ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มุกมังกร

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ (1)

    • อัปเดตล่าสุด 20 ธ.ค. 57


    บทนำ

         

          บ้านเก่าซอมซ่อ หลังคาทะลุเป็นรู รอยพื้นกระด่างกระดำจากคราบน้ำฝนที่เล็ดรอดมาตามรอยรูรั่วนั้น อดีตเจ้าของบ้านวัยเพียงสิบขวบเศษ เดินตรงเข้าไปเปิดตู้เสื้อผ้าเก่าๆ และหยิบชุดเครื่องนอนที่อยู่ในห่อผ้าออกมา หล่อนสะบัดตามกำลังแรงสองสามที ก่อนหันมองดูพื้นที่บริเวณรอบๆ ตัว จากนั้นเลือกปูผ้าในมือลงบนพื้นที่พ้นรอยรั่วของหลังคาบ้าน ก่อนทิ้งตัวเองบนที่นอนนั้น แล้วค่อยๆ ฟุบหน้าลงบนที่นอนนั้น น้ำตาที่ไม่เคยมีใครเคยได้เห็นค่อยๆ ไหลรินอาบสองแก้ม

          สิบชั่วโมงก่อนหน้า...

    “มานี่เลยนังตัวดี ฉันบอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่า อย่าทำตัวแรดเหมือนแม่แก มีที่กินอยู่สบายๆ ไม่ชอบ ดันไปเลือกไอ้กุ๊ยข้างถนนมาทำเป็นผัว เป็นไงล่ะถึงเวลามันก็ไข่ไว้แล้วมาทิ้งไว้ให้ฉันต้องคอยตามไม่ให้มันแรดเหมือนแม่มันอยู่ทุกวัน” เสียงดังมาพร้อมกับร่างสูงสมสมส่วน มือข้างหนึ่งถือไม้ไผ่ที่ถูกเหลาจนเรียวเล็กยาว พุ่งเข้าหาเด็กหญิงที่ยืนคุยกับกับเด็กผู้ชายวัยต่างกันเห็นจะสามถึงห้าปีอยู่บริเวณหน้าประตูรั้วบ้าน

          ไม่กี่วินาทีแนวรอยของไม้ไผ่ก็ปรากฏขึ้นบริเวณเรียวขาสามรอยในเวลากัน เด็กหญิงที่ไม่ทันได้ตั้งตัวรีบคว้าไม้ไผ่ในมือของอีกฝ่ายไว้ก่อนที่จะลงฝากรอยที่น่องขาวอีกครั้ง

          “น้าภามุกเจ็บนะ” แปลกที่ดูเหมือนว่าความเจ็บนั้นไม่ได้ทำให้น้ำตาของเด็กหญิงนั้นเล็ดรอดออกมาเลยแม้แต่น้อย นี่หากเป็นเด็กผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกัน โดนไม้เรียวเล็กฟาดสุดแรงขนาดนี้คงได้ร้องไห้คร่ำครวญไปแล้ว

          เจ็บเหรอ! คำนี้ยังใช้ได้กับหล่อนอีกหรือ นับตั้งแต่หล่อนเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ บ้านหลังใหญ่ที่ถึงแม้จะไม่ถึงกับต้องเรียกว่าคฤหาสน์ แต่ก็ถือว่าเป็นลักษณะบ้านของคนที่มีฐานะเรียกว่ามีอันจะกินในย่านนั้น ที่สำคัญมันใหญ่กว่าบ้านที่เคยอยู่ในสลัมน้ำเน่า ติดตลาดอย่างที่เคยอยู่ร้อยเท่าพันเท่า น่าจะอยู่สุขสบาย หากแต่ไม่ใช่เลยชีวิตที่วาดฝันกับพังทลายลงเมื่อมารดาของหล่อนสิ้นใจลงเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

          “นี่บ้านของแม่เหรอคะ”

          “แม่เคยอยู่ที่บ้านหลังนี้มาก่อน ก่อนที่แม่จะมีหนู”

          “แล้วทำไมแม่ไม่อยู่ที่นี่ล่ะคะ”

          มธุรส มองหน้าบุตรสาวด้วยสายตาอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ จึงได้แต่ลูบศีรษะบุตรสาวแล้วดึงเข้ามาใกล้ตัวอีกนิด และก่อนจะต้องเจอคำถามอะไรที่ไม่สามารถตอบได้อีกก็มีหนึ่งเสียงมาเรียกความสนใจของคนตั้งคำถาม

          “คุณรส นั่นคุณรสจริงๆ ด้วย” หญิงอายุราวหกสิบกว่าเร่งฝีเท้าหน้าตาตื่นเข้ามาหาเจ้าของชื่อด้วยความดีใจ

          “มุก ไหว้ยายแก้วสิลูก” เด็กหญิง เจ้าของชื่อมุก หรือมุกตาภา รีบพนมมือขึ้นไหว้ทำความเคารพหญิงชราตรงหน้าทันที

          “ไหว้พระเถอะลูก ลูกสาวคุณรสเหรอคะ สวยเหมือนคุณรสเลยนะคะ”

          “ป้าว่าเข้าไปข้างในเถอะคุณภาอยู่ข้างใน คงดีใจที่ได้เจอคุณวันนี้”

          “ค่ะ” น้ำเสียงที่ตอบรับนั้นไม่ได้แสดงความยินดียินร้าย หรือเชื่อว่าจะเป็นอย่างที่หญิงสูงวัยพูด

          มุกตาภากวาดสายตามองในบ้าน รอยยิ้มจากริมฝีปากน้อยค่อยๆ คลี่ออก สีหน้าและแววตาฉายชัดถึงตื่นเต้นผสมดีใจ ชีวิตเรากำลังจะดีขึ้นแล้ว มุก ความคิดของเด็กอายุสิบขวบเศษแทรกขึ้นทันที เพียงแค่ได้เห็นฉากสวยงามที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

          นี่หรือชีวิตที่กำลังจะดีขึ้น หล่อนกับมารดาเดินเข้าไปอยู่บ้านหลังนั้นได้เพียงไม่กี่เดือนมารดาหล่อนจากไปด้วยโรคประจำตัวที่เป็นมานาน และเริ่มมีอาการชัดเจนขึ้นภายในระยะเวลาไม่นาน

    สิ้นลมแม่ชีวิตก็มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ความริษยาของผู้เป็นน้าสาวก็ค่อยแผ่รัศมีออกและสำแดงฤทธิ์ออกมากับหล่อน นับจากวันนั้นชีวิตเด็กน้อยไม่ต่างอะไรกับเด็กรับใช้ และรองรับอารมณ์ โมโหโกรธา ที่จะเกิดขึ้นบ่อยครั้งเมื่อเห็นหน้าหล่อน มุกตาภาไม่รู้หรอกว่าเพราะอะไรทำให้น้าสาวที่ดูภายนอกออกจะเป็นคนใจดีนั้นคอยจ้องจะหาเรื่องตีอยู่ตลอด

          เด็กน้อยไม่เข้าใจว่าการที่เธอคุยกับเพื่อนข้างบ้านมันผิดอะไรมากถึงขนาดต้องตีหล่อนเอาเป็นเอาตายขนาดนี้ มุกตาภาจ้องหน้า นภามาศอย่างเอาเรื่อง พร้อมทั้งแย่งไม้เรียวในมือพัลวัน วันนี้เป็นไงเป็นกัน เธอจะไม่ยอมให้ผู้เป็นน้าสาวแท้ๆ ทำตามอำเภอใจอีกแล้ว และดูเหมือนว่าจะสู้แรงไม่ไหวหล่อนจึงรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายแล้วผลักร่างของน้าสาวล้มลงตรงหน้าก่อนวิ่งปรู๊ดเข้าบ้านไป แต่ดูเหมือนวันนี้จะเป็นวันชี้ชะตาของมุกตาภา จวนสาวใช้คนสนิทของนภามาศก็รีบจับตัวและรวบตัวร่างเล็กเอาไว้

          “แกจะฆ่าฉันเหรอนังมุก อีเด็กเปรต อีเด็กเนรคุณ เลี้ยงเสียข้าวสุก” ปากพล่าม มือก็ฟาดไม้เรียวลงบนร่างเล็กสะเปะสะประ ด้วยแรงโมโห

          “โอ๊ยๆ ปล่อยนะ จวนปล่อยมุกนะ โอ๊ย! น้าภามุกเจ็บ ปล่อยมุกนะ มุกเจ็บ จวนปล่อยมุกนะ” เสียงร้องนั้นไม่ใช่เสียงอ้อนวอน หากแต่เป็นเสียงโวยวายดังลั่น ร่างเล็กดิ้นหลบเรียวไม้พัลวัน ทำให้เวลานี้ทั้งคนจับและคนถูกจับโดนหวดเข้าคนละไม้สองไม้

          “เกิดอะไรกันขึ้นคะคุณ ตายแล้วๆ คุณภาคะพอเถอะค่ะ” นางแก้วได้ยินเสียงเอะอะจึงรีบตรงมายังต้นเสียง แล้วรีบเข้าไปดึงร่างมุกตาภาออกมาให้พ้นจากการจับกุม

          “ป้าแก้วปล่อยนังมุกมานะ ฉันจะเลือดชั่วมันออกมา เลี้ยงให้ได้ดีไม่ชอบ เที่ยวแรดร่านออกไปหาผู้ชายถึงนอกบ้าน เหมือนแม่มันไม่มีผิด”

          “คุณภา!

          ป้าแก้วได้แต่เรียกอุทานเรียกชื่อเพียงเท่านั้นไม่พูดอะไรต่อ แล้วก็พามุกตาภาเดินเลี่ยงหลบไปยังเรือนหลังเล็กที่ทั้งสองใช้เป็นที่อาศัย

          “ไปเลย แรดนักร่านอยากมีผัวนักก็เก็บเสื้อผ้าไสหัวออกไปเลย นังจวนเดี๋ยวแกไปดูเอาข้าวของของอีเด็กเปรตนั่นไปกองไว้ที่หน้าบ้าน ไล่มันออกไป ฉันไม่เลี้ยงมันแล้ว” นภามาศตะโกนไล่หลังตามไปพร้อมหันมาสั่งสาวใช้คนสนิทด้วย

          ภาพอดีตในวันที่ได้เข้าในบ้านหลังใหญ่ กับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่ไม่กี่ชั่วโมงยังคงวนเวียนอยู่ในห่วงความคิดของเด็กน้อย และดูเหมือนเหตุการณ์สองคงจะคงอยู่ในความทรงจำไปอีกนาน

    มุกตาภาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นจากหมอนที่เวลานี้ดูเหมือนจะชุ่มด้วยน้ำตาตัวเอง หล่อนใช้มือเช็ดคราบน้ำตาออก แล้วขยับตัวลุกขึ้นนั่ง คว้ากระเป๋าเป้ที่สะพายติดออกด้วยแล้วหยิบรูปมารดาขึ้นมาดูครู่หนึ่ง

          “แม่คะมุกคงอยู่ที่บ้านนั้นตามที่แม่ต้องการไม่ได้แล้ว มุกจะอยู่ให้ได้ด้วยตัวของมุกเอง แม่อยู่ข้างๆ มุกตลอดใช่ไหม แม่เป็นกำลังใจให้มุกด้วยนะคะ”

          “แล้วมุกจะอยู่ยังยังไง” เสียงสะท้อนดังเข้ามาในหูทั้งสองข้าง

          ใช่เวลานั้นหล่อนไม่รู้หรอกว่าจะใช้ชีวิตอยู่ยังไง รู้แต่ว่ายอมตายเอาดาบหน้าดีกว่าที่จะทนอยู่เป็นเบี้ยล่างให้น้าสาวแท้ๆ ของตัวเองโคกสับเอาแบบนี้

    ---------------------------------------------------------------------------

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×