ้นจากใจ เธอนึกสงสารลูกสาวทั้งสองคนจริงๆ ที่ต้องทำงานตั้งแต่เด็กเช่นนี้
“คิดมากน่าปลาย เงินทุกบาทที่ทั้งสองคนได้มาเธอก็เก็บไว้เป็นทุนการศึกษาเขา และอีกอย่างยายสองแสบก็ดูจะชอบงานนี้ซะด้วย เราว่าปล่อยให้ทำต่อไปเถอะ เราก็ช่วยๆ กันดูงานให้กันไป”
“เฮ้อ...อย่างว่าแหละนะ ถ้าเราไม่ได้ลูกก็คงลำบากเหมือนกัน” ณรันดาถอนหายใจน้อยๆ ก่อนเอื้อมไปลูบศีรษะลูกสาวทั้งสองคน พร้อมส่งยิ้มให้เมื่อสองสาวตัวแสบเงยหน้าขึ้นมองเธอ
ณรันดายังจำได้ว่าตลอดช่วงเวลาที่เธอหนีผู้ชายที่ไร้หัวใจมา และมารู้ที่หลังว่าได้เอาหัวใจดวงน้อยติดมาด้วยนั้น เธอรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก และยิ่งรู้ว่ามีหัวใจดวงน้อยอยู่ถึงสองดวง เธอยิ่งดีใจเป็นที่สุด ในความโชคร้ายของเธอนับว่ายังมีสิ่งที่สวยงามรออยู่ข้างหน้า ณรันดาเฝ้าทะนุถนอมลูกในท้องจนกระทั่งคลอดออกมา
ดีที่ว่าตลอดเวลาที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังนั้นเธอยังมีปานชนกคอยดูแล ให้ความช่วยเหลือ และให้กำลังใจอยู่ตลอด และก็ปานชนกอีกนั่นแหละที่เป็นคนชักนำให้เธอนำเด็กทั้งคู่เข้าสู่วงการนี้ เพราะคิดว่ามันเป็นทางเดียวที่จะสามารถหาเงินให้แก่เธอและลูกๆ ได้เป็นอย่างดี โดยปานชนกเป็นคนจัดการเองทั้งหมด ฉะนั้นตลอดระยะเวลาที่เด็กๆ อยู่ในวงการจึงแทบจะไม่มีใครเคยเห็นหน้าแม่ของเด็กฝาแฝดคู่นี้ และด้วยความน่ารักไร้เดียงสาของน้องทอฝันกับน้องพาฝัน ทำให้ทั้งคู่ได้แจ้งเกิดในวงการบันเทิงมาจนถึงปัจจุบันนี้
แล้วหญิงสาวก็เริ่มมีโอกาสได้ออกมาทำงานนอกบ้าน หลังจากที่เธอได้รู้จักกับมาร์ค เจ้าของโรงเรียนอนุบาล เมื่อครั้งที่เขาเป็นคนติดต่อให้ลูกสาวของเธอมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้แก่ทางโรงเรียนในครั้งนั้น มาร์คเกิดมีความรู้สึกดีๆ ให้เธอ ประจวบกับเห็นความสามารถของเธอ เขาเลยถือโอกาสชวนเธอเข้ามาทำงานด้วย
ณ ตอนนั้นเธอเห็นว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่เธอจะมีรายได้ เพราะทั้งเงินเดือนและตำแหน่งที่มาร์คเสนอให้นั้นไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว และมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้ตำแหน่งงานที่ดีเช่นนี้ อีกทั้งลูกเธอจะได้ไม่ต้องทำงานต่ออีก จึงตัดสินใจรับงานที่เขาเสนอให้
แต่แล้วเธอก็ไม่อาจที่จะหยุดหรือห้ามไม่ให้ลูกสาวเธอทำงานนี้ได้ เพราะจากผลงานที่ผ่านมาของเด็กๆ ยิ่งทำให้มีคนติดต่อเข้ามามากมายจนเธอไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ เลยจำต้องยอมให้ทั้งสองคนอยู่ในวงการนี้ต่อไป
“ขอบใจมากเลยนะป่าน...ถ้าเราไม่ได้ป่านคงแย่แน่เลย” ณรันดาเอ่ยขอบคุณเพื่อนรักจากใจจริง
“เราเพื่อนกันก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว...เออ ว่าแต่คุณรวิชญ์เขาไม่เคยติดต่อเธอเลยหรือ” ปานชนกเอ่ยถามขึ้นด้วยความอยากรู้
จะว่าไปแล้วนับจากณรันดาหนีจากเขามานั้น เธอก็ไม่ได้ไปไหนไกลเลย เพียงแต่เธอเก็บตัว ไม่ออกไปไหน ส่วนเรื่องงาน ตอนแรกณรันดารับแปลหนังสือ และเขียนบทความอยู่กับบ้าน ไม่ติดต่อกับใคร ยกเว้นปานชนกเพียงคนเดียวเท่านั้น
“เขาจะติดต่อมาทำไมกันล่ะ...เราไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับเขาสักหน่อย” ณรันดาเอ่ยขึ้นพร้อมกับเลื่อนถ้วยไอศกรีมที่พนักงานสาวเพิ่งเอามาเสิร์ฟให้ไปวางตรงหน้าลูกสาว
“แต่อย่างน้อยเขาก็เป็น...”
“ป่านสัญญากับเราแล้วนะว่าจะไม่ให้ใครรู้ว่าพ่อยายสองคนนี้เป็นใคร” ณรันดารีบพูดดักขึ้นโดยไม่รอให้เพื่อนรักพูดจนจบประโยค
“แต่ป่านว่านะ อีกหน่อยเขาต้องรู้แน่...เพราะนับวันยายแสบนี่งานจะยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ”
“นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เราอยากให้ทอฝัน กับพาฝันเลิกทำงานนี้” ณรันดาพูด ตามความรู้สึกจากใจจริง เพราะส่วนลึกๆ เธอกลัว ว่าวันหนึ่งผู้ชายคนนั้นจะรู้ และมาพรากแก้วตาดวงใจไปจากเธอ
“ยังไงเขาก็พ่อลูกกันนะปลาย” ป่านชนกพูดพลางปรายตามองหน้าเด็กน้อยสองคนที่กำลังให้ความสนใจกับการกินไอศกรีมอยู่อย่างไม่สนใจว่าผู้ใหญ่สองคนที่นั่งด้วยนั้นคุยอะไรกัน
“เลิกพูดถึงมันเถอะ...เพราะเขาคงไม่สนใจอะไรเราหรอก” ว่าแล้วณรันดาก็เปลี่ยนเรื่องสนทนาและหันไปให้ความสนใจกับเด็กน้อยสองคนแทน ปานชนกได้แต่ส่ายน้อยๆ อย่างอ่อนใจกับท่าทีไม่สนใจของเพื่อนรัก
-------------------------------------------------------------------
อัพให้ทุกวันจัทร์ พุธ และศุกร์ นะคะ
อย่าลืมนะคะ ใครอยากได้เป็นรูปเล่มแจ้งไว้ที่คอมเม้นต์ด้วยนะคะ
สำหรับใครที่อยากอ่านแบบเต็มเรื่อง โหลดได้เลยค่ะ
https://www.mebmarket.com
แล้วค้นชื่อเรื่อง โซ่รัก โซ่เสน่หา ได้เลยนะคะ
ขอบคุณที่อุดหนุนกันนะคะ
โหลดแล้วส่งหลักฐานในการโหลดที่เม้นต์เลยนะคะ 23 ตุลาคม 2558 มีรางวัลให้ค่ะ
จับแจกกันไป (ของรางวัล แจ้งอีกครั้งนะคะ)
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
กษิรา
ความคิดเห็น