ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    King of Lions บุรุษหัวใจราชันย์ ออนไลน์

    ลำดับตอนที่ #5 : เลือดแรก [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 20 ต.ค. 59


          ตอนที่ 5       
          เลือดแรก     






                 เมืองแฟนทาเนียตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของป่ายักษ์นาม ไจก้า ในยามเช้าตรู่นี้เวียร์ที่เพิ่งเดินทางมาถึงจึงหยุดยืนบริเวณทุ่งกว้างสีเขียวหน้าประตูเมือง ซึ่งมีป้ายไม้ขนาดใหญ่เขียนเอาไว้ว่า เมืองแฟนทาเนีย แหม~ชัดเจนเสียอย่างนี้ นี่คงหวั่นใจว่าจะไม่มีใครเห็นกระมังหรือปักไว้ประชดก็เป็นได้นะเออ และเป็นเช้าที่เหล่าผู้กล้าหาญหลายคนเดินเข้าออกประตูเมืองคับคั่ง     
         
           แต่ละคนแต่งกายสวยงามหลากสีสัน บางคนถือดาบ มีทั้งดาบคู่ ดาบด้ามยาว ดูตลกที่สุดคงเป็นดาบใหญ่มหึมาที่แบกไว้บนบ่าซึ่งเจ้าของร่างตัวกะเปี๊ยกเดียว บางคนถือทวนยาว บางคนมีหอกสอดไว้ด้านหลัง หลายคนสวมเกราะดั่งอัศวิน มีทั้งแบบสวมเป็นชุด สวมแค่ครึ่งตัว แต่เอ๋~ผู้หญิงคนนั้นสวมเกราะแทนชุดชั้นในหรือนั่น? บางคนถือคทาเวทมนตร์หรือของจำพวกคล้ายคทา มีทั้งด้ามสั้นจับเพียงมือเดียว ด้ามยาวต้องจับสองมือคละกันไป     
         
    'โอ้โฮ! ช่างแฟนตาซีเหลือเกิน' เวียร์ชื่นชมเคล้าประหลาดใจ แน่นอนชุดของเขาก็แฟนตาซีเช่นกัน     
         
           มือขวาและซ้ายชายหนุ่มเปลือยเปล่า สวมเพียงกางเกงขายาวและรองเท้าหนังสีดำกับเสื้อขาดวิ่น ทรงผมยุ่งเหยิง ท่าทางคล้ายขอทานอนาถาจากแดนเถื่อนจนใครๆที่เดินผ่านต่างมองและขบขัน ทันใดชายรูปร่างสูงใหญ่กำยำก็ชนเวียร์ล้มลง โอ้ย! ชายผู้นี้ถือขวานใหญ่ ดวงตากลมโต ผิวกายออกแดง สวมเสื้อขนสัตว์สีน้ำตาลอ่อนแลดูดีมีฐานะ     
         
    "เดินดูทางด้วยซิไอ้บ้านนอก!" คนถือขวานตะคอกใส่ สายตาจับจ้องหาเรื่องอย่างอวดโต     
         
    "?"     
         
    "ขอทาน? เหอะช่างเถอะ! ฉันไม่อยากเสียเวลาล่าสัตว์" คนถือขวานยืนกอดอก "เอ้า ขอโทษฉันมาซะดีๆ"     
         
    'อะไรกันน่ะ คุณมาชนผมแท้ๆ' ชายหนุ่มคิด แต่เขาไม่ต้องการมีเรื่องวุ่นวาย "ขะขอโทษครับ"     
         
    "ดีมากไอ้ขอทาน" ในเมื่อหมามันกลัวเสียจนหางจุกตูด ใยต้องไปเตะหมาอีกเล่า เห็นตามนั้นคนถือขวานจึงเดินจากไปพร้อมเสียงหัวเราะสะใจ "ฮ่าฮ่าฮ่า!"     
         
           เวียร์ที่ไม่คิดมากเดินมาถึงประตูเมืองซึ่งฉาบด้วยหินอ่อนที่ถูกวาดลวดลายสวยงาม เขาสังเกตว่ากำแพงเมืองนี้สูงยิ่งนัก น่าจะเกือบสิบเมตร ด้านบนนั้นมีทหารเฝ้ายามเต็มไปหมด ชายหนุ่มเบียดเสียดผู้เล่นคนอื่นๆเข้าไปภายในเมือง ระหว่างที่ลอดประตูเมืองมานั้นเวียร์พบว่ากำแพงเมืองนี้คงหนาเกือบห้าเมตรได้     
         
    'ทั้งสูงทั้งหนา สร้างไว้เพื่อเตรียมต้อนรับมหาสงครามหรือไงกัน'     
         
           ในเมืองเต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ค้าที่ทั้งยืนและนั่งขายสินค้า เสียงพูดคุยต่อรองอื้ออึง ชายหนุ่มสังเกตว่าสินค้าส่วนใหญ่แบ่งออกเป็นสองประเภท คือกินได้และกินไม่ได้ ที่กินได้เป็นจำพวกเนื้อสัตว์ หรืออวัยวะบางส่วนของสัตว์ มีบ้างที่คล้ายกับหมู วัวและกระบือในโลกความจริง แต่ส่วนใหญ่ล้วนพิลึกพิลั่น ส่วนที่กินไม่ได้ก็จำพวกอาวุธและชุดเกราะต่างๆ เวียร์ไม่สนใจสิ่งเหล่านี้มากนักเพราะมีบางอย่างที่เขาจะต้องทำเป็นอันดับแรก     
         
    'ก่อนอื่นต้องหาชุดใหม่ใส่สินะ' ความคิดนี้คงเข้าท่าที่สุดแล้ว     
         
    "เอ่อ...คุณครับ คุณ! เสื้อตัวที่ราคาต่ำที่สุดเท่าไหร่ครับ" เวียร์เลือกร้านที่มีคนมุงน้อย เพราะจะได้ไม่ต้องแย่งพูดกับคนอื่นๆ "ผมแค่ลองถามดู เพราะตอนนี้ผมยังไม่มีเงินเลย"     
         
    "พี่ชายอยากได้แบบไหนล่ะคะ" แม่ค้าสาวรูปร่างอ้อนแอ้นถามกลับมา "มีทั้งแบบลูกไม้กรุ้งกริ่ง หรือชอบผ้าบางมองทะลุส่วนสัด หรืออย่างตัวนี้" หญิงสาวโชว์ชุดชั้นในสีชมพูหวานแหววโดยจับบริเวณขอบทั้งสองข้างแล้วส่ายไปมาให้เวียร์ชม     
         
    "อา~ คือผมยังไม่มีเมียน่ะครับ ผมแค่อยากได้เสื้อสักตัว" ชายหนุ่มยิ้มตอบพร้อมกับเอามือลูบท้ายทอย ท่าทางของเขาน่ารักไม่ใช่เล่น อันที่จริงหล่อเข้าขั้นน่าลากไปรับประทาน(ในน้ำ)ได้     
         
    "ว้ายจริงเหรอค่ะ~ แล้วพี่เปิดรับสมัครปะล่ะ คิคิ" แม่ค้าสาวอายต่อคำพูดของตัวเองจนลืมตัว เพราะขณะนี้เธอเอาหน้าซุกกับกางเกงในสีชมพูตัวนั้น แต่เมื่อความอายมลายไปเธอกลับไม่พบลูกค้าที่ควรยืนอยู่หน้าร้าน     
         
    "ฮ้วย~ หายไปไส"     
         
         
         
         
         
         
           เวียร์วิ่งจากมาโดยไม่ลา ชายหนุ่มปลีกตัวออกจากบริเวณการค้าแล้วนั่งลงยังขอบของอ่างน้ำพุใจกลางเมือง ซึ่งมีรูปปั้นหินกามเทพตัวน้อยสี่องค์กอดกันชูมือไปบนฟากฟ้า แต่ละฝ่ามือของกามเทพเหล่านั้นมีน้ำพวยพุ่งออกสวยงามยิ่ง เวียร์มองขึ้นไปตามเรียวแขนของกามเทพตัวน้อย สายตาจรดท้องฟ้ากว้างใหญ่สีครามสดใส ชายหนุ่มกลับรู้สึกสงบนัก ไม่วุ่นวายเหมือนบริเวณประตูเมือง     
         
    "นั่งด้วยคนนะเพื่อน" ชายหน้าตาอ่อนเยาว์กล่าวกับเวียร์ "ผมชื่อ ทราเวล แล้วคุณล่ะ"     
         
    "ครับ ยินดีที่รู้จักคุณทราเวล" พลางยิ้มเป็นมารยาท "ผมชื่อเวียร์"     
         
    "เรียกทราเวลเฉยๆก็ได้" ทราเวลวางตัวอย่างเป็นกันเอง "เล่นเกมนี้คนเดียวเหรอ"     
         
    "อะใช่คนผมเล่นคนเดียว" เวียร์กล่าว "เพิ่งเล่นครับ"     
         
           ชายหนุ่มนุ่งผ้าขาดไม่รู้ว่าทราเวลมาตีสนิทกับเขาทำไม แต่การมีเพื่อนสักคนย่อมดีกว่าไม่มีเลย ดังนั้นตัดความสงสัยออกไปซะแล้วลองเปิดใจรับมิตรภาพนี้ดู นั่นทำให้ยิ่งคุยกันยิ่งสนุกสนาน เวียร์ทราบว่าทราเวลเล่นเกมนี้มานานกว่าและมีระดับอยู่ที่ยี่สิบห้า โห~เวลยี่สิบห้าแล้วเหรอเนี่ย! ต่างจากเขาที่ยังคงระดับหนึ่ง ทราเวลอธิบายเงื่อนไขหลายอย่างของเกมให้ฟัง อย่างเช่น     
         
           ถ้าล้มมอนสเตอร์หรือเอาชนะผู้เล่นได้ และก่อนที่ร่างนั้นจะกลายเป็นแสงขาวหายไป หากสามารถตัดเอาอวัยวะหรือหยิบฉวยเอาอาวุธหรือสิ่งของใดๆได้ทันกาล สิ่งเหล่านั้นจะตกเป็นของผู้ได้ชัย ด้วยระบบที่ถูกออกแบบมาอย่างนี้ ผู้เล่นส่วนใหญ่จึงมักรวมกลุ่มเข้าต่อสู้ เพราะโอกาสที่ของจะถูกช่วงชิงมีน้อยกว่า เมื่อถามต่อไปว่าโอกาสที่น้อยกว่านั้นเป็นอย่างไร ทราเวลจึงอธิบายเพิ่มเติม     
         
    "ถ้าผู้เล่นหรือเพื่อนในกลุ่มตาย ผู้เล่นฝ่ายเดียวกันก็จะปกป้องสิ่งของให้ผู้ที่ตาย ไม่ให้อีกฝ่ายแย่งเอาไปได้ไงล่ะ"     
         
    "แบบนี้ถ้าเกิดสู้กันจนเหลือฝ่ายที่ชนะเพียงหนึ่ง ถ้าเขาคนนั้นเก็บของทั้งหมดไป-" เวียร์พูดตามความเข้าใจ     
         
    "ใช่ สิ่งของทั้งหมดก็จะตกเป็นของเขาผู้นั้นเพียงคนเดียว"     
         
           ประโยคนี้ของทราเวลทำให้ชายหนุ่มกระจ่างแก่ใจ     
         
    "เข้าใจล่ะครับ"     
         
    "เวียร์ คุณสนใจไหมถ้าผมจะชวนมารวมกลุ่มกัน" ทราเวลกล่าวจริงจังแต่เสียงเขากลับเบาลง "ผมน่ะสังกัดกิลด์ไลท์ และอีกหนึ่งเดือนพวกเราจะยกทัพมาชิงเอาเมืองแฟนทาเนียแห่งนี้"     
         
    "ห๊า!" เวียร์แทบไม่เชื่อหูตัวเอง ระดับลูกเจี๊ยบอย่างเขาจะช่วยอะไรได้ล่ะนี่     
         
         
         
         
         
         
           ทราเวลขอตัวไปทำหน้าที่ชักชวนผู้เล่นหน้าใหม่เข้าร่วมกิลด์ หรือพูดให้ตรงคือหาคนไปเป็นทหาร เขาให้เงินจำนวนหนึ่งกับเวียร์เพื่อซื้อเสื้อตัวใหม่ ทีแรกทราเวลคิดว่าเวียร์ชอบสไตล์รุ่งริ่งเสียอีก แต่เมื่อเวียร์เล่าเรื่องบางส่วนให้ฟังเขาก็พยักหน้ารับว่าเข้าใจ แน่นอนย่อมไม่มีเรื่องที่เจ้าตัวกลายเป็นผีดูดเลือด เพียงแต่กล่าวว่าพบไนท์สตอลเกอร์แล้วหนีรอดมาได้     
         
           ชายหนุ่มสวมเสื้อสีน้ำเงินแขนยาวราคาประหยัดพร้อมพกมีดที่คิดว่าน่าจะคมหนึ่งเล่มไว้กับเอว ซึ่งของสองอย่างนี้ซื้อจากร้านพ่อค้าในเมืองใกล้กับประตูทางออก แม้ไม่แน่ใจว่าถูกหลอกขายให้หรือเปล่า แต่ก็ดีกว่าไม่มีเสื้อใส่ไม่มีอาวุธใช้จริงไหม และตอนนี้เขาต้องหาลูกหมูป่าโชคร้ายสักตัวหนึ่งให้ได้ตามคำเพื่อนบอกเสียก่อน     
         
           ลูกหมูป่ามักพบได้บ่อยๆบริเวณป่าไผ่ที่ขึ้นใกล้กับชายป่าไจก้า ใช่ ตรงไปทางทิศเหนือ ทราเวลย้ำหนักหนาว่าต้องลูกหมูป่านะ ถ้าแม่หมูมาให้หนีทันที หนีทำไม? แล้วในที่สุดเวียร์ก็มาถึงป่าไผ่ ซึ่งมีต้นไผ่ลำสูงขึ้นเบียดเสียดเกาะกลุ่มกันเป็นกอมากมาย หมูป่ามักออกหากินตอนค่ำดังนั้นชายหนุ่มจึงมีเวลาเหลือเฟือเพื่อทำบางสิ่งที่ตั้งใจไว้ อิอิอิ     
         
           เวียร์ตัดต้นไผ่จำนวนหนึ่งด้วยมีดเล่มน้อยอย่างยากลำบาก ซึ่งเป็นอาวุธเดียวของเขาตอนนี้ ชายหนุ่มแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเพราะมีดนั้นคมมาก ออกแรงเพียงครึ่งค่อนวันเพิ่งตัดไผ่ได้กอเดียว เขานำลำไผ่ที่มีขนาดใกล้เคียงกันมากองไว้ แยกเป็นความยาวต่างๆ แล้วนำลำไผ่ปลายแหลมที่ความยาวพอกันมามัดเป็นแพด้วยเชือกที่คุณพ่อค้าใจดีแถมให้ จากนั้นหาลู่ทางที่เหมาะสมขึงแพไผ่ให้สูงจากพื้นดินพอควรโดยให้ปลายแหลมชี้ลง การณ์ดังกล่าวเมื่อเสร็จสิ้นแล้วชายหนุ่มจึงลงมือขุดหลุมด้วยลำไผ่ปลายแหลมให้ลึกประมาณหนึ่งเมตร ณ รินป่าไผ่ด้านหนึ่งด้วย     
         
    "ใช้ได้" เวียร์พอใจกับหลุมที่ได้ แม้ใจหนึ่งเขาจะสงสารลูกหมูป่าก็ตาม "บาปกรรมจริงๆ ดีนะที่เป็นแค่เกม เห้อ~"     
         
           สุดท้ายชายหนุ่มพยายามหาหน่อไผ่ที่ผุดขึ้นข้างกอให้มากที่สุดรอบบริเวณกับดักที่เขาสร้าง แล้วนำไปกองไว้ใกล้กับปากหลุม หากคาดไม่ผิดกลิ่นของมันจะล่อหมูป่าให้มากิน เมื่อเตรียมการเรียบร้อยเวลาก็ค่ำลงพอดี     
         
           กว่าจะรู้ตัวว่าวันทั้งวันเขาไม่ได้กินอะไรเลย ชายหนุ่มประหลาดใจเหลือเกินที่เขาไม่รู้สึกหิว แต่เมื่อพระอาทิตย์ตกดินไปแล้วนั่นละท้องจึงเริ่มร้อง     
         
    'หิวจังเลย เลือด บรือ~ นี่เราเป็นอะไรเนี่ย หรือว่าคำสาป...' ความคิดไม่ทันสิ้นไป จมูกก็ได้กลิ่นอาหาร 'มีผู้เล่นอยู่แถวนี้...ไม่นะ'     
         
           พระจันทร์เสี้ยวปรากฏบนท้องฟ้ายามค่ำ อากาศที่อบอุ่นเริ่มเย็นลง ชายรูปร่างสูงใหญ่กำยำเดินถือขวานผ่านป่าไผ่อย่างอารมณ์ดี ผิวปากไปร้องเพลงไป ร่างกายเต็มไปด้วยแผลถลอก เสื้อผ้าบางส่วนก็ขาดเป็นรูคล้ายถูกของแหลมทิ่มแทง แต่เจ้าตัวกลับไม่รู้สึกเจ็บแสบแต่อย่างใด บนไหล่แบกถุงซึ่งข้างในบรรจุบางสิ่งขนาดครึ่งตัวของเขา น้ำหนักของมันคงมากกว่าหกสิบกิโลกรัมเห็นจะได้ แต่คนถือขวานสามารถแบกได้สบายๆ แสดงให้เห็นว่าเขามีพละกำลังมากเอาเรื่องเทียวล่ะ     
         
    "~ชีวิต ทำไมยากเย็นขนาดนั้น     
    สองมือ จะมีเรี่ยวแรงขนาดไหน     
    แต่หัวใจของคน ยังยืนยันจะไม่ถอดใจ     
    ในค่ำคืนที่ฟ้านั้นไม่มีดาวอยู่ตรงนี้ ฉันยังคงก้าวไป     
    ยังคงมีรักแท้ เป็นแสงนำไป ในคืนที่หลงทาง     
    วันเวลาไม่เคยจะหยุดเดิน อย่างไรเราคงต้องเดินไปกับมัน     
    เก็บทุกความผิดพลั้ง เป็นคำเตือนให้เราเข้าใจ~"     
         
           คนถือขวานสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของผู้เล่นที่ประสงค์ร้ายต่อเขาขณะกำลังร้องเพลง เพื่อไม่ประมาทเขาวางถุงลงกับพื้น มือก็ควงขวานใหญ่เตรียมรับมือ ในใจรู้สึกไม่ค่อยดี ย่อกายลงเล็กน้อยแล้วตวาดออกไป     
         
    "ออกมาสิโว้ย! ต้องการแม่หมูป่าก็ออกมาสู้กันซึ่งๆหน้า! หลบเป็นเกย์รอตุ๋ยถั่วหรือวะ!" ปากพูดอย่างหาญกล้าแต่เหงื่อเม็ดเล็กพลันปรากฏขึ้นบนใบหน้า     
         
           คำท้าทายยั่วยุให้ชายหนุ่มคนหนึ่งแสดงตัวออกมาจากเงามืดของป่าไผ่ซึ่งอยู่ด้านหลังคนถือขวาน ชายหนุ่มคนนั้นดวงตามีแสงสีม่วงวูบไหว ในมือก็ถือมีดสั้นเอาไว้     
         
    "ปัดโถ่! นึกว่าใครที่แท้ก็ไอ้บ้านนอกที่เจอเมื่อเช้า" คนถือขวานพูดกับเวียร์พลางหยิบถุงแบกไว้บนไหล่ตามเดิม "ถ้ามีปัญญาแย่งไปก็ลองซี่~ แล้วฉันจะฆ่าแกซะ"     
         
           กลิ่นคาวเลือดจากแผลถลอกส่งผลต่อเวียร์รุนแรงนัก ชายหนุ่มแลบลิ้นเลียริมฝีปากครั้งหนึ่งแล้วเดินเข้าไปใกล้คนถือขวานโดยไม่กล่าวคำใด เมื่ออยู่ในระยะลงมือเขาจึงกระโจนเข้าใส่คนถือขวานทันที!     
         
    "ไอ้กระจอก!" ช่วงเวลาเดียวกันคนถือขวานพูดพร้อมเหวี่ยงถุงใส่เวียร์รวดเร็ว แต่เป้าหมายก้มตัวหลบพ้น นิ้วมือในมือขวากระชากเสื้อขนสัตว์ของคนถือขวานขาดเป็นทางยาว พละกำลังของปีศาจตนนี้กลับมากมายนัก     
         
           คนถือขวานขว้างถุงไปทางหนึ่ง สองแขนจับขวานใหญ่จามใส่เวียร์รุนแรง ทว่าชายหนุ่มกลับกางแขนทั้งสองข้างออก ยืดอกรับไว้เต็มๆ ราวกับไม่กลัวความตายปานนั้น     
         
    วูบ!!! ฉึบ! อ๊าาาก! แสงสีทองปรากฏเป็นรูปกายมนุษย์ยกมือจับคมขวานไว้ด้วยมือขวา มือซ้ายจู่ๆก็ถือขวานใหญ่คล้ายกับที่จับไว้จามกลับใส่อกผู้ลงมือก่อน เลือดทะลักออกพวยพุ่งดุจน้ำพุ คาวคลุ้งทั่วบริเวณ คนถือขวานปล่อยขวานที่ถือหล่นลงพื้น ใช้มือข้างหนึ่งปิดปากแผลไว้แล้ววิ่งหนีสุดชีวิต เลือดไหลหยดย้อนไปตามทาง     
         
    "หึหึหึ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!" เวียร์หัวเราะคลั่งอย่างชั่วร้าย ปีศาจยกสองมือหมุนเป็นรูปวงกลม "วอยด์~"     
         
           เกิดกลุ่มความมืดสีม่วงเข้ารุมล้อมร่างเหยื่อไว้รวดเร็ว ทำให้กล้ามเนื้อตอบสนองต่อสมองที่สั่งให้เคลื่อนไหวช้ามาก พลังชีวิตส่วนหนึ่งก็ลดหายไปด้วย ขอแค่วิ่งช้าลงไม่นานเวียก็ตามจนทัน     
         
    'หายใจไม่ออก..ห๊ะ..ห๊ะ' ชายร่างสูงใหญ่สัมผัสถึงความหนาวเย็นที่แล่นไปทั่วร่าง หัวใจเขาเต้นเร็ว น้ำตาพรั่งพรูออกเต็มใบหน้า แขนขาชาเกร็ง ฉี่ก็ปล่อยออกอย่างไม่สามารถอั้นได้ นั่นเป็นเพราะปีศาจได้ฝังเขี้ยวเข้าที่คอและกำลังสูบเลือดออกจากตัวเขา!     
         
    เวียร์ ชีวิต : 9 หน่วย     
         
    เวียร์ ชีวิต : 100 + 100 หน่วย     
         
    เวียร์ ชีวิต : 200 + 200 หน่วย     
         
    เวียร์ ชีวิต : 400 + 400 หน่วย     
         
    เวียร์ ชีวิต : 5025 + 5025 หน่วย     
         
           เมื่อเลือดในร่างถูดดูดออกจนหมด ไม่นานศพนั้นก็กลายเป็นแสงขาวแล้วหายไป เวียร์ที่สติกลับมานั่งอยู่ที่นั่น ชายหนุ่มปาดน้ำตาหยดน้อยที่ไหลออกโดยไม่รู้ตัวทิ้งไป เขาเดินไปหยิบขวานใหญ่ที่หล่นตรงริมป่าไผ่มาพิจารณาดู พบว่ามีชื่อสั้นๆเขียนติดเอาไว้     
         
    "ซัน"     
         
           เมื่อเห็นชื่อเวียร์พลันยิ้มกว้างอย่างดีใจ หากเขารู้ชื่อเจ้าของแบบนี้ อาวุธย่อมคืนให้ได้ไม่ยาก ส่วนถุงใส่แม่หมูป่าชายหนุ่มตัดสินใจลากกลับไปยังที่เขาทำกับดักสัตว์ แล้วซ่อนมันไว้ในไผ่กอหนึ่ง     
         
           เวียร์ใช้เชือกมัดขวานใหญ่สะพายไว้ข้างหลัง เขาตั้งใจนำขวานนี้ไปฝากไว้กับบริการตามหาของหายในเมืองเสียก่อน แล้วค่อยกลับมาดักเอาลูกหมูป่าในวันพรุ่ง ทำแบบนี้อย่างน้อยชายหนุ่มก็จะไม่รู้สึกผิดจนเกินไปล่ะสินะ     
         
    เวียร์ ระดับ :      8         
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×