LINDFH E.D.F หายนะยุคใหม่
จักรวาลนี้กำลังพังลงทุกๆ ครั้ง ที่คุณกำลังอ่านเรื่องนี้ความหายนะความโกลาหลความสับสนวุ่นวายมันได้กำลังทำให้ทุกสิ่งลงเหลือเพียงแต่ความว่างเปล่าและจุดจบที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
ผู้เข้าชมรวม
126
ผู้เข้าชมเดือนนี้
14
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
น้าปี 2024 เมื่อวันโลกาวินาศได้มาถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์จักรดาวโลกได้ตกอยู่ภายใต้ความสับสนและความวุ่นวายของยุคโลกาวินาศที่มาอย่างไม่ได้ตั้งตัวและไม่มีสัญญาณอะไรถึงการมาของหายนะในครั้งนี้
หลายๆ ประเทศได้ล่มสลายลงไปอย่างรวดเร็วเหล่าผู้คนในประเทศเหล่านั้นต่างก็ได้กลายเป็นผู้อพยพหรือไม่ก็อาหารของพวกสิ่งมีชีวิตปริศนาพวกนั้น
หรือถึงแม้จะมีประเทศมหาอำนาจได้เข้ามายื่นมือช่วยแต่ภายหลังพวกเขาก็ได้ทอดทิ้งเหล่าผู้คนจากประเทศเหล่านั้นไป
อย่างไม่ใยดีแม้แต่จะส่งอาหารให้เป็นครั้งสุดท้ายก็ไม่ทำ
ทำให้เราผู้อพยพจากประเทศเล็กๆ ต่างๆ ก็กลายเป็นชนเผ่าเร่ร่อนหรือคนเถื่อนในที่สุด
แต่ว่าถึงแม้เรามาหาอำนาจจะโหดร้ายที่ได้ทอดทิ้งเหล่าประชาชนตาดำๆจากเหล่าประเทศที่ล่มสลายไปแล้วแต่พวกเขาก็ยังคงมีสาเหตุอยู่ที่ได้ทำแบบนั้นนั่นก็คือ
ประเทศของพวกเขาได้ถูกกองทัพสัตว์อสูรทำการโจมตีพื้นที่ดินแดนเมืองหลายๆ เมืองยังไม่หยุดยั้ง
ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องยกกองทัพไปปกป้องบ้านเกิดของตัวเองก่อนซึ่งมันคือความจริงที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้สำหรับในยุคที่เต็มไปด้วยความโกลาหลและความสับสนวุ่นวายแห่งนี้
ในยุคนี้ประเทศเล็กๆ ส่วนใหญ่ต่างก็ล่มสลายไปยังปฏิเสธไม่ได้
แม้กระทั่งประเทศใหญ่ๆ อย่างประเทศจีน อเมริกา แล้วก็ รัสเซีย ที่ถึงกับ ต้องขีดเส้นเอาไว้ว่าตรงไหนที่พวก สิ่งมีชีวิตปริศนา ได้ยึดครองไปแล้ว
และตรงไหนคือพื้นที่ที่มนุษย์ยังคงยึดครองอยู่และยังคงมีอำนาจอยู่
ทำให้ทำไปทำมามันก็เลยเปรียบเสมือนกับการสูญเสียดินแดนเหล่านั้นโดยที่เป็นการสูญเสียให้กับสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีสติปัญญา
ที่สามารถบดขยี้รถถังสามารถบินได้เร็วกว่าเครื่องบินบางชนิดและก็สามารถใช้พลังวิเศษบางอย่างที่ทุกคนจะเรียกว่า เวทมนต์
โดยไม่สนใจความสามารถหรือความแตกต่างของพลังวิเศษเหล่านั้นเลยแม้แต่นิดเดียว
แน่นอนจากการที่มีการค้นพบว่า สัตว์ประหลาด บางตัวสามารถใช้พลังจิตได้หรือพลังปริศนาบางอย่างที่มนุษยชาติยังคงไม่รู้จัก
ทำให้เหล่านักวิจัยทั่วทั้งโลกได้ทำการศึกษาเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด
ทั้งการตรวจสอบ DNA ทั้งการตรวจสอบลักษณะพื้นฐานและพฤติกรรมบางอย่างของสิ่งมีชีวิตพวกนั้น
โดยที่ชื่อของโครงการนี้มีชื่อว่า evover ชื่อนี้จะไม่ใช่เป็นชื่อของโครงการนี้อย่างเดียวแต่ชื่อนี้จะเป็นชื่อที่เอาไว้เรียกพวก อสูร หรือ สัตว์ประหลาดพวกนั้นอย่างเป็นทางการ
ไม่มีใครรู้ว่าทำไมพวกเขาถึงพยายามให้ผู้คนเรียกสัตว์ประหลาดหรือสัตว์อสูรว่า evover แต่ว่า ก็มีข่าวลือว่าจริงๆแล้วรัฐบาลทั่วโลกอาจจะรู้เรื่องอะไรบางอย่างเกี่ยวกับพวกสัตว์ประหลาดพวกนี้ก่อนวันหายนะมาถึง
ซึ่งถึงแม้ชื่อนี้จะกลายเป็นชื่อ เอาไว้เรียกพวก สัตว์อสูร หรือ พวกสัตว์ประหลาด แบบเป็นทางการของทั่วทุกมุมโลกแต่ว่า มันก็ยังคงมีคนหลายๆคนที่เรียกพวกมันด้วยชื่อที่หลากหลายออกไปในแต่ละภูมิภาคแต่ละบุคคลแต่ละประเทศแต่ละสถานที่
และเมื่อการวิจัยของเหล่านักวิทยาศาสตร์จากทั่วทุกมุมโลกได้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ แม้จะมีการค้นพบอะไรหลายๆ อย่างมากมาย
แต่ด้วยความสามารถของมนุษยชาติในปัจจุบันนี้
การจะวิจัยพลังเหนือธรรมชาติพวกนั้นมันกลับทำได้ด้วยความยากลำบากมากถ้าจะวิจัยได้คงได้แค่เศษฝุ่นเท่านั้นถ้าเป็นพลังงานเหนือธรรมชาติละนะ
แต่ว่าถ้าเป็นเชิงกายภาพหรือเซลล์ต่างๆ ของเหล่าสัตว์อสูรที่อยู่ในตัวของพวกมัน มันกลับมีการค้นพบอะไรหลายๆอย่างมากมาย ทั้งกล้ามเนื้อและผิวหนังที่สามารถทนทานต่อไฟได้
ทั้งเซลล์ที่สามารถรักษาตัวเองได้อย่างว่องไวแม้ว่าแขนขาของพวกมันจะขาดออกจากกันแล้วก็ตาม
และกล้ามเนื้อของสัตว์ที่บินได้บางชนิดที่มีความเบามากแล้วก็มีความคงทนในระดับที่ต้องใช้กระสุนปืนกลต่อต้านอากาศยานสมัยช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในการยิงใส่พวกมัน
ซึ่งการวิจัยส่วนใหญ่ก็มักจะมาได้ในแนวนี้อยู่เสมอแต่ว่าแม้พวกเขาจะได้รับความรู้อะไรหลายๆ อย่างจากซากของเราสิ่งมีชีวิตจากต่างดินแดนหรือที่เรียกว่า evover
แต่การวิจัยร่างกายของพวกมันในตอนนี้แม้จะมีประโยชน์อยู่บ้างในหลายๆ ด้านแต่ว่าตอนนี้เราประเทศต่างๆ ไม่ได้ต้องการความรู้อะไรจากร่างกายของพวก evover มากนัก
บวกกับในตอนนี้การโจมตีของเหล่า evover ยังคงเป็นวิกฤตของมนุษยชาติอยู่เพราะฉะนั้น
การวิจัยส่วนใหญ่ก็เลยถูกระงับลงไปเปลี่ยนเป็นการวิจัยอาวุธแทน
หรือไม่ก็อาจจะเป็นการวิจัยเกี่ยวกับการสร้างที่อยู่อาศัยแบบใหม่ให้กับมนุษย์
หรือการวิจัยเกี่ยวกับพวก evover เพื่อหาทางรับมือกับพวกมัน
แต่ว่าในโลกโซเชียลนั้นมันดันมีภาพของเรากลุ่มคนที่สามารถใช้พลังวิเศษได้โดยที่ผู้ที่ใช้นั้นก็ยังตกใจกับสิ่งที่ตัวเองมีด้วยซ้ำไป
ทำให้เมื่อรัฐบาลทั่วทั้งโลกของมนุษยชาติได้เห็นพวกเขาได้ระดมกำลังกันเพื่อจับกุมบุคคลเหล่านี้มาตรวจสอบและสอบสวนดู
และหาวิธีใช้แรงงานพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพให้มากที่สุด เพื่อกอบกู้มนุษยชาติ
แล้วเมื่อการตรวจสอบมาถึงได้มีการสอบถามชายผู้ที่สามารถใช้พลังวิเศษเหล่านั้นได้
ว่าทำไมเขาถึงสามารถใช้มันได้ชายผู้นั้นได้ตอบว่า: ผมไม่รู้ว่าผมสามารถใช้มันได้ยังไงแต่ว่า เวลาที่ผมได้กินเนื้อหมูกลายพันธุ์นั่นมันทำให้ผมรู้สึกถึงอะไรบางอย่างในร่างกายของผม ราวกับว่าผมได้เกิดใหม่
ด้วยคำพูดที่ออกมาจากป่าของชายผู้นี้ทำให้เหล่านักวิจัยส่วนใหญ่
ต่างก็มีทฤษฎีสมคบคิดว่าการกินเนื้อของสัตว์พวกนี้อาจจะเพิ่มพลังเวทย์มนต์ได้หรือไม่อาจจะเพิ่มพลังเหนือธรรมชาติรูปแบบต่างๆ ก็ได้
แต่ภายในไม่นานก็ได้มีทฤษฎีเข้ามาดันทฤษฎีนี้จนดูเริ่มไม่ค่อยน่าเชื่อถือสักเท่าไหร่
ซึ่งสาเหตุที่ทฤษฎีนี้ถือกำเนิดขึ้นมาก็เพราะ มีผู้ชายอีกคนนึงที่เขาเป็นทหารเกิดมีพลังวิเศษขึ้นมาโดยที่เขาไม่ได้กินเนื้อของไอ้พวกสัตว์ประหลาดพวกนั้นเลยสักนิดเดียว
แต่ว่าก็ได้มีนักวิชาการคนนึงได้พูดว่า: มันอาจจะเป็นไปได้ทั้งสองทฤษฎีเลยก็ได้
ทำให้มีการตรวจสอบทั้ง 2 ทฤษฎีนี้อย่างเคร่งครัดและได้มีการทุ่มงบประมาณทั้งหมดที่มีเพื่อวิจัยเกี่ยวกับ 2 ทฤษฎีนี้
แน่นอนว่ามันก็ทำให้พวกเขาไม่ผิดหวังเช่นเดียวกันพวกเขาได้รู้แล้วว่าการกินเนื้อของพวก evover จะทำให้พวกเขามีพลังวิเศษได้
แต่ในขณะเดียวกันการฝึกฝนร่างกายอย่างหนักก็สามารถทำให้พวกเขากลายเป็นผู้มีพลังวิเศษได้เช่นเดียวกัน
และเมื่อเทียบกับ 2 ทฤษฎีนี้กลายเป็นว่าทฤษฎีแรกมีโอกาสทำให้มนุษย์เป็นผู้มีพลังวิเศษสูงกว่าทฤษฎีที่ 2 มาก
ซึ่งหลังจากการวิจัยเพิ่มเติมทำให้รู้ว่า ทฤษฎีที่ 2 นั้น ที่เกี่ยวกับการฝึกฝนร่างกายของตัวเองอย่างหนักนั้นจริงๆ แล้ว
มันมีแค่บางส่วนเท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับการฝึกฝนร่างกายอย่างหนักที่จริงแล้วมันขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของโลกใบนี้ต่างหากล่ะ
ที่ตอนนี้มันได้มีกระแสพลังงานอะไรบางอย่างได้หลุดเข้ามาจากประตูมิติเข้าสู่โลกใบนี้ไปแล้ว
ซึ่งมันก็ได้เปลี่ยนแปลงสิ่งมีชีวิตในโลกใบนี้หลายชนิดให้มีพลังเหนือธรรมชาติสุดแสนวิเศษได้
ซึ่งสาเหตุที่การกินเนื้อของสิ่งมีชีวิตพวกนี้ ทำให้มีพลังวิเศษนั้นก็เนื่องมาจากไอ้พลังงานที่อยู่ในร่างกายของพวกมันยังไงล่ะ
ทำให้หลายๆ ประเทศพยายามล่าเหล่า evover มาให้ทหารกินกันเป็นจำนวนมาก
แล้วได้พยายามจัดเกณฑ์เหล่าผู้คนที่มีพลังวิเศษเข้ากองทัพอย่าง
มากมายและได้พยายามฝึกฝนเหล่าผู้มีพลังวิเศษทั้งหลายให้สามารถสู้กับเรา evover กระหายเลือดได้โดยใช้วิธีที่พวกเขาพอจะนึกได้
อย่างเช่นการฝึกทำสมาธิหรือไม่ก็การใช้ศิลปะการต่อสู้ หรือ อาจจะเป็นการยกของหนักๆ อะไรสักอย่าง
หรือไม่อาจจะเป็นการฝึกยิงปืนหรือฝึกฟันดาบหรือใช้อาวุธบางอย่างที่ทางกองทัพพอจะจัดหามาได้
แล้วก็ได้ตั้งชื่อเหล่าผู้มีพลังวิเศษว่า
((((( Nrober )))))
ทำให้ในปี 2024 ตอนปลายหลายๆประเทศได้เริ่มพยายามฝึกฝนกองทัพของมวลมนุษยชาติอย่างหนักเพื่อที่พวกเขาจะให้เหล่าทหารของพวกเขาเตรียมตัวทำสงครามแย่งชิงดินแดนของพวกเขา
ที่พวกเขาเคยมีไม่ว่าจะเป็นประเทศใหญ่หรือประเทศขนาดเล็กต่างก็ร่วมมือกันเพื่อที่จะกอบกู้ความยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาติอีกครั้งหนึ่งให้จงได้
ในวันคริสต์มาสในปี 2024 ถึงแม้ผู้คนหลายคนจะสูญเสียคนที่ตัวเองรักไปอย่างมากมายแต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังคงมีความหวังอยู่นิดๆ
พวกเขาหวังที่จะให้มนุษยชาติกลับมาเจริญและรุ่งเรืองอีกครั้งเหมือนในอดีตกาลที่พวกเขาเคยอยู่
แน่นอนและพวกเขาก็หวังว่าในอนาคตพวกเขาจะได้กินอิ่มท้องทุกวัน
ถ้าหากคุณเดินไปที่ถนนในวันคริสต์มาสคุณจะเห็นผู้คนมากมายต่างก็สวดขอพรต่อซานต้าคลอสว่า; ขอให้ยุคแห่งความสงบสุขและยุคแห่งความยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาติกลับมาอีกครั้ง
แน่นอนว่าบางทีก็มีคนจากศาสนาอื่นที่นับถือเทพเจ้าของพวกเขาแล้วก็ได้สวดภาวนาถึงเทพเจ้าของพวกเขาแบบเดียวเช่นกัน
ถ้าหากคุณลองดูดีๆ
ในตอนนี้ถึงจะเป็นวันคริสต์มาสแต่สภาพของผู้คนทั้งหมดที่อยู่ที่ที่อพยพหรืออยู่ในเมืองที่มนุษยชาติเป็นฝ่ายชนะคุณจะสังเกตว่าพวกเขาต่างก็ดูผอมและดูหิวโหยอย่างมาก
แต่ก็มีบางคนที่มีรูปร่างดีอยู่บ้าง
หรือบางคนที่ดูไม่น่าเข้าไปใกล้อยู่หลายสิบคน
แล้วคุณอาจจะเห็นเราทหารกำลังทำอะไรบางอย่างกลับผู้หญิงคนนึงที่มีรูปร่างดีหน่อยอยู่ก็ได้
ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับในโลกในตอนนี้นั้นทุกอย่างต่างก็ไม่น่าอยู่สำหรับมนุษยชาต
ถ้าหากเองไม่ใช่คนระดับสูงหรือพวกมีกะตังค์ล่ะนะไม่สิถึงมีกะตังก็คงใช้ไม่ได้แล้วล่ะอย่างน้อยต้องมีอำนาจขึ้นไปอยู่ในระดับหนึ่งถึงจะอยู่ได้อย่างสงบสุขสำหรับในยุคนี้น่ะ
จบช่วงเวลาในปี 2024 เข้าสู่ปี 2025 ตอนต้น
หลังจากที่เราประเทศต่างๆ ได้ทำการฝึกฝนเหล่าผู้มีพลังวิเศษในประเทศของพวกเขาเสร็จแล้ว
ทุกๆ ประเทศที่มีกองกำลังมากพอสำหรับการบุกยึดคืนดินแดนที่พวกเขาเสียไปต่างก็ได้เตรียมการที่จะทำสงครามอีกครั้ง
เราอาวุธยุทโธปกรณ์ที่พวกเขาได้ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อกำจัดเหล่าสัตว์อสูรได้ถูกสร้างขึ้นอย่างมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นปืนเล็กยาวปืนใหญ่หรือปืนต่อต้านอากาศยานที่ดูเหมือนกับสมัยช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
หรืออาจจะเป็นฝูงเฮลิคอปเตอร์ที่คอยทำหน้าที่ยิง evover หรือคอยขนส่งเหล่าทหารราบและขนส่งอะไรต่างๆ ที่มีความจำเป็น
แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่พวกเขายังโชคดีอยู่นั่นก็คือท้องทะเลในตอนนี้ยังคงไม่มีสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติเหมือนบนบกการค้าขายในท้องทะเลก็เลยเป็นที่นิยมมากขึ้น
ทำให้มีนักเดินเรือหลายๆคนกลายเป็นเศรษฐีโดยรวดเร็วภายในปี 2024 แล้วจนถึงปี 2025 นี้ พวกเขาต่างก็กลายเป็นคนรวยรุ่นใหม่ที่มักจะนำพาเหล่าอาหารสู่เมืองต่างๆ
อยู่บ่อยครั้งหรือไม่ก็อาจจะเป็นแร่เหล็กหรืออาวุธยุทโธปกรณ์ที่เหล่าประเทศของพวกเขาได้สั่งซื้อมา
แต่ว่าภายในไม่นานเริ่มมีการค้นพบปลากลายพันธุ์หรือสิ่งมีชีวิตที่มีหน้าตาแปลกประหลาดบางชนิดโดยที่มีหลักฐานคือวีดีโอหรือไม่ก็เป็นรอยข่วนบนที่เรือของพวกเขา
ทำให้เหล่าผู้คนหลายๆคนในประเทศต่างๆ ต่างก็กลุ้มใจอย่างหนักกับสิ่งที่พวกเขาได้ยินหรือเห็น
แต่เราคนระดับสูงนั้นที่ได้ยินสิ่งสิ่งนี้ก็ต่างพยายามปิดข่าวเพื่อให้สถานการณ์มันดูไม่วุ่นวายจนมากจนเกินไปพวกเขาได้พูดว่ามันอาจจะเป็นการกลายพันธุ์ของปลาบางชนิดก็ได้
หรือไม่ก็อาจจะเป็นพวก evover ที่เป็น evover ครึ่งบกครึ่งน้ำที่ย้ายไปอยู่ในทะเลก็ได้
ซึ่งแน่นอนว่าข้อนี้พวกเขาได้มีการให้เหล่านักวิชาการต่างๆออกมาพูดเพื่อไม่ให้สถานการณ์มันรุนแรงจนเกินไป
และพวกเขาก็ได้แนะนำเหล่าผู้คนมากมายว่าเหล่าสัตว์อสูรไม่สามารถไปอยู่ที่น้ำลึกได้
เพราะว่าพวกมันส่วนใหญ่ที่สามารถลงน้ำทะเลได้มักจะเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำทั้งนั้น
แต่ว่าถึงแม้พวกเขาจะพูดอย่างนั้นแต่ว่าความหวาดกลัวของเราผู้คนก็ยังคงสูงอยู่ดี
บวกกับก็มีคนบางคนบอกว่าถึงเหล่า evover ในตอนนี้จะไม่สามารถอยู่ที่น้ำลึกได้แต่ก็ไม่ได้แปลว่า; ในอนาคตสัตว์ในท้องทะเลจะไม่เกิดการกลายพันธุ์ขึ้นมา
และด้วยคำพูดคำนี้ทำให้หลายๆประเทศได้เตรียมมาตรการต่างๆ
ที่พวกเขาพอจะคิดได้
บางประเทศได้ตัดสินใจสร้างเครื่องบินขึ้นมาเพื่อคอยทำหน้าที่ขนส่งสินค้า
บางประเทศยอมควักเงินมากขึ้นเพื่อติดอาวุธให้เรือขนส่งสินค้า
บางประเทศที่ไม่ค่อยมีเงินก็อาจจะให้เรือรบของพวกเขาไปเดินขบวนกับเรือบรรทุกสินค้าด้วย
แน่นอนไม่ว่าประเทศไหนก็มักจะมีวิธีเป็นของตัวเองอยู่เสมอบางทีก็จะเอาวิธีของประเทศอื่นมาปรับปรุงและใช้งานร่วมด้วย
ในปี 2025 ตอนกลาง
หลายๆประเทศได้มีการร่วมมือกันจัดตั้งองค์กรองค์กรหนึ่งเพื่อช่วยกันและกันนั่นก็คือองค์กรที่มีชื่อว่า; Earth Defense Force ที่แปลว่า กองกำลังพิทักษ์โลก หรือจะเรียกแบบย่อๆว่า; E.D.F
สาเหตุที่มีการจัดตั้งองค์กรนี้ขึ้นมาก็เพราะว่า; เพื่อให้องค์กรนี้เป็นตัวกลางระหว่างประเทศหลายๆประเทศ
แน่นอนคุณอาจจะสงสัยว่าทำไมประเทศหลายๆประเทศถึงจัดตั้งองค์กรนี้ขึ้นมาก็เพราะว่า: การไว้ใจซึ่งกันและกันของแต่ละประเทศมันไม่เหมือนกันอย่างเช่นจีนกับอเมริกาหรือไม่ก็รัสเซียกับชาติสมาชิกนาโต้
ทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ชอบกันและกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้วต่อให้ประเทศของตัวเองจะเกิดความโกลาหลเพราะเรา evover มากเพียงไรแต่
พวกเขาจะไม่ยอมให้เราผู้มีพลังหรือเหล่าทหารของประเทศคู่อริเข้ามาในประเทศของตัวเองอย่างเด็ดขาด
เพราะฉะนั้นมันก็เลยมีการจัดตั้งองค์กรที่คอยทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการกำจัดมอนสเตอร์ระหว่างประเทศขึ้นมาโดยที่มีเหล่าประชาชนที่มีพลังวิเศษมากมายเข้ามาสมัคร
หรือไม่ก็อาจจะมีเหล่าทหารที่แต่ละประเทศส่งมาช่วยเหลือกันและกัน
นับปี 2025 ตอนปลาย
นี่คงเป็นฝันร้ายขององค์กรที่มีชื่อว่า; E.D.F เพราะทวีปอเมริกาใต้ขณะนี้กำลังถูกฝูง evover เข้าโจมตีอย่างหนักตอนนี้มีประเทศไม่กี่ประเทศยังคงเหลือได้แก่
บราซิล อาร์เจนตินา และ โคลัมเบีย แล้วก็ คิวบา
โดยที่องค์กรต้องทำการช่วยเหลือเหล่าประเทศในอเมริกาใต้อย่างเร่งด่วนไม่เช่นนั้นประเทศในอเมริกาใต้อาจจะเหมือนกับในทวีปแอฟริกาที่ที่มีแต่เหล่า evover เดินกันเพ่นพ่านเต็มไปหมด
แล้วมีเหล่าผู้อพยพต้องเข้าไปอยู่ในท้องของพวกมันเป็นประจำและแถมก็เต็มไปด้วยเหล่าคนเถื่อนที่ได้ตั้งตัวพยายามสร้างประเทศขึ้นมาโดยใช้แนวคิดระบบเผด็จการยุคหิน
ที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายความปราดเถื่อนความไร้สิทธิมนุษยธรรมในรูปแบบต่างๆ ที่คุณพอจะนึกได้
ทำให้องค์กร E.D.F ต้องทำงานหนักขึ้นอย่างมากทำให้พวกเขาในตอนนี้ต้องการกำลังคนอย่างมากและทรัพยากรอาหารและอาวุธที่เราประเทศต่างๆ ควรจะส่งให้
แต่อย่างน้อยก็ดีที่มีประเทศหนึ่งในอเมริกาใต้ที่ยังไม่ถูกโจมตีโดยกองทัพสัตว์อสูรนั่นก็คือประเทศ คิวบา สาเหตุที่คิวบาไม่ถูกสัตว์อสูรเข้าโจมตีก็เพราะคิวบาเป็นประเทศเกาะ
มันก็เลยทำให้องค์กร E.D.F ตัดสินใจใช้ประเทศ คิวบา เป็นฐานทัพหลักในการช่วยเหลือเหล่าประเทศจากอเมริกาใต้
ทั้งการสนับสนุนการโจมตีด้วยเครื่องบินหรือการสนับสนุนทางด้านอาวุธยุทโธปกรณ์หรือทางการทหารและภาคพลเรือนอย่างการแจกจ่ายอาหารให้กับผู้คนมากมาย
ในปี 2026 การต่อสู้แย่งชิงดินแดนคืน
ในตอนนี้หลายๆประเทศได้พร้อมแล้วสำหรับการทำสงครามกับพวก evover แบบเต็มรูปแบบแต่ก็มีบางประเทศที่ยังคงต้องเป็นฝ่ายป้องกันต่อไปอยู่เป็นจำนวนมาก
อย่างเช่นประเทศในแถบอเมริกาใต้
แต่ก็มีอยู่บางประเทศที่ใช้โอกาสนี้ในการยึดครองดินแดนของประเทศอื่นหรือไม่ก็ใช้โอกาสนี้ในการยึดประเทศอื่นด้วยซ้ำไป
ทำให้สหประชาชาติที่ยังคงอยู่ในตอนนี้ได้ประณามพวกเขาอย่างหนักแต่ว่าด้วยสถานการณ์ในตอนนี้พวกเขายังคงทำอะไรไม่ได้
ทำให้ประเทศบางประเทศที่เห็นว่าสหประชาชาติทำอะไรไม่ได้ก็เลยใช้โอกาสนี้ในการยึดครองประเทศอื่นหรือทำการแย่งชิงดินแดนของประเทศอื่น
อย่างเช่นประเทศเยอรมันที่หลังจากที่เกิดวันโลกาวินาศประเทศเยอรมันได้เห็นว่าเหล่าประเทศต่างๆ ในวันโลกาวินาศอย่างเช่นอังกฤษฝรั่งเศสอิตาลีโปแลนด์ต่างก็อ่อนแอลงมาก
ทำให้พวกเขาเริ่มคิดที่จะทำให้ตัวเองกลับมาเป็นประเทศมหาอำนาจอีกครั้งหนึ่งถึงแม้ตอนนี้พวกเขาก็ยังคงเจ็บปวดจากพวก evover อยู่แต่ว่าเมื่อเทียบกับประเทศในชาติสมาชิกนาโต้
เยอรมันที่ถือเป็นหนึ่งในชาติที่เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ดูเหนียวแน่นที่สุดในนาโต้กับมีความลับบางอย่างที่พวกเขาไม่อยากให้ใครรู้
นั่นก็คือพวกเขาเฝ้ารอคอยจากการที่ประเทศของตัวเองได้กลายเป็นเอกราชอีกครั้งหนึ่ง
ตัวของพวกเขานั้นตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 พวกเขาต่างก็เจ็บปวดจากความพ่ายแพ้ความไม่ยุติธรรมของสนธิสัญญาต่างๆ
ที่พวกเขาได้รับทั้งค่าประติมากรรมสงครามสุดแพงที่ขนาดผ่านมาแล้วเกือบร้อยปีเพิ่งมาจ่ายหมดประมาณปี 2018
ทั้งการกดขี่ข้อบังคับต่างๆ ที่พวกเขาได้รับทำให้สิ่งนี้กลายเป็นความเครียดแค้นในหัวใจของชาวเยอรมันเกือบทุกคน
และเมื่อพวกเขาได้เห็นว่านาโต้ในตอนนี้อ่อนแอขนาดไหนพวกเขาตัดสินใจประกาศเอกราชของตัวเองออกมา
พวกเขาได้บอกว่า จะไม่ยอมอยู่ภายใต้ประเทศอื่นอีกต่อไปแล้วพวกเราชาวเยอรมันจะปกครองตัวเอง
ซึ่งจากคำพูดของรัฐบาลเยอรมันนั้นมันได้ทำให้หลายๆ ประเทศในสหประชาชาตินั้นต่างก็ตกใจและหวาดกลัวขึ้นมาอย่างมาก
แต่ว่าก็มีบางประเทศที่มองว่าเยอรมันก็แค่อยากจะเป็นอิสรภาพเท่านั้นเองทำให้การประกาศอิสรภาพของเยอรมันไม่ค่อยส่งผลอะไรมากอย่างมากสุดก็แค่สายสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มีความตึงเครียดมากขึ้น
แต่ก็มีบางประเทศที่กลัวว่าเยอรมันจะกลับไปเป็นเหมือนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกครั้งที่ทำการประกาศสงครามล้างแค้นที่ตัวเองพ่ายแพ้ไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
แต่ว่าถึงแม้จะมีคนเยอรมันบางส่วนหรือหลายๆคนที่อยากจะกลับไปเป็นมหาอำนาจอีกครั้งแต่ว่าก็ยังมีชาวเยอรมันหลายสิบคนที่ยังอยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเหมือนเดิมเหมือนที่เคยผ่านมา
ทำให้การเมืองของประเทศเยอรมันเริ่มสั่นคลอน
ทำให้ภายในไม่นานได้เกิดกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง
ที่ได้ทำการปฏิวัติรัฐบาลขึ้นจากเหล่านายทหารผู้มีประสบการณ์ในการรบและโดยการสนับสนุนจากมหาเศรษฐีคนหนึ่งผู้ที่มีสายเลือดราชวงศ์เยอรมัน
ทำให้กลุ่มปฏิวัติมีความแข็งแกร่งและน่าสะพรึงกลัวมากจนชนิดที่ว่ารัฐบาลก็ยังไม่สามารถทำอะไรกลุ่มนี้ได้มากนักทำให้ภายในไม่นาน
ได้เกิดการรัฐประหารขึ้นและการรัฐประหารในครั้งนี้ก็ได้โค่นล้มประธานาธิบดีของเยอรมัน
จนทำให้ประเทศเยอรมันได้ปรับเปลี่ยนการปกครองไปเป็นระบอบกษัตริย์อีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เหล่าประเทศสหประชาชาตินั้นหวาดกลัวอย่างมากจนชนิดที่ว่า
ได้มีการร่วมมือกันของประเทศแต่ละประเทศในฝั่งชาติสมาชิกนาโต้หรือไม้แตกประเทศอเมริกาเองก็ยังหวาดกลัวกับเรื่องนี้ก็เลย
ได้มีการส่งกองทัพไปยืนเฝ้าภัยความมั่นคงที่ประเทศฝรั่งเศสตรงชายแดนที่ติดกลับประเทศ เยอรมัน อย่างเป็นจำนวนมากซึ่งสถานการณ์ในตอนนี้ได้สร้างความตึงเครียดในหมู่ของประเทศในสมาชิกนาโต้เป็นอย่างมาก
ส่วนรัสเซียที่เห็นนาโต้แตกหรือประเทศต่างๆ ที่เป็นคู่อริกับอเมริกาและเราประเทศต่างๆ
ที่ไม่ชอบชาติสมาชิกนาโต้ที่เห็นนาโต้ตีกันเองนั้นก็ อดไม่ได้ที่จะมีการเลี้ยงฉลองจัดงานปาร์ตี้กันเป็นอย่างจำนวนมากโดยเฉพาะรัสเซียที่ผู้นำประเทศของพวกเขาดูจะดีใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากเป็นพิเศษ
ในปี 2026 ตอนกลาง หลายๆประเทศได้ทำการโจมตีหรือแสดงแสนยานุภาพของตัวเองให้ประเทศรอบข้างได้เห็น
โดยการที่พวกเขาได้โจมตีเหล่า evover เพื่อแย่งชิงดินแดนของพวกเขาคืนมา
ในสงครามในครั้งนี้มนุษยชาติได้กลับมาได้เปรียบอีกครั้งหนึ่งถึงแม้มันจะยากลำบากไปหน่อยก็ตาม
บังดินแดนพวกเขาก็ได้มาบางดินแดนพวกเขาจำใจที่จะต้องมองข้ามมันไปเพราะที่นั่นมี evover ที่แข็งแกร่งมากๆยังไงล่ะ
บางเมืองก็ได้ถูกยึดด้วยเหล่ามนุษย์อีกครั้งหนึ่ง
บางประเทศก็ได้กลับมาใหญ่มีขนาดเหมือนเดิมก่อนยุควันโลกาวินาศหรือใหญ่ยิ่งกว่ายุควันโลกาวินาศ
บางประเทศก็ยังคงต้องเสียดินแดนบางส่วนให้กับพวก evover อยู่
บางประเทศก็เริ่มกำจัดพวกสัตว์อสูรออกจากประเทศของตัวเองได้แล้ว
ทำให้สถานการณ์ในตอนนี้มนุษย์ทั้งโลกได้เริ่มกลับมาได้รับชัยชนะอีกครั้งหนึ่งแล้วและชัยชนะในครั้งนี้จะยิ่งใหญ่และเป็นจุดชี้ขาดของเผ่าพันธุ์ของพวกเขาอีกด้วย
เกียรติยศในครั้งนี้มันยิ่งใหญ่กว่าการที่มนุษย์นั้นได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อีกนับพันล้านอีกด้วยซ้ำไปเพราะว่าเกียรติยศในครั้งนี้คือการช่วยเหลือเผ่าพันธุ์ของพวกเขาให้รอดพ้นจากหายนะในครั้งนี้ยังไงล่ะ
ปี 2026 ตอนปลาย
เรามวลมนุษยชาติได้เริ่มเข้าโจมตีดินแดนต่างๆ ที่เหล่า evover ได้ยึดครองไปจากพวกเขา
และที่สำคัญในการขับไล่เหล่าสัตว์อสูรนั้นเหล่า Nrober ที่เริ่มมีประสบการณ์
ในการต่อสู้เหล่า evover หรือการฆ่าพวกเขาได้เริ่มแสดงศักยภาพที่พวกเขาได้รับมาจากการต่อสู้อันแสนอันยาวนาน
และได้เริ่มมีผลิตภัณฑ์รูปแบบต่างๆที่ทำมาจากอวัยวะต่างๆ ของพวก evover
ทั้งกระเป๋าหนังจระเข้กลายพันธุ์หรือไม่ก็เนื้อหมูกลายพันธุ์เนื้อไก่กลายพันธุ์และนมวัวกลายพันธุ์ออกมาสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก
ทำให้สถานการณ์ในปัจจุบันนี้มีทีท่าว่า หลายๆ ประเทศจะกลับมาเจริญรุ่งเรืองเหมือนยุคก่อนหน้านี้
ทำให้หลายๆ คนที่เป็นคนธรรมดาต่างก็ตาเบิกกว้างและรอคอยวันที่พวกเขาจะสามารถใช้เงินซื้อในสิ่งที่อยากจะกินได้อีกครั้งนึง
และจะได้ไม่ต้องหวาดกลัวไปแต่ละวันว่าจะถูกกินหรือต้องมาอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังแห่งนี้อีกพวกเขาอยากจะกลับไปอยู่ในยุคทองที่มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง
ไม่ใช่ยุคที่เต็มไปด้วยความโกลาหลความวุ่นวายความหายนะแห่งนี้
ปี 2027 ปีๆ นี้ก็เหมือนกับปี 2026 แต่ว่าได้เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นนั่นก็คือ
เหล่าประเทศต่างๆ ได้เริ่มให้ความสนใจกับประตูมิติที่นำพาเหล่า evover มาที่โลกแห่งนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
จริงๆแล้วพวกเขาให้ความสนใจมันมาตั้งแต่ปี 2024 แล้วล่ะ แต่เพราะตอนนั้นมันยังไม่มีโอกาสเหมาะสมสักเท่าไหร่
ซึ่งในตอนปี 2024 ช่วงแรกๆก็มีการพยายามทำลายประตูมิติด้วย
แต่ก็ที่รู้ๆนะถ้าพวกเขาทำลายมันได้ก็คงไม่ต้องมาลำบากลำบนแบบนี้หรอก
ในเหตุการณ์ครั้งนี้เหล่ามนุษย์ทั่วทั้งโลกต่างก็ให้ความสนใจกับสิ่งที่อยู่ในประตูมิติและเรื่องราวต่างๆ ในประตูมิติมากขึ้นเรื่อยๆ
จนเริ่มมีแนวคิดที่จะไปตรวจสอบประตูมิติผุดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก
แต่ว่าก็มีคนบางกลุ่มที่เสนอให้ฝังประตูมิติทั้งหมดในโลกให้จมดินไปเลย
เพื่อที่จะไม่ให้มีตัวอะไรโผล่มาอีกครั้งนึงและเพื่อที่จะสร้างยุคสงบสุขของมวลมนุษยชาติอีกครั้ง
โดยที่ไม่ต้องมาพะวงว่าจะมีตัวอะไรเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต
แน่นอนฝ่ายที่เสนอให้มีการตรวจสอบประตูมิติเหล่านั้นย่อมไม่เห็นด้วยกับสิ่งๆ นี้พวกเขาก็เลยออกมาบอกว่าถ้าหากเราไม่รู้
อะไรเกี่ยวกับประตูมิติเลยและเอาแต่ปิดกั้นหรือเอาแต่พยายามหลบหนีมัน
สักวันหนึ่งสิ่งนี้จะเป็นผลร้ายต่อมวลมนุษยชาติอย่างมากมาย
ทำให้ทั้งสองฝ่ายได้ทำการทะเลาะกันเรื่องนี้จนได้ข้อสรุปว่า
เราควรฝังประตูมิติที่สร้างความหายนะให้กับมวลมนุษยชาติมากที่สุดและควรมีการตรวจสอบหาประตูมิติที่เราพอที่จะใช้ประโยชน์จากมันได้
และเมื่อแนวคิดนี้ได้ออกมาหลายๆประเทศได้ยอมรับในสิ่งสิ่งนี้
ทำให้ในปี 2027 ได้มีการตรวจสอบประตูมิติหลากหลายประตูและอาจจะมีการตรวจสอบประตูดันเจี้ยนบ้าง
{จากผู้แต่ง: คุณอาจจะสงสัยว่าประตูดันเจี้ยนกับประตูมิติคืออะไรผู้แต่งจะพูดให้ฟังแบบละเอียดแล้วกันประตู dungeon ก็คือประตูดันเจี้ยนเหมือนในเกมนั่นแหละแต่แค่มันจะมีขนาดเล็กกว่าประตูมิติหลายเท่าและ
มีระดับต่างๆที่ไม่เหมือนกันตั้งแต่ระดับ F ระดับ D ระดับ C ระดับ B ระดับ A ระดับ S แล้วก็อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนกับประตูมิตินั่นก็คือถ้าหากไม่มีใครไปเคลียร์ monster ที่อยู่ในดันเจี้ยน monster เหล่านั้นก็จะออกมาจากดันเจี้ยน
อย่างเยอะแยะมากมายจนชนิดที่ว่านับกันไม่ไหวเลยทีเดียว
และก็มีเวลาอยู่ระดับความยากของดันเจี้ยนนั้นๆ ยิ่งดันเจี้ยนมีระดับความยากที่สูงมากเท่าไหร่การปะทุออกมาของมอนสเตอร์ก็จะใช้เวลานานมากขึ้นเท่านั้น
และประตูมิติก็ตรงตัวเลยประตูมิติที่จะนำพาเราไปสู่โลกหรือมิติต่างๆที่ไม่สามารถอธิบายหรืออธิบายได้
ซึ่งประตูมิติสามารถทำให้เรางั้นเข้าไปอีกโลกนึงได้หรือสามารถนำพาสิ่งมีชีวิตจากอีกโลกหนึ่ง
มาหาโลกของเราได้หรือไม่ก็อาจจะนำพาอะไรบางอย่างที่เรามองไม่เห็นอย่างพลังงานวิเศษต่างๆ ที่ยังไม่มีการค้นพบหรือค้นพบแล้วเข้าใจแล้วใช่ไหมเพราะฉะนั้นเข้าเรื่อง}
น้าปี 2028 ก็เป็นปีที่สงบดีเมื่อเทียบกับปีอื่นๆ ที่เคยผ่านมาแต่ก็มีข่าวลืออยู่บ้างว่ารัฐบาลจากบางประเทศค้นพบตัวประหลาดอะไรบางอย่างจากใต้ท้องทะเลลึก
ส่วนเหตุการณ์สำคัญได้มีการจัดกีฬาระหว่างประเทศขึ้นเพื่อสายสัมพันธ์กันและกันในยุคโลกาวินาศนี้
ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นอะไรที่ง่ายๆหรือที่เรารู้จักกันอยู่ดีอยู่แล้วอย่างเช่นฟุตบอลหรือเบสบอลอะไรต่างๆ
ปี 2029 นักวิทยาศาสตร์ได้ตรวจพบคลื่นพลังงานแม่เหล็กอะไรบางอย่างที่พวกเขาไม่รู้จักจากทั่วทุกมุมโลก
ทำให้มีการค้นคว้าคลื่นพลังงานนี้อย่างมากมายจากทั่วทั้งโลกเหล่านักวิชาการจากประเทศต่างๆ ทั่วทั้งมุมโลกต่างก็ถกเถียงกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ในปี 2030 ได้เริ่มมีเหล่าผู้อพยพจากต่างโลกโผล่ขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ทั้งเหล่าเอลฟ์ เราคนแคระ และเรามนุษย์ครึ่งสัตว์ จากบางแห่งของโลกทำให้
เราประเทศต่างๆ ต่างก็ตกตะลึงที่ได้ค้นพบกับสิ่งมีชีวิตที่มีภูมิปัญญาระดับเดียวกับมนุษย์แล้วมันได้ทำให้
เกิดการถกเถียงว่าเราจะเก็บพวกเขาไว้อยู่ภายใต้ธงผืนเดียวกันหรือเราจะขับไล่พวกเขาไปที่โลกที่พวกเขาจากมาหรือเราจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์พวกเขากันดี
ทั้ง 3 ฝ่ายได้ถกเถียงกันเรื่องนี้ต่อไป เรื่อยๆ
แต่ภายในไม่นานเราเผ่าพันธุ์ผู้อพยพเหล่านั้นต่างก็ได้แสดงฝีมือที่มนุษย์ไม่อาจจะเทียบได้ขึ้นมา
ทั้งคนแคระที่มีความสามารถในการเรียนรู้อาวุธของมนุษย์ได้อย่างง่ายดาย
ทั้งเอวที่มีความสามารถในการปลูกพืชพันธุ์การเกษตรจนทำให้เหล่ามนุษยชาติไม่อดอยากอีกต่อไป
ทั้งเหล่าอมนุษย์ evover ที่มีความสามารถหลากหลายรูปแบบ
เราอ่ะมนุษย์บางตัวที่มีหูหรือหางเหมือนสุนัข ที่มีพลังเหมือนกับสุนัขอย่างเช่นการดมกลิ่นที่เหมือนกับสุนัขจริงๆ
หรือเผ่าพันธุ์อมนุษย์บางเผ่าที่มีหน้าตาเหมือนกับแมวมีความสามารถในการมองเห็นที่มืดได้เป็นอย่างดี
และก็ยังมีเผ่าพันธุ์ที่หน้าตาเหมือนมนุษย์แบบเป๊ะๆแถมยังเรียกตัวเองว่ามนุษย์อีกด้วย
แต่แค่อาจจะมีสีผมหรือสีตาที่มีความหลากหลายมากกว่า มนุษย์จักรดาวโลก
และเมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการตรวจสอบ DNA ของมนุษย์กลุ่มนี้ได้ค้นพบว่าพวกเขามี DNA ที่ใกล้เคียงกับมนุษย์โลกนี้เป็นอย่างมาก
แต่ว่า ยังมี DNA บางอย่างที่แตกต่างจากมนุษย์ในโลกนี้ถ้าจะพูดถึงความเหมือนทาง DNA ของมนุษย์กลุ่มนี้ก็คงจะเป็น 86% ที่เหมือนกับมนุษย์โลกส่วนที่เหลือ
เป็นยีนส์หรือ DNA ที่มีความแตกต่างจากมนุษย์ในดาวโลกเป็นอย่างมาก
เมื่อเทียบกับสริยะวิทยากับมนุษย์ในดาวโลกมีการค้นพบว่าพวกเขา
นอกจากจะมี สีของตา และ สีของผม ที่มีความหลากหลายกว่า ยังมีร่างกายที่แข็งแกร่งกว่ามนุษย์จักรดาวโลกอยู่ประมาณนึง
แล้วก็ เผ่าพันธุ์อมนุษย์ พวกเขาได้ทำให้เหล่านักวิชาการนักวิทยาศาสตร์ต้องตกตะลึงเพราะว่า ทั้งๆที่พวกเขามีหูของสัตว์หางของสัตว์ความสามารถของสัตว์
แทนที่พวกเขาจะมีเลือดของสัตว์ไหลเวียนอยู่ในร่างกายแต่ว่า เหล่านักวิทยาศาสตร์กับค้นพบว่าพวกเขามีเลือดที่ดันเหมือนกับมนุษย์ในโลกฝั่งนั้นถึง 99.9%
ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฮือฮาอย่างมากในสังคมวิทยาศาสตร์ที่ยังคงเชื่อในหลักเหตุผลของวิทยาศาสตร์อยู่
ซึ่งมันก็ได้มีการตรวจสอบเพิ่มเติมทั้งการตรวจสอบสรีรวิทยาและการทำงานของร่างกายส่วนที่เป็นอวัยวะของสัตว์
และค้นพบว่าบางส่วนในอวัยวะเหล่านั้นมันกลับไม่เชื่อมต่อกับร่างกายเลยมันเหมือนกับเนื้อที่อยู่ดีๆ ก็งอกมาเป็นรูปทรงที่ดูเหมือนกับอวัยวะของสัตว์มากกว่าอย่างเช่นหูของสัตว์บางชนิดอย่างสัตว์จำพวกแมวหรือสุนัข
ที่เหล่าอมนุษย์ที่มีอวัยวะบางอย่างของสัตว์ที่กล่าวมาแล้วตรงหูของพวกเขาที่ควรจะมีการเชื่อมต่อกับร่างกายในกะโหลกของพวกเขาหรืออวัยวะบางอย่างที่ควรอยู่ในกะโหลกของพวกเขามันกลับไม่มีการเชื่อมต่ออะไรเลยไม่สิมันยังคงเชื่อมต่อกันแค่ผิวหนังและเนื้อบางส่วนเท่านั้น
แล้วหลังจากการตรวจสอบตรงหูของพวกเขาก็ค้นพบว่าพวกเขาสามารถได้ยินตรงนั้นได้ปกติและก็ยังสามารถขยับมันได้ด้วยและที่สำคัญพวกเขาก็ยังสามารถใช้หูทั้ง 4 ของพวกเขาที่เป็นหูมนุษย์และหูของสัตว์อย่างละคู่ในการรับสัมผัสการได้ยินได้ดีเป็นอย่างมาก
และเผ่าพันธุ์ อมนุษย์ บางเผ่าพันธุ์ที่มีแค่ 2 หู อย่างเผ่าพันธุ์ อมนุษย์ มิโนทอร์ ที่หู มนุษย์ ถูกแทนที่โดยหูของวัวแทน แล้วก็มีเขางอกออกมา ตรงจุดที่หูของ อมนุษย์ สัตว์ควรจะอยู่
และที่สำคัญที่สุดพวกเขาบางคนสามารถเปลี่ยนร่างกายของตัวเองให้กลายเป็นสัตว์ได้หรือเปลี่ยนร่างกายตัวเองให้เหมือนกับมนุษย์แบบ 100% โดยไม่มีอวัยวะที่เป็นสัตว์งอกออกมาก็ได้เหมือนกัน
ซึ่งพวกเขาเรียกสิ่งที่ทำให้พวกเขาสามารถมีอวัยวะได้ทั้งมนุษย์และก็สัตว์หรือสิ่งที่ทำให้พวกเขาเป็นได้ทั้งมนุษย์และก็สัตว์ว่า เป็น พรของเทพเจ้า ที่มีนามว่า Vorakaros พระองค์คือเทพเจ้าแห่งสัตว์ร้าย และ ความสมดุลของธรรมชาติ
ซึ่งพวกเขาก็เรียกร่างที่พวกเขาสามารถกลายเป็นได้ว่าตามดังนี้
ร่างแรกร่าง Qmantic ร่างนี้เป็นร่างที่เหมือนกับมนุษย์เป็นอย่างมาก
ร่างที่ 2 Houbeas ร่างนี้เป็นร่างที่มีอวัยวะบางอย่างของสัตว์
ร่างที่ 3 Beastly Humans ร่างนี้ค่อนข้างจะไปทางของสัตว์อวัยวะส่วนใหญ่ต่างก็เป็นสัตว์ทั้งนั้นยกเว้นอวัยวะบางอย่างที่ยังคงเป็นของมนุษย์อยู่
ร่างที่ 4 Ylteb ร่างนี้คือร่างของสัตว์เพราะว่าไม่มีอวัยวะส่วนไหนเหมือนกับของมนุษย์เลย
แล้วก็ด้วยรูปลักษณ์หน้าตาและความสามารถของพวกเขาทำให้เหล่าผู้คนใหญ่คนโตจากหลายๆประเทศในสังคมมองว่าการมีเผ่าพันธุ์พวกนี้อยู่ภายใต้การปกครองมันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายนัก
แต่ก็มีบางประเทศหรือบางคนที่ต้องการกำจัดพวกเผ่าพันธุ์ที่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้ที่มาเหยียบย่ำดาวโลกที่พวกเขาถือกำเนิดขึ้นมา
ในปี 2035 มนุษย์จักรดาวโลกและเหล่าผู้อพยพต่างก็เริ่มที่จะคุ้นเคยกันแล้วและก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันมากนักเหมือนแต่ก่อน
แต่ว่าในบางประเทศก็อาจจะมีปัญหากันอยู่บ้างโดยเฉพาะเราประเทศที่มีอุดมการณ์ทางศาสนาหัวรุนแรงต่างๆ
หรือบางประเทศที่มีการเหยียดผิวหรือชนชาติที่มากกว่า ปกติ
เมื่อได้ยินคำว่าศาสนาแน่นอนเหล่าผู้อพยพย่อมมีศาสนาเป็นของตัวเองแล้วศาสนาพวกนี้ก็ดูเหมือนจะมีเทพเจ้าของจริงอยู่เบื้องหลังอยู่ด้วย
แต่ว่าด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างเราผู้อพยพไม่สามารถขอพรต่อเทพเจ้าที่พวกเขานับถือได้ทำให้พวกเขาไม่สามารถเพิ่มพลังที่เทพเจ้าของพวกเขาให้มาได้แต่ว่าก็ยังมีบางคนที่พอจะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้าของพวกเขาได้อยู่บ้าง
ซึ่งส่วนใหญ่ต่างก็เป็นบุคคลสำคัญของศาสนาที่พวกเขานับถือหรือไม่ก็เป็นนักรบหรืออัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือศาสนานั้น
แล้วดูเหมือนว่าเราผู้อพยพพวกนี้พยายามจะเผยแพร่ศาสนาของตัวเองใส่เหล่าผู้คนจากดาวโลก
ทำให้เราศาสนาที่อยู่ดั้งเดิมในดาวโลกนั้นต่างก็ไม่พอใจกันเป็นแถบ
ทำให้มีการเกิดสงครามศาสนาขึ้นแบบขนาดเล็ก
ซึ่งมันสร้างความปวดหัวให้กับเราประเทศต่างๆ ได้ไม่น้อย
ทำให้มีการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปลาดตระเวนแถวที่อยู่อาศัยของผู้อพยพอยู่ตลอดเวลา
ซึ่งมันก็ได้ผลในระยะสั้นเท่านั้นเพราะว่าตำรวจเองก็ยังเป็นคนหรือเป็นมนุษย์ที่อยู่ในดาวโลกเหมือนกันแล้วบางคนก็อาจจะนับถือศาสนาในดาวโลกอย่างเคร่งครัด
ทำให้มีเหตุการณ์ที่เราผู้อพยพถูกรังแกโดยเหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้นับถือศาสนาอย่างเคร่งครัด
ในปี 2036 ได้เกิดโรงเรียนฝึกสอนเวทมนต์ขึ้นโดยมีอาจารย์ใหญ่เป็น
เอลฟ์ คนนึงที่มีความสามารถทางด้านเวทมนต์สูงมาก
ซึ่งโรงเรียนเวทมนต์แห่งนั้นก็ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากรัฐบาล
ทำให้มีเหล่าผู้ใช้พลังเวทมนต์ในประเทศที่มีการสนับสนุนโรงเรียนเวทมนต์โผล่ขึ้นเป็นจำนวนมาก
เมื่อเหล่าประเทศต่างๆเห็นว่า ประเทศที่สนับสนุนโรงเรียนเวทมนต์นั้นต่างก็พัฒนาอย่างรวดเร็วมากทำให้พวกเขาได้สนับสนุนการพัฒนาหรือสร้างโรงเรียนเวทมนต์ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก
ทำให้ทั่วโลกมีเหล่านักเรียนที่สามารถใช้เวทมนต์ได้โผล่ขึ้นมาอย่างมากมาย
และเมื่อมีผู้ใช้เวทมนตร์มากขึ้นย่อมมีกฎหมายที่ต้องรองรับหลายๆ ประเทศได้ทำการคิดค้นหรือสร้างกฎหมายต่างๆ เพื่อรองรับเราผู้ใช้เวทมนต์ที่จะถือกำเนิดขึ้นมาในอนาคต
เวทมนตร์บางอย่างได้ถูกห้ามลงโดยหลายๆ สถาบันเวทมนตร์หลายๆ อย่างก็สั่งห้ามค้นคว้าหรือห้ามเรียนรู้เด็ดขาด
อย่างเช่นเวทมนต์เดโคมันเซอร์หรือสาดเวทมนต์ดำแขนงต่างๆ
แม้กระทั่งข้อบังคับการใช้งานเวทมนต์ในชีวิตประจำวันของเราผู้มีพลังเหนือธรรมชาติทั้งหลายแหล่
แล้วก็ในปี 2036 นอกจากการเปิดสถาบันเวทมนต์แล้วก็ยังมีการค้นพบชนเผ่าชาวแอฟริกาที่อยู่ในทวีปแอฟริกาที่ได้ตั้งถิ่นฐานและรวมตัวกันเป็นประเทศประเทศหนึ่งในแอฟริกาใต้ที่มีชื่อว่า ยูเคนด้า
ประเทศนี้ประกอบไปด้วยชนเผ่าพื้นเมืองในแอฟริกากับเราผู้อพยพชาวแอฟริกาที่ยังคงหลงเหลืออยู่
ซึ่งประเทศนี้นั้นเป็นประเทศที่ประกอบไปด้วยเหล่านักรบและเหล่านักล่าฝีมือดีอย่างมากมายถึงแม้เทคโนโลยีในประเทศนี้จะค่อนข้าง จะต่ำสุดๆ แต่ว่าด้วยความสามารถของเรานักรบในประเทศนี้ที่ได้มีการฝึกฝนมาตั้งแต่ยังเด็กราวกับเป็นนักรบสปาต้าสมัยยุคอดีตกาล
และการล่าเหล่า อีโวเวอร์ ระดับสูงที่ประสบความสำเร็จอยู่บ่อยครั้งทำให้ประเทศนี้ได้มีการค้าขายเนื้อหรือหนังหรือวัสดุต่างๆ ของเรา อีโวเวอร์ ระดับสูงที่เคยมีส่วนร่วมในการทำลายล้างประเทศต่างๆ ในแอฟริกา อยู่เป็นจำนวนมาก
ทำให้ประเทศนี้ร่ำรวยมากจากการขายวัสดุที่มาจากเรา อีโวเวอร์ ระดับสูงทั้งหลายที่เหล่านักรบและเหล่านักล่าของประเทศนี้ได้ล่าและสังหารพวกมัน
ในปี 2037 ได้เกิดเหตุการณ์มีกลุ่มก่อการร้ายขึ้นโดยกลุ่มนั้น
มองว่ามนุษย์จักรดาวโลกนั้นคือเผ่าพันธุ์ดั้งเดิมของที่นี่ส่วนเผ่าพันธุ์ที่ ที่มาจากดาวดวงอื่นที่เข้ามาอยู่อาศัยในดาวเคราะห์ดวงนี้ควรถูกกำจัดให้หมดสิ้น
และมองว่าเผ่าพันธุ์พวกนี้นั้นก็เป็นผู้รุกรานเผ่าพันธุ์มนุษย์เหมือนกับพวกสัตว์ประหลาดหรือ evover พวกนั้น
และกลุ่มกลุ่มนี้ก็เรียกตัวเองว่า: protector of humanity
เมื่อเหล่าประเทศหลายๆ ประเทศได้ยินสิ่งที่คนกลุ่มนี้พูด
ทำให้หลายๆ ประเทศประนามกลุ่มกลุ่มนี้ว่าเป็นฆาตกรฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไม่ต่างอะไรจากนาซีที่สังหารชาวยิวลงไปเป็นจำนวนมากสมัยช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
แต่ก็มีบางประเทศที่สนับสนุนคนกลุ่มนี้อยู่เบื้องหลังหรือเห็นได้ชัดเจน
ซึ่งพวกประเทศส่วนใหญ่ที่ไม่สนับสนุนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้ทำการร่วมมือกันจัดตั้งองค์กรองค์กรหนึ่งขึ้นมาเพื่อกำจัดคนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ
แต่ก็ยังไม่พอที่จะหยุดการก่อการร้ายต่อเหล่าผู้อพยพทำให้เราผู้อพยพจากประเทศต่างๆ ได้มีการแอบจัดตั้งศาลเตี้ยขึ้นมาเพื่อทวงความยุติธรรมต่อตัวของพวกเขาและเผ่าพันธุ์ของพวกเขา
ซึ่งกลุ่มคนพวกนี้ต่างก็มีอยู่อย่างมากมายและมีหลายกลุ่มที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับความไม่ยุติธรรมที่พวกเขาได้รับทั้งความเพิกเฉยของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีต่อพวกเขาทั้งการกดขี่ของคนในพื้นที่บางส่วนบาง ประเทศ ที่มีต่อพวกเขาทั้งการลักพาตัวคนในเผ่าพันธุ์ของพวกเขาไปทำเป็นธาตุ
โดยเฉพาะในเม็กซิโกที่ก่อนยุคโลกาวินาศจะมาถึง ประเทศนี้ ก็ขึ้นชื่อในเรื่องของอาชญากรอยู่แล้ว
และหลังจากที่เข้าสู่ยุคโลกาวินาศเราอาชญากรในประเทศนี้ก็ได้ทำการยึดอำนาจภายในประเทศและได้ตั้งตัวเองให้เป็นเหล่าผู้ปกครองประเทศนี้
แล้วก็คงไม่ต้องพูดถึงว่าการกดขี่ต่อเหล่าผู้อพยพในเม็กซิโกมันจะหนักขนาดไหน
แน่นอนว่ากลุ่มของเราผู้อพยพที่จัดตั้งขึ้นมาในเม็กซิโกนั้นมันก็มีมากมายเช่นเดียวกันกับหลายๆ ประเทศที่มีการกดขี่เหล่าผู้อพยพอย่างรุนแรง
แต่ว่าภายในไม่นานนักกลุ่มเหล่านั้นต่างก็ถูกทำลายโดยรัฐบาลเม็กซิโกที่มีเบื้องหลังเป็นเหล่าแก๊งมาเฟียทั้งหลาย
แต่ว่ามันมีกลุ่มๆ นึงที่มีชื่อว่า Nissassa ซึ่งเป็นกลุ่มที่กำจัดได้ยากมากที่สุดและมีตัวตนข้อมูลน้อยที่สุดในบรรดากลุ่มต่างๆ ของเราผู้อพยพ
และกลุ่มกลุ่มนี้นั้นก็ได้รอกสังหารเจ้าหน้าที่ทางการเมืองหรือตำรวจไปหลายพันคน
จนทำให้ชื่อเสียงของกลุ่มๆ นี้นั้นโด่งดังอย่างมากในเม็กซิโกและทั่วโลกแน่นอนว่า เมื่อโด่งดังไปทั่วโลกแล้วชื่อของกลุ่มกลุ่มนี้
นั้นมันได้ไปทำให้เหล่าผู้อพยพบางคนที่เคยเป็น เราขุนนางหรือเราบุคคลระดับสูงในประเทศของพวกเขาก่อนที่ประเทศของพวกเขาและโลกของพวกเขาจะล่มสลายลงไป
ที่ได้ยินนั้นต่างก็ให้ข้อมูลกับเรากลุ่มคนที่พวกเขารู้จักที่เป็นมนุษย์จากโลกใบนี้ซึ่งข้อมูลก็มีอยู่หลากหลายมากมายทั้งจริงบ้างและไม่จริงบ้างแต่ว่า
มันมีข้อมูลข้อมูลนึงที่ดูเหมือนจะเป็นไปได้และเป็นความจริงมากที่สุดนั่นก็คือกลุ่มๆ นี้นั้นเป็นองค์กรนักฆ่าที่ถูกจัดตั้งโดยอาณาจักรของพวก dark Elf ที่สร้างขึ้นมาเพื่อการ แทรก ซึม หรือการลอบสังหารหรือก่อกวนเหล่าประเทศอริทั้งหลายที่เคยมีปัญหากับพวกเขาในอดีตกาล
ในปี 2040 เหล่ามนุษย์ได้เริ่มเข้ารุกรานประตูมิติเหล่านั้นโดยการส่งเหล่าเจ้าหน้าที่ไปยึดครองอาณาเขตหรือดินแดนบางส่วน
ในอีกโลกนึงซึ่งมันทำให้หลายๆ ประเทศฮือฮาอย่างมากและทำให้เกิดการล่าอาณานิคมขึ้นมา เป็นจำนวนมาก
หลายๆ ประเทศในปัจจุบันที่เป็นประเทศมหาอำนาจต่างก็ส่งคนไปต่างโลกเพื่อจะไปเอาทรัพยากรต่างๆที่มีค่าเหล่านั้น
และแน่นอนว่าพวกเขาก็ได้เจอกับการค้นพบสิ่งใหม่นอกจากทรัพยากรที่พวกเขาอยากจะได้อย่างเช่นพวก อีโวเวอร์ สายพันธุ์ใหม่หรือพืชผักสายพันธุ์ใหม่และที่สำคัญที่สุดเผ่าพันธุ์ที่อาจจะมีสติปัญญานึกคิดเป็นของตัวเอง
หรือไม่อาจจะเจอกับเศษซากอารยธรรมโบราณหรืออารยธรรมสมัยใหม่ที่มีความล้ำหน้าต่อโลกในปัจจุบันของพวกเขาเป็นอย่างมากหรืออาจจะมีความล้ำหน้าพอๆ กว่าโลกของพวกเขา
ในปี 2041 ได้เกิดเหตุการณ์ช็อคโลกขึ้นเมื่ออยู่ดีๆ
ดันเจี้ยนที่ปกติแล้วจะไม่ค่อยอันตรายเท่ากับประตูมิติเพราะดันเจี้ยนถ้าไม่มีใครเข้าไปก็จะไม่โดนสัตว์ประหลาดที่นั่นกิน หรือ รอเวลาหมดแต่ตอนนี้ดันเจี้ยนได้เปิดขึ้นมาแบบกระทันหัน
แบบยุทธการสายฟ้าแลบ
ทำให้หลายๆ ประเทศเกิดความโกลาหลขึ้นเหมือนสมัยช่วงยุคโลกาวินาศแรกๆ แต่อาจจะไม่ร้ายแรงเท่ากับสมัยช่วงยุคโลกาวินาศมากนัก
ในเหตุการณ์ครั้งนี้มีเหล่าผู้คนหลายพันคนไม่สิต้องพูดว่าหลายล้านคนหรือหลายแสนคนดีต่างก็เสียชีวิตลงไปโดยเหล่ากองทัพ evover กระหายเลือด และเรา เชื้อไวรัสปริศนาที่ทำให้คนกลายเป็นซากศพเดินได้
ซึ่งการมาของเชื้อไวรัสปริศนามันได้ทำให้หลายๆประเทศล่มสลายไปทำให้ทุกประเทศที่เกิดใหม่หรืออยู่มาก่อนแล้วต่างก็ต้องร่วมมือกันเพื่อกำจัดไอ้โรคระบาดนี่
ซึ่งเชื้อไวรัสตัวนี้นั้นมันอันตรายยิ่งกว่าเชื้อไวรัสโควิด 19 ประมาณ 3 เท่าไม่สิอาจจะ 4 เลยก็ได้
เพราะว่าเมื่อสิ่งมีชีวิตตัวไหนถูกผู้ติดเชื้อกัดมันก็จะกลายเป็นซากศพเดินได้ที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือดที่มากกว่าสิ่งมีชีวิตตัวนั้นเคยมี
ทำให้เหล่า evover ที่ถูกกัดนั้นเกิดอาการบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิมเป็น 2 เท่า
ทำให้หลายๆ ประเทศได้ร่วมมือกันส่งกองทัพไปที่ประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโรคระบาดสูงเป็นพิเศษ
บางประเทศก็เสนอให้ยิงนิวเคลียร์เพื่อกำจัดโรคระบาดพวกนี้ให้หมดซึ่งหลายๆ ประเทศก็ไม่เห็นด้วยกับการใช้วิธีนี้เพราะว่าเคยมีการ
คนพบ evover ที่สามารถดูดรังสีนิวเคลียร์หรือสามารถอยู่ในพื้นที่สารมรณภาพรังสีได้ดีกว่า evover ตัวอื่นและดูเหมือนว่ามันจะแข็งแกร่งกว่า evover ตัวอื่นเป็น 5 เท่ากว่า evover ตัวอื่น
ทำให้หลายๆ ประเทศนั้นไม่ค่อยอยากจะยิงนิวเคลียร์ลงไปในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยโรคระบาดนี้เพราะกลัวว่าโรคระบาดมันจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเดิมเป็น 10 เท่าที่มันควรจะเป็น
ซึ่งขนาดตอนนี้ก็ยังรับมือยากลำบากอยู่แล้วพวกเขาไม่อยากจะนึกถึงว่าเมื่อเชื้อโรคเหล่านี้ถูกกับรังสีนิวเคลียร์จะเกิดอะไรขึ้น
พวกเขาได้เริ่มเผาซากศพที่เต็มไปด้วยโรคระบาดพวกนี้อย่างมากมาย
ทั้งได้ค่าเหล่าผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสจากโลกปริศนานี่
ทั้งมีการเผาล่างของคนที่เป็นผู้ต้องสงสัยว่าติดโรคระบาดชนิดนี้
ทั้งมีการพยายามรักษาเหล่าผู้ติดโรคระบาดโดยใช้วิธีหลากหลายวิธีที่พวกเขาพอจะนึกได้ทั้งแบบวิทยาศาสตร์และไม่วิทยาศาสตร์
ซึ่งดูเหมือนว่าวิธีการรักษาที่พวกเขาคิดค้นนั้นจะใช้กับโรคระบาดชนิดนี้ไม่ได้
ทำให้หลายๆประเทศเลือกที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สิ่งที่ติดโรคระบาดชนิดนี้ไม่ว่าจะสิ่งนั้นจะเป็นใครจะเป็นอะไรก็ตาม
บางประเทศได้มีการใช้ระเบิดนาปาล์มเผาป่าจนย่อยยับเพื่อไม่ให้โรคระบาดนี้แพร่กระจายไปมากกว่านี้
บางประเทศถึงกับระเบิดเมืองหรือเผาเมืองของตัวเองเพื่อกำจัดโรคระบาดนี้ให้หมดสิ้นไป
ในปี 2044 เหตุการณ์เชื้อไวรัสโรคระบาดได้เริ่มซาลง
ซึ่งมันก็มีโรคระบาดพวกนี้อยู่ประปรายนิดหน่อยซึ่งเมื่อทางการพบพวกเขาจะรีบกำจัดโรคระบาดชนิดนี้โดยทันทีโดยไม่สนว่าจะผิดศีลธรรมหรือไม่เพราะตอนนี้ศีลธรรมนั้นได้หายไปตั้งนานแล้ว
ซึ่งอาจจะมีการเผาหมู่บ้านทั้งหมู่บ้านเพื่อไม่ให้โรคระบาดที่ยังคงเหลืออยู่เล็กน้อยพวกนี้แพร่กระจายไปมากกว่านี้อีก
ด้วยการกระทำแบบนี้ของเหล่ารัฐบาลหลากหลายประเทศทำให้โรคระบาดนั้นได้เริ่มสงบลงแบบอย่างมาก
แบบจนชนิดที่ว่าแทบไม่มีใครเห็นคนที่ติดเชื้อหรือ evover ที่ติดเชื้อซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีแต่ข่าวลือทั้งนั้นว่าพบเจอคนที่ติดเชื้อไวรัสนี้
แต่ก็มีพวกมิจฉาชีพบางคนที่พยายามใช้ข่าวลือให้เป็นประโยชน์กับตัวเองซึ่งส่วนใหญ่ก็จะถูกรัฐบาลจับตัวได้และมักจะถูกไปดำเนินคดีหรือไม่ก็นำไปแขวนคอโดยทันที
ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ก็มีข่าวลือนึงได้เกิดขึ้นในหมู่ท่ามกลางประชาชนว่าจริงๆแล้วในหมู่เรามิจฉาชีพพวกนั้นที่จริงแล้วมีมิจฉาชีพหลายคนที่ได้พูดความจริงออกมาแต่ว่าเพราะรัฐบาลไม่ต้องการให้ผู้คนต้อง รับรู้ความจริงเกี่ยวกับเชื้อไวรัสซอมบี้ไปมากกว่านี้อีกแล้ว
พวกเขาก็เลยสั่งเก็บเหล่าบุคคลที่นำความจริงเหล่านั้นออกมาเผยแพร่สู่สาธารณะเป็นจำนวนมาก
ซึ่งแน่นอนมันก็แค่ข่าวลือที่มาจากไหนก็ไม่รู้ที่อาจจะไม่ใช่ความจริงหรือไม่ก็อาจจะเป็นความจริงก็ได้เหมือนกัน
และเมื่อผ่านไปสักพักก็ดูเหมือนว่าในตอนนี้โลกทั้งใบจะสงบสุขเหมือนเดิมอีกครั้งหนึ่งแล้ว
แต่ว่ามันยังคงไม่สงบสักทีเดียวหรอกนะเพราะว่า
ได้มีทีมนักสำรวจกลุ่มหนึ่งเข้ามาสำรวจในประตูมิติแห่งหนึ่งในประเทศแคนาดาและได้พบกับซากอารยธรรมโบราณที่มีความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีสูงกว่าเทคโนโลยีจากดาวโลกเป็นหลายสิบเท่า
ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขาทั้งตกตะลึงและดีใจเป็นอย่างมากที่ค้นพบสิ่งที่ดูเหมือนกับสมบัติเหล่านี้และก็
แน่นอนเมื่อมีเทคโนโลยีจากต่างดาวให้ research ฟรี
จะมีเหรอที่ความโลภและความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์จะไม่บังตาเหล่ามนุษย์ได้เริ่ม research เทคโนโลยีเหล่านั้นอย่างบ้าคลั่งทั้งเทคโนโลยีหุ่นยนต์อาวุธปืนหรือไม้แต่อาหารและเครื่องแต่งกายก็ตาม
และจะมีสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการต่อสู้ของพวกเขาในอนาคตนั่นคือชุด power armor ยังไงล่ะสิ่งนี้จะเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้พวกเขาสามารถต่อกรกับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าได้ด้วย
วิทยาศาสตร์ของพวกเขาอีกครั้งหนึ่งถึงแม้วิทยาศาสตร์ครั้งนี้ต้องมีการพึ่งเวทมนต์หรือพลังเหนือธรรมชาติด้วยก็ตาม
แล้วเมื่อเราทีมสำรวจได้สำรวจไปเรื่อยๆ ได้มีทีมสำรวจคนนึงในทีมสำรวจดันไปเจอห้องปฏิบัติการทางการทหารของอารยธรรมโบราณเข้าโดยบังเอิญ
แต่ว่าไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือความโลภของมนุษย์ทีมสำรวจคนนั้นกับไปเปิดปุ่มปุ่มหนึ่งนั่นก็คือปุ่ม ที่ปิดผนึก AI ตัวนึงเอาไว้และ
AI ตัวนั้นก็พร้อมแล้วที่จะทำลายอารยธรรมของสิ่งมีชีวิตที่มีภูมิปัญญาอีกครั้ง
ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นและแถมด้วยกองทัพอันมหาศาลของ AI ตัวนั้นมันได้นำกองทัพของมันบุกเข้ามาที่โลกแห่งนี้ผ่านทางช่องทางประตูมิติในแคนาดา
ทำให้เกิดสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ต่างๆ ที่ได้อยู่อาศัยในดาวโลกและ AI จากต่างดาวขึ้นและสงครามครั้งนี้ก็มีนามว่า ; (blood of iron)
ซึ่งสงครามครั้งนี้นั้นมีระยะเวลายาวนานจนถึง 6 ปีเลยทีเดียว
ซึ่งมันสร้างความเสียหายให้กับเราผู้คนในดาวโลกเป็นอย่างมาก
มีการใช้อาวุธทันสมัยมากมายในเหตุการณ์ครั้งนี้
รวมทั้งอาวุธที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทคโนโลยีจากต่างดาวมากมายและแน่นอนหนึ่งในนั้นก็มีชุดเกราะ power armor อยู่ด้วย
ซึ่งการมาของชุดเกราะ power armor ทำให้คนธรรมดาหลายสิบล้านคนมีอาวุธในการต่อกรกับเหล่าเครื่องจักรสังหารทั้งหลายที่กรีฑามาที่โลกใบนี้ถึง
แม้ชุดเกราะช่วงแรกนั้นตัวชุดมันจะค่อนข้างจะมีความบัดซบหรือความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัยอยู่มากก็ตามเถอะ
และในสงครามครั้งนี้ก็ได้มีเหล่าคนธรรมดามากมายที่ได้กลายเป็น Nrober เกิดขึ้นอย่างมากมาย
ซึ่งเกิดขึ้นจากการต่อสู้และการดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดของเราผู้คนมากมายที่พยายามต่อสู้กับเราจักรกลสังหาร
ซึ่งหลังจากสงครามในครั้งนี้ได้มีมนุษย์กว่า 79% ของโลกที่ได้กลายเป็น Nrober อยู่เป็นจำนวนมาก
และก็เพื่อหยุดยั้งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของ AI ตัวนั้น
ได้มีจอมเวทย์คนนึงได้คิดว่าวิธีเดียวเท่านั้นที่จะชนะ AI ได้นั่นก็คือการทำลายประตูมิติที่เชื่อมต่อระหว่างสองโลก
ตัวของเขาก็เลยตัดสินใจเสียสละตัวเองโดยการทำลายประตูมิตินั่นโดยใช้เวทมนตร์ขั้นสุดยอดที่ตัวของเขาได้เรียนรู้เป็นเวลาอย่างยาวนานและมันก็เป็นเวทมนต์ที่มนุษย์จากดาวโลกไม่เคยเห็นมาก่อน
ใช่แล้วเพราะว่าจอมเวทย์คนนี้ไม่ใช่มนุษย์แต่เป็น เอลฟ์ คนนึงที่เป็นคนเปิด โรงเรียน เวทมนต์แห่งแรกของโลกขึ้นมานั่นแหละ
และด้วยพลังทั้งหมดของเขาเขาได้ทำลายประตูมิตินั้นได้สำเร็จ
ทำให้ภายในไม่นานเหล่ากองทัพหุ่นยนต์ก็เริ่มเกิดความสับสนขึ้นเพราะว่าไม่มีผู้บัญชาการคอยสั่งทำให้พวกมัน
ทำได้แต่ทำลายทุกอย่างไปโดยไม่สนใจอะไรแต่ว่า
ภายในไม่นานพวกมันก็กลับมามีระเบียบทางการทหารอีกครั้งหนึ่งเพราะว่าแทนที่ AI ตัวนั้นจะขาดการเชื่อมต่อกับดาวโลก
มันกลับเชื่อมต่อกับ internet ของดาวโลกนี้แทนซึ่งอย่างมากสุดสิ่งที่ จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ เอลฟ์ คนนั้นทำได้ดีที่สุดก็คือลดจำนวนการผลิตของพวกหุ่นยนต์จักรกลสังหารพวกนั้นซึ่งแน่นอนมันก็ช่วยได้มากและก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นภายในอนาคตอันมืดมิดที่ไร้ซึ่งความหวัง
และด้วยจำนวนการผลิตของหุ่นยนต์ที่น้อยลงทำให้เราเผ่าพันธุ์ต่างๆ ในดาวโลกได้ร่วมมือกันค่อยๆ กำจัดพวกมันไปทีละร้อยสองร้อยตัวไปอย่างนี้เรื่อยๆ
จนพวกเขาได้ค้นพบว่าแม้พวกมันจะเหลือน้อยลงแต่ว่าปัญหาที่น่ากลัวที่สุดอย่าง AI ที่เป็นผู้บัญชาการอยู่ยังคงเป็นปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดอยู่ไม่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้จะเป็นยังไงก็ตาม
ซึ่งมันทำให้หลายๆประเทศตัดสินใจยอมทำลายโลกไซเบอร์ทั้งหมดเพื่อที่จะเป็นการปิดผนึกหรือทำลาย AI นั่นไปตลอดกาล
ทำให้มนุษยชาติต้องมาเริ่มต้นสร้างโลกไซเบอร์ใหม่ทั้งหมดอีกครั้งนึงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ส่วนระเบิดนิวเคลียร์อาวุธที่ร้ายแรงที่สุดของมนุษยชาติก่อนยุคโลกาวินาศและตอนยุคโลกาวินาศ
เพื่อความปลอดภัยของเหล่าเผ่าพันธุ์ต่างๆ ที่อยู่อาศัยภายในโลกเพื่อมั่นใจว่ามันจะไม่ถูก AI สั่งยิง
หลายๆประเทศได้มีการสั่งทำลายรหัสยิงของหัวรบนิวเคลียร์พวกนั้นไปจนหมดแม้กระทั่ง
แท่นการยิงหรือคอมพิวเตอร์ที่เป็นตัวควบคุมการยิงของระเบิดนิวเคลียร์หลายๆรูปก็ตาม
และแน่นอนที่สุดก็ได้มีการทำลายหรือเอาระเบิดนิวเคลียร์เหล่านั้นออกจากแท่งยิงของพวกมันเพื่อให้มั่นใจว่า AI จะไม่สามารถใช้พวกมันได้ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม
ทำให้มีการขนเราระเบิดนิวเคลียร์หลายพันลูกไปที่แท่งโกดังเก็บอาวุธยุทโธปกรณ์ประเภทระเบิดที่ไม่น่าจะเก็บระเบิดนิวเคลียร์หลายพันลูกเอาไว้ได้เพราะมันไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อเก็บระเบิดนิวเคลียร์เลยสักนิดด้วยซ้ำไป
ซึ่งเหตุการณ์การเก็บระเบิดนิวเคลียร์ในครั้งนั้นได้สิ้นสุดลง
หลายๆ ประเทศต่างก็ร่วมมือกันโดยมีจุดหมายเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้นในตอนนี้ก็คือทำลายเราจักรกลสังหารและ AI นั้นให้สูญสิ้นไปจากโลกใบนี้ให้หมดโดยไม่ให้เหลือ
จนกองทัพของ AI นั้นได้สูญสิ้นและพ่ายแพ้ไปจนหมดแม้กระทั่ง AI นั้น
ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้เราเผ่าพันธุ์ต่างๆและเราประเทศต่างๆต่างก็ได้รับชัยชนะในศึกสงครามที่ยาวนานถึง 6 ปี ในครั้งนี้ได้สำเร็จและผู้คนส่วนใหญ่ก็หวังว่าจะไม่มีสงคราม AI แบบนี้เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 2 ...
แต่ว่าก็มีข่าวลืออีกว่า AI ตัวนั้นได้หลบซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งในโลกใบนี้และมันก็กำลังเฝ้ามองเผ่าพันธุ์สิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาทั่วทั้งมุมโลกอยู่อย่างเงียบๆ
และมันก็กำลังสร้างกองทัพเพื่อเตรียมการพิชิตโลกอีกครั้งหนึ่ง
แต่ว่าในข่าวลือมากมายเหล่านั้นก็ยังคงมีข่าวลือนึงที่เป็นข่าวลือที่แปลกประหลาดที่สุดก็คือ AI ตัวนั้นไม่ได้ทำสงครามเพื่อหวังที่จะกวาดล้างมนุษย์หรือเผ่าพันธุ์ต่างๆ
แต่ทำสงครามเพื่อให้เผ่าพันธุ์ต่างๆ ได้พัฒนาขึ้น เพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่แท้จริงที่เคยทำให้อารยธรรมที่ AI ตัวนั้นได้เคยปกป้องต้องถูกทำลายลงไปในที่สุด
แน่นอนว่าข่าวลือนี้ต่างก็ถูกผู้คนมากมายจากหลายชนชาติวิจารณ์กันด้วยความแง่ลบเป็นอย่างยิ่งและก็ไม่มีใครเลยที่เชื่อข่าวลือนี้
แต่ก็มีข่าวลือนึงที่หลายๆ คนออกมาถกเถียงกันนั่นคือข่าวลือเรื่องเผ่าพันธุ์ใหม่ที่ได้มีการค้นพบในประตูของประเทศแคนาดาที่มีการค้นพบอารยธรรมของพวกหุ่นยนต์พวกนั้น
ซึ่งการค้นพบนี้เป็นการค้นพบก่อนที่จะเกิดสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์และ จักรกลสังหาร ขึ้นประมาณ 5 ชั่วโมงก่อนที่สงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ต่างๆในโลกและ ปัญญาประดิษฐ์ จะเริ่มต้นขึ้น
ซึ่งการค้นพบในครั้งนี้นั้นคือการค้นพบร่างของสิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนกับมนุษย์ผู้หญิงผมสีทองที่กำลังนอนหรือจำศีลอยู่ในเครื่องจำศีลแช่แข็งที่เราสามารถพบเห็นได้ในหนังภาพยนตร์ไซไฟส่วนใหญ่
ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากข่าวหรือเรื่องนี้ออกมาเราชาวเม้าท์มอยส่วนใหญ่ต่างก็ออกมาพูดถึงประเด็นเรื่องนี้มันเป็นจำนวนมากว่ามันจริงหรือไม่แต่ส่วนใหญ่มีมุมมองว่าไม่
แล้วมองว่าข่าวเรื่องนี้ก็คงเป็นข่าวลือทฤษฎีสมคบคิดเหมือนกับข่าวลือหลายๆ เรื่องที่ได้มีการเล่าขึ้นมาหลังจากความพ่ายแพ้ของกองทัพจักรกล
ในปี 2050 โลกใบนี้ดูเหมือนกับว่าจะกลับมาสงบสุขอีกครั้งแบบจริงๆ ตอนนี้อารยธรรมของชาวโลกได้เริ่มพัฒนาขึ้นจนมียานอวกาศขึ้นมาและได้เริ่มมีการล่าอาณานิคมดวงดาวต่างๆ ผ่านประตูมิติเหล่านั้นด้วย และแน่นอนทางอวกาศด้วย
แล้วตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นยุคทองของดาวโลกแต่ว่ามันจะสงบสุขไปได้อีกนานแค่ไหนก็มาดูกัน
ว่าในอนาคตข้างหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายโลกใบนี้จะถูกระเบิดหรือไม่ก็จะเป็นยังไงแล้วแต่โชคชะตาจะเป็นคนกำหนด
ว่าความหายนะในอนาคตจะมาในรูปแบบไหน
จบตอนที่ 0
ผลงานอื่นๆ ของ phairin1977 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ phairin1977
ความคิดเห็น