ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    King of Lions บุรุษหัวใจราชันย์ ออนไลน์

    ลำดับตอนที่ #6 : ลูกหมู [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 20 ต.ค. 59


          ตอนที่ 6       
          ลูกหมู     






                 เวลาตอนนี้น่าจะประมาณสองทุ่ม ผู้เล่นในเมืองแฟนทาเนียยามค่ำคืนมากกว่าตอนกลางวันมากนัก ชายหนุ่มมองหาบริการตามหาของหายซึ่งทราบจากทราเวลว่าเป็นกิจการเล็กๆของกลุ่มผู้เล่นที่รับอาสาเป็นทหารปกป้องเมือง พวกเขาจะรวมกลุ่มกันอยู่ที่ร้านอาหารประจำเมืองซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของอ่างน้ำพุที่มีรูปปั้นกามเทพที่เขาและทราเวลพบกัน     
         
           เวียร์ยืนอยู่หน้าร้านอาหารที่มีป้ายขนาดใหญ่เขียนไว้ว่า ลิ้มรสนารี แค่ชื่อเขาก็ไม่อยากเดินเข้าไปแล้ว แต่เอาล่ะนี่ถือเป็นความตั้งใจหนึ่ง ดังนั้นต้องทำให้สำเร็จ!     
         
    "ซะหวาดดิค๊าบ ที่นั่งทังมะดาช่ายหมายค๊าบ" ชายชราหน้าเปื้อนยิ้มออกมาต้อนรับเขาเหมือนกับลูกค้าคนอื่นๆ     
         
    'มีที่นั่งธรรมดา และไม่ธรรมดาเหรอเนี่ย' แต่เวียร์ก็พูดออกไปว่า "ผมไม่ได้มาทานอาหารหรอกครับ ผมนำของมาฝากหาเจ้าของน่ะครับ"     
         
           ชายชราได้ยินก็ยิ้มหน้าบาน     
         
    "อ๋อ คุงลูกค้าคงหมายถึงบริกังตังหาของละสิค๊าบ" ชายชราชี้ไปยังกลุ่มผู้ชายที่นั่งอยู่ด้านในของร้าน ซึ่งมีประมาณหกเจ็ดคน     
         
           ร้านลิ้มรสนารีแห่งนี้มีทั้งหมดสี่ชั้น สร้างด้วยไม้เนื้อแข็งอย่างดี เสาแต่ละต้นใหญ่ขนาดสองคนโอบค้ำยันแต่ละชั้นเอาไว้ ผู้คนเนืองแน่นเต็มแทบทุกชั้น ชายคนหนึ่งเห็นชายชราชี้มายังกลุ่มของพวกตนจึงลุกขึ้นแล้วเดินมาหน้าร้าน     
         
    "ลูกค้าพวกฉันเหรอแปะ" ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบห้ายี่สิบหกปีกล่าวกับชายชรา ผมสีเหลืองทองมัดรวบไว้ด้านหลังยาวถึงบ่า ปากก็คาบหญ้าเขียวใบเรียวเอาไว้ สวมชุดคลุมสีขาวยาวถึงเข่า ไหลซ้ายมีเกราะสีเงินผูกไว้ด้วยสายรัดรอบอก มือทั้งสองข้างสวมถุงมือสีเขียวที่ยาวจนถึงศอก สวมกางเกงสีดำที่หุ้มด้วยเกราะสีเงินกระทั่งถึงเท้า ในมือถือดาบปลายตัดซึ่งยาวเกือบหนึ่งเมตร ท่าทางชาญสงคราม และผิวสีเข้มนั่นยิ่งทำให้เขาดูมีเสน่ห์     
         
    "นายจะให้ฉันช่วยอะไร ว่ามา" คนถือดาบพูดกับเวียร์เสียงเรียบ ดวงตาหรี่เล็กลงสำรวจการแต่งกายของผู้ที่ต้องการพบเขา "อ้อ เรียกฉันว่า เจเนซิส"     
         
    "ส่วนผมชื่อเวียร์ครับคุณเจเนซิส" เวียร์แนะนำตัวแล้วกล่าวธุระของตัวเอง "ผมจะขอความกรุณาคุณเจเนซิสช่วยประกาศหาเจ้าของขวานที่อยู่ข้างหลังผมนี่อะครับ คือ...จะเอามาฝากหาเจ้าของน่ะครับ ผมควรทำอย่างไรบ้าง"     
         
           ชายชราเห็นว่าตัวเองหมดหน้าที่แล้วจึงเดินไปต้อนรับและร่ำลาลูกค้าคนอื่นๆที่ทยอยเข้าและออกจากร้าน     
         
    "ฝากให้ใครล่ะ" เจเนซิสถามกลับ     
         
    "เขาน่าจะชื่อซัน ผมก็ไม่แน่ใจเพราะมันเขียนติดไว้ตรงนี้" เวียร์ยื่นขวานโดยหันด้ามที่เขียนชื่อเอาไว้ให้เจเนซิสดู เมื่อคนผมเหลืองทองเห็นขวานพิฆาตข้าศึกดวกตาทั้งคู่เบิกกว้างทันที     
         
    "ได้มันมายังไง นายพอจะบอกสาเหตุฉันได้ไหม!" เจเนซิสรอคอยคำตอบอย่างร้อนใจ เวียร์เห็นอารมณ์ที่ปรากฏบนใบหน้าของเจเนซิสอย่างนั้น แม้ไม่อยากโกหกแต่จะบอกได้ยังไงว่าเขาเป็นคนฆ่าเจ้าของขวานเล่มนี้     
         
    "ผมพบมันหล่นอยู่นอกเมืองตอนค่ำนี้เอง" เวียร์ยกมือเกาศีรษะ "ก็เลยเก็บมาด้วยครับ ยังมีแม่หมูป่าที่เขาจับใส่ถุงด้วย ผมนำกลับมาไม่ไหว เลยลากไปซ่อนแถวกอไผ่ริมป่าไผ่โน่นน่ะครับ"     
         
    "งั้นเหรอ... เจ้าของขวานใหญ่นี้เป็นน้องชายแท้ๆของฉันเอง ชื่อซันน่ะใช่แล้ว" เจเนซิสอธิบายต่อ "ซันบอกว่าจะไปล่าแม่หมูป่าแล้วจะกลับมาก่อนค่ำ นี่ก็เลยเวลามากแล้ว... เขาไม่เคยผิดนัดแบบนี้หรืออย่างน้อยก็ควรแจ้งข่าวมาหน่อย ส่วนขวานเล่มนี้เขารักมากต้องมีติดตัวตลอด เฮ้อ~ ยังไงก็ขอบคุณนายมากนะ" แววตาเจเนซิสเศร้าลง "บางทีเขาอาจถูกทำร้ายก็ได้ อ้อ แม่หมูป่าฉันยกให้และนี่เป็นค่าตอบแทนเล็กน้อยจากพี่ชายของเขา โปรดรับไว้ด้วย"     
         
           เวียร์ยิ่งรู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเองมากกว่าเดิม ครั้งที่ร่างกายและจิตใจของเขาต้องการเลือด เขารับรู้แทบทุกอย่างที่เกิดขึ้นแต่ไม่สามารถควบคุมได้เลย คิดแบบนี้ชายหนุ่มจึงปฏิเสธเงินที่เจเนซิสต้องการให้ แต่คนผมเหลืองทองกลับยัดเยียดใส่มือเขาจนได้ ดังนั้นจึงรับมาแล้วกล่าวขอบคุณ     
         
    เวียร์ เงิน : 2150 ไลออน     
         
           เสร็จจากคืนของ เวียร์จึงเดินวนเวียนดูสินค้าบริเวณประตูเมือง จากคำแนะนำของทราเวลเมื่อเขามีเงินอย่างน้อยควรซื้ออาหาร ยาฟื้นพลังและกระโจมนอนเก็บไว้ หากต้องอยู่นอกเมืองหลายวันหลายคืนจะได้ไม่ลำบาก ชายหนุ่มหยุดยืนอยู่หน้าร้านขายอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ เมื่อเห็นจังหวะที่สามารถถามได้จึงกล่าวออกไป     
         
    "พี่ชายๆ นั่นเนื้ออะไร" พลางชี้ไปที่เนื้อสีขาวซึ่งถูกตัดเป็นสีเหลี่ยมผืนผ้าและหนาประมาณห้านิ้วได้ "เหนียวหรือเปล่า"     
         
    "เป็นเนื้อแมงป่องยักษ์ที่เพิ่งถูกล่าได้เย็นนี้ ใจกลางป่าไจก้าอันน่าสะพรึง จืดกว่าเนื้อไก่นิดหน่อย เคี้ยวนุ่มชุ่มลิ้น" พ่อค้าเนื้อบรรยายด้วยเสียงต่ำสลับสูงฟังแล้วน่าสนใจ "หรือหากท่านไม่ชอบ เราเสนอสิ่งนี้!" คำว่า นี้ ท้ายประโยคดังกว่าทุกคำ ดังจนแม่ค้าเด็กร้านข้างๆซึ่งผลอยหลับน้ำลายยืดสะดุ้งตื่นหัวยุ่งหันซ้ายแลขวาพัลวัน     
         
           พ่อค้าแบฝ่ามือซ้ายโชว์ให้ลูกค้าที่ทยอยเข้ามามุงดูถ้วนหน้า จากนั้นหยิบมีดยาวที่อยู่ใกล้ๆด้วยมือขวา เฉือนลงกลางฝ่ามือ ลูกค้าหลายคนจดจ่อจ้องมองว่าพ่อค่าจะแสดงอะไร เลือดแดงไหลรินหยดใส่เนื้อชนิดหนึ่งซึ่งวางอยู่ใกล้ๆเนื้อแมงป่องยักษ์ เนื้อนั้นลักษณะแสนธรรมดาและมีขนาดเล็กมากแต่กลิ่นเริ่มแย่ คาดว่าอีกไม่นานคงต้องทิ้ง ทว่า! เมื่อเลือดสัมผัสผิวเนื้อ เนื้อกลับดิ้นดุ๊กดิ๊กพร้อมกับมีสีสดขึ้น ลูกค้าหลายคนตกใจก้าวถอยไปด้านหลังอย่างลืมตัว บ้างก็กรีดร้องเสียงดังลั่น มีเพียงพ่อค้าที่หัวเราะชอบใจ     
         
    "เนื้ออะไรรู้ไหม ฮ่า~ มันเป็นเนื้อของผีดูดเลือด..." พ่อค้ากล่าวเสียงต่ำน่ากลัว ก่อนจะโพล่งด้วยเสียงดังตะโกนใส่กลุ่มลูกค้าสาว "ไนท์สตอลเกอร์!!!"     
         
           ลูกค้าหายไปหมดแล้ว รวมถึงร้านแม่ค้าเด็กข้างๆก็เก็บของหนีไปด้วย หลายคนบ่นอุบว่ามันบ้า ผีดูดเลือดอะไร ไร้สาระ เหลือเพียงเวียร์ที่ยังยืนอยู่ด้วยความใคร่รู้ หากร่างกายของเขาเป็นเช่นเนื้อนั่นจริง แสดงว่าเขาอาจจะไม่มีวันตาย หึหึหึ     
         
         
         
         
         
         
           เวียร์ซื้อเนื้อแมงป่องยักษ์สองชิ้น ราคาชิ้นละสองร้อยห้าสิบไลออน ถือว่าเป็นการอุดหนุนโชว์พิเศษ แท้จริงเขาไม่จำเป็นต้องซื้ออาหาร เพราะคุณสมบัติของคำสาปไนท์สตอลเกอร์มีผลให้กลางวันจะไม่รู้สึกหิว ยกเว้นแต่ตอนกลางคืนที่เขาจะต้องหาเหยื่อมาสังเวยคำสาปอย่างน้อยหนึ่งราย และมันยังคงสร้างความเจ็บปวดใจให้เขา     
         
           ชายหนุ่มซื้อยาฟื้นพลังที่เรียกกันว่า ไลท์ ระดับที่หนึ่งมาอีกห้าลูก เหตุที่เป็นลูกเพราะมันไม่ใช่ยาซึ่งเดิมทีคิดเอาเองว่าคงเป็นของเหลวสีแดงบรรจุไว้ในขวดสำหรับดื่ม คนขายอธิบายว่าผู้เล่นส่วนใหญ่เรียกว่ายาฟื้นพลังเพราะติดมาจากเกมอื่น ไลท์มีอยู่หลายระดับ ยิ่งระดับสูงก็จะเพิ่มพลังชีวิตได้มากขึ้น กฎเกณฑ์พื้นฐานคือห้าร้อยหน่วยคูณกับระดับของมันต่อการใช้หนึ่งครั้ง วิธีใช้ให้บีบไลท์จนกระทั่งมันส่องแสงสว่างออกมาแล้วนำไปทาบกับส่วนไหนก็ได้ของร่างกาย มันจะหายเข้าไปแล้วพลังชีวิตก็จะเพิ่มขึ้นทันที สำหรับระดับที่หนึ่งราคาลูกละสองร้อยไลออน     
         
           สุดท้ายเวียร์ก็ซื้อกระโจมนอนอีกสามหลัง ราคาหลังละหนึ่งร้อยไลออน รวมแล้วจ่ายเงินไปทั้งสิ้นหนึ่งพันแปดร้อยไลออนถ้วน     
         
    เวียร์ เงิน : 350 ไลออน     
    เวียร์ ไอเทม : เกราะราชสีห์ทองพิทักษ์ ระดับ 1, กางเกงปลอดโปร่ง ระดับ 1, รองเท้าลุยสวน ระดับ 1, เสื้อท้าหนาว ระดับ 1, มีดทื่อ ระดับ 1,      ไลท์ ระดับ 1 [5], เนื้อแมงป่องยักษ์ [2], กระโจมชาวป่า [3]           
         
           ลึกๆแล้วชายหนุ่มรู้สึกขอบคุณเจเนซิสมากโข เพราะหากเขานำลูกหมูป่าที่ไม่รู้ว่าจะหาได้หรือไม่มาขาย สมมติว่าหาได้ก็มีราคาแค่ตัวละสองร้อยห้าสิบไลออนเท่านั้น จับได้ตัวหนึ่งก็ต้องนำมาขายครั้งหนึ่ง โอโห กว่าจะได้เงินสองพันไลออนต้องเดินไปเดินมาถึงแปดเที่ยว คิดแล้วก็เหนื่อยเอาเรื่อง แต่เอาละอย่างไรก็สร้างกับดักไว้แล้วไปดูหน่อยก็แล้วกัน     
         
           เวียร์เดินมาถึงป่าไผ่แล้วมุ่งสู่บริเวณกับดักที่เขาอุตส่าห์สร้างไว้ เฮ้ย! ปรากฏว่าหน่อไผ่ที่หามาล่อหมูหายเกลี้ยง! ถุงใส่แม่หมูที่ซ่อนไว้ก็ขาด พบรอยเท้าลูกหมูและแม่หมูป่าอยู่มากมายบริเวณปากหลุมที่ขุดดักเอาไว้ หมูไม่ลงหลุม? มันอ้อมมากินหน่อไผ่หรือเนี่ย~ ได้เวลาอึ้งกับระบบเอไอของเกมอีกแล้ว เขียนมาให้ฉลาดมากไปหน่อยไหม เอ...แล้วทำไมกับดักไม้ไผ่ที่สร้างไว้กันแม่หมูทำร้ายถึงได้ทำงาน งงจริงๆ หรือว่าแม่หมูเดินไปเกี่ยวเชือกขาดเอง ไม่น่าจะใช่ เพราะหากเอไอฉลาดแล้วทำไมกับดักนี้ถึงทำงานพร้อมกันหมด ยิ่งคิดก็ไม่เข้าใจหนักขึ้นกว่าเดิม     
         
           ขณะที่เวียร์ใช้ความคิดอยู่นั้น หูก็ได้ยินเสียงกลุ่มผู้เล่นคุยกันซึ่งอยู่ห่างจากที่เขายืนไม่มากนักเข้าไปในป่ายักษ์ไจก้า พอจับใจความได้ว่า     
         
    "ไอ้บ้าไหนไม่รู้มาทำกับดักไว้ ไม้เกือบเสียบคอกูน่ะไอ้สาดดด"     
         
    "มึงยังดีกว่ากูไอ้เหี้ย แมร่งคอกูเป็นแผลเลย อย่าให้กูเจอนะ จะเอาดาบนี้ตัดหัวมันกระเด็นเลย"     
         
    "เออๆอย่างน้อยพวกเราก็ได้ลูกหมูมาตั้งห้าตัว คิดไรมากว่ะสัด เฮ้ยไอ้ป๋องมึงย่างเลยๆ เดี๋ยวกูไปตักน้ำที่ลำน้ำมาให้"     
         
    "ได้ๆ รีบไปรีบกลับล่ะไอ้เหี้ย ช้ากูแดกไม่รอนะโว้ย"     
         
           ฟังจากการสนทนาน่าจะมีประมาณสามคน เมื่อเวียร์ทราบว่าที่แท้เป็นพวกนี้เองที่มาขโมยลูกหมูของเขา ชายหนุ่มรีบวิ่งไปที่ลำน้ำเพื่อจะได้แอบตามคนที่มาตักน้ำซึ่งจะนำพาเขาไปหาอีกสองคนที่เหลือ ถ้าเจอแล้วจะทำอย่างไร สู้เหรอ? เวียร์ชักไม่แน่ใจว่าฝีมือปลายแถวอย่างเขาจะสามารถเอาชนะสามคนที่ว่านี้ได้แล้วชิงเอาลูกหมูกลับมา     
         
    'ไม่เป็นไร ไปดูหน่อยแล้วกันว่าหน้าตาพวกมันเป็นยังไง'     
         
           ลำน้ำนี้แต่เดิมเป็นที่ที่เวียร์เคยนอนจมเกือบสิ้นใจตายตั้งแต่ออกจากป่ายักษ์ครั้งแรก ชายหนุ่มแอบซุ่มอยู่หลังก้อนหินใหญ่อยู่พักหนึ่งก็พบชายรูปร่างสูง ผมเขาสีเงินซึ่งสะท้อนกับแสงจันทร์ยามดึก ดวงตาสีเงินทั้งคู่เป็นประกาย แต่งตัวคล้ายกับพรานป่า ด้านหลังสะพายดาบยาวสีดำยาวเกือบหนึ่งเมตร ชายคนนั้นเอากระบอกไม้ไผ่ขนาดยาวมากรอกน้ำในลำน้ำจนเต็มแล้วเดินกลับเข้าไปในป่า เวียร์จึงคอยย่องตาม เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาอีกมากนัก     
         
           ในที่สุดเขาก็มาถึงแหล่งที่พวกมันซ่อนตัว ชายหนุ่มพบว่าผู้เล่นกลุ่มนี้แท้จริงมีสี่คน หนึ่งคนนั้นหลับพิงอยู่ที่โคนต้นไม้ ทุกคนล้วนแต่งกายคล้ายกัน กองไฟถูกก่อไว้รอแล้ว คนหนึ่งกำลังเขี่ยเอาถ่านไฟออกมา ขณะที่อีกคนนำลูกหมูซึ่งถูกจัดการเรียบร้อยมาอังความร้อนจากถ่าน พูดคุยกันสนุกสนานตามประสาเกรียนหัวโปก     
         
           เวียร์เกิดความลังเลใจเพราะจำนวนคนฝ่ายนั้นมากกว่า แม้ชายหนุ่มจะเห็นแล้วว่ามีถุงสองใบใส่บางสิ่งมัดติดต้นไม้ไว้แต่มันก็อยู่ตรงข้ามกับเขา 'ข้างในคงเป็นลูกหมูอีกสี่ตัว เฮ้ย~ ปล่อยไปดีไหมนะ' ทันใดเวียร์ก็สังเกตเห็นว่าใกล้กับต้นไม้ฝั่งตรงข้ามมีผู้หญิงคนหนึ่งถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้ด้วย เธอถูกเงามืดของต้นไม้ใหญ่บังไว้ ปากของเธอถูกปิดด้วยผ้าซึ่งผูกไว้ด้านหลังศีรษะ แก้มเธอเปื้อนคราบน้ำตา ตาทั้งสองข้างแดงกำ นั่งชันเขามองการกระทำของชายสามคนที่กำลังแบ่งกันกินเนื้อหมูป่าย่างอย่างอเร็ดอร่อย ชายผมสีแดงคนหนึ่งพูดขึ้นว่า     
         
    "เฮ้ยสาดดด~ นังนั่นยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่บ่าย ให้มันกินดีไหมวะ" คนผมสีแดงหันไปคุยกับคนผมสีเงิน     
         
    "ตามใจมึงดิ" คนผมสีเงินกล่าวเสียงเรียบ ไม่ได้สนใจอะไรนอกจากเนื้อย่างตรงหน้า     
         
    "ไอ้เหี้ยป๋อง ไม่ต้องให้มันเยอะนะสัด เดี๋ยวมันขี้แตก ฮ่าฮ่าฮ่า" คนผมสีเทาพูดกับคนผมสีแดงหรือชื่อ ป๋อง แล้วหันไปพูดกับคนผมสีเงินอีกที "ไอ้นิกมึงไม่เรียกลูกพี่มากินด้วยเหรอว่ะ กูว่ามันนอนมากไปแล้วนะ"     
         
    "ตามใจมึงดิ" คนผมสีเงินหรือชื่อ นิก ยังคงไม่สนใจผู้ใด มือก็หยิบเนื้อหมูป่าย่างยัดปากประการเดียว     
         
           คนชื่อป๋องเดินถือเนื้อลูกหมูย่างไปยังที่ผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ มันคลายปมของผ้าออก เมื่อผ้าหลุดจากปากเธอ เธอก็ด่ามาเป็นชุด     
         
    "ไอ้พวกสัตว์นรก ไอ้พวกระยำ ไอ้พวกหน้าหม้อ อย่าให้ฉันหลุดไปได้นะฉันจะ-" ไม่ทันได้พูดต่อเนื้อลูกหมูย่างก็ยัดเข้าที่ปาก หญิงสาวคายทิ้งทันที     
         
    "ฮั่นแน่อีนี่ ของดีๆไม่ยอมกิน ต้องให้ใช้กำลังเร๊อะ!" ป๋องทำเป็นโมโห     
         
    ผั๊วะ! หญิงสาวถูกตบเต็มแก้มจนหน้าหันไปด้านหนึ่ง คนชื่อป๋องใช้มือจับคางเธอเชิดขึ้นแล้วจ้องหน้า     
         
    "หน้าตาก็ออกสวย ทำไมปากหมาแบบนี้วะ บอกที่ซ่อนผนึกหกวิถีมารมาก็หมดเรื่องไปแล้ว กูให้โอกาสมึงถึงพรุ่งนี้เช้า ถ้ามึงยังลีลา พวกกูจะจับมึงแก้ผ้าประจานหน้าเมืองคอยดู"     
         
           แม้นเกมคิงออฟไลออนออนไลน์จะมีระบบตรวจสอบความไม่เหมาะสมของผู้เล่นอย่างแน่นหนา ทว่าการแก้ผ้าจนเปลือยก็ยังสามารถทำได้ ทั้งนี้แล้วแต่การกำหนดค่าในโหมดส่วนตัวของผู้เล่นแต่ละคน     
         
           เวียร์ซึ่งรับรู้เหตุการณ์เหล่านั้นในใจก็อยากเข้าช่วยเหลือยิ่งนัก แต่เขากลับหวั่นว่านอกจากจะทำไม่สำเร็จแล้วอาจเอาชีวิตมาทิ้งเสียเปล่า 'เอ๊า! เป็นไงเป็นกัน!'     
         
           ขณะที่สองพรานจัดการกับเนื้อย่างส่วนที่เหลือ คนชื่อป๋องก็พิจารณาทรวดทรงของหญิงสาวด้วยความใคร่ สายตาละลาบละล้วงไปตามผิวกายสีขาวสะอาดของเธอซึ่งถูกปิดทับด้วยชุดคลุมยาวสีดำ แม้เป็นธรรมดาที่ชายหนุ่มมักหลงไหลหญิงสาวหน้าตาสวยงาม แต่ก็ปราศจากความรัก คนชื่อป๋องเพียงอยากระบายความต้องการส่วนตัวเท่านั้น หญิงสาวหุบปากไม่กล่าววาจาใด เธอหันหน้าไปอีกทางด้วยความรู้สึกหวาดกลัว เคืองแค้น และอีกนานับประการ ดวงตาแดงก่ำทั้งคู่หลับลง จิตใจเพิกเฉยต่อการกระทำของอมนุษย์ผู้นี้     
         
    "แร่มเบย" คนชื่อป๋องใช้มือซ้ายจับที่ขาซ้ายของหญิงสาวแล้วลูบไปมา ชุดคลุมยาวค่อยๆถลกขึ้น เผยให้เห็นขาอ่อนอันขาวเนียน มันแลบลิ้นเลียติ่งหูหญิงสาวครั้งหนึ่งก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นบริเวณซอกคอและไหล่ มือขวาอ้อมโอบด้านหลังหญิงสาวดันใบหน้าเธอจากทางด้านขวาให้หันไปทางมัน ปากอมนุษย์จึงหอมเข้าที่แก้มซ้ายของหญิงสาวเคราะห์ร้าย หอม~ยั่วยวนใจมันเหลือเกิน...     
         
    "มึงทำไรว่ะป๋อง" คนผมสีเงินหรือชื่อนิกเงยหน้ามองพฤติกรรมของเพื่อน     
         
    "ขอเวลากูแป๊บเดียว" อมนุษย์รีบตอบ เวลานี้ใครก็ขัดมันไม่ได้ "กูจะจัดสวรรค์ให้อีนี่สักดอก"     
         
    "ดูหน้ามันสิไอ้ป๋อง ไร้อารมณ์แมร่งเหมือนศพ" นิกเป็นห่วงเพื่อน มือก็ควักเอาขวดยาสีดำจากอกเสื้อ เทยาสีเทาลงบนฝ่ามือหนึ่งเม็ดแล้วโยนให้คนชื่อป๋อง มันรับไว้แล้วถามกลับไป     
         
    "เชียะ~! ขี้แมวเหรอสัด" โพล่งอย่างสงสัย เพราะกลิ่นของยาเม็ดในมือแรงมาก     
         
    "ขี้แมวบ้านพ่อมึงเด่ไอ้สัด! ให้มันกินเดี๋ยวมึงต้องขอบใจกู" นิกหัวเราะชอบใจก่อนจะหันไปกล่าวกับคนผมเทาซึ่งมีผ้าพันแผลอยู่รอบคอที่นั่งอยู่ข้างๆ "ไอ้โก๋สีหน้ามึงไม่ดีเลย แผลมึงเป็นไงมั่งวะ" คนผมเทาหรือชื่อ โก๋ ส่ายหน้ารับว่าอาการไม่ดีเท่าไร สองเกรียนตั้งใจนั่งชมละครรักที่มีคนชื่อป๋องแสดงร่วมกับหญิงสาวอย่างใจจดใจจ่อ     
         
           อมนุษย์ป๋องบีบปากหญิงสาวให้อ้าออกโดยแรง เธอพยายามฝืนอย่างเจ็บใจ มืออีกข้างหนึ่งของมันก็จับคอเธอชูขึ้น เม็ดยาถูกกรอกลงไปแล้ว น้ำตาไหลออกสองแก้มงาม ครู่สั้นๆเธอกลับรู้สึกร้อนผ่าวทั่วอก ใบหน้าเริ่มแดงฉาน ความรู้สึกอ่อนไหวแล่นไปทั่วทั้งร่าง พร้อมลมหายใจที่ถี่ขึ้นสลับกับเบาบาง จิตใจดำดิ่งสู่ความต้องการสุดประมาณได้     
         
    "ไอ้เหี้ยนิก แมร่งของดีว่ะสาาาด" คนชื่อป๋องชมเพื่อนรักด้วยความพอใจ "แบบนี้คึกคัก ฮ่าฮ่าฮ่า!"     
         
    "เออดิ ป้าเช็งอะแม่กู"     
         
           ทันใดเวียร์จึงปรากฏตัวจากที่ซ่อน ชายหนุ่มตั้งใจลงเท้าหนักเพื่อให้ศัตรูรู้ตัวว่าเขาอยู่ด้านหลัง คนชื่อป๋องซึ่งอยู่ด้านตรงข้ามพลันเห็นเข้าก่อนก็ตกใจ ปากกล่าวเสียงดัง     
         
    "มึงเป็นคราย!"     
         
           นิกและโก๋ก็หันไปมองด้วย พลางลุกขึ้นเตรียมใช้อาวุธ เรื่องไม่ดีไม่งามอย่างนี้เล็ดลอดไปคงไม่ดีแน่ ดังนั้นต้องรุมกระทืบจัดการไอ้เผือกหน้าจืดที่จู่ๆก็โผล่มานี่ก่อน   
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×