ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sword of King จักรวรรดิศาสตรา ออนไลน์

    ลำดับตอนที่ #1 : ทดสอบระบบต้อนรับ [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 111
      2
      17 เม.ย. 59

    ตอนที่ 1
    ทดสอบระบบต้อนรับ






           เมื่อพูดถึงเกมออนไลน์สมัยใหม่ในขณะนี้ ใครๆก็รู้จักระบบจำลองภาพเสมือนจริงกันหมดแล้ว การสร้างเกมให้โด่งดังโดยหวังพึ่งแต่ระบบเสมือนจริงจึงไม่ใช่การตลาดที่ดีอีกต่อไป เราจึงต้องหาแนวคิดใหม่ๆ ถามความต้องการของผู้เสพเกมออนไลน์ว่าเขาต้องการอะไรจะดีกว่าไหม อย่างเช่นเอ่อ...ดาบ หลายคนชอบดาบ ดาบที่มีขนาดใหญ่และมีพลังโจมตีสูงๆผมว่ามันโบราณไปแล้ว ถ้าเราบอกว่าเกมของเรามีดาบ ซึ่งแน่นอนว่าเกมอื่นๆเขาก็มี ผมกำลังจะอธิบายว่า เราต้องหาความแตกต่างนั้นให้เจอ หาให้เจอ เอาล่ะไปทำงานได้ เพื่ออนาคตที่จะไม่ตกงาน ใส่สูทผูกไทให้เรียบร้อยด้วย โชคดี

           จะบอกว่าไงดีล่ะ นั่นแหละสุนทรพจน์แสนสั้นของเช้าวันนี้ จากท่านผู้เมตตาซึ่งก็คือพ่อของผม ท่านประธาน เหอะ...ให้ไปถามผู้เสพติดเกมออนไลน์ว่าเขาต้องการอะไรงั้นเหรอ...ตลกสิ้นดี

           อ้อ ผมไม่ได้จะว่าพวกเล่นเกมหรือพวกติดเกมเหมือนติดยาหรอกนะครับ ผมแค่ไม่ชอบสุงสิงกับผู้คน ไม่ชอบมีไมตรีด้วยอะไรประมาณนั้น นี่ถ้าไม่ติดว่าธุรกิจนี้เป็นโรงงานทองคำของครอบครัว เมินซะเถอะที่คนอย่างผมจะสนใจ

    "สวัสดีค่ะคุณเวียร์"

           คอมพิวเตอร์ทักทายผมเหมือนเคย เราทุกคนเรียกเธอว่าไลออน และใช่ครับผมชื่อเวียร์ ผมก้าวเข้าไปหาไลออนในห้องสี่เหลี่ยมสีขาว มีเพียงแสงสีน้ำเงินรูปครึ่งวงกลมตรงหน้าผมที่ขยับไปมาตามคำพูดของไลออน หลังจากที่เธอทักผมแล้วผมไม่พูดอะไร เธอก็จะถามต่อว่า

    "คุณเวียร์จะใช้ชื่อไหนในการออนไลน์คะ"

    "ชื่อเดิม" ผมตอบแบบเบื่อๆ เปลี่ยนชื่อใหม่ผมก็คนเดิมอยู่ดี ไม่รู้ว่าแผนกที่เขียนโปรแกรมนี้ขึ้นมาเขาต้องการอะไร "ชื่อเวียร์"

    "โปรดระบุพื้นที่ที่ต้องการพัฒนาค่ะ"

    "เมืองแฟนทาเนีย" เพราะเมืองนี้อยู่ในเขตพื้นที่ที่ผมรับผิดชอบ เป็นเมืองบ้านนอกน่ะครับ ไม่มีตึกระฟ้าอะไรทั้งสิ้น ไม่มีพวกผู้เล่นระดับสูงๆให้มันมาอวดความเกรียนแบบบ้าๆบอๆ เมืองแฟนทาเนียนั้นทิศเหนือติดกับภูเขาลูกใหญ่ ตะวันตกและออกไม่มีอะไรน่าสนใจนอกจากป่า ส่วนทิศใต้ เออ...ตอนนี้ทำเป็นทางลูกรังไว้ไปอีกเมืองหนึ่ง ไว้ถึงเวลานั้นผมจะเล่าให้ฟัง "ส่งผมไปประตูหน้าเมือง"

           ฉับพลันแสงสีขาวส่องต้องเปลือกตาผมขนาดว่าหลับลงไปแล้วยังสัมผัสถึงความเจิดจ้าและความร้อนทั่วทั้งตัว ในห้องที่ผมยืนอยู่นี้เป็นห้องกระจก แต่ละชั้นจะมีห้องแบบนี้อยู่สิบสองห้อง คุณสามารถเลือกได้ว่าจะเข้าไปใช้บริการห้องไหน ห้องไหนจะทำให้สมองของคุณไหม้หรือไม่ก็แตกโพละ! ผมล้อเล่นน่ะครับ ระบบรักษาความปลอดภัยที่นี่ดีเยี่ยม จะเรียกว่าเยี่ยมที่สุดในประเทศยังได้ ระบบการออนไลน์เสมือนจริงที่ใช้ในบริษัทนี้คือระบบเดียวกันกับระบบออนไลน์ของเครื่องเล่นที่บริษัทจัดจำหน่ายออกไป ถ้าคุณเป็นลูกค้าของบริษัทผมประกันได้ว่าคุณไม่มีทางตายระหว่างการออนไลน์เด็ดขาด อันที่จริงผมก็ฟังคนอื่นมาอีกทีหนึ่ง

           ไหนไหนผมก็ได้คุยเรื่องเครื่องเล่น หากคุณมีคำถามว่าแพงไหมถ้าจะซื้อมาเล่นที่บ้านสักเครื่อง ผมอิงตามสุนทรพจน์ของท่านประธานก็แล้วกันนะครับ เพราะเกมไหนๆก็มีระบบแบบนี้เป็นพื้นฐานเหมือนกันหมด ดังนั้นคุณสามารถสั่งจองและทดลองเล่นฟรีถึงหนึ่งปีเต็มผ่านเครื่องเล่นทรงหมวกกันน็อคซึ่งขายผ่านตัวแทนจัดจำหน่าย แต่ต้องเป็นของแท้ที่บริษัทนี้ผลิตเท่านั้นนะครับหัวของคุณจึงจะไม่ระเบิดกระจุย ฮ่าฮ่า หวังว่าคุณจะผ่อนคลายกับมุขของผมนะ อ้ออันที่จริงผมไม่ทราบราคาขายจริงหรอก เดาเอาเองว่าคงไม่เกินห้าแสน เอาน่า ผมรู้ว่าคุณมีปัญญาซื้ออยู่แล้ว ก็แค่เศษเงิน

    "สวัสดีค่ะท่านผู้กล้า ^^ ยินดีต้อนรับสู่ห้องแต่งตัวก่อนไปเยือนโลกแห่งจักรวรรดิศาสตราคะ" เด็กสาวอายุราวสิบห้าสิบหกปียิ้มทักทายผมในห้องหรู มันดูคล้ายกับห้องในโรงแรมระดับห้าดาวที่ผมเคยไปพักแถวชายทะเลไม่มีผิดเพี้ยน หรือว่าพวกพัฒนาอาจไปก๊อปปี้มาก็ได้นะ พวกนี้เงินเดือนเหยียบแสนแต่ทำงานอย่างกับ...ช่างมันเถอะ เป็นว่าเรารู้กัน "ท่านผู้กล้าสามารถเลือกได้ว่าจะแต่งกายด้วยชุดแบบไหนระหว่าง"

    "ขอนอนก่อนไม่ได้เหรอ" ผมอยากกวนทีนระบบซะงั้น "ตอนนี้ยังไม่อยากแต่งตัว ได้ไหม"

    "เอ่อ..คะคือว่า" ได้ผล เด็กสาวอ้ำอึ้งไปเลย จะว่าไปชุดที่เธอใส่อยู่ก็น่ารักใช่เล่น ท่อนบนสวมชุดเกราะเบาสีเงินที่มีกำบังตรงสะโพก ท่อนล่างเป็นกางเกงผ้าขายาวสวมทับด้วยรองเท้าบูทสีน้ำตาล ใครเป็นคนออกแบบนะอยากรู้จริงๆ "ไม่มีในรายการค่ะ"

    "หือ" ผมทำท่าไม่พอใจ "อะไรกัน!ต้องตามใจคนเล่นเกมสิ แบบนี้มันบังคับกันชัดๆ ข่มขู่อิสรภาพ ใช้ไม่ได้!"

    "กะก้อก็"

    "ชื่ออะไรเราน่ะ!" ผมตะคอกใส่ กำลังบิ้วอารมณ์โมโห "อายุเท่าไร!"

    "ชะชื่อเบลล์ อายุสิบเจ็ดแล้ว"

    "อ่าวเท่ากันนิ ทำไมผมจะต้องแต่งตัวตอนนี้ด้วย ผมไม่อยากแต่งตัวตอนนี้เข้าใจมะ ผมอยากนอน"

    "แต่ว่าตามกฎแล้วผู้เล่นทุกคนที่เข้ามาในห้องนี้จะต้องแต่งตัวนะคะ!" สาวเบลล์ตะโกนใส่ผม ผมก็เลยแสร้งเป็นคนหูหนวก "นี่คุณผู้กล้า!"

           ผู้กล้าจะนอนไม่ได้หรือไง ผมไม่สนใจสิ่งที่เธอพูด ผมอยากรู้ว่าปัญญาประดิษฐ์ที่พวกกินเงินเดือนสูงๆเขาสร้างกันจะเก่งกล้าขนาดไหน หรือแค่ปากเก่งแต่ทำอะไรไม่ได้

    "อื่ม~ชุดที่ว่าได้แก่" สาวเบลล์ไม่ยอมแพ้ เธอระบายลมหายใจออกก่อนจะพล่ามเรื่องเสื้อผ้าต่อไป โดยไม่ใส่ใจว่าผมจะฟังหรือไม่ฟัง "ชุดนักรบรับจ้างระดับหนึ่ง ประกอบไปด้วย เสื้อแขนสั้นและกางเกงขาสั้นหนังสัตว์ที่ท่านผู้กล้าสามารถเลือกสีหรือแต่งลายเบื้องต้นได้เองตามใจชอบพร้อมดาบและโล่ไม้ ชุดนักเวทมนตร์ฝึกหัดระดับหนึ่ง ประกอบไปด้วย เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวผ้าลินินที่ท่านผู้กล้าสามารถเลือกสีหรือแต่งลายเบื้องต้นได้เองตามใจชอบพร้อมตำรามนตร์ไฟระดับหนึ่งและไม้คฑา ชุดนักบวชฝึกหัดระดับ-"

    "หนวกหูโว้ย!" ผมแผดเสียงดังสนั่นจนสาวเบลล์ตกใจ ในขณะที่ผมนอนอยู่บนโซฟาสีเขียวแสบตานั้นมือผมก็คว้าหนังสือปกสีทองเล่มหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะด้านหน้าโซฟาแล้วปาใส่เธอ แต่ไม่โดนหรอกนะ "ไปไกลๆเลย"

           อย่างว่าล่ะครับ นี่ถือเป็นการทดสอบปฏิกิริยาตอบสนองของระบบอีกทางหนึ่ง เขาเรียกว่าไงนะ การ testing ไงล่ะ

    "ท่านผู้กล้าทำไมอันธพาลแบบนี้คะ! ก็ได้!" เธอออกอาการเหวี่ยงแล้ว เขียนโปรแกรมแสดงอารมณ์ได้สมจริงดีแฮะ "ไม่แต่งก็ไม่ต้องแต่ง!"

    "นี่เธอเอ็ดกับผู้เล่นเหรอ เธอรู้ไหมผู้เล่นก็คือลูกค้านะ ไม่มีลูกค้าก็ไม่มีเงินไปจ้างพนักงาน ไม่มีพนักงานก็ไม่มีเธอเกิดขึ้นหรอกนะเบลล์ สมองเธอน่ะคิดบ้าง"

    "..."

           ต้องยั่วเธออีก

    "ถ้าผู้กล้าของเธอเขาอยากนอน เธอเอาสิทธิ์อะไรมาห้าม พวกนั้นไม่ได้อัพเกรดสุนทรพจน์เช้านี้ของท่านประธานให้เธอฟังเหรอ ห๊ะ! ท่านประธานต้องการให้ถามความต้องการจากผู้เล่น ไม่ใช่เอาแต่สั่ง ทำโน่นทำนี่ แล้วยังมีหน้าไปอ้างกฎอะไรนั่นอีก เธอไหวปะเนี่ย ไม่รู้เรื่องอะไรเลยสินะ"

    "ค่ะ ฉันไม่รู้เรื่อง" สาวเบลล์ทำเสียงน้อยอกน้อยใจ ทว่าที่จริงมันคือสัพยอกแดกดันผม "ฉันก็แค่ผู้หญิงโง่ๆที่ต้องบริการเครื่องแต่งกายให้กับคนฉลาดๆแบบนาย"
     
           จะว่าไปสีหน้าเธอตอนแกล้งทำเป็นเศร้านี่...น่ารักชะมัด ถึงผมจะอายุแค่สิบเจ็ดปีแต่โลกอันโหดร้ายข้างนอกนั่นสอนผมมาเยอะ มารยาพวกนี้ใช้กับผมไม่ได้ผลหรอก

    "หยิบหนังสือเล่มนั้นมาให้ผม" ผมยังคงอยากกวนประสาทเธอต่อไป "เป็นการปฏิบัติตามความต้องการของผู้เล่นไง ผมจะได้รู้ว่าคุณเข้าใจสิ่งที่ผมพูด"

    "คะ" สาวเบลล์รับคำอย่างว่าง่าย ก้มหยิบหนังสือปกทองจากพื้นขึ้นมา ทันใดนั้นเองผมก็สวมกอดเธอจากด้านหลัง "อ๊าย!นายจะทำอะไร!"

    อื่มมม! ผมประกบปากจูบเธอในขณะที่เธอกำลังจะร้องโวยวาย อาจเพราะความน่ารักของเธอเกินจะห้ามใจผู้ชายโสดอย่างผม รสชาติของการจูบแม้ไม่รู้สึกเท่าจูบจริงกับคนจริงๆ แต่สภาวะการจำลองที่เสมือนจริงนี้ก็ให้คะแนนได้มากถึงเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้า เอาล่ะว้าจูบกับปัญญาประดิษฐ์ วันนี้ผมคงจะเป็นไข้หน่อยๆแล้ว

    ผั๊วะ! นั่นแหละเสียงที่หูของผมได้ยินพร้อมกับความชาด้านของแก้มข้างซ้าย เสียงวิ้งยาวๆยังคงแล่นอยู่ในหูของผม แก้วหูแตกปะเนี่ย ใช่ ยัยเบลล์ตัวดีตบหน้าผม เป็นเหตุให้ผมกับเธอแยกออกจากกันโดยผมกลับไปนั่งที่โซฟาเหมือนเดิม

    "ชิ" คงพอเข้าใจนะครับ ก่อนหน้านี้กับตอนนี้มันคนละอารมณ์กันเลย ผมไม่ใช่พวกกามวิตถารด้วยสิที่จะให้เกิดความรู้สึกดึ๋งดั๋งกับบทเลิฟซีนที่รุนแรง ยัยบ้าเอ้ย "ทำแบบนี้กับผู้เล่นได้ไงวะ"

    "..."

           สาวเบลล์ทำเป็นเงียบ เป็นแค่โปรแกรมจะสะอิดสะเอียนอะไรหนักหนา น่าจะดีใจด้วยซ้ำที่มีท่านผู้กล้ากล้าหาญขนาดนี้ ดูแววตาที่สั่นระริกนั่น นี่เธอคงไม่กะร้องไห้ออกมาจริงๆหรอกนะ ปัดโถ่โว้ย ผมก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ขนาดว่าต้องเสียน้ำตาเพราะโดนผมจูบ จะบอกอะไรให้ ที่โรงเรียนที่ผมเรียนสาวๆเขาอยากได้จูบจากผมกันทั้งนั้น เธอกำลังทำให้ผมเสียเซลฟ์รู้ตัวไหม

    "เอาล่ะๆ" ผมลุกขึ้นทำทีจะไปปลอบ "อย่าร้องไห้ออกมานะ"

    ซิ้ง! ดาบยาวใบดาบคมสีเงินวาวจ่อคอหอยผม สาวเบลล์ชักดาบออกมาไวมาก นี่ถ้าเธอไม่หยุดมือไว้คอของผมคงทะลุเป็นรูไปแล้ว ขอบอกอีกเรื่องหนึ่งนะ ระบบเสมือนจริงของบริษัทนี้น่ะมันเจ็บจริงอะไรจริง หากโดนดาบเสียบคอคงไม่สุขภิรมย์นัก สำคัญคือยังไม่ได้ทำงานเลย ฉะนั้นต้องใจเย็นๆค่อยๆพูดกับเธอ

    "เฮ้ๆ ผมรู้คุณเป็นแม่สาวนักบู๊โอเคมะ แล้วก็เก่งด้วย คุณฆ่าผมได้เลยแต่มันจะไม่เกิดประโยชน์อะไรกับเราสองคน" เหงื่อผมเริ่มแตกพลัก ผมยกมือทั้งสองข้างขึ้นห้ามเธอพลางก้าวถอยไปด้านหลังยามเธอก้าวมาข้างหน้า "คิดสิ คุณอาจถูกลบออกไปจากระบบ ไม่มีตัวตนเข้าใจไหม ไม่มีตัวตนอีกต่อไป ส่วนผมแค่ตายเดี๋ยวก็ได้กลับมาเล่นใหม่ แต่ผมจะเสียเวลาทำงาน โอเคๆๆ ผมขอโทษ ผมขอโทษนะ"

    "ถ้าอย่างนั้นนายจะต้องแต่งตัวเดี๋ยวนี้ แล้วก็ไปทำงานซะ" สาวเบลล์ขู่ผม "เลือกชุดมา"

           โอโห!ผมเดาว่าต้องเป็นผู้หญิงเขียนโปรแกรมป้อนสมองของเธอแน่ๆ และต้องเป็นพวกมีสามีแล้วด้วย เพราะพวกนี้ความอดทนสูง มีเหตุผล ผมไม่เชื่อว่าสาวอายุสิบเจ็ดจะคิดได้แบบนี้หรอกครับ อย่างเลวร้ายตอนนี้ผมคงนอนตายเป็นศพแล้วรอบหนึ่ง

           หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าผมน่ะเป็นตัวแสบเรื่องการใช้อาวุธจำพวกดาบ ส่วนตัวแล้วผมชอบดาบมากกว่าอาวุธประเภทอื่น มันดูเฉียบขาดและกล้าหาญ ดาบคือสัญลักษณ์ของเหล่านักรบและกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ เสี้ยววินาทีที่สาวเบลล์เผลอตัว หมับ!โอ้ย! ผมแย่งดาบมาจากเธอพลางหมุนกายผลักเธอล้มลงไปติดขอบผนังห้อง ทีนี้จะทำไงล่ะแม่สาวบู๊

    "เพราะเป็นแฟนทาเนียหรอกผมจึงต้องเข้ามาแต่งตัว มันเป็นเมืองเริ่มต้นก็ต้องแต่งตัวแบบคนเริ่มต้น ระบบไม่ได้บอกคุณเรื่องนี้ใช่ไหมเบลล์"

    "นายนี่มัน!"

    "เขตอื่นน่ะผมระดับเทพแล้ว สองร้อยสิบห้าคือเลเวลจริงๆของผมจำไว้ซะ ต่อไปถ้าเจอกันอย่าได้เอาดาบมาจี้คอผมอีก"

    "นายชนะแล้วนายอยากทำอะไรก็ทำ เก่งนักนี่"

           สาวเบลล์ทำตาดุใส่ผม หน้าเธอเนี่ย...ทำไมน่ารักงี้ว้าาา

    "ให้ผมจูบคุณอีก"

           ครับ ไม่รู้ผมพูดอะไรที่มันหน้าตัวเมียแบบนั้นออกไปได้ยังไง สมองของผมคงคำนวณอะไรผิดพลาดไปแล้วหลังจากถูกย้ายเข้ามาในเกม ความเป็นกรดเบสอาจเพี้ยนไปสักจุดศูนย์ศูนย์หนึ่งหน่วย ไม่รู้สิ ยัยนี้ทำให้ผมไม่อยากคิดถึงพวกสาวๆที่โรงเรียนเลย เธอชนะทุกคนแม้กระทั่งดาวโรงเรียนห้องคิงที่ผมแอบคบอยู่ตอนนี้ กู่ไม่กลับแล้วเวียร์นี่มันเกมนะเฮ้ย

    "ไปตายซะ!" สาวเบลล์ตวาดใส่หนังหน้าผม "ไอ้ทุเรศ!"

    "ใช่ผมมันทุเรศ" ผมกล่าวออกไปพลางทิ้งดาบลงพื้น มือขวาช้อนคางเธอขึ้นเพื่อต้องการสบจ้องดวงตาสีน้ำทะเลดุดุนั่น "ไม่รู้ว่าใครเป็นคนออกแบบคุณนะเบลล์ แต่คุณกำลังทำให้ผมหลง"

    อื่มมม~ ผมจูบเบลล์อีกครั้ง และครั้งนี้เธอก็ไม่ขัดขืนอะไร เธออาจยอมแพ้แล้วก็ได้ แต่ไม่ใช่หรอก เธอทำเพราะความจำเป็นเท่านั้นเอง เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับผม ต่างจากผมที่รู้สึกว่าจูบนี้ของเธอช่างยั่วยวนใจนัก อา~จะขอมากกว่าจูบได้ไหมนะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×